ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [Yeryeo] : Yeryeo the series!!!!

    ลำดับตอนที่ #5 : ความลับ2ข้อของคยูฮยอน [KyuMin special]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 58


    Dairy of Vampire Hunter [KyuMin special]

    "ไอ้เย่!!!!!" ภาพของเรียวอุคที่ค่อยๆถอนเขี้ยวออกจากคอเยซอง มันทำให้ผมตกใจมาก เยซองเหมือนจะกระตุกเล็กน้อย เลือดจำนวนมากถูกสูบออกไป

    เรียวอุคมองมาทางผมกับชีวอน ดวงตาสีม่วงฟ้านั่นเปลี่ยนเป็นสีเทาแวบนึง ความรู้สึกคันยุบยิบก็หายไป

    ผมมองหาอาวุธของตัวเองทันทีเช่นเดียวกับชีวอน แต่แค่ผมก้าวเท้าไปได้เพียงข้างเดียว เท้าของผมก็หยุดชะงัก ผมหันไปสบกับแววตาวาวของซองมิน เขากำลังใช้เวทย์มนตร์กับผม แค่เพียงคนเดียว

    เยซองถูกเรียวอุคอุ้มขึ้น หน้าของเขาซีดพอๆกับพวกแวมไพร์ ผมเองเห็นอย่างนั้นแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก รู้แต่ว่า ผมกำลังจะเสียเพื่อนสนิทร่วมสาบานไปโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย

    ระหว่างเรียวอุคสนทนากับชีวอนอยู่ ผมก็พยายามหนีออกจากเวทย์ของซองมิน เสียงของซองมินดังก้องในหัวของผม

    "...อย่าพยายามคิดหนีเลย คยูฮยอน... ฉันจะไม่ให้นายหนีอีกแล้ว"

    "...ถ้าฉันไม่หนี ฉันอาจจะทำร้ายนายอีก..."

    ที่ผมบอกซองมินอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะผมกลัวหรอกนะ ผมมีความลับบางอย่างที่ไม่เคยบอกใคร แม้กระทั่งเยซองหรือชีทำร้ายวอน

    อึนฮยอกจ้องผมแล้วกันกลับไปหาชีวอน ในขณะที่ชีวอนมองผม ผมมองเขากลับ เรียวอุคที่อุ้มเยซองมองพวกเราด้วยสายตาที่กำลังวิตกเช่นเดียวกัน เรียวอุคไม่ได้เข้ามาทำร้ายใคร ผมก็พอไว้ใจได้เล็กน้อย แต่ดูจากสภาพเยซอง ผมว่าเรารออะไรนานๆไม่ได้แล้ว

    ซองมินใช้เวทย์ย้ายพวกเราไปที่หน้าบ้าน ชีวอนหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาแล้ว ผมพยายามจะขยับอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าซองมินจะไม่ยอมปล่อยผมจริงๆ

    เสียงของซองมินดังในหัวของผมอีกรอบ

    "...เรามีเรื่องต้องคุยกัน...อย่าปิดบังตัวเอง ยอมรับความจริงเถอะ"

    “กับนิทานที่นายแต่งมาหลอกกันเหรอ”

    เราสบตากัน ซองมินยัดปากกาซึ่งเป็นอาวุธของผมเข้าไปไว้ตรงกระเป๋าเสื้อ

    ชีวอนคลายมนต์เสร็จแล้ว เรียวอุคก็รีบพาเยซองเข้าไปในบ้านทันที เวทย์ของซองมินก็คลายลง ผมเงยหน้ามองดวงจันทร์ วันนี้เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงและอยู่ใกล้โลกมากที่สุด ... สิ่งนี้ทำให้ผมกลัว

    ซองมินลากผมเข้าไปในบ้าน ผมเดินตามเข้าไปในครัว มือของซองมินเย็นเชียบ กลิ่นตัวของเขาก็ยังเหมือนเดิม

    "ซองมิน" ผมเรียกแวมไพร์ตัวเล็กตนนี้ ภาพนี้กลับทำให้ผมปะหลาดใจ

    ซองมินหันหน้ามา หางตาของเขามีเกล็ดสีขาวบางอย่าง ผมเดาว่ามันคือน้ำ้ตา

    ผมยืนจ้องหน้าเขา และได้ยินเสียงคนเดินผ่านไปและขึ้นบันได แต่ผมไม่สนใจอะไร ผมอยากจะปาดน้ำ้ตาของซองมินออก แต่เพราะอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่เวทย์มนตร์ ผมไม่สามารถขยับเข้าไปหาตัวซองมินได้ อะไรบางอย่างในตัวผมเริ่มเคลื่อนไหว

