คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Fic Reborn:D18:Love me! Part12
ฮิบาริเดินเข้ามาในคฤหาสน์คาบัคโรเน่แล้วรีบเก็บของเตรียมกลับทันทีแต่ติดที่รีบอร์นมาบอกข่าวร้ายสำหรับเค้าซะก่อน
“สนามบินถูกระเบิดเสียหายไปพอสมควร ตอนนี้เราจึงกลับไม่ได้”
“อย่ามาหลอกชั้น เจ้าหนู” ฮิบาริไม่ยอมเชื่อ
“งั้นก็ดูนี่สิ” รีบอร์นพูดแล้วก็เปิดทีวีให้ดูซึ่งกำลังรายงานข่าวเกี่ยวสนามบินโดนระเบิดอยู่พอดี
“งั้นพาชั้นไปที่อยู่ของวองโกเล่ ชั้นเป็นแฟมิลี่ไม่ใช่เหรอ?” ฮิบาริพูด
“แกจะหนีงั้นเหรอ ฮิบาริ?” รีบอร์นพูดออกมาทำเอาฮิบาริหน้าตึงขึ้นมาทันที
“ชั้นไม่ได้หนี ชั้นเคลียร์แล้ว” ฮิบาริบอก ไม่กล้าสบตากับรีบอร์นเพราะสิ่งที่เค้าทำอยู่มันคือการหนีชัดๆ
“แววตาของคนน่ะมันปิดไม่มิดหรอกนะ แกเป็นคนกล้าไม่ใช่เหรอ ไม่ว่าจะเป็นศึกรูปแบบไหนแกก็ไม่หวั่นที่จะสู้แต่ทำไมศึกแบบนี้แกถึงหนี ศึกไหนๆ แกหนีได้แต่แกไม่หนีแต่ศึกนี้แกกลับหนีทั้งๆ ที่หนีไม่ได้ งั้นก็รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์สิ” รีบอร์นพูดแล้วก็เดินจากไปปล่อยให้ฮิบาริยืนคิดทบทวนอยู่คนเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น
ร่างบางของคุณชายเย็นชานั่งไขว่ห้างอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาห้องรับแขกสร้างความปะหลาดใจให้หลายๆ คนเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
“ตื่นแต่เช้าเลยนะฮิบาริ” ยามาโมโตะถือกาแฟมานั่งลงข้างๆ ฮิบาริ
“อืม แล้วเจ้าระเบิดนั่นไม่ได้อยู่ด้วยรึไง” ฮิบารถามทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปจากหนัง
“กลับไปที่คฤหาสน์ของเค้าก็พี่สาวน่ะ ไม่ยอมให้ชั้นไปด้วยเลย” ยามาโมโตะหัวเราะแห้งๆ
“อืม” ฮิบาริพยักหน้า
“อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน” มุคุโร่เดินออกมาพร้อมสึนะแล้วมานั่งแปะลงตรงข้ามกับฮิบาริส่วนสึนะก็นั่งข้างๆ มุคุโร่
“คุณฮิบาริอ่านหนังสืออะไรน่ะครับ?” สึนะถาม แม้จะกลัวอยู่บ้างแต่ก็อยากจะชวนคุยเพื่อปลอบใจฮิบาริ
“วิธีการฆ่าปิดปากคนอย่างไร้ร่องรอย” ฮิบาริตอบ เล่นเอาสึนะกลืนน้ำลายเอื๊อก พลางคิดไปว่า หนังสือแบบนั้นมันมีด้วยเหรอ?
“แหม...ยังน่ากลัวเหมือนเดิมเลยนะ” ยามาโมโตะหัวเราะเล็กน้อย
“งางางางาไง คุณแรมโบ้มาแว้วววว” ท่ามกลางความเงียบที่ห้อมล้อมไปด้วยบรรยากาศมาคุๆ เสียงเจ้าวัวตัวดีก็ดังขึ้นลั่นบริเวณห้องรับแขก
“หุบปากไปเลยไอ้วัวตัวดี” พอรีบอร์นพูดจบก็มีเสียงพลั่กตามมาและตามมาด้วยเสียงร้องไห้กระจองอแงเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบๆ ตัวฮิบาริได้ยกเว้นเจ้าตัวเอง
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน ตื่นแต่เช้าเลยนะ” ดีโน่เดินลงมาทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนเพราะเมื่อคืนเค้าแทบไม่ได้นอนเพราะคิดมากเรื่องฮิบาริและตอนนี้เค้าก็ยังไม่เห็นหน้าฮิบาริเลย
“หน้าคุณดีโน่ไปโดนอะไรมาครับ” สึนะถามเมื่อเห็นใบหน้าเยินๆ ของดีโน่
“ชั้นซุ่มซ่ามน่ะ แหะๆ อะ...เคียวยะ...” ดีโน่ที่เพิ่งเห็นฮิบาริเบิกตากว้าง
“...” ไร้เสียงตอบรับจากคนที่ชื่อว่าฮิบาริ เคียวยะ ทุกๆ คนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็ค่อยๆ หลบฉากไปเงียบๆ
“เคียวยะ นายยอมอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? ดีใจจัง” ดีโน่เผยรอยยิ้มออกมาแม้รอยยิ้มนั้นมันจะเศร้ามากเพียงใดก็ตาม
“ชั้นไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะหนีความจริง ชั้นไม่แคร์หรอกนะ” ฮิบาริพูดพลางอ่านหนังสือไป
“แต่ชั้นแคร์ ให้ชั้นได้อธิบายได้มั้ย?”
