คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 4 CHANGE | Exist
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
4 | คนที่ยังเหลืออยู่
*เนื้อหาของตอนนี้เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี
ผู้ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีควรได้รับคำแนะนำ
“พวกพี่ชายคงหิวกันแย่เลยนะครับ. . .”
ผมกับแบคฮยอนนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ส่วนเซฮุน. . .เขาก็เดินหายไปจากห้อง ก่อนที่จะเดินกลับมาพร้อมกับซองบะหมี่สองสามห่อในมือ
“ขอบคุณ” เขายื่นมันมาให้ผมกับแบคฮยอน ผมรับมันมีก่อนที่จะเอ่ยขอบคุณ จะว่าไปก็เกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ แล้วที่ผมไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า
“นายอยู่ที่นี่คนเดียวงั้นหรอ ?”
แบคฮยอนถามเซฮุนที่ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ
“ครับ หลังจากที่มีข่าวการระบาดของเชื้อ ผู้คนมากมายที่หอพักนี้ก็รีบอพยพตัวเองออกไปกันหมด จนเหลือแต่ผมนี่แหละ”
“ผ่านมาก็ประมาณเกือบเดือนแล้วที่ผมอยู่ที่หอพักนี้ ยังดีที่ได้พวกอาหารที่เหลืออยู่จากห้อง ๆ อื่นมาพอประทังชีวิต”
เซฮุนยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะแกะห่อขนมมากินอย่างสบายอารมณ์
นี่เขาไม่ทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยรึไงกัน ?
“แล้วพวกพี่ชาย . .ล่ะ เล่าเรื่องของพวกพี่ให้ผมฟังบ้างสิครับ”
“ก็หนีมาเรื่อย ๆ จนมาเจอชานยอลแล้วก็นายนี่แหละ” แบคฮยอนตอบแล้วหันหน้ามามองผม
“ผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาลฟื้นขึ้นมาอีกที..ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็นไปแล้ว”
เซฮุนเบิกตากว้างแล้วพยักหน้า
“เอาเป็นว่าถ้าพี่ชายจะอยู่ที่นี่ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ ตามสบายเลย,เดี๋ยวผมขอตัวไปเช็คอะไรข้างนอกแป๊ปนึง”
เซฮุนพูดจบก็เดินดุ่ม ๆ ออกไปนอกห้อง
ผมกวาดตามองไปรอบห้อง. . .ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างที่บอกจริง ๆ ห้องพักของเขามันเป็นเพียงแค่ห้องพักเล็ก ๆ ขนาด 1 ห้องโถงกับ 1 ห้องน้ำก็เท่านั้น
ยกเว้นซะแต่ตรงมุมห้องอีกฟากที่มีผ้ากั้นอยู่. . .ผมรู้สึกสงสัยจริง ๆ
“มีอะไรรึเปล่าชานยอล ?”
แบคฮยอนเอ่ยถาม นี่ผมสงสัยจนออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยหรอ ?
“ป. . .เปล่าหรอก”
ปฏิเสธไปแบบพยายามจะให้มันแนบเนียนที่สุด
“จะว่าไป หมอนั่นก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ เซฮุนน่ะ”
“อืม. . .ไม่อย่างงั้นพวกเราอาจจะตายในป้อมตำรวจ หรือไม่ก็ในตรอกนั่นไปแล้วก็ได้”
ผมพูดในขณะที่สายตายังคงมองไปที่ผ้าม่านสีเทาที่กั้นอยู่
“กลับมาแล้วคร้าบบบบบ”
เซฮุนเปิดประตูเข้ามาในห้อง พร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ
“ผมคิดว่า. . .เราคงจะได้ข่าวดีกันเร็ว ๆนี้”
“หมายความว่าไง ?”
“นี่ไง. . .”
เซฮุนพูดลากเสียง ก่อนที่จะเดินไปหยิบวิทยุที่วางอยู่ที่ชั้นวางหนังสือมา แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
“วิทยุหรอ ?”
