ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) THE HOSPITAL. [END] | RE-PRINT.

    ลำดับตอนที่ #18 : ✚ r o o m . XVII

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.85K
      14
      3 พ.ค. 56

    Chapter XVII

     

    ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทุกคนที่ถูกนัดไว้ก็มาถึงที่ที่นัดพบกัน โต๊ะสองตัวถูกนำมาเรียงต่อกัน กลายเป็นโต๊ะยาวหนึ่งโต๊ะ พอสำหรับที่จะนั่งได้ 7 คน แบ่งกันนั่ง ฝั่งหนึ่งสี่คน และอีกฝั่งสามคน โดยเว้นหัวโต๊ะไว้

     

    ทิศตะวันตก มีชานยอล คริส ลู่หาน และ แบคฮยอน ส่วนด้านตรงกันข้ามมีจงแด คยองซู และจงอิน ตามลำดับ

     

    นั่งกันเงียบจัง…”

     

    ชานยอลเริ่มเปิดประโยคสนทนาขึ้นมา หลังจากที่เห็นว่าทุกคนนั่งกันเงียบและไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็นสนทนาใดๆ

     

    ลู่หานได้แต่ส่งยิ้มเหมือนเคย ในขณะที่แบคฮยอนก็นั่งกอดอกกวาดสายตามองไปรอบๆร้าน คริสนั่งกดดูสมาร์ทโฟนมาพักใหญ่ๆ จงแดที่เงียบยังไงก็ยังคงเงียบแบบนั้น และจงอินก็นั่งเท้าคางเหม่อมองออกไปไม่สนใจทุกคนบนโต๊ะ

     

    อึดอัด

     

    ทั้งๆที่คนเยอะขนาดนี้

     

    หมอคยองซูคงลำบากใจน่าดูสินะครับ…”

     

    ชานยอลเริ่มโปรยประโยคมาถึงคยองซูที่นั่งตรงกันข้าม ถึงแม้จะเยื้องกันไปหน่อย แต่ก็พอจะมองออก ว่าชานยอลกำลังมองเขาอยู่

     

    ไม่ได้อยากคิดอกุศล

     

    แต่สายตาที่ชานยอลกำลังมองเขาอยู่

     

    มันเป็นสายตาในเชิงชู้สาว…!

     

    เหมือนแบคฮยอนที่นั่งอยู่ริมสุดจะรู้ว่าชานยอลกำลังมองอะไร และมองด้วยสายตาแบบไหน ร่างบางหันไปเหลือบมองหมอร่างสูงที่กำลังเท้าคางมองคยองซู

     

    ใบหน้าของแบคฮยอนกำลังบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

     

    หมอ ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ…”

    ครับ ?

    รบกวนไปห้องน้ำเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ยครับ

     

    จงอินที่นั่งอยู่ข้างๆคยองซูเอ่ยปากขอขึ้นมา และแน่นอนว่าคยองซูเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธบุรุษพยาบาลคนนี้

     

    เหมือนจงอินจะรู้ว่าเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่ที่โต๊ะเป็นอย่างไร ร่างสูงเลยตัดปัญหาด้วยการพาคยองซูแยกออกมาจากที่โต๊ะ ทั้งคู่เดินมาถึงห้องน้ำ คยองซูยืนรออยู่ด้านนอก ส่วนจงอินขอตัวเข้าไปทำธุระด้านใน

     

    ผ่านไปเกือบห้านาที ร่างสูงเดินออกมาพร้อมใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยน้ำเหมือนผ่านการล้างหน้ามา จงอินไม่ได้เดินกลับไปที่โต๊ะทันที แต่เขาเลือกที่จะยืนพิงกำแพงอยู่ข้างๆคยองซูที่ยืนอยู่ก่อนหน้า

     

    ไม่กลับเหรอครับ ?

    หมอจะกลับไปให้ไอ้ผู้อำนวยการวิปริตนั่นมองอีกรึเปล่าล่ะครับ ?

     

    ไม่พูดเปล่า ร่างสูงยังเหลือบมามองคยองซู สายตาของจงอินยังคงดูนิ่งและดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่มันไม่ได้รู้สึกเย็นชาเหมือนกับของใครหลายๆคนที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมิตรหรืออบอุ่นแต่อย่างใด

     

    ทำไม

     

    จงอินถึงเรียกชานยอลแบบนั้น

     

    ผู้อำนวยการวิปริต…?

