ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #5 : 4 CHANGE | Exist

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 56


    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    4 | คนที่ยังเหลืออยู่








    *เนื้อหาของตอนนี้เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี
    ผู้ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีควรได้รับคำแนะนำ




     

     





    “พวกพี่ชายคงหิวกันแย่เลยนะครับ. . .”

    ผมกับแบคฮยอนนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ส่วนเซฮุน. . .เขาก็เดินหายไปจากห้อง ก่อนที่จะเดินกลับมาพร้อมกับซองบะหมี่สองสามห่อในมือ

    “ขอบคุณ” เขายื่นมันมาให้ผมกับแบคฮยอน ผมรับมันมีก่อนที่จะเอ่ยขอบคุณ จะว่าไปก็เกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ แล้วที่ผมไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่า

     

    “นายอยู่ที่นี่คนเดียวงั้นหรอ ?”

    แบคฮยอนถามเซฮุนที่ทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ

    “ครับ หลังจากที่มีข่าวการระบาดของเชื้อ ผู้คนมากมายที่หอพักนี้ก็รีบอพยพตัวเองออกไปกันหมด จนเหลือแต่ผมนี่แหละ”

    “ผ่านมาก็ประมาณเกือบเดือนแล้วที่ผมอยู่ที่หอพักนี้ ยังดีที่ได้พวกอาหารที่เหลืออยู่จากห้อง ๆ อื่นมาพอประทังชีวิต”

    เซฮุนยิ้มนิด ๆ ก่อนที่จะแกะห่อขนมมากินอย่างสบายอารมณ์

    นี่เขาไม่ทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยรึไงกัน ?

     

    “แล้วพวกพี่ชาย . .ล่ะ เล่าเรื่องของพวกพี่ให้ผมฟังบ้างสิครับ”

    “ก็หนีมาเรื่อย ๆ จนมาเจอชานยอลแล้วก็นายนี่แหละ” แบคฮยอนตอบแล้วหันหน้ามามองผม

    “ผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาลฟื้นขึ้นมาอีกที..ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่เห็นไปแล้ว”

    เซฮุนเบิกตากว้างแล้วพยักหน้า

    “เอาเป็นว่าถ้าพี่ชายจะอยู่ที่นี่ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับ ตามสบายเลย,เดี๋ยวผมขอตัวไปเช็คอะไรข้างนอกแป๊ปนึง”

    เซฮุนพูดจบก็เดินดุ่ม ๆ ออกไปนอกห้อง

     

    ผมกวาดตามองไปรอบห้อง. . .ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างที่บอกจริง ๆ ห้องพักของเขามันเป็นเพียงแค่ห้องพักเล็ก ๆ ขนาด 1 ห้องโถงกับ 1 ห้องน้ำก็เท่านั้น

    ยกเว้นซะแต่ตรงมุมห้องอีกฟากที่มีผ้ากั้นอยู่. . .ผมรู้สึกสงสัยจริง ๆ

     

    “มีอะไรรึเปล่าชานยอล ?”

    แบคฮยอนเอ่ยถาม นี่ผมสงสัยจนออกนอกหน้าขนาดนั้นเลยหรอ ?

    “ป. . .เปล่าหรอก”

    ปฏิเสธไปแบบพยายามจะให้มันแนบเนียนที่สุด

    “จะว่าไป หมอนั่นก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ เซฮุนน่ะ”

    “อืม. . .ไม่อย่างงั้นพวกเราอาจจะตายในป้อมตำรวจ หรือไม่ก็ในตรอกนั่นไปแล้วก็ได้”

    ผมพูดในขณะที่สายตายังคงมองไปที่ผ้าม่านสีเทาที่กั้นอยู่

     

     

    “กลับมาแล้วคร้าบบบบบ”

    เซฮุนเปิดประตูเข้ามาในห้อง พร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ

    “ผมคิดว่า. . .เราคงจะได้ข่าวดีกันเร็ว ๆนี้”

    “หมายความว่าไง ?”

    “นี่ไง. . .”

    เซฮุนพูดลากเสียง ก่อนที่จะเดินไปหยิบวิทยุที่วางอยู่ที่ชั้นวางหนังสือมา แล้วเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

    “วิทยุหรอ ?”