เขาทำให้ผมรู้สึกแปลกใจอีกแล้ว
“ใช่.. .รอเดี๋ยวนะ”
เขาก้มหน้าก้มตาเอาถ่านในมือใส่เข้าไปในช่องของวิทยุ ก่อนที่จะปิดฝามัน เขายิ้มร่าก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่างที่พวกผมใช้ปืนเข้ามาในห้อง ๆ นี้
“ขอผมจูนสัญญาณแป๊ป. . .”
เซฮุนนั่งหมุนปุ่มจูนสัญญาณวิทยุ ทั้งผมแล้วก็แบคฮยอนสนใจกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มาก ก็แหงล่ะ. . .เขาทำให้พวกผมรู้สึกแปลกใจจริง ๆ
‘ซ่า. ..ซ่า. ..’
เสียงซ่าของวิทยุยังดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เซฮุนกำลังพยายามจูนสัญญาณ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากเป็นเส้นตรง ดูท่าทางจะเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อยเลย
‘ซ. .ซ่า. . .ซ่า’
“ขอร้องล่ะ. . .มีสัญญาณซักทีเถอะ”
‘ซ. ..ซ. . .ซ. . .ซ. เอาล่ะคะรายงานสถานการณ์ล่าสุด..’
“ด. . .ได้แล้ว !”
เซฮุนฉีกยิ้มกว้างทันทีที่มีเสียงประกาศข่าวดังออกมาจากลำโพงของวิทยุ
‘รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากกรุงโซล ตอนนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพยายามควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน ขอให้ผู้อพยพอยู่ในความสงบ และขอให้มารวมกันที่สนามกีฬา Olympic Gymnasium ทางรัฐบาลได้จัดการเรื่องสวัสดิการและความปลอดภัยให้ประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุด. .’
“ที่โซลยังปลอดภัย..หรอ ?”
ผมแบคฮยอนและเซฮุน พวกเราต่างตั้งใจฟังสิ่งที่ดังออกมาจากวิทยุ เพราะหวังว่า ความหวัง ยังคงมีอยู่และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ความหวังยังมีอยู่...
“เห็นเขาว่าที่โซลมีการป้องกันที่แน่นหนามาก และดูเหมือนว่ากำลังจะคิดค้นวิธีการรักษาอยู่ด้วยนะ เพราะห้องข้าง ๆ ผมที่เขาเก็บข้าวของอพยพไปเขาก็บอกผมมาแบบนั้น”
เซฮุนเม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก่อนที่จะปิดวิทยุ แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม
“แบคฮยอน”
“หืม ?”
“ผมจะไปโซล”
ผมหันไปบอกแบคฮยอน แบคฮยอนขมวดคิ้วจนแทบจับกันเป็นปม
“นาย. . .”
“พี่ชายของผมอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้”
ผมหวังอย่างนั้น. . .
“. . .”
ทั้งเซฮุนและแบคฮยอนต่างก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมาทั้งสิ้น เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตา โดยเฉพาะแบคฮยอนที่ยังคงขมวดคิ้วอยู่แบบนั้น
เวลาผ่านมาได้เกือบครึ่งค่อนวัน พระอาทิตย์บนท้องฟ้าเริ่มบอกลาหน้าที่ของมัน มันเริ่มค่อยๆลับขอบฟ้าไปทุกที พร้อมกับท้องฟ้าที่เริ่มมืดสลัว คงจะมีแต่พวกผมตอนนี้ที่ยังคงนั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิม ท่ามกลางความเงียบที่ก่อตัวเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว
“เริ่มหิวกันรึยังครับ ?”
เซฮุนพูดขึ้นมาทำลายความเงียบลง
“. . .”
ผมไม่พูดอะไร ก่อนที่จะหันไปมองแบคฮยอนที่นั่งนิ่ง แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาหรือท่าทีอะไรเลย
“อา. . .ผมคิดว่า พวกพี่ชายน่าจะเริ่มหิวกันแล้วนะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะไปหาอะไรมาให้นะครับ”
เซฮุนมองหน้าผมสลับกับแบคฮยอน ก่อนที่จะลุกแล้วเดินออกไปจากห้อง
ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผม. . .กับแบคฮยอนในห้อง แค่ 2 คน
“แบคฮย. .”
