ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นิทานเจ้าหญิงนิทรา

    ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิงนิทรา2

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.พ. 51



    หญิงชรานางนั้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากเครื่องปั่นด้ายแต่ก็ได้ตอบเจ้าหญิงมาว่า " กำลังปั่นด้ายอยู่เพคะ องค์หญิง " เจ้าหญิงนึกสนุก และทรงหยุดยืนเมียงมองดูหญิงชรานางนั้นทำการปั่นด้ายอยู่อย่างสนใจ สักพักหญิงชรานางนั้น อยู่ ๆ นางก็ร้องขึ้นแล้วทำท่าทางกุมนิ้วมือของนางเอาไว้ พร้อมกับพูดว่า " โอ้ย..เจ็บ... เข็มของเครื่องปั่นด้ายมันตำนิ้วมือของหม่อมฉันเข้าให้เสียแล้ว พระธิดากรุณาช่วยร้อยด้ายใส่เข็มตรงนี้ ให้กับหม่อมฉันได้ไหม ? เจ้าคะ " เจ้าหญิงทรงพยักหน้ารับทันทีเลยทีเดียว เพราะพระองค์นั้นทรงมีความสนใจ เป็นทุนเดิมอย่างมากอยู่ก่อนแล้วจึงเอ่ยปากบอกขอลองทำดูบ้าง " ดีสิ...ฉันจะช่วยร้อยด้ายให้เองแล้วกันนะ..แม่เฒ่า "


    เมื่อหญิงชรานางนั้นขยับตัวลุกออกจากที่เพื่อให้เจ้าหญิงทรงลงไปนั่งประจำที่แทนแล้ว และทันทีที่เจ้าหญิง ทรงเริ่มร้อยด้ายเข้าไปที่เข็มอย่างอุสาหะอยู่นั้น พลัน " ว๊าย..เจ็บ..." นิ้วของพระองค์ต้องพลาดไปถูกเข็มอัน แหลมคมของเครื่องปั่นด้ายนั้นแทงเข้าอย่างจังจนพระโลหิตไหลซึมออกมาในทันที...แล้วพระองค์ก็ทรงล้มลง นอนหมดสติอยู่ที่ตรงกลางห้องนั้นเอง...หญิงชราที่นั่งจดจ้องมองเจ้าหญิงอยู่ที่ใกล้ ๆ กันนั้นเมื่อนางมองเห็น ว่าเจ้าหญิงได้ล้มลงและทรงหมดสติลงไปแล้ว และในพลันทันทีนั้น...นางก็เผยอยิ้มเผยโฉมหน้าอันแท้จริงของ นางออกมาทันที...ใช่แล้วมันคือแม่มดนางที่ 7 ที่เป็นผู้ที่ได้สาปพระธิดาเอาไว้เมื่อครั้งนั้นนั่นเอง...มันกระโจน ลุกขึ้นมา แล้วส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับตะโกนก้องขึ้นอย่างสมหวังสมใจของมันเลยทีเดียวก็ว่าได้ " ฮะ ๆๆๆ เป็น ไปตามแผนสมน้ำหน้า..สมใจข้าเหลือเกิน เหอ ๆๆๆ " พูดแล้วมันก็หายตัวหายวับไปเสียจากที่ตรงนั้นในทันที....


    ร่างที่นอนเหยียดยาวอย่างไร้สติของเจ้าหญิงที่น่าสงสารนั้น ต่อแต่นี้ไปพระองค์จะต้องทรงนอนหลับไหลไปอีกยาว นานเป็นร้อยปีเลยทีเดียว แล้วตรงนั้น แม่มดนางที่ใจดีที่ได้เคยร่ายเวทย์มนต์เพื่อให้ความช่วยเหลือพระธิดาเอา ไว้เมื่อครั้งก่อนนั้น ก็ออกมาปรากฏกายขึ้นที่ข้างหน้า แล้วพูดบอกกับเจ้าหญิงว่า " เมื่อถึงร้อยปีข้างหน้าที่จะมาถึง ซึ่งจะเป็นเวลาที่พระองค์หญิงจะต้องฟื้น และตื่นขึ้นมานั้น ถ้าพระองค์ไม่พบใคร ? ก็จะทรงว้าเหว่เป็นอย่างมากใช่ไหม ? เพคะ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเวทนาและน่าสงสารเสียเหลือเกิน หม่อมฉันจะใช้เวทย์มนต์อีกครั้ง เพื่อทำให้ทุกคนที่ เกี่ยวข้องกับพระองค์หลับไหลลงไปพร้อม ๆ กันกับพระองค์ทั้งหมดนะ เพคะ " พูดจบนางก็ยกคธาทองของนางขึ้นสู่ เบื้องบนแล้วกวัดแกว่งไปที่รอบ ๆ บริเวณนั้น....


