ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF [Yeryeo] : Yeryeo the series!!!!

    ลำดับตอนที่ #1 : SF Yewook's day : Diary of Vampire Hunter 1

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 58


    Dairy of Vampire Hunter

     

                แวมไพร์... เป็นสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายที่เราคุ้นเคยกันดี แวมไพร์มีลักษณะคล้ายมนุษย์กับค้างคาว ชอบกินเลือด รักสงบ เกลียดแสงแดดและกระเทียม แวมไพร์มีชีวิตที่เป็นอมตะ และในทุกวัน แวมไพร์ก็มีหน้าที่หลักในการหาอาหาร 

     

                แม้ว่าเลือดจะสามารถหาได้จากสัตว์ป่าได้ แต่ก็ยังมีลัทธิแวมไพร์เถื่อน ที่รักและหลงใหลในเลือดมนุษย์ แปลงโฉมเจ้ามาปะปนในหมู่มวลมนุษย์ และหลอกล่อมาเป็นอาหาร

     

                ดังนั้นเหล่ามนุษย์ทั้งหลายต่างก็ป้องกันตัว โดยตั้งกลุ่มมนุษย์ที่จะมีสายเลือดของ 'นักล่าแวมไพร์' ถึงดังนั้น แวมไพร์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ้าเล่ห์ มีหรือที่มนุษย์สายเลือดพิเศษเหล่านี้ จะไม่ทำงานผิดพลาด และ นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มนักล่าแวมไพร์ ที่พลาดพลั้งในการทำงานจนชีวิตต้องกลับตาลปัตร!!! 

     

                            ... เมื่อ 411 ปีก่อน

     

    ' คิม เรียวอุค ' นักล่าแวมไพร์ รุ่นใหม่ที่กำลังจะออกไปแสวงหาโชคชะตาของตัวเอง 

     

    " โชคดีนะ เรียวอุค หวังว่า เราคงจะได้เจอกันอีก " เพื่อนๆต่างกล่าวลาในวินาทีสุดท้ายก่อนจะจากกัน

     

    " แน่นอน ไว้กลับถึงบ้านเมื่อไร ข้าจะส่งนกพิราบบินไปหา " เรียวอุคตอบเสียงร่าเริงก่อนจะกระชับ สร้อยรูปไม้กางเขน ของตนเองเอาไว้ แล้วมุ่งหน้ากลับสู่บ้านเกิดของตน

     

     

     

                ระหว่างทางกลับนั้น มีหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางของป่าเขตหนาว หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อกันในแถบนี้ว่า หมู่บ้านต้องคำสาป เพระในทุกๆวัน นักเดินทางไกลหรือบุคคลที่ผ่านกันเข้ามา มักจะหายสาบสูญโดยที่ไม่สามารถบอกได้ว่า พวกเขาหายไปไหน

     

                ใกล้จะพลบค่ำแล้ว เรียวอุค เดินทางมาถึงเมืองนี้ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการที่ไม่ได้เดินทางบ่อย ทำให้เขาตัดสินใจหาห้องพักในเมืองเล็กๆแห่งนี้ 

     

                ... โชคดีเป็นของเรียวอุค ที่เขาได้ห้องพักห้องหนึ่งได้ทันเวลาพระอาทิตย์ตกดินพอดี …

     

                หิมะเริ่มตกลงมาปรอยๆ ความหนาวเย็นเริ่มเกาะกุมทุกส่วนของร่างกาย เรียวอุคออกมาจากห้องพัก เพื่อไปที่บาร์ใกล้ๆแห่งหนึ่งเพื่อหาอะไรดื่มแก้หนาว

     

                ในบาร์นั้นมีเจ้าของร้าน เพียงคนเดียว และไม่มีลูกค้าอื่นอีกเลยนอกจากเขา เรียวอุครับแก้วเหล้าจากเจ้าของร้านแลัวค่อยๆจิบ

     

     

                เรียวอุคสังเกตเจ้าของร้าน เป็นชายอายุไม่น่าเกิน 25 รูปร่างสูงแต่ก็ดูอ้อนแอ้นในบางมุม ดูเขาจะมีความสุขมากที่ได้เจอลูกค้าคนแรกในรอบสัปดาห์

     

