ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรมานซ์:ตำนานเทพฯฉบับประยุกต์

    ลำดับตอนที่ #2 : ปฐมบทช่วงกลาง : ผู้ที่มาพร้อมกับพายุหิมะสีเลือด

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 49



     ปฐมบทช่วงกลาง

                    : ผู้ที่มาพร้อมกับพายุหิมะสีเลือด

             พายุหิมะยังคงโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ความมืดของค่ำคืนบวกกับหิมะที่ตกลงมานั้นทำให้ทัศนวิสัยไม่ดีนักที่จะเดินทาง และความหนาวเย็นที่มันหอบมาด้วยนั้นผู้เคยสัมผัสยากที่จะลืมเลือน และพร้อมที่จะหลีกลี้หนีมันเพื่อเข้าหาไออุ่นทันที แต่....พายุนั่นไม่ได้หอบเอาหิมะหรือความหนาวมาแต่เพียงแค่นั้น มันกลับหอบเอากลิ่นคาวคลุ้งมาพร้อมกับมันด้วย.... กลิ่นคาวของ เลือด.....

                ท่ามกลางความมืดในคืนที่พายุหิมะพัดผ่าน บนทุ่งหิมะที่กว้างไกลมีเพียงต้นไม้ใหญ่สอง-สามต้นและ แสงไฟดวงน้อยจากตะเกียงเดินทางส่องนำทางแก่นักเดินทางที่ผจญกับพายุหิมะที่บ้าคลั่ง พวกเขา สองคนใช้แสงไฟนั้นส่องเดินบนหิมะและฝ่าสายลมอย่างระมัดระวัง

     " บรื๋อ~ หนาว~ " ชายหนึ่งในสองคนนั้นพูดขึ้น " ทำไม ฉันต้องมาเดินฝ่าพายุเป็นเพื่อนแกด้วย ฟ่ะ " เขาใช้มือสองข้างสอดเข้ามาข้างใต้เสื้อคลุมขนสัตว์ถูกันเพื่อทำให้อุ่นขึ้น

     " แล้วใครใช้ให้แกตามมาล่ะ... " ชายอีกคนถามขณะเดินแบกสัมภาระที่อยู่บนหลัง

     " เออๆ ข้าผิดที่ตามมา " ชายคนแรกตอบกลับ " แต่ทำไม เจ้าต้องฝ่าพายุไปในคืนนี้ละ ข้าไม่เข้าใจจริงๆ "

     " ก็...ข้าอยากเซอร์ไพรส์ลูกข้านี่หว่า" ชายคนที่สองพูดอย่างมีความสุข " งานที่เมืองอุตส่าห์เสร็จเร็วแล้ว... ข้าจะได้กลับมาทันฉลองงานเทศกาลไคสมิสต์กะลูกข้าซักหน่อย... "

     " โถ่เอ๊ย เจ้าคนหลงลูก...อย่างน้อยรอให้พายุมันสงบก่อนไม่ได้รึไง "

     " เอาน่าไหนๆ ก็เดินกันมาแล้ว... นู้นไง!ทางเข้าหมู่บ้าน " เขาชี้ไปที่เสาต้นยักษ์สองต้นที่ทำเป็นซุ้มมีแผ่นไม้ห้อยลงมาเขียนเป็นชื่อหมู่บ้าน " ถึงซะที.....เฮ้อ~ หนาวนะเนี่ย ไปร้านตาลุงฟริกกันก่อนไหม... " เขากล่าวชักชวนชายคนแรก

     " ก็ดีนะ แต่.... ไปให้ถึงหมู่บ้านก่อนเซ่!! "

                   พวกเขาเดินผ่านซุ้มนั่นเข้ามา ผ่านบ้านหลังแรก หลังที่สอง หลังที่สาม แสงไฟจากบ้านเหล่านั้นส่องออกมายังภายนอก แต่ทว่า...กลับไม่มีเสียงของผู้คนเล็ดรอดออกมาเลย มีเพียงเสียงลมพายุที่พัดหวีดหวิว

     " ทำไมเงียบกันจัง...? " ชายคนแรกเอ่ย " อุ๊บส์!!.. " เสียงร้องของเขา ที่เดินชนเข้ากับถุงผ้าสะพายหลังของชายคนที่สอง " นี่!... จะหยุดเดินก็บอกกันมั่งเซ่!.....เอ๋...? มีอะไรน่ะ? "

