ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) THE HOSPITAL. [END] | RE-PRINT.

    ลำดับตอนที่ #9 : ✚ r o o m . VIII

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.38K
      18
      17 เม.ย. 56

    Chapter VIII

     

    หลังจากที่หมอหนุ่มปล่อยให้จิตฟุ้งซ่านมาตลอดทั้งวัน ไม่สิเรียกว่า ฟุ้งซ่านตลอดการทำงานที่นี่เลยต่างหาก ในที่สุด นาฬิกาก็ชี้ไปที่เลขหกกับเลขสิบสอง บอกให้รู้ว่าถึงเวลาหกโมงเย็นแล้ว

     

    อย่าอวดดีให้มากนักนะ

     

    อย่าลืมสำนึกบุญคุณของผมไว้ด้วยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีผม...หมอไม่มีวันได้สนิทกับมินซอกแบบนี้หรอก

     

    คำพูดที่ลู่หานพูดไว้กับมินซอกและจงแดยังคงทิ้งปริศนาไว้ให้หมอหนุ่มได้เป็นอย่างดี คนๆนี้ขยันทิ้งคำพูดไว้ให้เขาคิดได้เสมอจริงๆ

     

    คยองซูปิดประตูห้องทำงาน แล้วเดินออกมานั่งตรงจุดที่เขานัดพบกับผู้อำนวยการไว้เมื่อเช้า

     

    หมอ…”

    คุณจุนมยอน ?

     

    จะว่าไป ทำงานมาทั้งวัน ก็เพิ่งจะเจอจุนมยอนตอนนี้ สงสัยเขาคงจะยุ่งพอสมควร เลยไม่ค่อยเห็นเขาเดินป้วนเปี้ยนเหมือนคนอื่นๆ

     

    มาทำอะไรตรงนี้ครับ ?

    เอ่อกำลังจะกลับบ้านน่ะ คุณล่ะ ?

    ผมกำลังจะเอายาที่จัดไว้ไปให้อี้ชิงน่ะ

    ครับ

    หน้าหมอดูเหนื่อยๆนะ หมอโอเคใช่มั้ย ?

    หน้าผม…?”

    หมอหน้าซีดมากเลยนะ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ ?

     

    จุนมยอนถามพร้อมมองหน้าของคยองซู ก่อนจะลงมานั่งข้างๆหมอหนุ่ม แล้วส่งยิ้มมาให้

     

    ก็นิดหน่อยครับ ผมยังปรับตัวกับที่นี่ไม่ได้เลย

     

    บางทีคยองซูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ทำไมเขากล้าพูดคำนี้กับบุรุษพยาบาลที่เพิ่งคุยกันแค่สองครั้ง จะเรียกว่าความไว้ใจก็ไม่เชิง

     

    แต่เหมือนกับว่า ทั้งคู่มีอะไรคล้ายๆกัน

     

    คิดว่าแบบนั้นนะ

     

    ผมเข้าใจหมอนะ ตอนที่ผมเข้ามาที่นี่ใหม่ๆ ผมก็เป็นแบบหมอนั่นล่ะครับ…”

    “…”

     

    แม้กระทั่งตอนนี้… ’

     

    จุนมยอนหยุดถอนหายใจ ก่อนจะพูดประโยคสุดท้ายออกมา ทำให้หมอหนุ่มต้องหันไปมองหน้า

     

    ผมไม่เคยพูดแบบนี้กับใครเลยนะ

    “…”

    หมอ...

    “…”

    ผมขอบอกอะไรหมอซักนิด...ได้มั้ยครับ ?

    ครับ ?

     

    ใจของหมอหนุ่มเริ่มเต้นรัวอีกครั้ง มันไม่ใช่ความรู้สึกกลัว หรือ หวาดระแวงอะไรผู้ชายคนนี้ แต่กลับเป็นความอยากรู้ อยากรู้ว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนี้กำลังจะบอกเขาคืออะไร

     

    หมอ...ผมหวังว่าเราจะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันนะ

    ค…

    ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ ผมบอกตรงๆ ว่าผมไม่เคยไว้ใจใคร

    แล้วจงอินล่ะครับ ?

    ผมคิดแล้วล่ะ ว่าหมอต้องถามแบบนี้

    “…”

    จงอินน่ะ เขาเทคแคร์ทุกคนดีก็จริง...

     

    แต่ว่า...ถ้าหมอรู้ความลับของเขาแล้วล่ะก็... หมอจะนอนไม่หลับเลยล่ะครับ  

     

    หืม ??

    หมอครับ ทุกคนที่นี่น่ะ... มีความลับเป็นของตัวเองกันหมด

    “…”

     

    จุนมยอนหันมามองหน้าหมอหนุ่มด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แล้วส่งยิ้มบางๆให้ มันไม่ใช่รอยยิ้มที่น่ากลัว

     

    เป็นรอยยิ้มอันแรกจริงๆที่มั่นใจว่ามันอ่อนโยน...

