คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : 7 CHANGE | Family
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
7 | ครอบครัว
“คริส ! รอยอลด้วย”
“เดินให้มันเร็วๆหน่อยสิ ขาก็ยาวยังจะเดินชักช้าโอ้เอ้อีก”
“เฮ้ย ! ก็คริสขายาวกว่ายอลอ่ะ รอยอลด้วย”
“. . .”
“คริส. . .คริส คริส !”
“. . .”
“คริส คริสพี่หายไปไหนแล้วน่ะ คริส ! คริส ! รอยอลด้วย”
“คริส ! รอยอลด้วย ไม่เอานะ อย่า ! อย่าทิ้งยอลไปอีกคนนึงสิ คริส !”
“คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส !”
ว่ากันว่าคนที่กำลังจะตาย. . .
ภาพความทรงจำทั้งหมดในชีวิตจะแล่นเข้ามาในหัว ก่อนที่จะประมวลออกมากเป็นภาพผ่านทางการมองเห็น ภาพความทรงจำทั้งดีและร้าย น่าจดจำและไม่น่าจดจำทั้งหมดจะโลดเล่นเหมือนละครสั้น
จริงรึเปล่า ?
คงเป็นงั้นแหละมั้ง
เพราะตอนนี้. . .
ผมรู้สึก เจ็บ จริง ๆ
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !”
เสียงโอดครวญที่เล็ดลอดผ่านมาตามหลอดคอ ผ่านกล่องเสียงสั่นออกมาจากความรู้สึกของผมในตอนนี้
ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานที่สีข้าง จุดๆเดิมที่ผมเคยเจ็บมาก่อน
“อ. . .อึก”
น้ำลายอึกใหญ่ค่อย ๆ กลืนลงไปในลำคอ ขาที่ใช้ยันร่างที่หิวโซเริ่มหมดเรี่ยวแรงมากขึ้นพร้อมกับริมฝีปากกว้างที่กำลังจะเข้ามาแทะโลมเนื้อสด ๆ ของผม
ผมชายตามองไปที่สีข้างของตัวเองอย่างไม่ลดละความพยายาม
ของเหลวสีแดงสดค่อย ๆ ซึมออกมาผ่านผ้าพันแผล และมันก็กำลังกระจายเป็นวงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความเจ็บที่ค่อยๆลดลง
ไม่สิ
มันเรียกว่า ชา มากกว่า ผมรู้สึกได้ถึงปากแผลที่ฉีกขาดออกจากกัน ก่อนที่เลือดสีสดจะค่อย ๆ ไหลออกมาตามธรรมชาติ
“. . .”
ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ ท้องฟ้ากับปุยเมฆสาวขาวสะอาดตา พื้นหญ้าสีเขียว กับผู้คนนับสิบที่กำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นทุกที
ใกล้มาก
“ชานยอล !”
เสียงของคน ๆ หนึ่งที่ผมจำได้ดี คนที่ช่วยชีวิตของผมมาหลายต่อหลายครั้ง
แบคฮยอน
“อา. . .”
ความรู้สึกหนักหน่วงที่ขาหายไป ก่อนที่ภาพลาง ๆ ที่ผมเห็นตรงหน้าคือ เลือดที่สาดกระจายและลอยฟุ้งอยู่บนอากาศ จากนั้นคน ๆ หนึ่งที่โถมตัวเขาหาผมจะล้มลงไปนอนนิ่งอยู่ข้างๆ
“บ้าจริง ! ชานยอล !” คนตัวเล็กเข้ามาประคองผมไว้ ทั้ง ๆ ที่มือของเขาก็เปื้อนเลือดเต็มไปหมด เขาสบถออกมาเสียงดังลั่น
“จะทิ้งผมไปอีกคนหนึ่ง.. .รึเปล่า”
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย ลุกขึ้น !” เขาตำหนิผม ก่อนที่จะลุกขึ้นออกแรงยกตัวผมขึ้น แต่ดูเหมือนว่าแรงของเขาจะมีไม่มากพอที่จะยกผมทั้งตัวให้ลุกขึ้นได้
ในขณะที่ร่างหิวโซนับสิบกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเรา
ภาพที่ผมเห็นค่อย ๆ จางลง พร้อมกับเสียงตะโกนของแบคฮยอนที่ค่อย ๆ เบาลงทุกที
ก่อนที่ทุกอย่าง. ..จะดับลง
ดับสนิทจริง ๆ
“ ! ”
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
นี่ผม. . .ยังไม่ตายงั้นหรอ ?
