ลำดับตอนที่ #25
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : 20 love >> "At first sight...and...At last sight"(100%)
Chapter 20
“อาจารย์...มีเวลาอีกนานเท่าใดหรือ...” แทยอนถามอาจารย์ผู้ที่ได้ศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์มาจนชำนาญ ผู้อาวุโสแสดงสีหน้าเคร่งเครียดทันทีหลังจากได้ทำการตรวจยูริก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆและมองทั้งแทยอนและยูริอย่างปลงๆ
“อย่างมาก...2 ชั่วยาม ย้ำ...แค่อย่างมากนะ อาจจะเร็วกว่านั้นก็เป็นได้”
“เวลาช่างน้อยเหลือเกิน....” ยูริพึมพำอย่างหนักใจก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นและกอดเข่าตัวเองแน่นทันที ร่างเล็กผู้เป็นพี่ได้แต่มองด้วยสายตาสงสารและหมดหนทางและปัญญาที่จะช่วย เมื่อยูริเลือกทางที่ยังไงจุดจบก็ต้องเป็นเช่นนี้
“ยูริ...อย่าทำเวลาอันน้อยนิดของเจ้าให้สูญเปล่าไปกับการนั่งถอนหายใจเลย....หากเป็นข้า...ข้าจะเตรียมของขวัญชิ้นสุดท้ายไว้ให้กับคนที่ข้ารัก ตอนนี้เจ้าอยู่บนที่ของเจ้า มันไม่ใช่เรื่องยากนักหรอกหากจะขอยืมพลังจากที่นี่สร้างของสักชิ้นหนึ่ง....ข้าให้เวลาเจ้าละกัน อีกสักครู่ข้าจะกลับมา ขอไปเอาของกับท่านอาจารย์ก่อน”
“ของขวัญงั้นเหรอ....ข้าจักทำอะไรดีเล่า...” ร่างสูงพยายามนึกอยู่นานว่าจะทำอะไรเพื่อคนที่เธอรักเป็นครั้งสุดท้าย...เพราะตอนนี้ของมีค่าของมีประกายสิ่งใด คนรักของเธอคงไม่อยากจะได้มัน...และเจสสิก้าไม่เคยคิดอยากจะได้สิ่งเหล่านั้นมาตั้งแต่ต้นแล้ว...
ยิ่งคิด...อดีตในหนึ่งปีก็ยิ่งหวนกลับเข้ามาในหัวสมอง นับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน...จนถึงวันที่จะต้องจากลา มีเรื่องราวมากมายนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเหล่านี้...ความทรงจำในช่วงหนึ่งปีนี้ มันมากมายซะยิ่งกว่าความทรงจำในตลอด 500 กว่าปี ที่ได้มีลมหายใจมาเสียอีก
สุดท้าย ยูริก็ไม่สามารถคิดหาของที่จะให้เจสสิก้าได้เก็บไว้เพื่อคิดถึงเธอได้เลย...จึงได้แต่ เสกกระดาษลวดลายงดงามขึ้นมาแผ่นหนึ่ง และตั้งใจจรดปลายปากกาขนนกสีขาวนวลลงไปบนกระดาษแผ่นนั้นอย่างบรรจง ด้วยน้ำหมึก...และกระดาษ ที่ไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือมนุษย์ เพราะฉะนั้น...ทุกตัวอักษร ทุกถ้อยคำ ทุกความรู้สึกที่ยูริได้เขียนมันลงไป....มันจะคงตราตรึงอยู่ภายในม้วนกระดาษแผ่นนั้น ชั่วนิรันทร์
“มันอาจดูไม่มีราคา...แต่ยูลอยากให้เจสจำทุกถ้อยคำในกระดาษแผ่นนี้ไว้นะ...แล้วรอวันที่ยูลจะได้เจอเจสใหม่อีกครั้ง...” กระดาษเวทย์มนต์ย่อมไม่ใช่เพียงแค่กระดาษที่ไม่มีวันสลายธรรมดา....เมื่อทุกคำพูดของยูริที่ได้เอ่ยออกไปเมื่อครู่ กลายเป็นตัวอักษรสลักสีทองฝังแน่นติดอยู่ที่ม้วนกระดาษก่อนที่เชือกเส้นเล็กจะปรากฏขึ้นมาและพันรอบม้วนกระดาษนั่นอย่างแผ่วเบา...พร้อมให้ยูริเก็บมันไว้กับตัวรอเวลาที่จะได้มอบให้คนที่เธอรัก...ในช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้พบกัน
“แทยอน....เจ้าจงจำไว้ให้ดี ทันทีที่ร่างกายของยูริสลาย เจ้าจงรีบเปิดปากถุงใบใหญ่นี้ออกเพื่อให้มันเก็บทุกผงธุลีซึ่งมันก็คือ น้องของเจ้า...! อย่าช้าแม้เสี้ยววินาทีเดียว...!”
