ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) short fiction ▲ grocery'

    ลำดับตอนที่ #9 : ▲ grocery 7 . Beautiful

    • อัปเดตล่าสุด 1 มี.ค. 56


    Beautiful


     

       Title ; Beautiful

                    Paring ; CHENMIN (FT.KRIS และคณะเด็กดาวที่น่ารักน่าเคี้ยวของไรท์เตอร์ #โดนโบก)

                    Author ; NIDNAD (นิดนัด #อีกแล้ว)

                    Theme ; แน่นอนว่าก็ยังคงไม่พ้นเพลงของ บีซือทืออยู่เช่นเคย #ช่วยสามีทำมาหากินน่ะค่ะ #โดนโบก #นี่มันฟิคเด็กดาวนะโว้ย และแล้ว ก็กลับมาพร้อมกับฟิคล่าสุดที่นิดนัดภูมิใจยิ่งกว่าพรีเซนต์ นั่นก็คือ อือ อือ … Beautiful มาจาก M/V Beautiful + I Like You The Best ของหนุ่มๆอสูรนั่นเอง จริงๆมันก็ไม่เชิงมาจากเอ็มวีหรอกค่ะ แต่เหมือนกับว่าไรท์เอาเอ็มวีมาขยายความให้เข้าใจ #ง่ายๆคือการนำเอ็มวีมาแปลความหมายนั่นเอง เพราะเอ็มวีหลายๆคนดูแล้วงงๆค่ะ #ตอนแรกไรท์โคตรจะงง ยังไงก็ขอฝากด้วยนะคะ กับ Lights go on again Project ! #อินี่ชักเยอะ #นีกาเชอิลโชฮวา !

                    Warning ; แนะนำให้ไปดู Mv Beautiful ซักรอบก่อนนะจ๊ะ สำหรับคนที่ไม่เคยดู -///- แล้วมาลองมโนว่า คริสเป็นจุนฮยอง ซิ่วหมินเป็นนาอึน แล้วก็เฉินเป็นกีกวัง คึคึคึ ขอให้สนุกกับการอ่านนะค้าบ (_ _)

                   

    [!!!] ประกาศ : ตอนนี้แม่ค้านิดนัดมีปัญหากับฟิค Lie Detector นิดโหน่ย ฉะนั้นก็เลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้มาเทกระจาดแก้ขัดไปก่อน ไว้จะรีบจัดการให้เสร็จแล้วเอา Lie Detector ล็อตที่เหลือมาเทกระจาดต่อนะจ๊ะ

     

                    ปล้ำลุง(ดู๋) : ฟิคนี้มีสองตอน แต่ !! ทั้งสองตอนนี้ชื่อจะไม่เหมือนกันนะจ๊ะ ตอนแรกชื่อว่า Beautiful ส่วนอีกตอนมีชื่อว่า I Like you the best จ้า และจะมีพาร์ทส่งท้ายสเปเชียลชื่อตอนว่า Very Important U (V.I.U.) อีกด้วยนะ #ธีมเกร๋ป่ะล่ะ #ช่วยสามีทำมาหากินสุดตัว

     

                “คริส รู้ตัวรึเปล่า ว่าช่วงนี้นายพยายามตีตัวออกห่างจากฉันมากเลยนะ…”

     

                เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความน้อยใจ ส่งผลให้คนที่ยืนฟังและถูกพาดพิงอย่าง คริส หน้าถอดสี

     

                “…”

     

                ไม่มีคำตอบใดหลุดออกมาจากปากของร่างสูง มีเพียงแค่ใบหน้าที่แสดงความเฉยเมยแทนคำตอบให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

                การแข่งนั่น มันสำคัญมากเลยเหรอ ?

                “อือ…”

                “…”

                “นายก็รู้นี่ ว่าโอกาสของฉันมันมาถึงแล้วนะ นายบอกเองไม่ใช่รึไง ว่าอยากเห็นวันที่ความฝันของฉันเป็นจริง

                “แต่ถ้าฝันของนายเป็นจริง แต่ไม่มีฉันยืนอยู่ข้างๆ นายจะว่ายังไงล่ะ ?

                “…”

                “ฉันมาหานายถึงโรงยิม เพราะจะพูดแค่นี้ล่ะ ฉันไปละนะ ยังไงก็โชคดี อย่าซ้อมหนักนะ…”

                “…”

     

                คริสได้แต่มองตามร่างเล็กที่หันหลังเดินออกจากโรงยิมไป ร่างสูงยืนถอนหายใจ เขาได้ยินประโยคทำนองนี้มาเกือบสิบครั้งแล้ว หลังจากที่เขาลงชื่อแข่งขันการออดิชั่นเข้าบริษัท SM Ent.

     

                ใช่แล้ว ! ความฝันทั้งชีวิตของเขาในตอนนี้คือ ผ่านการออดิชั่นของ SM เพื่อเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัด ค่ายเพลงเกาหลียักษ์ใหญ่ ความฝันของเด็กเกาหลีค่อนประเทศ และเด็กต่างประเทศอีกจำนวนมาก

     

                คริสใช้เวลาว่างที่มีทุ่มฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันกับผู้เข้าแข่งขันกว่า 2000 คนทั่วประเทศ จนแทบจะไม่รู้วันรู้คืน และที่สำคัญ เขายังลืมไปด้วยซ้ำ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของ มินซอก เด็กหนุ่มที่เพิ่งคุยกับเขาไปเมื่อครู่นี้

     

                เฮ้ย ! คริส ยืนเหม่ออะไรอยู่ จะซ้อมต่อแล้วนะ !” เสียงของ ปาร์คชานยอล เพื่อนร่วมทีมดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้คริสดึงสติกลับมา แล้ววิ่งกลับไปร่วมวงซ้อม

                คริส นายดูไม่ค่อยดีเลยนะ พักหน่อยดีกว่ามั้ย ?อี้ชิงถาม พร้อมยื่นขวดน้ำให้

                ไม่เป็นไร ฉันโอเคดี

                “นายแน่ใจนะ ?ชานยอลถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง

                อือ…”

                “ว่าแต่ วันนี้วันเกิด มินซอก เด็กแกไม่ใช่รึไง ?? ไม่ไปฉลองให้เขาหน่อยเหรอ ?อี้ชิงถาม หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่เมื่อตะกี๊นี้

                ช่างเหอะ เขาคงไปฉลองกับแก๊งเพื่อนแล้วล่ะ

                “คริส นายใจร้ายมากเลยรู้ตัวป่ะ !” อี้ชิงระเบิดอารมณ์ใส่คริส

                ใจเย็นน่าอี้ชิงชานยอลเดินเข้ามาห้าม

                “…”

                “นายว่าฉันควรใจเย็นเหรอชานยอล นายก็คิดดูละกันนะคริส ฉันรู้ว่านายอยากเข้าบริษัท SM ขนาดไหน แต่นายอย่าลืมคนที่เขาคอยเป็นแรงผลักดันให้นายสิอี้ชิงพยายามเตือนสติเพื่อนของตัวเอง

     

                คริสถอนหายใจอย่างรำคาญ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ แล้วเดินออกจากโรงยิมไปอย่างอารมณ์เสีย ชานยอลได้แต่ส่ายหน้า ส่วนอี้ชิงก็ยืนมองตามอย่างโมโหเช่นกัน

     

