ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Night of the Dragon.

    ลำดับตอนที่ #2 : เมืองแห่งไกดุล

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 49


    "ฟิ้ว…………….." เสียงสายลมที่พัดผ่าน ทุ้งหญ้าเขียวขจี ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาๆชนิด ต่างพากันชูช่อแข่งความสวยงามกันอย่างไม่สะทกสะท้านต่อแสงอาทิตย์ที่แพดแสงแรงกล้า ในยามกลางวัน

    "รอปู่ด้วย " เสียงของชายชรา หนวดเครารุงรังแต่ดูเป็นระเบียบสะอาดสะอ้าน แต่งตัวด้วยเสื้อเก่าๆคลุมด้วยชุดคลุมขนาดใหญ่ กำลังเดินตาม หญิงรุ่นราวคราวหลานที่แต่งตัวคล้ายๆกันแต่ดูสะอาดกว่า

    "ท่านปู่นั่นแหละ ช้าเอง รีบๆเดินดีกว่า" ว่าแล้วสาวเจ้าก็ใส่เกียร์ห้าเดินหน้าเต็มที่

    "ใจร้อนจิง พาเข้าเมืองทีไรเป็นอย่างนี้ทุกที" ชายชราบ่นพึมพำกับตัว พร้อมทั้งขยับสัมภาระของตนเอง ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าตามหญิงสาวนางนั้นต่อไปอย่างไม่ลดละ

    "เย้ๆ ถึงแล้วท่านปู่เร็วๆสิจ็ะ" หญิงสาวน่าตาสวยสะอาด วิ่งกลับมาประคอง ชายชราที่กำลังเดินงกๆเงินตามหลังเธอมา

    "กระโตกกระตากไปได้ ทำยังกะไม่เคยมา(เดี๋ยวเขารู้ว่าบ้านนอกหรอก)" ชายชราตอบ

    "ท่านปู่ก็ นานๆจะได้มาสักที ให้ดีใจหน่อยก็ไม่ได้ (-*-)"

    ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงหน้าเมือง ประตูเมืองขนาดใหญ่ และกำแพงที่สูงชันถึงกระนั้นก็ไม่สามารถบดบังภาพตึกสูงใหญ่ที่ตั้งตระง่านอวดโฉมมากมาย มีนายทหาร สองคนเผ้าประตูซึ่งเป็นเรื่องปรกติของเมืองนี้อยู่แล้ว

    "ถึงซะที ไกดุลซิตี้" ชายชราพูดกับหญิงสาวที่ประคองตนเอง เดินผ่านประตูเมืองอย่างช้าๆ มีผู้คนมากมายเดินกันควักไขว้ ค้าขายกันบ้าง ต่างๆนาๆ

    "ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลยน่ะ ท่านปู่" หญิงสาวพูด

    "ก็แน่ละ ขืนเปลี่ยนแปลงคงได้ทุบตึกสักแถบล่ะมั่ง" ชายชราพูดแกมหยอก

    "ท่านปู่!!!!!!" หญิงสาวตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดนิดๆ พร้อมทำแก้มป่องใส่ชายชรา

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "กระโตกกระตากไปได้ ทำยังกะไม่เคยมา(เดี๋ยวเขารู้ว่าบ้านนอกหรอก)" ชายชราตอบ

    "ท่านปู่ก็ นานๆจะได้มาสักที ให้ดีใจหน่อยก็ไม่ได้ (-*-)"

    ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงหน้าเมือง ประตูเมืองขนาดใหญ่ และกำแพงที่สูงชันถึงกระนั้นก็ไม่สามารถบดบังภาพตึกสูงใหญ่ที่ตั้งตระง่านอวดโฉมมากมาย มีนายทหาร สองคนเผ้าประตูซึ่งเป็นเรื่องปรกติของเมืองนี้อยู่แล้ว

    "ถึงซะที ไกดุลซิตี้" ชายชราพูดกับหญิงสาวที่ประคองตนเอง เดินผ่านประตูเมืองอย่างช้าๆ มีผู้คนมากมายเดินกันควักไขว้ ค้าขายกันบ้าง ต่างๆนาๆ

    "ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลยน่ะ ท่านปู่" หญิงสาวพูด

    "ก็แน่ละ ขืนเปลี่ยนแปลงคงได้ทุบตึกสักแถบล่ะมั่ง" ชายชราพูดแกมหยอก

    "ท่านปู่!!!!!!" หญิงสาวตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดนิดๆ พร้อมทำแก้มป่องใส่ชายชรา

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    เย้ๆ ถึงแล้วท่านปู่เร็วๆสิจ็ะ" หญิงสาวน่าตาสวยสะอาด วิ่งกลับมาประคอง ชายชราที่กำลังเดินงกๆเงินตามหลังเธอมา

