ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    True love at first sight..รักแท้แรกพบ [Yuri][Fic:SNSD]

    ลำดับตอนที่ #6 : 5 love >> "Who's that annoying girl??!!"

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 53


    Chapter 5
     
    “อื้ออออ....” เจสสิก้าส่งเสียงขัดใจเมื่อพลิกตัวไปทางไหนก็ควานหาตัวร่างสูงไม่เจอ ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นและขยี้ตาช้าๆ ก่อนจะรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อไร้วี่แววคนที่เคยนอนกอดคืนก่อน..หายไปไหนกันนะ....ร่างบางค่อยๆนึกทบทวนความจำก่อนช่วงก่อนจะเผลอหลับไปเมื่อคืนทีละนิดๆจนนึกได้หมด
     
    “ยูล...!” ร่างบางตะโกนเรียกชื่อคนตัวสูง...หากยูริอยู่...ก็ต้องมาหาเธอหรือไม่ก็ต้องตอบเธอทางโทรจิตแล้ว...เจสสิก้าพยายามติดต่อกับยูริหลายครั้งแต่ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
     
    กุ๊กกรู~ กุ๊กกรู~
     
    “ตายแล้ว!!” เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้นทำให้เจสสิก้าต้องรีบลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคาบเช้าวันนี้อาจารย์สุดโหดประจำมหาลัยเป็นผู้สอน
     
     
    ซ่า~
     
    สายน้ำที่ไหลลงผ่านตามร่างกาย...ยิ่งทำให้เจสสิก้านึกถึงยูริขึ้นมา...รอยแดงๆที่ถูกทำให้เกิดขึ้นตามร่างกายมันทำให้เธอหัวใจเต้นรัวขึ้นได้ทุกทีที่ได้เห็น...รอยแดงแห่งความปรารถนาที่บอกให้เธอรู้ตัวเองว่า..เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อีกต่อไป...รอยแดงที่ชวนให้เธอนึกถึงค่ำคืนที่เธอกับยูริมีความสุขด้วยกัน....
     
    “ยูล...อย่าหายไปนานนักสิ...แค่ชั่วโมง...ไม่สิ...แค่สิบนาทีเจสก็จะแย่แล้วนะ....”  ร่างบางพึมพำพร้อมกับลูบไล้ไปตามสัมผัสจากคนตัวสูงที่ยังคงปรากฏอยู่ช้าๆไปพร้อมกับสายน้ำที่ไหลผ่านลงมาเป็นสายชำระล้างฟองสบู่ที่ยังอยู่ตามร่างกายออกไป...
     
     
    เจสสิก้าวันนี้ไม่มีอารมณ์และเวลาพอที่จะเดินทอดน่องไปมหาลัยได้ เมื่อจิตใจยังคงกังวลหนักอยู่อย่างนี้จนเผลอใช้เวลาอาบน้ำไปเกือบชั่วโมงครึ่งทำให้เธอมีเวลาเพียงแค่ ครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปมหาลัยและหาอะไรทานรองท้องให้เรียบร้อยจึงเลือกนั่งรถเมล์แทน....นั่งไปก็คิดถึงตอนที่ยูริงอนเธอบนรถเมล์ก็อดอมยิ้มไม่ได้
     
    “แฮ่กๆ ขอบคุณค่ะ” เสียงกระหืดกระหอบจากผู้โดยสารที่เพิ่งขึ้นมาใหม่ทำให้เจสสิก้าต้องรีบหุบยิ้มเมื่อกลัวโดนหาว่าบ้า...แล้วทำไมวันนี้คนขึ้นน้อยจังนะ...มีแค่เธอกับคนที่เพิ่งขึ้นมาใหม่เอง
     