ผมกระพริบตาเพื่อปรับโฟกัสให้มองเห็นอะไรได้ชัดขึ้น บนเพดานสีขาวมีพัดลมตัวหนึ่งกำลังหมุนวนเวียนไปมาตามระบบ ผมพลิกตัวไปด้านข้างก่อนที่ความเจ็บแปล๊บที่สีข้างจะแล่นเข้ามาให้ผมต้องขบฟันแน่น
“. . .” พยายามกวาดสายตามองไปรอบกาย แต่ก็ไม่พบใครเลย แบคฮยอน เซฮุน หรือแม้แต่ลู่หาน
นี่เขาทิ้งพวกผมไปแล้วจริง ๆ
เหมือนที่คริสทิ้งผมอย่างงั้นหรอ ?
“. . .”
ตอนนี้ร่างของผมนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟาสีเข้ม ตรงข้ามกับผมเป็นโต๊ะทำงานตัวใหญ่กับชั้นใส่แฟ้มเอกสาร
ที่นี่ที่ไหน ?
“อ. . .อึก”
ผมค่อย ๆ ใช้เท้าทั้งสองข้างวางทาบลงกับพื้น ก่อนที่จะใช้มือยันโซฟาแล้วดันร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่สีข้างทำเอาขาของผมสั่นไปหมด
พวกเขาหายไปไหนกันหมด ?
ความสงสัยนำพาร่างของผมให้เดินตรงไปที่ประตูห้อง ผลักมันให้เปิดออกอย่างตะกุกตะกัก
สถานการณ์แบบนี้ทำเอาผมนึกถึง เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลนั่น
ตื่นมาท่ามกลางความเงียบ ก่อนที่จะพบว่าตัวเองไม่เหลือใครเลย
“โอ้ย !” ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอย่างรุนแรง จนผมล้มลงไปนอนขดอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างยกขึ้นมา ก่อนที่จะกุมเข้าที่สีข้างตามสัญชาตญาณเมื่อได้รับความเจ็บปวด
“ช. . .ชานยอล !”
เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกทาง ใครกันนะ. . .
“ทำใจดี ๆ ไว้นะ”
เขาคนนั้นจับผมพลิกให้นอนหงายขึ้น ก่อนที่ดวงตากลมของผมจะมองเห็นเขา ใบหน้าหวานกับผมสีน้ำตาลทอง. . .
“ลู่หาน. ..หรอ”
“อื้อ. . .นายควรจะไปพักผ่อนก่อนนะ”
“แบคฮยอนกับเซฮุนล่ะ”
“สองคนนั้น ไปจัดการไอ้เจ้าพวกข้างนอกอยู่น่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”
ลู่หานยิ้ม ก่อนที่จะพยุงผมให้ลุกขึ้น แล้วพาผมกลับไปนอนที่โซฟาตัวเดิมที่ผมเพิ่งจะจากมา
“ผม. . .คิดว่าตัวเองจะตายแล้วซะอีก”
“แบคฮยอนเข้าไปชวนนายไว้ทันน่ะ. . .แต่ก็เกือบไปแล้วนะ ถ้าเซฮุนไม่วิ่งเข้าไปช่วยแบคฮยอนพยุงนายมาอีกคนน่ะ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ
“แผลนี่. . .นายทำ ?”