                  ชายทั้งสองต่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น พื้นที่น่าจะมีหิมะสีขาวทับถมกลับเป็นหิมะที่ถูกย้อมด้วยเลือดเป็นสีแดงฉาน และกลาดเกลื่อนไปด้วยศพคนตาย บ้านเรือนถูกย้อมสีใหม่เป็นสีเดียวกับบนพื้น บนต้นไม้กิ่งไม้ที่ปราศจากใบถูกแทนที่ด้วยร่างมนุษย์เสียบห้อยไว้กับกิ่งอย่างน่าสยดสยอง ราวกับได้มาเหยียบย่ำถึงนรกก็มิปาน

     " นี่....มันเกิดอะไรกันขึ้น...?! " เขาคนหนึ่งถามอย่างตกใจกับภาพเบื้องหน้า " เกิดอะไรขึ้นกันแน่!! "

     " ตะ...ตาย...หมดเลยหรอ...? " ชายอีกคนพูด " มะ...ไม่จริงใช่มั้ย...? "

                     พวกเขายังคงยืนสลดกับเหตุการณ์ที่พบโดยไม่รู้เลยตนเองจะมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรกับศพพวกนั้น เงาที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงาเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อได้ยินเสียงของพวกเขา ทั้งสองยังคงไม่รู้ตัว จนกระทั่งพวกเขา......

     " อ๊ากกส์.... "

                           ..........สิ้นลมหายใจ.........

                 ภายในป่าแห่งหนึ่ง.....บนกิ่งไม้ใหญ่ของต้นไม้ต้นหนึ่ง บุคคลปริศนาสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูคลุมตั้งแต่ศีรษะลงมา ถือคันธนูสีขาวส่องแสงสว่างอยู่ใต้สายลมและหิมะ ลวดลายบนคันธนูเป็นรูปปีกนก ที่แผ่สยายออก มันเหมือนกันทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ราวกับนำปีกนกสองปีกมาต่อกัน เส้นเอ็น ที่ขึงไว้ถูกดึงออก สีของมันเป็นสีเงินใสราวกับแก้วหมองๆ ลูกธนูที่นำขึ้นมาเล็งไปที่เป้าหมายนั้น เปล่งประกายเป็นแสงสีขาว มันถูกเล็งไปที่หน้าต่างของบ้านหลังน้อยหลังหนึ่งที่อยู่ชายป่าไกลออกไป คนผู้นั้นง้าวคันธนูแล้ว.....

     " ฟิ้ว~ "

                ปล่อยลูกธนูออกไป ลูกธนูนั้นเปล่งแสงเป็นประกายสีขาว ผ่านป่า ผ่านพายุหิมะ มันพุ่งไปอย่างแรงและเร็ว รอดผ่านหน้าต่างบานนั้น เข้าไปในห้องเฉียดเสื้อคลุมของใครบางคน และ....

     " ฉึก " มันพุ่งไปหยุดอยู่ที่......บนร่างกายสีดำทมิฬ....

     " เหวอ...เหวอ...เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ " เสียงของคนผู้หนึ่ง เขายืนอยู่บนเตียงอันแสนอ่อนนุ่มโดยมีร่างอันไร้วิญญาณอยู่ข้างเท้าเขา

     " ไม่รู้ยัยนี่ไปเก่งมาจากไหนแฮะ ยิงได้แม่นขนาดนี่.....ฮึ่ย~เสียววุ้ย " เขาก้าวลงจากเตียงพร้อมกับปัดเศษหิมะที่อยู่บนเสื้อคลุมออก " เอ๊ะ!...รึว่า...ยัยนี่จงใจหว่า.....น่ากลัวแฮะ "

     " จงใจอยู่แล้วล่ะ~ เฮะ เฮะ เฮะ " เสียงแหลมๆเล็กของผู้หญิงดังขึ้น

     " ยังจะมาหัวเราะใส่ข้าอีกนะ ออร่า ...ฝากไว้ก่อนเถอะ " เสียงของคนๆแรกที่พูดขึ้น

     " แหม~ ท่าน เซีย นี่เก่งจริงๆเลยนะครับ ท่าน นาฟ ถึงจะใช้ ทาบาทอส ก็เถอะแต่เจ้านั่นให้ได้แต่พลังนั้นเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องความแม่นยำ คนใช้เท่านั้นที่เป็นคนกำหนด " เสียงผู้ชายของชายอีกคนดังขึ้นแทรก

