ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ซวยฉิบหาย! ผมกลายเป็นเมียเขา [จบจ้า]

    ลำดับตอนที่ #26 : Rule 20 : รักน้องต้องเป็นโรคจิตจำเป็น

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 56


    28/12/12
    edit : 1/1/13

     
    Rule 20 : รักน้องต้องเป็นโรคจิตจำเป็น

    ผมหันไปมองซากประตูที่ล้มโครมลงอย่างน่าอนาถก่อนจะค่อยๆ เบนสายตาไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังลดเท้าลง  แสงแดดยามบ่ายสาดเข้ามาในห้องผมโดยมีเงาใหญ่ๆ ของไอ้พี่ลันสาดทับลงมาอีกชั้น  ผมเบิกตาอ้าปากกว้างอย่างตกใจกับการกระทำของพี่ลัน

    ประตูห้องของผม...ไม่ได้เปราะและพังง่ายแต่อย่างใด...แล้วเหตุใด...มันถึงหลุดออกมาทั้งบานแบบนั้นเล่า?  ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฝีเท้าของผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งจะสามารถทำลายประตูลงได้ภายในการถีบกระแทกเพียงแค่สองสามครั้งเท่านั้น  นี่มันเครื่องจักรหรือคนกันแน่ครับ?

    และเพียงไม่นานหลังจากที่ประตูห้องของผมถูกถีบลงไปนอนแอ้งแม้งผู้ดูแลกับเด็กหอที่ยังอยู่ในห้องของตัวเองก็รีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที  เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้น  ไอ้เด็กหอที่อยู่หอนี้ส่วนมากก็มีแต่เด็กมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมทั้งนั้นประกอบกับไอ้พี่ลันมันเป็นคนดังข้ามคณะคนจึงรู้จักมันเยอะมันจึงไม่แปลกเลยหากจะมีคนนินทา

    “นี่มันอะไรกันคุณ ทำไมถึงทำลายข้าวของแบบนี้!?!” ผู้ดูแลหอผู้เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมตวาดใส่พี่ลันแต่พอพี่ลันตวัดสายตากลับไปมอง ผู้ดูแลหอถึงกับหน้าซีดเผือด

    “เอาเงินนี่ไปซ่อมประตู เหลือก็ไม่ต้องทอน” ไอ้พี่ลันควักกระเป๋าเงินออกมาก่อนจะยัดเงินใส่มือผู้ดูแลจำนวนหนึ่งซึ่งเงินจำนวนนั้นก็เกินค่าซ่อมไปมากโขเลยทีเดียว

    “ทำแบบนี้ทำไม!?! คนอื่นเขาเดือดร้อนไม่เห็นหรือไง!” ผมตวาดใส่ไอ้พี่ลันอย่างเหลืออด  ไอ้พี่ลันในตอนนี้ก็น่ากลัวอยู่หรอกแต่ทำแบบนี้มันก็เกินไป  ความโกรธของผมสามารถชนะความกลัวได้อย่างง่ายดายเลยล่ะครับ

    “นายมากับฉัน!!” ไอ้พี่ลันเดินเหยียบซากประตูเข้ามาในห้องก่อนจะกระชากข้อมือของผม

    “ทำไมผมต้องไป  ผมจะอยู่ที่ห้องของผม” ผมสะบัดข้อมือออกการเกาะกุมก่อนจะก้าวถอยหลัง  เพราะรีบก้าวเกินไปผมจึงเจ็บที่หัวเข่าจนเดินเซไปชนตู้หนังสือขนาดเล็กในห้อง  ไอ้พี่ลันไม่เข้ามาช่วยดึงผมขึ้นเอาแต่หรี่ตามองอย่างไร้ความรู้สึก  สายตาแบบนี้เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลย

    “ไปเคลียร์กับฉันที่คอนโด!!” ไอ้พี่ลันออกคำสั่งก่อนจะเดินมากระชากข้อมือของผม

    “ผมไม่ไป!” ผมยื้อตัวเองไว้

    “จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้ม” ไอ้พี่ลันกัดฟันพูดเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน  แย่ล่ะ...ขืนให้ไอ้พี่ลันอุ้มผมต้องถูกมองไม่ดีแน่ๆ

