ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สัตว์ในตำนาน+เทพนิยาย

    ลำดับตอนที่ #2 : เมดูซ่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 426
      0
      4 เม.ย. 53

    เมดูซ่า




                      เมดูซ่า -
    Medusa เป็นคำที่มีมานานมากแล้ว ที่ยังคงเป็นรากศัพท์ไว้ในหลายๆภาษาโบราณ เช่น ในภาษาสันสกฤต คือ "เมธา ในภาษากรีก คือ Metis และในภาษาอียิปต์โบราณคือคำว่า Met หรือ Maat มีแหล่งกำเนิดจากตำนานของประเทศลิเบีย ที่นำเข้ามารวมในตำนานกรีกทีหลัง เป็นที่นับถือของชาวลิเบียโบราณว่าเป็น เทพแห่งงู หรือเจ้าป่าเจ้าเขาผู้มีอำนาจดุร้าย ในยุโรปสมัยโบราณยุคหิน งู ยังไม่ได้เป็นสัญญลักษณ์ของความชั่วร้าย ซึ่งเป็นทัศนคติตามคริสตศาสนาที่เกิดขึ้นมาภายหลัง หากเป็นสัญญลักษณ์ของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ และก็อาจเป็นไปได้ที่ว่า เมดูซ่า เจ้าแม่ผู้ทรงพลังจากสังคมโบราณ เป็นเค้าเงื่อนที่ชาวอินเดียนำไปผูกเป็น เจ้าแม่ทุรคา หรือ กาลี ก็ได้

    เมดูซ่า เป็นหนึ่งในลูกสาวทั้งสามของ เมทิสซึ่งเมทิสเป็นเจ้าแห่งสติปัญญาและสามารถแปลงร่า งเป็นสิ่งต่างๆได้มากมาย แต่เดิมลูกทั้ง 3 ของเมทิสเป็นคนที่สวยงามมาก  เมดูซ่าเป็นเทพในท้องทะเลที่สวยงามมาก

                    แต่แล้ววันหนึ่งเมทิสแม่ของเมดูซ่าถูกเทพ ซุส(Zeus) ข่มขืนกลืนกินลงท้องไป และซุสจึงได้ใช้สติก็ได้ปัญญาและความสามารถทางการแปลงร่าง ของเมทิสเพิ่มอำนาจให้กับตนเอง พลังอำนาจนั้นทำให้เทพซุสยิ่งใหญ่เหนือเทพทั้งปวง

    ต่อมาเทพธิดา อาเธน่า(Athena) ได้ถือกำเนิดขึ้นมาจากการที่พลังของเมทิสทะลักออกมาท างหน้าผากของซุส เมื่อเอเทน่าได้กำเนิดขึ้นพร้อมกับความสามารถทางสติป ัญญาของเมทิสผู้เป็นแม่ และเอเทน่าก็ถือเมดูซ่าพี่น้องร่วมสายเลือดแม่ เป็นศัตรูคนสำคัญ อยู่มาวันหนึ่งเมดูซ่าที่เป็นสาวงาม มีชายหลายคนหมายปองเป็นเจ้าของ ก็ได้ไปบูชาเทพเอเทน่ายังวิหารของเอเทน่า

    แล้ว เทพโพไซดอน(Poseidon) ก็เห็นเมดูซ่าที่มีหน้าตาสวยงามมาก จึงต้องการครอบครองเมดูซ่าเป็นของตน จึงใช้กำลังขืนใจเมดูซ่า อาเทน่าเห็นดังนั้นจึงใส่ความเมดูซ่าว่า ลบหลู่เอเทน่าในวิหารศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และสาบเมดูซ่าให้กลายเป็นมารร้ายหน้าตาน่าเกลียด และสาบให้ผมสวยงามของเมดูซ่าเป็นงูเต็มหัวเมดูซ่า  เมื่อใครมองหน้าเมดูซ่าก็จะกลายเป็นหิน เธอจึงไปหลบอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งพร้อมกับกอร์กอนส์พี่น้องอีก 2ตัวคอยทำร้ายผู้คนที่ผ่านไปมาในบริเวณนั้น  เมดูซ่าจึงกลายเป็นมารร้ายที่สุดตนนึงในตำนานกรีก

