ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #8 : 7 CHANGE | Family

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 56


    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    7 | ครอบครัว
































     

     

    “คริส ! รอยอลด้วย”

    “เดินให้มันเร็วๆหน่อยสิ ขาก็ยาวยังจะเดินชักช้าโอ้เอ้อีก”

    “เฮ้ย ! ก็คริสขายาวกว่ายอลอ่ะ รอยอลด้วย”

    “. . .”

    “คริส. . .คริส คริส !

    “. . .”

    “คริส คริสพี่หายไปไหนแล้วน่ะ คริส ! คริส ! รอยอลด้วย”

    “คริส ! รอยอลด้วย ไม่เอานะ อย่า ! อย่าทิ้งยอลไปอีกคนนึงสิ คริส !

     

    “คริสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส !

     

     

    ว่ากันว่าคนที่กำลังจะตาย. . .

    ภาพความทรงจำทั้งหมดในชีวิตจะแล่นเข้ามาในหัว ก่อนที่จะประมวลออกมากเป็นภาพผ่านทางการมองเห็น ภาพความทรงจำทั้งดีและร้าย น่าจดจำและไม่น่าจดจำทั้งหมดจะโลดเล่นเหมือนละครสั้น

    จริงรึเปล่า ?

    คงเป็นงั้นแหละมั้ง

    เพราะตอนนี้. . .

    ผมรู้สึก เจ็บ จริง ๆ

     

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !

    เสียงโอดครวญที่เล็ดลอดผ่านมาตามหลอดคอ ผ่านกล่องเสียงสั่นออกมาจากความรู้สึกของผมในตอนนี้

    ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานที่สีข้าง จุดๆเดิมที่ผมเคยเจ็บมาก่อน

     

    “อ. . .อึก”

    น้ำลายอึกใหญ่ค่อย ๆ กลืนลงไปในลำคอ ขาที่ใช้ยันร่างที่หิวโซเริ่มหมดเรี่ยวแรงมากขึ้นพร้อมกับริมฝีปากกว้างที่กำลังจะเข้ามาแทะโลมเนื้อสด ๆ ของผม

    ผมชายตามองไปที่สีข้างของตัวเองอย่างไม่ลดละความพยายาม

    ของเหลวสีแดงสดค่อย ๆ ซึมออกมาผ่านผ้าพันแผล และมันก็กำลังกระจายเป็นวงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับความเจ็บที่ค่อยๆลดลง

    ไม่สิ

    มันเรียกว่า ชา มากกว่า ผมรู้สึกได้ถึงปากแผลที่ฉีกขาดออกจากกัน ก่อนที่เลือดสีสดจะค่อย ๆ ไหลออกมาตามธรรมชาติ

     

    “. . .”

    ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ ท้องฟ้ากับปุยเมฆสาวขาวสะอาดตา พื้นหญ้าสีเขียว กับผู้คนนับสิบที่กำลังสาวเท้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นทุกที

    ใกล้มาก

     

    “ชานยอล !

    เสียงของคน ๆ หนึ่งที่ผมจำได้ดี คนที่ช่วยชีวิตของผมมาหลายต่อหลายครั้ง

    แบคฮยอน

     

    “อา. . .”

    ความรู้สึกหนักหน่วงที่ขาหายไป ก่อนที่ภาพลาง ๆ ที่ผมเห็นตรงหน้าคือ เลือดที่สาดกระจายและลอยฟุ้งอยู่บนอากาศ จากนั้นคน ๆ หนึ่งที่โถมตัวเขาหาผมจะล้มลงไปนอนนิ่งอยู่ข้างๆ

     

    “บ้าจริง ! ชานยอล !” คนตัวเล็กเข้ามาประคองผมไว้ ทั้ง ๆ ที่มือของเขาก็เปื้อนเลือดเต็มไปหมด เขาสบถออกมาเสียงดังลั่น

     

    “จะทิ้งผมไปอีกคนหนึ่ง.. .รึเปล่า”