    “โวะ!! ไปก็ไป!” ผมสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมก่อนจะเดินกะเผลกๆ ออกจากห้อง “ลุงครับ ผมขอโทษด้วยนะฮะที่ทำให้เดือดร้อน” ผมหยุดพูดกับคุณลุงผู้ดูแลหอก่อนจะไหว้ขอโทษ

    “มะ...ไม่เป็นไร” ลุงผู้ดูแลหอยังที่มีท่าทางงงๆ พูดกับผมเบาๆ

    ผมหันไปมองไอ้พี่ลันนิดหน่อยก่อนจะเดินช้าๆ นำไป  สงสัยไอ้พี่ลันแกจะทนเห็นท่าเดินของผมไม่ได้แกก็เลยเดินมาจับแขนผมคล้องคอแล้วช่วยพยุง  ผมขมวดคิ้วก่อนจะชักมือออกแต่ไอ้พี่ลันดึงมือผมไว้ก่อนจะข่มตาดุขู่  ถ้าผมยังดื้อแกคงจะอุ้มผมให้อายคนทั้งหอ


     

    ลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 10 อันเป็นที่ตั้งของห้องไอ้พี่ลัน  ผมขมวดคิ้วมองไอ้พี่ลันนิดๆ ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปก่อนเพราะไอ้พี่ลันไม่ยอมออก  ไอ้เราก็กะจะรอให้พี่มันออกไปก่อนแล้วหนีกลับหอแต่พี่มันดันรู้ทันซะงั้น

    ผมก้าวออกจากลิฟต์มาได้เพียงสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างบางระหงยืนอยู่หน้าห้องของไอ้พี่ลัน  ผมกัดริมฝีปากก่อนจะหันไปมองไอ้พี่ลันอย่างโกรธๆ

    ไอ้พี่ลันเองก็ดูงงๆ ที่เห็นพี่น้ำยืนอยู่หน้าห้องของตัวเอง

    “น้ำมาได้ไง?” พี่ลันเดินไปที่หน้าห้องของตัวเองก่อนจะถามขึ้น  ผมยืนอยู่ที่เดิมก่อนจะมองอย่างหงุดหงิด  พากูมาแล้วทิ้งกูเลยนะ

    “น้ำไปหาลันที่บ้าน แม่ลันบอกว่าลันอยู่ที่นี่” พี่น้ำพูดก่อนจะควงแขนไอ้พี่ลันพลางหันมามองผมด้วยรอยยิ้มของนางมาร  ผมชอบผู้หญิงนะ...แต่ไม่ใช่ยัยคนนี้แน่นอน!!

    “น้ำมาหาลันมีธุระอะไร?” หือ!?! น้ำ...ลัน...? นี่พี่ลันใช้คำแทนตัวแบบนี้กับพี่น้ำอย่างนั้นหรือ  มันจะไม่น่ารักเกินไปหน่อยหรือไง? โคตรแม่ง!!!

    “ก็ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก  น้ำแค่คิดถึงลัน...ไม่ได้เหรอ?” พี่น้ำเงยหน้ามองไอ้พี่ลันอย่างออดอ้อน  อ๊าก!! กูคลั่ง! จะอ้อนไอ้พี่ลันก็มองแค่มันสิวะ อย่าส่งสายตาสมเพชมาให้กู!!

    “ถ้าไม่ได้มีธุระอะไรก็กลับไปเถอะ  ลันมีธุระ” พี่ลันพูด อะ...ฮุๆ หน้าแตกเลยล่ะสิป้า  ถูกเขาไล่ขนาดนั้น ก๊าก ฮ่าๆๆ

    พี่น้ำหน้าเหวอก่อนจะหันมามองผมอย่างหงุดหงิดส่วนผมก็แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างสะใจ

    “งั้นวันนี้น้ำกลับก่อนก็ได้” พี่น้ำปล่อยแขนพี่ลันก่อนจะเดินกระแทกส้นมาที่ลิฟต์  ก่อนจะถึงลิฟต์พี่แกก็ต้องเดินผ่านผม  ขณะที่กำลังจะเดินผ่านไปพี่น้ำก็หยุดและทำหน้าอาฆาตแค้นใส่ผมส่วนผมก็เอาแต่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ  ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ตัวเองจะเกลียดผู้หญิงได้ลง

