ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    True love at first sight..รักแท้แรกพบ [Yuri][Fic:SNSD]

    ลำดับตอนที่ #9 : 8 love >> "I called....Adamas"

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 53


    Chapter 8
     
    เมื่อคืน...อยู่ดีๆเจสสิก้าก็ไข้ขึ้นสูงจนยูริต้องสะดุ้งตื่น...ร่างสูงคอยเช็ดตัวให้คนที่ป่วยอยู่ทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสาง...ตอนแรกก็เช็คเท่าที่จะเช็ดได้ล่ะ...หลังๆก็ล่อเช็ดมันซะทั้งตัวเลย...เสื้อผ้งเสื้อผ้าไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปเมื่อมันไปนอนกองอยู่ที่พื้นเรียบร้อย...และตอนนี้เจสสิก้าไข้ก็ลดแล้วด้วย...
     
    “อือ...” ยูริครางเบาๆเมื่อรู้สึกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว ร่างสูงตอนนี้กำลังนอนกอดเจสสิก้าแน่นซ้อมกับซุกจมูกโด่งสันเข้าที่อกน้อยๆของร่างบาง ยูริหลังจากเช็ดตัวรอบสุดท้ายเสร็จก็นอนสลบในท่านี้มาตลอด 2 ชั่วโมง
     
    เจสสิก้าลืมตาขึ้นมาน้อยๆเมื่อจมูกของยูริยุกยิกอยู่ตรงหน้าอก ร่างบางขำกับท่าทางของคนตัวสูงก่อนจะเอาหลังมืออังซอกคอและหน้าผากของตัวเองเช็คไข้...เมื่อคืนเธอจำไม่ค่อยได้หรอกว่างอแงอะไรไปบ้าง...รู้แค่ว่าง้องแง้งแบบนั้นเพราะพิษไข้...ถ้าเธอสติดีอยู่ก็คงจะควบคุมอารมณ์ได้มากกว่านี้
     
    “เจ้า...ตื่นแล้วรึ” ร่างสูงคลายอ้อมแขนออกก่อนจะนอนหงายและเอานิ้วคลึงหน้าผากตัวเองเบาๆให้หายมึน พักผ่อนน้อยมันก็แย่นะ...ยูรินอนหงายแต่หันหน้ามองเจสสิก้าตลอดเวลาพร้อมกับใช้แขนโอบรั้วเอวบางของร่างบางไว้
     
    “อืม..” เจสสิก้าตอบรับเสียงหวานแล้วก็จะลุกขึ้นจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็โดนยูริดึงกลับมาล้มทับตัวคนดึงเต็มกำลัง
     
    “อึ้ก...ดีนะ เจ้าไม่หนัก”
     
    “ยูลบ้า...ห้ามพูดเรื่องน้ำหนักกับผู้หญิงนะ” ร่างบางค้อนใส่พร้อมกับพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ก็โดนยูริรั้งเข้ามาชิดกว่าเดิม ร่างสูงพลิกตัวหญิงสาวให้นอนลงบนตัวเองพร้อมกับใช้ปลายจมูกเขี่ยปลายจมูกอีกฝ่ายเล่น ลมหายใจของยูริที่รดลงชิดใกล้ทำให้เจสสิก้าต้องหันหน้าหนีด้วยความเขิน
     
    “เขินเหรอ...” ยูริกระซิบเสียงเบาพอได้ยินกันสองคนแค่นั้นพร้อมกับกระชับแขนให้แน่นกว่าเดิม เจสสิก้าทุบอกคนตัวสูงเบาๆก่อนจะค้อนใส่อีกครั้งและทิ้งตัวนอนลงตามที่ยูริต้องการเมื่อรู้ว่าหมดทางที่จะรั้น...ยังไงยูริก็คงไม่ปล่อยเธอไป
     
    “วัดไข้หน่อยซิ...” พูดจบร่างสูงก็เอาหน้าผากตัวเองมาชิดกับหน้าผากของเจสสิก้า ก่อนจะจงใจใช้ริมฝีปากลากเฉียดริมฝีปากของร่างบางไปแกล้งให้วูบวาบเล่น...
     