    "...คยูฮยอน นายใจร้ายมากเลยรู้ตัวไหม?" ซองมินพูดด้วยเสียงสั่นเครือ เขากำลังร้องไห้ ผมพยายามจะเกลี่ยน้ำตาบนแก้มขาวซีด แต่ซองมินกลับปัดมันออกด้วยความเย็นชา

    "นายทิ้งฉัน2รอบ ทำเหมือนราวกับทุกอย่างเป็นเดจาวู คยูฮยอน นายมันเป็นปีศาจ ไม่ใช้ฉัน!" ซองมินตะโกนขึ้นด้วยความโมโหก่อนจะพุ่งตัวเข้ามา ผลักผมลงกับพื้น

    "โอ่ย!" เล่นเอาซะจุกเลย แต่ผมคงจุกกับคำพูดที่เสียใจของเขามากกว่า

    ผมมีความลับอยู่2ข้อซึ่งผมไม่เคยบอกใครแม้แต่คนเดียว ข้อแรก เป็นเรื่องราวสาเหตุของความเสียใจของซองมิน ผมเคยเจอซองมินแล้ว และ... และผมก็ทำเขาเจ็บเป็นรอบที่2

    .

    .

    .

    เรื่องเกิดขึ้นหลังจากที่ผมกลายมาเป็นนักล่าแวมไพร์เต็มตัวเป็นวันแรก ผมแยกทางกับชีวอนและเยซองเพื่อเดินทางกลับบ้าน

    "คยู ถึงบ้านเมื่อไรโทรมาหากันบ้างนะ!!!"

    "อย่าหลงสาวแถวบ้านจนไม่กลับมาหาเพื่อนฝูงนะเว้ย!!"

    "เออ!!" คยูฮยอนอายุ18ปี ตะโกนไล่หลัง 2คนนั้นไป

    ผมเป็นเด็กกำพร้า พ่อแม่ของผมหายตัวไปในป่า ผมอยู่กับน้า น้าของผมเป็นพวกชอบปาร์ตี้ และตั้งแต่6ขวบ ผมไปสังสรรค์กับพวกเพื่อนๆของน้า และนั่นทำให้ผมกลายเป็นพวกขี้หลี ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ผมก็จะชอบแซวแล้วเข้าไปเล่นกับวงน้าๆ พวกสาวๆชอบผมมาก แต่หลังจากออกมาจากค่ายฝึกนักล่า ผมก็ตรงเข้าไปร้านประจำของน้า และแน่นอน พวกน้าๆของผม พากันออกมาปาร์ตี้เช่นเดิม

    "อ้าว ไอ้หนูน้อย เป็นไงไม่เจอกันตั้งนาน" พี่ชินดง พี่คุมบาร์ที่ผมสนิทด้วยทักผม

    "สบายดีครับ พี่ชินดงอ้วนขึ้นป่ะ"

    "เอ้ะ! ไอ้เด็ก ปากร้ายเหมือนเดิมนะเนี่ย เหมือนเดิมไหม" พี่ชินดงชงแอลกอฮอลล์ให้ผมดื่ม ไม่ต้องแปลกใจหรอก ผมนะแอบกินของพวกนี้ตั้งแต่10ขวบแล้ว ผมชินกับการดื่มเหล้าไวน์เหมือนดื่มน้ำเปล่า

    “ฮีชอลล่าล่ะ” ผมถามพี่ชินดงถึงพี่สาวของผม

    “โอ้ย เจ๊แกไปสะดิ้งกับหนุ่มหน้าใหม่และ หายไปไหนก็ไม่รู้ วันนี้คงไม่ได้เจอกันหรอก”

    ตอนแรกผมว่าจะมาคุยกับน้าว่าเรียนจบแล้ว แต่ตอนนี้ผมกลับเปลี่ยนใจนั่งดื่มไปเรื่อยๆ พร้อมมองหาคนที่น่าสนใจไปด้วย

    ใครบางคนสะดุดตาผมมาก ชายคนนั่นนั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางคนในร้านที่พลุกพล่าน ผมเดินถือแก้ว แล้วเข้าไปทักทันที

    "อยากได้คนนั่งเป็นเพื่อนไหม?" ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เขาเป็นชายที่มีใบหน้าที่สวยงามมาก หน้าขาวมาก ปากก็แดงสุดๆ โอ้ยผมไม่ใช่เสือไบนะ แต่ผมก็ไม่ปฎิเสธว่า ชานคนนี้หน้าตาน่ารักมาก