“ใช่. . .ปากแผลมันเปิดน่ะ แต่ยังดีนะที่มันยังไม่ใหญ่มาก โชคดีที่สถานีตำรวจนี้ยังมีเครื่องมือปฐมพยาบาลอยู่ ไม่งั้นนายอาจจะแย่ไปกว่านี้”
“ขอบคุณนะ”
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ เซฮุนเล่าให้ฉันฟังว่านายเป็นคนทำให้ฉันฟื้น ถึงวิธีของนายมันจะดูเสี่ยงไปหน่อยก็เถอะ”
ลู่หานฉีกยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเอื้อมมือมาจับที่ไหล่ของผม
‘ก๊อก. . .ก๊อก’ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่เงาของคนสองคนจะปรากฏขึ้นอยู่ที่หน้าห้อง
ลู่หานเดินไปที่ประตูก่อนที่จะเปิดมันออก หน้าประตูปรากฏร่างของคนที่ผมคุ้นเคยดีเซฮุน กับแบคฮยอนคนที่ช่วยชีวิตผมมานัดต่อนัด
“ชานยอล ?” แบคฮยอนเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือดกับเหงื่อสีใสที่ไหลอาบตัว แต่เขาก็เดินตรงมาที่ผม ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ก่อนที่จะเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงห่วงใย คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน
“ไม่เป็นไร. .ขอบใจนะที่ช่วยผมน่ะ” ผมยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ แบคฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะยิ้มออกมา
“พี่ชานยอลอาการตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ ?” เซฮุนเดินเข้ามาหาผมอีกคน พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูให้แบคฮยอน ก่อนที่จะใช้อีกผืนเช็ดคราบเลือดที่ใบหน้าของตัวเองออก
“เจ็บนิดหน่อยน่ะ. . .”
“ผมรู้นะครับว่าพี่รู้สึกยังไง ผมรู้ว่ามันไม่ต่างอะไรจากการฆ่าคนก็จริง. . .แต่. . .มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ” เซฮุนพูดน้ำเสียงนุ่ม ใบหน้าของเขาดูหนักใจอยู่ไม่น้อยเลย
แต่ก็เถอะ. . .ผมยังไม่ชินกับการทำอะไรแบบนี้
มันโหดร้าย. . .เกินไป
“ขอโทษนะ” ผมเอ่ยขอโทษ แต่เซฮุนกลับส่ายหน้าเอายกใหญ่
“พี่ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกนะ”
“. . .”
บทสนทนาจบลงอยู่แค่นั้น ผมทำได้แต่นอนนิ่งมองดูแบคฮยอน เซฮุนแล้วก็ลู่หานนั่งเตรียมการทุกอย่าง ๆ
เซฮุนเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากที่หอบผมเข้ามาในสถานีตำรวจนี้ได้ทัน เจ้าพวกผีดิบหิวโซต่างก็รุมอยู่ที่หน้าประตู แต่โชคดีที่กระตกของสถานีตำรวจแข็งแรงมากพอ แถมยังมีประตูป้องกันอีกชั้นหนึ่งอีก
อาวุธในสถานีก็ยังพอมีให้เราเอาไปใช้ เซฮุนกับแบคฮยอนเลยอาสาขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วจัดการยิงเจ้าพวกนั้นโดยใช้ปืนที่เก็บเสียงได้ดีพอสมควร
“ผมคิดว่าเราควรจะพักอยู่ที่นี่ซักคืน รอให้พี่ชานยอลอาการดีขึ้นก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทางกัน”
“ฉันก็คิดแบบนั้นนะ”
เซฮุนทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้าง ๆ โซฟาที่ผมนอนอยู่ ก่อนที่จะลากกระเป๋าแล้วจัดการหยิบอาหารที่เอามาด้วยออกมา แบคฮยอนที่กำลังเอากระสุนใส่เข้าไปในกระบอกปืนของตัวเองก็เอ่ยเห็นด้วย
“เจ้าพวกนั้น ก็กระจายตัวออกไปแล้วล่ะ ถ้าอยู่ในนี้เงียบ ๆ ก็น่าจะปลอดภัยอยู่” ลู่หานที่ยืนอยู่ที่หน้าต่าง ก็เดินกลับมานั่งข้าง ๆ เซฮุน
“กินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว” ว่าจบเซฮุนก็จัดการแกะห่อขนมปังออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะยืนให้ผมห่อหนึ่งเช่นกัน
“รู้สึกเหมือนได้ทานข้าวกับครอบครัวยังไงไม่รู้เนอะว่ามั้ย ?”
ผมพยุงตัวขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะทานขนมปังในมือ จนประโยคที่ผมได้ยินขึ้นมาจะทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทานข้าวกับครอบครัวอย่างงั้นหรอ ?