    ณ อาร์กอส  กษัตริย์อาคริซิอุสกษัตริย์อาคริซิอุส [Acrisius] มีธิดา องค์หนึ่ง นามว่า ดานาอี [Danae] แต่ทว่ามีเทพพยากรณ์แห่งเดลฟีได้ระบุไว้ว่ากษัตริย์ อาคริซิอุสนั้นจะต้องสิ้นพระชนน์ด้วยหลาน ชายแน่ ด้วยเหตุฉันนี้ กษัตริย์แห่งอาร์กอสจึงขังธิดาของตนไว้ใต้ดิน จนกว่าจะม้วยมรณาไปเอง แต่ว่าคำทำนายนั้นจะหลีกเลี่ยงมิได้เลย เทพซีอุสผู้ยิ่งใหญ่ได้ทอดพระเนตรเห็นจากเขาโอลิมปุสลงมา เห็นนางนั่งจับเจ่าเหงาหงอยอยู่คนเดียว จึงได้กลายร่างเป็นเม็ดทองลอด มาสู่สมด้วย เพียงลมปากผ่านไปมินาน(ก็เก้าเดือนนั่น แหละ) นางดานาอีก็คลอดลูกออกมามีนามมังกรว่า เปอร์ซีอุส[Perseus] แต่ เรื่องนี้รู้ไปถึงท่านบิดาจนได้จึงจับนาง และบุตรชายใส่หีบปล่อยล่องไปในทะเล หีบใบใหญ่ได้ล่องงลอยมาถึงเมืองซีราฟอส [Seraphos] ด้วยความช่วยเหลือของซีอุสและชายหาปลาชื่อ ดิคทีส[Dictys] ก็ได้มาพบและเก็บไปเลี้ยงดูจนเปอร์ซีอุสเติบโต เป็นหนุ่ม

    เมื่อ โปลีเด็คเทส[Polydectes]เจ้าเมืองซีราฟอสเกิดมารักใคร่ นางดานาอีและสมรสด้วย หากแต่ว่ามีก้างขวางคอคือลูกของนางนั้นเปรียบดั่งหอกข้างแคร่เจอะเจอหน้าที ไร ก็อดขุ่นใจไม่ได้ ท้าวท่านจึงคิดหาทางกำจัดให้พ้นหู พ้นตา.....พ้นเท้า วิธีการอันแยบยลจึงได้เกิดขึ้น วิธีการของโปลีเด็คเทสก็คือยุให้เปอร์ซีอุสไปตัดหัวนางเมดูซ่า โดยพูดว่าถ้าหากตัดหัว นางได้ล่ะก็ชื่อเสียงจะต้องดังระเบิดเถิดเถิงไปถึงเจ็ดแคว้นแห่งต้าชิง อุแหม่!!!!!เปอร์ซีอุสกำลังหนุ่มแน่นไฟแรง เหมือนนักการเมือง หน้าใหม่อยากเด่น อยากดังได้ยินดังนี้ก็เอาซีครับ แต่การจะไปตามล่าหัวเมดูซ่าได้นั้น มิได้หมูๆเหมือนดั่งเจ้าชายในนิทาน นางอมนุษย์ กอร์กอนนี้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง นอกจากบนหัวจะมีฝูงงูแล้วยังมีปีกสำหรับเหาะด้วย ปากมีเขี้ยวยาวน่ากลัว (ไม่รู้เป็นเพราะเขี้ยว ลากดินรึป่าว?) นางพี่สองคนเป็นอมตะแต่เมดูซ่าน้องสุดท้ายนั้นไม่เป็นอมตะ หากว่าคิดจะฆ่านั้นยากเพราะเพียงแต่มองดูหน้าอันใส ซื่อ ของนางเท่านั้นก็กลายเป็นหินทันที !!!!!พับ ผ่าสิ อย่างนี้เปอร์ซีอุสพระเอกของเราจะทำอะไรนางได้เพราะถึงเปอร์ซีอุสจะเก่งกาจ กล้าหาญสมเป็นลูกครึ่งเทวดา แต่จะต่อกรกับเมดูซ่าหาใช่คู่ประมือกันไม่จึงต้องร้อนถึงเทพเจ้าต้องลงมา ช่วยด้วยฉันนี้เฮอร์เมส[Hermes] เทพสื่อสารจึงเสด็จ ลงมา "เจ้าจะทำการสิ่งนี้มิเป็นผลสำเร็จหรอกถ้าปราศ จากสื่งของสี่สิ่ง"เฮอร์เมสตรัส "อย่างแรกคือรองเท้า วิเศษใส่แล้วเหาะได้ อย่างที่สอง คือย่ามทิพย์สำหรับใสอะไรก็ได้ อย่างที่สามคือ หมวกเฮลเม็ทของเทพพลูโตที่สวมปั๊บ แล้วหายตัวได้ อย่างที่สี่คือ ดาบที่คมกริบที่สุดในโลก  ตรัส แล้วท่านเฮอร์เมสก็ประทานดาบยอดคมเล่มนั้นให้ ส่วนที่เหลือเฮอร์เมสบอกว่าต้องไปเอากับนางไม้แห่งทิศอุดรเอง 