     

    แต่กลับรู้สึกว่า สายตาที่ดูเหมือนจะว่างเปล่า...

     

    กลับมีอะไรต้องการจะพูดมากมาย...

     

    เพียงแต่พูดไม่ได้ นั่นเพราะคงมีเหตุผลบางอย่าง...

     

    อ้าว คุณหมอคยองซู ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้รอนาน

     

    ผ...ผู้อำนวยการ... จุนมยอนรีบลุกขึ้นก่อนจะโค้งให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    จุนมยอนก็อยู่ด้วยเหรอ ?

    กำลังจะกลับน่ะครับ ขอต...

    กลับด้วยกันมั้ยจุนมยอน เดี๋ยวผมแวะไปส่ง

    ผ...ผมเข้าเวรน่ะครับ...

     

    พูดได้แค่นั้น จุนมยอนจากที่ดีๆอยู่ก็รีบลุกขึ้นโค้งลาคยองซูแล้วเดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมาอำลาผู้อำนวยการที่ยืนอยู่ด้วย

     

    เป็นอะไรของเขานะ ?

     

    กลับกันเถอะครับ จะทุ่มนึงแล้ว

    แต่จุนมยอน...?

    เขาบอกว่าเขาเข้าเวรนี่ครับ ช่างเถอะ ผมว่าเรากลับกันดีกว่า

     

    ชานยอลยิ้มให้ตามสไตล์ของเขา แต่รอยยิ้มของชานยอลกลับกลายเป็นว่าทำให้หมอหนุ่มนึกถึงบุรุษพยาบาลเมื่อตอนกลางวัน

     

    ระวังตัวไว้เถอะ ! ’

     

    ต..แต่...

     

    ให้ตายเถอะ เขาควรจะปฏิเสธยังไงดี ใช่ ! เขายอมรับว่าเขากลัวบุรุษพยาบาลคนนั้นมาก แต่เมื่อคนชวนอยู่ตรงหน้า เขาควรจะปฏิเสธยังไง ??

     

    อย่าคิดมากไปเลยครับ...

    “…”

     

    แบคฮยอนไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก

     

    สุดท้ายเรื่องก็จบลงที่เขาต้องเดินตามผู้อำนวยการมาขึ้นรถ ถึงแม้คุณผู้อำนวยการจะพูดได้อย่างมั่นใจ แต่มีอะไรเป็นหลักประกัน ??

     

    ตลอดเส้นทางจากโรงพยาบาลถึงแฟล็ตแพทย์ คยองซูทำได้เพียงนั่งนิ่งๆแล้วปล่อยให้ความฟุ้งซ่านเข้าครอบงำ ทั้งเรื่องของแบคฮยอน ลู่หาน ไหนจะคำพูดของคนที่เขาคิดว่าเขาไว้ใจได้อย่างจุนมยอนอีก

     

    ถึงแม้เขาจะคิดว่าจุนมยอนไม่ได้น่ากลัว

     

    แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่มีความลับนี่...

     

    ถึงแล้วครับ คุณนี่นั่งเงียบจังน้า...ชานยอลเลือกที่จะจอดรถไว้ในชั้นใต้ดินของแฟล็ต ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยออก

    เหนื่อยๆน่ะครับ

    นึกว่ายังคิดมากเรื่องที่แบคฮยอนเหวี่ยงใส่ซะอีก ถ้าใช่ คุณจะเป็นพวกวิตกจริตเลยนะครับ เก็บอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนั้นมาคิด ฮะๆชานยอลพูดพลางติดหัวเราะเล็กน้อย

     

    มันก็จริงอย่างที่ชานยอลบอก ใช่ ! ถ้าเขาเก็บเรื่องอาการที่แบคฮยอนเหวี่ยงใส่มาคิดอยู่ล่ะก็ เขาจะกลายเป็นพวกวิตกจริตทันที

     

    อันที่จริง เรื่องที่แบคฮยอนเหวี่ยงใส่เขาน่ะ เขาลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ มันดูเล็กน้อยมาก ถ้าเทียบกับคำพูดที่แบคฮยอนพูดทิ้งท้ายไว้กับเขา และแน่นอนว่า คำพูดนั้น

     

    เขาได้ยินมันเพียงคนเดียว

     

    และคงจะเป็นคนเดียวที่แบคฮยอนพูดด้วย....

     

    .

    .

    .

     

    หลังจากที่แยกตัวกับหมอคยองซู จุนมยอนก็รีบวิ่งเข้าไปจัดยาเตรียมเอาไปให้คนไข้ห้อง 404

     

    พอซักทีเถอะจุนมยอน !!

     

    มันเป็นแค่อดีต !!