    “ยังอุ่นๆอยู่นะ...วันนี้ไม่ต้องไปมหาลัยดีกว่าข้าว่า...”
     
    “ไม่ได้หรอกยูล วันนี้เจสมีซ้อมละครเพลงตอนบ่าย”
     
    “งั้นก็ไปโรงเรียนตอนเที่ยงเถอะ พักผ่อนไปก่อนดีกว่า อีกไม่กี่ชั่วยามคงจะดีขึ้นมากกว่านี้”
     
    “อืม...” ยูริพลิกให้เจสสิก้านอนลงบนเตียงแล้วจึงเอื้อมไปปลายเตียงดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มกายร่างบางไว้ เจสสิก้าหลับตาพริ้มพร้อมกับกุมมือยูริไว้แนบใบหน้าก่อนจะเกิดความหมั่นเขี้ยวงับเข้าที่ปลายนิ้วชี้เบาๆ
     
    “ฮื่อ กัดข้าเนี่ย ฉีดยายัง?”
     
    “ยูล! ไม่เล่นด้วยแล้ว โป้ง!”
     
    “ฮ่ะๆ ข้าล้อเล่นหน่า...” ร่างสูงตอบเสียงหวานก่อนจะค่อยๆยันตัวคร่อมร่างของเจสสิก้า
     
    “ข้าชัก...หิวแล้วสิ...”
     
    “อื้อออ...หิวไรคะ หิวข้าวลงไปข้างล่าง หิวอย่างอื่นไม่ให้นะ” เจสสิก้าพูดอย่างรู้ทันและก็พยายามดันหน้าของร่างสูงออกไป
     
    “นิดนึง...นิดเดียว”
     
    “กี่นิดก็ไม่ให้~ เจสไม่สบายนะยูล~”
     
    “ก็นี่ไง ออกกำลังกาย....เหงื่อออก จะได้หายไข้ไวๆ” เหตุผลของเจสสิก้าถูกยูริล้างไปเรียบร้อยพร้อมกับริมฝีปากที่ถูกยึดครองหลังพูดจบ ร่างสูงสะบัดผ้าห่มที่เพิ่งดึงขึ้นมาให้ออกไปไกลๆก่อนจะรวบแขนของเจสสิก้าที่กำลังดันเธออยู่ไว้เหนือหัว 

    ร่างขาวเนียนของเจสสิก้าเมื่อถูกพิษไข้ยิ่งทำให้หน้ามองมาขึ้นด้วยสีผิวที่มีสีแดงฝาดๆ เอวบางที่ค่อดได้รูปน่าสัมผัสตอนนี้กำลังบิดไปมาระบายความร้อนที่กำลังจะพุ่งขึ้นสูงก่อนจะหยุดการเคลื่อนไหวทุกสิ่งเมื่อร่างสูงใช้ฝ่ามือแตะเบาๆที่สะโพก มีเพียงหน้าอกที่กระเพื่อมถี่หอบเมื่อเจสสิก้าเริ่มหายใจไม่ทัน
     
    “ข้ามีอะไรจะให้..” ยูริถอนริมฝีปากออกก่อนจะพูดเสียงแหบพร่าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเตรียมอะไรมาให้หญิงสาวอันเป็นที่รัก...ร่างสูงพลิกตัวมานั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับรวบตัวคนรักที่เริ่มจะหมดแรงไว้บนตัก เจสสิก้าพิงคนตัวสูงเมื่อไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะพยุงตัวเองไหว...ก็เมื่อครู่ใครกันสูบพลังเธอไปหมดเลย...สัมผัสจากริมฝีปากเพียงชั่วขณะเดียวทำเอาเธอแทบละลายกองไปกับเตียง
     