    เขาทำให้ผมรู้สึกแปลกใจอีกแล้ว

    “ใช่.. .รอเดี๋ยวนะ”

    เขาก้มหน้าก้มตาเอาถ่านในมือใส่เข้าไปในช่องของวิทยุ ก่อนที่จะปิดฝามัน เขายิ้มร่าก่อนที่จะเดินไปที่หน้าต่างที่พวกผมใช้ปืนเข้ามาในห้อง ๆ นี้

     

    “ขอผมจูนสัญญาณแป๊ป. . .”

    เซฮุนนั่งหมุนปุ่มจูนสัญญาณวิทยุ ทั้งผมแล้วก็แบคฮยอนสนใจกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มาก ก็แหงล่ะ. . .เขาทำให้พวกผมรู้สึกแปลกใจจริง ๆ

     

    ซ่า. ..ซ่า. ..

    เสียงซ่าของวิทยุยังดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เซฮุนกำลังพยายามจูนสัญญาณ เขาขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากเป็นเส้นตรง ดูท่าทางจะเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อยเลย

    ซ. .ซ่า. . .ซ่า

    “ขอร้องล่ะ. . .มีสัญญาณซักทีเถอะ”

     

    ซ. ..ซ. . .ซ. . .ซ. เอาล่ะคะรายงานสถานการณ์ล่าสุด..

    “ด. . .ได้แล้ว !

    เซฮุนฉีกยิ้มกว้างทันทีที่มีเสียงประกาศข่าวดังออกมาจากลำโพงของวิทยุ

    รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากกรุงโซล ตอนนี้ทางรัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพยายามควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างเร่งด่วน ขอให้ผู้อพยพอยู่ในความสงบ และขอให้มารวมกันที่สนามกีฬา Olympic Gymnasium ทางรัฐบาลได้จัดการเรื่องสวัสดิการและความปลอดภัยให้ประชาชนทุกคนอย่างดีที่สุด. .

     

    “ที่โซลยังปลอดภัย..หรอ ?”

    ผมแบคฮยอนและเซฮุน พวกเราต่างตั้งใจฟังสิ่งที่ดังออกมาจากวิทยุ เพราะหวังว่า ความหวัง ยังคงมีอยู่และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ  ความหวังยังมีอยู่...

    “เห็นเขาว่าที่โซลมีการป้องกันที่แน่นหนามาก และดูเหมือนว่ากำลังจะคิดค้นวิธีการรักษาอยู่ด้วยนะ เพราะห้องข้าง ๆ ผมที่เขาเก็บข้าวของอพยพไปเขาก็บอกผมมาแบบนั้น”

    เซฮุนเม้มปากจนเป็นเส้นตรง ก่อนที่จะปิดวิทยุ แล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม

     

    “แบคฮยอน”

    “หืม ?”

    “ผมจะไปโซล”

    ผมหันไปบอกแบคฮยอน แบคฮยอนขมวดคิ้วจนแทบจับกันเป็นปม

    “นาย. . .”

    “พี่ชายของผมอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้”

    ผมหวังอย่างนั้น. . .

     

    “. . .”

    ทั้งเซฮุนและแบคฮยอนต่างก็ปิดปากเงียบไม่พูดอะไรออกมาทั้งสิ้น เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตา โดยเฉพาะแบคฮยอนที่ยังคงขมวดคิ้วอยู่แบบนั้น

     

     

     

     

     

     

    เวลาผ่านมาได้เกือบครึ่งค่อนวัน พระอาทิตย์บนท้องฟ้าเริ่มบอกลาหน้าที่ของมัน มันเริ่มค่อยๆลับขอบฟ้าไปทุกที พร้อมกับท้องฟ้าที่เริ่มมืดสลัว คงจะมีแต่พวกผมตอนนี้ที่ยังคงนั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิม ท่ามกลางความเงียบที่ก่อตัวเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว

    “เริ่มหิวกันรึยังครับ ?”

    เซฮุนพูดขึ้นมาทำลายความเงียบลง

    “. . .”

    ผมไม่พูดอะไร ก่อนที่จะหันไปมองแบคฮยอนที่นั่งนิ่ง แต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาหรือท่าทีอะไรเลย

    “อา. . .ผมคิดว่า พวกพี่ชายน่าจะเริ่มหิวกันแล้วนะครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะไปหาอะไรมาให้นะครับ”

    เซฮุนมองหน้าผมสลับกับแบคฮยอน ก่อนที่จะลุกแล้วเดินออกไปจากห้อง

    ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผม. . .กับแบคฮยอนในห้อง แค่ 2 คน

     

    “แบคฮย. .”

    “ถ้านายจะไปโซลจริงๆ ฉันก็จะไปกับนายด้วย”

    “ห.. .ห๊า ?”