     

    ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้นล่ะครับ…”

     

    ร่างเล็กแอบไม่พอใจอยู่บ้าง เขาไม่ได้ปกป้องชานยอลแต่อย่างใด แต่ไม่เห็นด้วยที่จงอินไปเรียกชานยอลแบบนั้น เพราะถึงอย่างไร ชานยอลก็ยังคงมีตำแหน่งสูงกว่าที่จงอินจะไปถือวิสาสะเรียกด้วยคำที่ฟังดูไม่ดี

     

    หมอ…”

    “…”

    เวลางานก็คือเวลางาน ตอนนี้เลิกงานแล้ว ผมมีสิทธิ์จะเรียกยังไงก็ได้

    “…”

    ปาร์คชานยอลไม่ใช่ ผอ.ที่ดูดีและเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างที่เขาแสดงออกมาให้ใครต่อใครเห็น…”

    แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขานะครับ…”

    หมอยังไม่รู้จักเขามากพอ อย่าพูดอะไรจะดีกว่าครับ

     

    จงอินไม่ได้แสดงความรู้สึกกลัวหรือหยุดต่อต้านคยองซูแม้แต่น้อย สายตาของเขาเริ่มแข็งกร้าวขึ้น

     

    และมันก็เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

     

    หมอรู้มั้ย ผู้ชายคนนั้น แค่คำว่าวิปริตยังน้อยไป…”

     

    คนแบบนั้นน่ะ มันเหมาะกับคำว่า เลวทรามไม่สิ

     

    เลวบัดซบ เลยต่างหาก !

     

    คุณจงอิน !”

     

    ร่างเล็กเผลอขึ้นเสียงไปโดยไม่รู้ตัว เขาไม่รู้ว่าจงอินมีความหลังอะไรกับชานยอล แต่คำพูดของจงอินมันแรงเกินไปเกินกว่าที่เขาจะรับฟังมัน

     

    เพิ่งเคยเห็นหมอขึ้นเสียงครั้งแรกเลยแฮะ…”

     

    จงอินไม่ได้มีท่าทีอ่อนลง มิหนำซ้ำ เขายังพูดย้อนกลับคยองซูด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน

     

    คุณ…”

    หมอไม่ใช่ผม หมอไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมผมถึงเกลียดมันผมไม่ใช่คนไร้เหตุผลที่จะเกลียดใครต่อใครไปเรื่อยหรอกนะ

    “…”

    ไปเถอะหมอ หายออกมานาน เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย…”

     

    จงอินตัดบทสนทนาทั้งหมด ก่อนจะเดินนำออกไปที่โต๊ะ บรรยากาศที่โต๊ะตอนนี้เริ่มเปลี่ยนไป ทุกคนเริ่มคุยกันมากกว่าตอนแรก จะมีก็แค่จงแดที่ยังคงนั่งเงียบเหมือนเดิม แต่เขาเองก็รับฟังและพยักหน้าเวลาที่มีใครพูดใครถาม

     

    หายกันไปนานจังนะจงอิน ลู่หานเริ่มทักขึ้นคนแรก

    ธุระของฉันจงอินตอบสั้นๆ

     

    ติ๊ง !

     

    เสียงของทั้งโต๊ะเงียบลง เมื่อโทรศัพท์ของใครคนหนึ่งมีเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้นมา ตามมาด้วยคริสที่ต้องล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความที่เป็นต้นเสียงเมื่อครู่นี้

     

    ฉันต้องกลับแล้ว…” คริสพูดหลังจากอ่านข้อความจบ

     

    แต่ยังไม่ทันที่คริสจะพูดอะไรต่อ ลู่หานก็เอียงตัวไปพูดอะไรกับร่างสูงข้างๆเบาๆ ก่อนที่คริสจะส่งโทรศัพท์ของเขาให้กับลู่หาน

     

    ร่างบางนั่งกดดูอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ของคริสอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งมันคืนให้คริส แล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้

     

    ไปเถอะหมอ ผมกลับด้วย…”

    อืม

     

    ท่าทางแบบนี้ สงสัยประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยปีที่แล้วเลยเนอะ… ’

     

    แบคฮยอนพูดขึ้นมา ทำให้ทุกคนบนโต๊ะหันไปมองเขาเป็นจุดเดียว ก่อนที่ร่างบางจะหันไปยิ้มให้ลู่หานเล็กน้อย

     

    ใช่มั้ยลู่หาน ??

    หืม ไม่นี่…”

    “…”

    ถ้างั้น เราก็กลับกันหมดเลยนี่ล่ะ จะได้ไม่ซ้ำรอยกับปีที่แล้ว ว่าไงล่ะ ?

     

    ชานยอลเสนอความคิดเห็นออกมา ทุกคนบนโต๊ะยกเว้นคยองซูที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็พยักหน้ากัน

     

    ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

     

    อะไรกัน ??