    “พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย ลุกขึ้น !” เขาตำหนิผม ก่อนที่จะลุกขึ้นออกแรงยกตัวผมขึ้น แต่ดูเหมือนว่าแรงของเขาจะมีไม่มากพอที่จะยกผมทั้งตัวให้ลุกขึ้นได้

    ในขณะที่ร่างหิวโซนับสิบกำลังพุ่งตรงมาที่พวกเรา

     

    ภาพที่ผมเห็นค่อย ๆ จางลง พร้อมกับเสียงตะโกนของแบคฮยอนที่ค่อย ๆ เบาลงทุกที

    ก่อนที่ทุกอย่าง. ..จะดับลง

     

    ดับสนิทจริง ๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    !

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

    นี่ผม. . .ยังไม่ตายงั้นหรอ ?

     

    ผมกระพริบตาเพื่อปรับโฟกัสให้มองเห็นอะไรได้ชัดขึ้น บนเพดานสีขาวมีพัดลมตัวหนึ่งกำลังหมุนวนเวียนไปมาตามระบบ ผมพลิกตัวไปด้านข้างก่อนที่ความเจ็บแปล๊บที่สีข้างจะแล่นเข้ามาให้ผมต้องขบฟันแน่น

     

    “. . .” พยายามกวาดสายตามองไปรอบกาย แต่ก็ไม่พบใครเลย แบคฮยอน เซฮุน หรือแม้แต่ลู่หาน

    นี่เขาทิ้งพวกผมไปแล้วจริง ๆ

    เหมือนที่คริสทิ้งผมอย่างงั้นหรอ ?

     

    “. . .”

    ตอนนี้ร่างของผมนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟาสีเข้ม ตรงข้ามกับผมเป็นโต๊ะทำงานตัวใหญ่กับชั้นใส่แฟ้มเอกสาร

    ที่นี่ที่ไหน ?

     

    “อ. . .อึก”

    ผมค่อย ๆ ใช้เท้าทั้งสองข้างวางทาบลงกับพื้น ก่อนที่จะใช้มือยันโซฟาแล้วดันร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่สีข้างทำเอาขาของผมสั่นไปหมด

     

    พวกเขาหายไปไหนกันหมด ?

    ความสงสัยนำพาร่างของผมให้เดินตรงไปที่ประตูห้อง ผลักมันให้เปิดออกอย่างตะกุกตะกัก

    สถานการณ์แบบนี้ทำเอาผมนึกถึง เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลนั่น

    ตื่นมาท่ามกลางความเงียบ ก่อนที่จะพบว่าตัวเองไม่เหลือใครเลย

     

    “โอ้ย !” ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอย่างรุนแรง จนผมล้มลงไปนอนขดอยู่กับพื้น มือทั้งสองข้างยกขึ้นมา ก่อนที่จะกุมเข้าที่สีข้างตามสัญชาตญาณเมื่อได้รับความเจ็บปวด

     

    “ช. . .ชานยอล !

    เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาจากอีกทาง ใครกันนะ. . .

    “ทำใจดี ๆ ไว้นะ”

    เขาคนนั้นจับผมพลิกให้นอนหงายขึ้น ก่อนที่ดวงตากลมของผมจะมองเห็นเขา ใบหน้าหวานกับผมสีน้ำตาลทอง. . .

     

    “ลู่หาน. ..หรอ”

    “อื้อ. . .นายควรจะไปพักผ่อนก่อนนะ”

    “แบคฮยอนกับเซฮุนล่ะ”

    “สองคนนั้น ไปจัดการไอ้เจ้าพวกข้างนอกอยู่น่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ”

    ลู่หานยิ้ม ก่อนที่จะพยุงผมให้ลุกขึ้น แล้วพาผมกลับไปนอนที่โซฟาตัวเดิมที่ผมเพิ่งจะจากมา

     

    “ผม. . .คิดว่าตัวเองจะตายแล้วซะอีก”

    “แบคฮยอนเข้าไปชวนนายไว้ทันน่ะ. . .แต่ก็เกือบไปแล้วนะ ถ้าเซฮุนไม่วิ่งเข้าไปช่วยแบคฮยอนพยุงนายมาอีกคนน่ะ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ

    “แผลนี่. . .นายทำ ?”