“ข้าจะต้องนำร่างของยูริกลับมาให้ครบแน่นอนท่านอาจารย์....”
-------------------------------------------
เม้นท์ๆๆๆๆๆๆ เม้นท์ให้เค้าหน่อย~ T T
ไม่งั้นตอนหน้าเค้าจะเปลี่ยนตอนจบ ชิๆๆๆ~
เปลี่ยนได้นะเออ...ถ้าอยากเปลี่ยน
จะเม้นท์ด่า เม้นท์ชม ไรท์เตอร์ ก็ด้ายยยย~ ไม่ว่า (แค่ลงบัญชีแค้นไว้ 555+)
อย่าเพิ่งนอยด์กันนะเออ - -* ฟิคเศร้าแล้วพาลนอยด์ไม่เม้นท์ มีเคืองนะเออ
“ยูล!” เจสสิก้ารีบวิ่งเข้ามากอดยูริทันทีที่แทยอนพาตัวร่างสูงมาคืน คนตัวสูงกอดร่างบางหลวมๆพร้อมกับจุมพิตที่หน้าผากเบาๆด้วยความรัก ก่อนจะสังเกตเห็นว่าเจสสิก้าทำตามที่แทยอนบอกเสร็จเรียบร้อย ร่างบางอยู่ในชุดที่ใส่ในครั้งแรกที่ทั้งสองได้พบกันและแน่นอนยูริก็เช่นกัน...ชุดสีดำ เพียงแต่ไม่มีผ้าคลุมผืนใหญ่และหน้ากากขนนกดังเช่นวันนั้น
“ไปไหนมาคะ รู้มั้ยเจสนั่งมองเข็มนาฬิกาทุกๆวินาทีที่มันเดิน ไม่รู้ว่ายูลจะกลับมาเมื่อไหร่”
“ไปเตรียมเซอร์ไพรส์คนบางคนมาน่ะสิ....ไม่รู้ล่ะสิ ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นข้าจัดฉากไว้”
“อะไรกันอ่ะ ยูล!! คนใจร้าย ชอบทำให้ตกใจอยู่เรื่อย!!” ยูริที่เพิ่งโกหกคำโตไปได้แต่ฝืนยิ้มอย่างเฝื่อนๆและรับฝ่ามือของคนรักที่กระหน่ำตีไหล่ตัวเองเป็นพัลวันก่อนจะเปลี่ยนเป็นดึงข้อมือของเจสสิก้าเข้าหาตัวและกอดร่างบางไว้แน่น....ความอ่อนแอหลังจากการโกหกมันทำให้ยูริแทบเก็บมันไว้ไม่ไหว
“เรื่อง city of angels น่ะ ข้าดีกว่าพระเอกยังไงรู้มั้ย...ก็ข้ารับรู้ถึงสัมผัสมนุษย์ได้ไง...ข้ารับรู้ได้ว่ากอดเจ้าแล้วมันอบอุ่นเพียงใด...มันมีความสุขเพียงใด....และมัน....มีค่าแค่ไหน ที่ข้าเลือกที่จะสร้างร่างเนื้อขึ้นมาเพื่อที่จะได้กอด...คนที่ข้ารัก”
“วันนี้เป็นวันพิเศษอะไรหรือเปล่าคะ...ทั้งเซอร์ไพรส์...ทั้งคำพูดหวานๆ ฮึ” ร่างบางเอานิ้วแตะปลายจมูกคนรักเบาๆก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยและหอมแก้มร่างสูงเบาๆ
“ก็เป็นวันพิเศษที่ เจ้ากับข้า ได้อยู่ด้วยกันไง”
“งั้นเหรอคะ แบบนี้เจสก็มีวันพิเศษทุกวันเลยสิ”
“...อืม” ยูริได้แต่ตอบรับอย่างกล้ำกลืนพร้อมกับมองนาฬิกาก็พบว่าเวลาของตนเหลือเพียงไม่ถึงชั่วโมงแล้ว ร่างสูงลอบถอนหายใจเบาๆและก็เปลี่ยนสีหน้าที่มีแต่ความกังวลเป็นสีหน้าที่มีแต่ความสุขและรอยยิ้มทันทีเมื่อเจสสิก้าผละออกจากอ้อมแขนของตน
“แป๊ปนะคะยูล ขอเจสไปเก็บของที่วางทิ้งไว้ในห้องก่อนนะคะ”