เวลาผ่านไปก็เกือบจะเที่ยงคืนของวันนี้แล้ว พวกเราสี่คนนั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆมากมายนับไม่ถ้วนจนทำเอาผมแทบลืมไปเลยว่าโลกของเราตอนนี้มันมีสภาพที่แย่ยังไง เหมือนกับได้สัมผัสความสบายใจกับความสุขที่ไม่ได้พบกันมานาน
“ชานยอลนายยิงปืนเป็นมั้ย ?” ลู่หานเปิดประเด็นขึ้นมา ก่อนที่เพื่อนร่วมทางอีก 2 คนของผมจะหันมามองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“ชานยอลหรอ เป็นอยู่แล้ว,ไม่งั้นนายจะได้แผลโดนยิงมาได้ยังไงล่ะ”
มันเกี่ยวกันมั้ยแบคฮยอน. . .
“เคยยิง.. .แต่ไม่ค่อยจะโดนเป้าเท่าไหร่”
“เอาเป็นว่าเคยจับปืนก็โอเคแล้วล่ะ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะเดินไปลากกระเป๋าใบใหญ่เบ้อเริ่มประมาณ 3 4 ใบมาไว้กลางห้อง แล้วจัดการหยิบอาวุธที่ไปหามาได้ออกมา
“นี่พวกนายไปรื้อมันมาหมดเลยหรอ ?”
“เปล่าหรอกครับ ลู่หานเป็นคนไปหามาให้น่ะ”
ผมหันไปมองลู่หานที่กำลังหยิบปืนมากมายออกมาจากกระเป๋า ลู่หานเป็นคนไปหามา หมายความยังไง ?
“ทำไมนายถึงรู้ล่ะว่าที่นี่มีอาวุธ ?” ผมยิงคำถามที่สงสัยไปตามตรง
ลู่หานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมาตอบผมด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“สถานีตำรวจมันต้องมีปืนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกตินะ”
“แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเอาออกมาได้ง่ายขนาดนี้นะ”
“. . .” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่ผมไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่จะยิ้มนิด ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าต่อ
หมายความว่าไง ?
“ปืนพก 6 กระบอก แบบเก็บเสียงอีก 3 ไรเฟิล 2 ช็อตกันอีก 4 กระบอก .22 กับสไนเปอร์อีกอย่างละ 1 แต่ฉันคิดว่าปืนกลหนักไม่น่าจะเอาไปด้วยนะ มันคงจะหนักเกินไปในการเคลื่อนย้าย”
แบคฮยอนค่อย ๆ นับอาวุธที่ไปหามาได้ พร้อมๆกับแยกมันออกเป็นกลุ่ม กระสุนก็มีอยู่หลายกล่อง ท่าทางมันน่าจะพอใช้ไปจนถึงโซล ถ้าเราใช้มันอย่างประหยัด
“ใส่กระสุนให้พร้อมนะ จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา” ว่าจบเจ้าตัวก็จัดการหยิบกระสุนออกมาจากกล่องแล้วใส่เข้าไปในแม็กอย่างชำนาญ เซฮุนกับลู่หานก็ทำแบบนั้นเช่นกัน
มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องในตอนนั้นเลย. . .
ตอนที่โดนยิง. . .
แต่ก็จำไม่ค่อยจะได้ ซักเท่าไหร่
“มีแผนอะไรมั้ยสำหรับวันพรุ่งนี้ ?”
“ผมคิดว่าเราน่าจะไปทางทิศเหนือ มันมีอู่ซ่อมรถอยู่. . .เราควรจะไปเอารถแล้วออกไปจากที่นี่นะ” เซฮุนเสนอความคิดขึ้นมา เขากอดอกพูดพลางใช้ความคิด
“อู่ซ่อมรถหรอ. . .”
“ถ้าได้รถมาซักคันก็โอเคแล้วล่ะ หลังจากนั้นเราก็ออกจากเมืองนี้ จุดหมายของพวกเราต่อจากนี้ก็คือ โซล” แบคฮยอนพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมๆกับเก็บปืนจำนวนหลายกระบอกเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม
“เอาเป็นว่าพักผ่อนกันก่อนเถอะนะ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ออกเดินทางกันเลย,นายก็พักผ่อนให้มาก ๆ ล่ะชานยอล” ว่าจบแบคฮยอนก็จัดการถอดเสื้อกันหนาวสีดำตัวที่ผมให้เขาออก ก่อนที่จะเอามาห่มร่างของผมที่นอนอยู่บนโซฟา
“ขอบใจนะ”
“. . .พักผ่อนเถอะ
เพราะวันพรุ่งนี้
อาจจะต้องเหนื่อยกว่าวันนี้แน่ ๆ”
“. . .”
ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาพบกับเพดานสีขาวกับพัดลมตัวเดิมที่เคยเห็น แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทอเข้ามาผ่านม่านสีอ่อน นี่คงเริ่มวันใหม่แล้วสินะ ? ไม่แปลกเลยที่เขาจะว่ากันว่าความฝันมักจะเกิดขึ้นมาในช่วงระยะเวลา ๆ สั้น
ส่วนความจริงมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แสนยาวนาน
“ตื่นแล้วหรอชานยอล ?” เสียงเอ่ยทักทายดังขึ้นมา ผมลุกขึ้นนั่งบนโซฟา ก่อนที่จะเห็นแบคฮยอนกำลังยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมๆกับเอาผ้าขนหนูมาเช็ดที่ผม ผมของเขาดูเปียกหมาด กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยเข้ามาเตะจมูกนั่นอีก
เหมือนกลิ่นของสบู่. . .
“พี่ชานยอลตื่นพอดีเลย ไปอาบน้ำด้วยกันมั้ย ?” เซฮุนวิ่งปรี่เข้ามาเขย่าตัวผม พร้อมกับไหล่ที่พาดผ้าขนหนูเอาไว้ด้วย
อาบน้ำ ?
“น้ำอุ่นกำลังดีเลยล่ะ ไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่านะ จะได้ลุยกันต่อ” ลู่หานพูดพร้อม ๆ กับเดินเข้ามายืนฝ้าขนหนูให้ผมอีกผืน
ผมรับมันมา ก่อนที่จะพยักหน้ารับกับเซฮุน เด็กผู้ชายตรงหน้าผมดีใจยกใหญ่ ก่อนที่จะลากผมไปที่ห้องน้ำของสถานีตำรวจที่ไม่ไกลจากห้องที่ผมนอนเท่าไหร่นัก
“โหย. . .ไม่ได้อาบน้ำอุ่น ๆ แบบนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย ?”
เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ ในขณะที่ฝักบัวกำลังปล่อยน้ำลงมา
“สบายสุด ๆ ไปเลยอ่ะ”
ผมหัวเราะให้กับนิสัยเด็ก ๆ ของเขา แต่ก็ต้องมาระแวดระวังกับแผลของตัวเองที่ไม่ควรจะให้โดนน้ำ
“พี่ชานยอลแผลเป็นไงมั่ง ?”
เสียงของเซฮุนเล็ดลอดออกมาจากม่านกั้น
“ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ ปากแผลเริ่มปิดแล้วด้วย ไม่ต้องห่วง”
“หรอ. . .ครับ”
“. . .”
“พี่ชานยอล.. .ถ้าสมมติว่าพวกเราไปที่โซลกันแล้ว พี่จะทำอะไรต่อไปหรอครับ ?”
“ตามหาคริส. . .”
“พี่ชายของพี่น่ะหรอ ?”
“อื้ม. . .”
“ผมขอพี่หาเขาเจอเร็วๆนะครับ”
เซฮุนพูดจบไว้แค่นั้น ก่อนที่เราสองคนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น จากนั้นเราก็เดินกลับไปที่ห้อง ๆ เดิม
“อันนี้ของนายนะชานยอล. . .” ทันทีเข้ามาแบคฮยอนก็ยื่นปืนพกมาให้ผมพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆ อีกหนึ่งใบ
“ของผม ?”
“กระบอกนี้เป็นกระบอกที่เบาที่สุดแล้วล่ะ”
“นี่อย่าบอกนะว่าพวกนายยิงปืนกันเป็นหมดเลยน่ะ ?” ผมขมวดคิ้วเขาหากันเป็นปมก่อนที่จะเอ่ยถาม
แบคฮยอนกับเซฮุนน่ะผมไม่สงสัยเท่าไหร่หรอกครับ แต่. . .ลู่หานเนี่ยสิ เขาดูไม่น่าจะยิงปืนเป็นเลยด้วยซ้ำ
“ผมเคยยิงในเกมนะ แต่เอาเข้าจริงตอนไปกับพี่แบคฮยอนนี่ก็โดนผมเก็บไปหลายตัว” เซฮุนพูดอย่างภาคภูมิใจ พร้อมๆกับเอื้อมมือไปกอดคอแบคฮยอน
“แล้วลู่หาน ?”