    "กระโตกกระตากไปได้ ทำยังกะไม่เคยมา(เดี๋ยวเขารู้ว่าบ้านนอกหรอก)" ชายชราตอบ

    "ท่านปู่ก็ นานๆจะได้มาสักที ให้ดีใจหน่อยก็ไม่ได้ (-*-)"

    ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงหน้าเมือง ประตูเมืองขนาดใหญ่ และกำแพงที่สูงชันถึงกระนั้นก็ไม่สามารถบดบังภาพตึกสูงใหญ่ที่ตั้งตระง่านอวดโฉมมากมาย มีนายทหาร สองคนเผ้าประตูซึ่งเป็นเรื่องปรกติของเมืองนี้อยู่แล้ว

    "ถึงซะที ไกดุลซิตี้" ชายชราพูดกับหญิงสาวที่ประคองตนเอง เดินผ่านประตูเมืองอย่างช้าๆ มีผู้คนมากมายเดินกันควักไขว้ ค้าขายกันบ้าง ต่างๆนาๆ

    "ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเลยน่ะ ท่านปู่" หญิงสาวพูด

    "ก็แน่ละ ขืนเปลี่ยนแปลงคงได้ทุบตึกสักแถบล่ะมั่ง" ชายชราพูดแกมหยอก

    "ท่านปู่!!!!!!" หญิงสาวตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดนิดๆ พร้อมทำแก้มป่องใส่ชายชรา

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    " หญิงสาวตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดนิดๆ พร้อมทำแก้มป่องใส่ชายชรา

    "ทำงอน เดี๋ยวปัด โปกเลย" ชายชรา ทำทีง้างมือจะตีหัวหญิงสาว

    "เดี๋ยวนี้หัดโหดกับหลานน่ะปู่ จำไว้" ว่าแล้วสาวเจ้า ก็ทำท่างอนต่อ

    "เฮ้อ …. เจ้าหลานคนนี้ นับวันยิ่งดื้อขึ้นทุกที" ชายชราบ่นพึมพำ

    "ว่าใครอ่ะ ได้ยินน่ะท่านปู่" หญิงสาวตอบทันควัน

    "โอ๋ ไม่ได้ว่าใครหรอก จ็ะแม่คุณ ทูลหัวของปู่" ชายชราพูดประชด

    "ดีมาก จำไว้" หญิงสาวตอบ (เฮ้ย กรูประชดตั้งหาก (- -") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ") ชายชราคิด)

    "งั้นรีบไปหาราชาแห่งไกดุล กันเถอะ อุตสาให้ทหารไปตามถึงบ้าน" ชายชราพูด(ทำไมไม่เอาม้าไปให้ด้วยว่ะ -*- )

    ทั้งสองจึงเร่งฝีเท้าตามทางที่ถอดยาวตรงไปยังหอคอยสีขาว ที่ตั้งตระง่านอยู่ใจกลางของไกดุลชิตี้ ด้วยความสูงและการตกแต่งทำให้รู้ได้เลยว่า ถ้าไม่ใฃ่มหาเศรษฐีก็ต้องเป็นราชา เท่านั้นจึงจะสามารถครอบครองตึกนี้ได้

    ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย ประตูขนาดใหญ่สักลายมังกรข้างหนึ่งและรูปต้นไม้ขนาดข้างหนึ่ง ซึ่งทั้งสองบานมีนายทหารเฝ้าอยู่บานละคน

    "เจ้ามาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งกล่าว

    ชายชราตอบว่า "เหนือใต้ไม่มีใคร ล่างบนไร้ผู้คน ออกตกล้วนล้มหาย ใจกลางมีเพียงหนึ่งเดียว"

    "เชิญครับท่าน ฟารัส " นายทหารผู้นั้นกล่าวพร้อมส่งสัญญาณให้เปิดประตู

    ประดูบานยักษ์นั้นค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นถึงความหรูหราภายใน ของตกแต่งล้วนแต่ปราณีตบรรจง มองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้แล้วว่าเป็นของมูลค่าสูงมาก ประกอบกับบรรไดที่เรียงตัวทอดยาวขึ้นไปสู่ยอดของหอคอยที่มีหลายต่อหลายขั้นจนนับไม่ถ้วน เพียงแต่มันขัดกับภาพของทหารที่กำลังเดินไปมาอย่างวุ่นวาย เหมือนกำลังมีเหตุฆาตกรรมใครอย่างไรอย่างงั้น

    "ท่านปู่ ทำไมมีทหารเต็มไปหมดเลยล่ะ นักโทษหลุดเหรอ? " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    " หญิงสาวถาม

    "ก็ตั้งแต่ มีเรื่องศิลาแห่งน้ำนั่นแหละ เมืองนี้ถึงได้วุ่นวายไม่เว้นแม้แต่เขตพระราชวัง" ฟารัสตอบ

    "อ้อ" หญิงอุทาน "แล้วมันเป็นยังไงอ่ะ?"