    ในขณะที่ผมกำลังจะพูดกับเขาเรื่องที่จะไปโซล เขาก็เงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะตะโกนใส่หน้าผม ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูเหมือนคนที่กำลังรู้สึกสับสน ดวงตากับปากที่สั่นไม่หยุดของเขาทำเอาผมพูดแทบไม่ออก

     

    “ถ้านายจะไปที่โซล ฉันก็จะไปกับนายด้วย ปาร์ค ชานยอล”

    “บ. . .แบค ?”

    “ไม่ต้องมาทำหน้าเอ๋อ ฉันบอกจะไปกับนายก็จะไปสิเข้าใจมั้ย แค่เรื่อง 2 วันที่ผ่านมามันก็พอจะทำให้ฉันรู้แล้วล่ะว่า ขืนปล่อยนายไปที่โซลคนเดียว มีหวังได้ตายก่อนที่จะไปถึงหน้าปากซอยอีก”

              เขาพูดด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย ผมกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะส่ายหัวให้กับคำพูดของเขา

     

    “อย่าเลย”

    คำปฏิเสธของผมทำเอาแบคฮยอนถึงกับชักสีหน้า. . .เขาคงจะโกรธผมสินะ ?

    “อย่าห้ามฉันชานยอล เพราะนายเองก็เลือกที่จะตามฉันมาเหมือนกันไม่อย่างนั้นเราสองคนคงไม่มานั่งอยู่ที่นี่หรอก แล้วอีกอย่างนี่ก็คงถึงตาฉันแล้วที่จะต้องตามนายบ้าง”

    มันเป็นคำพูดที่ทำเอาผมดิ้นไม่หลุดจริง ๆ

    แบคฮยอนหันมามองหน้าผมด้วยสายตาแข็งกร้าวเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ผมยักไหล่ก่อนที่จะพยักหน้า “ในเมื่อนายพูดแบบนี้แล้ว คิดว่าฉันควรจะดิ้นไปทางไหนต่อดีล่ะ ?”

    ผมเอียงคอ ก่อนที่จะเสตามองเขา แบคฮยอนอมยิ้ม ก่อนที่จะขำในลำคอเบา ๆ

     

    “พวกพี่ชายจะไปโซลกันจริง ๆ หรอครับ ?” เซฮุนที่เพิ่งจะเข้ามาพร้อมกับข้าวกล่องปรุงสำเร็จพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนที่จะเดินมานั่งลงตรงที่เดิม

    “อื้อ. . .นายจะไปด้วยกันมั้ย ?”

    ผมตอบก่อนที่จะเอ่ยชวน สายตาของเซฮุนสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งยิ้มกลับมาให้

     

    “ไม่ดีกว่าครับ” ปฏิเสธเสียงเรียบ ก่อนที่จะยื่นข้าวกล่องมาให้พวกผม

    “ทำไมล่ะ ?” แบคฮยอนรับข้าวกล่องนั้นมา ก่อนที่จะยิงคำถาม

    “นั่นสิ,ทำไมนายไม่หนีไปตั้งแต่ที่ผู้คนที่นี่เขาอพยพกัน ?” ผมเสริมคำถามของแบคฮยอน เซฮุนนั่งนิ่ง สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดขึ้นมา

     

    “ผมอยากอยู่ที่นี่”

    สายตาที่ดูเหม่อลอยสบตากับผม ก่อนที่เขาจะหลบตาไปทางอื่น สายตาของเขาฟ้องมาเป็นอย่างดีว่าเขาโกหก

    ผมอ่านคนจากสายตาเก่งน่ะ. . .

     

    “หรอ” แต่ผมก็ไม่อยากจะคาดคั้นอะไรจากเขามากนัก ผมพยักหน้าก่อนที่จะก้มหน้าก้มตากินข้าวกล่องในมือ

     

    “เอ้อ เซฮุน,ฉันขอถามอะไรหน่อยดิ” แบคฮยอนวางข้าวกล่องไว้บนเก้าอี้ ก่อนที่จะเดินตรงไปที่มุมห้อง

    ที่ ๆ ถูกกั้นปิดไว้ด้วยผ้าม่านสีเทา

     

    “ไอ้ข้างหลังนี่มันอะไรหรอ ?” แบคฮยอนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ก่อนที่มือเรียวจะคว้าไปที่ผ้าม่าน และพยายามที่จะเปิดมันออก