    นายใจร้ายมากไปแล้วคริส ถ้าวันนึง มินซอกทิ้งนายไป นายจะรู้สึก

     

    XXXXXXXXXX

     

                “ร้องไห้อีกแล้ว ไม่เอาน่า วันเกิดนายทั้งทีนะมินซอกซูโฮเดินมากอดคอเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งร้องห่มร้องไห้มาพักใหญ่ จนเพื่อนๆได้แต่หนักใจ และรู้เหตุผลดีว่าเพราะอะไร

                นั่นดิ อย่าไปสนใจเลย คนใจร้ายแบบนั้นน่ะลู่หานพูดพร้อมเบ้ปาก

                “…”

                “นี่ ไปกินเค้กร้านเฮียชินดงกันมั้ย ฉลองวันเกิดนายไงแบคฮยอนเสนอไอเดีย

    อื้อ…” มินซอกค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาเพื่อให้เพื่อนๆสบายใจ แบคฮยอนลุกขึ้น พร้อมจูงมือมินซอกเดินออกนอกโรงเรียนไป

     

    XXXXXXXXXX

     

                Happy Birth Day To You ….

     

                เสียงร้องเพลงฉลองวันเกิดจบลง มินซอกค่อยๆเป่าเค้กจนเทียนดับทุกเล่ม ตามมาด้วยเสียงเฮฮาของแก๊งเพื่อนที่ตั้งหน้าตั้งตารอกินเค้กกันอยู่แล้ว

     

                ฉลองเลย !!” ซูโฮเปิดวง พร้อมตัดเค้กเปิดงาน ก่อนที่เพื่อนๆทุกคนจะรุมกินเค้กกัน มินซอกได้แต่นั่งมองเค้กสลับกับเพื่อนๆ เพื่อนที่ไม่เคยทิ้งเขาเลย

     

                มินซอก อ้ำๆแบคฮยอนเดินมา พร้อมตักเค้กมาจ่อที่ปากมินซอก ซึ่งคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างก่อนจะค่อยๆกินเค้กที่แบคฮยอนตักมาให้

                เสียใจมั้ย ที่คนที่มาฉลองกับนายเป็นพวกฉัน ไม่ใช่คริส ?ซูโฮเดินเข้ามาถามมินซอก แบคฮยอนส่งสายตาอาฆาตกลับไป ซูโฮ นายกล้าดียังไงมาถามเพื่อนแบบนี้ ไอ้ชั่ว !!!

                “…” มินซอกได้แต่เงียบ ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ และยิ้มอีกครั้ง

                ฉันจะเสียใจทำไม พวกนายเป็นเพื่อนฉันนะมินซอกตอบเบาๆ

                ฮ่าๆ ตอบแบบนี้รักตายเลย เอ้า พรุ่งนี้เดี๋ยวเลี้ยงข้าวกลางวันเลยซูโฮแซวเพื่อนอย่างอารมณ์ดี

     

                มินซอก ซูโฮ แบคฮยอน และลู่หาน จัดปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆกันที่ร้านเบเกอรี่ของชินดง บรรยากาศของปีนี้ช่างแตกต่างกว่าทุกปี ตรงที่คนฉลองไม่ใช่คนเดียวกับปีที่แล้ว แต่เหมือนกันตรงที่ คนที่มาฉลองคือคนที่เขารักเหมือนกัน

     

    XXXXXXXXXX

     

                สามวันมานี้มินซอกแทบไม่ได้คุยกับคริสเลยแม้แต่น้อย เจอหน้ากันในห้องเรียนก็ทักทายกันเหมือนเพื่อนร่วมชั้น พอเวลาพัก ตั้งใจจะไปคุยด้วย กลับไม่เจอคริสซะแล้ว คริสเอาแต่ขลุกตัวซ้อมเต้นอย่างหนักในโรงยิม เวลาในการซ้อมเหลือน้อยเต็มที จนบัดนี้ เหลือเวลาเพียงแค่สองสัปดาห์เท่านั้น

     

                “คริส ตั้งใจซ้อมหน่อยสิ หมู่นี่เอาแต่เหม่อลอยนะชานยอลปิดเครื่องเล่นซีดี ก่อนจะหันมาบ่นเพื่อน

                “…”

                “เหี่ยวแห้งแล้วล่ะสิ ไม่ได้คุยกับมินซอกมาสามวัน ชิ !” อี้ชิงแขวะเชิงสมน้ำหน้าเล็กน้อย

                “…”

                “อ้อ ฉันลืมบอกไป เมื่อกี๊นี้มินซอกเอากล่องข้าวมาให้ เขาฝากบอกด้วยว่าอย่าซ้อมหนักนักนะ เดี๋ยวร่างกายจะทรุด น่าอิจฉานายนะ มีคนที่เขาเป็นห่วงขนาดนั้น แต่นายกลับไม่สนใจเขาน่ะอี้ชิงอธิบายเป็นฉากๆ ก่อนจะว่าปิดท้าย

                อือ…”

                “เอ้า ซ้อมต่อๆชานยอลว่า พร้อมเปิดเพลงต่อ

     

    XXXXXXXXXX

     

                “นักเรียน วันนี้ครูมีนักเรียนใหม่มาแนะนำนะ ต่อไปนี้ เขาจะมาอยู่ที่ห้องเรียนเดียวกับเรา เขาเป็นเด็กเกาหลี แต่โตที่แคนาดา ฉะนั้น ถ้าเพื่อนลำบากหรือไม่เข้าใจอะไร พวกเธอต้องคอยดูแลเขานะ

                “คร้าบบบบ

                “เอ้า คิมจงแด เข้ามาได้เลยจ้ะเสียงของคุณครูเรียกชื่อเด็กใหม่ ก่อนที่จะมีคนก้าวเข้ามาในห้อง

     

                ผู้ชายเกาหลีที่โตที่แคนาดา ผิวขาว หน้าตาดูดี แม้จะดูไม่หล่อเพอร์เฟคต์ แต่องค์ประกอบโดยรวมถือว่าใช้ได้ ดูเหมือนจะเป็นคนติ๋มๆเนิร์ดๆ เพราะใส่แว่นหนาเตอะปิดหน้าไว้ตลอด และดูมีทีท่าเหนียมอาย

     

                อันยองฮาเซโย ผม คิมจงแด ฝากตัวด้วยนะครับจงแดกล่าว พร้อมโค้งทักทายเพื่อนๆในห้อง

                เอาล่ะ ข้างๆมินซอกว่างใช่มั้ยเอ่ย ?คุณครูชี้ไปที่โต๊ะเรียนที่ว่างอยู่โต๊ะเดียวในห้อง

                ครับมินซอกยิ้มน้อยๆ

                เอาล่ะจงแด นั่งตรงนั้นนะ มินซอก เทคแคร์เพื่อนใหม่ด้วยนะจ๊ะ

                “ครับผม…” มินซอกรับคำ ส่วนจงแดก็ค่อยๆเดินมานั่งอย่างเขินๆ

                รบกวนด้วยนะครับ

                “ไม่ต้องเป็นห่วง มีอะไรถามฉันได้นะมินซอกยิ้มให้เล็กน้อย ส่วนจงแดก็ยิ้มกลับ ดูเหมือนว่าจุดเริ่มต้นความเป็นมิตรภาพของทั้งคู่ดูจะไปได้สวยเลยทีเดียว

     

                มองอยู่ได้อี้ชิงกระแอมใส่คริสที่นั่งอยู่ด้านหลังของมินซอก ตอนนี้คริสเอาแต่มองมินซอกที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หลังจากที่จงแดเข้ามานั่งข้างๆ

                “…”

                “หึงล่ะสิท่าอี้ชิงแขวะ

                ก็เออสิ

                “จะว่าไป สองคนนี้เขาก็ดูจะเริ่มต้นความเป็นเพื่อนได้ดีนะเนี่ย ระวังหน่อยก็แล้วกันนะคริสอี้ชิงหันมามองคริสด้วยสายตาที่ต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง ทำให้คริสเริ่มรู้สึกใจไม่ดี

     

                คริส อี้ชิง คุยอะไรกัน !?!”