     " นั่นสินะ แต่...ข้าว่าตอนนี้เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะ ท่าทางท่านเจ้าของบ้านเริ่มไม่พอใจ พวกเราในฐานะแขกไม่ได้รับเชิญซะแล้วสิ " คนสวมเสื้อคลุมมองไปที่เจ้าของร่างสีทมิฬนั่น

     " ขอบใจ...ที่นึกถึงข้า... แล้วพวกท่านเป็นใครกัน? " เจ้าของร่างนั่นถามไปพลางดึงลูกธนูทิ้งออกไปพลางราวกับไปรู้สึกรู้สากับความเจ็บอะไรนั่นเลย

     " เอ่อ...พวกเราเป็น....เป็น... " คนสวมเสื้อคลุมพูดกระอึกกระอัก " เป็นพนักงานส่งของครับ คือ...เรามารับของไปส่งตามใบสั่งนะครับ♥ "

     " เฮ้ๆ เล่นงี้เลยหรอนาฟ โกหกทั้งทีให้เนียนๆ หน่อยสิ ตัว~♫ " เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้น

     " เงียบไปเลย! ออร่า! " นาฟ ชายเสื้อคลุมกระซิบตอบ

     " หึ...พนักงานส่งของงั้นเรอะอย่ามาโกหกกันดีกว่า เจ้าได้เห็นร่างกายข้าแล้ว ไม่กลัว... ไม่ตกใจ...เลยเรอะ!?... แสดงว่าเจ้าต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ แล้วพวกของเจ้าอีกละ?! ออกมา! " เจ้าปีศาจนั่นกางเล็บที่ยาวและแหลมคมออก " ไม่ดีกว่าไว้ฆ่าเจ้าแล้วค่อยตามหา แล้วฆ่าที่หลังก็ไม่สาย "

     " เฮ้อ~ ว่าแล้ว โกหกไม่เนียนจริงๆด้วย แล้วเป็นไง... " ออร่ากระซิบใส่นาฟอีกครั้ง 

        ...........เจ้าปีศาจนั่นกางเล็บมือทั้งสองข้างออกแล้วพุ่งเข้ามาหานาฟ

     " แล้วเป็นไงนะหรอ?...มันก็พุ่งเข้ามาเจี๋ยนฉันแล้วนะเซ่~ " นาฟตะโกนพร้อมกับกระโดดหลบมาอยู่ข้างๆเด็กผู้หญิงที่นั่งร้องไห้อยู่ " เหวอ~ ออกมาเร็วว วิสส! " ทันใดนั้นในมือเขามีแสงสีน้ำเงินเข้มเจิดจ้าขึ้น

     " อ๊าว~ ละ♥ " คราวนี้นาฟกลับกระโดดเข้าไปหาเจ้าปีศาจตนนั้นแทนที่จะหนี

     " มนต์มายาแห่งสายลม~ สายลมตรึงกายา!! " นาฟใช้มือขวาแตะไปยังหน้าอกเจ้าปีศาจนั่นส่วนมือซ้ายของเขากำแท่งไม้ยาวๆสีน้ำเงินไว้แน่น แล้วออกแรงผลักออกไป

                สายลมพัดกรรโชกแรกมากขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น สายลมจากทุกสารทิศ พัดมาเข้ามาพันธนาการเจ้าปีศาจนั่นไว้ ตรึงติดไว้กับพนังห้องอีกด้านหนึ่ง สายลมนั่นรุนแรงจนพัดเปิดฮู๊ดผ้าที่คลุมหัวของนาฟออก ชายใบหน้าอ่อนเยาว์ นัยน์ตาสีฟ้าจางๆ ผมสีดำรุงรัง เสื้อคลุมของเขาก็โบกสะบัดด้วยเช่นกันเผยให้เห็นชุดข้างใน เป็นสีดำทั้งชุดไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง แม้แต่รองเท้าบู๊ต เขาเดินออกห่างจากที่ตรึงอาคมเจ้าปีศาจ ไปหาเด็กน้อยคนนั้น