    “อย่า !” เซฮุนเบิกตากว้าง ก่อนที่จะตะโกนห้ามเสียงหลง เขารีบวิ่งเข้ามาแล้วกระชากแขนแบคฮยอนออกจากผ้าม่านนั้น

    สายตาของเขาดูโมโหสุดๆ. . .ไม่เห็นเหมือนเซฮุนคนเดิม

     

    “ซ. . .เซฮุน” แบคฮยอนเรียกเซฮุนน้ำเสียงสั่น

    “ข. . .ขอโทษครับ ผม..” เซฮุนปล่อยแขนแบคฮยอนออก ก่อนที่จะเอ่ยขอโทษ แต่ก็ไม่ลืมที่จะดึงผ้าม่านมาปิดไว้ให้สนิทเหมือนเดิม

     

    “เซฮุน มีอะไรรึเปล่า ?” ผมลุกขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้

    “ป. . .เปล่า” เซฮุนที่มีท่าทีรุกรี้รุกรนผิดปกติปฏิเสธเสียงสั่นพร้อมกับถอยห่างจากผมไปประมาณสองสามก้าว

     

    “. . .”

    ผมยืนมองเซฮุนอยู่อย่างนั้น แบคฮยอนด้วยเช่นกัน สถานการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในความตึงเครียด ไม่มีใครปริปากอะไรออกมาซักคำ และไม่มีใครคิดที่จะขยับไปไหนเลยด้วย

    โดยเฉพาะเซฮุน

    มีอะไรอยู่ข้างหลังผ้าม่านนั่นกันนะ ?

     

    “เซฮุน”

    ผมเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น พยายามเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มที่สุด แต่ดูเหมือนกับว่า มันจะได้ผลที่ออกมาตรงข้าม

    “ออกไป”

    เสียงแข็งกร้าวที่ลอดออกมาจากริมฝีปากของเซฮุน ทำเอาผมถึงกับชะงัก ความรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเห็นสายตาแข็งกร้าวและเย็นชาของเขาทำเอาผมชาไปทั้งตัว สายตาที่ไร้ความรู้สึกสายตาที่ไม่เหมือนตอนแรกที่เจอ

    ตอนนี้เซฮุนกำลังโกรธ

     

    “เซฮุน ไม่เอาน่า”

    ตอนนี้เป็นแบคฮยอนที่เริ่มพูดบ้าง แต่อย่าว่าแต่ผมเลย แม้แต่แบคฮยอนยังถึงกับเหงื่อตก เซฮุนในตอนนี้. . .

     

    “บอกให้ออกไป”

    น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวมากขึ้น สายตาที่มองมาก็แทบจะกินเลือดกินเนื้อ

     

    “ผมบอกว่าให้พวกพี่ชายออกไป. .กรุณาออกไปด้วยครับ”

     

    น่ากลัวเกินไป

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              เวลาผ่านไปหนึ่งคืนเต็ม. . .เช้าวันใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ผมกับแบคฮยอนเรานั่งกันอยู่ที่ระเบียง ข้างนอกห้องของเซฮุน หลังจากที่เซฮุนบอกให้พวกผมออกมา ผมกับแบคฮยอนก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่ที่หน้าห้อง ส่วนตัวเซฮุนเองก็ไม่ได้ออกมาจากห้องอีกเลย

              เขาเป็นอะไรของเขากันนะ

     

              “ฉันว่าเซฮุน. . .แปลกๆ”

    “เขาอาจจะมีเหตุผล. . .ที่ไม่อยากให้เรารู้ว่าข้างหลังผ้าม่านนั่นมีอะไร”

     

    แบคฮยอนพักหน้ารับเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งนิ่งแบบเดิม ผมมองไปรอบ ๆ ระเบียงที่ผมกับแบคฮยอนนั่งอยู่ ก่อนที่จะสังเกตเห็นว่า ที่นี่ก็เป็นเพียงแค่อพาร์ทเมนต์เล็กๆ มีห้องพักเรียงรายอยู่ตามทาง ทุกอย่างบนนี้ดูปกติหมดทุกอย่าง ก็แค่ไม่มีคนอาศัยอยู่ก็เท่านั้นเอง

     

    “เดี๋ยวฉันมานะ”

    ความอยากรู้อยากเห็นมันเริ่มเข้าครอบงำผมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมลุกขึ้นยืนยกมือขึ้นมาปัดกางเกง ก่อนที่จะหันไปบอกแบคฮยอน

     

    “อืม. . .ระวังตัวด้วยล่ะ”

