ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #13 : 12 CHANGE | Good Bye (100 %)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.83K
      5
      14 มิ.ย. 56

    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    12 | ลาก่อน



    *เนื้อหาของตอนนี้เหมือนจะดราม่า
    คำหยาบมีบ้างเล็กน้อย โปรดเข้าใจ






             “นี่จงอิน. . .”

    “หืม ?”

    “ถ้าเกิดฉันตาย. . .”

    “พูดบ้าอะไรของนายน่ะ ไม่เอาน่า. . .”

    “ถ้าฉันตาย นายต้องอยู่ต่อไปนะ สัญญา ?”

    “ไม่เอาหน่าแทมิน. . .ฉันไม่สัญญงสัญญาอะไรทั้งนั้นแหละน่า”

    “สัญญาสิ. . .”

    “แทมินนา. . .”

    “จงอินสัญญาแทมินสิ”

    “. . .”

    “สัญญานะ”

    “อืม. . .

    .

    .

    .

    สัญญา

     

    ผมอาจจะคิดผิดมากๆก็ได้ที่ไปสัญญาบ้าๆบอๆกับเขาคนนั้น คนที่กำลังจะจากผมไปจริง ๆ ในตอนนี้

    มันเกิดขึ้นตอนที่เราไปนั่งกินไอติมกันเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว อยู่ดี ๆ แทมิน เขาก็โผล่งขึ้นมา

    แต่ผมกลับไม่คิดให้มันมากกว่านี้. . .

    ให้ตายเถอะ

     

    ทุก ๆ อย่างตอนนี้ตีรวนกันอยู่ในหัวที่คับแคบของผม แต่สิ่งที่สมองประมวลให้ผมทำกลับเป็นการนั่งนิ่ง ๆ โดยที่ไม่พูดหรือทำอะไรเลยซักนิด

     

    “อ. . .อะไร. . .กัน”

    เสียงของคนที่นั่งข้างๆ สั่นเทา เขาพูดอย่างติดขัด มือที่จับผมกระชับแน่นมากยิ่งขึ้นอาจเพราะความตื่นตระหนกและหวาดกลัวก็ได้ละมั้ง

     

    “. . .”

    ผมหายใจหอบถี่ หัวใจเต้นรัวจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ ในอก เหงื่อไหลท่วมตามใบหน้า ฝ่ามือ ทั้ง ๆ ที่อากาศตรงนี้เย็นสบาย. . .ผมกระชับฝ่ามือที่จับกับฝ่ามือของแทมินแน่น เหมือนกับว่า

    จะไม่ได้จับกับมันอีกแล้ว

     

    “จ. . .จงอิน”

    มือบางของแทมินสัมผัสที่ไหล่ของผม ผมเหลือบตาไปมองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาหวาดกลัวและสับสน ตอนนี้ที่ใบหน้าของแทมินเต็มไปด้วยน้ำตา. . .

    หวาดกลัวความตาย.  .

     

    ทำไมพระเจ้าไม่เคยเข้าข้างคนอย่างผมเลย ?

     

    “อ. . .อย่านะ !

    แทมินสะดุ้งโหยงเมื่อทหารสองนายเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับทีมแพทย์อีกสองสามคน

    “อย่ามายุ่ง !

    ผมลุกขึ้น ใช้มือปัดฝ่ามือหนาที่กำลังเอื้อมมาจับแทมิน ก่อนที่จะใช้แรงที่มีผลักทหารคนนั้นลมลงไปนอนกลิ้งกับพื้น

    ผมรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า. . .

    ผมโกรธ ผมเกลียด. . .ทุก ๆ อย่าง

    มันเหมือนฉากละครที่ถูกจัดฉากไว้อย่างลงตัว. . .

    มันเป็นละครตลก. . .ตลกร้าย

     

    “จงอิน !