    เขาแนะนำตัวว่าชื่อซองมิน และวันนี้เขาผ่านมาเลยไม่มีใครนั่งเป็นเพื่อน เรานั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ เราก็คุยกันถูกคอดี

    "อยากได้ที่ๆส่วนตัวกว่านี้หน่อยนะ ตรงนี้คนเยอะ" ซองมินส่งสายตาวิบๆวับๆมาให้ผม ผมบอกพี่ชินดงฝากเปิดห้องให้ ผมพาซองมินเข้าไปในห้อง ผมไม่รังเกียจสัมผัสอันแผ่วเบาเหล่านั้น เราต่างทำในสิ่งทึ่เราต้องการ และสิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือ ... ผมเป็นคนแรกของเขา และเขาก็เป็นผู้ชายคนแรกของผม

    .

    .

    .

    แต่ไม่นับรวมผู้หญิงอีกหลายคนที่ผมเคยคั่วเธอและถูกทิ้งหรอกนะ

     

     

    หลังจากผ่านกิจกรรมอันเร่าร้อนเหล่านั้น เราก็นอนพักเอาแรง เพราะพรุ่งนี้ผมก็จะย้ายไปอยู่กับเยซองและชึวอนเพื่อทำภารกิจของเราต่อ .... ท่ามกลางความมืด ซองมินก็พูดขึ้นมา

    "...คยูฮยอน ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง...นายเป็นนักล่าแวมไพร์ใช่มั้ย ฉันก็รู้จักนักล่าแวมไพร์คนหนึ่ง เขาเป็นนักล่าแวมไพร์ที่เก่งมาก แต่สุดท้ายเขาเกิดไปหลงรักกับแวมไพร์ตนหนึ่ง ทั้งสองเจอกันในเวลาไม่นาน ในที่สุดทั้งสองก็ได้ ...แบบว่ามีอะไรกัน... หลังจากคืนนั้น แวมไพร์ก็ฆ่านักล่าคนนั้น นักล่าคนนั้นสามารถที่จะฆ่าแวมไพร์ตนนั้นได้ แต่เพราะความรักบังตา ไว้ใจ แต่สุดท้ายแวมไพร์ตนนั้นก็เพียงแค่หลอกลวงเท่านั้น ... สุดท้ายแล้วแวมไพร์ตัวนั้นก็ถูกนักล่าฆ่า ทั้งสองก็ตายจากกันไปชั่วนิรันดร์..."

    ผมฟังเรื่องเล่าของซองมินจนจบ เขาก็ถามผมว่า "...ในฐานะนักล่า นายคิดยังไง"

    "อืม... ผมว่าแวมไพร์ตัวนั้นคงจะดูแย่มาก หากมันเป็นนิยายน้ำเน่า แต่ผมว่าแวมไพร์ทำตามสัญชาตญาณ ในขณะที่นักล่าคนนั้นเกิดหลงรักแวมไพร์ตนนั้นเข้า และสับสนกับจุดยืนของตัวเอง หัวใจของเขาทำให้เขาต้องตาย... ถ้าผมเป็นนักล่าคนนั้นนะ ผมจะไม่ให้หัวใจของผม นำพาไปสู่อันตรายแน่นอน..."

    "...ถ้าฉันจะบอกว่า มันเป็นเรื่องจริงที่ฉันเคยเผชิญมา และนายมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย นายคงจะไม่เชื่อฉัน ... ใช่มั้ย คยูฮยอน..."

    ผมเงียบไม่ตอบอะไร และคิดว่าซองมินคงจะแค่แต่งนิทานหลอกเด็กให้ตายใจก็ได้ ความจริงคือผมรู้ว่าซองมินไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา นักล่าแวมไพร์จะต้องมีสกิลการรับกลิ่นของพวกแวมไพร์และผมก็รู้ว่าซองมินเป็น ยิ่งตอนที่ได้สัมผัสผิวกายอันเย็นเฉียบยิ่งทำให้ผมแน่ใจ

    ซองมินเงียบไปแล้ว และผมก็รอจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก แวมไพร์จะไม่มีวันหลับ มันอาจจะดูร้ายกาจแต่ผมแอบลองใส่ยานอนหลับลงไปในแก้วสุดท้ายของซองมิน และมันได้ผลเกินคาด ตอนนี้ซองมินดูเหมื่อนจะไม่รู้สึกตัวเลย

    ผมค่อยๆลุกขึ้น ควานหาเสื้อผ้าของผม ...