“ถ้านายจะไปโซลจริงๆ ฉันก็จะไปกับนายด้วย”
“ห.. .ห๊า ?”
ในขณะที่ผมกำลังจะพูดกับเขาเรื่องที่จะไปโซล เขาก็เงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะตะโกนใส่หน้าผม ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูเหมือนคนที่กำลังรู้สึกสับสน ดวงตากับปากที่สั่นไม่หยุดของเขาทำเอาผมพูดแทบไม่ออก
“ถ้านายจะไปที่โซล ฉันก็จะไปกับนายด้วย ปาร์ค ชานยอล”
“บ. . .แบค ?”
“ไม่ต้องมาทำหน้าเอ๋อ ฉันบอกจะไปกับนายก็จะไปสิเข้าใจมั้ย แค่เรื่อง 2 วันที่ผ่านมามันก็พอจะทำให้ฉันรู้แล้วล่ะว่า ขืนปล่อยนายไปที่โซลคนเดียว มีหวังได้ตายก่อนที่จะไปถึงหน้าปากซอยอีก”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย ผมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะส่ายหัวให้กับคำพูดของเขา
“อย่าเลย”
คำปฏิเสธของผมทำเอาแบคฮยอนถึงกับชักสีหน้า. . .เขาคงจะโกรธผมสินะ ?
“อย่าห้ามฉันชานยอล เพราะนายเองก็เลือกที่จะตามฉันมาเหมือนกันไม่อย่างนั้นเราสองคนคงไม่มานั่งอยู่ที่นี่หรอก แล้วอีกอย่างนี่ก็คงถึงตาฉันแล้วที่จะต้องตามนายบ้าง”
มันเป็นคำพูดที่ทำเอาผมดิ้นไม่หลุดจริง ๆ
แบคฮยอนหันมามองหน้าผมด้วยสายตาแข็งกร้าวเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ผมยักไหล่ก่อนที่จะพยักหน้า “ในเมื่อนายพูดแบบนี้แล้ว คิดว่าฉันควรจะดิ้นไปทางไหนต่อดีล่ะ ?”
ผมเอียงคอ ก่อนที่จะเสตามองเขา แบคฮยอนอมยิ้ม ก่อนที่จะขำในลำคอเบา ๆ
“พวกพี่ชายจะไปโซลกันจริง ๆ หรอครับ ?” เซฮุนที่เพิ่งจะเข้ามาพร้อมกับข้าวกล่องปรุงสำเร็จพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนที่จะเดินมานั่งลงตรงที่เดิม
“อื้อ. . .นายจะไปด้วยกันมั้ย ?”
ผมตอบก่อนที่จะเอ่ยชวน สายตาของเซฮุนสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งยิ้มกลับมาให้
“ไม่ดีกว่าครับ” ปฏิเสธเสียงเรียบ ก่อนที่จะยื่นข้าวกล่องมาให้พวกผม
“ทำไมล่ะ ?” แบคฮยอนรับข้าวกล่องนั้นมา ก่อนที่จะยิงคำถาม
“นั่นสิ,ทำไมนายไม่หนีไปตั้งแต่ที่ผู้คนที่นี่เขาอพยพกัน ?” ผมเสริมคำถามของแบคฮยอน เซฮุนนั่งนิ่ง สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดขึ้นมา
“ผมอยากอยู่ที่นี่”
สายตาที่ดูเหม่อลอยสบตากับผม ก่อนที่เขาจะหลบตาไปทางอื่น สายตาของเขาฟ้องมาเป็นอย่างดีว่าเขาโกหก
ผมอ่านคนจากสายตาเก่งน่ะ. . .