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    "

    "อ้าว นึกว่ารู้ (-.-) " ฟารัสทำหน้าเบ๊ "ศิลาแห่งน้ำเป็นศิลาที่ให้พลังหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งไกดุล เพราะพื้นดินของประเทศนี้อยู่บนรากของต้นไม้แห่งไกดุล จึงจำเป็นต้องใช้ศิลาแห่งน้ำ ในการรักษาต้นไม้นั้นไว้ แต่ตอนนี้มันหายไปเกือบ 20 ปีแล้ว ด้วยฝีมือใครก็ยังไม่รู้ แต่มีข่าวลือว่า เป็นฝีมือของมนุษย์ เท่าที่รู้ก็มีเท่านี้แหละ" ฟารัสพูดในขณะที่เดินขึ้นไปบนหอคอยพร้อมกับหญิงสาว

    "เหรอ แล้วทำไมตั้ง 20 ปีแล้ว ต้นไม้ยังไม่ตายอีกล่ะท่านปู่ " หญิงสาวถาม

    "แล้วเจ้ากับข้าเป็นพ่อมดแม่มดขาว ทำด้อยอะไรล่ะ" ฟารัสตอบ

    "ช่วงนี้ปู่เป็นอะไร ชอบประชดจังหว่า (- -") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ") " หญิงสาวบ่นพึมพำ

    ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงหน้าห้องโถงใหญ่ ซึ่งมีทหารเฝ้าอยู่สองคน (ทำไมมันเผ้าสักกองร้อยนึงไม่ได้เหรอว่ะ -*- )

    "ท่านมาหาใคร" นายทหารผู้หนึ่งถาม ("คำถามเดิมอีกแล้ว" ฟารัสคิด)

    "ถ่อมาถึงนี่ คงไม่ได้มาหาปลาเค็มหรอกมั่ง ไอ้หลานชาย" ฟารัสตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

    "เชิญเข้ามาเถอะท่านฟารัส " เสียงตะโกนจากด้านใน

    "ประทานอภัยด้วยกระหม่อม" นายทหารผู้นั้นกล่าว พร้อมทั้งเปิดประตูออก ภายในพบชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำสำสั่นแต่สีหน้าซูบผอม บ่งบอกถึงความทุกข์ใจอะไรบางอย่าง

    "โอ้!! เรฝาล สหายข้า ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้พบท่านอีก " ฟารัสตอบพร้อมเข้าไปกอด ราชาแห่งไกดุลนาม เรฝาล

    "เช่นกันสหายข้า นานแล้วน่ะที่ไม่เจอท่าน ตั้งหลายปี ดูโทรมขึ้นเยอะเลยน่ะ" เรฝาลตอบ

    ("เออ เอ็งก็เหมือนกันนั่นแหละ" ฟารัสคิด) "ตั้งแต่มีเรื่องศิลาแห่งน้ำ ท่านก็ดูไม่มีความสุขเลยน่ะ" ฟารัสตอบ

    "เพราะเรื่องนี้แหละทำให้ประเทศของเราต้องทำสงครามกับพวกมนุษย์มาเกือบ 20 ปีแล้ว " เรฝาลตอบ "มีผู้คนมากมายที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"

    "แล้วไยท่านไม่ยุติสงครามนี้ซะล่ะ ท่านทำได้อยู่แล้วนี่" ฟารัสตอบเชิงแนะนำ

    "ไม่ได้หรอกท่านฟารัส หากเราไม่มีศิลาแห่งน้ำท่านก็รู้นี่ว่าผลมันจะเป็นยัง" เรฝาลตอบ

    "ข้ารู้ ข้ารู้ แผ่นดินของประเทศนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วจมลงไปในทะเลใช่ไหม" ฟารัสตอบ

    "เพราะเหตุนี้แหละตัวข้าและเหล่าประชาชนของประเทศไกดุล จึงยอมสู้หัวชนฝา เพื่อให้พวกมนุษย์คืนศิลาแห่งน้ำไง" เรฝาลตอบด้วยสีหน้าเคร่งเครียด"

    "อืม อย่างนั้นเหรอ" ฟารัสพูดขึ้น " อ้อ จริงสิ นี่หลานข้า รุส กาเดริน กาเดรินมานี่สิ"

