คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : Rule 20 : รักน้องต้องเป็นโรคจิตจำเป็น
edit : 1/1/13
ผมหันไปมองซากประตูที่ล้มโครมลงอย่างน่าอนาถก่อนจะค่อยๆ เบนสายตาไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังลดเท้าลง แสงแดดยามบ่ายสาดเข้ามาในห้องผมโดยมีเงาใหญ่ๆ ของไอ้พี่ลันสาดทับลงมาอีกชั้น ผมเบิกตาอ้าปากกว้างอย่างตกใจกับการกระทำของพี่ลัน
ประตูห้องของผม...ไม่ได้เปราะและพังง่ายแต่อย่างใด...แล้วเหตุใด...มันถึงหลุดออกมาทั้งบานแบบนั้นเล่า? ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฝีเท้าของผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งจะสามารถทำลายประตูลงได้ภายในการถีบกระแทกเพียงแค่สองสามครั้งเท่านั้น นี่มันเครื่องจักรหรือคนกันแน่ครับ?
และเพียงไม่นานหลังจากที่ประตูห้องของผมถูกถีบลงไปนอนแอ้งแม้งผู้ดูแลกับเด็กหอที่ยังอยู่ในห้องของตัวเองก็รีบวิ่งมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังขึ้น ไอ้เด็กหอที่อยู่หอนี้ส่วนมากก็มีแต่เด็กมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมทั้งนั้นประกอบกับไอ้พี่ลันมันเป็นคนดังข้ามคณะคนจึงรู้จักมันเยอะมันจึงไม่แปลกเลยหากจะมีคนนินทา
“นี่มันอะไรกันคุณ ทำไมถึงทำลายข้าวของแบบนี้!?!” ผู้ดูแลหอผู้เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมตวาดใส่พี่ลันแต่พอพี่ลันตวัดสายตากลับไปมอง ผู้ดูแลหอถึงกับหน้าซีดเผือด
“เอาเงินนี่ไปซ่อมประตู เหลือก็ไม่ต้องทอน” ไอ้พี่ลันควักกระเป๋าเงินออกมาก่อนจะยัดเงินใส่มือผู้ดูแลจำนวนหนึ่งซึ่งเงินจำนวนนั้นก็เกินค่าซ่อมไปมากโขเลยทีเดียว
“ทำแบบนี้ทำไม!?! คนอื่นเขาเดือดร้อนไม่เห็นหรือไง!” ผมตวาดใส่ไอ้พี่ลันอย่างเหลืออด ไอ้พี่ลันในตอนนี้ก็น่ากลัวอยู่หรอกแต่ทำแบบนี้มันก็เกินไป ความโกรธของผมสามารถชนะความกลัวได้อย่างง่ายดายเลยล่ะครับ
“นายมากับฉัน!!” ไอ้พี่ลันเดินเหยียบซากประตูเข้ามาในห้องก่อนจะกระชากข้อมือของผม
“ทำไมผมต้องไป ผมจะอยู่ที่ห้องของผม” ผมสะบัดข้อมือออกการเกาะกุมก่อนจะก้าวถอยหลัง เพราะรีบก้าวเกินไปผมจึงเจ็บที่หัวเข่าจนเดินเซไปชนตู้หนังสือขนาดเล็กในห้อง ไอ้พี่ลันไม่เข้ามาช่วยดึงผมขึ้นเอาแต่หรี่ตามองอย่างไร้ความรู้สึก สายตาแบบนี้เหมือนครั้งแรกที่เราเจอกันเลย