“หรอ” แต่ผมก็ไม่อยากจะคาดคั้นอะไรจากเขามากนัก ผมพยักหน้าก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวกล่องในมือ
“เอ้อ เซฮุน,ฉันขอถามอะไรหน่อยดิ” แบคฮยอนวางข้าวกล่องไว้บนเก้าอี้ ก่อนที่จะเดินตรงไปที่มุมห้อง
ที่ ๆ ถูกกั้นปิดไว้ด้วยผ้าม่านสีเทา
“ไอ้ข้างหลังนี่มันอะไรหรอ ?” แบคฮยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ก่อนที่มือเรียวจะคว้าไปที่ผ้าม่าน และพยายามที่จะเปิดมันออก
“อย่า !” เซฮุนเบิกตากว้าง ก่อนที่จะตะโกนห้ามเสียงหลง เขารีบวิ่งเข้ามาแล้วกระชากแขนแบคฮยอนออกจากผ้าม่านนั้น
สายตาของเขาดูโมโหสุดๆ. . .ไม่เห็นเหมือนเซฮุนคนเดิม
“ซ. . .เซฮุน” แบคฮยอนเรียกเซฮุนน้ำเสียงสั่น
“ข. . .ขอโทษครับ ผม..” เซฮุนปล่อยแขนแบคฮยอนออก ก่อนที่จะเอ่ยขอโทษ แต่ก็ไม่ลืมที่จะดึงผ้าม่านมาปิดไว้ให้สนิทเหมือนเดิม
“เซฮุน มีอะไรรึเปล่า ?” ผมลุกขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้
“ป. . .เปล่า” เซฮุนที่มีท่าทีรุกรี้รุกรนผิดปกติปฏิเสธเสียงสั่นพร้อมกับถอยห่างจากผมไปประมาณสองสามก้าว
“. . .”
ผมยืนมองเซฮุนอยู่อย่างนั้น แบคฮยอนด้วยเช่นกัน สถานการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในความตึงเครียด ไม่มีใครปริปากอะไรออกมาซักคำ และไม่มีใครคิดที่จะขยับไปไหนเลยด้วย
โดยเฉพาะเซฮุน
มีอะไรอยู่ข้างหลังผ้าม่านนั่นกันนะ ?
“เซฮุน”
ผมเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น พยายามเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มที่สุด แต่ดูเหมือนกับว่า มันจะได้ผลที่ออกมาตรงข้าม
“ออกไป”
เสียงแข็งกร้าวที่ลอดออกมาจากริมฝีปากของเซฮุน ทำเอาผมถึงกับชะงัก ความรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นสายตาแข็งกร้าวและเย็นชาของเขาทำเอาผมชาไปทั้งตัว สายตาที่ไร้ความรู้สึกสายตาที่ไม่เหมือนตอนแรกที่เจอ
ตอนนี้เซฮุนกำลังโกรธ
“เซฮุน ไม่เอาน่า”
ตอนนี้เป็นแบคฮยอนที่เริ่มพูดบ้าง แต่อย่าว่าแต่ผมเลย แม้แต่แบคฮยอนยังถึงกับเหงื่อตก เซฮุนในตอนนี้. . .
“บอกให้ออกไป”
น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวมากขึ้น สายตาที่มองมาก็แทบจะกินเลือดกินเนื้อ
“ผมบอกว่าให้พวกพี่ชายออกไป. .กรุณาออกไปด้วยครับ”
น่ากลัวเกินไป
เวลาผ่านไปหนึ่งคืนเต็ม. . .เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ผมกับแบคฮยอนเรานั่งกันอยู่ที่ระเบียง ข้างนอกห้องของเซฮุน หลังจากที่เซฮุนบอกให้พวกผมออกมา ผมกับแบคฮยอนก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่ที่หน้าห้อง ส่วนตัวเซฮุนเองก็ไม่ได้ออกมาจากห้องอีกเลย
เขาเป็นอะไรของเขากันนะ
“ฉันว่าเซฮุน. . .แปลกๆ”
“เขาอาจจะมีเหตุผล. . .ที่ไม่อยากให้เรารู้ว่าข้างหลังผ้าม่านนั่นมีอะไร”
แบคฮยอนพักหน้ารับเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งนิ่งแบบเดิม ผมมองไปรอบ ๆ ระเบียงที่ผมกับแบคฮยอนนั่งอยู่ ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่า ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่อพาร์ทเมนต์เล็กๆ มีห้องพักเรียงรายอยู่ตามทาง ทุกอย่างบนนี้ดูปกติหมดทุกอย่าง ก็แค่ไม่มีคนอาศัยอยู่ก็เท่านั้นเอง