    พอพี่น้ำไปพ้นสายตาผมก็หันกลับไปมองไอ้พี่ลัน  เมื่อเห็นว่าไอ้พี่ลันเองก็มองผมอยู่ผมจึงรีบหุบยิ้มทันที  พี่ลันรูดคีย์การ์ดเปิดประตูก่อนจะพยักพเยิดให้ผมเข้าไปในห้อง  ผมแสยะปากเซ็งๆ ก่อนจะยอมเดินเข้าไปแต่โดยดี


     

    ผมเดินไปนั่งบนโซฟาก่อนจะเหลือบตามองไอ้พี่ลันและพูดขึ้น “มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นาน” ผมยักไหล่

    “เรื่องนี้เราคงต้องคุยกันยาว  นายไม่ได้กลับไปง่ายๆ แน่” ไอ้พี่ลันเดินอ้อมมาด้านหน้าผมก่อนจะโน้มตัวลงและเอามือยันไว้กับพนักพิง  ผมตกใจเอนหลังแนบชิดพนักพิงเพราะกลัวหน้าไอ้พี่ลันจะชิดกับหน้าของตัวเอง

    “แต่ผมไม่มีอะไรจะคุย!” ผมทำใจกล้าตะคอกใส่ทั้งๆ ที่ตัวเองกลัวจนตัวสั่น  ไอ้พี่ลันน่ากลัวมากครับ ยิ่งยื่นหน้ามาใกล้ๆ แบบนี้ผมยิ่งกลัว  พี่ลันหรี่ตาลงให้ดูดุจนผมขยับถอยหลังแม้หลังจะชนจนจะกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับโซฟาแล้วก็ตาม

    “นายโกรธฉันเรื่องอะไรพูดมาให้หมด  อย่าทำให้ฉันอารมณ์เสีย!” ไอ้พี่ลันค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนผมต้องทำตัวให้ลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “ผมก็พูดออกไปหมดแล้ว” ผมบอก  ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้หน้าของผมด้วยความเร็วสูงจนจมูกของเราแตะกัน “โอ๊ย! บอกดีๆ ก็ได้” ผมหลบตาปี๋ก่อนจะรีบดันคางพี่ลันออกไปให้ห่าง  ขืนผมยังทำตัวดื้ออยู่แบบนี้มีหวังถูกจูบแน่

    ไอ้พี่ลันยอมถอนหน้าออกไปแต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างไว้หนึ่งคืบ  มึงจะถอยไปห่างๆ หน่อยไม่ได้หรือไงวะ  ไม่รู้หรือไงว่ากูแม่งเขินแต่กูแค่เก๊ก

    “ผมโมโหที่พี่ลันเข้าข้างพี่น้ำ” ผมเบือนสายตาหลบตาพี่ลันก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงห้วนๆ กลบความเขินที่หน้าใกล้กันขนาดนี้

    “เข้าข้าง? ตอนไหน?” ไอ้พี่ลันขมวดคิ้ว  ผมเหลือบตามองพี่ลันนิดๆ  โคตรแม่ง! ทำหน้างงได้หล่อฉิบหาย  นี่กูกำลังโกรธอยู่นะเฮ้ย  อย่ามาทำให้หวั่นไหวได้ไหมเล่าเดี๋ยวก็หายโกรธหรอก

    “กะ...ก็พี่ลันไม่ยอมพูดอะไร...” ผมเบือนหน้าหนีอีกรอบแต่ไอ้พี่ลันใช้มือจับคางผมให้หันไปมองหน้าตัวเอง “...แล้วยังจะให้พี่น้ำมาทำ...” พี่ลันยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมพยายามเบือนหน้าหนีแต่พี่ลันล็อคคางผมไว้แน่น “...แผล...เอื๊อก...ให้...” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างประหม่า  ให้ตายเถอะ  ตอนนี้จมูกของเราแตะกันแล้วล่ะครับ

    “พูดต่อสิ” ไอ้พี่ลันพูดเสียงเบาพลางเอียงหน้า  มึงจะให้กูพูดต่ออย่างไรวะในเมื่อปากมึงอยู่ห่างจากปากกูไม่ถึงสามเซนติเมตร