“ไปเคลียร์กับฉันที่คอนโด!!” ไอ้พี่ลันออกคำสั่งก่อนจะเดินมากระชากข้อมือของผม
“ผมไม่ไป!” ผมยื้อตัวเองไว้
“จะไปดีๆ หรือจะให้อุ้ม” ไอ้พี่ลันกัดฟันพูดเสียงเบาเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน แย่ล่ะ...ขืนให้ไอ้พี่ลันอุ้มผมต้องถูกมองไม่ดีแน่ๆ
“โวะ!! ไปก็ไป!” ผมสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมก่อนจะเดินกะเผลกๆ ออกจากห้อง “ลุงครับ ผมขอโทษด้วยนะฮะที่ทำให้เดือดร้อน” ผมหยุดพูดกับคุณลุงผู้ดูแลหอก่อนจะไหว้ขอโทษ
“มะ...ไม่เป็นไร” ลุงผู้ดูแลหอยังที่มีท่าทางงงๆ พูดกับผมเบาๆ
ผมหันไปมองไอ้พี่ลันนิดหน่อยก่อนจะเดินช้าๆ นำไป สงสัยไอ้พี่ลันแกจะทนเห็นท่าเดินของผมไม่ได้แกก็เลยเดินมาจับแขนผมคล้องคอแล้วช่วยพยุง ผมขมวดคิ้วก่อนจะชักมือออกแต่ไอ้พี่ลันดึงมือผมไว้ก่อนจะข่มตาดุขู่ ถ้าผมยังดื้อแกคงจะอุ้มผมให้อายคนทั้งหอ
ลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 10 อันเป็นที่ตั้งของห้องไอ้พี่ลัน ผมขมวดคิ้วมองไอ้พี่ลันนิดๆ ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปก่อนเพราะไอ้พี่ลันไม่ยอมออก ไอ้เราก็กะจะรอให้พี่มันออกไปก่อนแล้วหนีกลับหอแต่พี่มันดันรู้ทันซะงั้น
ผมก้าวออกจากลิฟต์มาได้เพียงสามก้าวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างบางระหงยืนอยู่หน้าห้องของไอ้พี่ลัน ผมกัดริมฝีปากก่อนจะหันไปมองไอ้พี่ลันอย่างโกรธๆ
ไอ้พี่ลันเองก็ดูงงๆ ที่เห็นพี่น้ำยืนอยู่หน้าห้องของตัวเอง
“น้ำมาได้ไง?” พี่ลันเดินไปที่หน้าห้องของตัวเองก่อนจะถามขึ้น ผมยืนอยู่ที่เดิมก่อนจะมองอย่างหงุดหงิด พากูมาแล้วทิ้งกูเลยนะ
“น้ำไปหาลันที่บ้าน แม่ลันบอกว่าลันอยู่ที่นี่” พี่น้ำพูดก่อนจะควงแขนไอ้พี่ลันพลางหันมามองผมด้วยรอยยิ้มของนางมาร ผมชอบผู้หญิงนะ...แต่ไม่ใช่ยัยคนนี้แน่นอน!!
“น้ำมาหาลันมีธุระอะไร?” หือ!?! น้ำ...ลัน...? นี่พี่ลันใช้คำแทนตัวแบบนี้กับพี่น้ำอย่างนั้นหรือ มันจะไม่น่ารักเกินไปหน่อยหรือไง? โคตรแม่ง!!!
“ก็ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก น้ำแค่คิดถึงลัน...ไม่ได้เหรอ?” พี่น้ำเงยหน้ามองไอ้พี่ลันอย่างออดอ้อน อ๊าก!! กูคลั่ง! จะอ้อนไอ้พี่ลันก็มองแค่มันสิวะ อย่าส่งสายตาสมเพชมาให้กู!!