    เขาพยักหน้าก่อนที่จะบอกให้ผมระวังตัว

     

    ผมเดินไปเรื่อยๆตามทางระเบียงที่ทอดยาว ชั้นนี้เป็นชั้นที่ 3 ห้องพักทั้งหมดบนชั้นนี้มีซักประมาณ 10 ห้องได้ ห้องทุกห้องถูกล็อคไว้อย่างเน้นหนาทั้งจากข้างใน และข้างนอก

    มีไม้กับตะปูติดอยู่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของเซฮุน

    ตรงส่วนของบันไดถูกปิดด้วยไม้อีกตามเคยทั้งข้างล่างและข้างบน หน้าต่างบริเวณระเบียงก็ถูกปิดด้วยผ้าม่านสีทึบ

     

    ที่นี่ไม่ต่างอะไรจากห้องปิดตาย เลยซักนิด

    มันดูปลอดภัย

    แต่. . .มันไม่ได้ให้อารมณ์ที่ดูเป็นมิตรซักเท่าไหร่

    หรือว่าผมอาจจะคิดมากไปก็ได้

     

    ผมเดินมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องไปสะดุดตาเข้ากับห้องๆหนึ่งที่อยู่ริมสุดของตัวอาคาร ห้องๆนี้ไม่ได้ถูกปิดไว้เหมือนห้องอื่น

     

    “. . .”

    ผมยืนคิดอยู่นานว่าจะเข้าไปดีรึเปล่า แต่สุดท้ายผมก็ถือวิสาสะเข้าไปในห้องนั้น

    ทุก ๆ อย่างปกติดี...ข้าวของเครื่องใช้ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ เหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี่

     

    “หึ. . .”

    ผมหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นรูปของเด็กผู้ชายผมสีน้ำตาลทองอายุตอนนี้ก็คงน่าจะประมาณๆผม เขากำลังยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สดใสมาก

    ข้าง ๆ รูปนั้นมีกระดาษใบโทรมๆที่เขียนด้วยปากกาหมึกซึม

    ผมหยิบมันขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

     

    ขอโทษ นี่อาจจะเป็นคำพูดเดียวที่จะบอกกับลูกในตอนนี้ พ่อกับแม่ไม่มีทางเลือกอีกแล้วนอกจากที่จะต้องปล่อย. . .ออก. . .หวังว่า. . .คง. . .ขอโทษ  พ่อและแม่ขอโทษจริงๆนะ ล. . .

    ผมค่อยๆอ่านมันอย่างตั้งใจ แต่ดูเหมือนว่าตัวอักษรบางตัวจะถูกลบด้วยหยดน้ำจนมันจากไปแทบจะอ่านไม่เป็นคำ

    นี่มันอะไร ?

    พ่อ ? แม่ ? ปล่อย ? ขอโทษ ?

     

    “ชานยอล ?”

    ในขณะที่ผมได้แต่ตั้งคำถาม เสียงของแบคฮยอนก็ดังมาจากหน้าประตูห้อง ผมรีบพับกระดาษเก็บเข้าใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันไปตอบรับ

     

    “ม. . .มีอะไรรึเปล่า ?”

    “ปล่าว. . .ฉันเห็นนายเงียบไปก็เลยมาดูน่ะ”

    แบคฮยอนถอนหายใจก่อนที่จะเดินเข้ามาในห้อง สายตาของเขาจ้องมองรูปเด็กผู้ชายคนนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะเหมือนกับตอนที่ผมเข้ามาในห้องนี้

     

    “รูปใครน่ะ ?”

    “ไม่รู้เหมือนกัน”

    “. . .น่ารักดี

    แบคฮยอนหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู ก่อนที่จะเอ่ยชม

    เขาน่ารักจริงๆแหละ เด็กผู้ชายคนนั้น

     

    “. . .”

    ผมเริ่มรู้สึกเหมือนกับมีคนกำลังมองมา ผมเบนความสนใจจากรูปนั้นไปมองที่ประตูอีกครั้ง

     

    เซฮุนยืนอยู่

     

    “มาทำอะไรกันที่นี่ครับ ?”

    สายตา น้ำเสียง ท่าทางกอดอก ยืนพิงประตู . . .เซฮุนตอนนี้นายคิดอะไรอยู่ ?

    “ผมแค่เดินดูแถวนี้นิดหน่อยน่ะ”

    “ที่นี่ห้องใครอย่างงั้นหรอเซฮุน ?”