    “ทั้งๆ ที่พี่น้ำ...(ลมหายใจพี่ลันเป่ารดปลายจมูก)...แกล้ง...(พี่ลันค่อยๆ อ้าปากนิดๆ)...ผม...อุ๊บ!” ผมหลับตาปี๋เมื่อพูดจบ  และทันทีที่ผมพูดจบไอ้พี่ลันก็จูบที่ปากของผมทันที

    ริมฝีปากของผมถูกไอ้พี่ลันเล็มเลียเหมือนกำลังละเลียดกินอมยิ้มก่อนลิ้นอุ่นๆ จะแทรกเข้ามาในปากเพื่อกอบโกยเอาความหวานไปเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว

    ไอ้พี่ลันค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกดคอผมลงไปเพื่อให้จูบสะดวกๆ  ส่วนผมก็ใจง่ายยอมจูบตอบอย่างไม่ขัดขืน  ลองมาเป็นผมดูสิแล้วจะรู้  ต่อให้พี่มันกดผมที่โซฟาผมก็คงต้านทานไม่ได้

    ลิ้นอุ่นๆ ถูกถอนออกไปก่อนจมูกโด่งๆ จะกดลงที่แก้ม  ริมฝีปากได้รูปสีชมพูอมส้มกดลงมาตามจมูกก่อนพี่แกจะลากริมฝีปากลงมาที่คอ  พี่ลันเลียตรงสันคอของผมก่อนจะจูบและดูดแรงๆ จนเจ็บสะท้าน

    “พี่ลัน...อย่าทำแบบนี้” ก่อนที่ผมจะเคลิ้มจนน้องชายยืนตรงเคารพธงชาติผมจึงจำเป็นต้องดันไอ้พี่ลันออก  เห็นนิ่งๆ เย็นชาๆ แบบนี้ที่จริงหื่นสุดตีนเลยล่ะครับ  มองเผินๆ ก็ไม่คิดหรอกว่าจะเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงขนาดนี้

    “ทำไม?” พี่ลันที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเงยหน้าขึ้นถาม  ถ้าไม่ติดว่าหล่อพ่อสอยไปนานแล้วนะเนี่ย  โทษฐานทำกูเขินตลอด

    “ผมโกรธอยู่นะ” ผมแสร้งทำหน้าบูดเป็นตูดมด

    ไอ้พี่ลันถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ  พี่ลันเหลือบตามองผมก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง  เฮ้ย! ทำหน้าแบบนั้นหมายควายว่าไงวะ  ทำหน้าอย่างกับกูเป็นคนงี่เง่าเสียเต็มประดา  อย่านะมึง...อย่าให้กูโมโหนะเว้ย  ถ้าหล่อโมโหแล้วหล่อต่อยไม่ยั้งนะขอบอก

    “ไปขี่รถเล่นกันไหม?” พี่ลันถาม  เฮ้ยไอ้นี่มันเปลี่ยนเรื่องว่ะ

    “พี่ลัน!!” ผมมองพี่ลันด้วยสายตาดุๆ

    “ฉันเคยคบกับน้ำแต่จบกันไปแล้ว จบ” พี่ลันพูดสั้นๆ  หือ...ถ้าอย่างนั้นที่พี่น้ำพูดว่าเป็นเมียไอ้พี่ลันก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ

    “พี่น้ำบอกว่าเขาเป็นเมียพี่” ผมพูดเคืองๆ

    “เคย” พี่ลันยกขาไขว้กันก่อนจะเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากจะพูดถึงมันอีก  ไอ้พี่บ้านี่ทำห่าอะไรก็หล่อ  อยากเห็นตอนมันนั่งขี้จริงๆ ว่ะ

    ถึงจะบอกว่าแค่เคยเป็นของกันและกันแต่ผมก็ยังรู้สึกเสียความมั่นใจอยู่เหมือนเดิม  ยังไงเขาก็เคยมีอะไรๆ กันอยู่ดี  ยิ่งคิดยิ่งเฟล!