    “พี่สาว แฮ่กๆ นั่งด้วยได้ปะ?” คนที่เพิ่งขึ้นรถมาขอเธอนั่งด้วยพร้อมหอบหนัก ดูท่าคงรีบวิ่งมาจากป้ายสักป้าย..เจสสิก้าไม่ได้ตอบอะไรในเมื่อไม่จำเป็น...รถนี่มันรถสาธารณะใครจะนั่งตรงไหนก็ไม่เห็นเกี่ยวไรกับเธอ....ร่างบางทำท่าไม่ใส่ใจพร้อมกับเบนสายตาไปมองวิวรอบนอกรถแทน
     
    “อ่า...ร้อนจัง” หญิงสาวท่าทางดูห้าวๆกวนๆเห็นเจสสิก้าไม่ตอบอะไรก็เลยนั่งลงเบาะข้างๆเอาซะเลย...ยิ่งเห็นเจสสิก้าดูเครียดๆแถมยังเป็นสาวสวยหุ่นดีขนาดนี้...มันน่าจีบฉะมัดเลย ให้ตายเหอะ~
     
    “พี่สาว...พี่เป็นคนสวยมากเลยรู้ป่าวอ่ะ วิ้งมากเลยอ่ะ ออร่าเปร่งประกาย~” เจสสิก้าได้แต่ยิ้มน้อยๆให้กับผู้ที่ชมเธอแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจรับมันเข้าไปในหัวซักเท่าไหร่...เมื่อตอนนี้ในหัวของเธอเก็บคำชมของยูริที่ให้เธอไว้คนเดียวก็เกินพอแล้ว...เจสสิก้ามองดูสร้อยข้อมือที่ยูริให้สร้อยข้อมือที่ห้อยจี้รูปดาวรูปหัวใจเล็กๆไว้...
     
    “ฉันชื่อ ยุนอานะ อิมยุนอา” เด็กสาวแนะนำตัวเองพร้อมยิ้มกว้างและตบอกตัวเองป้าบใหญ่

    “อือ...” ร่างบางพยักหน้าเหมือนจะรับรู้ แต่ในใจกลับคิดว่า เด็กคนนี้พูดมากเสียจริง....
     
    “อ๊ะ พี่สาวดูนั่นดิ เขาเปิดพิพิธภัณฑ์ใหม่แล้วอ่ะ” 
     
    “โอ๊ะ คุณลุงร้านซุปตรงนั้น วันนี้มาเปิดร้านช้าจัง”
     
    “โอ้ว เซ็กซี่เกิร์ลตรงนั้น หุ่นสุดยอดเลยอ่ะ~”
     
    “ขอโทษนะคะ...จะลงแล้ว” เจสสิก้าขอทางพร้อมกับลุกขึ้นจากที่นั่งไปที่ประตูรถทันที...ในใจก็โล่งที่ว่าจะหลุดพ้นจากเด็กพูดมากคนนี้ได้ซักที…คนอะไรชี้ให้ดูโน่นดูนี่ได้ตลอดทางทั้งๆที่น่าจะเห็นอยู่ว่าเธอไม่ได้อยากจะมองสักนิด
     
     
     
    “แฮ่กๆๆ พี่สาวเดินเร็วจริง...พี่ทำยุนทึ่งในความสวยจนลืมลงป้ายเลยรู้มั้ย....” ผ่านมาจากตอนที่เธอลงรถ 5 นาที ก็มีเจ้าเด็กพูดมากตามมารังควานเธอต่อ...อะไรกันเนี่ย...อีกนิดเดียวก็พ้นประตูมหาลัยไปแล้วเชียว
     
    “พี่สาวเรียนที่นี่เหรอ....ยุนก็เรียนที่นี่ อยู่วิศวะ   ปี 1” ยุนอาบอกเจสสิก้าอย่างภาคภูมิใจ...ใครๆก็รู้วิศวะที่นี่เข้าได้ยากที่สุดในเกาหลี...แต่ร่างบางนี่สิ กลับคิดว่า
     
    ‘...จะไปทำบ้านใครพังหรือเปล่านะ...เด็กคนนี้...’
     