“ถ้าไม่ได้มีธุระอะไรก็กลับไปเถอะ ลันมีธุระ” พี่ลันพูด อะ...ฮุๆ หน้าแตกเลยล่ะสิป้า ถูกเขาไล่ขนาดนั้น ก๊าก ฮ่าๆๆ
พี่น้ำหน้าเหวอก่อนจะหันมามองผมอย่างหงุดหงิดส่วนผมก็แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อย่างสะใจ
“งั้นวันนี้น้ำกลับก่อนก็ได้” พี่น้ำปล่อยแขนพี่ลันก่อนจะเดินกระแทกส้นมาที่ลิฟต์ ก่อนจะถึงลิฟต์พี่แกก็ต้องเดินผ่านผม ขณะที่กำลังจะเดินผ่านไปพี่น้ำก็หยุดและทำหน้าอาฆาตแค้นใส่ผมส่วนผมก็เอาแต่ยิ้มเยาะอย่างสะใจ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ตัวเองจะเกลียดผู้หญิงได้ลง
พอพี่น้ำไปพ้นสายตาผมก็หันกลับไปมองไอ้พี่ลัน เมื่อเห็นว่าไอ้พี่ลันเองก็มองผมอยู่ผมจึงรีบหุบยิ้มทันที พี่ลันรูดคีย์การ์ดเปิดประตูก่อนจะพยักพเยิดให้ผมเข้าไปในห้อง ผมแสยะปากเซ็งๆ ก่อนจะยอมเดินเข้าไปแต่โดยดี
ผมเดินไปนั่งบนโซฟาก่อนจะเหลือบตามองไอ้พี่ลันและพูดขึ้น “มีอะไรก็รีบพูดมาเถอะครับ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นาน” ผมยักไหล่
“เรื่องนี้เราคงต้องคุยกันยาว นายไม่ได้กลับไปง่ายๆ แน่” ไอ้พี่ลันเดินอ้อมมาด้านหน้าผมก่อนจะโน้มตัวลงและเอามือยันไว้กับพนักพิง ผมตกใจเอนหลังแนบชิดพนักพิงเพราะกลัวหน้าไอ้พี่ลันจะชิดกับหน้าของตัวเอง
“แต่ผมไม่มีอะไรจะคุย!” ผมทำใจกล้าตะคอกใส่ทั้งๆ ที่ตัวเองกลัวจนตัวสั่น ไอ้พี่ลันน่ากลัวมากครับ ยิ่งยื่นหน้ามาใกล้ๆ แบบนี้ผมยิ่งกลัว พี่ลันหรี่ตาลงให้ดูดุจนผมขยับถอยหลังแม้หลังจะชนจนจะกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับโซฟาแล้วก็ตาม
“นายโกรธฉันเรื่องอะไรพูดมาให้หมด อย่าทำให้ฉันอารมณ์เสีย!” ไอ้พี่ลันค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนผมต้องทำตัวให้ลีบที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ผมก็พูดออกไปหมดแล้ว” ผมบอก ไอ้พี่ลันขมวดคิ้วก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้หน้าของผมด้วยความเร็วสูงจนจมูกของเราแตะกัน “โอ๊ย! บอกดีๆ ก็ได้” ผมหลบตาปี๋ก่อนจะรีบดันคางพี่ลันออกไปให้ห่าง ขืนผมยังทำตัวดื้ออยู่แบบนี้มีหวังถูกจูบแน่
ไอ้พี่ลันยอมถอนหน้าออกไปแต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างไว้หนึ่งคืบ มึงจะถอยไปห่างๆ หน่อยไม่ได้หรือไงวะ ไม่รู้หรือไงว่ากูแม่งเขินแต่กูแค่เก๊ก
“ผมโมโหที่พี่ลันเข้าข้างพี่น้ำ” ผมเบือนสายตาหลบตาพี่ลันก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงห้วนๆ กลบความเขินที่หน้าใกล้กันขนาดนี้
“เข้าข้าง? ตอนไหน?” ไอ้พี่ลันขมวดคิ้ว ผมเหลือบตามองพี่ลันนิดๆ โคตรแม่ง! ทำหน้างงได้หล่อฉิบหาย นี่กูกำลังโกรธอยู่นะเฮ้ย อย่ามาทำให้หวั่นไหวได้ไหมเล่าเดี๋ยวก็หายโกรธหรอก