    “ผมกลับล่ะครับ” ผมพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน

    “มันก็แค่อดีตอย่าไปใส่ใจนักเลย!!” ไอ้พี่ลันที่อยู่ท่าเดิมตะคอกเสียงดังจนผมสะดุ้ง  คิ้วหนาแอบโก่งนิดๆ ขมวดเป็นปมอย่างหัวเสีย

    “ผมจะใส่ใจหรือไม่ใส่ใจแล้วจะทำไมหรือครับ? พี่จะเคยคบกับใครผมก็ไม่เกี่ยวนี่” ผมพูด  ถึงจะบอกไปอย่างนั้นแต่ตัวเองกลับเจ็บลึกๆ แฮะ  อาจจะไม่ลึก...เจ็บฉิบหายเลยล่ะตอนนี้

    “ถ้าไม่ใส่ใจแล้วทำไมต้องโกรธ? ถ้าบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวทำไมต้องอารมณ์เสีย?” พี่ลันหันกลับมามองผม  คำถามของพี่ลันจี้ใจดำผมอย่างจัง  เออ...ทำไมกูต้องอารมณ์เสียและเจ็บใจด้วยวะ!?!

    “อึก...” ผมสะอึกก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ แล้วเดินไปที่หน้าประตู

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” ไอ้พี่ลันสั่ง  ผมตอบคำถามที่พี่ลันถามไม่ได้...ผมสับสนหรือผมอาจจะแค่น้อยใจ...?  มีสิทธิอะไรล่ะ? ผมปฏิเสธไม่ยอมเป็นคนของพี่ลันเองเพราะฉะนั้นผมไม่มีสิทธิไปหวงหรอก  เออ...หวงไม่ได้หรอกเพราะมันก็แค่เซ็กส์เฟรนด์

    ผมรีบเปิดประตูก่อนจะเดินออกจากห้องตรงไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว  ขาเขอผมไม่สนใจมันแล้ว  เจ็บก็เจ็บไปสิแต่ถ้าตอนนี้ผมออกจากคอนโดนี้ไม่ได้ผมคงไม่ได้เจ็บแค่ขาอย่างเดียวหรอกครับ

    “ไอ!! บอกให้หยุดไง!!” ไอ้พี่ลันวิ่งตามออกมาที่หน้าห้องแต่ตอนนี้ผมอยู่ในลิฟต์ที่กำลังจะปิด

    ผมกดปุ่มปิดลิฟต์รัวๆ ก่อนที่ไอ้พี่ลันจะมาถึง  พอลิฟต์ปิดผมก็ถอนหายใจยาวแล้วทรุดลงนั่งกับพื้นทันที  ระหว่างที่ตัวเองกำลังสับสนอยู่แบบนี้ผมไม่อยากเจอกับพี่ลันเลยเพราะผมอาจจะสับสนกว่าเดิมก็เป็นได้  เฮ้อ


     

    พอลิฟต์เปิดผมก็รีบวิ่งออกจากคอนโด  ผมหันรีหันขวางเพราะไม่รู้จะไปทางไหนดีแต่พอหันกลับเข้าไปที่คอนโดผมก็เห็นไอ้พี่ลันวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากบันไดหนีไฟ  โคตรแม่ง! พี่มันเห็นผมแล้วถ้าผมไม่รีบขึ้นรถล่ะก็ผมถูกพี่มันลากกลับเข้าคอนโดแน่ๆ

    “นายไอ!!” ขณะที่ผมยืนหันไปหันมาอยู่ริมฟุตบาธรถเก๋งสีขาวคันสวยก็มาจอดเทียบท่า  กระจกข้างคนขับเลื่อนลงก่อนคนในรถจะตะโกนเรียกชื่อผม  ผมหันกลับไปมองไอ้พี่ลันก่อนจะกระโจนขึ้นรถด้วยความเร็วแสง

    “ครีม...แฮ่ก รีบขับออกไป  เร็ว!” ผมบอกพลางหอบหายใจถี่รัว  ครีมมองผมอย่างงงๆ ก่อนจะยอมขับออกไปตามที่บอก  ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่รอดจากไอ้พี่ลันมาได้อย่างหวุดหวิด  ภาพจากกระจกข้างสะท้อนให้เห็นไอ้พี่ลันที่กำลังยืนหอบพลางมองตามรถที่ผมขึ้น