“เป็นสิ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะหยิบปืนพกมาเหน็บไว้ที่เอว
“ไม่ต้องห่วงหรอกชานยอล เดี๋ยวนายก็ยิงแม่นเองแหละน่า ไปกันเหอะ”
แบคฮยอนพูดก่อนที่จะเดินมาตบบ่าผม กระชับกระเป๋าสะพายของตัวเอง ก่อนที่จะเดินนำหน้าออกไปจากห้อง
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะก้มไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ดูเหมือนจะมือปืนอยู่มาสะพายแล้วเดินตามแบคฮยอนไป
“พร้อมนะ ?” แบคฮยอนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูสถานีตำรวจเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าพวกเรายืนกันให้พร้อมหน้าแล้ว
“แผนเดิมนะ เหลือน้ำอัดลมอยู่อีก 4 ขวด”
“เดี๋ยวผมจะปาออกไป จากนั้นเราก็รีบวิ่งกันเลยโอเคนะ ?”
เซฮุนว่าพลางหยิบขวดน้ำอัดลมขึ้นมาเตรียมไว้
ผมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ประตู ย่อตัวลงก่อนที่จะมองลอดออกไปทางกระจก ร่างไร้วิญญาณที่เดินว่อนไปมาอยู่กลางถนนมีเพียงแค่ 3 เท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่เห็นอีก อาจเป็นเพราะตอนกลางวันด้วยละมั้ง เลยทำให้จำนวนของพวกมันน้อยกว่าที่คาด
‘ครืด. . .’ แบคฮยอนเลื่อนประตูให้เปิดออก ก่อนที่เซฮุนจะวิ่งออกไปแล้วจัดการปาขวดน้ำอัดลมออกไปขวดหนึ่ง
‘เพล้ง !’ แล้วก็เป็นไปตามแผน ความสนใจในเสียงของพวกมันยังเป็นเหมือนที่วางไว้ พวกมันค่อย ๆ ลากเท้าเดินเข้ามา ณ จุดที่เซฮุนขว้างขวดไป ก่อนที่เซฮุนจะยัดเมนทอสเข้าไปในขวดแล้วขว้างไปอีกรอบ
‘โป๊ะ !’ ขวดน้ำอัดลมแตกพร้อมกับเศษแก้วที่กระเด็นอัดหน้าเจ้าพวกนั้น แต่เซฮุนก็ไม่ลืมที่จะขว้างเข้าไปอีกรอบเพื่อความแน่ใจ จนพวกมันนอนแน่นิ่งไป
“เร็ว !”
เซฮุนหันขวับมา ก่อนที่จะบอกให้พวกผมวิ่งออกมาจากสถานีตำรวจให้เร็วที่สุด และดูเหมือนว่าเราจะต้องวิ่งขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านป้อมตำรวจป้อมเดิม แล้วเลยไปอีกประมาณ 1 กิโล เพื่อที่จะไปที่อู่ซ่อมรถ
รวมระยะทางทั้งหมดก็น่าจะประมาณ 3 กิโลกว่า ๆ
“. . .น. . .นี่” ลู่หานที่วิ่งตามหลังผมมา ดึงชายเสื้อของผม ก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดวิ่ง
“มีอะไรหรอ ?”
“ไอ้นั่น. . .ใช่. . .” ลู่หานชี้ไปทางด้านขวามือของตัวเอง สีหน้าของเขาดูซีดเซียวมาก เหงื่อสีใสเริ่มผุดออกมาตามใบหน้า
ไอ้นั่น ?