“กะ...ก็พี่ลันไม่ยอมพูดอะไร...” ผมเบือนหน้าหนีอีกรอบแต่ไอ้พี่ลันใช้มือจับคางผมให้หันไปมองหน้าตัวเอง “...แล้วยังจะให้พี่น้ำมาทำ...” พี่ลันยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมพยายามเบือนหน้าหนีแต่พี่ลันล็อคคางผมไว้แน่น “...แผล...เอื๊อก...ให้...” ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างประหม่า ให้ตายเถอะ ตอนนี้จมูกของเราแตะกันแล้วล่ะครับ
“พูดต่อสิ” ไอ้พี่ลันพูดเสียงเบาพลางเอียงหน้า มึงจะให้กูพูดต่ออย่างไรวะในเมื่อปากมึงอยู่ห่างจากปากกูไม่ถึงสามเซนติเมตร
“ทั้งๆ ที่พี่น้ำ...(ลมหายใจพี่ลันเป่ารดปลายจมูก)...แกล้ง...(พี่ลันค่อยๆ อ้าปากนิดๆ)...ผม...อุ๊บ!” ผมหลับตาปี๋เมื่อพูดจบ และทันทีที่ผมพูดจบไอ้พี่ลันก็จูบที่ปากของผมทันที
ริมฝีปากของผมถูกไอ้พี่ลันเล็มเลียเหมือนกำลังละเลียดกินอมยิ้มก่อนลิ้นอุ่นๆ จะแทรกเข้ามาในปากเพื่อกอบโกยเอาความหวานไปเก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว
ไอ้พี่ลันค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกดคอผมลงไปเพื่อให้จูบสะดวกๆ ส่วนผมก็ใจง่ายยอมจูบตอบอย่างไม่ขัดขืน ลองมาเป็นผมดูสิแล้วจะรู้ ต่อให้พี่มันกดผมที่โซฟาผมก็คงต้านทานไม่ได้
ลิ้นอุ่นๆ ถูกถอนออกไปก่อนจมูกโด่งๆ จะกดลงที่แก้ม ริมฝีปากได้รูปสีชมพูอมส้มกดลงมาตามจมูกก่อนพี่แกจะลากริมฝีปากลงมาที่คอ พี่ลันเลียตรงสันคอของผมก่อนจะจูบและดูดแรงๆ จนเจ็บสะท้าน
“พี่ลัน...อย่าทำแบบนี้” ก่อนที่ผมจะเคลิ้มจนน้องชายยืนตรงเคารพธงชาติผมจึงจำเป็นต้องดันไอ้พี่ลันออก เห็นนิ่งๆ เย็นชาๆ แบบนี้ที่จริงหื่นสุดตีนเลยล่ะครับ มองเผินๆ ก็ไม่คิดหรอกว่าจะเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงขนาดนี้
“ทำไม?” พี่ลันที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเงยหน้าขึ้นถาม ถ้าไม่ติดว่าหล่อพ่อสอยไปนานแล้วนะเนี่ย โทษฐานทำกูเขินตลอด
“ผมโกรธอยู่นะ” ผมแสร้งทำหน้าบูดเป็นตูดมด
ไอ้พี่ลันถอนหายใจนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ พี่ลันเหลือบตามองผมก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง เฮ้ย! ทำหน้าแบบนั้นหมายควายว่าไงวะ ทำหน้าอย่างกับกูเป็นคนงี่เง่าเสียเต็มประดา อย่านะมึง...อย่าให้กูโมโหนะเว้ย ถ้าหล่อโมโหแล้วหล่อต่อยไม่ยั้งนะขอบอก
“ไปขี่รถเล่นกันไหม?” พี่ลันถาม เฮ้ยไอ้นี่มันเปลี่ยนเรื่องว่ะ
“พี่ลัน!!” ผมมองพี่ลันด้วยสายตาดุๆ
“ฉันเคยคบกับน้ำแต่จบกันไปแล้ว จบ” พี่ลันพูดสั้นๆ หือ...ถ้าอย่างนั้นที่พี่น้ำพูดว่าเป็นเมียไอ้พี่ลันก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิ
“พี่น้ำบอกว่าเขาเป็นเมียพี่” ผมพูดเคืองๆ
“เคย” พี่ลันยกขาไขว้กันก่อนจะเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากจะพูดถึงมันอีก ไอ้พี่บ้านี่ทำห่าอะไรก็หล่อ อยากเห็นตอนมันนั่งขี้จริงๆ ว่ะ
ถึงจะบอกว่าแค่เคยเป็นของกันและกันแต่ผมก็ยังรู้สึกเสียความมั่นใจอยู่เหมือนเดิม ยังไงเขาก็เคยมีอะไรๆ กันอยู่ดี ยิ่งคิดยิ่งเฟล!