    " แล้ว เจ้ามีนามว่าอะไร? " ปะโยคหนึ่งที่ออกจากปากของเรียวอุค

    " ข้าเหรอ... คิม จงอุน " เจ้าของร้านเอ่ยตอบเสียงทุ้มละมุน

    " จงอุน เจ้าอายุเท่าไร...ดูใบหน้า เจ้ายังเยาว์นัก " เรียวอุคที่ยกเหล้าแก้วที่สามเข้าปากหลังจากที่สนทนากับจงอุนเป็นเวลานาน

    " ข้าอายุมากกว่าที่เจ้าคาดไว้แน่นอน "

     

                เวลาล่วงเลยผ่านไปเกินครึ่งคืน หิมะยังโปรยปรายมาไม่หยุดยั้ง เช่นด้วยกับเรียวอุคที่เพิ่งดื่มเหล้าแก้วที่ห้าหมด

    " เรียวอุค พอเถอะ เหมือนเจ้าจะเริ่มเมาแล้วนะ " 

    " ฮืมมม... อารายยน้าา ข้าาาไม่เมาหร้อกก!! แค่นี้จิ๊บๆน่าาา.... "

     

     

    ในที่สุดจงอุนก็พาเรียวอุคกลับมาที่ห้องพัก เนื่องจากมีเขาคนเดียวที่อยู่ในละแวกนั้น 

     

                มือเล็กประคองวางหัวน้อยๆของชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักกันลงบนหมอนยังนุ่มนวล

                เรียวอุคปรือตาขึ้นเล็กน้อย แก้มที่แดงระเรือเพราะความเมาทำให้จงอุนหยุดที่จะจ้องมอง ใบหน้าน่ารักนี้ไม่ได้

     

    " ฮือ... จงอุน ข้าหนาว.... " หน้าเล็กชุกเข้าที่หลังมืออย่างอดอ้อน

    " ...อย่ามากอดข้าเลย ข้าไม่ช่วยให้เจ้าหนาวน้อยลงหรอกนะ อาจจะหนาวกว่าเดิมก็ได้.. "

    " ไม่อ้าววว...เจ้ากอดข้าเถิดน้า...ข้าหนาว "

    จงอุนยิ้มให้ร่างเล็กที่อดอ้อนแล้วเข้าสวมกอดร่างเล็กทันที

     

                            " แล้วจะหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ เรียวอุค "

     

    "  ...ข้ารู้ตัวว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าไม่เคยปฎิเสธความเป็นจริง... " เรียวอุคคิดก่อนที่อ้อมกอดเย็นยะเยือกจะรัดกายเขาอย่างลุ่มหลง อาจจะด้วยที่ แอลกอฮอลล์ที่ไหลเวียนในกระแสเลือด มีปริมาณมากทำให้เรียวอุค ผู้ซึ่งเป็นคนที่คอแข็งมาก ยังมึนๆได้ กับจงอุนที่ดื่มด้วยกัน

     

                มือเล็กคลายอ้อมกอดลงเล็กน้อยก่อนจะลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของร่างบางอย่างจงใจ       ปากเย็นจุบที่หน้าผากของเรียวอุค

     

    "อ้า...อ่ะ...อึก..."

     

                ไอหนาวจากภายนอกเกาะกุมทุกส่วนของร่างกาย แต่เรียวอุคกลับรู้สึกร้อนไปทั้งร่าง เหงื่อซึมออกจากไรผม เสียงหอบหายใจเริ่มถี่ขึ้นและเสียงร้องที่แปลกด้วยความกระเส่า

     

    "...ร้องออกมาเถิด ข้าอยากฟัง..."

     

                ริมฝีปากเย็น จูบเข้าที่ไรผมก่อนจะค่อยๆเลื่อนลงมาที่ริมฝีปากของร่างบางแย่างใจเย็น

     

    "อะ...อ๊า...เจ้า...อื้ม...."   ริมฝีปากเย็นส่งลิ้นเย็นเข้าไปตักตวงความหวานภายใน และแอลกอฮอลล์ที่ยังหลงเหลือเพียงเล็กน้อยนั้น ทำให้จงอุนไม่อาจจะผละออกได้

     

    "อะ...อืม...อื้ม..."   สองเสียงประสานกันจน อุณหภูมิภายในห้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ 

     

    "อืม...เรียวอุค...เรียกชื่อข้าสิ..."   เสียงแหบแสนเร่าร้อนกระซิบข้างใบกูเล็กก่อนจะเลียที่ใบหูเบาๆ

