คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Not the end but and : Dairy of the Vampire hunter
Dairy of the
Vampire hunter: Not the end but and
ซองมินตกใจมาก
เมื่อเห็นคยูฮยอนกลายร่างเป็นหมาป่า จะว่าไปวันนี้เป็นวันพิเศษของพวกหมาป่า
เพราะดวงจันทร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด และสว่างมากที่สุด
ถือได้ว่าดวงจันทร์เป็นพ่อของมนุษย์หมาป่าทุกตัว
ทำให้หมาป่าเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่มีเวทย์มนต์ใดมาทำร้ายได้
และนั้นคือเหตุผลของการเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของแวมไพร์
แม้หมาป่าจะไม่ทำร้ายแวมไพร์
แต่ในวันนี้เป็นข้อยกเว้น
เพราะการควบคุมของดวงจันทร์จะกระตุ้นความสัญชาตญาณดิบอันโหดร้ายขึ้น
และทำลายสิ้นทุกอย่างที่ขวางหน้า
.
.
.
.
.
คยูฮยอนเองก็เช่นกัน ดวงตาสีแดงนั้น
ไม่ได้ฉายแววเหมือนคยูฮยอนที่เคยรู้จักเลยแม้แต่นิดเดียว
ซองมินกลายร่างเป็นแวมไพร์ในทันทีด้วยความตกใจ
ในใจเมื่อสักครู่ที่มันรู้สึกน้อยใจ เสียใจ โมโหทั้งหมด
ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวทั้งสิ้น
เรียวอุครับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้
แม้ว่าใจก็กลัวแค่ไหน แต่เขาก็ทิ้งเยซองไม่ได้
เขาเพิ่งจะเริ่มพิธีการยังไม่เสร็จสมบูรณ์เลย เรียวอุคกอดร่างเยซองเอาไว้แน่น
ในหัวก็พยายามท่องบทเวทย์ที่ได้ร่ำเรียนมา
“คยู!!!” เสียงของชีวอนดังลั่นบ้าน ฮยอกแจกำชายเสื้อของชีวอนไว้แน่น
ขณะมองภาพหมาป่าตัวใหญ่กระโจนเข้าหาเพื่อนแวมไพร์ร่างเล็ก
“หยุดนะ”
ซองงมินกระโจนฟัดกับหมาป่าคยูฮยอนจนล้มกลิ้ง เป็นโชคของเรียวอุคที่ซองมินมาทันเวลา
ไม่งั้นเรียวอุคอาจจะถูกกัดไปแล้ว
“โจว คยูฮยอน เลิกบ้าได้แล้ว!
ตั้งสติเดี๋ยวนี้!! ฉันคือ ลี ซองมิน!! ซองมินของนายไง”
ซองมินได้รับบาดแผลเล็กน้อย แต่เขาไม่สนใจ เขาต้องดึงสติคยูฮยอนไว้
เรียวอุคใกล้จะเสร็จพิธีแล้ว
ชีวอนก้าว เดินลงบันได แต่โชคไม่ดีที่บันไดขั้นสุดท้ายมันโยกเยกชีวอนเหยียบลงดังแกร็ก !!!