“เดี๋ยวฉันมานะ”
ความอยากรู้อยากเห็นมันเริ่มเข้าครอบงำผมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมลุกขึ้นยืนยกมือขึ้นมาปัดกางเกง ก่อนที่จะหันไปบอกแบคฮยอน
“อืม. . .ระวังตัวด้วยล่ะ”
เขาพยักหน้าก่อนที่จะบอกให้ผมระวังตัว
ผมเดินไปเรื่อยๆตามทางระเบียงที่ทอดยาว ชั้นนี้เป็นชั้นที่ 3 ห้องพักทั้งหมดบนชั้นนี้มีซักประมาณ 10 ห้องได้ ห้องทุกห้องถูกล็อคไว้อย่างเน้นหนาทั้งจากข้างใน และข้างนอก
มีไม้กับตะปูติดอยู่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเซฮุน
ตรงส่วนของบันไดถูกปิดด้วยไม้อีกตามเคยทั้งข้างล่างและข้างบน หน้าต่างบริเวณระเบียงก็ถูกปิดด้วยผ้าม่านสีทึบ
ที่นี่ไม่ต่างอะไรจากห้องปิดตาย เลยซักนิด
มันดูปลอดภัย
แต่. . .มันไม่ได้ให้อารมณ์ที่ดูเป็นมิตรซักเท่าไหร่
หรือว่าผมอาจจะคิดมากไปก็ได้
ผมเดินมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องไปสะดุดตาเข้ากับห้องๆหนึ่งที่อยู่ริมสุดของตัวอาคาร ห้องๆนี้ไม่ได้ถูกปิดไว้เหมือนห้องอื่น
“. . .”
ผมยืนคิดอยู่นานว่าจะเข้าไปดีรึเปล่า แต่สุดท้ายผมก็ถือวิสาสะเข้าไปในห้องนั้น
ทุก ๆ อย่างปกติดี...ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี่
“หึ. . .”
ผมหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นรูปของเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลทองอายุตอนนี้ก็คงน่าจะประมาณๆผม เขากำลังยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สดใสมาก
ข้าง ๆ รูปนั้นมีกระดาษใบโทรมๆที่เขียนด้วยปากกาหมึกซึม
ผมหยิบมันขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
‘ขอโทษ นี่อาจจะเป็นคำพูดเดียวที่จะบอกกับลูกในตอนนี้ พ่อกับแม่ไม่มีทางเลือกอีกแล้วนอกจากที่จะต้องปล่อย. . .ออก. . .หวังว่า. . .คง. . .ขอโทษ พ่อและแม่ขอโทษจริงๆนะ ล. . .’
ผมค่อยๆอ่านมันอย่างตั้งใจ แต่ดูเหมือนว่าตัวอักษรบางตัวจะถูกลบด้วยหยดน้ำจนมันจากไปแทบจะอ่านไม่เป็นคำ
นี่มันอะไร ?
พ่อ ? แม่ ? ปล่อย ? ขอโทษ ?
“ชานยอล ?”
ในขณะที่ผมได้แต่ตั้งคำถาม เสียงของแบคฮยอนก็ดังมาจากหน้าประตูห้อง ผมรีบพับกระดาษเก็บเข้าใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันไปตอบรับ
“ม. . .มีอะไรรึเปล่า ?”
“ปล่าว. . .ฉันเห็นนายเงียบไปก็เลยมาดูน่ะ”
แบคฮยอนถอนหายใจก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้อง สายตาของเขาจ้องมองรูปเด็กผู้ชายคนนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะเหมือนกับตอนที่ผมเข้ามาในห้องนี้
“รูปใครน่ะ ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“. . .น่ารักดี”
แบคฮยอนหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู ก่อนที่จะเอ่ยชม
เขาน่ารักจริงๆแหละ เด็กผู้ชายคนนั้น
“. . .”
ผมเริ่มรู้สึกเหมือนกับมีคนกำลังมองมา ผมเบนความสนใจจากรูปนั้นไปมองที่ประตูอีกครั้ง
เซฮุนยืนอยู่
“มาทำอะไรกันที่นี่ครับ ?”
สายตา น้ำเสียง ท่าทางกอดอก ยืนพิงประตู . . .เซฮุนตอนนี้นายคิดอะไรอยู่ ?