     

    "...จะ...จงอุนอ๊า...มะ...ไม่เอาตรงนั้น...อะ..อ๊า..."   ร่างเล็กส่ายไปส่ายมาด้วยความเร่าร้อน มือเล็กขยุมกลุ่มผมสีดำของจงอุนเอาไว้

     

     

                ริมฝีปากเย็นเคลื่อนตัวลงมาที่ต้นคอ ก่อนจะเลียเหงื่อที่ซอกคอเบาๆ เรียวอุคหน้าเบ้เพราะความเสียวปนกับความรู้สึกที่แปลกใหม่ 

     

    จงอุนบดจูบบนซอกคอของเรียวอุคอย่างแผ่วเบา ซ้ำไปซ้ำมาจนเกิดเป็นรอย2รอย

     

    " ...จุ๊บ...อ่า...เรียวอุค...เจ้าเป็นของข้าเถิดนะ... "

     

    " ...อ๊ะ...จงอุน...ขะ...ข้า....อ๊าา...ยะ...ยอม "

     

                เรียวอุคสบตาสีน้ำเงินอย่างหลงใหล ก่อนจะกดหัวโตๆของจงอุนมาประกบปากแน่น

     

    " เรียวอุค...เจ้ารักข้าเหรอ...เจ้ายังไม่รู้จักข้าดีพอเลยนะ...มิใช่ว่าเจ้าเมาหรอกหรอ "

     

    " ...จงอุน...ข้ารู้ตัวเสมอว่าข้ากำลังทำอะไร และข้าไม่เคยปฎิเสธความจริง...ข้าจะช่วยเจ้าเอง... "

     

                เรียวอุคยิ้มให้ก่อนที่จะจุมพิตจงอุนอีกครั้งอย่างนุ่มนวล

     

    " ...เรียวอุคอ่า...สัญญากับข้าสิว่าจะช่วยข้า... "

     

    " ...ข้าสัญญา...ด้วยสัตย์ของข้า.. "

     

                สิ้นคำของเรียวอุค จงอุนก็มีปฎิกิริยาที่เปลี่ยนไป มือซีดขาวของจงอุนปัดปรอยผมของเรียวอุคออก เผยให้เห็นต้นคอสีขาวที่ชุ่มเหงื่อ และรอยจุมพิต2รอยที่เริ่มจะแดงจัด

     

                ในทันใดนั้น คมเขี้ยวสีขาวของจงอุน กลับงอกยาวออกมาเป็นปลายแหลม มันวับ

     

    ดวงตาสีฟ้าสบตากับร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่าง ร่างเล็กที่กำลังเคลิ้มกับสิ่งเขาทำลงไป เป็นเรื่องดี ที่ดันมีเหยื่อที่ว่านอนสอนง่ายแบบเรียวอุคมาติดกับดัก

     

                ก่อนที่คมเขี้ยวที่งอกออกมากับริมฝีปากเย็นเฉียบจะฝังลงที่คอของเรียวอุค นักล่าแวมไพร์หนุ่มดีดตัวขึ้นมากดร่างของจงอุน ชายเจ้าของบาร์คือแวมไพร์ที่แปลงร่างกลับเป็นร่างเดิมแล้ว จงอุนกำลังตกใจเมื่ออยู่ๆคนที่เหมือนว่าจะเผลอไผลในสัมผัสของเขากลับดีดตัวขึ้นมากดร่างเขาแบบนี้

     

    " ฮึ จงอุน เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลง่ายๆหรอ ข้าเป็นนักล่าแวมไพร์ "  เรียวอุครู้ดีว่า คิม จงอุนไม่ใช่มนุษย์ ด้วยดวงจาสีประหลาดและกลิ่นสาบของแวมไพร์(แม้จงอุนจะแปลงกลิ่นตัวเองเท่าไร แต่นักล่าแวมไพร์ต้องจับกลิ่นได้) 

     

     

                ตะวันใกล้จะโผล่ลับขอบฟ้า แวมไพร์เมื่อโดนแดด ผิวของแวมไพร์จะเรืองแสงและแสบมาก แต่ไม่อาจถึงตายได้ ต้องใช้อาวุธ(ซึ่งของเรียวอุคคือ สร้อยไม้กางเขน) ปักลงที่หัวใจ แล้วแวมไพร์จะสลายหายไปเมื่อโดนแสงแดดแรกของวัน