“ผมกลับล่ะครับ” ผมพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน
“มันก็แค่อดีตอย่าไปใส่ใจนักเลย!!” ไอ้พี่ลันที่อยู่ท่าเดิมตะคอกเสียงดังจนผมสะดุ้ง คิ้วหนาแอบโก่งนิดๆ ขมวดเป็นปมอย่างหัวเสีย
“ผมจะใส่ใจหรือไม่ใส่ใจแล้วจะทำไมหรือครับ? พี่จะเคยคบกับใครผมก็ไม่เกี่ยวนี่” ผมพูด ถึงจะบอกไปอย่างนั้นแต่ตัวเองกลับเจ็บลึกๆ แฮะ อาจจะไม่ลึก...เจ็บฉิบหายเลยล่ะตอนนี้
“ถ้าไม่ใส่ใจแล้วทำไมต้องโกรธ? ถ้าบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวทำไมต้องอารมณ์เสีย?” พี่ลันหันกลับมามองผม คำถามของพี่ลันจี้ใจดำผมอย่างจัง เออ...ทำไมกูต้องอารมณ์เสียและเจ็บใจด้วยวะ!?!
“อึก...” ผมสะอึกก่อนจะส่ายหน้ารัวๆ แล้วเดินไปที่หน้าประตู
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” ไอ้พี่ลันสั่ง ผมตอบคำถามที่พี่ลันถามไม่ได้...ผมสับสนหรือผมอาจจะแค่น้อยใจ...? มีสิทธิอะไรล่ะ? ผมปฏิเสธไม่ยอมเป็นคนของพี่ลันเองเพราะฉะนั้นผมไม่มีสิทธิไปหวงหรอก เออ...หวงไม่ได้หรอกเพราะมันก็แค่เซ็กส์เฟรนด์
ผมรีบเปิดประตูก่อนจะเดินออกจากห้องตรงไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว ขาเขอผมไม่สนใจมันแล้ว เจ็บก็เจ็บไปสิแต่ถ้าตอนนี้ผมออกจากคอนโดนี้ไม่ได้ผมคงไม่ได้เจ็บแค่ขาอย่างเดียวหรอกครับ
“ไอ!! บอกให้หยุดไง!!” ไอ้พี่ลันวิ่งตามออกมาที่หน้าห้องแต่ตอนนี้ผมอยู่ในลิฟต์ที่กำลังจะปิด
ผมกดปุ่มปิดลิฟต์รัวๆ ก่อนที่ไอ้พี่ลันจะมาถึง พอลิฟต์ปิดผมก็ถอนหายใจยาวแล้วทรุดลงนั่งกับพื้นทันที ระหว่างที่ตัวเองกำลังสับสนอยู่แบบนี้ผมไม่อยากเจอกับพี่ลันเลยเพราะผมอาจจะสับสนกว่าเดิมก็เป็นได้ เฮ้อ
พอลิฟต์เปิดผมก็รีบวิ่งออกจากคอนโด ผมหันรีหันขวางเพราะไม่รู้จะไปทางไหนดีแต่พอหันกลับเข้าไปที่คอนโดผมก็เห็นไอ้พี่ลันวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากบันไดหนีไฟ โคตรแม่ง! พี่มันเห็นผมแล้วถ้าผมไม่รีบขึ้นรถล่ะก็ผมถูกพี่มันลากกลับเข้าคอนโดแน่ๆ
“นายไอ!!” ขณะที่ผมยืนหันไปหันมาอยู่ริมฟุตบาธรถเก๋งสีขาวคันสวยก็มาจอดเทียบท่า กระจกข้างคนขับเลื่อนลงก่อนคนในรถจะตะโกนเรียกชื่อผม ผมหันกลับไปมองไอ้พี่ลันก่อนจะกระโจนขึ้นรถด้วยความเร็วแสง
“ครีม...แฮ่ก รีบขับออกไป เร็ว!” ผมบอกพลางหอบหายใจถี่รัว ครีมมองผมอย่างงงๆ ก่อนจะยอมขับออกไปตามที่บอก ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่รอดจากไอ้พี่ลันมาได้อย่างหวุดหวิด ภาพจากกระจกข้างสะท้อนให้เห็นไอ้พี่ลันที่กำลังยืนหอบพลางมองตามรถที่ผมขึ้น