    “ใช่. . .ปากแผลมันเปิดน่ะ แต่ยังดีนะที่มันยังไม่ใหญ่มาก โชคดีที่สถานีตำรวจนี้ยังมีเครื่องมือปฐมพยาบาลอยู่ ไม่งั้นนายอาจจะแย่ไปกว่านี้”

    “ขอบคุณนะ”

    “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ เซฮุนเล่าให้ฉันฟังว่านายเป็นคนทำให้ฉันฟื้น ถึงวิธีของนายมันจะดูเสี่ยงไปหน่อยก็เถอะ”

    ลู่หานฉีกยิ้มกว้าง ก่อนที่จะเอื้อมมือมาจับที่ไหล่ของผม

     

    ก๊อก. . .ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่เงาของคนสองคนจะปรากฏขึ้นอยู่ที่หน้าห้อง

     

    ลู่หานเดินไปที่ประตูก่อนที่จะเปิดมันออก หน้าประตูปรากฏร่างของคนที่ผมคุ้นเคยดีเซฮุน กับแบคฮยอนคนที่ช่วยชีวิตผมมานัดต่อนัด

     

    “ชานยอล ?” แบคฮยอนเดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือดกับเหงื่อสีใสที่ไหลอาบตัว แต่เขาก็เดินตรงมาที่ผม ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ก่อนที่จะเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงห่วงใย คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน

    “ไม่เป็นไร. .ขอบใจนะที่ช่วยผมน่ะ” ผมยิ้มพร้อมกับกล่าวขอบคุณ แบคฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะยิ้มออกมา

     

    “พี่ชานยอลอาการตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ ?” เซฮุนเดินเข้ามาหาผมอีกคน พร้อมกับยื่นผ้าขนหนูให้แบคฮยอน ก่อนที่จะใช้อีกผืนเช็ดคราบเลือดที่ใบหน้าของตัวเองออก

     

    “เจ็บนิดหน่อยน่ะ. . .”

    “ผมรู้นะครับว่าพี่รู้สึกยังไง ผมรู้ว่ามันไม่ต่างอะไรจากการฆ่าคนก็จริง. . .แต่. . .มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ” เซฮุนพูดน้ำเสียงนุ่ม ใบหน้าของเขาดูหนักใจอยู่ไม่น้อยเลย

     

    แต่ก็เถอะ. . .ผมยังไม่ชินกับการทำอะไรแบบนี้

    มันโหดร้าย. . .เกินไป

     

    “ขอโทษนะ” ผมเอ่ยขอโทษ แต่เซฮุนกลับส่ายหน้าเอายกใหญ่

    “พี่ไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกนะ”

    “. . .”

    บทสนทนาจบลงอยู่แค่นั้น ผมทำได้แต่นอนนิ่งมองดูแบคฮยอน เซฮุนแล้วก็ลู่หานนั่งเตรียมการทุกอย่าง ๆ

     

    เซฮุนเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากที่หอบผมเข้ามาในสถานีตำรวจนี้ได้ทัน เจ้าพวกผีดิบหิวโซต่างก็รุมอยู่ที่หน้าประตู แต่โชคดีที่กระตกของสถานีตำรวจแข็งแรงมากพอ แถมยังมีประตูป้องกันอีกชั้นหนึ่งอีก

    อาวุธในสถานีก็ยังพอมีให้เราเอาไปใช้ เซฮุนกับแบคฮยอนเลยอาสาขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วจัดการยิงเจ้าพวกนั้นโดยใช้ปืนที่เก็บเสียงได้ดีพอสมควร

     

     

     

    “ผมคิดว่าเราควรจะพักอยู่ที่นี่ซักคืน รอให้พี่ชานยอลอาการดีขึ้นก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าเราค่อยออกเดินทางกัน” 