     

    ถึงแม้จะไม่เข้าใจพวกเขาเหล่านี้ แต่หมอหนุ่มเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปยุ่มย่ามหรือถามอะไร เพราะรู้ดีว่า มันคงจะไม่เกี่ยวกับเขา

     

    สบายใจได้ครับ ผอ. เหตุการณ์มันไม่เหมือนกับปีที่แล้วหรอก พวกผมกลับเพราะมีธุระกันนิดหน่อย

    “…”

    แล้วก็อีกอย่าง วันนี้คนมาไม่ครบเหมือนคราวที่แล้ว ฉะนั้นก็ยิ่งไม่มีอะไรน่าซ้ำรอยเลย…”

     

    ใช้มั้ยครับหมอจงแด ??

     

    จากที่พูดอยู่กับทุกคนบนโต๊ะ จู่ๆลู่หานก็หันไปถามจงแดที่นั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ริมสุดของโต๊ะ

     

    ถามฉันทำไม…” จงแดย้อนขึ้นมาสั้นๆ

     

    ก็ในเมื่อตัวต้นคิดมันคือนาย… ’

     

    .

    .

    .

     

    สุดท้ายเรื่องของเมื่อคืนนี้ก็จบลงที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับโดยไม่ได้พูดอะไรกันอีกหลังจากที่จงแดพูดประโยคนั้น

     

    จงแดอาสาไปส่งคยองซูที่แฟล็ต เพราะยังไงซะ พวกเขาก็อยู่แฟล็ตเดียวกัน เพียงแค่ว่าอยู่กันคนละชั้น ส่วนจงอินโบกแท็กซี่กลับไปกับแบคฮยอนด้วยเหตุผลเดียวกับคยองซู คือ อยู่แฟล็ตเดียวกัน ส่วนชานยอลขอตัวไปทำธุระต่อ และคริสกับลู่หานนั้นกลับไปที่โรงพยาบาลก่อน

     

    เช้านี้ที่โรงพยาบาลก็ยังคงเหมือนปกติอยู่ทุกวัน คยองซูเองก็ทำกิจวัตรประจำเหมือนทุกวัน นั่นก็คือการเดินมาดูตารางเวรประจำวัน

     

    แพทย์ : ชานยอล  คริส  จงแด(ประชุมที่ปูซาน)  คยองซู

     

    หลังจากมองตารางเวรวันนี้ หมอหนุ่มก็สะดุดสายตากับชื่อของจงแดที่ต่อท้ายไว้ว่ามีประชุมนอกสถานที่

     

    ถ้าจงแดประชุม

     

    นั่นหมายความว่า

     

    โอกาสที่มินซอกจะอยู่คนเดียว !?!

     

     

    คยองซู อู อู~

     

    เสียงเรียกชื่อหมอหนุ่มดังขึ้น ก่อนที่มือเล็กๆจากด้านหลังจะแตะอยู่ที่ไหล่ของเขาทั้งสองข้าง

     

    ถ้าเดาไม่ผิด

     

    มินซอก

     

    เมื่อหันหลังกลับไปมอง ก็พบเจ้าของชื่อที่เขาเผลอเรียกเมื่อครู่นี้ยืนยิ้มแป้นแล้นพร้อมจับไหล่เขาเตรียมจะรถไฟเมื่อวันนั้น

     

    วันที่มินซอกอาละวาดใส่เขา

     

    เอ่อ…”

     

    ถึงแม้จะสงสัยและงงๆกับคนไข้คนนี้ แต่อีกใจก็รู้สึกแปลกๆที่เขากำลังนึกถึงคนไข้คนนี้ และอยู่ๆมินซอกก็มาปรากฏตัวพร้อมกับตั้งท่าจะเล่นกับเขา

     

    ไปเล่นกันวันนี้จงแดไม่อยู่

     

    มินซอกเริ่มเอ่ยชวนประโยคเดิมเหมือนกับไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาที่เขาเคยทำ ก่อนจะส่งสายตาเป็นเชิงอ้อน

     

    คือ…”

    นี่ ไม่ต้องกลัวฉันหรอกน่า…”

     

    ตราบใดที่นายไม่ยุ่งกับจงแด ฉันก็ไม่ทำอะไรนายหรอก… ’

     

    มินซอกพูดพร้อมทำหน้ายิ้มแยกเขี้ยวอย่างน่ารักน่าชังออกมา บวกกับประโยคเมื่อครู่นี้ ทำให้คยองซูเริ่มโอนอ่อนตามที่คนตัวเล็กยื่นข้อเสนอให้