“นายหนีอะไรมา? ท่าทางกลัวเชียว” ครีมขมวดคิ้วถาม
“โรคจิต” ผมตอบพลางหอบไม่หยุด เหนื่อยฉิบหาย
“โรคจิต? ทำไมนายไม่ใช้เทควันโดจัดการล่ะ สายดำไม่ใช่หรือ?” ครีมถาม ถ้าจัดการได้ก็จัดการไปแล้วล่ะครีมเอ๊ย ผมมันก็แค่สายดำแต่ไอ้พี่ลันนั่นมันสายดำห้าดั้ง ต่างชั้นกันเกินไป อีกอย่างผมขาเจ็บอีกด้วย เอ่อ...พอนึกถึงอาการเจ็บที่ขามันก็ปวดแปลบขึ้นมาเลยทั้งๆ ที่เมื่อกี้ไม่ได้รู้สึกเจ็บสักนิด
“ขาเจ็บอยู่น่ะสิ โอ๊ย!!” ผมก้มลงมองขาตัวเองก่อนจะร้องโอดโอย เลือดไหลซึมออกมาจากผ้าพันแผลบ่งบอกว่าแผลมันฉีก โคตรแม่ง! กูก็แม่งเพิ่งไปทำแผลมา สาธุ...ขออย่าให้ผมโดนเย็บเพิ่มเลยเถอะ แค่ห้าเข็มก็เจ็บแทบตายแล้วครับ
“เจ็บขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์วิ่งมาได้เนอะ” ครีมเหลือบตามองผมก่อนจะยิ้มขำๆ แล้วตีรถเลี้ยวเข้าโรงพยาบาล
ผมถูกพยาบาลพยุงออกมาจากห้องตรวจหลังจากทำแผลเสร็จเรียบร้อย โชคดีที่แผลผมไม่ได้ฉีกอะไรมากมายจึงไม่ได้เย็บเพิ่มแต่ระยะการตัดไหมต้องเลื่อนออกไปเพราะแผลสมานกันช้ากว่าที่คาดการณ์เอาไว้ นี่ผมต้องเดี้ยงไปอีกนานเลยล่ะสิเนี่ย เซ็งชะมัดเลย
“แล้วนายจะให้ฉันไปส่งที่ไหน?” ครีมถามพลางช่วยพยุงผม เธอหันไปขอบคุณพยาบาลก่อนจะรับไม้ค้ำมา คราวนี้ผมคงต้องพึ่งไม้ค้ำซะแล้วล่ะครับเพราะท่าทางจะเดินเองไม่ไหว
“เอ่อ...” ขืนกลับไปที่หอไอ้พี่ลันคงได้ตามไปแน่เพราะงั้น... “ขอไปอยู่กับเธอก่อนได้ป่ะ?” ผมถามพลางบีบตาอ้อน ก็รู้อยู่ว่าขอไปแบบนี้มันดูไม่น่าไว้ใจเพราะผมกับครีมเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน
“นายจะบ้าหรือไง!?!” ครีมถลึงตามองผมทันที
“โรคจิตนั่นน่ะ...มันพังประตูห้องพักของฉันแล้วจะให้ฉันกลับไปอยู่ที่นั่นได้ไงเล่า?” ผมหาข้ออ้าง มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างซะทีเดียวเพราะมันเป็นเรื่องจริง
“เฮ้ย! โรคจิตนั่นต้องการอะไรจากนายกันแน่เนี่ย?” ครีมถามอย่างตกใจ
“ฉันก็ไม่รู้ ถ้าเป็นฉันตอนปกติฉันไม่กลัวหรอกแต่ตอนนี้ฉันเจ็บขาจนเดินเองไม่ได้แบบนี้คงสู้อะไรโรคจิตนั่นไม่ได้ เธอช่วยฉันหน่อยนะ” ผมพยายามทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ? ทำไมนายไม่ไปอยู่กับเพื่อนผู้ชายของนายเล่า?” ครีมถาม เอ...หน้าเธอดูแดงๆ แฮะ
“ฉันเป็นเด็กต่างจังหวัดเพื่อนก็ไม่ค่อยมี จะมีก็แต่ไอ้เมฆ คือ...ไอ้เมฆมันอยู่หอเดียวกันน่ะฉันกลัวโรคจิตนั่นไปถามหาฉันที่ห้องไอ้เมฆ” ผมพูด
“แล้วนายไม่กลัวโรคจิตทำร้ายเมฆเหรอ?”