     

    เปล่าครับครู…”

    งั้นก็นั่งให้ดีๆ แล้วก็ฟังครูสอนได้แล้ว

     

    การเรียนการสอนก็ดำเนินไปตามปกติ แปลกไปหน่อยตรงที่คริสไม่ได้ฟุบหลับเหมือนทุกครั้ง แต่สายตาคมคู่นั้น กำลังจ้องมองไปยังคนที่นั่งข้างหน้าตัวเอง ที่ตอนนี้เหมือนจะดูมีความสุขมากกว่าเดิม

     

    สามวันที่คริสไม่ได้เห็นรอยยิ้มของมินซอก แต่ตอนนี้ เพียงเพราะเด็กใหม่คนนั้นที่เข้ามา ทำให้รอยยิ้มนั้นกลับมาปรากฏบนหน้าของมินซอกได้เหมือนเดิม ทั้งที่รอยยิ้มนั้น เขาควรจะเป็นคนเดียว ที่ได้เห็นมัน ไม่ใช่ไอ้เฉิ่มนั่น….

     

    หึหึชานยอลได้แต่ขบหัวเราะอยู่ในใจ สมน้ำหน้า ตอนที่เขาเป็นห่วงน่ะไม่แล แต่พอเขาได้เพื่อนใหม่ กลับมานั่งจ้องปานจะฆ่าตาย สม !

     

    XXXXXXXXXX

     

    เฮ้ย พักกลางวันแล้ว ไปกินข้าวกันซูโฮเดินมาจากหลังห้องทันทีหลังได้ยินเสียงออดบอกเวลาพัก

    นี่ จงแด ไปกินด้วยกันมั้ย ?มินซอกถามเด็กใหม่ที่นั่งข้างๆ

    ไม่เป็นไร ฉันห่อข้าวมาเองน่ะ

    ไม่เป็นไรหรอก ไปนั่งกินด้วยกันก็ได้ ป่ะมินซอกลุกขึ้น พร้อมลากคนที่นั่งข้างๆให้ลุกตามไปด้วย ส่งผลให้คริสที่นั่งอยู่ข้างหลังมองตามด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจเท่าไหร่

    เอ้า มอง…” อี้ชิงแขวะคริสเมื่อเห็นว่าเพื่อนได้แต่มองตามอย่างหวงๆ

    “…”

    แปลกนะ ฉันจำได้ว่าทุกทีมินซอกจะชวนแกนี่หว่าคริส สงสัยแกต้องระวังไอ้เด็กใหม่นั่นบ้างแล้วล่ะ…” ชานยอลพูด พลางเหลือบไปมองหน้าเพื่อนเล็กน้อย

    ช่างเหอะ ยังไงซะตอนนี้ในหัวฉันก็มีแต่ SM เท่านั้นแหละคริสลุกขึ้นอย่างอารมณ์เสียกับคำพูดของเพื่อนทั้งสองคน ก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป

     

    XXXXXXXXXX

     

                เลิกกันเถอะ … ’

     

                สามคำสั้นๆที่ฟังเผินๆเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ตอนนี้ คำนั้นเป็นเหมือนอะไรบางอย่างที่ทำให้คริสเกือบลงไปนั่งทรุดกับพื้น

               

                “นายนายว่าไงนะ ?

                “ฉันคิดมาทั้งอาทิตย์แล้วคริส ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพนี้ให้นายรำคาญใจ

                “…”

                “ถึงเราจะไม่ได้เป็นสถานะเดิม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะคุยกันไม่ได้นี่

                “...”

                “แล้วก็ ขอให้โชคดีกับการซ้อมนะ อาทิตย์หน้าก็จะแข่งแล้ว สู้เขานะมินซอกอวยพรส่งท้ายให้ ก่อนจะหันหลังกลับ

                เพราะไอ้เด็กใหม่นั่นใช่มั้ย ?

     

                คำถามของคริสทำให้มินซอกสะดุ้ง ก่อนจะชักสีหน้าแล้วหันกลับมาระเบิดอารมณ์ใส่คริสที่ตอนนี้ก็มีสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจเช่นกัน

     

                จงแดไม่เกี่ยว !”

                “นายเปลี่ยนไปเยอะนะ ตั้งแต่ไอ้เฉิ่มนั่นเข้ามา

                “นายต่างหากละคริส คนที่เปลี่ยนไปคือนาย ไม่ใช่ฉัน !”

                “…” คริสได้แต่ยืนนิ่ง เพราะเถียงหรือแก้ตัวไม่ออก

                แล้วก็ อย่าเรียกจงแดแบบนั้นอีก ตอนนี้สถานะของเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ฉะนั้นต่อไป ถ้าฉันจะทำอะไร ยังไง กับจงแด มันก็เรื่องของฉัน นายน่ะ สนใจแค่การออดิชั่น SM ไปก่อนเถอะ โชคดีนะ

     

                มินซอกวิ่งออกไปทันทีหลังจากพูดจบ คริสถึงกับหน้าชา ไม่คิดว่ามินซอกที่ดูใสซื่อและเฮฮาจะดูจริงจังและเปลี่ยนไปขนาดนี้

     

    XXXXXXXXXX

     

                “ไอ้คริส !!!!!!!!”

                “หือ เออ ?? อะไร ??คริสตกใจกับเสียงตะโกนของเพื่อน

                เป็นบ้าอะไรของแกวะ อาทิตย์หน้าออดิชั่นแล้วนะโว้ย !!!” ชานยอลเดินมาหาคริส ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างตีไปที่แก้มของคริสเพื่อดึงสติเพื่อน

                หึหึ โดนทิ้งแล้วล่ะสิท่าอี้ชิงขบหัวเราะเบาๆ

                “…”

                “แทงใจดำเหรอ ?อี้ชิงเย้ยเล่นๆ

                เออ ฉันเลิกกับมินซอกแล้ว…”

     

                พอคริสพูดจบ อี้ชิงที่กำลังทำหน้าเยาะเย้ยก็เปลี่ยนสีหน้า แล้วเดินเข้ามาหาเพื่อนทันที

     

                เฮ้ย นี่แกพูดจริงเหรอ !?!”

                “เออดิ

                “งานนี้ใครเป็นคนขอเลิกล่ะ ?