หมาป่าคยูฮยอนหันหน้าเปลี่ยนทิศสาวเท้าเข้ามาหาชีวอนอย่างรวดเร็ว
เสียงหมาป่าคำรามขู่กระโชก ชีวอนถึงกับยืนนิ่ง มือถือไม้เท้า อาวุธของเขาขึ้นมา
แม้ว่าไม้เท้านี้ มันจะป้องกันแวมไพร์ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่นักล่ามนุษย์หมาป่าหรอกนะ
หมาป่ากระโจนและใช้กรงเล็บกดตัวชีวอนให้นอนราบไปกับพื้น
ชีวอนเพียงทำได้แค่เอาไม่เท้ายันปากของหมาป่าเอาไว้
“ คยูฮยอนๆ ฉันชีวอนไง เพื่อนรักนาย ได้ยินไหม หยุดนะ คยูๆ”
ชีวอนพึมพำอย่างสติแตก เล็บแหลมๆนั้นก็เกี่ยวเสื้อของชีวอนขาดเป็นริ้ว
แถมยังเลือดไหลออกมาด้วย
อึนฮยอกที่กำลังกลัวอยู่ แต่ก็ทนดูชีวอนเจ็บตัวไม่ได้
ยิ่งเห็นเลือกชีวอน ใจของอึนฮยอกกลับร้อนรนขึ้นเป็นทวีคูณ
ไม่ทันได้ตั้งตัว
หมาป่าคยูก็ถูกเวทย์ของอึนฮยอกกระแทกออกไป อึนฮยอกกลายร่างกลับเป็นแวมไพร์
แล้วพุ่งเข้าใส่หมาป่าตัวใหญ่ อึนฮยอกปีนขึ้นไปบนหลังของคยูฮยอนได้สำเร็จ
เจ้าหมาป่าก็พยายามจะสบัดตัวคนแปลกหน้าออกไปจากกาย
ชีวอนลุกขึ้นมาได้ก็คว้าไม่เท้าตรงเข้าไปตะลุมบอน
เพื่อช่วยสงบคยูฮยอนแต่มันไม่เป็นผล ชีวอนถูกกัดเข้าที่ไหล่
“ โอ้ย!! ”
ชีวอนพลาดท่าและลงไปนอนกุมไหล่อยู่กับพื้น
อึนฮยอกเห็นอย่างนั้นก็ตกใจ เผลอลืมตัวจึงพลาดท่าตกลงไปนอนจุกอยู่กับพื้น
“ อาวู้!!! ” เสียงหมาป่าคยู คำรามกึกก้อง
อึนฮยอกคลานเข้าไปหาชีวอน
“ ชัวอนๆ ลืมตาสิ รู้สึกตัวอยู่หรือเปล่า แข็งใจไว้นะ ”
ชีวอนกำลังทุรนทุราย กับการกัดของมนุษย์หมาป่า ถ้าหากชีวอนหมดสติไปคราวนี้
เขาจะต้องกลายเป็นพวกเดียวกับคยูฮยอนแน่ๆ
คยูฮยอนตะปบร่างอึนฮยอกกระเด็นไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
อึนฮยอกรู้สึกเหมือนตัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
ชีวอนเองก็รู้สึกตกใจพยายามจะเข้าไปช่วยแต่ความเจ็บปวดที่ไหล่มันทำให้เขาขยับอะไรไม่ค่อยจะได้
ซองมินเข้ามาหาคยูอีกครั้งพร้อมกับปลอกคอเวทย์มนต์
ซองมินพยายามรั้งความสนใจของคยูฮยอนเอาไว้ ไม่งั้นอึนฮยอกอาจจะถูกฆ่าตายได้
อึนฮยอกเดินเข้าไปหาชีวอน
ก่อนจะก้มลงดูแผลของชีวอน “ ชีวอน ขอโทษนะ ” แล้วอึนฮยอกก็กัดคอชีวอน
และดื่มเลือดสีแดงสดไหลเข้าลำคอ ชีวอนเบิ่งตากว้างด้วยความเจ็บปวดและกระตุกเกร็ง
ส่วนฮยอกแจที่ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้ จากบาดแผลที่ตนได้รับมา
อึนฮยอกต้องการเลือดในการสมานแผล
ชีวอนหมดสติไปแล้ว
อึนฮยอกยังตัวเองไว้ทันก่อนที่เขาจะดื่มเลลือดหยดสุดท้ายของชีวอน เขาก็สวดอ้อนวอน
ขอให้พระมารดาอภัยให้เขาและประทานชีวิตใหม่ให้ชีวอนด้วย
กลิ่นเลือดของชีวอนไม่ได้ทำให้อึนฮยอกคลั่งเพียงคนเดียว
แต่กลับเป็นหมาป่าคยูฮยอนด้วย ซองมินถูกสะบัดตก ร่างของซองมินลอยออกไป
ก่อนที่หมาป่าจะกลับไปเล่นงานกับอึนฮยอก
และชีวอนที่หมดสติไปแล้ว เรียวอุคหันมองตราเวทย์ที่ประทับบนลำคอของเยซอง
บังเกิดแสงสีทอง แวบสว่างไปทั่วทั้งห้อง หมาป่าคยูหันกลับไปทางแสงนั้นก่อนจะ....
