คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : นักปกครองคนต่อไป
ณ แคว้นอโณทัย เป็นแคว้นเล็กๆ ที่อยู่ติดทะเล แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ป่าไม้ น้ำ และแนวปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์และสวยงาม ถึงแม้พื้นที่จะน้อยกว่าแคว้นใกล้เคียง แต่เนื่องด้วยมีความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้ ทำให้มีประชากรที่เข้ามาทำมาหากินเป็นจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น แคว้นอโณทัยยังมีกษัตริย์ที่ปกครองอย่างเรียบง่าย แต่ยุติธรรมและเข้าใจนามว่า “ราชินทร์” อาจเป็นเพราะนิสัยของพระองค์กระมัง ทำให้ประชาชนในแคว้นนี้ต่างศรัทธากันอย่างมาก
ราชินทร์ บัดนี้ได้มีพระชนมพรรษา 46 พรรษาแล้ว พระองค์มีพระธิดานามว่า “ดาริกา” ตอนที่ดาริกามีพระชันษาได้ 11 ปีนั้น พระชนนีของเธอได้สวรรคต ต่อมา 3 ปีให้หลัง ราชินทร์ได้อภิเษกสมรสใหม่กับ “กณิกา” ชาวอโณทัยผู้มีอาชีพเป็นแม่ค้าธรรมดาทั่วไป อีกทั้งเธอยังมีลูกติด 2 คนที่อายุไล่เลี่ยกับดาริกา ชื่อว่า “หรรษธร” และ “กรรณิการ์” อีกด้วย แต่ราชินทร์ก็มิได้รังเกียจ ตรงกันข้าม กลับรู้สึกดีพระทัยเสียอีกที่พระธิดาของตนจะได้มีเพื่อนเล่น
ตอนนี้เป็นหน้าหนาว ในตอนกลางคืนอุณหภูมิจะติดลบ ทำให้ชาวอโณทัยส่วนใหญ่นั่งผิงไฟอุ่นๆ อยู่แต่ในบ้านเรือนของตน เพราะฉะนั้นในช่วงนี้จะเห็นแสงไฟสีส้มสลัวๆ ส่องสว่างเต็มเมืองไปหมด ดูสวยงามตระการตา ผู้คนในวังแห่งแคว้นอโณทัยก็เช่นกัน
“หนาว! ได้ยินมั๊ยว่าเราหนาว น้ำอุ่นหรือยัง?” หญิงสาวนางหนึ่งตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกับชะเง้อคอมองไปยังห้องน้ำที่ประตูบานสีทองถูกเปิดอ้าเอาไว้ ทำให้เห็นไอน้ำในห้องน้ำได้อย่างชัดเจน นางกำนัลคนหนึ่งได้โผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ “รออีกเดี๋ยวนะเพคะเจ้าหญิง น้ำใกล้จะอุ่นได้ที่แล้วเพคะ”
“เร็วๆ เข้าล่ะ เราหนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้วนะ! เร็วเข้า! เร็วเข้า!”
“น้ำอุ่นแล้วเพคะ” นางกำนัลปาดน้ำที่อยู่บนหน้าของตนและโค้งให้หญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไปยังห้องฝั่งตรงข้าม “เจ้าหญิงดาริกา เดี๋ยวนมจะทำน้ำอุ่นให้นะเพคะ”
หญิงสาวผู้ซึ่งถูกเรียกชื่อ ได้เงยหน้าขึ้นขณะกำลังจัดดอกไม้บนโต๊ะพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเราทำเองได้ นมไปเถอะ ขอบใจนะ”
“โถ เจ้าหญิงของนมช่างดีแสนดี” เธอหยุดเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะปรายตาหันไปมองยังห้องที่เธอเพิ่งจะเดินออกมาและพูดด้วยเสียงดังฟังชัดราวกับว่าจะให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยิน “แตกต่างกับใครบางคน...ที่ทำอะไรไม่เป็นเลย”
“นมจ๋า” เจ้าหญิงดาริกาทำท่าเอานิ้วชี้จุ๊ปาก แต่ก็มิวายแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย เธอลุกขึ้นจากการจัดดอกไม้และค่อยๆ เดินไปปิดประตูห้องเพื่อกันไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกไปมากกว่านี้ “เราอยากจะบอกนมก็คือ เวลาจะนินทาใครให้ปิดประตูก่อน ถ้ากรรณิการ์ได้ยินคงจะไม่พอใจแน่ๆ”
“ก็จริงนิเพคะ เจ้าหญิงกรรณิการ์ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง แค่การจัดดอกไม้แบบเจ้าหญิงของนม ยังไม่คิดจะแตะเลย นอกจากฝ่าพระบาทจะรับสั่งให้จัด ยิ่งไปกว่านั้นนะเพคะ...” เธอเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้าหญิงสุดรักของเธอและทำท่าทางจัดตกแต่งทรงผมไปมา เจ้าหญิงดาริกามองก่อนจะดีดนิ้ว “ชั้นสวยมั๊ย วันนี้ชั้นสวยหรือยัง?”
