คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : { SF } ; BODYGUARD (1)
BODYGUARD
“คนนี้คนที่สิบแล้วนะลูก ทำตัวดีๆหน่อยสิ”
เสียงของบิดายังดงก้องไปทั่วห้องอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ผมจึงได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างช่วยไม่ได้ ก็ดูบอดี้การ์ดแต่ละคนที่พ่อหามาให้สิครับ... โหดจะตาย ใครจะไปอยากอยู่ด้วยหล่ะ น่าเบื่อ
คุณหนูอย่างคิมฮยองจุนหน่ะเกิดมาเพื่อคู่กับความรื่นรมย์แห่งการบันเทิงเท่านั้น!
เรื่องอะไรที่จะต้องมานั่งอดอู้ในห้องสี่เหลี่ยมกับบอร์ดี้การ์ดสูทดำด้วยหล่ะครับ...
“เข้ามาก่อนสิ” เสียงคุณพ่อพูดต่อหลังจากบ่นไปได้สักพัก ในที่สุดก็หามาจริงๆสินะครับ หึ... คราวนี้จะเล่นให้กลับบ้านไม่ถูกเลยคอยดู
“สวัสดีครับ” เสียงเปิดบานประตูดังเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงใส่สูทสีดำซึ่งทำให้เขาแลดูมีภูมิฐานมากขึ้น ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มตัดเข้ากันได้ดีกับรูปหน้า ผมทรงซอยที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไปช่วยชับให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาขึ้นอีกเป็นกอง
หล่อว่ะครับ...... #คิดไรอยู่
“ผมคิมฮยอนจุงครับ จากนี้ไป... ฝากตัวด้วยนะครับ” ร่างสูงที่เพิ่งเข้ามากล่าวแนะนำตัวพร้อมกับเว้นช่วงการพูดเพื่อยิ้มให้กับผมอย่างเป็นมิตรให้กับผม
หน้าตาดียังไงผมก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะจะบอกให้! (มั้ง...)
.
.
ถึงวันที่ต้องไปโรงเรียนอีกแล้วหล่ะครับ วันอันแสนน่าเบื่อ วันอะไรรู้กันไหมครับ? วันจันทร์ไง! เป็นวันที่วัยรุ่นต้องแหกตาตื่นแต่เช้า มันช่างเป็นวันที่ผมเกลียดจริงๆนะครับ... แต่ผมกะจะอู้ไม่ไปแหล่ะ ทำไงได้หล่ะครับก็ผมขี้เกียจนี่นา
ก๊อกก๊อกก๊อก...
“คุณหนูครับ ถ้าไม่ตื่นตอนนี้เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสายนะครับ”
บอดี้การ์ดคนใหม่มาปลุกผมแล้วหล่ะครับ แต่ผมก็ไม่ตื่นหรอก ผมล็อกประตูห้องไว้นี่นา แถมยังติดระบบสแกนลายนิ้วมือไว้อีกด้วย ใครพังเข้ามาได้ก็เก่งเกินคนแล้วหล่ะครับ...
ตึง!
“ถ้าคุณหนูยังไม่ตื่น ผมจะใช้วิธีเด็ดขาดแล้วนะครับ!”
เสียงเปิดประตูดังเข้ามาพร้อมกับคุณบอดี้การ์ดคนใหม่ที่ยืนจ้องหน้าผมอยู่ที่ปลายเตียง เดี๋ยวก่อนนะ.. พังประตู??? เฮ้ย พังเข้ามาได้ไงวะครับเนี่ย!
“นะ... นายเข้ามาได้ไง??”
“ผมมีคีย์การ์ดหน่ะครับ ยังไงตื่นแล้วก็ไปโรงเรียนกันเถอะนะครับ จะสายแล้ว” ร่างสูงพูดขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้ามาจะฉุดกระชาก (?) ผมขึ้นจากเตียงอย่างน่ากลัว
พ่ออ่ะพ่อ ให้คีย์การ์ดคนแปลกหน้าได้ไงเนี่ย…
ถ้าเขามาปล้ำผมใครจะรับผิดชอบ???