    “ฉันก็คิดแบบนั้นนะ”

    เซฮุนทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นข้าง ๆ โซฟาที่ผมนอนอยู่ ก่อนที่จะลากกระเป๋าแล้วจัดการหยิบอาหารที่เอามาด้วยออกมา แบคฮยอนที่กำลังเอากระสุนใส่เข้าไปในกระบอกปืนของตัวเองก็เอ่ยเห็นด้วย

     

    “เจ้าพวกนั้น ก็กระจายตัวออกไปแล้วล่ะ ถ้าอยู่ในนี้เงียบ ๆ ก็น่าจะปลอดภัยอยู่” ลู่หานที่ยืนอยู่ที่หน้าต่าง ก็เดินกลับมานั่งข้าง ๆ เซฮุน

    “กินข้าวกันเถอะครับ ผมหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว” ว่าจบเซฮุนก็จัดการแกะห่อขนมปังออกมากินอย่างเอร็ดอร่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะยืนให้ผมห่อหนึ่งเช่นกัน

    “รู้สึกเหมือนได้ทานข้าวกับครอบครัวยังไงไม่รู้เนอะว่ามั้ย ?”

    ผมพยุงตัวขึ้นมานั่ง ก่อนที่จะทานขนมปังในมือ จนประโยคที่ผมได้ยินขึ้นมาจะทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

    ทานข้าวกับครอบครัวอย่างงั้นหรอ ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านไปก็เกือบจะเที่ยงคืนของวันนี้แล้ว พวกเราสี่คนนั่งคุยกันถึงเรื่องต่างๆมากมายนับไม่ถ้วนจนทำเอาผมแทบลืมไปเลยว่าโลกของเราตอนนี้มันมีสภาพที่แย่ยังไง เหมือนกับได้สัมผัสความสบายใจกับความสุขที่ไม่ได้พบกันมานาน

     

    “ชานยอลนายยิงปืนเป็นมั้ย ?” ลู่หานเปิดประเด็นขึ้นมา ก่อนที่เพื่อนร่วมทางอีก 2 คนของผมจะหันมามองด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น

    “ชานยอลหรอ เป็นอยู่แล้ว,ไม่งั้นนายจะได้แผลโดนยิงมาได้ยังไงล่ะ”

    มันเกี่ยวกันมั้ยแบคฮยอน. . .

     

    “เคยยิง.. .แต่ไม่ค่อยจะโดนเป้าเท่าไหร่”

    “เอาเป็นว่าเคยจับปืนก็โอเคแล้วล่ะ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะเดินไปลากกระเป๋าใบใหญ่เบ้อเริ่มประมาณ 3 4 ใบมาไว้กลางห้อง แล้วจัดการหยิบอาวุธที่ไปหามาได้ออกมา

    “นี่พวกนายไปรื้อมันมาหมดเลยหรอ ?”

    “เปล่าหรอกครับ ลู่หานเป็นคนไปหามาให้น่ะ”

     

    ผมหันไปมองลู่หานที่กำลังหยิบปืนมากมายออกมาจากกระเป๋า ลู่หานเป็นคนไปหามา หมายความยังไง ?

    “ทำไมนายถึงรู้ล่ะว่าที่นี่มีอาวุธ ?” ผมยิงคำถามที่สงสัยไปตามตรง

    ลู่หานนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหันมาตอบผมด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

     

    “สถานีตำรวจมันต้องมีปืนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกตินะ”

    “แต่ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเอาออกมาได้ง่ายขนาดนี้นะ”

    “. . .” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่ผมไม่รู้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่จะยิ้มนิด ๆ แล้วก้มหน้าก้มตาหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าต่อ

     

    หมายความว่าไง ?