    “พี่สิก้าคะ เดี๋ยวเย็นนี้เข้าชมรมด้วยนะคะ”
     
    “จ้ะ...” เด็กปี 1 ที่ทำหน้าที่เป็นฝ่ายประสานงานในชมรมที่เธออยู่ เดินเข้ามาบอกเจสสิก้าให้เข้าชมรม ก่อนจะเดินออกไปอย่างโล่งอกที่ทำงานบรรลุแล้ว หลังจากต้องดักรอเจ้าหญิงเกือบสายเสมอมา 1 ชั่วโมงเต็ม ยุนอามองดวงตาผ่านแว่นของเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นอย่างสำรวจก่อนจะกลับไปสนใจเจสสิก้า...แค่เด็กท่าทางเฉิ่มๆคนนั้นเป็นใครกันนะ...ไม่ได้สนใจหรอกนะ...แค่รู้สึกดีด้วยแปลกๆ
     
    “พี่สาวชื่อ สิก้า เหรอ”
     
    “อือ เจสสิก้า...” ร่างบางต้องบอกชื่ออย่างเสียมิได้ เมื่อคำว่ามารยาทยังคงค้ำคออยู่บ้าง
     
    “เรียกพี่เจสได้ปะ เรียกพี่สิก้ายาวไปอ่ะ” เด็กสาวพูดอย่างเป็นกันเอง แต่กลับไปกระตุกหัวใจเจสสิก้าขึ้นมาแว๊บหนึ่ง....
     
    “ไม่ได้...เรียกสิก้าล่ะดีแล้ว..” เสียงที่ดูหม่นหมองลงไปอีกทำให้ยุนอารู้แล้วว่าคงไปสะกิดโดนอะไรเข้าแน่ๆ
     
    “เจส แฟนพี่คงเรียกได้คนเดียวล่ะสิ~ ว้า~”
     
    แฟน...เหรอ...ยูริอาจจะไม่รู้จักคำนี้...ถึงไม่เคยขอเธอเป็นแฟน...ยูริอาจจะคิดว่าที่ทำอยู่เป็นการบอกรักแล้ว...ถึงไม่เคยบอกเธอว่ารัก...แต่รู้บ้างมั้ย...ว่าบางทีผู้หญิงบางคนก็อยากจะได้ยินคำเหล่านี้นะ...
     
    “พี่สิก้า พี่มีแฟนแล้วเหรอ?”
     
    “ไม่รู้!!! เธอเลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั้ย!!!” เจสสิก้าที่กำลังเกิดความน้อยใจเผลอตะคอกใส่ยุนอาเข้าไปเต็มๆ ทำเอาหญิงสาวหน้าเหวอไปทันที
     
    “อ...เอ่อ...ยุนขอโทษ...เอ่อ...”
     
    “ขอตัวก่อน..!” ร่างบางขอตัวอย่างลวกๆและรีบเดินไปทางคณะที่เธออยู่ทันที โดยไม่สนใจรุ่นน้องที่กำลังทำอะไรไม่ถูกอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
     
     
    เจสสิก้านั่งเรียนคาบเช้าด้วยสภาพที่ไร้สมาธิสุดๆ ในหัวของเธอมีนึกถึงแต่คนตัวสูงที่หายไป...ถึงแม้จะแค่คืนเดียวก็เถอะ...ทำไมหัวใจเธอมันถึงทรมานแบบนี้นะ….มันทั้งปวด...ทั้งกระวนกระวาย เมื่อรู้ว่าคนที่รักได้หายไปโดยที่ก่อนหน้าที่เขาจะไปเธอมีโอกาสคุยด้วยดีๆแล้วแท้ๆ...แต่เธอกลับไม่ทำ..และยังปล่อยให้เขาหายไปง่ายๆ...เธอมันทั้งโง่ทั้งบ้าเลย...
     