                “…”

                “คริส ฉันบอกนายแล้ว ว่าวันนึง ถ้ามินซอกทิ้งนายไป นายจะเสียใจ…”

                “…”

                “ช่างเหอะ ยังไงซะ ในเมื่อถ้านายเลิกกับเขาไปแล้ว ตอนนี้ในหัวนายก็คงมีแต่ SM แล้วล่ะ ถ้างั้นซ้อมต่อเหอะ จบงานนี้ค่อยว่ากันชานยอลพูดก่อนจะเดินกลับไปเปิดเทปซ้อมต่อ

     

                ทั้งสามคนซ้อมกันตามที่วางท่าไว้ ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวยเหมือนทุกครั้งที่ซ้อมมา ต่างกันตรงที่ตอนนี้ทุกคนกำลังเหนื่อยมากเพราะซ้อมมาสองชั่วโมงติด ไม่มีหยุดพัก ร่างกายของทุกคนดูเหมือนจะอ่อนล้าลงทุกทีๆ

     

                ตุ้บ !!!!

     

                “ไอ้คริส !!!!”

                “คริส ! ไหวเปล่าวะ !!!” ทั้งชานยอลและอี้ชิงต่างก็วิ่งเข้ามาหาคริสที่ตอนนี้ลงไปนอนกับพื้น

                อือโอเค โอ๊ย !” คริสโวยวายพร้อมจับไปที่แขนของเขา ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างที่แขนผิดปกติ

                “ฉันว่าไม่โอเคว่ะ เอามันไปโรงพยาบาลเถอะชานยอลค่อยๆพยุงคริส ส่วนอี้ชิงก็ช่วยเก็บสัมภาระให้ ก่อนที่ทั้งสามคนจะมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล

     

    XXXXXXXXXX

     

                “สรุปว่า นายเลิกกับไอ้เสาไฟฟ้าเดินได้ไปแล้วเหรอ !!!!” เสียงของแบคฮยอนดังขึ้นมาจากมุมโต๊ะ

                อือ…”

                “ดีแล้ว เลิกกันได้ซักที ฉันไม่อยากเห็นเพื่อนนั่งอมทุกข์ซูโฮพยายามปลอบ แต่ดูเหมือนว่าลู่หานจะหันมาค้อนใส่ซูโฮเล็กน้อย

                ไอ้ซูโฮ !!!!” ลู่หานเขย่าคอเสื้อซูโฮไปมาอย่างหมั่นไส้

                “…”’

                “จงแด เป็นไรเปล่า นั่งเงียบเชียว…” ลู่หานเหลือบไปเห็นจงแดที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่เงียบๆ

                อ้อ ปเปล่าๆ

     

                จงแดยังคงรู้สึกเคอะๆเขินๆ แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่มาภายใต้ความช่วยเหลือของซูโฮ ลู่หาน แบคฮยอน และมินซอก ที่ดูแลเขาอย่างดี

     

                หิวแล้วอ้า อาลู่ ไปซื้อขนมกันแบคฮยอนดึงชายเสื้อลู่หานเหมือนเด็กๆเพื่ออ้อน

                เฮ้ย ไม่เคยชวนอ่ะ !” ซูโฮโวยวายใส่แบคฮยอน ฉันก็น้อยใจเป็นนะ !

                “พอๆ เอาล่ะ ไปกันสามคนนี่แหละลู่หานห้ามทัพทั้งสองคนอย่างปวดหัว

                มินซอก จงแด อยากกินอะไรรึเปล่า ?

                “ไม่ล่ะมินซอกส่ายหัว

                ไม่เป็นไรจงแดตอบพร้อมยิ้มๆ

                งั้นนั่งรอตรงนี้นะลู่หานว่า พร้อมลากอีกสองหน่อที่เหลือไปที่โรงอาหาร ตอนนี้ที่โต๊ะก็เลยเหลือแค่จงแดกับมินซอกสองคน

                อ่า ฉันไม่เข้าใจคณิตศาสตร์เลยล่ะมินซอกนั่งถอนหายใจขณะที่ดูสมุดวิชาคณิตศาสตร์

                เรื่องอะไรเหรอ ?

                “อืมก็เรื่องเซ็ต แล้วก็ความสัมพันธ์น่ะ ฉันไม่เข้าใจเลยอ่ะ ฮื้ออออ

                เรื่องนี้ฉันเคยเรียนตอนอยู่ที่แคนาดาแล้วล่ะ ไหน เอามาดูซิ ไม่เข้าใจตรงไหน

     

                จงแดตอบ ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบสมุดที่วางตรงหน้ามินซอก ให้ตายสิ ถึงจะใส่แว่นปิดหน้าติ๋มๆ แต่พอเวลานี้ ดูเท่ชะมัด

     

                “หืม ไหน ไม่เข้าใจตรงไหน ?

                “…”

                “มินซอก ไม่เข้าใจตรงไหน ??

                “หือ ?? เอ่อ….อ้อ ! นี่ไง ข้อนี้ไง

                “อ๋อ ข้อนี้ นายก็ต้องดูตัวแปรสิ ว่าเงื่อนไขเขาต้องการอะไร ?

                “หือ ?

                “มา เดี๋ยวฉันทำให้ดู

                “ขอบใจนะมินซอกยิ้มแก้มปริ น่ารักชะมัด นิสัยก็ดี หน้าตาก็ใช้ได้ โฮย เฮ้ย ! นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย มินซอกได้แต่สลัดความคิดพิเรนทร์ๆออก โดยการส่ายหัวดุ๊กดิ๊กอย่างที่เขาชอบทำ

                เป็นอะไรเหรอ ??จงแดถามพร้อมแอบขำเล็กน้อย

                เปล่าๆ อธิบายต่อเลย

                โอเค นายต้องดูตรงนี้ แล้วทำความเข้าใจตรงนี้ แล้วก็ ….”

     

                จงแดอธิบายวิชาคณิตศาสตร์ให้มินซอกเข้าใจเป็นฉากๆ แต่ดูเหมือนสมองของคนตัวเล็กจะรับอะไรแบบนี้ไม่ค่อยจะไหวซักเท่าไหร่ ถามจริงๆนะ ความสัมพันธ์ ผมจะเรียนไปเพื่ออะไรฮะ โตไปสุดท้ายก็ใช้แค่บวกลบคูณหารละเว้ยเฮ้ย !!

     

                “จงแดอ่า ฉันถามหน่อยสิ…”

                “อะไรเหรอ ?

                “เรื่อง ความสัมพันธ์ เนี่ย มันจะเรียนไปเพื่ออะไรอ่ะ ?

                “ตอบยากนะเนี่ย…”

                “ยังไงโตไปก็ใช้แค่บวกลบคูณหารไม่ใช่เหรอ ?

                “ฉันก็เคยคิดแบบนี้นะ ฮะๆ

                “แล้วไหนจะเรื่องความสัมพันธ์แบบมีเงื่อนไขนี่อีก โอ๊ย งงไปหมดแล้ว เฮ่อ…”

                “แต่ฉันว่าเรื่องนี้น่าจะได้ใช้ตอนโตนะ

                “เหรอ ? ใช้ทำอะไรอ่ะ ??

     

                ก็ ใช้กับเรื่อง ความรัก ละมั้ง นายลองคิดดูดีๆสิ ความสัมพันธ์มันยังต้องมีเงื่อนไข ความรักก็ถือเป็นความสัมพันธ์ ยังไงซะ ความรักก็คงต้องมีเงื่อนไขละมั้ง นายว่ามั้ย ??