    แต่ไม่ทันไร ทหารอีกหลายคนก็เข้ามาจับแทมินเอาไว้ พร้อมกับนางพยาบาลที่เอาเข็มฉีดยาฉีดเข้าไปที่ซอกคอของแทมิน

     

    “กูบอกว่าอย่ายุ่งกับแทมินไง !

    ผมบันดาลโทสะตะโกนเสียงดังลั่นและกำลังจะกระโจนเข้าไปอัดหน้าคนที่กำลังจับตัวแทมิน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อลำตัวรวมถึงแขนทั้งสองข้างของผมถูกตรึงไว้แน่น ทหาร 4 นายกำลังจับกุมตัวผม. . .

     

    “แทมิน !

    ผมตะโกนเรียกชื่อคนรัก ที่ตอนนี้เปลือกตาปิดลงสนิท ร่างกายของแทมินดูเหมือนไร้เรี่ยวแรง เจ้าตัวยืนแทบจะไม่ไหว แต่นางพยาบาลก็ประคองเขาไว้ได้ทัน หลังจากนั้นทีมแพทย์ก็มาเอาตัวเขาไป. . .เอาตัวของเขาขึ้นเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

     

    “ปล่อยกู !

    ผมดิ้นทุรนทุรายพยายามสะบัดข้อมือ ดิ้นสุดชีวิตแต่มันก็ไม่ได้ผลเลยซักนิดเดียว ผมไม่สามารถดิ้นหลุดได้เลย ในขณะที่กำลังมองแทมินจากไป. . .

     

    “อีเหี้ยกูบอกให้ปล่อยกู ! มึงจะทำอะไรกับแทมิน ปล่อยกู !

    คำพูดหยาบมากมายพ่นออกมาจากปากพร้อมกับอารมณ์ที่เดือดจัดของผม ผมรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีสะบัดแข้งสะบัดขาและดิ้นไปมา จนสุดท้ายก็หลุด

    พลั่ก !’

    ผมกำมือแน่นพร้อมกับฟาดกำปั้นแรง ๆ ไปหนึ่งทีใส่ทหารคนที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนที่จะรีบวิ่งตามแทมินไป

    แทมินกำลังจะออกไปจากห้าง. . .และกำลังจะขึ้นรถพยาบาลไป. . .

     

    “แทมิน !

    ผมตะโกนเสียงดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง และวิ่งไล่ตามแทมินอย่างรีบร้อน แต่แล้ว. . .

     

    ปัง !’

    เสียงปืนดังลั่นมาจากด้านหลัง ก่อนที่ความเจ็บปวดที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับก็แล่นเข้ามาที่ขาข้างซ้าย จนผมล้มลงไปนอนกลิ้งกับพื้น

    “โอ้ยยยยยยยยยยย !

    ผมร้องโอดครวญพร้อมกับค่อย ๆ ชำเลืองมองไปที่ขาซ้ายที่ตอนนี้มีเลือดไหลออกมาเป็นทาง ที่ขาของผมมีเลือดไหลออกมาเยอะมากจากปากแผลที่ถูกฝังด้วยกระสุนปืน

    ผมไม่ทันได้มองว่าใครเป็นคนยิง

    แต่ที่ผมรู้ตอนนี้. . .ผมต้องตามแทมินไป

     

    ผมค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินกะโผกกะเผกอย่างทุลักทุเลด้วยขาขวาเพียงแค่ของเดียว

     

    “แทมิน. . .”

    ความรู้สึกชาทำเอาผมแทบหมดเรี่ยวแรง. . .ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่กำลังถูกยกขึ้นแล้วเข้าไปอยู่ในรถพยาบาล

     

    ปัง !’

    เสียงกระสุนพร้อมกับความเจ็บปวดแบบที่ผมเพิ่งจะประสบกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันทำเอาผมล้มลงไปนอนกับพื้น ความเจ็บปวดที่ขาอีกข้าง ทำเอาผมยืนไม่ขึ้น. . .มันเจ็บ. . .ไปหมด

     

    “แทมิน. . .แทมิน. . .”