     

     

     

    “ปืนพก 6 กระบอก แบบเก็บเสียงอีก 3 ไรเฟิล 2 ช็อตกันอีก 4 กระบอก .22 กับสไนเปอร์อีกอย่างละ 1 แต่ฉันคิดว่าปืนกลหนักไม่น่าจะเอาไปด้วยนะ มันคงจะหนักเกินไปในการเคลื่อนย้าย”

    แบคฮยอนค่อย ๆ นับอาวุธที่ไปหามาได้ พร้อมๆกับแยกมันออกเป็นกลุ่ม กระสุนก็มีอยู่หลายกล่อง ท่าทางมันน่าจะพอใช้ไปจนถึงโซล ถ้าเราใช้มันอย่างประหยัด

     

    “ใส่กระสุนให้พร้อมนะ จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลา” ว่าจบเจ้าตัวก็จัดการหยิบกระสุนออกมาจากกล่องแล้วใส่เข้าไปในแม็กอย่างชำนาญ เซฮุนกับลู่หานก็ทำแบบนั้นเช่นกัน

    มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องในตอนนั้นเลย. . .

    ตอนที่โดนยิง. . .

    แต่ก็จำไม่ค่อยจะได้ ซักเท่าไหร่

     

     

    “มีแผนอะไรมั้ยสำหรับวันพรุ่งนี้ ?”

    “ผมคิดว่าเราน่าจะไปทางทิศเหนือ มันมีอู่ซ่อมรถอยู่. . .เราควรจะไปเอารถแล้วออกไปจากที่นี่นะ” เซฮุนเสนอความคิดขึ้นมา เขากอดอกพูดพลางใช้ความคิด

    “อู่ซ่อมรถหรอ. . .”

    “ถ้าได้รถมาซักคันก็โอเคแล้วล่ะ หลังจากนั้นเราก็ออกจากเมืองนี้ จุดหมายของพวกเราต่อจากนี้ก็คือ โซล” แบคฮยอนพยักหน้าเห็นด้วย พร้อมๆกับเก็บปืนจำนวนหลายกระบอกเข้ากระเป๋าเหมือนเดิม

    “เอาเป็นว่าพักผ่อนกันก่อนเถอะนะ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ออกเดินทางกันเลย,นายก็พักผ่อนให้มาก ๆ ล่ะชานยอล” ว่าจบแบคฮยอนก็จัดการถอดเสื้อกันหนาวสีดำตัวที่ผมให้เขาออก ก่อนที่จะเอามาห่มร่างของผมที่นอนอยู่บนโซฟา

    “ขอบใจนะ”

    “. . .พักผ่อนเถอะ

    เพราะวันพรุ่งนี้

    อาจจะต้องเหนื่อยกว่าวันนี้แน่ ๆ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “. . .”

    ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาพบกับเพดานสีขาวกับพัดลมตัวเดิมที่เคยเห็น แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทอเข้ามาผ่านม่านสีอ่อน นี่คงเริ่มวันใหม่แล้วสินะ ? ไม่แปลกเลยที่เขาจะว่ากันว่าความฝันมักจะเกิดขึ้นมาในช่วงระยะเวลา ๆ สั้น

    ส่วนความจริงมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แสนยาวนาน

     

    “ตื่นแล้วหรอชานยอล ?” เสียงเอ่ยทักทายดังขึ้นมา ผมลุกขึ้นนั่งบนโซฟา ก่อนที่จะเห็นแบคฮยอนกำลังยืนอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมๆกับเอาผ้าขนหนูมาเช็ดที่ผม ผมของเขาดูเปียกหมาด กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยเข้ามาเตะจมูกนั่นอีก

    เหมือนกลิ่นของสบู่. . .

     

    “พี่ชานยอลตื่นพอดีเลย ไปอาบน้ำด้วยกันมั้ย ?” เซฮุนวิ่งปรี่เข้ามาเขย่าตัวผม พร้อมกับไหล่ที่พาดผ้าขนหนูเอาไว้ด้วย

    อาบน้ำ ?