     " นี่ไม่ต้องกลัวฉันหรอกน่า ฉันเป็นคนเหมือนกับเธอน๊า~♫ " เขาพูดเมื่อเห็นเด็กคนนั้นกลัวจนตัวสั่นเมื่อเขาเดินเข้าไปหา

     " ลองจับดูสิ " เขายื่นมือไปให้เธอ " เป็นไง...? เห็นมั้ยตัวอุ่นๆเหมือนเธอเปี๊ยบเลย " เขาพูดแล้วยิ้มขณะที่มือของเด็กน้อยแตะที่มือของเขา

     " มากับฉันมั้ย?... " เขาถามเธอ

     " ......... " เด็กหญิงไม่ตอบได้แต่เพียงพยักหน้าเท่านั้น

     " อ๊าว~ ล่ะ เราไปกันเถอะ " นาฟขยับตัวจะเข้าไปอุ้มเด็กคนนั้น แต่เธอกลับถอยออกห่างไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมันเปือนรอยหยดเลือดเล็กๆ

     " เอ่อ...จะเอาไปด้วยหรอ? " นาฟถาม เธอพยักหน้ารับ " งั้นเราไปกันละนะทีนี้ " นาฟอุ้มเด็กน้อยคนนั้นขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่างบานที่แตกออก

     " หวังว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันนะคร้าบ~ บ๊าย บาย" เขาหันมาพูดกับเจ้าปีศาจตนนั้นก่อนที่จะ....

     " แว้กกก!! " ลูกธนูติดไฟพุ่งเข้ามา เฉี่ยวหน้านาฟเข้าไปในห้อง " ยัยเซียอย่าเพิ่งยิง มาเซ่! " เขาตะโกน

     " เหวอ! เหวอ! " ลูกธนูติดไฟอีกหลายสิบดอกพุ่งเข้ามาอีกระลอก " งั้นไปละนะคร้าบบ~♫ " เขากระโดดออกจากหน้าต่างออกไปภายนอก สู่พายุหิมะที่พัดโหมกระหน่ำ

                  เพลิงจากลูกธนูเริ่มลุกแผดเผาห้องนั้น และลามไปยัง... หลังคา... ชั้นล่าง...ในไม่ช้าบ้านทั่วทั้งหลังเต็มไปด้วยเปลวไฟ ฉายแสงเจิดจรัสเป็นสีส้มท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด ภายใต้พายุหิมะที่โหมกระหน่ำ แต่ทว่า....ที่หน้าต่างบานเดิมนั้นกลับ...มีร่างของเจ้าปีศาจนั่นยืนอยู่ มันมองไปยังเบื้องล่างลานหิมะที่ขาวโผลน.... ป่าทีมืดทึบ.... มันทำหน้าเหมือนเคร่งคิดอะไรบางอย่าง แล้วมันก็หายไปในกองเพลิง.... 

     ★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.★.•.

                   ภายในป่าไกลออกไป มีคนอยู่สามคนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมู คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวมีลวดลายปักด้วยด้ายสีทองอยู่ตรงชายเสื้อคลุม และกลางหลัง และอีกคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีม่วง พวกเขายืนอยู่ข้างรถม้าสีขาวที่มีลวดลายสีเดียวกับบนเสื้อคลุมของคนๆนั้น เป็นรูปหัวใจที่มีปีกของนางฟ้า รถม้านั้นเทียมด้วยม้าสีขาวเพียงตัวเดียว...พวกเขากำลังยืนรอคอยอะไรบางอย่าง และดูเหมือนว่าสิ่งที่พวกเขาคอยกำลังเดินมาหาพวกเขา.....