    “นายหนีอะไรมา? ท่าทางกลัวเชียว” ครีมขมวดคิ้วถาม

    “โรคจิต” ผมตอบพลางหอบไม่หยุด  เหนื่อยฉิบหาย

    “โรคจิต? ทำไมนายไม่ใช้เทควันโดจัดการล่ะ  สายดำไม่ใช่หรือ?” ครีมถาม  ถ้าจัดการได้ก็จัดการไปแล้วล่ะครีมเอ๊ย  ผมมันก็แค่สายดำแต่ไอ้พี่ลันนั่นมันสายดำห้าดั้ง  ต่างชั้นกันเกินไป อีกอย่างผมขาเจ็บอีกด้วย  เอ่อ...พอนึกถึงอาการเจ็บที่ขามันก็ปวดแปลบขึ้นมาเลยทั้งๆ ที่เมื่อกี้ไม่ได้รู้สึกเจ็บสักนิด

    “ขาเจ็บอยู่น่ะสิ  โอ๊ย!!” ผมก้มลงมองขาตัวเองก่อนจะร้องโอดโอย  เลือดไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลบ่งบอกว่าแผลมันฉีก  โคตรแม่ง! กูก็แม่งเพิ่งไปทำแผลมา  สาธุ...ขออย่าให้ผมโดนเย็บเพิ่มเลยเถอะ  แค่ห้าเข็มก็เจ็บแทบตายแล้วครับ

    “เจ็บขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์วิ่งมาได้เนอะ” ครีมเหลือบตามองผมก่อนจะยิ้มขำๆ แล้วตีรถเลี้ยวเข้าโรงพยาบาล


     

    ผมถูกพยาบาลพยุงออกมาจากห้องตรวจหลังจากทำแผลเสร็จเรียบร้อย  โชคดีที่แผลผมไม่ได้ฉีกอะไรมากมายจึงไม่ได้เย็บเพิ่มแต่ระยะการตัดไหมต้องเลื่อนออกไปเพราะแผลสมานกันช้ากว่าที่คาดการณ์เอาไว้  นี่ผมต้องเดี้ยงไปอีกนานเลยล่ะสิเนี่ย  เซ็งชะมัดเลย

    “แล้วนายจะให้ฉันไปส่งที่ไหน?” ครีมถามพลางช่วยพยุงผม  เธอหันไปขอบคุณพยาบาลก่อนจะรับไม้ค้ำมา  คราวนี้ผมคงต้องพึ่งไม้ค้ำซะแล้วล่ะครับเพราะท่าทางจะเดินเองไม่ไหว

    “เอ่อ...” ขืนกลับไปที่หอไอ้พี่ลันคงได้ตามไปแน่เพราะงั้น... “ขอไปอยู่กับเธอก่อนได้ป่ะ?” ผมถามพลางบีบตาอ้อน  ก็รู้อยู่ว่าขอไปแบบนี้มันดูไม่น่าไว้ใจเพราะผมกับครีมเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน

    “นายจะบ้าหรือไง!?!” ครีมถลึงตามองผมทันที

    “โรคจิตนั่นน่ะ...มันพังประตูห้องพักของฉันแล้วจะให้ฉันกลับไปอยู่ที่นั่นได้ไงเล่า?” ผมหาข้ออ้าง  มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างซะทีเดียวเพราะมันเป็นเรื่องจริง

    “เฮ้ย! โรคจิตนั่นต้องการอะไรจากนายกันแน่เนี่ย?” ครีมถามอย่างตกใจ

    “ฉันก็ไม่รู้  ถ้าเป็นฉันตอนปกติฉันไม่กลัวหรอกแต่ตอนนี้ฉันเจ็บขาจนเดินเองไม่ได้แบบนี้คงสู้อะไรโรคจิตนั่นไม่ได้  เธอช่วยฉันหน่อยนะ” ผมพยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้

    “แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ? ทำไมนายไม่ไปอยู่กับเพื่อนผู้ชายของนายเล่า?” ครีมถาม  เอ...หน้าเธอดูแดงๆ แฮะ

    “ฉันเป็นเด็กต่างจังหวัดเพื่อนก็ไม่ค่อยมี  จะมีก็แต่ไอ้เมฆ  คือ...ไอ้เมฆมันอยู่หอเดียวกันน่ะฉันกลัวโรคจิตนั่นไปถามหาฉันที่ห้องไอ้เมฆ” ผมพูด

    “แล้วนายไม่กลัวโรคจิตทำร้ายเมฆเหรอ?”