“เจส...ไม่ไปได้มั้ย....” ยูริพูดขึ้นพร้อมกับเดินไปกอดเจสสิก้าที่กำลังจะเดินขึ้นห้องจากด้านหลังแน่นทันที ร่างบางแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็กอดแขนร่างสูงตอบหลวมๆ และใช้มืออีกข้างที่เหลือสัมผัสแก้มของคนรักเบาๆเมื่อยูริวางศีรษะลงที่ไหล่ของเธอ
“ก็ได้ค่ะ เก็บของแค่นี้เอง เจสไม่ได้จะหนียูลไปไหนสักหน่อย”
“เจส...จำได้มั้ย เราพบกันครั้งแรกที่ไหน...”
“ก็...ยูลพาเจสเข้าไปในป่าข้างๆที่จัดงานประจำปีวันนั้น...หลังจากนั้นเจสก็จำอะไรไม่ค่อยได้แล้วล่ะค่ะ” เจสสิก้าตอบตามความจริงทุกอย่าง เมื่อหลังจากที่เธอโดนยูริพาเข้าไปกลางป่าตอนนั้น...ก็เหมือนเธอจะดื่มอะไรสักอย่างเข้าไป แล้วก็เริ่มมึนๆ สุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่เตียงตัวเอง....แล้วก็...นะ...อืมมมม... แล้วทำไมเธอต้องเขินด้วยเนี่ย
“อื้อ...วันนี้เราไปที่นั่นกันอีกครั้งนะ...”
...วันนี้ข้าจะทำให้เหมือนกับเวลามันย้อนกลับไปในวันแรกที่เราพบกัน....
...เราพบกันครั้งแรกที่ไหน...
...ข้าก็จะทำให้เราพบกันครั้งสุดท้ายที่นั่น...
...ให้ที่แห่งนั้นเป็นความทรงจำครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา...
“เจสเดินมาคนเดียวต้องหลงแน่เลยอ่ะ” ร่างบางพูดในขณะที่ยูริจับมือเธอแน่นพาเดินเข้ามาลานกว้างในป่า...โต๊ะเก้าอี้สไตล์กรีกโรมันชุดเดิมที่เจสสิก้าเคยเห็นในครั้งแรกที่มาก็ยังคงวางอยู่ที่ตำแหน่งเดิม เวลาโพล้เพล้ทำให้บริเวณนี้โดนฉาบไปด้วยแสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินจนเหมือนกับลานกว้างนี้เป็นอีกโลกหนึ่ง
“หากพ้นวันนี้ไปแล้ว เจ้าจะไม่มีทางหลงหากเดินเข้ามาในนี้....เจ้าจะเดินมายังที่ตรงนี้ด้วยความปลอดภัยและกลับออกไปได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน...” เพราะเส้นทางเหล่านี้ได้ถูกจดจำลงในความทรงจำของเจสสิก้าด้วยมนตราของยูริเรียบร้อยแล้ว ร่างสูงเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้คนรักและก็ค่อยๆนั่งลงอีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ
“ข้ารักเจ้านะ...”
“ทำไมอยู่ดีๆก็พูดขึ้นมาคะยูล แต่...เจสก็รักยูลนะ รักมากด้วยนะคะ”
“สิ่งที่ข้าขอบคุณเทพแห่งโชคชะตาและเทพแห่งความรักมากที่สุด คือการที่พวกเขาทำให้ข้าได้มาพบกับเจ้าและรักเจ้านี่ล่ะ...และข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า ที่ทำให้คนหัวดื้ออย่างข้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เจ้าทำให้ข้ารู้ว่าการไม่ใช้ชีวิตแบบหมดไปวันๆมันดีแค่ไหน...”