“อ้ากกกกกกกกก!!!!!!!!!”
“ไม่นะ...อุค” คำอุทานจากปากสีซีดของซองมิน
ทำให้คนที่กำลังสลืมสลือเหมือนเพิ่งตื่นนอนของเยซองหันมองคนข้างกาย
เลือดของแวมไพร์เรียวอุคไหลนองออกมาจากลำคอ
เขี้ยวของหมาป่าตัวใหญ่ยังไม่คลายออกจากเรียวอุค ตาของเยซองกลายเป็นสีเงิน และในทันที
ร่างของหมาป่าคยูฮยอนก็ถุกร่างใหม่ของเยซองซัดกระเด็น
“แกเป็นใคร ถึงกล้าเข้ามาทำร้ายเมียข้า!!!”
เยซองกำลังอยู่ในวัยเริ่มแรกของแวมไพร์ ซึ่งเป็นช่วงที่บ้าดีเดือดที่สุด
เขารัวหมัดใส่หมาป่าอย่างไม่หยุดยั้ง หมาป่าคยูฮยอนได้ทีก็เข้าไปเล่นงานเยซองแทน
ซองมินที่เห็นอุคนอนนิ่งก็วิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
“อุค เรียวอุค แข็งใจไว้นะ”
ซองมินยกหัวของเรียวอุคขึ้นเพื่อให้เลือดไหลช้าลง
“...มะ..มิน กัด...ซะ” เรียวอุคพูดเพียงเสียงกระซิบ
“อะไรนะอุค” ซองมินถาม
“...มันจะ..หมดเวลา...แล้ว...กัดคยู...ซะ...กะ..ก่อนที่...เค้าจะ..ทะ..ทำร้ายใคร”
เรียวอุคหมดสติไป
ซองมินวางร่างของเรียวอุคลง
และตรงเข้าไปห้ามเยซองกับคยูฮยอนที่ยังสู้กันอย่างดุเดือด
“เยซองถอยออกมา” ซองมินออกคำสั่ง
เหมือนจะเป็นการช่วยเยซองที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่จริงๆในใจลึกๆแล้ว
ซองมินกลับหวงหมาป่าคยูฮยอนที่หอบหายใจเหมือนใกล้จะหมดแรง
ซองมินพุ่งตัวเข้าไปคร่อมระหว่างบนตัวหมาป่า
แต่คยูฮยอนก็ยังไม่หมดฤทธิ์ สบัดซองมินไปชนกับแจกัน เศษแก้วพวกนั้นบาดปีกอันบางเบาของแวมไพร์จนเลือดสีดำทมิฬไหล
หยดลงเป็นทางยาว
“โอ้ย” ซองมินร้องออกมาเบาๆ
ก่อนใช้แรงเฮือกสุดท้ายคว้าลำคอของเจ้าหมาป่าที่กำลังงุนงง และกัดเข้าไปเต็มปาก
“เอ๋ง!” หมาป่าคยูฮยอนกระตุกตัวเกร็ง
เลือดสีแดงข้นของหมาป่าไหลปนกับเลือดสีดำจากปีกคู่งาม ดวงตาสีแดงเบิ่กกว้างก่อนที่จะกลายเป็นสีดำสนิทเหมือนเดิม
แสงสีเงินส่องสว่าง
แปลงร่างของหมาป่าตัวใหญ่กลายเป็นคยูฮยอนคนเดิม นอนคดตัวหน้าซีดอยู่บนตักของซองมิน
เยซองมีท่าทีแปลกใจ
ว่าทำไมหมาป่าตัวนั้นกลับกลายเป็นเพื่อนของเขาได้ ชีวอนก็นอนหมดสติ อึนฮยอกคงกำลังรักษาเขาอยู่