สุดท้ายผมก็ต้องลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ครับ มันช่างน่าเศร้าใจจริงๆนะครับที่คุณหนูอย่างคิมฮยองจุนต้องยอมสยบอะไรง่ายๆแบบนี้ ก็จะทำยังไงได้หล่ะครับ ไม่ว่าผมจะเอาพ่อมาขู่หรือใช้วิธีไหน บอดี้การ์ดสุดจะถึกทนและแสนน่ากลัวก็ได้แต่ตอบมาว่า...
‘ผมทำตามหน้าที่ครับ’
‘ผมทำงานให้พ่อคุณครับ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณ’
‘คุณหักเงินเดือนผมไม่ได้ครับ เพราะพ่อของคุณเป็นคนจ้างผมมา’
‘ถ้าไม่ทำตามผมจะฟ้องคุณพ่อของคุณนะครับ’
และอย่างอื่นอีกมากมาย..........
ฆ่ากันเลยเถอะพ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.
.
ตอนนี้ผมมาอยู่ที่โรงเรียนแล้วหล่ะครับ โรงเรียนที่ผมเรียนอยู่เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีแต่ลูกคนรวยเท่านั้นที่เรียนได้ เพราะฉะนั้นการที่จะมีบอดี้การ์ดตามติดตัวเสมือนเงาจึงถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเด็กนักเรียนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกของคนมีชื่อเสียง จึงทำให้อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้จึงต้องจ้างบอดี้การ์ดติดตัวไว้นั้นแหล่ะครับ
“ฮยองจุน วันนี้ไปเที่ยวกันไหม” เพื่อนสนิทผมถามขึ้นมาครับ ซึ่งนั้นก็คือจองมิน เขาเป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่อนุบาลแล้วหล่ะครับ เราอยู่ด้วยกันมานานมาก จึงไม่ต้องระหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
“เอาสิ ที่ไหนหล่ะ?”
“ผับ A ตอน 3 ทุ่ม”
“ได้สิๆ เดี๋ยวตามไป มารับหลังบ้านด้วยสิ”
“ได้ๆ แล้วบอดี้การ์ดคนใหม่นายไม่ว่าหรอ? ดูโหดนะนั่น”
“อ่อ ไม่ว่าหรอก หึ.. เดี๋ยวโดดออกไปหา”
“เออเคๆ มาก็ระวังตัวดีๆด้วยละกัน” จองมินบอกพร้อมกับโบกมือลาเพื่อไปนั่งที่ของตัวเอง ส่วนผมหน่ะหรอครับ... คิดแผนการหนีจากบอดี้การ์ดสุดโหดเพื่อไปเที่ยวคืนนี้หน่ะสิ!
ใครหน้าไหนอย่าได้คิดแหยม.. คิมฮยองจุนอยากได้อะไรก็ต้องได้!
ในที่สุดก็เลิกเรียนแล้วหล่ะครับ ซึ่งบอดี้การ์ดผู้แสนถึกทน (?) ก็มาตรงกับเวลาเลิกเรียนเป๊ะเลยหล่ะครับ ผมจึงต้องรีบกลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อถึงบ้านผมก็รีบขึ้นห้องพร้อมกับขอไม่ทานอาหารเย็นเพราะอ้างว่าไม่สบายไม่อยากให้ใครรบกวนทั้งนั้น พร้อมกับบอกคุณพ่อไว้อีกว่าอย่าให้บอดี้การ์ดเข้ามาในห้องของผมเพราะผมต้องการพักผ่อนเนื่องจากปวดหัวจากการเรียนมาก (หรอ?)
วันเวลาผ่านไปไวอย่างกับโกหก หลังจากที่ผมเล่นคอมพิวเตอร์เหมือนคนไข้ที่กำลังป่วย (?) ก็ได้ฤกษ์นามยามดี ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้วหล่ะครับ ว่าแล้วผมก็เดินเข้าไปค้นในตู้เสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเพื่อสำรวจอุปกรณ์ที่เคยใช้ในวัยเด็กจากการปีนป่ายเล่น ในที่สุดผมก็เจอแล้วหล่ะครับ!