    “Adamas...เพชร...” ร่างสูงแบมือออกก่อนที่อากาศแถวนั้นจะบีบอัดรวมตัวกันปรากฏเป็นสร้อยเส้นเล็กที่มีจี้เป็นเพชรส่องประกายแวววับขนาดประมาณต่างหูเม็ดเล็กๆ...ที่จริงเลือกมาตอนแรกใหญ่กว่านี้หลายเท่าตัว แต่พอมาคิดถึงคนใส่แล้วก็นึกขึ้นได้ ใครมันจะไปห้อยเพชรเท่าฝ่ามือไว้ที่คอ เลยเจียระไนจนขนาดเหลือเพียงเล็กๆน่ารัก
     
    “เพชรเม็ดหนึ่ง...กว่ามันจะมาเป็นเพชรได้รู้มั้ยต้องผ่านอะไรมาบ้าง....มันต้องโดนแรงกดดันอันมหาศาลภายใต้เปลือกโลกนับ ร้อยล้านปี...
     
    “ชาวโรมันเชื่อว่ามันคือหยาดน้ำตาของเทพเจ้า....มันถูกเชื่อว่ามีพลังในการทำศึก...เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังมากนานนับหลายพันปี”
     
    “จนในที่สุด...มันก็ได้รับการยอมรับให้เป็นสัญลักษณ์แห่งรักแท้...” เจสสิก้านั่งฟังยูริเล่าอย่างนิ่งๆ
     
    “ยูล...หวังว่าเจสจะเข้าใจความหมายของสร้อยเส้นนี้นะ...” ประโยคนุ่มนวลของยูริถูกใช้ออกมาสะกดใจร่างบาง...ร่างสูงค่อยๆสวมสร้อยให้หญิงสาวก่อนจะกอดเอวคนที่นั่งตกตัวเองไว้และจุมพิตเบาๆที่หลังคอ
     
    “ทำไมยูลต้องให้ของมีค่าแบบนี้กับเจสล่ะ...ยูลไม่ให้อะไรเลยเจสก็ไม่ว่านะ...แค่ยูลอยู่กับเจสแบบนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญชิ้นที่ดีที่สุดแล้ว”
     
    “ยูลให้...เพราะอยากให้เจสรู้ ว่าเจสคือเพชรของยูล...” ประโยคแฝงความนัยว่าเจสสิก้าคือรักแท้ของยูริทำเอาร่างบางเขินจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้สมองโดนคำหวานที่แสนจะจริงใจของคนที่กอดเธออยู่ล้างไปหมดแล้ว ไม่ขัดขืนอีกแล้ว...จะทำอะไรก็ทำเถอะ...
     
    “หวานจนจะละลายอยู่แล้ว...” เจสสิก้าพูดเบาๆแก้เขินก่อนจะทิ้งตัวพิงคนข้างหลังเต็มที่ แก้มอุ่นๆของเจสสิก้าที่แตะแนบกับแก้มของร่างสูงทำให้ยูริอดใจไม่ได้ที่จะพาริมฝีปากตัวเองไปประทับลงบนแก้มนุ่มๆนั้น ท่อนแขนแข็งแรงยกตัวร่างบางให้ขึ้นสูงกว่าเดิมเล็กน้อยก่อนจะชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นแทรกไปสัมผัสกับบางส่วนที่แสนจะอ่อนไหว
     
    “หัวใจยูลเต้นแรงจัง....”
     
    “เจ้าก็เหมือนกันล่ะ...”
     
    เจสสิก้าหัวเราะน้อยๆไปพร้อมกับยูริ ร่างสูงหอมซอกคอขาวเบาๆ ร่างบางเริ่มค่อยๆขยับสะโพกบังคับให้บริเวณอ่อนไหวสัมผัสกับต้นขาของยูริอย่างเนิบๆ
     
    และแล้วทั้งสองก็เริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งความรัก ร่างกายที่ร้อนผ่าวของทั้งสองส่งมองสัมผัสแห่งความรู้สึกของตัวเองให้กันอย่างมีความสุขในยามเช้า....
     