    แสงจันทร์อันบางเบาส่องกระทบกับใบหน้าหวานของซองมิน ผมหยิบปากกา อาวุธของผม เตรียมจะใช้ซองมินเป็นแวมไพร์ตนแรกที่เขาฆ่า

    ...แต่ ผมทำไม่ได้ ยอมรับเลยว่า ผมไม่เคยเจอแวมไพร์ตนไหนที่สวยเท่าซองมินมาก่อน ...เฮ้! ผมไม่ใช่เกย์นะ แต่ยอมรับเลยซองมินดีกว่าผู้หญิงหลายๆคนที่เข้ามาในชีวิตของผม เขาไม่ได้มาทำให้ผมเจ็บแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับทิ้งการ์ดเชิญงานแต่งให้กับผม

    เพราะเราแตกต่างกันมากเกินไป หากเราจะรักกัน ผมก็พอรู้ว่าซองมินคิดยังไงกับผม รวมถึงความรู้สึกข้างในของผมด้วย ผมจึงตัดสินใจเดินจากไป และทำคืนนั้นให้เป็นเพียง one night stand

         ผมร้องไห้ ... ในรอบ13ปี นับจากตอนที่พ่อกับแม่ถูกฆ่า

    "ลาก่อน ซองมิน เราอาจจะได้พบกันอีก สักวันนึง"

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

    วันนั้นได้มาถึงแล้ว วันนี้ผมได้เจอซองมินอีกครั้ง แต่แน่นอนว่ามันไม่เหมือนเดิม

    "ซองมิน...เรื่องคืนนั้น ฉันขอโทษ แต่เธอก็รู้ว่ายังไง เราก็ไปกันไม่ได้หรอกนะ..."

    "...ฉันรู้แต่นายไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ ฉันถูกนายฆ่า ทำลายชีวิตของฉัน ฉันถูกทิ้งให้ตามหานายมาเกือบร้อยปี แม้ว่ามันแทบจะไม่มีหวังเลยด้วยซ้ำ ฉันก็ยังรัก ยังเชื่อมั่นและรอนายมาตลอด แต่ตอนที่เจอกันอีกครั้ง นายกลับ... "

    เสียงสะอื้น ใบหน้าของคนที่เขาฝันถึงในทุกค่ำคืนเปียกชุ่มไปด้วยเกล็ดน้ำตา ซองมินยืนก้มหน้า เกล็ดน้ำแข็งเหล่านั้น มันเพิ่มมากขึ้น

     

    เวลาที่ล่วงเลยมา แสงจันทร์ก็ยิ่งสว่างขึ้นมากเท่านั้น ผมกำลังจะเสียการควบคุมแล้ว

    "ซองมิน เลิกยุ่งกับฉันเถอะ เราไม่ควรมีอะไรข้องเกี่ยวกัน เราเป็นศัตรูกัน! เข้าใจฉันไหม! ฉันไม่ได้รักนาย!!! ฉันในอดีต ไม่ใช่ฉันในปัจจุบันแล้ว!"

    ผมพูดออกไป ให้ซองมินเสียใจและหวังว่าเขาไม่ยึดติดกับผมอีกต่อไป ผมอยากให้เขามีชีวิตที่ดี แม้ว่าทุกคำที่พูดออกไปมันจะทำให้ผมเจ็บมากก็ตาม

    ซองมินกลับส่ายหน้า “ไม่ คยูฮยอน ฉันรักนายและฉันก็รู้ว่านายรักฉัน เรารักกันไม่ได้หรอ”

     

    ซองมินเข้ามาใกล้ แต่กลิ่นตัวของแวมไพร์ ทำให้สัญชาตญาณดิบในตัวมันตื่นตัว ผมห้ามมันไม่ได้แล้ว

     

    "ถอยออกไป ซองมิน ฟังฉัน ขอร้อง ฉันต้านมันไม่ได้แล้ว"

    ผมผลักซองมินออกไป สมองผมเริ่มมึนๆ และสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็น คือใบหน้าซองมินที่ตกใจและหวาดกลัว

    สติผมดับวูบ และปล่อยในอีกตัวตนของผมเข้ามาครอบงำ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ความลับอีกอย่างของผม ที่ยังไม่ได้บอกใคร คือ ผมเป็นมนุษย์หมาป่า

    ศัตรูตลอดกาลของแวมไพร์!!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×