ทั้งคู่พูดประโยคเด็ดของเจ้าหญิงผู้นั้นและหัวเราะพร้อมกัน
“ถูกต้องเลย เรานะ ได้ยินประโยคนี้บ่อยมาก แทบจะทุกวันเลย เฮ้อ...เราอยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้ากรรณิการ์ไม่พูดประโยคนี้ซักวัน ใบหน้าของนางจะเปลี่ยนไปมั๊ย”
“นั่นน่ะสิเพคะ ถ้าไปตอบไปว่า สวยแล้ว มีหวัง... ” นางกำนัลทำท่าทางเอานิ้วมาปาดคอตัวเอง “เจ้าชายหรรษธรก็อีกคน”
“ทำไมหรอนม?” เจ้าหญิงดาริกาหันมามองอีกฝ่าย เธอเขยิบมาใกล้ๆ หญิงสาวพร้อมกับกระซิบข้างหูเบาๆ
“ภาษาบ้านๆ ของชาวอโณทัยเขาเรียก ขี้เก๊ก เพคะ ชอบโปยเสน่ห์ให้สาวใช้ในวังอยู่เรื่อย แถมยังเย่อหยิ่ง จองหองด้วยนะเพคะ นมว่าถ้าหากวันใดวันหนึ่งเมื่อถึงคราวเจ้าชายหรรษธรครองบัลลังก์ล่ะก็...โอ๊ย นมแทบไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ”
ภายในห้องโถงใหญ่ซึ่งอยู่อีกมุมหนึ่งของวัง ในตอนนี้มีคน 3 คนอยู่ในห้องนั้นและกำลังพูดเรื่องบางอย่างด้วยบรรยากาศที่ไม่สู้ดีนัก นั่นคือ ราชินทร์ กณิกาและหรรษธร
“ทำไมพระองค์ถึงตรัสเช่นนี้เพคะ ที่ว่าจะสละบัลลังก์ แล้ว...ให้ดาริกาขึ้นปกครองแคว้นอโณทัยแทน แล้วหรรษธรล่ะเพคะ? ทั้งๆ ที่หรรษธรเป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของพระองค์ ทำไมถึงไม่ให้ขึ้นปกครองแทน หม่อมฉันไม่เข้าใจ ใช่มั๊ย หรรษธร” กณิกาปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้ากล่าว
“ลูกเห็นด้วยกับสเด็จแม่พระเจ้าค่ะ” พระเนตรของเจ้าชายแข็งกร้าวตรงข้ามกับความหมายของชื่อโดยสิ้นเชิง “ลูกเป็นผู้ชาย แถมอายุยังมากกว่าดาริกาเสียด้วยซ้ำ”
ราชินทร์ฟังคำพูดของพระโอรสก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “หรรษธร ลูกออกไปก่อนก็แล้วกัน เรื่องนี้ พ่อจะคุยกับแม่แค่ 2 คน”
“แต่เสด็จพ่อ...”
“พ่อบอกให้ไปก็ไปสิ!”
ราชินทร์ขึ้นเสียง ทำให้คนที่อยู่ในห้องทั้ง 2 คนต่างพากันตกใจเล็กน้อย เจ้าชายหรรษธรมองพ่อของเขาก่อนจะโค้งหัว “พระเจ้าค่ะ”
เจ้าชายหรรษธรเดินออกจากห้องโถงใหญ่ เขามองไปที่แจกันดอกไม้ใบยาวที่ตั้งไว้ข้างห้อง จึงเตะมันด้วยอารมณ์หงุดหงิดจนแจกันใบนั้นแตกออกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับสบถออกมาเบาๆ “บ้าชิบ!”
หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่ามีสายตาหลายคู่ของสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดทางเดินแถวนั้นหันมามองเขาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก มันยิ่งทำให้เขาโมโหเข้าไปใหญ่
“มองอะไรวะ! มีปัญหาอะไร!” เจ้าชายหรรษธรตะโกนและเดินออกไปจากตรงนั้น เขาหันหลังมาเตะเศษแจกันที่กระจัดกระจายอยู่บนพรมยาวสีแดงกุหลาบ “แล้วก็เก็บเศษแจกันด้วยนะ”
แม้ราชินทร์จะไม่ได้ออกไปเห็นเหตุการณ์ข้างนอกห้อง แต่เขาก็พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ราชินทร์ได้แต่ส่ายหน้าและถอนหายใจพร้อมกับมองมเหสีของตนที่มีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ใช่ว่าตกใจเพราะการกระทำของพระโอรสของตัวเองหรอก...
แต่ที่ตกใจเป็นเพราะเกรงว่าเมื่อราชินทร์ได้รับรู้การกระทำของพระโอรสแล้ว ทั้งตนและหรรษธรจะมีปัญหา...