เยซองหันมองร่างเล็กก่อนจะเดินเข้าไปหาด้วยใจแทบสลาย
ร่างเล็กของเรียวอุค
ซีดเผือกยิ่งกว่าแวมไพร์ทั่วไป แวมไพร์เรียวอุคนอนนิ่งราวกับศพ ตัวเย็บเฉียบ
เยซองพยายามเขย่าร่างเล็ก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา
“เรียวอุค เจ้าทำสำเร็จแล้ว ข้ากลับมาแล้วเรียวอุค
ข้าจำได้ทุกอย่างเลย ข้ากลับมาช่วยเจ้าแล้ว เรียวอุค ... ได้โปรด
ลืมตามองข้าอีกสักครั้ง” เยซองกุมมือเรียวอุคเอาไว้ เขาร้องไห้ เยซองกำลังเสียใจ
เพราะเขาจำคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเรียวอุค แต่ตอนนี้เขากลับทำไม่ได้
เขาช่วยเรียวอุคไม่ได้ เรียวอุคไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเขาอีกแล้ว
เยซองได้แต่ถอนหายใจ
ปล่อยให้หยดน้ำตาแห่งความเสียใจพรั่งพรูออกมาอย่างไม่มีวันจะหมด
เยซองถอดสร้อยคอรูปไม้กางเขนสีดำ คืนกลับแด่เจ้าของที่ควรจะเป็น
“...เรียวอุค ได้โปรด
กลับมาทำให้สัญญาที่ข้าให้ไว้มีความหมาย...”
แต่เยซองไม่อาจรู้เลยว่า
เรียวอุคจะได้ยินคำปรารถนาของเขาหรือไม่ ไม่อาจรู้ได้เลย
แสงสีทองวาบอีกครั้ง
ชีวอนลุกขึ้นนั่งในร่างใหม่ของตัวเอง และมองเห็นฮยอกแจนอนราบไปกับพื้นอย่างหมดแรง
“ฮยอกแจ”
เสียงทุ้มนุ่มของชีวอนเหมือนในคราแรกที่เขาทั้งสองได้พบกัน
“ชีวอน ท่านกลับมาแล้ว” เสียงแหบแห้งของฮยอกแจเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ มีรอยน้ำตาไหลออกมาด้วยความยินดี
“ฮยอกแจ ข้าจำได้แล้ว ข้าจำได้ทุกอย่าง
ข้าขอโทษที่ข้าทำอะไรไม่ยั้งคิด” ชีวอนค่อยๆช้อนร่างเล็กขึ้นมาแนบอก
ฮยอกแจก็ดีใจมากที่ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ
“กระหม่อมดีใจมากเลย ฝ่าบาท ท่านเคาท์ของข้า
ข้าเองก็ขอโทษที่ทำอะไรวู่วามในครั้งนั้น” ฮยอก แจยกมือขึ้นจะกอดชีวอนเอาไว้
แต่เรี่ยวแรงทั้งหมดกลับหายไป
“...ฮยอกแจ อย่าจากข้าไปอีกนะ ชายาของข้า ข้ารักเจ้า” ชีวอนค่อยๆสวมแหวนนั้นกลับให้ฮยอกแจ
ฮยอกแจยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
“...ฮยอกแจ!” ชีวอนเอ่ยด้วยความตกใจ
เมื่อฮยอกแจก็ตัวเย็นลงอย่างกะทันหัน
“...ชีวอน ข้ารักท่าน...”