     

    “น้ำอุ่นกำลังดีเลยล่ะ ไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนดีกว่านะ จะได้ลุยกันต่อ” ลู่หานพูดพร้อม ๆ กับเดินเข้ามายืนฝ้าขนหนูให้ผมอีกผืน

    ผมรับมันมา ก่อนที่จะพยักหน้ารับกับเซฮุน เด็กผู้ชายตรงหน้าผมดีใจยกใหญ่ ก่อนที่จะลากผมไปที่ห้องน้ำของสถานีตำรวจที่ไม่ไกลจากห้องที่ผมนอนเท่าไหร่นัก

     

    “โหย. . .ไม่ได้อาบน้ำอุ่น ๆ แบบนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย ?”

    เซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ ในขณะที่ฝักบัวกำลังปล่อยน้ำลงมา

    “สบายสุด ๆ ไปเลยอ่ะ”

    ผมหัวเราะให้กับนิสัยเด็ก ๆ ของเขา แต่ก็ต้องมาระแวดระวังกับแผลของตัวเองที่ไม่ควรจะให้โดนน้ำ

     

    “พี่ชานยอลแผลเป็นไงมั่ง ?”

    เสียงของเซฮุนเล็ดลอดออกมาจากม่านกั้น

    “ไม่ค่อยเจ็บแล้วล่ะ ปากแผลเริ่มปิดแล้วด้วย ไม่ต้องห่วง”

    “หรอ. . .ครับ”

     

    “. . .”

    “พี่ชานยอล.. .ถ้าสมมติว่าพวกเราไปที่โซลกันแล้ว พี่จะทำอะไรต่อไปหรอครับ ?”

    “ตามหาคริส. . .”

    “พี่ชายของพี่น่ะหรอ ?”

    “อื้ม. . .”

    “ผมขอพี่หาเขาเจอเร็วๆนะครับ”

     

    เซฮุนพูดจบไว้แค่นั้น ก่อนที่เราสองคนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวมากขึ้น จากนั้นเราก็เดินกลับไปที่ห้อง ๆ เดิม

    “อันนี้ของนายนะชานยอล. . .” ทันทีเข้ามาแบคฮยอนก็ยื่นปืนพกมาให้ผมพร้อมกับกระเป๋าสะพายใบเล็ก ๆ อีกหนึ่งใบ

    “ของผม ?”

    “กระบอกนี้เป็นกระบอกที่เบาที่สุดแล้วล่ะ”

    “นี่อย่าบอกนะว่าพวกนายยิงปืนกันเป็นหมดเลยน่ะ ?” ผมขมวดคิ้วเขาหากันเป็นปมก่อนที่จะเอ่ยถาม

    แบคฮยอนกับเซฮุนน่ะผมไม่สงสัยเท่าไหร่หรอกครับ แต่. . .ลู่หานเนี่ยสิ เขาดูไม่น่าจะยิงปืนเป็นเลยด้วยซ้ำ

     

    “ผมเคยยิงในเกมนะ แต่เอาเข้าจริงตอนไปกับพี่แบคฮยอนนี่ก็โดนผมเก็บไปหลายตัว” เซฮุนพูดอย่างภาคภูมิใจ พร้อมๆกับเอื้อมมือไปกอดคอแบคฮยอน

    “แล้วลู่หาน ?”

    “เป็นสิ” ลู่หานยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะหยิบปืนพกมาเหน็บไว้ที่เอว

    “ไม่ต้องห่วงหรอกชานยอล เดี๋ยวนายก็ยิงแม่นเองแหละน่า ไปกันเหอะ”

    แบคฮยอนพูดก่อนที่จะเดินมาตบบ่าผม กระชับกระเป๋าสะพายของตัวเอง ก่อนที่จะเดินนำหน้าออกไปจากห้อง

    ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะก้มไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ดูเหมือนจะมือปืนอยู่มาสะพายแล้วเดินตามแบคฮยอนไป

     

    “พร้อมนะ ?” แบคฮยอนที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูสถานีตำรวจเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเห็นว่าพวกเรายืนกันให้พร้อมหน้าแล้ว

    “แผนเดิมนะ เหลือน้ำอัดลมอยู่อีก 4 ขวด”

    “เดี๋ยวผมจะปาออกไป จากนั้นเราก็รีบวิ่งกันเลยโอเคนะ ?”