    ออด~
     
    “จบสักที...” ร่างบางพึมพำเบาๆก่อนจะเก็บอุปกรณ์การเรียนที่เอามาตั้งกองไว้บนโต๊ะเฉยๆเข้ากระเป๋าถือและค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ...เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่นักเรียนนักศึกษาดีเด่นอย่างเธอรู้สึกเบื่อการเรียนขนาดนี้...เจสสิก้าคลึงขมับตัวเองเบาๆไปพร้อมกับเดินโซเซออกจากห้องเลชเชอร์
     
    “เอ่อ....” เจสสิก้าออกจากห้องมาก็เจอยุนอายืนอ้ำๆอึ้งๆอยู่หน้าห้อง ร่างบางปลายตามองหน้ารุ่นน้องเธอนิดนึงก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง...อย่ามาตามจอแจเธอได้มั้ย....
     
    “เดี๋ยวสิ พี่สิก้า!” ยุนอาวิ่งมาตัดหน้าเจสสิก้าไว้ ทำให้ร่างบางเริ่มขมวดคิ้วด้วยความขัดใจ
     
    “เมื่อเช้า...ยุนขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่โมโห...ขอโทษนะ” เจสสิก้าพยักหน้ารับน้อยๆอย่างไม่ใส่ใจและเดินเลี่ยงไปข้างๆผ่านตัวร่างสูงไปทันที ทำเอายุนอากัดริมฝีปากแน่นด้วยความเครียดก่อนจะรีบเดินมาขนาบข้างและชี้ที่หนังสือเรียนสองสามเล่มที่เจสสิก้าถืออยู่
     
    “หนักมั้ย ยุนช่วยถือ?” แน่นอน...เจสสิก้าส่ายหน้า
     
    “พี่จะไปทานข้าวใช่มั้ย...เดี๋ยวยุนเลี้ยงเองนะ” และเจสสิก้าก็ส่ายหน้าอีกครั้งพร้อมกับลอบถอนหายใจ
     
    “นะ...ถือว่าไถ่โทษที่ปากไม่ดี ไปโรงอาหารกันเถอะ~!!” ยุนอาพูดพร้อมกับเกี่ยวแขนเจสสิก้าเดินทันที ร่างบางปลายหางตามองแขนที่โดนล๊อคไว้เล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆดึงออกอย่างมีมารยาท ทำให้ยุนอาต้องโค้งขอโทษรุ่นพี่ตัวเองน้อยๆ
     
    ตอนนี้เธอพยายามหวังว่าจะเจอคนที่เธอพอจะรู้จักนั่ง อยู่ในโรงอาหารจะได้เข้าไปขอนั่งด้วย...เผื่อเจ้ารุ่นน้องคนนี้จะไม่กล้าเข้ามายุ่ง แต่ก็ผิดหวัง เมื่อโรงอาหารวันนี้ว่างซะจนแทบจะนอนกลิ้งไปมาได้
     
    “ทีวันนี้คนน้อย....” เจสสิก้าบ่นอุบอิบเบาๆ แต่เพราะเสียงใสๆที่ลอดออกมาทำให้ยุนอารีบหันขวับมามองหน้าผู้พูดทันที....เสียงแรกในรอบสิบนาทีที่เดินมา!!!
     
    “เนอะ คนน้อย...พี่สิก้ายอมพูดแล้ว สุดยอดเลยอ่ะ!” ยุนอายิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะรีบเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เจสสิก้า ซึ่งก็ต้องหน้าแตกอีกครั้งเมื่อเจสสิก้าเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่ยุนอาเลื่อน...คนตัวสูงได้แต่หัวเราะแห้งๆและนั่งเก้าอี้นั้นแทน
     
    เจสสิก้ามองตามร้านค้าดูว่าวันนี้เธอจะทานอะไรดี แต่สายตาก็ไปสะดุดกับโถใส่ลูกอมหลากสีที่ร้านขายของชำเล็กๆท้ายโรงอาหาร...หากยูริเห็นว่าร้านนี้มีลูกอมเยอะขนาดนี้จะดีใจแค่ไหนนะ...ว่าแล้วร่างบางก็ค่อยๆลุกขึ้นและเดินไปที่ร้านนั้นราวกับต้องมนต์สะกด...หัวใจสั่งสมองให้ค่อยๆเปิดโถลูกอมและหยิบขึ้นมากำใหญ่
     