เสียงกระซิบสุดท้ายก่อนที่ฮยอกจะปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนแรง
ทุกอย่างของชีวอนเหมือนหยุดนิ่ง
ฮยอกแจไม่ขยับเขยื้อนร่างกายใดๆเลย
“...ม่ายยยยยยยยย!!!!! ”
แต่เสียงคำรามของชีวอนไม่ได้ช่วยให้ฮยอกแจตื่นขึ้นมาจากนิทราอันเป็นนิรันดร์
ซองมินหุบปีกสีดำที่ชุ่มไปด้วยเลือด
เรี่ยวแรงทั้งหมดก็แทบจะหายไปในทันที มันไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดหรือความรู้สึกอะไรเลย
เหมือนความรู้สึกมันว่างเปล่า
เมื่อดื่มเลือดของคยูเข้าไป
เลือดหมาป่าไหลแทรกภายในตัว เลือดของศัตรูตัวฉกาจกัดอวัยวะต่างๆในร่างกาย
ในครั้งแรกมันรู้สึกเคลิ้มๆหลังจากนั้นก็หมดความรู้สึกใดๆ
คยูฮยอนนอนนิ่ง แผลบนลำคอของเขาค่อยๆสมานเองตามธรรมชาติ
ซึ่งพวกหมาป่าทำไม่ได้ ทำให้ซองมินรู้แล้วว่าคยูฮยอนก็กลายเป็นแวมไพร์แล้ว
แม้เขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม แต่พวกหมาป่าพวกนี้ก็มีภูมิต้านทานเกี่ยวกับเวทย์มนต์อยู่แล้ว
ซองมินก็เลยวางใจ
ซองมินเดินผ่านร่างของอึนฮยอก และ
เรียวอุคทั้งคู่ยังมีชีวอนกับเยซองค่อยอยู่ยข้างๆไม่ยอมไปไหน
ทั้งชีวอนกับเยซองตอนนี้กลายเป็นแวมไพร์หมดแล้ว
เพียงแต่ผิวซีดเลยตัวเล็กกว่าเล็กน้อย ที่เหลือก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม
“...แม่เตือนแล้วไง ว่ามันจะมีอันตราย”
เสียงของดวงจันทร์ดังเวงว้างไปทั่วทั้งห้อง ชีวอนกับเยซองต่างมองหาต้นตอเสียง
“...แต่พวกเราก็ทำสำเร็จแล้วนะพระมารดา พวกเขาเหมือนเราแล้ว...”
ซองมินตอบเสียงราบ พลางมองออกไปทางหน้าต่าง ดวงจันทร์สว่างแวบๆ
และทันใดนั้นแสงสีทองก็สว่างวาบ
เยซองและชีวอนต่างก็เอามือปิดตา
เมื่อแสงสว่างนั้นหายไป ร่างของเรียวอุค อึนฮยอก และซองมินก็หายไป แสงแรกของวันค่อยๆเยื่องกรายเข้ามาในบริเวณตัวบ้าน
ทั้งเยซองกับชีวอนต่างก็รู้สึกแสบผิว
ทั้งๆที่เป็นเพียงแสงแรกเช้า แต่กลับรู้สึกเหมือนเดินในตอนกลางวันของเมืองไทย
ทั้งคู่รีบปิดม่านทุกผืนในบ้านหลังนี้
คยูฮยอนผุดลุกขึ้นมาเหมือนกับหลุดออกจากฝันร้ายอันยาวนาน
เยซองเดินเข้าไปหา แต่ชีวอนดึงตัวไว้ แผลที่ไหล่ขวาของเขายังมีคราบเลือดจากการกัดของคยูฮยอนอยู่
