คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : อารัมภบท
ศึกใหญ่ชายแดนใต้ของแคว้นลู่ใกล้จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่ชั่วยามหลังการต่อสู้อันยาวนานหลายเดือน
ด้วยมันสมองอันชาญฉลาดไม่เป็นรองผู้ใดในใต้หล้าของแม่ทัพใหญ่หลิวสามารถวางกลยุทธ์การศึกได้อย่างรอบคอบและรัดกุม
จนสุดท้ายชินอ๋องแห่งแคว้นเมิ่งก็พลาดท่าถูกปลิดพระชนม์ชีพโดยทหารผู้หนึ่งภายใต้สังกัดของเขา
และไม่มีผู้ใดทราบเรื่องนี้นอกจากตัวเขาและรองแม่ทัพหลี่ซึ่งเป็นเสมือนกุนซือมือขวาคู่กาย
ทว่าไม่มีกำแพงใดที่สามารถปิดกั้นลมได้มิด เพราะสุดท้ายแล้วก็มีผู้ล่วงรู้ว่าทหารผู้นั้นหาใช่ใครอื่น
แต่กลับเป็นบุตรสาวคนเดียวของท่านแม่ทัพใหญ่หลิวที่แอบตามไปรบด้วยนั่นเอง
บุตรสาวงั้นหรือ? เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อทุกคนต่างก็รู้กันว่านางป่วยกระเซาะกระแซะมาตั้งแต่เยาว์วัยแล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ใดไปจับดาบได้เล่า
ไม่เพียงไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ยังว่ากันอีกว่านางนั้นล้มป่วยด้วยโรคประหลาดที่มีตุ่มหนองผุดขึ้นตามใบหน้าและร่างกายจนทำให้สามารถต้องแสงแดดได้เป็นเวลานานๆจนกลายเป็นคนอัปลักษณ์
เพราะเหตุนี้แม่ทัพหลิวจึงได้กักตัวนางเอาไว้แต่เพียงในเรือนไม่ให้ออกมาพบหน้าผู้คนเพื่อให้อับอาย
ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางมาก่อน เช่นนี้แล้วจะไปปรากฎกายอยู่ที่ชายแดนได้อย่างไร
โกหกทั้งเพ!
แต่ว่าก็ว่าเถอะ ตราบใดที่กองทัพของท่านแม่ทัพใหญ่ยังกลับมาไม่ถึงประตูเมือง
เรื่องเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
จะบุกเข้าไปไถ่ถามเอาความจริงภายในจวนคงต้องรออีกเดือนกว่าๆทุกอย่างก็จะกระจ่างแจ้งดุจเห็นฝ่ามือ
วันเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนกับอีกสิบวันกองทัพราวครึ่งแสนของแม่ทัพใหญ่หลิวซือหยางก็เดินทางมาถึงเมืองถงเซียงซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวๆร้อยหลี่[1] แต่เพราะท่านแม่ทัพใหญ่เห็นว่าทหารทั้งหมดเดินทางกันมายาวนานแล้ว
จึงตัดสินใจพักแรมเสียก่อนเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนเอาแรงและเตรียมตัวให้พร้อมที่จะกลับบ้านเกิดของตน
แต่ก็มีบางคนที่ยังมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือมากพอที่จะออกเที่ยวเล่นทุกครั้งที่มีโอกาส
แม้บิดาจะสั่งห้ามสักปานใดเจ้าตัวก็ยังคงฝ่าฝืนดังเช่นเรื่องที่นางแอบหนีออกจากจวนแล้วตามบิดาไปถึงชายแดนนั่นแหละ
ผู้ใดจะไปคาดคิดว่าหลิวซือเย่วบุตรสาวเพียงคนเดียวของหลิวซือหยางจะอาจหาญชาญชัยหนีออกจากจวนหลิวในยามวิกาลเพียงเพราะอยากไปคอยดูแลบิดาเท่านั้น
กว่าคนที่จวนจะรู้เรื่องนางก็ตะบึงอาชาคู่ใจออกนอกเมืองหลวงไปไกลมากแล้ว
ซงฮูหยินทำได้เพียงให้คนส่งจดหมายไปแจ้งแก่สามีให้ทราบเรื่อง
หากว่าตามจริงแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซือเย่วหนีออกนอกจวน ก่อนหน้านั้นนางเคยอยากออกไปท่องยุทธจักรตามหาปรมาจารย์ผู้หนึ่งเพื่อขอตัวเป็นศิษย์จึงเตรียมตัวจะหนีไปเงียบๆ
ทว่าหลี่ลู่เหอที่คลุกคลีเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กๆรู้ทันนางจึงตามไปจนเจอและพานางกลับมา
และเรื่องที่ว่านางมีตุ่มหนองตามร่างกายจนอัปลักษณ์นั้นก็เป็นเรื่องจริง
แต่นั่นเป็นเรื่องเมื่อหลายปีดีดักมาแล้ว
หลังจากที่จู่ๆวันหนึ่งนางตกบ่อน้ำหลังจวนและได้หลี่ลู่เหอช่วยขึ้นมา
จู่ๆตุ่มหนองเหล่านั้นกลับหายไปอย่างน่าฉงน ซ้ำแล้วอุปนิสัยของนางก็เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังมือราวกับเป็นคนละคน
แม้แรกๆคนในจวนจะไม่เคยชินกับอุปนิสัยที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ของนาง แต่นานวันเข้ากลับรู้สึกว่าซือเย่วคนใหม่ช่างมีพลังอำนาจบางอย่างที่ดึงดูดผู้คน
ถึงนางจะซุกซนอยากรู้อยากเห็นราวกับเด็กๆ หรือมักจะห้าวหาญชื่นชอบการฝึกฝนกระบี่กระบองมากกว่าเย็บปักถักร้อย
ซ้ำยังรักสนุกรักการเที่ยวเล่นมากกว่าจะยอมอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนไปบ้างแต่ความเป็นนางเหล่านี้ก็ทำให้คนรอบข้างหลงรักนางได้อย่างไม่รู้ตัว
ทว่า...