    “เท่าไหร่คะ?” ร่างบางถามป้าที่นั่งอยู่พร้อมกับยื่นเงินให้ ก่อนจะเก็บลูกอมเหล่านั้นใส่ไว้ในช่องหน้าของกระเป๋าถือตัวเองอย่างดี
     
    “พี่ชอบอมลูกอมเหรอ...” ยุนอาที่เดินตามมาและยืนมองอยู่นานถามขึ้นเมื่อเจสสิก้าเก็บลูกอมเสร็จ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าเบาๆ แต่การส่ายหน้าครั้งนี้ต่างจากครั้งที่แล้วตรงที่ ร่างบางอมยิ้มน้อยๆ....ยุนอาถอนหายใจเบาๆและเลิกคิดที่จะถามอะไรเกี่ยวกับลูกอมนี้ต่อ
     
    “ยุนสั่งสปาเก็ตตี้ไว้ให้แล้ว...อยู่บนโต๊ะนะ”
     
    “สปาเก็ตตี้...” เจสสิก้าพึมพำเบาๆ ก่อนจะนึกถึงสปาเก็ตตี้ครีมซอสที่ยูริทำไว้ให้เธอก่อนที่จะหาย...คิดแล้วหัวใจก็กระตุกวูบอีกครั้ง...ใบหน้าที่อมยิ้มอยู่เมื่อครู่ได้หายไปอีกครา
     
    “ม..ไม่ชอบเหรอ...อย่างอื่นก็ได้นะ เดี๋ยวไปสั่งให้ใหม่...” ยุนอาอึ้งไปทันทีเมื่อรอยยิ้มที่เคยมีน้อยๆเมื่อกี๊หายไป ร่างสูงกระวนกระวายที่จะเปลี่ยนอาหารจานนั้นมากจนเจสสิก้าที่เริ่มได้สติส่ายหน้าเบาๆไม่ให้ยุนอาเปลี่ยน
     
    “ไม่เป็นไร...นี่ล่ะดีแล้ว..ขอบคุณนะ”  ร่างบางตอบพร้อมมองหน้ายุนอาชัดๆก็นิ่งไปเล็กน้อย...เมื่อรู้สึกว่าใบหน้าของยุนอาคล้ายกับยูริบ้าง...ยุน...ยูล..งั้นเหรอ
     
    “ยุน..พูดภาษากรีกได้มั้ย....”
     
    “ไม่อ่ะ...ยุนอยู่วิศวะนะ เรื่องภาษาอย่าให้พูด...” ยุนอาทำหน้าบรึ๊ย เจสสิก้าเห็นแล้วก็ค่อยๆยิ้มออกมาอีกครั้ง...คงเพราะเริ่มเห็นว่าหน้าตาเหมือนยูริล่ะมั้ง...รอยยิ้มเลยออกมาโดยไม่รู้ตัว
     
    “อือ...ขอบคุณนะสำหรับอาหาร...” เจสสิก้าขอบคุณพร้อมกับเริ่มทานสปาเก็ตตี้จานนั้น...ยุนอาเห็นเจสสิก้าเริ่มทานก็ดีใจยิ้มร่าและค่อยๆเล่าเรื่องต่างๆให้รุ่นพี่คนนี้ฟังหลากหลายเรื่อง...ตั้งแต่ชีวิตส่วนตัวยันนินทาชาวบ้าน...
     
    “อิ่มแล้วล่ะ...ไปก่อนนะใกล้คาบต่อไปแล้ว” เวลาผ่านไปสักพักเจสสิก้าก็ทานไปได้เกือบหมดและรวบช้อนส้อมพร้อมกับโค้งขอบคุณยุนอา ซึ่งร่างสูงก็รีบโค้งตอบแทบไม่ทัน
     
    “ยุนไปส่งที่ห้องนะ!”  