ชีวอนเกรงว่าคยูฮยอนอาจจะอาลวาทอีก แต่ไม่คยูกลับมีท่าทีหงอยเหงา
เหมือนตอนที่ถูกแฟนคนแรกทิ้งไม่มีผิด
“คยู” เยซองเรียกเสียงค่อย
“ซองมินหละ” ดวงตาสีดำสนิทมองหาร่างแวมไพร์หน้าหวานตนนั้นแต่ก็ไม่มีแม้แต่วี่แววใดๆ
“ไม่มีใครอยู่ที่นี้แล้ว ทุกคนหายตัวไปหมดเลย” ชีวอนตอบ
เขายังไม่ทันได้ขอบคุณฮยอกแจของเขาเลยสักครั้ง
คยูฮยอนนิ่ง นิ่งอย่างน่ากลัว
เยซองเดินไปจับบ่าของเขา เนื้อตัวของคยูฮยอนร้อนกว่าที่เขาคิดไว้ จึงรีบดึงมือออก
“...พวกเขาไปแล้ว...” เสียงปริศนาดังขึ้นมาจากทางประตูหน้าที่ถูกเปิดออก
แวมไพร์2ตนเดินตรงเข้ามาในบ้าน
“ไปไหน” คยูฮยอนถามขึ้นทันควัน
“ไปรับใช้พระมารดา และรักษาตัว
...พวกเขาได้รับบาดเจ็บและไม่มีทางใดที่จะรักษาได้ พระมารดาจึงทำข้อตกลงกับทั้ง3ไว้
เมื่อถึงเวลาพระมารดาจะส่งพวกเขากลับมาเอง...”
แวมไพร์ตนแรกบอก
“...และเมื่อถึงเวลานั้น
พวกเจ้าจะต้องออกไปตามหาคู่ของเจ้าอีกครั้ง เป็นเสมือนการชดเชย...”
แวมไพร์อีกตนกล่าว เสียงที่คุ้นหูทำให้คยูฮยอนจ้องมองพิจารณาอีกฝ่ายทันที
“...ระหว่างเวลานี้ พระมารดาส่งสาส์นให้มารับตัวพวกท่านทั้งหมด
ไปที่ปราสาทหลวงก่อน...”
ชุดเครื่องแบบเหล่านั้นทำให้ชีวอนนึกขึ้นได้
“...พวกเจ้าคือองครักษ์ของราชาแวมไพร์ใช่หรือไม่”
ชีวอนเอ่ยถาม เยซองดูงงๆเพราะยังไง ตอนที่เขาเป็นแวมไพร์
ท่านเคาท์ไม่ใช่ชีวอนแต่เป็นอีกรุ่นหนึ่ง
ส่วนคยูฮยอนก็เคยได้ยินมาบ้างแต่ก็ไม่คุ้นตา
ร่างของแวมไพร์ก้มโค้งคำนับให้ชีวอนทันที
“ใช่พะยะค่ะ พวกกระหม่อมคือองครักษ์ของท่าน เคาท์ชีวอน
กระหม่อมมีนามว่า...”
“คิม คิบอม กี่ร้อยวันพันปี ข้าก็ไม่เคยลืมสหายของข้าหรอก”
ชีวอนเอ่ยขึ้นขัดองครักษ์
คิบอมถอดหน้ากากที่สวมใส่อยู่ส่งยิ้มให้ชีวอน
และเข้าไปชนบ่ากัน คิบอมนึกว่าชีวอนจะไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับอดีตแล้ว
แต่เหมือนว่าชีวอนจะจำได้ทุกอย่าง
“เหมือนเจ้าจะอ้วนกว่าเดิมนะ” ชีวอนกล่าวอย่างติดตลก
คิบอมขำเล็กน้อย
“เล็กน้อยพะยะค่ะ555 ดีใจเหลือเกินที่ท่านจำได้...
ส่วนนี่คือ ‘เพื่อนร่วมชีวิต’ ของข้า...ลี
ทงเฮ”
“ลี ทงเฮ!!!”