     

                “…”

     

                คำตอบที่ออกมาจากปากจงแด มันเป็นแค่การสาธยาย แต่ทำไมมันดันทำให้ใจของคนฟังเต้นรัวได้ขนาดนี้ ไม่สิ ไม่ๆๆๆ เขาแค่อธิบาย ท่องไว้มินซอก ท่องไว้

               

    มินซอก…”

    หือ ??

    เหม่ออีกแล้วนะ

    ขอโทษที พอดีนั่งคิดตามที่นายพูดไม่ทันน่ะ ฉันหัวช้ากับเรื่องการคิดวิเคราะห์น่ะ ฮ่าๆปากบอกไปว่าหัวช้า แต่ใจน่ะ ไปเร็วยิ่งกว่าอะไรอีก ให้ตายสิ

     

    XXXXXXXXXX

     

                “หมอ เพื่อนผมเป็นไงมั่งครับ ?

     

                เสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลใจของอี้ชิงดังขึ้นจากหน้าห้องฉุกเฉิน ส่วนชานยอลได้แต่นั่งภาวนาให้เพื่อนไม่เป็นอะไรมาก

     

                คือตอนนี้เพื่อนของพวกนายแขนหัก แล้วจุดที่บาดเจ็บคือส่วนสำคัญของแขน แขนของเขาคงใช้การไม่ได้ไปประมาณสองเดือน ยังไงก็ดูแลเพื่อนดีๆด้วยนะ

                “ว่าไงนะ สองเดือน !!!!” เสียงของทั้งสองคนดังขึ้น ตามมาด้วยประตูที่ถูกเปิดโดยคริส

     

                สภาพของคริสตอนนี้ดูแย่มาก เขาต้องสวมเฝือกเอาไว้ ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความผิดหวัง และเหมือนจะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา

     

                ชานยอล อี้ชิง ฝากด้วยนะเว้ย !” คริสเดินมาตบบ่าเพื่อนทั้งสองคนที่ได้แต่กังวลกับแขนของคริส

                เฮ้ย ถ้าแกไม่แข่ง แล้วสิ่งที่พวกเราทำมาทุกอย่าง ซ้อม กิน นอน เรียนมาด้วยกันล่ะ !!”

                “…”

                “…”

                “แกก็เห็นแล้วไม่รึไง ว่าสภาพของฉันตอนนี้มันน่าสมเพชขนาดไหน

                ไม่เอา ไม่พูดแบบนี้ กลับก่อนเถอะ ตอนนี้ฉันสนแค่ว่าแขนนายจะเป็นยังไง ส่วนเรื่องการแข่ง ค่อยว่ากัน กลับบ้านเหอะว่ะชานยอลลุกขึ้นมาถือของให้คริส

     

    ทั้งสามคนเดินกลับบ้านด้วยกัน ตลอดทางที่เดินมีแต่ความเงียบเข้าครอบงำทั้งสามคน ความรู้สึกเหมือนความฝันที่กำลังจะมาอีกไม่กี่วัน มันพังทลายลงไปดื้อๆซะอย่างนั้น แต่ยังไงซะ ความปลอดภัยของเพื่อนก็ต้องมาก่อน ออดิชั่นไม่ได้มีหนเดียวซะเมื่อไหร่

     

    นี่…”

    “…”

    อี้ชิง ชานยอล ฉันขอร้อง พวกนายลงแข่งเถอะนะ

    คริส มันใช่เวลามั้ย ตอนนี้นายเจ็บแขนอยู่ มาพูดอะไรแบบนี้ฮะ !!”

    แกก็รู้ความฝันของฉันไม่ใช่รึไงวะ ถึงฉันจะไม่ผ่านการออดิชั่น แต่ขอแค่หนึ่งในสามของพวกเราผ่าน ฉันก็ดีใจแล้ว ฉะนั้นแกสองคน ลงแข่งเถอะนะ

    “…”

    แกจะบ้ารึไงคริส จะให้ฉันทิ้งแกไว้คนเดียวเนี่ยนะ ไม่เอาหรอกอี้ชิงส่ายหัว

    ใครบอกว่าพวกแกทิ้งฉัน ฉันจะไปด้วย ไปเชียร์พวกแกติดขอบสนามเลย เอาให้ได้นะ !!”

    เฮ่อลงมันพูดแบบนี้แล้ว จะขัดมันก็ไม่ได้ว่ะอี้ชิง

    นะ ถือว่าสานต่อความฝันของฉันก็แล้วกันนะ อี้ชิง ชานยอล…”

    “…”

    เออก็ได้วะ !” อี้ชิงรับคำอย่างไม่ค่อยจะเต็มปาก ทำให้คริสพอจะยิ้มได้อีกครั้ง

     

    ‘ M1 Fight !! ’

     

    ทั้งสามคนตะโกนชื่อทีมของพวกเขาขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะกระโดดกอดกัน ความรู้สึกของเพื่อนที่ไม่เคยทิ้งกัน พอจะทำให้ใจของทั้งสามคนชื้นขึ้นมา และหวังว่า มันจะแรงผลักดัน ให้พวกเขาได้เข้าบริษัท sm !

     

    XXXXXXXXXX

     

                เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เหลือเวลาอีกแค่วันเดียว ก็จะเป็นวันออดิชั่นการเข้าบริษัท SM Ent. แล้ว ดูเหมือนว่าตอนนี้อี้ชิงและชานยอลจะต้องซ้อมหนักเป็นสองเท่า เพราะคริสไม่สามารถลงแข่งได้เนื่องจากแขนของเขาบาดเจ็บ แต่คริสก็มานั่งดูการซ้อมของทั้งคู่ตลอดเวลา

     

                เฮ้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนแปดโมงฉันจะไปรับพวกนายที่บ้านนะชานยอลพูดขึ้นมาหลังจากที่คริสปิดเพลงเพื่อให้ทั้งคู่หยุดพัก

                ทีมเราได้คิวออดิชั่นทีมที่เท่าไหร่วะ ?

                “ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกจะได้คิวที่ 47 นะ

                “ไม่นานเท่าไหร่มั้ง ทีมนึงเขาให้ไม่เกินห้านาทีนี่

                “งานนี้ทั้งวันก็รอได้เว้ย คุ้ม !!”

                “ว่าแต่มันมีพวกทีมดังๆในแถบนี้เข้าแข่งบ้างเปล่าวะ ?

                “ไม่แน่ใจว่ะ แต่ที่แน่ๆ งานนี้เขาเป็นงานเปิดนะ ให้คนนอกเข้ามาดูได้ด้วยว่ะ

                “หา ! แกว่าไงนะไอ้คริส ให้คนนอกดูได้ด้วยเหรอ ?อี้ชิงและชานยอลต่างตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน กับสิ่งที่คริสพูด

     

                ปกติการออดิชั่นเข้าเป็นเด็กฝึกหัดจะเป็นการออดิชั่นปิด หรือเป็นการส่งเดโมออนไลน์ แต่งานนี้กลับเป็นงานเปิด และแน่นอนว่าขึ้นชื่อว่าค่าย SM แล้ว คนที่มาดูคงไม่น้อย ยิ่งทำให้อี้ชิงและชานยอลเริ่มกดดันเป็นเท่าตัว

     

                เป็นงานเปิดก็ดี จะได้โชว์ให้รู้ไปเลย ว่าทีมเราเจ๋ง !” ชานยอลฉีกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างมั่นใจ

                ใช่ !” อี้ชิงก็ร่วมด้วย ทำให้คริสเริ่มยิ้มได้อีกครั้งที่เพื่อนไม่ได้มีความกดดันหรือแสดงความเครียดออกมาแต่อย่างใด และดูท่าว่าจะไปได้สวย

     

    XXXXXXXXXX

     

                “นี่ มินซอก พรุ่งนี้จะเป็นงานออดิชั่นแล้วนะ นายจะไปรึเปล่า ?แบคฮยอนที่กำลังจดเลคเชอร์เงยหน้าขึ้นมาถามมินซอกที่ตอนนี้กำลังสนุกกับการวาดรูปการ์ตูนในสมุดการบ้าน

                “… ฉันไม่ไปได้มั้ย ?