“คำอธิบายนั่นมันจะยิ่งทำให้ชั้นเจ็บใจ เพราะงั้นอย่าได้มาอธิบายเลย เพราะชั้นรู้ตัวว่าชั้นอยู่ในฐานะอะไร” ฮิบาริพูดเสียงเย็น
“แต่เคียวยะ...”
“ทั้งหมดที่ผ่านมามันคือความฝันอันยาวนาน แต่ตอนนี้ชั้นตื่นแล้วเพราะฉะนั้นอย่ามารื้อฟื้นเลยอาจารย์” ฮิบาริเน้นคำว่าอาจารย์ทำให้ดีโน่หน้าเสีย
“เคียวยะชั้น...”
“ดีโน่~”
“บาย ไม่อยากเป็นก้าง” ฮิบาริวางหนังสือลงแล้วเดินจากไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา
“เอลลา ผมขอร้อง...อย่ายุ่งกับผมเลย” ดีโน่ดึงแขนของเอลลาที่เกาะเกี่ยวกับแขนเค้าออก
“ดีโน่ ชั้นเคยบอกคุณแล้วนะว่าถ้าคุณไม่ตกลงหมั้นกับชั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น” เอลลาถลึงตาใส่ดีโน่
“ผมไม่ได้กลัวพ่อคุณเลยนะ คุณคิดว่าผมเป็นใคร” ดีโน่ขมวดคิ้วมองเอลลาอย่างไม่ชอบใจ
“แล้วเด็กญี่ปุ่นคนนั้นล่ะ คุณจะไม่สนใจเค้าเลยเหรอ?” เอลลาแสยะยิ้ม
“เพราะฉะนั้นผมถึงหมั้นกับคุณไม่ได้ไง แล้วคุณก็คงไม่กล้าทำอะไรเค้าหรอกเพราะเค้าเป็นผู้ถือแหวนเมฆาของวองโกเล่” ดีโน่พูด
“ชั้นก็ไม่ได้ว่าจะทำอะไรเค้านะคะ แต่ตอนนี้เค้าเข้าใจว่าคุณกับชั้นเป็นอะไรกันแล้วนี่ เพราะฉะนั้นการที่จะกำจัดเค้าให้พ้นทางมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก” เอลลายักไหล่
“ยังไงผมก็ไม่มีทางรักคุณได้หรอก ผมรักเคียวยะ คุณได้ยินมั้ยว่าผมรักเคียวยะ!!” ดีโน่ตะโกนแล้วเดินหนีแต่ติดที่เอลลาดึงแขนเค้าไว้ซะก่อน
“แล้วคุณจะได้รู้ว่าชั้นทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อที่จะแย่งคุณมาให้ได้” เอลลาบีบแขนดีโน่แน่นเพื่อขู่แต่ชายหนุ่มกลับไม่สะทกสะท้าน
“คุณรักผมหรือเปล่า หรือคุณเพียงแค่ต้องการอำนาจต้องการเพียงเพื่อจะอวดคนอื่นเท่านั้น” ที่ดีโน่พูดออกมาแบบนั้นเพราะเค้าเป็นที่หมายปองของสาวๆ หลายคน หากใครได้เข้าใกล้เค้าหรือได้เป็นคู่ควงของเค้าจะถือว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากๆ
“ชั้นรักคุณนะดีโน่”
“รักเพราอะไรล่ะ หน้าตาผมเหรอ เงินผมเหรอ อำนาจผมเหรอ!?!”
“...ชั้นรักทุกอย่างที่เป็นคุณ”
“ถ้าคุณรักผมก็ปล่อยผมไป ถ้าคุณรักผมคุณก็ไม่ควรกักขังผมนะเอลลา” ดีโน่เขย่าตัวเอลลาด้วยความโกรธ
“ความรักของชั้นคือการครอบครอง จำไว้นะดีโน่” เอลลาพูดแล้วก็เดินออกไป
“ทำไมกัน!?! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย!?!” ดีโน่หัวเสีย
“เรื่องนี้แกต้องจัดการด้วยตัวแกเองนะ ดีโน่” รีบอร์นมองดีโน่จากมุมสูงของคฤหาสน์
ความคิดเห็น