ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic~Reborn Bleach and other

    ลำดับตอนที่ #21 : Fic Reborn:D18:Love me! Part12

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 53


     ทำไม   ทำไมน้ำตาบ้าๆ นี่มันต้องไหลลงมาด้วย   คนอย่างชั้น...ฮิบาริ  เคียวยะ คนนี้ร้องไห้งั้นเหรอ!?! งี่เง่า!   เจ็บใจชะมัด   ทำไมชั้นต้องมาร้องไห้เพียงเพราะโดนหักหลังด้วยนะ   ต่อไปนี้...ชั้นจะไม่มีความรักอีกแล้ว!

     

           ฮิบาริเดินเข้ามาในคฤหาสน์คาบัคโรเน่แล้วรีบเก็บของเตรียมกลับทันทีแต่ติดที่รีบอร์นมาบอกข่าวร้ายสำหรับเค้าซะก่อน

                “สนามบินถูกระเบิดเสียหายไปพอสมควร   ตอนนี้เราจึงกลับไม่ได้”

                “อย่ามาหลอกชั้น เจ้าหนู” ฮิบาริไม่ยอมเชื่อ

                “งั้นก็ดูนี่สิ” รีบอร์นพูดแล้วก็เปิดทีวีให้ดูซึ่งกำลังรายงานข่าวเกี่ยวสนามบินโดนระเบิดอยู่พอดี

                “งั้นพาชั้นไปที่อยู่ของวองโกเล่   ชั้นเป็นแฟมิลี่ไม่ใช่เหรอ?” ฮิบาริพูด

                “แกจะหนีงั้นเหรอ ฮิบาริ?” รีบอร์นพูดออกมาทำเอาฮิบาริหน้าตึงขึ้นมาทันที

                “ชั้นไม่ได้หนี   ชั้นเคลียร์แล้ว” ฮิบาริบอก   ไม่กล้าสบตากับรีบอร์นเพราะสิ่งที่เค้าทำอยู่มันคือการหนีชัดๆ

                “แววตาของคนน่ะมันปิดไม่มิดหรอกนะ   แกเป็นคนกล้าไม่ใช่เหรอ   ไม่ว่าจะเป็นศึกรูปแบบไหนแกก็ไม่หวั่นที่จะสู้แต่ทำไมศึกแบบนี้แกถึงหนี   ศึกไหนๆ แกหนีได้แต่แกไม่หนีแต่ศึกนี้แกกลับหนีทั้งๆ ที่หนีไม่ได้   งั้นก็รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์สิ” รีบอร์นพูดแล้วก็เดินจากไปปล่อยให้ฮิบาริยืนคิดทบทวนอยู่คนเดียว

     

                เช้าวันรุ่งขึ้น

                ร่างบางของคุณชายเย็นชานั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาห้องรับแขกสร้างความปะหลาดใจให้หลายๆ คนเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร

                “ตื่นแต่เช้าเลยนะฮิบาริ” ยามาโมโตะถือกาแฟมานั่งลงข้างๆ ฮิบาริ

                “อืม แล้วเจ้าระเบิดนั่นไม่ได้อยู่ด้วยรึไง” ฮิบารถามทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากหนัง

                “กลับไปที่คฤหาสน์ของเค้าก็พี่สาวน่ะ   ไม่ยอมให้ชั้นไปด้วยเลย” ยามาโมโตะหัวเราะแห้งๆ

                “อืม” ฮิบาริพยักหน้า

                “อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน” มุคุโร่เดินออกมาพร้อมสึนะแล้วมานั่งแปะลงตรงข้ามกับฮิบาริส่วนสึนะก็นั่งข้างๆ มุคุโร่

                “คุณฮิบาริอ่านหนังสืออะไรน่ะครับ?” สึนะถาม   แม้จะกลัวอยู่บ้างแต่ก็อยากจะชวนคุยเพื่อปลอบใจฮิบาริ

                “วิธีการฆ่าปิดปากคนอย่างไร้ร่องรอย” ฮิบาริตอบ   เล่นเอาสึนะกลืนน้ำลายเอื๊อก พลางคิดไปว่า   หนังสือแบบนั้นมันมีด้วยเหรอ?

                “แหม...ยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลยนะ” ยามาโมโตะหัวเราะเล็กน้อย

                “งางางางาไง   คุณแรมโบ้มาแว้วววว” ท่ามกลางความเงียบที่ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศมาคุๆ เสียงเจ้าวัวตัวดีก็ดังขึ้นลั่นบริเวณห้องรับแขก

                “หุบปากไปเลยไอ้วัวตัวดี” พอรีบอร์นพูดจบก็มีเสียงพลั่กตามมาและตามมาด้วยเสียงร้องไห้กระจองอแงเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบๆ ตัวฮิบาริได้ยกเว้นเจ้าตัวเอง

           “อรุณสวัสดิ์ทุกคน   ตื่นแต่เช้าเลยนะ” ดีโน่เดินลงมาทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนเพราะเมื่อคืนเค้าแทบไม่ได้นอนเพราะคิดมากเรื่องฮิบาริและตอนนี้เค้าก็ยังไม่เห็นหน้าฮิบาริเลย