     

                แต่ก่อนที่เรียวอุคจะมีโอกาสปราบจงอุน แวมไพร์หนุ่มที่รู้ความจริง ผลักตัวนักล่าร่างเล็กกระแทกลงกับพื้น แล้วขึ้นคร่อมไว้ เขี้ยวที่แหลมคมฝังลึกลงในซอกคอขาว เลือดสีแดงสดพุ่งออกจากเรียวปากอันเย็นยะเยือก ไหลนองเต็มพื้น

     

    " โอ้ยยยยย!!!! "

     

                เรียวอุคเจ็บต้นคอแปล๊บๆ ก่อนตัวจะชักเกร็งเนื่องจากเสียเลือดในปริมาณมาก ระหว่างที่จงอุนกำลังหลงใหลในรสชาติเลือดของเด็กชายวัยแรกรุ่นโดยไม่ระวังตัว เรียวอุคใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มี คว้าสร้อยไม้กางเขนของเขา แท่งทะลุหัวใจของจงอุน

     

    " อัก!!! "  จงอุนผงะออก ร้องเสียงโหยหวนแล้วล้มลงข้างๆ ร่างของเรียวอุคที่หายใจโรยริน

     

    " จงอุน ...เจ้าไปเกิดใหม่เถอะนะ ...แล้วก็เป็นคนดีด้วยนะ ... สัญญาที่ข้าให้ไว้ ข้าคงช่วยเจ้าได้เพียงนี้ ขอโทษนะ "   เสียงแหบแห้งของร่างบางกระตุกจิตใจของแวมไพร์ตนนี้เจ้าอย่างจัง เพราะเพียงลมปากของตัวเองที่เคยมีแต่หลอกล้อเหยื่อทุกๆรายที่เคยได้ผ่านมาในชีวิต มีเพียงหนุ่มน้อยคนนี้ ที่รักษาสัญญาอันแสนจะไร้ค่าของเขา

     

                จงอุนที่อึ้งและตกใจ ในใจก็อยากจะช่วยเด็กน้อยคนนี้ แต่เขาไม่สามารถแก้ไขในสิ่งที่ตนทำลงไปได้ เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้และได้แต่ภาวนาว่า เด็กน้อยผู้มีจิตใจงดงามนี้จะปลอดภัย

     

    " เรียวอุค... เจ้า... ถ้าข้าเกิดใหม่ ขอให้ข้าได้มาเจอเจ้าอีก ...ข้าขอโทษนะเรียวอุค... ข้าจะกลับมา...ช่วยเจ้า...ข้าสัญญา "

     

                เรียวอุคหันมาสบตา ดวงตาสีนำ้เงินคู่นั้นที่จ้องเขาอย่างมีความหมาย เรียวอุคยิ้มให้เขาก่อนที่เปลือกตาอันหนักอึ้งจะปิดลง

     

    แสงแรกแย้มของดวงอาทิตย์โปล่พ้นขอบฟ้า ร่างของแวมไพร์หนุ่มก็สลายกลายเป็นผงสีทอง พร้อมกับหัวใจของเด็กหนุ่มเรียวอุค ที่หยุดเต้นเช่นเดียวกัน

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

     

                แสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่าง ร่างไร้วิญญาณของเด็กหนุ่มที่นอนจมกองเลือด ค่อยๆเรืองแสงขึ้น ผงสีทองเรืองรองจากแวมไพร์จงอุนค่อยๆ ลอยขึ้นแล้ววนเวียนอยู่รอบๆกายของเรียวอุคแล้วก็แทรกซึมผ่านเข้าไปยังผิวหนัง

     

                ร่างที่เย็นจัดกระตุกเล็กน้อยก่อนที่ดวงตาสีม่วงอมฟ้า จะค่อยๆลืมขึ้น

     

                เรียวอุคค่อยๆยกตัวขึ้นตามสัญชาตญาณ อะไรกันนึ่ เขาไม่ตายไปแล้วเหรอ หุรือว่ามีนักล่าแวมไพร์คนอื่นมาชุบชีวิตเขาไว้ เรียวอุคหันไปมองยังที่ๆเคยมีร่างของแวมไพร์ตนนั้น แต่ตอนนี้กลับมีเขาคนเดียวในห้องเดิมจะหนาวและมืด