    เซฮุนว่าพลางหยิบขวดน้ำอัดลมขึ้นมาเตรียมไว้

     

    ผมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ประตู ย่อตัวลงก่อนที่จะมองลอดออกไปทางกระจก ร่างไร้วิญญาณที่เดินว่อนไปมาอยู่กลางถนนมีเพียงแค่ 3 เท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่เห็นอีก อาจเป็นเพราะตอนกลางวันด้วยละมั้ง เลยทำให้จำนวนของพวกมันน้อยกว่าที่คาด

     

    ครืด. . .แบคฮยอนเลื่อนประตูให้เปิดออก ก่อนที่เซฮุนจะวิ่งออกไปแล้วจัดการปาขวดน้ำอัดลมออกไปขวดหนึ่ง

     

    เพล้ง !’ แล้วก็เป็นไปตามแผน ความสนใจในเสียงของพวกมันยังเป็นเหมือนที่วางไว้ พวกมันค่อย ๆ ลากเท้าเดินเข้ามา ณ จุดที่เซฮุนขว้างขวดไป ก่อนที่เซฮุนจะยัดเมนทอสเข้าไปในขวดแล้วขว้างไปอีกรอบ

     

    โป๊ะ !’ ขวดน้ำอัดลมแตกพร้อมกับเศษแก้วที่กระเด็นอัดหน้าเจ้าพวกนั้น แต่เซฮุนก็ไม่ลืมที่จะขว้างเข้าไปอีกรอบเพื่อความแน่ใจ จนพวกมันนอนแน่นิ่งไป

     

    “เร็ว !

    เซฮุนหันขวับมา ก่อนที่จะบอกให้พวกผมวิ่งออกมาจากสถานีตำรวจให้เร็วที่สุด และดูเหมือนว่าเราจะต้องวิ่งขึ้นไปทางทิศเหนือผ่านป้อมตำรวจป้อมเดิม แล้วเลยไปอีกประมาณ 1 กิโล เพื่อที่จะไปที่อู่ซ่อมรถ

    รวมระยะทางทั้งหมดก็น่าจะประมาณ 3 กิโลกว่า ๆ

     

    “. . .น. . .นี่” ลู่หานที่วิ่งตามหลังผมมา ดึงชายเสื้อของผม ก่อนที่เจ้าตัวจะหยุดวิ่ง

    “มีอะไรหรอ ?”

    “ไอ้นั่น. . .ใช่. . .” ลู่หานชี้ไปทางด้านขวามือของตัวเอง สีหน้าของเขาดูซีดเซียวมาก เหงื่อสีใสเริ่มผุดออกมาตามใบหน้า

    ไอ้นั่น ?

     

    “บ. . .บ้าจริง” ผมหันไปมองตามทางที่ลู่หานชี้ ที่ที่ห่างไปจากพวกผมประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ ที่หน้าโรงพยาบาล

    ร่างไร้วิญญาณนับสิบ. . .ยี่สิบ. . .หรือสามสิบ ? ผมไม่สามารถจะมายืนนับได้ว่ามันมีทั้งหมดเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่ามันกำลังจะมีทีท่าว่า

    จะวิ่งเข้ามา

     

    “ช. . .ชิบหาย !” เซฮุนเบิกตากว้าง แล้วสบถออกมา

    “เราต้องรีบไปที่อู่ซ่อมรถแล้วเร็วเข้า !” แบคฮยอนตะโกนเร่ง

    “แต่จะให้วิ่งไปแบบนี้ไม่ทันแน่ !” ผมพูดขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหนทางข้างหน้าก็มีร่างไร้วิญญาณประมาณ 5 ตัวที่กำลังเดินร่อนเร่ไปมาบนถนนเช่นกัน

    เพราะเราจะเสียเวลากับการจัดการพวกมันแน่ ๆ

    แล้วเจ้าพวกนั้นก็จะตามพวกเราทัน

     

    “เอาไงดีวะ !” ผมขยี้หัวตัวเองแรง ๆ ก่อนทีจะมองไปรอบ ๆ ตัว ก่อนที่สายตาของผมจะเบนความสนใจไปที่

    ร้านปะยาง

    หน้าร้านปะยางมันมี. . .