                เฮ้ยไปหน่อยเถอะลู่หานเสนอขึ้นมา

                พวกนายไปกันก็ได้นะ ฉันไม่อยากไป

                “อย่าใจร้ายหน่อยเลยน่ามินซอกซูโฮเบ้ปาก

                ฉันไม่ได้ใจร้ายนะ แต่ฉันไม่อยากไป คนมันเยอะ ฉันไม่ชอบ

                “ตามใจ ว่าแต่จงแด ไปด้วยกันเปล่า ?แบคฮยอนหันไปถามอีกคนที่ตอนนี้เอาแต่นั่งเงียบ

                หือ ? เอ่อ…”

                “ไปด้วยกันดิ นะลู่หานเขย่าแขนจงแดเล็กน้อยเป็นเชิงอ้อน

                คือ…” จงแดได้แต่ยิ้มน้อยๆเหมือนกับปฏิเสธไม่ได้

                “นี่ พวกนายอย่าไปบังคับเพื่อนสิมินซอกดุใส่ลู่หานกับแบคฮยอนเล็กน้อย

                มีอะไรรึเปล่าจงแด ?ซูโฮเริ่มหันกลับมาถามด้วยใบหน้าจริงจัง

                คือ…”

                “คือ?ทุกคนลากเสียงยาวพร้อมกัน เพื่อรอฟังสิ่งที่จงแดพูด

                ฮ่าๆ บอกไปก็ไม่รู้ว่าพวกนายจะเชื่อรึเปล่านี่ดิ

                “บอกมาเถอะน่าทุกคนพากันรบเร้า

     

                พรุ่งนี้ฉันเองก็ลงแข่งออดิชั่นของ SM เหมือนกัน

     

                หลังจากที่จงแดพูดจบ บรรยากาศในโต๊ะต่างก็เงียบสงัด ตามมาด้วยสีหน้าอึ้ง ทึ่ง และช็อคกันทุกคน ว่าไงนะ !! คนติ๋มๆอย่างหมอนี่อ่ะนะจะลงแข่งออดิชั่นของบริษัท SM อ่ะ !!!

     

              คย้า นายว่าไงนะจงแด !!!” ทุกคนในวงพากันตกตะลึงมาก จากสิ่งที่จงแดพูดไปเมื่อครู่นี้

                ฮ่าๆ ตามนั้นล่ะ ฉันกับเพื่อนเก่าสมัยประถมจะลงแข่งกันน่ะ ยังไงถ้าว่างก็ไปเชียร์หน่อยนะจงแดพูดพร้อมยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนกับเขินๆ

                เฮ้ย แน่นอน โอเคนะ งั้นพวกเราไปกัน ส่วนมินซอก คิดดีๆนะ ว่าจะไปรึไม่ไป?ซูโฮพูดพร้อมหันไปแขวะคนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งวาดรูป ทำให้มินซอกเงยหน้าขึ้นมาค้อนใส่พร้อมทำแก้มป่องเหมือนงอนๆ

                โอ้ะ เดี๋ยวฉันมานะ ไปห้องน้ำแป๊บนึง…” แบคฮยอนลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนจะวิ่งหายไปจากโต๊ะ

                “…”

     

    นายลงแข่งจริงอ่ะจงแด ??

     

    มินซอกค่อยๆหันกลับมาถามจงแดที่เอาแต่นั่งจ้องเขามาพักใหญ่ สายตาคมที่มีแววตาแห่งความเศร้าซ่อนอยู่ตลอดเวลา สายตาที่จับจ้องมาที่เขาราวกับขอร้องว่า ไปเชียร์ฉันทีเถอะ อ่าให้ตายสิ ความรู้สึกนี่มันอะไรกัน !?!

     

    อื้อไปเชียร์ด้วยนะจงแดตอบพร้อมฉีกยิ้ม แต่คำขอร้องของเขานั้นค่อนข้างหนักไปทางแกมบังคับ

    “…”

    อ่ะแฮ่ม ฉันขอตัวไปซื้อขนมก่อนนะ ไปเถอะอาลู่ ไปหาไรกินกัน ไว้จะซื้อติ่มซำมาเผื่อนะพวกซูโฮกระแอมเล็กน้อยราวกับเปิดทางให้ ก่อนจะลากลู่หานไปโดยไม่ถามความสมัครใจแม้แต่น้อย

    ว่าไง ไปรึเปล่า ?

    “…”

    ถ้านายไม่ไป ฉันโกรธนะ ในฐานะเพื่อนกัน

    “…”

    “…”

    ไปก็ได้

     

    ร่างเล็กตอบพร้อมอมยิ้ม หลังจากนั่งเงียบมาพักใหญ่ ทำให้จงแดจากที่ใจสั่นๆในตอนแรกเริ่มคลี่ยิ้มออกมา

     

    จริงๆนะ สัญญาแล้วนะ

    อื้ม…”

     

    XXXXXXXXXX

     

                “แว้ก !! อะไรกันเนี่ย คนเยอะเป็นบ้า !!” แบคฮยอนบ่นพร้อมขมวดคิ้วอย่างเซ็งๆ ให้ตายสิ ก็รู้ว่าคนมันต้องเยอะ แต่ไม่คิดว่าจะยั้วเยี้ยได้ขนาดนี้ โฮก !!

                “ตอนนี้ทีมที่ 46 แล้ว ต่อไปก็ทีมของคริสแล้วสินะซูโฮมองลิสต์รายชื่อทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับพูดเปรยขึ้นมา

                ทำไมไม่มีชื่อคริสล่ะ มีแต่ชื่อชานยอลกับอี้ชิง ??ลู่หานสะกิดให้ทุกคนดูใบสูจิบัตรงานออดิชั่นอย่างงงๆ

     

                No. 47 M1 : Park Chanyeol , Yixing

     

                “นั่นสิ หรือว่าเขาจะพิมพ์ชื่อตกไปรึเปล่า ??ซูโฮถาม

                เฮ้ย ไม่น่าใช่นะ เขาไม่ควรจะลืมชื่อผู้เข้าแข่งขันนะ มินซอก นายรู้เรื่องรึเปล่า ??