     

    " ...ข้ายังไม่ตายเหรอ... "   เรียวอุคหันมองสร้อยไม้กางเขนของเขาแล้วสวมไว้ที่คอของตัวเอง

     

    " ตื่นแล้วสินะ ลูกแม่ " เสียงก้องกังวานดังก้องในหัวของเรียวอุค เขารีบพยุงตัวลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆอย่างหวาดระแวง

     

                มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากอย่างหนึ่งของ 'นักล่าแวมไพร์' คือ ทุกคนนั้น มาจากครอบครัวที่สูญเสียแม่เพราะแวมไพร์ ดังนั้น ทั้งชีวิตของเขา ไม่เคยเลยที่จะได้เห็นหน้าแม่ของตัวเองหรือเรียกใครว่าแม่เลย

     

    " แม่อยู่ทางนี้ เรียวอุค มองออกมาสิ " เสียงนั้นยังก้องกังวานในหัว เรียวอุคหันไปมองทางหน้าต่างบานเดียวในห้องที่เปิดออกสู่โลกภายนอก ซึ่งไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดไหนออกมาให้เห็นยกเว้นดวงจันทร์และหิมะที่โปรยปรายลงมา

     

    " มองขึ้นมาหาแม่สิ...ลูกเรียวอุค " เรียวอุคหันขึ้นมองดวงจันทร์วันเพ็ญ 

     

    " ข้าไม่เคยมีแม่ เจ้าคือใคร " เสียงแห้งผากกระซิบผ่านสายลมหนาว 

                เสียงหัวเราะเบาๆที่น่าขนลุกยังคงก้องอยู่ แล้วดวงจันทร์ก็ขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อยและสว่างกว่าเดิม

     

    " ข้าไม่มีนามที่แน่นอน แต่เจ้าเรียกข้าว่าดวงจันทร์ " เสียงนั้นดังแข่งกับหิมะที่ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

     

    " เจ้าเป็นใครกันแน่ข้าไม่ใช่สัตว์ประหลาดนะ ข้าสื่อสารกับดวงจันทร์ไม่ได้ แล้วเจ้าก็ไม่ใช่แม่ข้าด้วย "   เรียวอุคโต้กลับอย่างหัวเสียไม่ได้ 

     

    "  ...เจ้ายังคงไม่รู้สินะ ลูกแม่ ตอนนี้เจ้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ลองดูตัวเจ้าสิ...  " เสียงของดวงจันทร์กล่าวอย่างน่าขบขัน

     

                เรียวอุค ลองสังเกตตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากฟื้นขึ้นมา ผิวหนังที่เคยมีชีวิตชีวา บัดนี้กลับขาวซีดไร้สีเลือด อุณหภูมิภายนอก ไม่กระทบกระเทือนผิวกายที่เย็นจัด และ ชีพจรที่ไม่ได้เต้นอีกต่อไป!!!

     

                เรียวอุคมองขึ้นไปบนดวงจันทร์อีกครั้ง บัดนี้ มีภาพของชายหนุ่มคนนั้น ในชุดสีแดงดังเลือด ดวงตาสีฟ้าอมม่วงมองดูเงาของตัวเองอย่างอึ้งๆ 

     

    " ...ขะ ข้าเป็นตัวอะไร เจ้าทำอะไรข้า!!!! "  เรียวอุคตะโกนออกไปสุดเสียงก่อนที่ดวงจันทร์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เสียงๆหนึ่งลอยตามสายลมหนาวมาเบาๆว่า

     

    " ...เรียวอุค แม่รับลูกเข้ามาในครอบครัวเราแล้ว ต่อไปนี้ เจ้าจะเป็นพวกเดียวกับเรา แวมไพร์... " 

     

                เรียวอุคทรุดตัวลงนั่นลงกับพื้นหิมะ อย่างตกใจ ใครจะคาดคิดว่าแวมไพร์จะเปลี่ยนจงอุนนั้น จะไม่ฆ่าเขา แต่กลับเปลี่ยนเขาเป็นแวมไพร์ ในฐานะอดีตนักล่าแวมไพร์ เขารู้ว่าการที่เขากลายเป็น แบบนี้จะทำให้เค้าเป็นอันตรายมากขึ้น ดังนั้นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำ คือยอมรับสภาพของตัวเอง แล้วหนีออกไปให้ไกลที่สุด ให้ห่างจากนักล่าแวมไพร์ เพื่อนหรือแม้แต่ครอบครัว