    ผมใช้มือทั้งสองข้างจิกลงกับพื้นแล้วดันร่างของตัวเองให้มุ่งไปยังทางข้างหน้า พร้อมกับสายตาที่มองไปข้างหน้า

    ข้างหน้าที่ประตูรถพยาบาลกำลังจะปิดลง. . .

     

    “แทมิน. . .ไม่. . .”

    เลือดสีแดงสดไหลออกมาเป็นทาง ผมรู้สึกเหนื่อยล้า ริมฝีปากแห้งและซีด ดูเหมือนผมจะเสียเลือด. . .มากซะจน. . .เริ่มอ่อนแรง

    ผมรู้สึกได้ถึงเงาตะคุม ๆ อยู่ที่ข้างบน ใช่แล้ว.. .ตำรวจและทหารกำลังยืนอยู่ที่เบื้องหน้าผม พวกเขายกผมขึ้น ก่อนที่จะอัดกำปั้นเข้าที่หน้าท้องของผมอย่างแรง เลือดคาว ถูกผมบ้วนออก ความเจ็บและจุกทำเอาผมถึงกับเผลอร้องออกมา

     

    “พวกมึงมันเลว. . .”

    ผมตัดประโยคเอาดื้อ ๆ พร้อมกับบ้วนเลือดออกมาใส่หน้าตำรวจที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม

    พลั่ก !’

    กำปั้นหนากระแทกเข้าที่กรามของผม มันทั้งเจ็บและปวด แต่ก็คงไม่เท่ากัยภาพตรงหน้าที่ผมได้เห็น

    รถพยาบาลกำลังแล่นออกไป. . .

    แทมิน. . .

     

    “ปล่อยกู อีพวกเหี้ย !

    ผมดิ้นอย่างอ่อนล้า ขาทั้งสองข้างก็หมดปฏิกิริยาตอบโต้เลือดยังคงไหล ความเจ็บปวดทั่วร่างกาย และความคาวในปาก. . .

     

    “สภาพอย่างนี้ยังจะปากดีอีกหรอ”

    ตำรวจอีกคนเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับชักปืนออกมาแล้วจัดการจ่อกระบอกปืนเข้าที่ศีรษะของผม จัดการปลดเซฟตี้แล้วยกยิ้มที่มุมปาก

     

    “. . .”

    “อ้อนวอนขอชีวิตจากฉันสิ แล้วฉันจะไม่ฆ่าแก”

    “. . .”

    ช่างเป็นยิ้มที่น่าสมเพช. .

     

    “อยากยิงก็เชิญ. . .เพราะถ้ามึงยิง ลูกน้องมึงที่จับตัวกูอยู่ก็คงโดนลูกหลงไปพร้อม ๆ กับกู. . .”

    ผมพูดน้ำเสียงเรียบ ตำรวจคนนั้นชะงัก สายตากระตุกขวางก่อนที่จะชักปืนกลับ เมื่อทหารที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเดินเข้ามา

     

    “. . .”

    ผมมองทหารที่เพิ่งจะเข้ามาคนนั้นด้วยแววตาเคียดแค้น. . .ไม่สิ อาฆาต. . .มากกว่า

    “ตามคำสั่งรัฐบาลผู้ใดที่ขัดขืนคำสั่งต้องถูกกำจัด. . .”

    น้ำเสียงเรียบของเขาไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวเลย ณ ตอนนี้. . .ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว. . .ตอนนี้ผมแค่อยากจะอัดหน้าพวกมันแล้วตามไปเอาตัวแทมินกลับมาก็เท่านั้น

     

    ปืนกระบอกเงายกขึ้นมาจ่อที่กลางหน้าผากของผมอีกครั้ง. . .

    แทมิน. . .

    ฉัน. . .ขอโทษที่ปกป้องนายไม่ได้. . .

     

     

     

    ปัง !’
     

     

    - - - - - - 75 % - - - - - -

     

    เหมือนทุกอย่างหยุดลงแค่เพียงเสี้ยววินาที

    เหมือนความฝันที่ผมรู้สึกว่ามันช่างเป็นฝันที่ร้ายที่สุดเท่าที่เคยเจอ

     

     

    “. . อือ. . .”