                “หือ เออไม่อ่ะ

                “ช่างเหอะ ทีมที่ 46 จบแล้ว ต่อไปก็ตาไอ้คริสแล้วล่ะ

                “แล้วจงแดแข่งทีมที่เท่าไหร่เหรอ ??มินซอกรีบเปลี่ยนประเด็นมาถามถึงเพื่อนอีกคนที่ลงแข่งเช่นกัน

                อื้อหือพอทีมแฟนเก่าแข่ง ก็ถามหาทีมแฟนใหม่เลยนะซูโฮแซว ส่วนมินซอกก็ได้แต่ส่งสายตาค้อนกลับไป

                ฉันไม่ใช่แฟนจงแด -____-+

                “ขอโทษครับแม่

                “จงแดแข่งทีมที่… 48 หือ !! งั้นก็ทีมต่อจากพวกคริสอ่ะดิ !!” ลู่หานที่กำลังอ่านใบแนะนำอยู่ตะโกนขึ้นมา

               

              ‘ ทีมต่อไป ขอเชิญพบกันสองหนุ่มจากทีม M1 ปาร์คชานยอล และ จางอี้ชิง !!!! ’

     

                เสียงประกาศของ MC ประจำงานดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงเฮของบรรดาเพื่อนและแฟนคลับของทีม M1 ที่ดังขึ้นมาสนั่นลานแข่งขัน

     

                ชานยอลกับอี้ชิงเดินขึ้นมาบนเวที ทั้งคู่โค้งให้คณะกรรมการและคนดูอย่างสุภาพ ก่อนที่จะเริ่มประจำตำแหน่ง แต่ตำแหน่งที่ทั้งคู่ยืน ถูกเว้นที่ตรงกลางไว้ นั่นหมายความว่า ต้องขาดใครคนใดคนหนึ่งไป

     

                แล้วคริสล่ะ ??มินซอกเริ่มถามหาคริสที่ไม่ได้ปรากฏตัวบนเวที

                คริสโอปป้าอยู่ทางนู้นค่ะผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะมาเชียร์ทีม M1 หันมาบอกมินซอก พร้อมชี้ไปที่คริสที่ยืนอยู่ด้านข้างเวที

     

                ร่างสูงยืนมองเวทีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง หากแต่ว่าตัวเขากลับไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีนั้นด้วย แขนข้างขวาของเขาถูกพันไว้ด้วยเฝือก ทำให้คนตัวเล็กพอจะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

     

                ขอโทษนะครับ พอจะรู้มั้ยฮะ ว่าแขนของคริสเป็นอะไร ? ทำไมเขาต้องใส่เฝือกด้วยฮะ

                “รู้สึกว่าจะบาดเจ็บตอนซ้อมน่ะค่ะ เห็นว่าอีกสองเดือนเลยนะคะ กว่าแขนจะหายเป็นปกติ

                “อ๋อครับ…”

     

                การแสดงของชานยอลและอี้ชิงเริ่มผ่านไปเรื่อยๆ ดูเหมือนทั้งคู่จะทำได้ไม่ดีเท่าตอนซ้อมเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะซ้อมมากไปจนสภาพร่างกายเริ่มหมดแรง

     

                และแล้ว การแสดงที่ทั้งคู่ตั้งใจฝึกซ้อม ก็จบลง ท่ามกลางความโล่งอกของชานยอล อี้ชิง และคริส แม้ว่าทั้งคู่จะทำมันออกมาได้ไม่ดีพออย่างที่ต้องการ แต่อย่างน้อย การที่ต้องแบกรับภาระเพื่องานนี้ มันก็ปิดฉากลง รอให้เวลาและกรรมการ เป็นผู้ตัดสินชะตาชีวิตต่อไป

     

                ขอโทษว่ะคริสชานยอลค่อยๆพยุงตัวเองเข้ามาหลังเวที ดูเหมือนว่าตอนนี้ชานยอลจะมีอาการกล้ามเนื้ออักเสบ ส่วนอี้ชิงก็ดูเพลียๆ

    เฮ้ย ไม่เป็นไรเว้ย เราทำกันเต็มที่แล้ว

    ถ้าไม่ผ่าน จะเอาไงต่อวะ ?

    “…”

    ฉันมั่นใจว่าเราต้องผ่าน !”

     

    ทีมต่อไป ทีมที่ 48 … ขอเชิญพบกับ M2 คิมจงแด หวงจื่อเทา และคิมจงอิน ครับ !!! ’

     

    ทันทีที่พิธีกรประกาศจบ ทั้งแบคฮยอน ซูโฮ ลู่หาน และมินซอก ต่างก็รีบวิ่งไปที่ขอบเวที หวังจะดูเพื่อนตัวเองอย่างติดขอบสนามแข่งขัน

     

    “M2 Fighting !!!!” เสียงของทั้งสี่คนตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้จงแดที่อยู่บนเวทีหันมายิ้มให้

    จงแดจะไหวแน่นะลู่หานถามอย่างหวั่นๆ เด็กเนิร์ดอย่างหมอนี่เนี่ยนะจะมาแข่งเต้นกับเขา แถมเพื่อนอีกสองคนของจงแดที่ชื่อนายจื่อเทากับจงอินอะไรนั่นก็ดูหน่วยก้านดีซะด้วย

    ไหวสิ จงแดเก่งอยู่แล้วมินซอกตอบพร้อมอวยเพื่อนเล็กน้อย ทำให้ซูโฮหันมาเบ้ปากใส่

    เฮอะไม่ค่อยเลยอ่ะ

     

    ทันทีที่เสียงเพลงดังขึ้น บรรยากาศในบริเวณที่แข่งขันจากที่เงียบสงัด ก็เริ่มครึกครื้นขึ้นจากเสียงของบรรดาผู้ชม ทั้งเสียงเฮ เสียงโห่ รวมไปถึงเสียงผิวปากเป็นเชิงชอบใจดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

     

    ถึงแม้ว่าในการแข่งครั้งนี้ จงแดจะไม่ใช่เมนเต้นหลักของทีม แต่เขาก็ทำมันออกมาดีใช้ได้ ในขณะที่จื่อเทากับจงอินดูเหมือนจะเต้นกันจนคล่องและพลิ้ว ทำให้คนดูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมในความมันส์ของการแสดงนี้

     

    ผ่านไปสามนาที การแสดงของทีม M2 ก็จบลง ก่อนที่ทั้งสามคนจะหายลงไปหลังเวที ทิ้งให้ผู้คนที่มีอารมณ์ร่วมกับการแสดงนี้ตะโกนเรียกชื่อทีมต่อไป

     

    ไปหาจงแดหลังเวทีกันแบคฮยอนชวน

    เขาให้เข้าไปได้เหรอ ?ลู่หานถาม คือ ฉันว่า มันไม่ใช่ที่ที่พวกเราควรจะเข้าไปนะ

    ได้ไม่ได้ มินซอกก็วิ่งไปนู่นแล้วซูโฮตอบอย่างกวนๆก่อนจะชี้ไปยังมินซอกที่ตอนนี้วิ่งหายเข้าไปหลังเวทีแล้ว

    ให้ตายสิ -____-;;” ลู่หานถอนหายใจ ก่อนจะวิ่งตามเข้าไปหลังเวทีเช่นกัน

     

    ย้า จงแด นายเจ๋งมาก !” มินซอกที่วิ่งเข้าไปหลังเวที วิ่งเข้าไปหาทีมของจงแด ก่อนจะชื่นชมเจ้าตัวแบบสุดๆ

    นี่ๆ ฉันเมนเต้นหลักนะเสียงแซวของ คิมจงอิน หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมดังขึ้น ทำให้ทั้งจงแดและเทาแอบหัวเราะ ก็หมอนี่มันเมนเต้นหลักนี่หว่า ทั้งบีบอย ตีลังกา บัลเลต์ เรกเก้ สกา (?) มันเต้นได้หมด

    น่า พวกนายเจ๋งกันทุกคนเลย

    แล้วนี่บุกเข้ามาถึงหลังเวที มีอะไรรึเปล่า ??จงแดเพิ่งนึกได้ว่า นี่มันหลังเวทีนะมินซอก นายบุกเข้ามาในนี้ได้ยังไง

    หือ เออ ไม่มีอะไรหรอก ฮ่าๆ แค่วิ่งตามมาดูน่ะมินซอกฉีกยิ้ม ก่อนจะค่อยๆกวาดสายตามองหาใครบางคน

    มองหาใครน่ะ ?