“ไอ้โรคจิตนั่นมันจ้องจะทำร้ายแค่ฉันคนเดียวเพราะงั้นไอ้เมฆปลอดภัยหายห่วง” ผมยิ้มแป้นพลางชูสองนิ้ว
“เฮ้อ ก็ได้ๆ แต่พ่อของฉันดุมาก ขืนพาผู้ชายเข้าบ้านล่ะก็กะโหลกนายเป็นรูแน่” ครีมถอนหายก่อนจะพูดเสียงเครียด
“หา!?!” ผมช็อค
“แต่มันก็พอมีทางอยู่ล่ะนะ...” ครีมพยุงผมจนมาถึงรถ เธอเปิดประตูให้ผมนั่งก่อนจะเดินไปค้นหาอะไรสักอย่างที่กระโปรงหลังรถ
ครีมวางกระเป๋าเสื้อผ้าขนาดเล็กไว้บนตักผมก่อนจะกอดอก “อะไร?” ผมถาม
“ทางเดียวที่นายจะเข้าไปนอนที่บ้านฉันได้คือนายต้องปลอมตัว นายต้องแต่งหญิง!” คำพูดของครีมทำให้ผมตกใจจนตาเบิกกว้าง ตะ...แต่งหญิง...ชาตินี้ทั้งชาติตูยังไม่เคยเลยฟ่ะ?
“ครีม เธอดูหน้าฉันสิ แขน...ขา...หุ่น...? ดูยังไงก็ผู้ชายชัดๆ” ผมขมวดคิ้วก่อนชี้หน้า แขน ขา ของตัวเองตามลำดับ “และที่สำคัญ...เสียงฉันไม่ได้เหมือนผู้หญิงเลยสักนิด”
“ฉันก็ไม่ได้บอกให้นายเป็นผู้หญิงสักหน่อย ก็แค่แต่งหญิงเฉยๆ”
“นี่เธอจะให้ฉันเป็นตุ๊ดเหรอ?” ผมหน้าเหวอ
“ใช่!” ครีมตอบอย่างมั่นใจพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ถ้าเป็นสถานการณ์อื่นผมอาจจะละลายกับรอยยิ้มนี้แต่ในสถานการณ์แบบนี้ผมอยากร้องไห้!!!!
ฆ่ากูเถอะ!!!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
กลับมาต่อตอนหลักแล้วค่ะ (ยังไม่หายป่วยเลยนิ เอิ๊กกกก)
แบบว่า...เห็นคอมเม้นต์ของตอนพิเศษคริสต์มาสแล้วกลับไปดูคอมเม้นต์ของตอนหลักแล้วแบบว่า...ฮ่าๆๆๆๆๆ (หัวเราะทำไมวะ? =..=)
ถ้าคอมเม้นต์ของตอนหลักมีเท่าคอมเม้นต์ของตอนที่มี NC ก็คงจะดีเนอะ (ดิ้นพราดดด) อ่ะ...ไรเตอร์ขอต่อ...ขอให้มันมีครึ่งหนึ่งของตอนพิเศษคริสต์มาสได้หรือเปล่าน้อ คนละเม้นสองเม้นเนาะ (ฝันไปเปล่ามึง? << บอกตัวเอง) แต่ไม่เม้นก็ไม่เป็นไร...(หลบไปขุดรู) แค่ NC หดและอัพช้าแค่นั้นเอ๊งงงงง (ก๊ากกกกกก ขู่)
ตอนนี้ขอสัก 50 เม้นนะ (เงยหน้าหัวเราะอย่างปิศาจ)
เอาล่ะๆ ไรเตอร์เพ้อพอละ เอิ๊กกก (แต่ถ้าเกิน 50 พรุ่งนี้มาอัพเลย <<ยังไม่เลิกเพ้อ) เอาเป็นว่าถ้าเจอคำผิดบอกด้วยเด้อ เล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม
ความคิดเห็น