     " กลับมาแล้วรึ คะ... นายท่าน " หญิงในชุดคลุมสีม่วงพูดขึ้น

     " ไง... ยังอุตส่ารอด กลับมาอีกนะ " เสียงของคนชุดขาวพูดขึ้น " แล้วนั่น!?... อะไรนะ? "

     " ทรงเป็นห่วงข้าด้วยรึ?!... เจ้าหญิง เอรีส " ชายที่เดินเข้ามาหาพูดขึ้น " เอ่อ...แล้วนี่...เซีย... " เขากวักมือเรียก หญิงในชุดเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมูเข้ามาใกล้ๆ

     " .............๐ "

     " โป๊กก! "

     " โอ๊ย!.... เจ็บบบ...! " เธอเปิดผ้าคลุมศีรษะออกเอามือลูบหัวที่ปูดเพราะโดนเขาเขกเข้าให้

     " แล้วใครใช้ให้เธอยิงมาอย่างนั้นเล่า.... " เขายังเขกหัวเธอต่อไป " ป๊อก! ป๊อก! ป๊อก!~ "

     " อ๋อย....หนูขอโต๊ด ค่า...แง้~... " เธอใช้มือปัดป้องศีรษะของเธอ ผมสีทองถักเปียยาว นัยน์ตาสีทองอำพันมีน้ำเอ่อล้นออกมานิดๆ " ท่านพี่... หนูเจ๊บน๊า~ "

     " เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ... ท่านนาฟ... " จู่ๆก็มีชายสวมชุดคลุมสีน้ำเงินยาวปรากฏตัวขึ้น

     " นั้นสิ... ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเล่นกันนะครับ " นกอินทรีสีขาวปลอดมันพูดพร้อมกับโผบินลงมาเกาะที่ไหล่ของเซีย

     " แล้วจะบอกได้ยัง... " เอรีสชี้ไปยังสิ่งที่อยู่ในผ้าคลุมของนาฟ " ...ว่านั่นอะไรอะ?... "

     " อ๋อ!... อือ... " เขาเปิดผ้าคลุม เด็กหญิงที่มาด้วยยืนจับขาเขาไว้อยู่ " เอ๊ะ!?? " เธอวิ่งไปหลบอยู่หลังนาฟทันทีเมื่อเห็นคนอื่นๆ

     " ฮะ ฮะ ฮะ ท่าทางจะอาย แฮะ " นาฟลูบหัวเด็กหญิง " เซีย... เอ่อ...พาเธอไปเปลี่ยนชุดทีสิ... "

     " ........๐ คะ " เซียพยักหน้ารับ

     " ไปกับพี่สาวเค้าน๊า~... ตกลงนะ♥ " นาฟหันไปพูดกับเด็กหญิง " นี่!... อุ้มไปเลยละกัน... กลางพายุหิมะแบบนี้คงจะทำให้เธออุ่นขึ้นได้บ้าง " เขาอุ้มเธอขึ้นส่งไปให้กับเซีย

     " เอ๊ะ!? นั่นมัน... เลือด! นี่!! " เอรีสสังเกตเห็นชุดนอนของเด็กน้อยมีรอยคราบเลือดติดอยู่

     " อืม... เมื่อกี๊มีเรื่องกันนิดหน่อยอะ... ฮะ ฮะ ฮะ "

     " มีเลือดเลอะเป็นคราบขนาดนั้น ยังจะมาบอกว่านิดหน่อย รึ เจ้าบ้า!!! " เอรีสตะคอกใส่หน้านาฟ

     " โอ๊ย... เสียงดังไปแล้วน๊า~ " เขาเอามือปิดหู " อะ... ชู่ว~ " นาฟเอามือปิดปากเธอไว้ เขามองไปรอบๆ และหยุดมองรถม้าที่เซียพาเด็กไปเปลี่ยนชุด

     " ระ... เรื่องอะไรกัน? " เธอพูดเบาๆ

     " เรื่องเมื่อกี๊นี่ นั่นแหละ....! รอยคราบเลือดไง....! " หญิงสาวผมสีแดงเพลิงปรากฏตัวในชุดเสื้อคลุมสีแดงสด

     " ออร่า!! "

     " เจ้าพวกนั้นคงจะเป็น.... เดมอน แน่ๆ ละมั้ง?... " เธอพูดกับทุกคน

     " ไม่หรอก นั่นไม่ใช่เดมอน แต่เป็นเผ่าพันธุ์ ที่แตกแยกออกมา... ต่างหาก " ชายชุดสีน้ำเงินพูด

     " เป็น เดวิล หรือ อีวิล กันนะ??? "