บันไดเลื่อนได้สำหรับปีนลงไปสองชั้น!
เมื่อก่อนห้องของผมอยู่ชั้นสามแหล่ะครับ ก็เลยทำให้หนีเที่ยวไม่ค่อยได้ เพราะต้องออกจากประตูบ้านทางเดียว มันออกยากหน่ะครับเลยไปไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้ห้องของผมอยู่ชั้นสองแล้วหล่ะครับ การปีนบันไดลงไปนี่จึงไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักสำหรับคิมฮยองจุน ว่าแล้วก็เอาบันไดไปปีนพร้อมกับค่อยๆปีนลงไปเนื่องจากไม่ได้ปีนมานาน แต่สักพักผมก็แลนด์ดิ้งถึงพื้นดินแล้วหล่ะครับ! มองซ้ายขวาซักพักก็เห็นรถสปอร์ตอัลฟ่าโรมิโอของจองมินซึ่งจอดรออยู่หลังบ้านอย่างถนัดตาจึงรีบวิ่งไปขึ้นรถในทันที ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่มีใครเห็น...
คิมฮยองจุนหนีเที่ยวครั้งที่ 501 ได้สำเร็จแล้วครับ! #เชี่ยวชาญ
ในตอนนี้รถสปอร์ตคันหรูของจองมินก็ได้พาพวกเรามาถึงปลายทางแล้วหล่ะครับ ซึ่งสถานที่ในครั้งนี้เป็นผับสำหรับคนรวย จึงปลอดภัยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกดักฉุดหรืออะไรแน่นอน ส่วนของภายในนั้นหน่ะหรอครับ ราคาชนิดที่ว่าหากไม่มีเงินจริงก็อย่าได้มาเหยียบเลย ส่วนผมหรอครับ? มีตังค์ซะอย่างก็อย่าไปกลัวครับ
เสียงเพลงและแสงสีในผับทำให้ราตรีนี้ยังอีกยาวนานนัก ทุกคนในสถานที่บรรเริงรมย์ต่างเพลิดเพลินไปกับมนตร์สเน่ห์ของสถานที่นี้ ตอนนี้ผมกำลังเต้นอยู่กลางฟลอร์แหล่ะครับ ก็แค่ขยับกายไปตามเสียงเพลง... ปล่อยวางจิตใจ... แค่นี้เราสามารถเสพสมความสุขจากที่นี้ได้แล้วหล่ะ.. มาที่นี่ไม่ได้หมายความว่าต้องมาเพื่อเรื่องอย่างว่าอย่างเดียวนะครับ จริงไหม? เต้นไปได้สักพักผมก็รู้สึกเหนื่อยจึงไปนั่งที่บาร์แทนแล้วหล่ะครับ ผมต้องปลดกระดุมบนสองเม็ดอย่างช่วยไม่ได้ ร้อนชะมัดเลยตอนนี้...
“มาคนเดียวหรอครับ?” ชายหนุ่มผิวสีแทนหน้าตาคมเข้มเดินเข้ามาหาผมซึ่งเพิ่งนั่งได้ไม่นานพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มเลี้ยงผมอีกด้วย มาไม้นี้ตลอดอ่ะครับพวกนี้...