     
    ยามบ่าย...ณ มหาวิทยาลัย
     
    วันนี้เป็นวันฟรีไทม์ ที่นักศึกษาทุกคนจะทำกิจกรรมประจำชมรมของตัวเองได้อย่างอิสระตามที่ได้นัดแนะกันไว้ประจำชมรมเพื่อเตรียมการสำหรับวันเปิดรั้วมหาลัย... เพราะฉะนั้นที่มหาลัยในวันนี้จึงดูคึกคักและวุ่นวายมากกว่าปกติ สนามกีฬาใหญ่ สนามบาสเก็ตบอล สนามหญ้า สนามเทนนิส รวมไปถึงห้องใหญ่ๆตามตึกต่างๆก็เต็มไปด้วยนักศึกษาของมหาลัย
     
    เจสสิก้ารีบเดินนำยูริไปที่โรงละครประจำมหาวิทยาลัยอย่างเร่งรีบเนื่องจากเพราะกิจกรรมเมื่อเช้าพาลเอาเธอสายไปเกือบหนึ่งชั่วโมง...นัดเที่ยงแต่ดันมาบ่าย ร่างบางหันกลับไปมองคนตัวสูงบ้างเป็นระยะๆพอไม่ให้เดินพลัดลงกัน หน้าตายูริดูเซ็งๆไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร เจสสิก้าจึงไม่ได้ง้ออะไรไปเพราะคิดว่ายูริคงรู้ว่าตัวเองรีบ
     
    ครืด....
     
    เจสสิก้าเปิดประตูหลังของโรงละครเบาๆไม่ให้ผู้ที่ซ้อมอยู่ข้างในตกใจจนเสียสมาธิ ก่อนจะค่อยๆก้าวเข้ามา ถ้าเข้าจากทางประตูหลัง ก็จะเจอห้องแต่งตัวก่อนที่จะโผล่ไปยังห้องโถง ก่อนจะออกไปยังห้องโถงก็ยังมีบอร์ดใหญ่ๆหลายๆอันวางเก็บไว้หน้าห้องอีก...ถือว่าแอบรกเลยล่ะ ที่นี่
     
    “ยูล เดี๋ยวเจสไปซ้อมละครก่อนนะ” ร่างบางหันกลับไปพูดกับยูริขณะที่กำลังบิดลูกบิดประตู แววตาที่แอบเศร้านิดๆของคนตัวสูงทำเอาเจสสิก้าเกือบใจอ่อนวูบจึงตัดสินใจเบือนหน้าหนีและเปิดประตูออกไป
     
    “อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ....” ยูริพูดเสียงหงอยๆพร้อมกับกอดหญิงสาวจากด้านหลัง...ข้าอยากจะอยู่กับเจ้าทั้งวัน...อยากจะกอดเจ้าแบบนี้ทุกนาที...ให้ข้าไม่ได้เหรอ...
     
    “ไม่ได้ค่ะ เจสต้องไปซ้อมละคร”
     
    “แต่ข้าอยากอยู่กับเจ้า....”
     
    “แต่คนนอกห้ามเข้าไปดูการซ้อม...” เจสสิก้าตอบอย่างหนักใจเมื่อนึกถึงกฎที่ชมรมตั้งกันไว้...หากมีคนนอกเข้าไปดูการแสดงก่อน อาจจะทำให้เซอร์ไพรส์ต่างๆรั่วไหลออกไปได้ แต่เอาจริงๆเหตุผลสำคัญก็คือ กลัวจะมีคนมาวุ่นวายกับการซ้อมต่างหาก...ถึงแม้จะรู้ว่ายูริคงไม่ไปคุยกับใครก็ตามทีเถอะ แต่กฎก็คือกฏ....
     