    หญิงสาว สวยงามนามไพเราะ กาเดริน เดินเข้าไปหาฟารัสด้วยอากับกริยาสุภาพ ผิดกับตอนเข้าเมืองอย่างคนละทิศละทาง

    "ถวายบังคมเพคะ ท่านราชาแห่งไกดุล เรฝาล" หญิงสาวพูดพร้อมกับนำมือวางไขว้บนอกทั้งสองข้าง แล้วก้มตัวเคารพ

    "ตามสบายเถอะหลานข้า" เรฝาลตอบ "ไม่ได้เจอตั้งนานแล้ว โตขึ้นเยอะเลยนี่ อายุเท่าไรแล้วล่ะ" เรฝาลพูดทักทาย

    " 20 ขวบแล้ว เพคะ" กาเดรินตอบหยอกๆ

    " อายุ 20 ปี ปัญญา 20 เดือน น่ะ" ฟารัสพูดต่อ

    " ท่านปู่ ก็…" กาเดรินเริ่มหน้าแดงด้วยความเขิน (หรือมันแดงเพราะโกรธหว่า)

    " เอาน่าๆ หลาน – ปู่ คู่นี้ยังกัดกันเหมือนเดิมเลยน่ะ" เรฝาลตัดบท

    " ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านเมื่อไรค่อยคิดบัญชีกันน่ะ " กาเดรินกระซิบกับฟารัส

    " เจ้าไปเที่ยวก่อนก็ได้ เดี๋ยวปู่คุยธุระกับท่านเรฝาลเสร็จเมื่อไรจะตามไป" ฟารัสพูด

    " งั้นกระหม่อมขอทูลลา น่ะเพคะ" กาเดรินกล่าว

    " ตามใจเจ้าเกิด" เรฝาลตอบ

    ระหว่างที่กาเดรินกำลังจะเดินออกไป ได้แอบใส่ผลึกสอดรู้ ลงไปในเสื้อคลุมของฟารัส เมื่อออกมาก็รีบไปหาที่ลับตาคน แล้วจึงใช้ผลึกอีกอันเอาขึ้นมาแนบหู เพื่อจะฟังว่าทั้งสองพูดคุยอะไรกัน

    " โอ้ ฟารัส ท่านดูแย่ลงมากเลยน่ะ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ข้าไม่น่าปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเลย ไม่เช่นนั้นท่านก็ไม่ต้องคอยใช้พลังของท่านรักษาต้นไม้นั่นไว้หรอก " เรฝาล กล่าว

    " โถ เรฝาล ไม่เป็นไรหรอก ข้าตอบแทนที่ท่าน ช่วยเหลือข้ากับหลานสาวไว้ หากไม่ได้ท่าน ป่านนี้พวกเราทั้งสองคนคงแย่แล้วล่ะ" ฟารัสกล่าวพร้อมกับหยิบกล่องยาสูบออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับใช้มือจุดไฟ แล้วสูบยาในกล้องยานั้น

    " หากท่านใช้พลังของท่านอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆคงไม่ดีแน่ " เรฝาลกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

    " เฮ้อ …… ข้าก็เหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งพลังที่เคยมีก็ค่อยๆ หมดไป ต่อไปข้าก็ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลย" ฟารัส กล่าวตอบ

    " มิน่า ท่านถึงไม่เทเลพอร์ต มาที่นี่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอโทษจริงๆที่ข้าไม่ได้ส่งม้าให้ท่านใช้เข้าเมือง" เรฝาล กล่าวขอโทษฟารัสเป็นการใหญ่

    " ไม่เป็นไรหรอก" ฟารัสตอบ " นานๆทีเดินมา ก็ถือเป็นการออกกำลังทีดีเหมือนกัน" ฟารัสตอบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

    พลางหยิบเอาผลึกสอดรู้ขึ้นมา แล้วตะโกนใส่ผลึกอย่างรุนแรง ว่า

    "ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"

    " กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด " เสียงแห่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของฟารัส ซึ่งดังออกมาจากผลึกสอดรู้ ที่ฟารัสถืออยู่

    " ท่านปู่แกล้งข้าอีกแล้วอ่ะ " กาเดรินตอบ

    " ก็ใครใช้ให้เจ้าสอดรู้เรื่องของผู้ใหญ่ล่ะ " ฟารัสตอบพร้อมกับท่องคาถา ทำให้ผลึกสลายไป

    ผลึกในมือของกาเดรินก็สลายไปเหมือนกัน กาเดรินแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนักแต่นั่นไม่ได้มาจากเรื่องผลึกที่สลายไป แต่เป็นเรื่องของท่านปู่ของนางนั่นเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×