    “ไอ้โรคจิตนั่นมันจ้องจะทำร้ายแค่ฉันคนเดียวเพราะงั้นไอ้เมฆปลอดภัยหายห่วง” ผมยิ้มแป้นพลางชูสองนิ้ว

    “เฮ้อ ก็ได้ๆ  แต่พ่อของฉันดุมาก  ขืนพาผู้ชายเข้าบ้านล่ะก็กะโหลกนายเป็นรูแน่” ครีมถอนหายก่อนจะพูดเสียงเครียด

    “หา!?!” ผมช็อค

    “แต่มันก็พอมีทางอยู่ล่ะนะ...” ครีมพยุงผมจนมาถึงรถ  เธอเปิดประตูให้ผมนั่งก่อนจะเดินไปค้นหาอะไรสักอย่างที่กระโปรงหลังรถ

    ครีมวางกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดเล็กไว้บนตักผมก่อนจะกอดอก “อะไร?” ผมถาม

    “ทางเดียวที่นายจะเข้าไปนอนที่บ้านฉันได้คือนายต้องปลอมตัว  นายต้องแต่งหญิง!” คำพูดของครีมทำให้ผมตกใจจนตาเบิกกว้าง  ตะ...แต่งหญิง...ชาตินี้ทั้งชาติตูยังไม่เคยเลยฟ่ะ?

    “ครีม  เธอดูหน้าฉันสิ  แขน...ขา...หุ่น...?  ดูยังไงก็ผู้ชายชัดๆ” ผมขมวดคิ้วก่อนชี้หน้า แขน ขา ของตัวเองตามลำดับ “และที่สำคัญ...เสียงฉันไม่ได้เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด”

    “ฉันก็ไม่ได้บอกให้นายเป็นผู้หญิงสักหน่อย  ก็แค่แต่งหญิงเฉยๆ”

    “นี่เธอจะให้ฉันเป็นตุ๊ดเหรอ?” ผมหน้าเหวอ

    “ใช่!” ครีมตอบอย่างมั่นใจพร้อมกับรอยยิ้มหวาน  ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นผมอาจจะละลายกับรอยยิ้มนี้แต่ในสถานการณ์แบบนี้ผมอยากร้องไห้!!!!

    ฆ่ากูเถอะ!!!

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
    กลับมาต่อตอนหลักแล้วค่ะ (ยังไม่หายป่วยเลยนิ เอิ๊กกกก)
    แบบว่า...เห็นคอมเม้นต์ของตอนพิเศษคริสต์มาสแล้วกลับไปดูคอมเม้นต์ของตอนหลักแล้วแบบว่า...ฮ่าๆๆๆๆๆ (หัวเราะทำไมวะ? =..=)
    ถ้าคอมเม้นต์ของตอนหลักมีเท่าคอมเม้นต์ของตอนที่มี NC ก็คงจะดีเนอะ (ดิ้นพราดดด)  อ่ะ...ไรเตอร์ขอต่อ...ขอให้มันมีครึ่งหนึ่งของตอนพิเศษคริสต์มาสได้หรือเปล่าน้อ  คนละเม้นสองเม้นเนาะ (ฝันไปเปล่ามึง? << บอกตัวเอง)  แต่ไม่เม้นก็ไม่เป็นไร...(หลบไปขุดรู)  แค่ NC หดและอัพช้าแค่นั้นเอ๊งงงงง (ก๊ากกกกกก ขู่)

    ตอนนี้ขอสัก 50 เม้นนะ (เงยหน้าหัวเราะอย่างปิศาจ)

    เอาล่ะๆ ไรเตอร์เพ้อพอละ เอิ๊กกก  (แต่ถ้าเกิน 50 พรุ่งนี้มาอัพเลย <<ยังไม่เลิกเพ้อ) เอาเป็นว่าถ้าเจอคำผิดบอกด้วยเด้อ เล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม

     

    Rasp Free Theme dek-d By i'nutberry

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×