     

    ร่างเล็กทำได้แค่เตือนตัวเอง ปล่อยให้คิดอะไรต่อมิอะไรไป ในขณะที่มือกับสายตายังคงจดจ่ออยู่ที่ถาดยาที่กำลังจะยกไปให้คนไข้

     

    ก๊อก ก๊อก ...

     

    เข้ามาเลยเสียงคนไข้ในห้องตอบแบบนั้น

    ขอโทษที่มาช้านะอี้ชิง

    “…จุนมยอนเองเหรอ ?

    ฮื่อ... พอดีเมื่อกี๊ทำธุระน่ะ เลยมาช้า

    ไม่เป็นไร นี่ หน้าตานายดูเหนื่อยๆนะจุนมยอน

    ไม่เป็นไร กินยาก่อนเถอะ

    อีกแล้วเหรอ ??อี้ชิงถอนหายใจ ก่อนจะรับมาอย่างเซ็งๆ

    น่า กินเถอะ นายจะได้หายไง ไม่ดีเหรอ ??

    “…”

    “…”

    ทำหน้าแบบนี้ เจอ ผอ.ปาร์คมาอีกแล้วล่ะสิ

     

    คำพูดของอี้ชิง ทำให้จุนมยอนแทบจะหยุดการกระทำทุกอย่าง ก่อนจะหันไปมองหน้าคนไข้ที่นั่งอยู่บนเตียงที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน

     

    ก็นะ ยังไงก็ทำงานที่เดียวกัน จะเจอกันก็คงไม่แปลกจุนมยอนพูดพลางถอนหายใจ

    น่าขำชะมัด เห็นพูดแบบนี้ทุกที แล้วเป็นไงล่ะ จุดจบของนายที่ฉันเห็นทุกครั้งก็คือนายมานั่งทำหน้าอมทุกข์ให้ฉันดูเนี่ยนะ

    ...

    เอาน่าจุนมยอน มันเป็นแค่อดีตไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้หมอปาร์คเขาก็ไม่ได้เป็นแบบเมื่อก่อนแล้วนี่นะ

    “…”

    แต่มันก็น่าแปลกใจนะ

    แปลกใจ... ? ทำไมเหรออี้ชิง

    น่าแปลกใจสิ...

     

    น่าแปลกใจตรงที่ หมอชานยอลกลับสู่สภาวะปกติทุกอย่าง แต่คนที่เป็นแบบหมอปาร์คในอดีตน่ะ กลับกลายเป็น คริส แทนไงล่ะ

     

    น...นาย... ?

    แต่ก็แปลกอีกนั่นแหละ ที่ฉันดันชอบ...

    อ...อี้ชิง...

    นี่...

    อะไรเหรออี้ชิง

     

    ฉันไม่น่ามาตกอยู่ในสภาพนี้เลยเนอะ ว่ามั้ย เพื่อน

     

    TO BE CONTINUED


    ฝากข้อคิด.

    ไรท์เตอร์คัมแบ็ค หลังจากหายไปในช่่วงสงกรานต์

    จริงๆไม่ได้เล่นนงเล่นน้ำอะไรหรอก เดินสายทำบุญซะมากกว่า ก็เลยเอาบุญมาฝากรีดเดอร์ด้วย

    ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนที่ 8 แล้ว ขออภัยในความล่าช้านะคะ

    มีอะไรอยากจะบอก ตอนนี้อ่านเผินๆหลายคนคงคิดว่ามันน่าเบื่อ

    แต่ขอโทษ ... มีอะไรให้คิดเยอะจ้ะ

    บอกไว้ก่อนว่า แชปเตอร์นี้ ปริศนาซ่อนไว้เยอะเวอร์ๆ !

    ขอบคุณทุกยอดเม้นนะคะ เป็น กลจ.ที่ดีมาก

    1 เม้นท์ = 1 กำลังใจที่ดี

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาถึงจุดนี้นะคะ ไม่คิดว่าจะมีคนอ่านแนวนี้เยอะ ^^

    รักทุกคนค่า รีดทุกคนคือกำลังใจของไรท์
    <3



    ปล. แปะทวิตไรท์ค่ะ @mookiizsgc7 เผื่อเอาไว้ตามจิกเวลาไรท์ไม่อัพ
    ไรท์เป็นประเภทที่พิมพ์ไว้เยอะ แต่ขี้เกียจอัพ หึหึหึ
    แถมในทวิต ไรท์ชอบสปอยล์อะไรให้คิดเล่นๆ ไม่ต้องห่วงค่ะ
    ไรท์ไม่สปอยล์ตอนจบ
    แต่สปอยล์อะไรที่ทุกคนคงคาดไม่ถึง หุหุหุ



     ปล. อัพรอบต่อไป ไม่ระบุจำนวนเม้น แต่จะพิจารณาตามความเหมาะสม สัดส่วนยอดดูกับยอดเม้น 

     
    Tenpoints!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×