“ครับ” ผมตอบสั้นๆอย่างเสียมารยาทนิดหน่อยเพราะไม่อยากคุยต่อสักเท่าไหร่ ที่จริงก็อยากตอบว่ามากับเพื่อนแต่ตอนนี้จองมินหายไปไหนก็ไม่รู้แล้วสิครับ... อีกอย่างนึงถึงผมจะชอบเที่ยวแต่ก็ไม่ใจง่ายนะขอบอก! (รักนวลสงวนตัวนะเออ)
“เหงาแย่เลย คืนนี้ไปต่อกับผมไหมหล่ะ?” พูดไม่พอยังเอามือมาจับข้อมือผมด้วยอีกเนี่ย.. จองมินนายหายไปไหน T_T
“ขอโทษนะครับ พอดีมาตามแฟนกลับบ้าน”
เสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างหลังของผมพร้อมกับมือหนาที่มากระชากมือที่กำลังจับข้อมือผมอย่างทันที ผมคงจะรู้สึกขอบคุณและโล่งใจมากกว่านี้ถ้าหากว่าคนที่มากระชากมือมันไม่ใช่…
(คุณ)บอดี้การ์ดฮยอนจุงผู้ถึกทน T_T
ตอนนี้ผมกำลังถูกฉุดกระชากลากถูไปตามทางเดินของผับหรูเพื่อไปขึ้นรถด้วยมือของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบอดี้การ์ด ชิบหายแบบสุดๆเลยครับพี่น้องที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้... นาย – ตาย – แน่ – คิม – ฮยอง – จุน
ผมที่กำลังนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ในรถอย่างเด็กดี (?) แอบมองบอดี้การ์ดผู้ทำหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลาอยู่เรื่อยๆ เขาจะฟ้องพ่อผมไหม? ผมจะถูกกักบริเวณไหมเนี่ย? T_T
“เรื่องที่คุณหนีเที่ยวผมรายงานคุณพ่อของคุณเรียบร้อยแล้วนะครับ”
“...” ชิบหายครับ
“แล้วก็... คุณถูกกักบริเวณหนึ่งเดือนนะครับ”
“…” T_________________T
“และคุณพ่อของคุณให้ผมนอนห้องเดียวกับคุณและดูแลตลอด 24 ช.ม. ด้วยครับ”
“…” อาร์ – ยู – ฟัค – กิ้ง – คิด – ดิ้ง – มี!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.
.
ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าผมอยู่ที่ไหน.. ตอนนี้ผมกำลังนั่งอดอู้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมโดยที่มีครูสอนพิเศษ (ที่พ่อลงทุนจ้างมาเพื่อจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน) นั่งพล่ามสูตรเคมีอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆอยู่ตรงหน้าผม และที่สำคัญที่สุด... บอดี้การ์ดสุดถึกทนที่แสนรักของคุณพ่อกำลังนั่งจ้องผมอย่างไม่วางตา!
ตอนนี้สะกดคำว่า ‘ความสุข' แทบไม่ถูกเลยหล่ะครับ................
ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียนกับครูสอนพิเศษแล้วหล่ะครับ ผมนอนแผ่หลาบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจสายตาใคร (ซึ่งมีอยู่แค่คนเดียว) ด้วยความเหนื่อยอ่อน ผ่านไปแค่อาทิตย์เดียวผมก็จะตายแล้วหล่ะครับT_T
“นี่.. อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกอ่ะ เบื่อจะตายอยู่แล้ว” ผมพูดขึ้นอย่างลอยๆเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงบอดี้การ์ดหน้าถมึงทึงฟังผมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วหล่ะครับ
“แต่คุณพ่อสั่งกักบริเวณนะครับ”
“น้า~~ ออกไปนิดนึงไม่ตายหรอกหน่า”
“…”
“ได้โปรดเถอะ~~~” ตอนนี้ผมกลิ้งไปหาคุณบอดี้การ์ดที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับจ้องตาเหมือนหมาอ้อนเจ้าของแบบสุดๆ(?) ได้โปรดเถอะ เซ็ทมีฟรี OTZ
“…”
“นะครับ... พี่ฮยอนจุง~” อ้อนแบบสุดๆแล้วนะเว้ยครับ............
“… ก็ได้ครับ”
มิชชั่นคอมพลีท ผมเป็นไทแล้วครับบบบบบบบบบ!