    ความรู้สึกหนักอึ้งที่อัดอั้นอยู่ในหัว ทำเอาผมแทบจะฝืนสังขารลุกขึ้นแทบไม่ไหว ผมยกมือขึ้นมากุมหัวเอาไว้อย่างยากลำบาก พยายามปรับโฟกัสสายตา แล้วกวาดมองไปรอบ ๆ

    นี่ผมอยู่ที่ไหน ?

    มันเหมือนกับคุก. . .ยังไงยังงั้น

     

    “. . .อุ.”

    ผมเบ้ปาก หลังจากที่พยายามจะขยับขาทั้งสองข้างที่วางอยู่บนพื้น. . .มันขยับค่อนข้างจะลำบากแถมยังเจ็บมากอีกต่างหาก

     

    แต่. . .

    นี่ผมยังไม่ตายอย่างนั้นหรอ ?

    หรือตายไปแล้ว. . .

    หรือนี่คือนรก ?

     

    “อึดจริงๆแฮะ. . .”

    เสียงของใครซักคนดังแว่วมาจากข้าง ๆ ผมเหลือบสายตาไปมองที่ห้องข้าง ๆ ที่ถูกกันด้วยกรงเหล็กแข็งแรง ที่ห้องขังห้องข้าง ๆ ของผมเป็นคน ๆ นั้น

    คนที่เจอกันที่โรงหนัง ที่ห้องน้ำ และก็ที่ห้างชั้น 1

     

    “คุณ. . .”

    “คุณหลับไปเกือบ 2 วันเต็มๆเลยนะ ผมนึกว่าคุณตายไปแล้วซะอีก. . .”

    เขายักไหล่ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     

    “. . .ผมรอดมาได้ยังไง ? เท่าที่จำได้คือ ผมกำลังจะถูกยิง”

    “คุณในตอนนั้นมันงี่เง่าแล้วก็น่าสมเพชมากเลยล่ะรู้ตัวรึเปล่า ?”

    เขาขบหัวเราะ พร้อมกับปรายตามองผมด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

    แต่คำพูดของเขาทำเอาอารมณ์ของผมเริ่มคุกกรุ่นขึ้นมาซะดื้อ ๆ

     

    “คุณโดนยิงน่ะ. . .ที่ขาขวานัดนึง ขาซ้ายอีกนัด พวกทหารกะไม่ให้คุณเดินได้เลยล่ะ. . .ส่วนอีกนัดมันไม่ใช่ของใครทั้งนั้นหรอก. . .ก็แค่พนักงานรักษาความปลอดภัยเขาลุกขึ้นมายิงตัวตายก็เท่านั้นล่ะ. . .คงจะเครียดละมั้ง ?”

     

    ทำไมถึงพูดออกมาได้หน้าตาเฉยแบบนั้น. . .

     

    “ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเราถึงมาอยู่ที่คุก ๆ เก่า ๆ อับ ๆ โทรม ๆ แบบนี้. . .นั่นก็เพราะว่าทางรัฐบาลตัดสินใจให้พาผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากักกันไว้ก่อน. . .พวกทหารก็เลยจัดการพาพวกเราทุกคนในห้างมากักขังไว้ที่นี่. . .”

    “. . .”

    “คุณสงสัยมั้ยละ ? คนมันดูน้อย ๆ นะ,ผมหมายถึงคนที่ถูกขังอยู่ในคุกตอนนี้น่ะ”

    เขายังคงพูดต่อไปพร้อม ๆ กับชี้นิ้วไปรอบ ๆ ผมมองตามเขาอย่างว่าง่าย ซึ่งมันก็จริง ๆ ล่ะ.. .คนมันน้อยจนผิดสังเกต

    จากปกติที่มีคนที่ถูกกักกันประมาณ 40 กว่าคน. . .ทำไมตอนนี้เหลือเกือบจะไม่ถึง 20

     

    “. . .”