     
     
    ตลอดทางเดินยาวที่ทอดไปทางตึกใหญ่ของคณะนิเทศน์ ยุนอาถามนู่นถามนี่เจสสิก้าตลอดเวลา...ร่างบางตอบบ้างไม่ตอบบ้างแล้วแต่จะตอบ...บางคำถามก็ดูจะล้วงลึกชีวิตเธอเกินไปก็จะหัวเราะแห้งๆตอบแทน...บางคำถามที่ไม่ค่อยล่วงเกินชีวิตเธอมากก็จะตอบๆไป...อย่างเช่น
     
    “พี่สิก้ามีชื่อเกาหลีเปล่าอ่ะ”
    “ก็จองซูยอน...”
     
    “ปีนี้พี่อายุเท่าไหร่เหรอ”
    “ก็ 21”
     
    “บ้านพี่อยู่แถวไหนอ่ะ”
    “สองแยกไฟแดงถัดจากป้ายโรงเรียน”
     
    “พี่เข้าห้องก่อนนะ...” ในที่สุดทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าห้องเลชเชอร์ของเจสสิก้า ขณะที่เจสสิก้ากำลังจะหันหลังกลับ ไม่รู้อะไรดลใจให้อิมยุนอาดึงตัวร่างบางไว้ พร้อมกับแตะริมฝีปากเบาๆที่ข้างแก้มเนียนใส
     
    เพียะ!!
     
    “ทำอะไรน่ะ อิมยุนอา!!” เจสสิก้าตกใจจนถึงขนาดตบรุ่นน้องเต็มฝ่ามือ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะโดนล่วงเกิน...ร่างบางแสดงสีหน้าผิดหวังพร้อมกับสายตาโมโหใส่ยุนอาที่ก้มหน้านิ่งอยู่ เมื่อเห็นว่ายุนอาไม่ตอบอะไรสักอย่าง เจสสิก้าก็ผลักอกคนตัวสูงออกไปและวิ่งเข้าห้องทันที ยุนอาที่เพิ่งได้สติโครงศีรษะตัวเองพร้อมกับจับแก้มที่โดนตบเบาๆและเปิดประตูห้องออกอย่างรวดเร็ว
     
    พลั่ก!!!
     
    “อย่ามาเสียมารยาทกับพี่อีก!!! อิมยุนอา!!!” กล่องแว่นอันขนาดประมาณฝ่ามือถูกโยนใส่หน้าเธอพร้อมกับใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเจสสิก้าทำให้ร่างสูงต้องถอยกลับออกไปอย่างช่วยไม่ได้
     
    “เมื่อกี๊แกทำบ้าอะไรลงไปวะ อิมยุนอา ไอบ้าเอ้ยยยย!!!!”
     
     
    “เฮ้อ...” เจสสิก้าถอดแว่นออกอย่างอ่อนแรงพร้อมกับฟุบลงบนโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน...ในที่สุดก็เลิกเรียน...ร่างบางยกข้อมือตัวเองขึ้นมาดูสร้อยข้อมือรอบที่ล้านพร้อมกับเอามันมาแนบริมฝีปากตัวเองเบาๆ
     
    “อยู่ไหนเหรอยูล...คิดถึงจนแทบบ้าอยู่แล้วนะ....”
     
    แปะ!
     
    แล้วความคิดทุกอย่างก็ต้องหยุดลงเมื่อนมรสจืดเย็นเจี๊ยบกล่องเล็กๆถูกแปะลงบนหน้าผาก ตามด้วยแซนวิชไส้ทูน่าที่ยัดใส่มาเต็มที่ภายในถุงพลาสติกที่ห่อไว้วางลงข้างหน้า เจสสิก้ามองหน้าผู้มาใหม่ช้าๆก่อนจะรู้สึกแย่หน่อยๆเมื่อเห็นรอย 4 นิ้วบนแก้มขาวใสของคนตัวสูง
     