“ผมแค่เดินดูแถวนี้นิดหน่อยน่ะ”
“ที่นี่ห้องใครอย่างงั้นหรอเซฮุน ?”
แบคฮยอนเป็นฝ่ายถาม ผมเห็นแววตาของเซฮุนมันสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับมานิ่งเหมือนเดิม
“อยากรู้ไปทำไมหรอครับ ?”
เหมือนเขาอยากปกปิดอะไรซักอย่าง
เซฮุนเดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนที่จะหยุดยืนมองแบคฮยอนสลับกับรูปภาพในมือ จากนั้นเขาก็กระชากรูปภาพนั้นออกจากมือแบคฮยอนไป แล้วทำท่ากำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง
“เซฮุน. . .”
ผมรีบเดินตามเซฮุนไปติด ๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับบ่าของเขา
“. . .”
เซฮุนหันมามองหน้าผมด้วยสายตาแข็งกร้าว ผมชะงักนิ่งรู้สึกตัวมันชาไปหมด ก่อนที่เซฮุนจะสะบัดมือของผมออกแล้วเดินจากไป
“เซฮุน !”
ตอนนี้กลับกลายเป็นแบคฮยอนที่วิ่งตามเซฮุนไปติดๆ ผมรีบเรียกสติของตัวเองกลับมา ก่อนที่จะวิ่งตามทั้งคู่ไป
“นายเป็นอะไรของนาย ?”
ตอนนี้เรา 3 คนกลับมาอยู่ที่เดิม. . .ในห้องของเซฮุน สถานการณ์แย่มากถึงมากที่สุด ความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่แบคฮยอนเอ่ยถามเซฮุน
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้”
สรรพนามที่ใช้เรียกพวกผมเปลี่ยนไป. . .
“นายไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรพวกเราหรอกนะเซฮุน”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
เซฮุนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“แต่. . .”
“ช่างมัน. . .ในเมื่อนายไม่อยากจะพูด ฉันก็จะไม่คาดคั้นอะไรจากนายอีกต่อไป ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่ช่วยพวกเราออกมาจากป้อมตำรวจนั่น ขอบคุณสำหรับอาหาร 2 มื้อ ที่อยู่ และความไว้วางใจที่นายให้พวกเราด้วย”
แบคฮยอนพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ในขณะที่ผมกำลังพยายามจะพูดกับเซฮุน
“ไปกันเถอะชานยอล”
แบคฮยอนเดินไปหยิบเป้กับปืนของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินนำผมออกไปนอกห้องของเซฮุน
ตอนนี้. . .
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?
ผมควรเลือกที่จะอยู่ ?
หรือควรจะไป ? ดีล่ะ ?
‘กึก. . .กึก’
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ประมวลอะไรไปมากกว่านี้ เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น เสียงมันดังมากจาก
หลังผ้าม่านนั่น. . .
‘กึก. . .กึก. .กึก’
เซฮุนหันขวับไปมองที่ผ้าม่านนั่น สายตาของเขาดูตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ผมเบิกตากว้าง ยังคงรู้สึกสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน
‘เคร้ง !’
อยู่ดีๆ สิ่งที่เหมือนกับ เสาน้ำเกลือ ก็ตกลงกระทบพื้น และดูเหมือนว่ามันจะทำให้ผ้าม่านที่ขึงอยู่พาลเกี่ยวหลุดร่วงลงมาด้วย
“. . .”
ทั้งเซฮุน แบคฮยอน รวมถึงผม พวกเราต่างก็ตกใจกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น
มันเป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ. . .
นี่หรอ. . .ความลับที่เขาปกปิดพวกผม
มาโดยตลอด
LOADING. . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ขอบคุณธีมสวย ๆจาก △ C R A Z E ˊ
ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นเน้อ.
ตอนนี้โคตรน่าเบื่ออ่ะเอาจริงๆนะ มันไม่มีบู๊ๆเลย
แต่มันมีปมแล้วก็เหตุผลบางอย่างอยู่เหมือนกันนะ
อยากให้ลองเอาไปคิดกันเล่นๆ 555555555555
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะเออ
ความคิดเห็น