    “คนบางคนที่ใจไม่แข็งพอ หรือทำตัวขวางหูขวางตา ก็โดนกำจัดทิ้งหมดแล้วล่ะ. . .”

    “. .บ. . .บ้าหน่า”

    “มันเป็นความจริงทั้งหมดครับ”

    “. . .”

    “ไม่ว่าจะเด็ก ผู้หญิง หรือใครก็ตามโดนกำจัดทิ้งไปเกือบจะหมดแล้ว ,โชคยังดีที่ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร ถึงได้มีชีวิตรอดไปอีกวัน. . .”

    “. . .”

    “ส่วนเรื่องของแฟนคุณ. . .ผมเสียใจด้วยนะครับ”

    “หมายความว่าไง ?”

    “ในความคิดผม. . .เขาน่าจะถูกฆ่าไปแล้ว. . .”

    “พูดบ้าอะไรของมึงวะ !?

    ประโยคที่เขาพูดเมื่อกี๊ทำผมโมโหถึงขีดสุด ผมรีบลุกขึ้นทั้ง ๆ ที่เจ็บขา แล้วเข้าไปจับลูกกรงที่ใช้คั่นระหว่างผมกับเขาแน่น. . .

     

    “ลี แทมิน. . .แฟนของคุณน่ะ ผมว่าเขาตายไปแล้ว”

    “หุบปากไปเลย ! แทมินยังไม่ตาย !

    เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย โดยที่เสตามองไปทางอื่น ในขณะที่มือของผมกำกรงเหล็กแน่น แน่นจนมือมันสั่นไปหมด

     

    “ลองคิดดูสิครับ. . .แทมินอยู่กับคุณตลอดเวลา. . .อีกอย่างไม่ได้ถูกกัด ถูกข่วน หรือแม้แต่ถูกเลือด”

    “ลองคิดกลับกัน ผมที่อยู่ในเหตุการณ์น่ะโดนเลือดกระเซ็นเข้าใส่หน้าเต็ม ๆ. . .แต่ทำไมผมถึงไม่ติดเชื้อและแสดงอาการล่ะ ?”

    เขากำลังจะทำให้ผมเป็นบ้า

     

    ผมทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ ก่อนที่จะถอยกรูเอาหลังพิงกับกำแพง ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นอย่างหัวเสีย

    คนที่อยู่ที่ห้องข้าง ๆ ของผมเชิดปากขึ้นก่อนที่จะกระตุกยิ้มเล็กน้อย ทำไมเขาถึงดูไม่ทุกข์ไม่ร้อนเอาซะเลย ?

     

    “คุณรู้จักแพะรับบาปรึเปล่า ?”

    “รู้สิ. . .”

    “นั่นแหละ,บางทีลี แทมิน แฟนของคุณอาจจะเป็นแพะ หรือแค่ตัวละครตัวหนึ่งที่กำลังจะถูกปิดฉากเพราะตัวละครอีกตัวก็ได้นะ”

    หมายความว่าไง ?

     

    “พูดง่ายๆก็คือ แฟนคุณอาจจะไม่ได้ติดเชื้อตั้งแต่แรกแล้วก็ได้ ? แต่ด้วยเหตุผลที่ถูกตั้งขึ้นตั้งแต่แรกแล้ว เขาเลยเลือกที่จะให้ลี แทมินเป็นผู้ติดเชื้อในละครลวงโลก”

    “ฉันไม่เข้าใจ. . .”

    “ผมแค่ลองๆนั่งคิดดูตลอด 2 วันกว่า ๆ ที่ผ่านมา บางที,รัฐบาลอาจจะวางแผนไว้แล้วว่าจะต้องกำจัดพวกเราที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนในฐานะผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่เชื้อ เขาจึงทำการจัดฉากขึ้นมาว่าเชื้อสามารถติดต่อได้ทางการหายใจ และพิสูจน์ข้อสันนิษฐานด้วยการสุ่มเลือดของคนที่ไม่ได้รับการทำให้เกิดบาดแผลเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็คือแฟนของคุณลี แทมินยังไงล่ะ. . .”