    “เฮ้อ...ขอลูกอม” คนตัวสูงกดคางลงบนไหล่ของเจสสิก้าพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่และแบมือขอลูกอมที่อยู่ในกระเป๋าถือของร่างบาง เจสสิก้าแอบขำเล็กน้อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมาพร้อมแกะซองและป้อนใส่ปากให้
     
    “ข้าไม่อยากทำให้เจ้าลำบากใจหรอกนะ ถึงได้ยอม...คนอย่างข้า...อยากได้อะไรก็ต้องได้....” ยูริแกล้งทำเสียงหยิ่งๆเล็กน้อยซ่อนความน้อยใจไว้ ร่างสูงหอมแก้มใสๆของเจสสิก้าก่อนจะค่อยๆคลายอ้อมแขนปล่อยให้คนในอ้อมกอดเป็นอิสระ
     
    “ยิ้มดีๆหน่อยสิยูล...ฝืนยิ้มแบบนี้ เจสลำบากใจนะ” เจสสิก้าพูดพร้อมกับจิ้มแก้มคนตัวสูงไปด้วย ร่างสูงฉีกยิ้มพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่คนตรงหน้าก่อนจะขโมยจูบริมฝีปากเบาๆไปทีนึง
     
    “ตั้งใจซ้อมล่ะ...”
     
     
    [Yuri talks!!]
     
    ข้าค่อยๆเดินทอดน่องออกมาตามทางที่เดินมาทีแรกอย่างช้าๆ จริงๆอยากจะเข้าไปดูให้แน่ชัดว่าเจสสิก้าของข้ากำลังซ้อมละครอะไร อย่างไร อยู่บ้าง แต่พอเห็นสีหน้าลำบากใจของเธอแล้ว ความอยากรู้อยากเห็นความหึงหวงส่วนตัวมันก็หายไปเกือบหมด
     
    ฟุบ..
     
    ข้าทิ้งตัวลงนอนบนสนามหญ้าในสวนหย่อมเล็กๆแถวนั้น กลิ่นอายชื้นๆจากพื้นดินค่อยทำให้ข้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เจอแบบนี้แล้วอยากทำให้ข้าเข้าสู่นิทราฉะมัด...ตั้งแต่เริ่มใช้ชีวิตแบบมนุษย์ ความหิว ความง่วง ความอยาก ความเหงา และที่แน่ๆ ความรัก ...ก็เริ่มเข้ามาควบคุมข้าซะแล้วสิ...ขอพักผ่อนสักงีบละกันนะ
     
    “นี่...” มีเสียงๆหนึ่งพูดขึ้น รู้ว่าเรียกข้า...แต่ไม่อยากใส่ใจสักอย่าง จะทำอะไรข้าได้....
     
    “เฮ้!” 
     
    “มีอะไร!!” ในที่สุดข้าก็ทนต่อเสียงเรียกไม่ไหว ข้าลืมตาขึ้นโพล่งพร้อมกับตะคอกใส่ผู้ที่เรียกข้า
     
    “จำฉันได้มั้ย?” ข้าเพ่งมองใบหน้าที่คล้ายๆข้าของเจ้าคนที่เรียกข้าอย่างไตร่ตรอง....ถ้าจำไม่ผิด...
     
    “เจ้า!!”   ไอเจ้าหนูยุนอาอะไรสักอย่างที่เจสแนะนำวันนั้น....
     
    “อะฮะ! ไหงมานอนตรงนี้เนี่ย พี่สิก้าก็ไม่ได้อยู่แถวนี้นี่” เจ้าเด็กนั่นพูดพร้อมกับมองไปรอบๆท่าจะหาเจสของข้า
     
    “ข้าไม่อยากรบกวนเจส....” ข้าตอบอย่างใจเย็น...ทั้งๆที่เจ้าหนูก็ไม่ได้กวนอะไรข้านักหรอกนะ แต่พอเห็นสายตาของเจ้าหนูตอนพูดถึงหัวใจของข้าแล้วมันรู้สึกหึงและหวงมากๆเท่านั้นเอง....
     