                    อ้าว!แล้ว นางไม้อยู่หนใด เทพเฮอร์เมสเองก็ไม่รู้ต้องไปถามนางผมเทา [Grey Woman] ซึ่งจะไม่บอกอะไรใครง่ายๆแต่ เฮอร์เมสเองก็บอกวิธีการให้เปอร์ซีอุสรู้ และฉับพลันเร็วเหมือนพูดปด ก็เกิดแสงเจิดจ้าขึ้น ร่างของเทพีอเธนา[Athena]ก็ ได้มามอบ โล่ห์เงาวับให้เปอร์ซีอุส"โล่ห์ของข้า ประดุจดังกระจกเงาสำหรับเจ้า จงจำว่าอย่าเพ่งดูนางเมดูซ่าด้วยสายตาตรง มิฉะนั้นจะกลายเป็นหิน จงดูจากภาพสะท้อนในโล่ห์นี้เท่านั้นเจ้าจึงจะเข้าถึงตัวนางได้ปลอดภัย" จากนั้นเฮอร์เมสก็ได้นำเปอร์ซีอุสไปยังสุดขอบโลก ซึ่งเป็นที่ พำนักของนาง ผมเทาทั้งกลุ่มนี้มีเพียงตาเดียวและฟันเดียว ต้องผลัดกันดูและใช้เคี้ยวอาหาร เมื่อไปยังที่อยู่ของพวกหล่อนเปอร์ซีอุสก็ได้ ทำตามแผนการที่ท่านเฮอร์เมสได้บอกไว้นั่นคือลอบเข้ามาไม่ให้รู้ตัว แล้วขโมยเอาดวงตาและฟันคู่นั้นมาเหล่านางผมเทาก็ไม่มีทางไปหา อาหารหรือเคี้ยวอะไรได้ต้องหิวโหย แต่ก็ยังไม่ยอมบอกที่อยู่ของนางไม้ (ไม่รู้จะปกปิดไว้ทำเฟอะอะไรก็ไม่รู้) ทว่าหิวจนทนไม่ไหวจึง ยอมบอกที่อยู่ของนางเมดูซ่าให้เพื่อแลกกับตาและฟันคืนมา จากนั้นเปอร์ซีอุสก็ไปหาเหล่านางไม้แห่งทวีปอุดรซึ่งเต็มใจมอบของวิเศษ อีกสามอย่างให้เขา เมื่อได้ของวิเศษครบแล้วเปอร์ซีอุส ก็สวมรองเท้าวิเศษเหาะไปเหนือพื้นน้ำพื้นดินไปยังเกาะนางกอร์กอนส์