                “หน้าคุณดีโน่ไปโดนอะไรมาครับ” สึนะถามเมื่อเห็นใบหน้าเยินๆ ของดีโน่

                “ชั้นซุ่มซ่ามน่ะ แหะๆ อะ...เคียวยะ...” ดีโน่ที่เพิ่งเห็นฮิบาริเบิกตากว้าง

                “...” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่ชื่อว่าฮิบาริ เคียวยะ   ทุกๆ คนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆ หลบฉากไปเงียบๆ

                “เคียวยะ   นายยอมอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ดีใจจัง” ดีโน่เผยรอยยิ้มออกมาแม้รอยยิ้มนั้นมันจะเศร้ามากเพียงใดก็ตาม

                “ชั้นไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะหนีความจริง   ชั้นไม่แคร์หรอกนะ” ฮิบาริพูดพลางอ่านหนังสือไป

                “แต่ชั้นแคร์   ให้ชั้นได้อธิบายได้มั้ย?

                “คำอธิบายนั่นมันจะยิ่งทำให้ชั้นเจ็บใจ   เพราะงั้นอย่าได้มาอธิบายเลย   เพราะชั้นรู้ตัวว่าชั้นอยู่ในฐานะอะไร” ฮิบาริพูดเสียงเย็น

                “แต่เคียวยะ...”

                “ทั้งหมดที่ผ่านมามันคือความฝันอันยาวนาน   แต่ตอนนี้ชั้นตื่นแล้วเพราะฉะนั้นอย่ามารื้อฟื้นเลยอาจารย์” ฮิบาริเน้นคำว่าอาจารย์ทำให้ดีโน่หน้าเสีย

                “เคียวยะชั้น...”

                “ดีโน่~

                “บาย ไม่อยากเป็นก้าง” ฮิบาริวางหนังสือลงแล้วเดินจากไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา

                “เอลลา   ผมขอร้อง...อย่ายุ่งกับผมเลย” ดีโน่ดึงแขนของเอลลาที่เกาะเกี่ยวกับแขนเค้าออก

                “ดีโน่   ชั้นเคยบอกคุณแล้วนะว่าถ้าคุณไม่ตกลงหมั้นกับชั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น” เอลลาถลึงตาใส่ดีโน่

                “ผมไม่ได้กลัวพ่อคุณเลยนะ   คุณคิดว่าผมเป็นใคร” ดีโน่ขมวดคิ้วมองเอลลาอย่างไม่ชอบใจ

                “แล้วเด็กญี่ปุ่นคนนั้นล่ะ คุณจะไม่สนใจเค้าเลยเหรอ?” เอลลาแสยะยิ้ม

                “เพราะฉะนั้นผมถึงหมั้นกับคุณไม่ได้ไง   แล้วคุณก็คงไม่กล้าทำอะไรเค้าหรอกเพราะเค้าเป็นผู้ถือแหวนเมฆาของวองโกเล่” ดีโน่พูด

                “ชั้นก็ไม่ได้ว่าจะทำอะไรเค้านะคะ   แต่ตอนนี้เค้าเข้าใจว่าคุณกับชั้นเป็นอะไรกันแล้วนี่   เพราะฉะนั้นการที่จะกำจัดเค้าให้พ้นทางมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก” เอลลายักไหล่

                “ยังไงผมก็ไม่มีทางรักคุณได้หรอก   ผมรักเคียวยะ คุณได้ยินมั้ยว่าผมรักเคียวยะ!!” ดีโน่ตะโกนแล้วเดินหนีแต่ติดที่เอลลาดึงแขนเค้าไว้ซะก่อน

                “แล้วคุณจะได้รู้ว่าชั้นทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อที่จะแย่งคุณมาให้ได้” เอลลาบีบแขนดีโน่แน่นเพื่อขู่แต่ชายหนุ่มกลับไม่สะทกสะท้าน

                “คุณรักผมหรือเปล่า   หรือคุณเพียงแค่ต้องการอำนาจต้องการเพียงเพื่อจะอวดคนอื่นเท่านั้น” ที่ดีโน่พูดออกมาแบบนั้นเพราะเค้าเป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายคน   หากใครได้เข้าใกล้เค้าหรือได้เป็นคู่ควงของเค้าจะถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ

                “ชั้นรักคุณนะดีโน่”

                “รักเพราอะไรล่ะ   หน้าตาผมเหรอ เงินผมเหรอ อำนาจผมเหรอ!?!

                “...ชั้นรักทุกอย่างที่เป็นคุณ”

                “ถ้าคุณรักผมก็ปล่อยผมไป   ถ้าคุณรักผมคุณก็ไม่ควรกักขังผมนะเอลลา” ดีโน่เขย่าตัวเอลลาด้วยความโกรธ

                “ความรักของชั้นคือการครอบครอง   จำไว้นะดีโน่” เอลลาพูดแล้วก็เดินออกไป

                “ทำไมกัน!?! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย!?!” ดีโน่หัวเสีย

          

                “เรื่องนี้แกต้องจัดการด้วยตัวแกเองนะ ดีโน่” รีบอร์นมองดีโน่จากมุมสูงของคฤหาสน์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×