    คิ้วของผมขมวดเข้าหากันอัตโนมัติ ผมรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ความรู้สึกนึกคิดของผมตอนนี้มันตีรวนจนผมแทบอยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ

     

    “หรือจะให้พูดว่าลี แทมิน เป็นตัวละครที่แสนโชคร้ายของตลกร้ายเรื่องนี้ก็ได้นะ”

    เขาคนนั้นกระตุกยิ้มเล็กน้อย ปรายตามองผมด้วยสายตาแสนสมเพช ก่อนที่จะเริ่มทิ้งตัวลงพิงกับผนัง

    คำพูดและการกระทำของเขา มันทำให้ผมรู้สึกโกรธ. . .จริง ๆ

     

    “ถ้ามันเป็นอย่างที่นายพูดจริง ๆ งั้นตอนนี้แทมินอยู่ที่ไหนกันล่ะ ?”

    “ถ้าจะให้ผมเดา,ก็อย่างที่บอกไป เขาตายแล้ว”

    “ทำไมนายถึงมั่นใจขนาดนั้น !

    “ทำไมผมถึงมั่นใจหรอ ? เอาง่าย ๆ นะ เพราะถ้าเป็นผม ผมก็คงจะฆ่าเขาตั้งแต่ที่พาตัวขึ้นรถพยาบาลไปแล้วล่ะ”

    ทันทีที่จบประโยคผมก็ลุกขึ้น ก่อนที่จะเข้าไปกระแทกกรงอีกครั้ง ผมโมโห. . .โมโหสุด ๆ ทำไมเขาถึงพูดไม่ถนอมน้ำใจกันบ้าง มันจะตรงเกินไปหน่อยรึเปล่า ?

    แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย เขาหันหน้ามามองผม ก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย

    “โมโหไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอก. . .ผมแนะนำนะ คุณควรอยู่เฉย ๆ เพราะถ้าขืนยังขยับไปมากกว่านี้ปากแผลคุณอาจจะฉีกก็ได้”

     

    ใช่มันกำลังจะเป็นอย่างที่เขาพูด ตอนนี้ผมเจ็บ. . .เจ็บที่ขาทั้งสองข้างมาก ๆ

     

    “แม่งเอ๊ย !

    ผมคงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าการที่จะต้องสบถออกมาเสียงดัง ๆ ก่อนที่จะลากตัวเองกลับไปนั่งอยู่ที่จุดๆเดิม

     

    “พักซะเถอะ. . .ผมคิดว่าพรุ่งนี้อาจจะถึงคิวพวกเราแล้วก็ได้. . .

    .

    .

    .

    .

    ที่ต้องถูกฆ่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “. . .”

    ให้ตายเถอะ. . .ดูเหมือนว่าผมจะเผลอหลับไปเมื่อตอนไหนก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมทั้งเหนื่อยล้าและอ่อนแรง

    แทมิน. . .จะเป็นยังไงบ้าง ผมก็ไม่รู้

    แม้แต่จะปกป้องยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

     

    “อรุณสวัสดิ์”

    เสียงที่ยียวนกวนประสาทดังเข้ามากระทบหู ผมหันขวับไปมองทางต้นเสียงก่อนที่จะเห็น เขากำลังนั่งกอดเข่าอยู่ที่จุด ๆ เดิม

     

    “. . .”

    ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปพลางใช้สายตากวาดมองไปรอบ ๆ

    ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าคุกที่ผมถูกขังอยู่มันเป็นคุกที่มีแค่ลูกกรงกั้นระหว่างห้องขัง และอีกอย่างดูเหมือนว่าห้องขังของผมกับเขาจะเป็น 2 ห้องสุดท้ายที่ถูกแยกออกมาจากห้องอื่น ๆ เพราะว่ามันที่ประตูบานเลื่อนกระจกกั้นอยู่ระหว่างทางเชื่อมกับห้องขังห้องอื่นๆ

     

    แกร่ก !’