ทั้งชีวอนและคยูฮยอนต่างก็อุทานกันออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
คิบอมก็ไม่ได้แปลกใจที่ชีวอนจะรู้จัก
ลี ทงเฮ เพื่อนสนิทของ ลี ฮยอกแจ ผู้ซึ่งถูกเขากักตัวเอาไว้ แต่กลับคยูฮยอนซึ่งคิบอมไม่เคยรู้จักมาก่อน
กลับมีท่าทีที่ดูประหลาด อย่างกับเคยรู้จักกันมานาน
ลี
ทงเฮถอดหน้ากากออกและจ้องมองคยูฮยอน โดยมีสายตาที่หึงหวงจากคนข้างกายมองตามตลอด
“ โจว คยูฮยอน? ” ทงเฮหน้าถอดสีเหมือนจำเพื่อนสนิทในดีตได้
ทั้งคิบอม ชีวอน
และเยซองต่างก็สงสัยถึงเรื่องราวระหว่างคยูฮยอนและทงเฮว่ามันเป็นมายังไง แต่ก่อนจะได้ถามทงเฮก็อุทานออกมา
“คยู...ฉันขอโทษ...”
.
.
.
.
.
.
“ ยังมีหน้ามาขอโทษ
นี่หรือคือสิ่งที่เพื่อนทำ หรือที่แท้ นายก็เป็นเพื่อนทรยศที่หักหลัง
และไม่คิดจะสนใจไยดีอะไรเลย แม้แต่นิดเดียว!!! นายฆ่าฉันทั้งเป็น ทงเฮ!!!
นายทำลายชีวิตฉันและ ซองมินด้วย!!!!!!
”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“คิม คิบอมงั้นเหรอ ... จะใช่คนเดียวกันหรือเปล่านะ” เยซองได้แต่ยืนนิ่ง คิดพลางมองเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อสักครู่
เยซองเดินห่างออกจากนั้นเล็กน้อย
เขาหยิบสร้อยไม้กางเขน อาวุธของเรียวอุคและของเยซองขึ้นมา เยซองมองกลับไปที่คิบอม เขากลับด้านมันใหม่ของสร้อยปรากฏเงาสะท้อนของชื่อบางคนที่สลักไว้บนขอบไม้กางเขน
“...แด่ คิม คิบอม
ที่รัก...”
-------------------------------
Writer’s Talk --------------------------------
อิอิ
ตามชื่อตอนเลยนะ Not the end but and แน่นอนว่าภารกิจของการแปลงโฉมคู่รักทั้ง3กลับมาเป็นแวมไพร์แล้ว แต่เรื่องราววุ่นๆเบื้องหลังยังไม่จบ (คือเอาจริงๆนะ
ไรท์เป็นพวกแบบชอบแต่งสด แต่งไปเรื่อยๆ พอถึงจุดที่หนึ่งเดี๋ยวมันก็จะจบเองนะ
หวังว่ารีดเดอร์จะยังไม่เบื่อก่อนนะ ^^)
อ่า... ไรท์มีข่าวร้ายอีกแล้ว คือว่า
พรุ่งนี้ไรท์ก็จะเปิดเทอมแล้ว และคิดว่าอาจจะไม่มีเวลาแต่งฟิคอัพฟิคไปอีกนานโขเลย
ไรท์เสียดายมากๆจริงๆ ToT แต่ไรท์ก็ต้องเรียนก่อน
และต้องไปไฟว์กับคะแนนมิดเทอม อวยพรให้ไรท์ไม่ต้องรีเกรดด้วยนะสาธุ อิอิ >.<
แล้วถ้าไรท์เคลียงาน(ที่กำลังจะมากองเท่ายอดเขาเอเวอเรส)เสร็จทั้งหมด
ไรท์จะมาแอบๆเขียนปล่อยไว้ให้นะ อิอิ รักรีดเดอร์ทุกคนเลยนะ จุ้บ! นอนหลับฝันดีนะ จัลจาโย~~
ความคิดเห็น