“งั้นเจสจะเก็บค่าสอนจากยูลนะ ยูลต้องจ่ายหัวใจของยูลให้เจสทุกวันด้วย”
“อะไรกัน...ข้าก็ให้เจ้าเก็บไว้หมดทั้งหัวใจแล้วไง” เจสสิก้าหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจก่อนจะลุกขึ้นและเลื่อนเก้าอี้ตัวเองไปนั่งข้างๆร่างสูงแทน
“เจสจะรักยูลแบบนี้ไปเรื่อยๆ...เราจะรักกันไปเรื่อยๆแบบนี้...เจสไม่เอาความรักจากยูลไปมากกว่านี้แล้ว...ยูลให้เจสวันละแค่นี้ก็พอ...แค่เรานั่งอยู่ด้วยกัน ทานข้าวด้วยกันก็พอแล้ว...เจสไม่อยากใช้ความรักของยูลมากจนเกินไป...เจสกลัวสักวันมันจะหมด...”
“ไม่รู้หรือไง...ความรักของข้าที่ให้เจ้ามันไม่มีวันหมด...เพราะข้าจะไม่มอบมันให้ใคร...ข้าจะมอบหัวใจและความรักของข้าทั้งชีวิตไว้ให้เจ้าเพียงคนเดียว...”
“อืม”
ใจจริงยูริอยากยืดหัวข้อในการคุยครั้งนี้ให้มันนานกว่านี้...เธออยากให้เจสสิก้ารู้ว่าเธอรักมากกว่านี้...เธออยากได้ยินเจสสิก้าบอกว่ารักเธอมากกว่านี้...แต่ด้วยเวลาที่ดูจะไม่พอแล้วสำหรับเธอ...มันทำให้ทุกอย่างต้องจบลง
“เจส...รู้มั้ย พวกข้าน่ะบางทีก็ไม่ได้อมตะเสมอไปหรอกนะ...พวกเราสามารถสลายได้ หากทำอะไรบางอย่างผิดธรรมชาติจากที่พวกเราทำกัน...เช่น อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์...”
“แล้ว...ยูล....”
“ร่างกายของพวกเราจะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นสลายกลายเป็นผุยผง...” ยูริไม่ปล่อยโอกาสให้เจสสิก้าได้ถามอะไรเธอสักครั้ง เมื่อตอนนี้....เวลาใกล้จะครบ 2 ชั่วโมงแล้ว และร่างกายเธอก็เริ่มปวดไปหมดทั้งตัวจนอยากจะตะโกนร้องปลดปล่อยความเจ็บปวดออกมา
“เวลาที่ร่างกายจะสลาย...จะมีบางสิ่งบางอย่างคล้ายเศษฝุ่นสีเงินลอยออกมาจากทั่วทุกส่วนของร่างกาย...” เพียงแค่ยูริพูดแค่นี้ เจสสิก้าก็เข้าใจทุกอย่างแล้วว่ายูริกำลังจะบอกอะไรเธอ เศษฝุ่นสีเงินที่ลอยออกมาจากตัวร่างสูงตอนนั้นไม่ใช่เวทย์มนต์อย่างที่คนรักของเธอบอก...แต่มันเป็น...ร่างกายของยูริเอง ร่างบางปิดปากตัวเองแน่นและใช้อีกมือกดหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองไว้แน่ เมื่อมันรู้สึกเจ็บเหลือเกิน
“และในที่สุด...ก็จะไม่เหลืออะไรอีกเลย...”
“เจสควรจะทำยังไงดี...จ...เจสควรจะโกรธยูลมั้ยที่ยูลไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเจสเลย...ห..หรือเจสควรจะโกรธตัวเองดีที่ทำให้ยูลกลายเป็นแบบนี้...หรือเจสควรจะโกรธพระเจ้าที่แบ่งแยกโลกของเรา...หรือเจสควรจะโกรธความรักของเรา...”