     เมื่อไปถึง เปอร์ซีอุสมองลงมาเห็นรูปปั้นมนุษย์ระเกะระกะไปทั่วเกาะ ที่จริงแล้วสิ่งที่เห็นมิใช่สิ่งที่เป็นจริงเสมอไปเพราะ นั่นที่จริงแล้ว คือมนุษย์ที่บังอาจไปเห็นตัวนางกอร์กอนเมดูซ่าเข้าจนกลายเป็นหินไป จากระยะไกลเปอร์ซีอุสเห็นร่างตะคุ่มๆ ของกอร์- กอนส์ สามพี่น้องเข้าซึ่งกำลังนอนกันอยู่ไม่รู้เลยว่าวันนี้จะมีภัยมาเยือนน้องสาว คนสุดท้องเข้า "เอ..... คน ใดฤาคือนางเมดูซ่า?"เปอร์ซีอุสรำพึง "มองเหมือนกันหมดเลยนี่" "นางคนที่อยู่ ใกล้ชายหาดนั่นแหละ" เสียงเทพอเธนาดังแว่วแว่ว มาจากท้องฟ้าเปอร์ซีอุสขยับ โล่ห์ในมือให้ภาพนางเมดูซ่าปรากฎ จนเมื่อประชิดตัวแล้วจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ตัวนางกอร์กอนเมดูซ่า จนเมื่อประชิดตัวแล้วเปอร์ซีอุสจึง ชักดาบเล่มคมออก จากฝักแล้วตัดฉับเข้าที่คอของเมดูซ่าจนขาดกระเด็น เปอร์ซีอุสจึงจิกหัวนั้นขึ้นมาและก่อนที่งูบนหัวนั้นจะทำร้ายเขา เขาได้หย่อนศีรษะของนางเมดูซ่าลงไปในย่ามวิเศษแล้วรูดปิด โดยไม่รีรอให้ติดรอเรือ เปอร์ซีอุสก็ทิ้งซากปราศจากหัวของนางเมดูซ่าไว้ แล้วเหาะหนีไปทันทีเสียงของเหตุการณ์นี้ ทำให้นางกอร์กอนส์อีกสองตัวตื่นขึ้นเมื่อแลเห็นน้องสาวกลายเป็นศพไร้ศีรษะ ก็โกรธแค้น ดั่งใครมาฟาดฟันติดปีกบน เหาะไล่เปอร์ซีอุสไปโดยเร่งด่วน.....อ้าวแล้วเปอร์ซีอุสจะทำอย่างไร พี่สาวนางกอร์กอนสองตัวนี้เป็นอมตะ แล้วเปอร์ซีอุสจะทำอย่างไร เป็นกำลังใจให้เปอร์ซีอุสด้วยนะครับ..... แต่ถึงแม้ นางกอร์กอนส์อีกสองตัวตามไปทันก็ไร้ผล เพราะเปอร์ซีอุสได้สวมหมวกเฮลเม็ทของพลูโตร่างเขาก็หายวัวไปกับตาโดยทันที


                    เมื่อเปอร์ซีอุสนำเอาหัวของเมดูซ่าเข้าท้องพระโรงที่มีพ่อตานั่ง อยู่ ทุกคน ณ ที่นั้นก็มองเห็นหัวของนางเมดูซ่าเข้าก็กลาย เป็นหินหมดเปอร์ซีอุสจึงนำหัวนางเมดูซ่าไปถวายเทพอเธนาเป็นของขวัญ นางจึงได้เอาหัวของนางกอร์กอนไปประดับโล่ห์ประจำองค์

    หัวของเมดูซ่าจึงกลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งการป้องกันด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×