    เสียงไขประตูดังขึ้นมาจากห้องขังอีกฝั่ง ก่อนที่คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้คุม จะเดินเข้ามาพร้อมกับตำรวจอีกคน เขามีปืน. . .มีปืนทั้งคู่

     

    เขาสองคนเดินตรงไปที่ห้องขังห้องแรกที่มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งเอาแผ่นหลังชิดกับกำแพงยกมือร้องขอชีวิตด้วยท่าทีที่หวาดกลัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยซักนิดเดียว

     

    ปัง !’

    ไกปืนถูกเหนี่ยว ก่อนที่ชายคนนั้นจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้นในขณะที่เลือดนั้นไหลออกมาจากหน้าผากไม่หยุด

    เขาตายแล้ว. . .

     

    เหมือนกับว่า พวกเขากำลังจะไล่ฆ่าพวกเราที่ละคน

    ไร้ความปราณี. . .ไร้การชั่งใจ

     

    ปัง ! ปัง !’

    แต่อยู่ดี ๆ เสียงปืนที่ดังมาจากที่ที่หน้าจะเป็นข้างนอกห้องคุมขังก็ดังขึ้นมา มันถี่ ถี่มากจนน่าสงสัย

    “ข้างนอกมีอะไรรึเปล่าวะ ?”

    ผู้คุมคนที่มีกุญแจหันไปถามตำรวจอีกคนที่มากับเขา ตำรวจคนนั้นส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปที่ห้องขังอีกห้องแล้วจัดการทำหน้าที่ของตัวเองนั่นก็คือฆ่า

     

    “. . .”

    ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองคนที่กำลังจะฆ่าและคนที่กำลังจะตาย ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกกลัว. . .ผมไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับความตายเท่าไหร่

     

    ส่วนเขาคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ ผม เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเช่นกัน แต่สายของเขาที่มองไปที่ประตูใหญ่ของห้องขังมันดูแปลก ๆ มันไม่ใช่สายตาว่างเปล่าที่ผมมักสังเกตเห็น ไม่ใช่สายตาสมเพชที่เขามักจะชอบมองมาที่ผม

    มันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวล

    เหงื่อสีใสที่ผุดบนใบหน้าขาวของเขาเป็นเครื่องยืนยันที่ดี

     

    ผมพยายามเพ่งไปที่ประตูห้องขังใหญ่ที่เปิดอ้าซ้าอยู่มันมองเห็นอะไรได้ไม่ค่อยจะชัดเท่าไหร่นักเพราะมันมืด. . .แต่ผมเห็นเหมือนกับเงาของคนประมาณ 3 หรือไม่ก็ 4 คนกำลังเดินมา. . .

    “. . .”

    “ยังไม่เสร็จเลยเหลืออีก 2 คน. . .”

    ในขณะที่ผู้คุมกับตำรวจกำลังจะเดินเปิดบานประตูเข้ามายังเขตห้องขังของผม คน 4 คนที่ผมพูดถึงก็เดินเข้ามาใกล้พวกเขา แต่เขาไม่ใช่ตำรวจ ทหาร หรือผู้คุม. . .อีกอย่างมันดูแปลก ๆ. . .

    แววตาของผมเขามันเหมือนกับ

    ศพคนๆนั้นที่ผมเห็นตอนอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า


              “เฮ้ย !

    ทันทีที่ผู้คุมหันไปบอก ร่างของคน 4 คนนั้นก็พุ่งโถมเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว อ้าปากกว้างก่อนที่จะจิกกัดลงไปที่ลำตัว แขน คอของผู้คุมคนนั้นอย่างหิวโหย. . .

    ให้ตายเถอะ มันเหมือนกับ. . .ผู้ชายคนนั้นที่ห้างสรรพสินค้า ไม่ต่างกันเลยซักนิด

    “อ๊ากกกกกกกกกกกก !

    ตำรวจอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะช้าไป เขาก็ถูกกัดเข้าไปเน้น ๆ ที่หัวไหล่เช่นกัน ก่อนที่จะถูกฉีดเนื้อออกมาเคี้ยวเล่นอย่างสนุกปาก

    เขาทั้งคู่ล้มลงไปนอนกับพื้น ร้องตะโกนอย่างเสียสติ เมื่อความเจ็บปวดที่สุดแล่นเข้ามา เขานอนร้องโอดครวญก่อนที่มันจะเงียบลง

     

    ผมถอยกรูด้วยความกลัว. . .หรือตกใจ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลอะไร แต่ผมรู้สึกกลัวจริง ๆ คนที่เพิ่งเดินเข้ามาพุ่งเข้ากัดกินพวกเขาอย่างหิวกระหาย ทำไม มันทำให้ผมนึกถึงหนังแนวผีดิบกินคนที่เคยดูตอนเด็ก ๆ เหมือนเกมที่เคยเล่นกับไอ้ชานยอล. . .มันเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง

     

    “ให้ตายเถอะ. ..”

    คนที่อยู่ห้องข้าง ๆ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามาก ถอยกรูจนแผ่นหลังชิดกับกำแพงไม่ต่างอะไรจากผม

     

    เลือดสีแดงสดกระจายอยู่เต็มพื้น กลิ่นคาวคละคลุ้งทั่วบริเวณ เศษเนื้อ ลำไส้ หรือจะอวัยวะอะไรก็ตามแต่ที่ถูกควักออกมาทำเอาผมพะอืดพะอม

    ตอนนี้ประตูบานเลื่อนมันแง้มอยู่ ผมแค่หวังว่าพวกเขาจะไม่เปิดประตูเข้ามา. . .


              ผมคงได้แต่ภาวนา. . .

    ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี่ เป็นแค่เพียง ความฝัน

              
    “คุณจงอิน. . .ผมคิดว่าตอนนี้พวกเราคงจะไม่ถูกฆ่าด้วยวิธีการถูกยิงแล้วล่ะ,คุณคิดเหมือนผมรึเปล่า ?”

    ประโยคที่เขาพูดดูเหมือนจะติดตลก  แต่มันเป็นตลกที่ร้ายสุด ๆ

     

    “เราจะต้องทำยังไงต่อ ?”

    ผมถามไปทั้งๆที่รู้ดีว่ามันคงจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว

    “. . .”

    ผมหันไปมองทางเขาที่ดูเหมือนจะใช้ความคิด

    “นายชื่ออะไร ?”

    “คุณไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อของผมหรอก. . .อีกอย่างนี่ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาถามไถ่ชื่อกันแบบนี้”

    “หึ. ..อย่างน้อยถ้าจะตายจริง ๆ ฉันจะได้รู้ไงว่าคนที่อยู่กับฉันก่อนที่ฉันจะตายชื่ออะไร ? ถึงเขาคนนั้นจะไม่น่ารู้เท่าไหร่ก็เถอะ. . .”

    “. . .”

     

    “ผม. . .ผมชื่อคยองซู โด คยองซู. . .

    เท่านี้คุณก็คงจะรู้แล้วสินะ ? ว่าคุณที่อยู่กับคุณก่อนที่คุณจะตายน่ะ.

    .

    .

    .

    ชื่ออะไร ?”



    LOADING. . .
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    โอ้ว ตัดจบแบบงงๆ 5555555555
    มาอัพครบแล้วนะ ถึงจะช้าไปหน่อย
    สารภาพจากใจว่าปั่นไปได้เยอะมาก แต่ลืมกดเซฟ T____T
    เลยต้องมานั่งปั่นใหม่ ทำเอาเหนื่อยกันไป 555555
    ขอบคุณสำหรับคนที่กำลังรอกันนะ หวังว่าจะยังตามกันต่อไปนะ
    ขอบคุณมากจ้า 

    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×