เรื่องที่ผู้คนทั่วแคว้นลู่ต่างล่ำลือว่าบุตรสาวของเขาสามารถสังหารชินอ๋องของแคว้นเมิ่งจนทำให้สงครามการช่วงชิงดินแดนยุติลงได้ในครั้งนี้กลับไม่ใช่สิ่งทำให้ที่เขาวิตกจนผมแทบร่วง
แต่เรื่องที่ทำให้เขาต้องคิดหนักจนศีรษะแทบระเบิดกลับเป็นเรื่องสัญญาที่บิดาของเขา
หลิวซือมิ่ง หรือไคกั๋วกง เคยให้ไว้ว่าจะให้บุตรสาวหรือหลานสาวคนใดคนหนึ่งเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับอดีตฮ่องเต้และขึ้นเป็นฮองเฮา
หากแต่ไม่ทันได้ทำตามพระประสงค์ อดีตฮ่องเต้ก็ถูกลอบปลงพระชนม์ลงอย่างกระทันหัน
แม้จะมีองค์รัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์อยู่แล้ว แต่ในระหว่างนั้นไทฮองไทเฮาจำต้องคอยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปก่อนเนื่องจากยังทรงพระเยาว์เกินไป
สุดท้ายเรื่องนี้จึงถูกหลงลืมไปตามกาลเวลา
แต่แล้วในวันที่หลิวซือเย่วบุตรสาวของเขาถือกำเนิด ไทฮองไทเฮาจึงได้มีโอกาสได้ทอดพระเนตรความน่ารักน่าเอ็นดูของนางทำให้จู่ๆก็นึกถึงคำสัญญานั้นขึ้นมาเสียได้
หมายมั่นปั้นมือจะให้ซือเย่วได้ครองคู่กับต้าเจิงฮ่องเต้ในภายภาคหน้า ซึ่งได้กำหนดไว้ว่าหากนางผ่านพิธีปักปิ่นเมื่อใดให้เตรียมตัวเข้าพิธีอภิเษกสมรสทันที
กระทั่งวันเวลาผ่านไปหลายปี ต้าเจิงฮ่องเต้มีพระชนมายุได้สิบสามชันษา
เขาก็ได้รับรู้ว่าตนเองนั้นมีหญิงสาวที่ไทฮองไทเฮาทรงกำหนดเอาไว้ให้เป็นพระชายาอยู่แล้ว
เขาจึงได้อาละวาดเสียจนตำหนักแทบพัง และมักจะคอยพูดอยู่เสมอว่าขอให้นางนั้นอัปลักษณ์จนไม่คู่ควรกับเขาและขอให้คำสัญญานั้นถูกยกเลิกไปเสีย
ก็ไม่รู้เพราะสวรรค์รับฟังคำภาวนาขององค์รัชทายาทหรือต้องการกลั่นแกล้งหลิวซือเย่วกันแน่
เพราะจู่ๆวันหนึ่งนางก็เกิดเป็นตุ่มหนองพุพองตามใบหน้าและผิวกายขึ้นมาจริงๆ
จากวันนั้นมาแม่ทัพใหญ่หลิวจึงไม่เคยให้บุตรสาวได้ออกมานอกจวนและไทฮองไทเฮาเองก็ไม่เคยตรัสถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลย
วันเวลาผ่านไป ฮ่องเต้มีพระชนมายุสิบแปดชันษาถึงเวลาที่ต้องเข้าพิธีอภิเษกสมรสเพื่อแต่งตั้งฮองเฮา
ซึ่งสตรีที่เขาเลือกก็คือหลานสาวของไทเฮา บุตรสาวของอัครเสนาบดีขวาจางฟ่านเหยียน ทุกอย่างควรจะราบรื่นและน่ายินดี
ทว่าก่อนวันพิธีเพียงวันเดียวจู่ๆต้าเจิงฮ่องเต้ก็ทรงประชวรหนักอย่างไม่ทราบสาเหตุ
หมอหลวงท่านใดก็ไม่อาจรักษา สุดท้ายพิธีก็ต้องล้มเลิกอย่างน่าเสียดาย
กระทั่งหลายวันต่อมา พระอาการประชวรดีขึ้นจึงได้เตรียมการจัดพิธีอภิเษกสมรสขึ้นอีกครั้ง
แต่แล้วจู่ๆเหตุการณ์ก็ย้อนกลับมาเช่นเดิม
ทุกอย่างวนเวียนอยู่เช่นนี้จนน่าฉงน