    “เล่นบาสเป็นมั้ย” เจ้าหนูยุนอาพูดพร้อมกับประคองลูกกลมๆในมือของเขาทำท่าโยน บาส...บาส...คืออะไรงั้นหรือ...
     
    “ดูท่าจะไม่เป็น...เอางี้ เล่นกันง่ายๆ เอาไอลูกเนี่ย โยนเข้าห่วงที่เห็นตรงนั้น ไม่มีกติกา...” ข้ามองตามมือของเด็กนั่นไปที่แป้นใหญ่ๆในสนามข้างหน้า ก่อนจะแบมือขอสัมผัสลูกที่ว่านั่นมาโยน มา เดาะเล่น
     
    “ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน....ฉันอาจจะแพ้เรื่องความรัก แต่เรื่องบาสนี่ฉันไม่ยอมแน่” เจ้าหนูจ้องหน้าข้าเขม็งพร้อมกับพูดประโยคเหล่านี้ออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง มันทำเอาข้ารู้สึกสนุกไม่น้อยเชียวล่ะ ที่กำลังอาจจะได้ทำเด็กแถวนี้ผิดหวังขึ้นมา...ก็ถ้าแค่เอาไอลูกนี้ยัดลงห่วงนั้นก็จบใช่มั้ยล่ะ...เจ้าหนูนั่นบอกเอง ไม่มีกติกา
     
    “หึหึ...แต่ข้าไม่ยอมแพ้สักเรื่องให้เจ้าหรอกนะ...ไม่ว่าเรื่องความรักหรือเรื่องของไอลูกนี่ ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ดู...”
     
    “ครึ่งชั่วโมง....เกมนี้ ใครได้แต้มนำกว่าชนะไป...เล่นแก้เซ็งเท่านั้น”
     
    ข้าหัวเราะในลำคอน้อยๆเมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นของเจ้าหนูนั่น....ก่อนจะลองเดินเดาะลูกนั่นไปตามทางเพื่อเข้าสนาม ....การแข่งครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของหัวใจเท่านั้น แต่มันเป็นเรื่องแห่งศักดิ์ศรีของคนอย่างข้าอีกด้วย!
     
    [Finish!!   continue Chapter 9]
     
     
     
     

    ---------------------------------------
    อยากตะโกนกู่ร้องให้ก้องโรงเรียนว่า....

    "My arm isn't your toy~!!!!" กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

    มันจะเป็นแบบนี้แทบทุกคน...คือ เดินเข้ามา จับๆแขนไรท์เตอร์ และก็เริ่มบีบดู - -*  บีบเพื่อ!!!???  โฮกกกกกก

    เจ็บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ




    ตอนนี้  อ่าน NC นิดๆช่วงแรก คงผิดหวังกันล่ะสิ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ  แต่เดี๋ยวมีคืนนนนนนน แน่นอนน

    อิอิ  ^^   อยากให้ต่อ....ไวๆ....ขอแรงเยอร์นิดนึง  ตอนหน้า....มันจะมาหาคุณ  คุคุคุคุคุ

    ไรท์เตอร์ก็คิดนะ ...ว่า ฟิคสนุกโดยไม่ต้องมี NC ได้มั้ย  แต่พอแต่งไปแต่งมา มันก็ชักอยากจะหาอะไรให้รีดเดอร์แฮปปี้กันบ้าง - -"


    ก็แค่เกิดอารมณ์อยากลง.....หลังจากเริ่มรู้ว่า T T คนอ่านหายไปฮวบจริงๆ เอาเถิดดดด

    จะพยายามปั่นให้ไว และลงให้ต่อเนื่องเหมือน Tempt เน้อ ^ ^   

    P.S. แขนมันไม่หายหรอก -  -  ถ้ารอให้มันหายแล้วมาแต่งฟิคต่อ รีดเดอร์คงต้องรออีกเป็นปี เพราะมันอักเสบเรื้อรัง - -
    P.S.2     ....โป้ง นักอ่านเงาแล่ว....  ( T_T )
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×