     

                เรียวอุคกลับไปยังบ้านหลังนั้นอีกครั้ง เลือดสีแดงคล้ำของตัวเองยังเปรอะอยู่ทั่ว และเกาะตัวกันเป็นลิ่มๆ กลิ่นชวนหอมหวลนั้น ดึงให้เลียเล็กนั้นเลียลิ่มก้อนเลือดของตัวเองเข้าไปด้วยความกระหาย 

     

     

                            ปังงงง!!!!

     

     

                เสียงประตูเปิดออกดังลั่น ร่างของเพื่อนนักล่าแวมไพร์ที่บังเอิญหลงทางมาที่นี้ด้วยกลิ่นของแวมไพร์ เรียวอุคหันไปมองด้วยความฉงน

     

    " เรียวอุค จะ...เจ้า ... เป็นแวมไพร์เหรอ ... เจ้ากินเลือดตัวอะไรนะ "  เพื่อนนักล่าเอ่ยถามเสียงสั่น เขาไม่นึกว่าจะได้เจอเรียวอุคอีก ในสภาพและสถานการณ์แบบนี้

     

    " เจ้า...ออกให้ห่างข้าเดี๋ยวนี้ ...ไปให้ไกล!!! ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว... "  เรียวอุคกุมขมับ ในขณะที่เขี้ยวสีขาวเริ่มงอกออกมา เสียงคำรามคล้ายสัตว์ป่าดังโหยหวน และดวงตาสีฟ้าอมม่วงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ

     

                เพื่อนนักล่าแวมไพร์ด้วยกันจึงตัดสินใจวิ่งออกห่าง และกลับไปแจ้งต่ออาจารย์เรื่องของเรียวอุค และ เพื่อป้องกันตัวเองในการฆ่าเพื่อนด้วย

     

     

                เสียงฝีเท้าดังแข่งกับพายุหิมะ ในตอนกลางดึก นักล่าแวมไพร์ออกวิ่งไปอย่างไร้จุดหมาย 

     

                ทันใดนั้น เสียงกระพือของปีกคู่ใหญีตัดผ่านหน้าเขาไป ก่อนจะปรากฏร่างของแวมไพร์เรียวอุค ที่ตอนนี้ ตาสีแดงก่ำราวกับเลือดกำลังดักทางเพื่อนเอาไว้ เรียวอุคกลายร่างเป็นแวมไพร์ที่ไร้รูปลักษณ์เดิมของเรียวอุคคนเก่าอย่างสิ้นเชิง

     

    " เรียวอุค เจ้าทำให้ข้าไม่มีทางเลือกนะ... " 

     

    แล้วทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่กัน...

     

     

    …………………………………..To be continued…………………………………....

     

    ไรท์เตอร์กลับมาแล้วววววววววววววว 55555 จริงไรท์ว่างมานานแล้ว แต่ว่าเนื่องจากไม่ได้แตะมานาน ทำให้ไรท์งงกับฟิคตัวเอง โถ่ว 555555 แต่เรื่อง สปายนี้ไรไม่ทิ้งแน่จ้า แต่ว่าไรท์แต่งไม่ออก ก็จะพยายามแต่งให้เสร็จเร็วๆนะ ตอนนี้ไรท์กำลังป่วยหนัก 5555 โรครุมเร้ามาก ดังนั้นไรท์จะพยายามแต่งให้ดีที่สุดแล้วกันนะ

    เรื่องนี้มีต่อนะต่อไรท์แต่งไม่ทัน + ป่วยด้วย เลยขอลงครึ่งเรื่องก่อนนะ ส่วนอีกครึ่งไรท์จะแต่งให้เสร็จก่อนหมดสงกรานต์นะ สัญญา  อันนี้จะลงให้จบให้ได้

    ไรท์เอา SF มาเซ่นรีดเดอร์ก่อนเพราะเรื่องสปายคือ กำลังอึนๆมึนๆ 55555 ไปต่อไม่ถูก  ยังไงก็ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนนะที่ยังรออ่าน (หรือรอจนลืมแล้วก็ตาม 55555) 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×