    “หิวมั้ย? หิวก็ทานละกัน...แล้วก็ขอโทษสำหรับเมื่อตอนกลางวัน...” ยุนอาพูดทั้งๆที่ไม่มองหน้าเจสสิก้า...เธอไม่มีหน้าไปมองหน้าคนๆนี้หรอก...ก็เธอเสียมารยาทขนาดนั้น...ใครจะกล้ามอง...ร่างสูงเลื่อนเก้าอี้แถวหน้าออกและนั่งหันหน้ามาทางร่างบางที่นอนเอาคางเกยแขนตัวเองอยู่
     
    “มาใกล้ๆซิ” ยุนอาส่ายหน้าดิ๊กไม่ยอมเข้าไปใกล้ ทำให้เจสสิก้าต้องตวัดสายตาใส่จึงยอมเขยิบเข้ามาใกล้โต๊ะของเจสสิก้ามากขึ้น ร่างบางใช้นิ้วจิ้มเบาๆที่แก้มเนียนๆที่ตอนนี้มีรอยแดงๆ 4 นิ้วประทับอยู่ ยุนอากระตุกไปเล็กน้อยเมื่อยังคงรู้สึกแสบอยู่
     
    “เจ็บล่ะสิ...ใครใช้ให้ทะลึ่ง...” ร่างบางเกลี่ยนิ้วตรงรอยแดงเบาๆพร้อมกับถอนหายใจ
     
    “ขอโทษ...” เสียงอ่อยๆของคนตัวสูงทำให้เจสสิก้าต้องแกล้งจิ้มไปแรงๆที่แก้มของยุนอาจนเจ้าตัวสะดุ้งตัวโยนจนเกือบจะล้มหัวฟาดฟื้น
     
    “ไปเอาอิมยุนอาที่ร่าเริงกลับมาเดี๋ยวนี้...แล้วถ้าหากกลับมาเมื่อไหร่บอกเจ้าเด็กบ้านั่นด้วยว่า พี่สิก้าคนนี้รอเลี้ยงไอติมเด็กทะลึ่งอยู่ที่ร้านข้างมหาลัย!!!” เจสสิก้าพูดเสียงดังพร้อมกับหิ้วกระเป๋าเดินตรงไปที่ประตูทันที
     
    “เอ๋...เดี๋ยวบอกให้...เฮ้ยยย!! ไม่ใช่ เดี๋ยวสิพี่สิก้า!! เลี้ยงจริงอ่ะ!!! รอก่อนดิ!!! อ๊ากกกกก”
     
    “บอกตานั่นด้วยให้เอากล่องแว่นพี่คืนมา~!!!” และแล้วก็จบด้วยการทวงกล่องแว่นคืน...ชีวิต
     
    ยุนอายิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งตามเจสสิก้าที่เดินลิ่วไปก่อนแล้วอย่างมีความหวัง...ดูท่าทางของพี่สิก้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเธอ งานนี้อิมยุนอาคงจะพอหวังได้ล่ะ....ใครมันจะไปรู้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น...ตราบใดที่พี่สิก้ายังไม่มีคนรักหรือคนรักของพี่สิก้ายังไม่ปรากฏตัว...เธอก็ยังมีสิทธิ โลกนี้ยังมีความหวังอยู่เสมอล่ะในชีวิตของอิมยุนอา
     

    ---------------------------------------------
    SoShi comeback  28 Jan 10  >>>>> OH!!!  full album

    โซชิกลับมาแล้ว แต่ไรท์เตอร์กำลังจะไป - -*
    รีดเดอร์หายไปเยอะ..+..ไรท์เตอร์แขนเจ็บหนัก..+..งานหนัก..+..ใกล้สอบ ส่งผลให้

    จะมาอัพช้าลงมากค่ะ...ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย    

    บอกไว้ตอนที่แล้วๆ แล้วว่า ฟิคเรื่องนี้อาจจะไม่สนุก ทำให้ทุกคนผิดหวัง...ไม่งั้นรีดเดอร์คงไม่หายไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

    เฮ้...ยิ้มไม่ออกละนะ  แต่ก็จะพยายาม  ^______^ "
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×