    อืมเปล่าหรอก แค่อยากรู้ว่าบรรยากาศหลังเวทีของพวกนักเต้นมันเป็นยังไง เลยแอบเข้ามาน่ะ

     

    มินซอกตอบไปแบบนั้น แต่สายตาของเขายังคงจ้องมองไปรอบๆเพื่อหาใครบางคน คนที่ไม่ได้ขึ้นแสดงบนเวที แต่ตัวของเขายังคงอยู่หลังเวทีเพื่อรอฟังประกาศผลเช่นกัน

     

                มินซอกค่อยๆมองหาไปเรื่อยๆ จนในที่สุด สายตาก็ไปสะดุดกับผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง ดูเหมือนว่าผู้ชายคนนั้นก็จ้องมาที่มินซอกเช่นกัน

     

                มินซอก โอเครึเปล่า ??

                “หือ ? อโอเคๆเดี๋ยวฉันมานะจงแด”  พูดได้แค่นั้น ร่างเล็กก็รีบวิ่งออกไปจากหลังเวที

     

    XXXXXXXXXX

     

                “คริส มองอะไรอยู่ ?

                “หือ ? ไม่มีอะไรหรอก

                “อ๊ะ นั่นมินซอกนี่ ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้อ่ะ ?อี้ชิงสะกิดแขนคริสพร้อมชี้ไปที่มินซอกที่ยืนอีกมุมหนึ่ง

                “…”

                “เดี๋ยวนะ นั่นมันนายจงแดนี่ !” ชานยอลมองไปที่คนที่ยืนข้างๆมินซอก ก่อนที่สมองจะค่อยๆประมวลผลออกมา

                “ทีม M2 น่ะคริสตอบ

                นี่ คริส มินซอกบุกมาหาจงแดถึงหลังเวทีเลยนะ นายไม่คิดว่ามันแปลกๆบ้างเหรอ ?อี้ชิงถาม มันแปลกๆอยู่ ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็เถอะ แต่วิ่งเข้ามาหาถึงหลังเวทีที่มีการ์ดคุมนี่มันก็แปลกๆนะ

                “ทำไม ?

                “นายยังดูไม่ออกอีกเหรอ ฉันว่าสองคนนั้นคงไม่ใช่แค่เพื่อนแล้วล่ะ

                “…”

     

                ทันทีที่อี้ชิงพูดจบ คริสก็พยายามมองไปที่มินซอกที่ยืนคุยกับกลุ่ม M2 สายตาคมจ้องมองเด็กหนุ่มเป็นเวลานาน

     

                ดูเหมือนมินซอกจะรู้ตัว เขาค่อยๆหันกลับมามองคริสเช่นกัน ทั้งคู่ยืนมองหน้ากันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่มินซอกจะหันไปพูดอะไรบางอย่างกับจงแด แล้ววิ่งออกจากหลังเวทีไป

     

                เดี๋ยวฉันมานะ

     

                คริสหันไปบอกชานยอลกับอี้ชิง ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินหายออกไปจากหลังเวทีเช่นกัน ทิ้งให้ชานยอลกับอี้ชิงยืนงง

     

    XXXXXXXXXX

     

                มินซอกวิ่งมาถึงดาดฟ้าของตึกที่ใช้เป็นที่แข่งขัน ตามมาด้วยคริสที่วิ่งตามเขามาติดๆ ก่อนที่ร่างสูงจะคว้าแขนของคนตัวเล็กไว้

     

                อะไร ?มินซอกขมวดคิ้วใส่ก่อนจะค่อยๆดึงมือออก

                คิดอะไรอยู่ ?

                “…”

                “เดินเข้าไปหามันถึงหลังเวที นี่นายคิดอะไรอยู่ ประชดฉัน งั้นสิ ?

                “ฉันไม่ได้ประชดนาย ฉันเข้าไปหาจงแด มีอะไรรึเปล่า ?

                “…”

                “อย่าลืมนะคริส ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ฉะนั้นฉันจะเข้าไปหาใคร คุยกับใคร มันก็เรื่องของฉัน

                “แต่ฉันยังไม่ได้พูดซักคำว่าจะเลิก

                “งั้นก็เชิญนายพูดตอนนี้เลย เรื่องของเรามันจะได้จบซักที

                “…”

                “ถ้านายไม่พูด ฉันจะถือว่ามันจบ แล้วฉันจะไปแล้วนะ

                “…”

     

                คริสพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ ทั้งความโกรธ ความหมั่นไส้ ความอิจฉา ความแค้น มันสุมอยู่เต็มอกไปหมด แต่เขาไม่ได้โกรธอะไรมินซอกหรอกนะ

     

              ไอ้คนที่สมควรไปโกรธมัน คือ ไอ้เฉิ่มจงแด !

     

                “ฉัน ไม่ จบ !”

                “งั้นก็เชิญนายมโนต่อไปก็แล้วกันว่าคบกับฉันอยู่ ส่วนฉันก็จะมโนว่าฉันเลิกกับนายแล้ว โอเคนะ ?

     

    มินซอกตอบด้วยคำตอบที่ทำให้คริสรู้สึกหน้าชาเหมือนโดนต่อยมาก็ไม่เชิง ก่อนจะที่มินซอกจะเดินลงไปจากดาดฟ้า ทิ้งให้คริสยืนกุมขมับอยู่บนดาดฟ้าเพียงลำพัง

     

                ฉันเกลียดแก ไอ้จงแด !!!

     

    …To Be Continued Part 2…

    ‘ I Like You The Best ’

    เม้าท์ ให้ แซ่ด !!

    สวัสดีค่า ในที่สุดไรท์ก็รีเทิร์นเรื่องใหม่อีกแล้ว (-///-)
    ช่วงนี้ชอบใช้เอ็มวีเพลงมาแต่งฟิค มันเป็นอะไรที่สนุกมากกับการนั่งตีความเอ็มวีจากความหมาย
    ยิ่งสองเอ็มวีนี้แล้ว (
    Beautiful & I Like you the best)
    มันถือว่าโหดร้ายมากสำหรับไรท์เตอร์
    เพราะมันเป็นอะไรที่ งง มึน และเงิบมาก
    !!
    เชื่อมั้ยว่าเพลงปล่อยมาเป็นปีแล้ว ไรท์เพิ่งแกะความหมายออกก็ตอนพิมพ์ฟิคนี่แหละ
    #นี่ถือเป็นความลับสุดยอดนะ 555
    ตอนนี้พาร์ทสองใกล้จบแล้ว ยังไงก็ฝากด้วยนะเด็กๆ
    รักนะ ชุ้บๆ
    #อย่าดื้อนะครับ #แหล่มเบยยย #วลีของใครว้า ??

     
    M U S I C CAFE : LUN LA
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×