“เจ้าควรจะโกรธข้า...ดวงใจของข้า...” ยูริพูดพร้อมกับฝืนยิ้มน้อยๆและดึงตัวเจสสิก้าเข้ามากอด ร่างบางพยายามกลั้นเสียงร้องไห้และสะอื้นให้อยู่แต่ข้างใน แต่พอร่างสูงดึงตัวเข้ามากอด ในใจมันก็พาลร้องตะโกนจนใจแทบขาดว่า ยูริกำลังจะไปจากเธอแล้ว
“ยูลให้เจสโกรธยูล...ฮึกๆ...แล้วเจสจะทำมันได้ยังไง...เจสไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เจสฝันอยู่หรือเปล่าด้วยซ้ำ!!”
“เจ้าก็รู้ ความอบอุ่นจากอ้อมกอดข้าในตอนนี้เป็นเรื่องจริง....”
“ฮึก...ไม่มีหนทางอื่นเลยเหรอยูล ที่จะรักษายูล...”
“มันเคยมีซูยอนของข้า...แต่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์เสียแล้ว...”
“แล้วทำไมยูลไม่บอกเจสตั้งแต่ตอนนั้น!! ฮะ!! ยูริ!! ทำไมเธอไม่บอกตั้งแต่ตอนที่ยังรักษาได้” เจสสิก้าตวาดใส่ยูริอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ยูริสะอึกไปจนแทบลืมหายใจเมื่อได้ยิน ร่างสูงพยายามควบคุมร่างบางที่พยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนเธอไว้ และสุดท้ายน้ำตาของยูริที่กลั้นไว้มันก็ไหลลงมาอาบแก้ม
“ยูลเจ็บเหมือนกันนะ...” เจ็บทั้งตัวและหัวใจ โกรธตัวเองที่คิดอะไรผิดไปหมด...
“ยูลขอโทษ...”
“ฮึก!! เจสไม่ฟังอะไรยูลทั้งนั้น....เจสจะฟังคำขอโทษจากยูลวันที่ยูลกลับมาหาเจสใหม่!! เข้าใจมั้ย ยูล!! ยูลต้องกลับมาหาเจส!!” เจสสิก้าปล่อยระเบิดลูกสุดท้ายลงกับยูริพร้อมกับกอดร่างสูงแน่นและร้องไห้จนเสื้อของยูริเปียกไปหมด ร่างสูงถึงกับยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อ เจสสิก้า...เลือกที่จะรอเธอ ทั้งๆที่เธอยังไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าเธอจะกลับมาหา ทั้งๆที่เจสสิก้าเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอจะได้เจอกันอีกมั้ย...แต่คนรักของเธอก็เลือกที่จะรอ...
“เจสรอยูลเสมอนะ...รู้มั้ย...ฮึกๆ...”
“ยูลจะกลับมาหาเจสแน่นอน...รอยูลนะ”
“ถึงไม่บอก..ก็รออยู่แล้ว ไม่รู้หรือไง! ถ้ากลับมาใหม่นะ ฮึกๆ เจสจะเอาคืนยูลให้น่วมเลย ฮึกๆ”
“ขอบคุณนะ...”
เหมือนทุกอย่างที่ต้องทำ...ร่างสูงได้ทำมันจนสำเร็จแล้ว...ความจริงที่เก็บไว้ไม่ได้บอกเจสสิก้าวันนี้ก็ได้บอกแล้ว...ตอนนี้ยูริรู้สึกเหมือนเธอไม่มีอะไรต้องห่วงอีกต่อไปแล้ว...เจสสิก้าจะรอเธอ...และเธอก็จะรีบกลับมาหาคนรักของเธอคนนี้...ท่านอาจารย์ของแทยอนออกปากแล้ว...ว่าสักวันเธอจะได้ร่างนี้กลับคืนมาอีกครั้ง...ไม่ใช่เป็นเพียงเศษฝุ่นที่ลอยไปมาในอากาศ...