     

    “จักรยาน. . .”

    “จักรยานอะไรชานยอล ?,นี่ไม่ใช่เวลาเล่นนะ” แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะเอ็ดผมว่าทำเป็นเล่น

     

    “จักรยานไง เร็ว !” ผมวิ่งไปที่หน้าร้านปะยาง ก่อนที่จะก้มลงไปยกจักรยานให้ตั้งขึ้น และดูเหมือนว่ามันจะเป็นใจตรงที่ว่า มีจักรยานจอดอยู่หน้าร้านปะยางพอดี

    จักรยาน 2 คัน สำหรับคน 4 คน

     

    “อย่าบอกนะว่า” 

    “ขึ้นมาเร็วเข้า ! เซฮุนนายขี่อีกคันนะ เร็ว !

    “นายบ้าไปแล้วจริงๆ ชานยอล !

    ถึงแบคฮยอนจะพูดแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็จัดการขึ้นซ้อนท้ายเซฮุนเป็นที่เรียบร้อย ส่วนลู่หานก็ซ้อนท้ายผม ผมหันไปพยักหน้ารับกับเซฮุนก่อนที่ขายาวจะถีบไปข้างหน้า ส่วนมือก็กำแฮนด์แน่น

     

    “อือออออออออออ !” ผมกับเซฮุนรีบปั่นจักรยานไปตามทางข้างหน้าให้เร็วที่สุด ขณะที่ร่างหิวโซเกือบสามสิบกว่าตัวกำลังสาวเท้าไล่พวกเราสุดแรงเกิด แต่ผมก็ต้องลดความเร็วลง เมื่อมีร่าง ๆ หนึ่งโผล่มาขวางทางข้างหน้า

     

    ปัง !’

    เสียงลั่นไกปืนดังขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ยินมานาน ก่อนที่ร่าง ๆ นั้นจะลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น

    “เดี๋ยวฉันจะยิงคุ้มกันให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วง”

    ลู่หานที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างหลังผม พูดขึ้นมา พร้อมกับลั่นไกปืนใส่ร่างที่เข้ามาใกล้จากด้านหลังไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิด

     

    “ปั่นไปจนสุดทางเลยนะครับ พี่ชานยอล” เซฮุนที่ปั่นขนาบข้างผมมา หันมาบอก ก่อนที่จะหักเลี้ยวหลบร่างที่เดินมาสวนทาง

     

    ปัง ! ปัง !’ ส่วนแบคฮยอนก็ยังคงระดมยิงใส่ร่างไร้วิญญาณที่วิ่งเข้ามาใกล้อย่างแม่นยำเหมือนเดิม

     

    ตอนนี้ผมก็แค่กำลังดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด

    ทำทุกวิถีทางให้ตัวเองยังมีชีวิตอยู่

    ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม. . .

     






     

    LOADING. . .
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     


    ขอบคุณธีมสวยๆจาก △ C R A Z E  ˊ

    สัปดาห์นี้อันแสนมึนตึง @@ มาแล้วจ้าสำหรับตอนใหม่
    พระเอกของเราก็อ้อนแอ้นซะจริง แต่อึดนะจะบอก 555
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกๆคอมเม้นจริง ๆ นะจ๊ะ ทั้งคนเก่าคนใหม่
    ถึงตอนนี้มันจะง่วงก็ตามที แต่ก็อยากให้ติดตามตอนต่อไปกันเนอะ
    ส่วนใครที่ว่างไม่มีฟิคอ่าน ก็แนะนำเรื่องนี้สำหรับคนที่ยังไม่รู้
    The Hospital #ดฮปท << จิ้มเบย
    สนุกมากนะเรื่องนี้ ของเพื่อนเราเอง รับประกันความสนุกและความจิต -/ -
     

    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×