ตอนนี้ผมกำลังกระโดดโลดเต้นอยู่หน้าบ้านแหล่ะครับ ถึงแม้ว่าพื้นที่สนามหญ้าในบ้านจะกว้างมากแต่ผมก็เบื่อแล้วหล่ะครับ อยากออกมาเดินข้างนอกบ้าง บรรยากาศในตอนนี้ก็เหมือนกำลังเดินอยู่ในสวนดอกไม้ที่กุหลาบกำลังผลิและร่วงโรยบนทางเดิน เปิดซาวนด์แบบในหนังด้วยนะครับ... #ฟีลมันใช่มาก
แต่ในทันทีทันใดก็มีรถตู้มาจอดข้างหน้าผมอย่างรวดเร็ว... ผมได้แต่มองอย่างงงๆว่าเขาจะมาทำอะไรกัน? แต่แทบจะในทันทีก็มีคนเปิดประตูรถออกมาพร้อมกับใช้ผ้าปิดปากของผมซึ่งทำให้สติของผมพร่าเลือนลงเรื่อยๆ...
“ฮยองจุน!!!!!!!!!!”
ร่างสูงได้แต่มองรถตู้ที่กำลังขับไปไกลมากขึ้นพร้อมกับรีบวิ่งไปเข้าบ้านแล้วขับรถเพื่อไล่ตามรถตู้ที่ลักพาตัวฮยองจุนไปอย่างรวดเร็ว ในใจร้อนรนดั่งไฟเมื่อเห็นเด็กตัวขาวโดนลักพาตัวขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา...
รถตู้ในตอนนี้ได้ลักพาตัวฮยองจุนมาถึงตึกร้างซึ่งเป็นที่นัดหมายโดยเรียบร้อย ซึ่งตัวฮยองจุนนั้นยังไม่ได้สติเนื่องจากฤทธิ์ของยาสลบที่โดนโปะเข้าไป กลุ่มที่ลักพาตัวฮยองจุนนั้นก็ต่างปรึกษาแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไปโดยจับร่างโปร่งมัดไว้กับเก้าอี้พร้อมกับนำเทปปิดปากเพื่อไม่ให้พูดด้วย เวลาผ่านไปไม่นานร่างบางที่ถูกจับมัดกับเก้าอี้ก็เริ่มได้สติและหันมาดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง (?)
“อ่อยอั้น!! (ปล่อยฉัน!!)"
ผมพูดขึ้นหลังจากที่เพิ่งได้สติกลับคืนมาเมื่อกี้ พวกกลุ่มที่ลักพาตัวผมก็ไม่ได้สนใจอะไร หากแต่กลับเดินหนีซะงั้นอ่ะ! กล้าเมินคิมฮยองจุนคนนี้หรอ??? #อวดเก่งไม่เลือกสถานที่
“อ่อยอิเอ้ย!! (ปล่อยสิเว้ย!!)"
“อ่อยๆๆๆๆ ไออินอั้ย! (ปล่อยๆๆๆๆ ได้ยินไหม!)""
“ใครจะปล่อยให้โง่วะ จับมาไม่ฆ่าก็บุญละเงียบๆไป” ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไรแล้วหล่ะครับ
กลัวง่ะ T___________T
นั่งเงียบสงบเสงี่ยมเรียบร้อยได้ไม่นานพวกกลุ่มที่ลักพาตัวผมมาก็ทยอยออกกันไปทีละคนแหล่ะครับ จนตอนนี้เหลือแค่สองคนที่ยังอยู่ในห้องกับผม ตอนนี้ได้ยินเสียงเอะอะเหมือนคนสู้กันเลยแหล่ะครับ เอ๊ะหรือว่าจะเป็น...
“ปล่อยเด็กคนเมื่อกี้มาเดี๋ยวนี้!”