    รุ้งเจ็ดสีที่เต็มไปด้วยเวทย์มนต์ได้ส่องแสงเป็นประกายโปรยปลาย และกลับกลายเป็นสายรุ้งส่องแสงระยิบระยับไปโดย รอบจนทั่วทั้งปราสาทราชวัง พร้อมทั้งทุก ๆ คน ทุก ๆ ชีวิตที่อยู่ในบริเวณนั้นก็พลันพลอยหลับไหลลงไปด้วยทันที ซึ่งก็รวมไปถึงพระราชาและพระราชินีซึ่งพอดีกับตอนนั้นขบวนของพระองค์ได้เสด็จกลับเข้ามาถึงพอดิบพอดีเช่นกัน.... และนานวันเข้า ปราสาทแห่งนั้นก็ถูกบดบังไว้ด้วยเถาไม้ที่มีหนามอันแหลมคม และเรื่องราวที่มีเจ้าหญิงแสนสวย นอนหลับอยู่ในปราสาทลึกลับก็เลื่องลือทั่วไป จนเจ้าหญิงถึงกับทรงได้รับฉายาใหม่ว่า " เจ้าหญิงนิทรา " นับตั้งแต่นั้นมา..


    วันเวลาผ่านไป...มีเจ้าชายหลายองค์ในหลายสมัยที่พยายามจะบุกเข้ามาในปราสาทแห่งนี้ เพื่ออยากที่จะยลโฉม ของเจ้าหญิงสักครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเลยสักคนที่จะสามารถผ่าดงหนามอันแหลมคมอันนั้นเข้าไปได้ พวกเขาส่วนมาก มักจะโดนหนามที่แหลมคมอย่างกับใบมีดเหล่านั้นทิ่มแทงเอา จนเสื้อผ้าต้องขาดวิ่น และร่างกายต้องได้รับบาดเจ็บ อย่างสาหัส เจ้าชายทั้งหลายจึงเป็นอันต้องล้มเลิกความตั้งใจของพวกเขาทุกรายไปเลยทีเดียว....และแล้ววันเวลาก็ ผ่านล่วงเลยมาจนมาครบกำหนดร้อยปีเข้าพอดี พลันก็ได้มีเจ้าชายองค์หนึ่งซึ่งอยู่ไกลจากที่นี่มาก ได้เดินทางผ่านมายัง ปราสาทแห่งนี้ และบังเอิญได้ยินเรื่องราวของ" เจ้าหญิงนิทรา " เข้าโดยบังเอิญจากปากของชาวบ้านที่ อาศัยอยู่ที่แถว ๆ นั้น พระองค์ทรงครุ่นคิดและนึกสงสารเจ้าหญิงอย่างเหลือล้น ทรงตรัสว่า " เรามีความรู้สึก สังหรณ์ใจแปลก ๆ ว่า เจ้าหญิงองค์นั้นคงจะต้องการความช่วยเหลือ และรอเราอยู่... "