“นี่อย่างไรล่ะกณิกา เพราะหรรษธรมีนิสัยที่ไม่เหมาะกับการเป็นกษัตริย์เลยสักนิด เขาทั้งวู่วาม ใจร้อน ขี้โมโห...”
“แต่ถึงอย่างนั้น หรรษธรเป็นคนที่มีฝีมือในด้านการรบไม่เป็นสองรองใครนะเพคะ เข้าสู้กับใครก็ไม่เคยแพ้”
“เรื่องนั้นพี่รู้ แต่การที่จะมาเป็นนักปกครองแคว้นที่ดีนั้น การที่มีฝีมือในเรื่องรบอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ มันจะต้องมีอย่างอื่นด้วย ถึงจะเป็นนักปกครองที่สมบูรณ์แบบได้ แต่สิ่งที่นักปกครองที่ดีต้องมี หรรษธรนั้น...ไม่เคยมี ” ราชินทร์ตรัสออกมาอย่างเด็ดขาดทำให้คนตรงหน้าหาคำแก้ตัวออกมาไม่ได้
“เพราะดาริกาเป็นสายเลือดแท้ๆ ของพระองค์ใช่มั๊ยเพคะ?” กณิกาตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงแบะใบหน้าที่แสนเยือกเย็น พร้อมรอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า แต่คนตรงหน้าเงียบไปก่อนจะหยิบเหยือกชาขึ้นมาเทน้ำชาใส่ถ้วย
“วันนี้เราคุยกันแค่นี้ก่อนแล้วกัน...กณิกา”
ใช่! ต้องใช่แน่แท้ เพราะดาริกาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของราชินทร์ ถึงมีสิทธิ์มากกว่าหรรษธรและกรรณิการ์ในทุกๆ เรื่องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปากก็บอกว่ารักลูกเท่ากันหมดทุกคน ทุกคนเท่าเทียมกันหมด หึ! ก็เห็นกันอยู่ ว่ามันไม่ใช่อย่างที่พระองค์เคยตรัสไว้เลย คำพูดกับการกระทำมันสวนทางกันอย่างลิบลับ ไม่ยุติธรรม!
กณิกาเร่งฝีเท้าไปตามระเบียงทางเดิน สุดท้าย นางก็หยุดเดินพร้อมกับเงยหน้ามองกรอบรูปกรอบใหญ่ที่ถูกติดไว้กับผนังระหว่างทางเดิน เป็นกรอบรูปรูปเจ้าหญิงดาริกาในชุดราตรีสีแดงระยิบระยับ ดาริกา...พระธิดาผู้มีสิริโฉมงดงามของทุกๆ คนแห่งแคว้นอโณทัย ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก ขนาดพระธิดาแท้ๆ ของนางยังเทียบกับเจ้าหญิงดาริกาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ลูกไม่ยอมนะเพคะเสด็จแม่ หากดาริกาได้ปกครองแคว้นนี้ พวกเราซึ่งไม่ใช่สายเลือดเดียวกับนาง จะเป็นอย่างไร ลูกไม่ยอมนะเพคะ! ไม่ยอม! ไม่ยอม! ไม่ยอม! แล้วสิ่งที่ลูกแสร้งทำดีต่อหน้าเสด็จพ่อ ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยน่ะสิเพคะ” เจ้าหญิงกรรณิการ์โวยวายพลางหยิบหมอนมาตบเพื่อระบายอารมณ์ โดยมีแม่ของเธอนั่งอยู่ข้างๆ และพี่ชายที่ไม่เอาไหนอย่างหรรษธรยืนกอดอกอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
“พอได้แล้วกรรณิการ์! อย่าไปทำตัวแบบนี้ให้เสด็จพ่อเห็นล่ะ ไม่งั้น...พวกเราอาจเดือดร้อนกว่านี้นะ” กณิกาหันมาดุกรรณิการ์ หรรษธรขยี้หัวตัวเองและเดินเตะพรมห้องไปมา
“ลูกน่ะสิที่จะเดือดร้อนที่สุด เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่กลับถูกผู้หญิงขึ้นปกครองแคว้นอโณทัยแทน รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!”
“มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น..” กณิกาหันมามองหน้าลูกๆ ทั้งสองของตน “ต้องไม่มีดาริกาอยู่ที่นี่”
“เพล้ง!”
กรอบรูปจากโต๊ะเครื่องแป้งในห้องของเจ้าหญิงดาริกาได้หล่นลงมาขณะที่องค์หญิงกำลังทำความสะอาดโต๊ะของตัวเอง
“แตกหมดเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้นมเอาไปเปลี่ยนให้ล่ะกัน” ดาริกาว่าพลางเก็บเศษกระจกที่แตก ซึ่งกรอบรูปนั้นเป็นรูปของเธอเอง...
ความคิดเห็น