     

    งั้น…”

    เอาเป็นว่านายตกลง ไปกันเถอะ

     

    มินซอกจับไหล่คยองซูไว้ แล้วดันตัวคยองซูไปจนถึงหน้าห้อง 403 ร่างเล็กเดินไปเปิดประตูให้ ก่อนจะจูงมือคยองซูเข้ามาในห้อง

     

    มินซอกเดินขึ้นไปนั่งเล่นบนเตียง โดยมีคยองซูนั่งอยู่ที่โซฟาใกล้ๆกับประตูห้อง หมอหนุ่มนั่งมองคนตัวเล็กที่กำลังนั่งยุกยิกๆกับผ้าห่มบนเตียง

     

    ถ้าหมออยากรู้อะไรเพิ่ม ก็ไปตามมินซอกสิครับ

     

    ประโยคของลู่หานในวันที่พบศพจุนมยอนดังขึ้นมาในโสตประสาทของหมอหนุ่ม ยิ่งทำให้เขามองมินซอกไม่วางตา และดูเหมือนมินซอกเองก็เริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าถูกมองอยู่ฝ่ายเดียว

     

    นี่…”

    ครับ ?

    มองอะไรฉันนักหนา ?

     

    มินซอกยิงคำถามออกมา ทำให้คยองซูที่กำลังนั่งคิดถึงเรื่องจุนมยอนต้องหยุดความคิด มินซอกเดินลงจากเตียง ก่อนจะมุ่งตรงมาหาเขาช้าๆ

     

    มีอะไร…”

     

    สายตาของมินซอกจ้องมองมาที่คยองซูเหมือนคนกำลังจับผิด ยิ่งทำให้คยองซูเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา มือของหมอหนุ่มเริ่มสั่น อาการเหงื่อชุ่มฝ่ามือเหมือนคนหวาดกลัวกำลังกลับมาอีกครั้ง ดวงตากลมโตของหมอหนุ่มเองก็พยายามเลี่ยงสายตาของมินซอกที่จ้องมองเขาอยู่

     

    ฉันถามว่ามีอะไร….”

     

    มินซอกเริ่มถามย้ำอีกครั้ง คยองซูพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี ในเมื่อเขาคิดจะช่วยเพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว เขาคงต้องยอมเสี่ยง ร่างเล็กสูดหายใจช้าๆ ก่อนที่จะรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมามองมินซอกที่ยืนอยู่ตรงหน้า

     

    คุณรู้เรื่องที่จุนมยอนตายใช่มั้ย ??

     

    TO BE CONTINUED

    ทิ้งไว้ให้คิด.

    ทำท่าเหมือนจะเฉลย (อีกแล้ว) แต่สุดท้ายก็... !?!

    เฮ่อ... ทำไมปมมันเยอะแบบนี้นะ มาถึงตอนที่ 17 แล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย

    #แย่งบทรีดเดอร์พูด

    น่าเศร้าใจเนอะ ก็มาเอาใจช่วยหมอคยองละกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ฮิฮิฮิ

    เมื่อวานไรท์แอบทิ้งปมไว้ในทวิตให้รีดท่านหนึ่ง

    เอาเป็นว่า เผื่อใครไม่เล่นทวิต หรือไม่ได้ตามทวิตไรท์ ไรท์จะขอทิ้งมันไว้กลางตอนนี้แหละ

    ว่า
    ' ทำไมหมอคยองซู ถึงต้องเป็นผู้ถูกกระทำอย่างเดียวเลย...เนอะ ? '

    เอาเป็นว่าไรท์ขอทิ้งไว้แค่นี้พอ ไม่อยากแกล้งรีด ฮือๆ

    และสุดท้ายนี้ ไรท์จะขอทิ้งคำใบ้ไว้ให้ก็แล้วกัน #อีกละ



    คำใบ้ : ฆาตกรเรื่องนี้มีการซัดทอด #งงป่ะ #งงก็เรื่องของรีด #โดนตบ


    ใครสงสัย หรืออยากได้คำใบ้มากกว่านี้ เมนชั่นไปหาทวิตไรท์ได้ อยู่ในตอนที่ 8 คึคึคึ

    และสุดท้สายจริงๆนี้ รักทุกคนจ้า ตามเรื่องนี้ไปนานๆนะ รักทุกคนม้าก...มาก
    <3


    ใครอ่านแล้วจะลงแดง อยากระบายความเครียดและกดดัน (?) ติดแท็ก
    #ดฮปท เอาไว้ เดี๋ยวเข้าไปดู แล้วจะไปเมนชั่นไปหา





     

    Tenpoints!
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×