“บ. . .บ้าจริง” ผมหันไปมองตามทางที่ลู่หานชี้ ที่ที่ห่างไปจากพวกผมประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ ที่หน้าโรงพยาบาล
ร่างไร้วิญญาณนับสิบ. . .ยี่สิบ. . .หรือสามสิบ ? ผมไม่สามารถจะมายืนนับได้ว่ามันมีทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่ามันกำลังจะมีทีท่าว่า
จะวิ่งเข้ามา
“ช. . .ชิบหาย !” เซฮุนเบิกตากว้าง แล้วสบถออกมา
“เราต้องรีบไปที่อู่ซ่อมรถแล้วเร็วเข้า !” แบคฮยอนตะโกนเร่ง
“แต่จะให้วิ่งไปแบบนี้ไม่ทันแน่ !” ผมพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหนทางข้างหน้าก็มีร่างไร้วิญญาณประมาณ 5 ตัวที่กำลังเดินร่อนเร่ไปมาบนถนนเช่นกัน
เพราะเราจะเสียเวลากับการจัดการพวกมันแน่ ๆ
แล้วเจ้าพวกนั้นก็จะตามพวกเราทัน
“เอาไงดีวะ !” ผมขยี้หัวตัวเองแรง ๆ ก่อนทีจะมองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนที่สายตาของผมจะเบนความสนใจไปที่
ร้านปะยาง
หน้าร้านปะยางมันมี. . .
“จักรยาน. . .”
“จักรยานอะไรชานยอล ?,นี่ไม่ใช่เวลาเล่นนะ” แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะเอ็ดผมว่าทำเป็นเล่น
“จักรยานไง เร็ว !” ผมวิ่งไปที่หน้าร้านปะยาง ก่อนที่จะก้มลงไปยกจักรยานให้ตั้งขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะเป็นใจตรงที่ว่า มีจักรยานจอดอยู่หน้าร้านปะยางพอดี
จักรยาน 2 คัน สำหรับคน 4 คน
“อย่าบอกนะว่า”
“ขึ้นมาเร็วเข้า ! เซฮุนนายขี่อีกคันนะ เร็ว !”
“นายบ้าไปแล้วจริงๆ ชานยอล !”
ถึงแบคฮยอนจะพูดแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็จัดการขึ้นซ้อนท้ายเซฮุนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนลู่หานก็ซ้อนท้ายผม ผมหันไปพยักหน้ารับกับเซฮุนก่อนที่ขายาวจะถีบไปข้างหน้า ส่วนมือก็กำแฮนด์แน่น
“อือออออออออออ !” ผมกับเซฮุนรีบปั่นจักรยานไปตามทางข้างหน้าให้เร็วที่สุด ขณะที่ร่างหิวโซเกือบสามสิบกว่าตัวกำลังสาวเท้าไล่พวกเราสุดแรงเกิด แต่ผมก็ต้องลดความเร็วลง เมื่อมีร่าง ๆ หนึ่งโผล่มาขวางทางข้างหน้า
‘ปัง !’
เสียงลั่นไกปืนดังขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ยินมานาน ก่อนที่ร่าง ๆ นั้นจะลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น
“เดี๋ยวฉันจะยิงคุ้มกันให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง”
ลู่หานที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างหลังผม พูดขึ้นมา พร้อมกับลั่นไกปืนใส่ร่างที่เข้ามาใกล้จากด้านหลังไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิด
“ปั่นไปจนสุดทางเลยนะครับ พี่ชานยอล” เซฮุนที่ปั่นขนาบข้างผมมา หันมาบอก ก่อนที่จะหักเลี้ยวหลบร่างที่เดินมาสวนทาง
‘ปัง ! ปัง !’ ส่วนแบคฮยอนก็ยังคงระดมยิงใส่ร่างไร้วิญญาณที่วิ่งเข้ามาใกล้อย่างแม่นยำเหมือนเดิม
ตอนนี้ผมก็แค่กำลังดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด
ทำทุกวิถีทางให้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่
ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม. . .
LOADING. . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ขอบคุณธีมสวยๆจาก △ C R A Z E ˊ
สัปดาห์นี้อันแสนมึนตึง @@ มาแล้วจ้าสำหรับตอนใหม่
พระเอกของเราก็อ้อนแอ้นซะจริง แต่อึดนะจะบอก 555
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกๆคอมเม้นจริง ๆ นะจ๊ะ ทั้งคนเก่าคนใหม่
ถึงตอนนี้มันจะง่วงก็ตามที แต่ก็อยากให้ติดตามตอนต่อไปกันเนอะ
ส่วนใครที่ว่างไม่มีฟิคอ่าน ก็แนะนำเรื่องนี้สำหรับคนที่ยังไม่รู้
The Hospital #ดฮปท << จิ้มเบย
สนุกมากนะเรื่องนี้ ของเพื่อนเราเอง รับประกันความสนุกและความจิต -/ -
ความคิดเห็น