    แบคฮยอนเป็นฝ่ายถาม ผมเห็นแววตาของเซฮุนมันสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับมานิ่งเหมือนเดิม

     

    “อยากรู้ไปทำไมหรอครับ ?”

    เหมือนเขาอยากปกปิดอะไรซักอย่าง

     

    เซฮุนเดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนที่จะหยุดยืนมองแบคฮยอนสลับกับรูปภาพในมือ จากนั้นเขาก็กระชากรูปภาพนั้นออกจากมือแบคฮยอนไป แล้วทำท่ากำลังจะหันหลังเดินออกจากห้อง

     

    “เซฮุน. . .”

    ผมรีบเดินตามเซฮุนไปติด ๆ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปจับบ่าของเขา

     

    “. . .”

    เซฮุนหันมามองหน้าผมด้วยสายตาแข็งกร้าว ผมชะงักนิ่งรู้สึกตัวมันชาไปหมด ก่อนที่เซฮุนจะสะบัดมือของผมออกแล้วเดินจากไป

     

    “เซฮุน !

    ตอนนี้กลับกลายเป็นแบคฮยอนที่วิ่งตามเซฮุนไปติดๆ ผมรีบเรียกสติของตัวเองกลับมา ก่อนที่จะวิ่งตามทั้งคู่ไป

     

    “นายเป็นอะไรของนาย ?”

    ตอนนี้เรา 3 คนกลับมาอยู่ที่เดิม. . .ในห้องของเซฮุน สถานการณ์แย่มากถึงมากที่สุด ความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่แบคฮยอนเอ่ยถามเซฮุน

     

    “พวกคุณไม่จำเป็นต้องรู้”

    สรรพนามที่ใช้เรียกพวกผมเปลี่ยนไป. . .

     

    “นายไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรพวกเราหรอกนะเซฮุน”

    “ไม่ต้องมายุ่ง”

    เซฮุนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

     

    “แต่. . .”

    “ช่างมัน. . .ในเมื่อนายไม่อยากจะพูด ฉันก็จะไม่คาดคั้นอะไรจากนายอีกต่อไป ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ขอบคุณที่ช่วยพวกเราออกมาจากป้อมตำรวจนั่น ขอบคุณสำหรับอาหาร 2 มื้อ ที่อยู่ และความไว้วางใจที่นายให้พวกเราด้วย”

    แบคฮยอนพูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  ในขณะที่ผมกำลังพยายามจะพูดกับเซฮุน

     

    “ไปกันเถอะชานยอล”

    แบคฮยอนเดินไปหยิบเป้กับปืนของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินนำผมออกไปนอกห้องของเซฮุน

     

    ตอนนี้. . .

    มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

     

    ผมควรเลือกที่จะอยู่ ?

    หรือควรจะไป ? ดีล่ะ ?

     

     

    กึก. . .กึก

    แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ประมวลอะไรไปมากกว่านี้ เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น เสียงมันดังมากจาก

    หลังผ้าม่านนั่น. . .

     

    กึก. . .กึก. .กึก

    เซฮุนหันขวับไปมองที่ผ้าม่านนั่น สายตาของเขาดูตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ผมเบิกตากว้าง ยังคงรู้สึกสงสัยกับสิ่งที่ได้ยิน

     

    เคร้ง !’

    อยู่ดีๆ สิ่งที่เหมือนกับ เสาน้ำเกลือ ก็ตกลงกระทบพื้น และดูเหมือนว่ามันจะทำให้ผ้าม่านที่ขึงอยู่พาลเกี่ยวหลุดร่วงลงมาด้วย

     

    “. . .”

    ทั้งเซฮุน แบคฮยอน รวมถึงผม พวกเราต่างก็ตกใจกับภาพตรงหน้าที่ได้เห็น

    มันเป็นภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ. . .

     

    นี่หรอ. . .ความลับที่เขาปกปิดพวกผม



    มาโดยตลอด





    LOADING. . .
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  


    ขอบคุณธีมสวย ๆจาก △ C R A Z E ˊ
    ขอบคุณทุกๆการติดตามและทุกๆคอมเม้นเน้อ.
    ตอนนี้โคตรน่าเบื่ออ่ะเอาจริงๆนะ มันไม่มีบู๊ๆเลย
    แต่มันมีปมแล้วก็เหตุผลบางอย่างอยู่เหมือนกันนะ
    อยากให้ลองเอาไปคิดกันเล่นๆ 555555555555
    แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะเออ
     
     

    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×