    และเมื่อพระองค์ทรงชักม้าให้เข้ามาหยุดยืนนิ่ง ๆ อยู่ที่ตรงข้างหน้าปราสาทของ" เจ้าหญิงนิทรา "แล้วนั้น พระองค์ก็ทรงยกพระหัตถ์ขึ้นอธิษฐานว่า" หากเราคือผู้ที่จะทำลายคำสาปแห่งแม่มดนางที่ 7ได้แล้วละก็ ขอให้หนาม ที่แหลมคมเหล่านี้จงอย่าได้ทิ่มแทงเราได้เลย..."อธิษฐานจบ ก่อนที่เจ้าชายจะเสด็จลงจากหลังม้านั้น พลันก็ปรากฏ ร่างของหญิงชราสูงอายุผู้หนึ่งเดินถือดาบและโล่ทองคำ เข้ามาหยุดยืนลงที่ข้างหน้าของพระองค์ แล้วนางก็กล่าวกับเจ้าชายว่า " จงนำมีดดาบและโล่ทองคำสองอย่างนี้ติดตัวท่านไปด้วยเถิด สิ่งทั้งสองนี้จะช่วยปกป้องและคุ้มครองท่านได้เป็นอย่างดี " และเมื่อนางมอบของทั้งสองอย่างให้กับเจ้าชายแล้ว นางก็เดินจากไป ใช่แล้วหญิงชราผู้สูงอายุนางนี้ก็คือแม่มดที่แสนใจดี นางนั้นนั่นเอง........


    เจ้าชายดุ่มเดินเข้าไปในปราสาทแห่งนั้นอย่างองอาจองหาญ แล้วพระองค์ก็ชักมีดดาบที่หญิงชราผู้สูงอายุมอบให้มานั้น กวัดแกว่งออกไปแล้วฟันลงไปที่หนามแหลมคมพวกนั้น สิ่งที่แปลกประหลาดก็บังเกิดขึ้น เพราะปรากฏว่าเมื่อคมของมีดดาบ สัมผัสไปที่พวกหนามแหลมคมเหล่านั้นแล้ว ก็บรรดาลให้มันเหี่ยวและเฉาลงทันทีทันใด จึงมิได้ต้องพระวรกายของ เจ้าชายได้เลยแม้แต่น้อยนิด ตรงกันข้ามมันกลับแหวกเป็นทางให้พระองค์เดินไปข้างหน้าได้อย่างสะดวกสะบายเสียอีก ด้วย และภาพเหตุการณ์ในครั้งนี้มันก็หาได้พ้นไปจากสายตาของสมุนมือขวาคู่ชีพของนางแม่มดนางที่7 ซึ่งเป็นค้าง คาวผี ตัวที่นางแม่มดได้ออกคำสั่งให้มันมีหน้าที่มาคอยสอดส่องและเฝ้าปราสาทของ" เจ้าหญิงนิทรา เอาไว้นั้น มันจึง รีบบินไปที่ที่อยู่ของนางแม่มดที่เป็นเจ้านายของมันในทันที ปากก็ร้องแจ้งความที่มันได้ยินได้เห็นมานั้น ด้วยเสียงที่ ดังลั่นว่า " แย่แล้ว..มีเจ้าชายบุกเข้ามา..บุกเข้ามาแล้ว...เจ้าชายตัวจริงเสียด้วย....แย่แล้ว.."


    แม่มดนางที่ 7 เมื่อได้ยินดังนั้นก็โมโหจนดวงตาของมันเป็นประกายสีเขียวปัดขึ้นมาในทันที มันแสยะยิ้มแล้วตวาดออก มาด้วยความโมโหว่า " อ้ายเจ้าชายบ้าที่ไหนนี่ !บังอาจจะมาขัดขวางคำสาปของข้าได้..ฮะ ฮะ ฮ่า เหอ ๆๆๆ " แล้วนางก็ กระโดดขึ้นไม้กวาดยานคู่ชีพของนางทันที แล้วบินตรงไปยังปราสาท เมื่อมาถึงหน้าปราสาทแล้วนางก็ท่องคาถาว่า " นะ โม จา ละ.....นะ โม จา ละ " ใส่ไม้กวาดยานคู่ชีพของนางอันนั้น แล้วพลันทั้นทีอย่างปาฏิหารย์...ไม้กวาดอันนั้น ก็กลับกลายร่างมาเป็นมังกรยักษ์ที่น่ากลัวในทันทีทันใด....
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×