ผมรักคุณบอดี้การ์ดคิมฮยอนจุงจังเลยครับ T^T
ตอนนี้บอดี้การ์ดของผมได้เข้ามาถึงในห้องแล้วหล่ะครับ ซึ่งอีกสองคนมองหน้าซึ่งกันและกันอย่างเลิ่กลั่กเพราะเห็นสภาพศพ (?) ของเพื่อนร่วมงานอยู่ข้างนอก จึงลังเลว่าจะสู้ดีไหม แต่คิดได้ไม่นานก็โดนร่างสูงที่อยู่ข้างหน้าผมซัดจนกลายเป็นศพไปอีกสองศพแล้วหล่ะครับ ส่วนผมก็นั่งดูมวยสดต่อยกันอย่างใบ้กินเนื่องจากพูดหรือขยับไม่ได้เลย ถ้าปากพูดได้ผมก็คงจะเชียร์คุณบอดี้การ์ดอย่างสุดใจแล้วหล่ะครับ
“คุณหนูเป็นไรไหมครับ?” คุณบอดี้การ์ด (เปลี่ยนสรรพนามให้ใหม่เรียบร้อย) ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยพร้อมกับแก้เชือกและค่อยๆดึงเทปที่ปิดปากผมออกอย่างระมัดระวัง
“กลัวง่ะ กลัวๆๆๆๆๆ T_______T” ผมที่ซึ่งตอนนี้ใบ้ไม่กินพูดได้เรียบร้อยแล้วก็รีบตรงรี่เข้าไปกอดคุณบอดี้การ์ดอย่างต้องการที่พึ่ง ถึงจะได้ดูมวยสดแต่ตอนที่เขาจับผมมามันก็น่ากลัวนะครับ T^T
คุณบอดี้การ์ดลูบหัวผมบ่อยๆอย่างปลอบโยนพร้อมกับกระชับกอดให้แน่นขึ้นซึ่งทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเขาต้องการที่จะปกป้องผม “ไม่ต้องกลัวนะครับคุณหนู เดี๋ยวเราก็จะกลับบ้านกันแล้วนะ"
“ยังกลับไม่ได้หรอก”
เสียงนั้นดังขึ้นมาจากทางประตูห้องซึ่งทำให้ผมถึงกับตกใจคว้าคุณบอดี้การ์ดแทบไม่ทัน แต่เมื่อได้เห็นหน้าคนที่พูดประโยคเมื่อกี้ก็ต้องตกใจกว่าเก่า เพราะนั้นคือพ่อของผม!
“พ่อมีเรื่องจะบอกลูกก่อนนะ” พ่อพูดขึ้นก่อนที่จะเดินมาทางผมพร้อมกับลูบหัวผมอย่างเอ็นดู
“เรื่องอะไรฮะ?”
“ก็... ฮยอนจุงหน่ะ คือคู่หมั้นของลูกเองแหล่ะ”
“…” < อ้าปากค้างอยู่
“ส่วนแผนลักพาตัวหน่ะพ่อจัดการขึ้นมาเองแหล่ะ แค่อยากลองทดสอบว่าฮยอนจุงหน่ะเขาจริงใจกับลูกมากแค่ไหน”
“…” < ใบ้กินของแท้
“แค่นั้นแหล่ะ พ่อไปทำงานต่อละลูก” พ่อผมโบกมือพร้อมกับเดินออกจากห้องไป บทจะไปก็ไปอ่ะครับพ่อ อะไรเนี่ย อินดี้ไปละครับ.........
ผมหันไปมองคุณบอดี้การ์ดอย่างงงๆ ซึ่งร่างสูงก็ดูจะงงกับแผนการของพ่อเหมือนกัน ว่าแต่... คู่หมั้นงั้นหรือ? ถ้าหมั้นก็ต้องแต่งงานสิ!
“อ่อ... พ่อลืมบอก วันแต่งงานหน่ะเดือนหน้านะลูก คราวนี้พ่อไปจริงๆละ”
พ่อซึ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ (อีกแล้ว) ตะโกนเข้ามาบอกพวกเราทั้งสองคนในห้องก่อนที่จะเดินจากไปอีกครั้งอย่างเป็นปริศนา (?) หึ... แต่งงานเดือนหน้าหน่ะหรอครับ?
“ไม่แต่งโว้ยยยยยยยยยยย!!”
- - - - - - - - - - - - - - - -
100% แล้วค่ะ ^^
มันมีตอนต่อนะคะ อย่าเพิ่งตกใจ55555 มันยาวอ่ะค่ะ
ตอนนี้อาจจะไม่ค่อยสนุก มันไม่ค่อยมีอะไรเลย
ตอนนี้ทีเซอร์ฮยองจุนออกมาแล้ว ฝากด้วยนะคะ<3
ความคิดเห็น