เหล่าขุนนางจึงได้พากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่าหรือนี่จะเป็นเพราะอาถรรพ์บางอย่างกันแน่
หรือต้าเจิงฮ่องเต้จะไม่มีดวงสัมพันธ์กับหลานสาวของไทเฮากันหนอ
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องกล่าวขานกันในวงกว้างอย่างมาก
บ้างก็ว่าตำแหน่งฮองเฮาอาจจะไม่มี บ้างก็ว่าพระองค์ยังไม่มีคู่ครองที่เหมาะสม
ผ่านไปนานวันจนบัดนี้ต้าเจิงฮ่องเต้มีพระชนมายุยี่สิบชันษาแต่ยังไม่มีฮองเฮาเคียงข้างได้
เดือดร้อนไปถึงไทฮองไทเฮาต้องมีรับสั่งให้โหรหลวงตรวจดูดวงชะตาเป็นการด่วน ก็ได้ความว่า
“ทูลไทฮองไทเฮา ทูลฝ่าบาท ตำแหน่งฮองเฮานั้นไม่ใช่ว่าไม่มีพ่ะย่ะค่ะ
ย่อมมีอย่างแน่นอน”
“แล้วเหตุใดเรากับลี่เอ๋อร์จึงไม่อาจครองคู่กันได้เล่า” ต้าเจิงรีบถามด้วยความร้อนใจนัก
ไม่ว่าเขาจะพยายามสักเพียงใดแต่ก็คล้ายจะต้องมีอุปสรรคมากมายมาขัดขวาง เขาคิดมากจนไม่เป็นอันทำอันใดแล้ว
“ทูลฝ่าบาท
นั่นเพราะคนที่จะได้เคียงคู่บารมีกับพระองค์นั้นได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้วและคนคนนั้นก็มิใช่จางหวงกุ้ยเฟยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่...ไม่มีทาง จะเป็นเช่นนี้ไม่ได้
เรารักเพียงลี่เอ๋อร์ผู้เดียวเท่านั้น หากมีผู้อื่นเราจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ไม่มีวัน!”
“ฝ่าบาททรงระงับโทสะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ใจเย็นก่อนเจิงเอ๋อร์ ให้ย่าได้คุยเองเถิด”
ไทฮองไทเฮาปลอบโยนหลานชายด้วยความเมตตา ก่อนจะผินพระพักตร์ไปหาโหรหลวงผู้นั้น “แล้วเจ้าบอกเราได้หรือไม่ว่าหญิงผู้นั้นเป็นผู้ใด”
“ทูล...ทูลไทฮองไทเฮา นางเป็นคนที่พระองค์ทรงรู้จักดีพ่ะย่ะค่ะ”
คิ้วใบหลิวที่ยามนี้เป็นสีดอกเลาขมวดเข้าหากัน “เรารู้จัก...งั้นหรือ”
“พ่ะย่ะค่ะ นางถือกำเนิดมาเพื่อเป็นฮองเฮาและไม่มีผู้ใดแทนที่ได้
ต่อให้คิดฝืนโชคชะตานี้ก็เป็นไปได้ยาก และอีกไม่นานนางจะต้องมาปรากฏกายต่อหน้าพระองค์ทั้งสองอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
จบคำของโหรหลวง ต้าเจิงฮ่องเต้ก็กำพระหัตถ์แน่นอย่างคนที่ไม่อาจทำอันใดได้ ถูกกำหนดเอาไว้แล้วกระนั้นหรือ
ฮึ! สตรีที่เขารักมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ไม่ว่านางจะเป็นผู้ใดเขาก็จะไม่วันยอมรับนาง นางอาจจะได้เป็นฮองเฮาแต่เพียงในนามเท่านั้น
แต่นางไม่มีวัน ไม่มีทางได้หัวใจของเขาไปแม้ครึ่งเสี้ยว!
[1]หลี่ คือ หน่วยวัดระยะทาง (1 หลี่ = 500 เมตร)
ปอลิง...ตอนนี้ไรท์แต่งเอาไว้นานแล้วนะคะ มาอัพให้อ่านรออีกเรื่องจบ ถ้าชอบกะกดเฟบกดใจให้ด้วยน้าาา เรื่องนู้นจบ มาต่อเรื่องนี้แน่นอนค้าบบบ
ความคิดเห็น