     " อ้าวนี่!?... นี่นายยังอยู่หรอ ทาบาทอส... " ชายชุดสีน้ำเงินพูดกับนกอินทรีที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้เหนือหัวพวกเขา " ไม่ได้ไปกับท่านเซีย หรอกเรอะ "

     " อือ... ข้าอยากถามเรื่องศัตรูให้แน่ๆก่อนนะ วิส " เจ้านกมันพูดตอบกลับ

     " เดมอน?... เดวิล??... อีวิล???... ศัตรู???? ...โอ๊ย!... นี่มันอะไรกันนี่ ฉันงงไปหมดแล้วน๊า~ "

     " อ้าวนี่!?... เจ้าหญิงทรงไม่รู้เลยหรอ.... " นาฟหันไปพูดกับเอรีส " ว่า... ตั้งแต่พวกเราเข้ามาที่นี่... กลิ่นคาวเลือดมันคลุ้งไปทั่วแล้ว..... " เขาพูดจบ เขาก็มองไปทางด้านหลังของเอรีส

     " ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮา เก่งเหมือนกันนี่!! ผู้ครอบครองกุญแจแห่งสวนเอ็นเดรีย... " เสียงจากทางในป่าทึบดังขึ้น เงาเจ้าของเสียงเดินเข้ามาหาพวกเขาใกล้ๆ มันเริ่มชัดขึ้น ชัดขึ้น และชัดขึ้น....

           ร่างที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขา มันทำให้นาฟแทบไม่เชื่อในสายตาตนเอง ร่างสีดำทมิฬนั่นมันน่าจะมอดไหม้ไปพร้อมกลับ มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา

     " ทำไม...!? แก... "

     " กระผมแค่มารับของๆผมคืน... เท่านั้นละครับ "

     " หมายความว่ายังไง...? " นาฟถามกลับ

     " เอ๋...? หมายความ...? " มันแกล้งทำหน้างุนงง " ความหมายไหนล่ะครับ...? เรื่องของ...ของที่คุณเอามาจากผม หรือว่าเรื่องของ..... กุญแจ "

     " ทั้งสองอย่าง...! "

     " ของที่คุณเอามาก็.... เด็กคนนั้นไงครับ " มันชี้ไปที่ๆรถม้าเคยอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแต่เพียงซากที่พังทลาย กับม้าที่หายไป " คงต้องขอคืนนะ ครับ.... เอ่อ...ผู้หญิงที่อยู่ด้วยคงต้องขอเป็นดอกเบี้ยละกัน... "

     " แก!... เจ้าปีศาจ!!... แกทำอะไรกับเซียน่ะ หา!!! " เอรีสชี้หน้ามันพร้อมกับพูดด้วยความโกรธ

     " อืม.....๐ คงจา...จับกินละมั้ง?... ครับ... " มันแกล้งยั่วโมโห " แต่... ถ้าอยากได้เธอคืน... คงต้องเอา กุญแจ มาแลกล่ะ ครับ "

     " แล้วเรื่องของกุญแจละ ทำไม?... แกถึงรู้...? " นาฟที่ยืนนิ่งเฉย เอ่ยถาม

     " เรื่องนี้กระผมว่า... ไปถามเจ้านายจะดีกว่านะขอรับ " มันตอบแบบขอไปที

     " เจ้านายแก...?! "

     " ครับ.... เอ๊ะ!!... หมดเวลาสิ... ไว้เจอกันในหมู่บ้านนะขอรับ... "

                 เจ้าปีศาจนั่นมันพูดทิ้งท้ายไว้แล้วร่างมันก็สลายหายไปกลายเป็นหมอกควันที่ล่องลอยไปตามพายุหิมะ หมอกสีแดงย้อมหิมะที่อยู่ใกล้เป็นสีแดงดั่งเลือดคน ท่ามกลางความงุนงงของใครหลายๆคน

               ......ประโยคสุดท้ายที่มันทิ้งไว้......

     " จันทราเอ๋ย.... จันทรา พวกเรามิได้ผิด.... พวกมนุษย์นั่นแหละผิด....! "

    .•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•

    .•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•

            สายหมอกดั่งโลหิตแดงฉาน.... พัดคลุ้งทั่วคณา.... จันทรามิอาจแย้มแสง..... ใครกันเล่าคือคนผิด....?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×