เพราะฉะนั้นตอนนี้...สมองมันสั่งให้เธอคลายความอดทนอดกลั้นที่กำลังระงับความเจ็บปวดให้หยุดลง...ฝุ่นธุลีสีเงินแตกฟุ้งและกระจายออกมารอบตัวยูริ...มันอาจจะดูสวยงาม...แต่คนที่ต้องทนดูคนรักกำลังจะหายไปต่อหน้าไม่ได้รู้สึกดีกับการเห็นเศษฝุ่นพวกนี้เลยแม้แต่นิดเดียว...เจสสิก้าพยายามกลั้นสะอื้นอย่างสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ทำไม่ไหว ร่างบางพุ่งเข้าไปกอดยูริที่อ้าแขนรอรับเธอเป็นครั้งสุดท้ายอย่างโหยหา
แต่ความอบอุ่นจากอ้อมแขนนั้นไม่ได้มีอีกต่อไปแล้ว...มันเหลือเพียงความรู้สึกโล่งๆ...ว่างๆ...และก็มีเสียงนุ่มๆของยูริดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย
“เลิกร้องได้แล้วนะคนดี...จองซูยอนของข้าจะต้องยิ้มเพื่อวันข้างหน้า...วันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง....”
“ไม่นะ...ไม่นะยูล!!!!” ตอนนี้ภายในอ้อมแขนของเจสสิก้าไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เธอพยายามไขว่คว้าหาตัวของคนรักแต่ก็ไม่สัมผัสถึงสิ่งใดได้เลย...
“ยูล...ฮึกๆ...”
ตุ้บ...
แทยอนที่เพิ่งมัดปากถุงที่ภายในมันเต็มไปด้วยเศษร่างกายของยูริที่สลายปล่อยม้วนกระดาษที่ญาติผู้น้องของเธอฝากไว้ให้คนรักลงจากท้องฟ้า ปล่อยให้มันลงไปหาผู้รับสารด้วยตัวของมันเอง...ตามที่ยูริประทับชื่อผู้รับไว้...
ถึง...คนที่ข้ารักที่สุด และรักเพียงคนเดียวเท่านั้น , เจสสิก้าจอง...
1 ปีมันผ่านไปเร็วมากเลยนะ เร็วจนข้าตั้งตัวไม่ทัน ว่าวันที่น่ากลัวและโหดร้ายที่สุดมันจะมาถึง
ข้าไม่รู้จะเขียนอะไรจริงๆ...แต่ ตอนนี้ข้าอยากกลับไปกอดเจ้าที่สุดเลยรู้มั้ย
ที่รักของข้า...ถึงแม้ร่างกายของข้านี้จะกลายเป็นเพียงฝุ่นธุลี แต่เจ้าจงรู้ไว้เถิด...เศษฝุ่นเหล่านี้มันก็คือข้า
และเพราะมันคือข้า...มันจะรักและคิดถึงเจ้าตลอดไป
รอข้านะ...ถึงแม้ว่าตอนที่ข้าไร้ตัวตนแล้วข้าอาจจะไม่มีสติที่จะเฝ้ามองเจ้าได้
แต่ก็ขอให้เจ้ารู้ไว้อีกเช่นกัน...ว่า บนฟ้า ยังมีข้าอยู่นะ...หากเจ้าเหงา หากเจ้าท้อ หากเจ้าเหนื่อยกับการ
รอคอย...เจ้าก็ยังมีดวงดาวนับหมื่นล้านดวงเป็นเพื่อนเจ้า...ไม่แน่ คืนนั้นข้าอาจจะเฝ้ามองเจ้าจาก
ดวงดาวดวงนั้นของเราก็ได้
จำได้มั้ยประโยคนี้ ที่ข้าเคยพูดกับเจ้าบ่อยๆ...ที่รักของข้า
“Σε αγαπώ”
ข้ารักเจ้านะ....
-------------------------------------------
เม้นท์ๆๆๆๆๆๆ เม้นท์ให้เค้าหน่อย~ T T
ไม่งั้นตอนหน้าเค้าจะเปลี่ยนตอนจบ ชิๆๆๆ~
เปลี่ยนได้นะเออ...ถ้าอยากเปลี่ยน
จะเม้นท์ด่า เม้นท์ชม ไรท์เตอร์ ก็ด้ายยยย~ ไม่ว่า (แค่ลงบัญชีแค้นไว้ 555+)
อย่าเพิ่งนอยด์กันนะเออ - -* ฟิคเศร้าแล้วพาลนอยด์ไม่เม้นท์ มีเคืองนะเออ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น