คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 3 CHANGE | Escape
DEAD,ALIVE or UNDEAD ?
JUST CHOOSE
3 | หนี
*เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน
เนื่องด้วยการเสียชีวิตของตัวละครหลัก ปาร์ค ชานยอล
ทำให้ไม่สามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้
จึงขอตัดจบ ฟิคเรื่อง AWAKE & ALIVE แต่เพียงเท่านี้
สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ. . .
ถุยยยยยยย !
ล้อเล่นนะตัวเอง
‘หมับ !’
ผมเบิกตากว้างทันที่ที่มือบางของใครบางคนเอื้อมมาจับผมไว้ได้ทันก่อนที่ผมจะตกลงไป
“เป็นอะไรรึเปล่า !?”
อา. . .ขอบคุณนะแบคฮยอน
ปรากฏว่าเป็นแบคฮยอนที่มาช่วยผมเอาไว้ เขาค่อย ๆ จับผมเต็มสองมือก่อนที่จะออกแรงดึงผมขึ้นมา
“ขอบคุณนะ. . .แฮ่ก แฮ่ก”
ตอบขอบคุณไปอย่างกระหืดกระหอบ นี่เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนช่วยชีวิตของผมเอาไว้
“นายทำได้ดีมากเลยนะชานยอล. . .”
แบคฮยอนยิ้มพร้อมกับตบบ่าของผมเบา ๆ “เอาล่ะ. . .รีบไปกันเถอะ”
“อื้อ”
แบคฮยอนเอื้อมมือมาจ่อที่หน้าของผม ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะยกมือขึ้นมาจับมือเขาเอาไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกแรงดึงให้ผมที่นั่งหอบอยู่ลุกขึ้น
“เอาล่ะ. . .พร้อมนะ ?”
แบคฮยอนหันมาถามผม มือของเขาคว้าลูกบิดประตูเอาไว้และเตรียมที่จะเปิดมันออก
“เจ้าพวกข้างนอกนั่น. . .ถ้านายจำเป็นจะต้องฆ่าละก็. . .”
“อืม”
ผมพยักหน้าลงเบา ๆ พร้อมกับหยิบไม้เบสบอลมาถือไว้ในมือ แบคฮยอนมองหน้าผมด้วยแววตาเชื่อมั่น
“เอาละนะ. .”
1
2
3
!
‘แอ๊ด. . .ดด’
ประตูถูกเปิดออก ผมกับแบคฮยอนถอยห่างออกมาเล็กน้อยและสิ่งที่ผมกับเขาได้เจอก็เป็นไปตามคาด
พวกมันยังยืนรออยู่ที่หน้าประตู
2 ตัว. . .
‘ปั่ก !’
ไม้เบสบอลในมือของผมฟาดลงไปที่กะโหลกของร่างที่ยืนอยู่หน้าประตู ก่อนที่มันจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ส่วนแบคฮยอนก็เอากระบอกปืนฟาดหัวอีกร่างจนกะโหลกบุบ
“นายต้องเล็งไปที่หัวของมัน”
แบคฮยอนหันมาพูดกับผม ก่อนที่จะใช้เท้ายันร่างอีกร่างให้ล้มลง แล้วเอากระบอกปืนฟาดลงไปอีกครั้ง ผมพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วจัดการหวดไม้เบสบอลไปอีกรอบ
เลือดสีแดงสุดไหลอาบนองเต็มพื้นทางเดิน ไม่เพียงเท่านั้นทั้งไม้เบสบอล ทั้งกระบอกปืนของพวกผมก็ชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงสดนั่น
ในความเป็นจริงแล้วนี่มันก็ไม่ต่างอะไรเลยจากการ ‘ฆ่าคน’ แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆแล้ว ณ ตอนนี้ ‘กฎ’ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อไปอีกแล้ว
ผมกับแบคฮยอนเราวิ่งไปที่ทางหลังคอนโด ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่แบคฮยอนวางแผนไว้ ตรงทางเดินนี้แทบจะไม่มีร่างไร้วิญญาณที่หิวกระหายหรือแม้แต่อะไรเลยซักอย่าง ดูเหมือนว่ามันจะตรงไปยังที่ๆผมจุดประทัดไว้แล้วแน่ ๆ
“ชานยอล ทางนี้ !”
“อ. . .เอ๋ ? ไม่ลงบันไดหรอกหรอ”
แบคฮยอนกวักมือเรียกผม ขณะที่ผมกำลังจะหักเลี้ยวลงบันได
“ถ้าใช้บันไดมีหวังได้เจอกับไอ้พวกข้างล่างกันพอดีน่ะสิ”
“แต่ลิฟต์มันใช้ไม่ได้นี่ ?”
“ลิฟต์หลังคอนโดยังใช้ได้อยู่นะ มอเตอร์ปั่นไฟยังทำงาน”
แบคฮยอนว่าจบก็จัดการกดนิ้วลงไปที่ปุ่มลิฟต์ เลขระบุชั้นค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ ผมกับแบคฮยอนยืนรอให้ลิฟต์มาถึงอย่างรู้สึกรีบเร่ง
‘ติ๊ง !’
ประตูลิฟต์ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ผมกับแบคฮยอนเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อม ๆ กัน
ผมยังไม่รู้เลยว่า ถ้าผมกับเขาออกจากคอนโดแห่งนี้ไปได้แล้ว
เราควรจะทำอะไรต่อไปดี. . .
“. . .”
หลังจากที่ผมกับแบคฮยอนใช้ลิฟต์ลงมาที่ชั้นล่างสุด โชคยังดีที่ลิฟต์ยังคงใช้ได้อยู่ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะหาทางออกจาคอนโดนี้ได้ยากขึ้นก็ได้
“ฉันว่า. . .เราไปหลบที่ป้อมตำรวจตรงนั้นกันก่อนดีกว่า”
แบคฮยอนชี้นิ้วไปที่ป้อมตำรวจที่ตั้งอยู่ห่างจากคอนโดไปเพียงไม่กี่เมตร มันเป็นป้อมตำรวจเล็ก ๆ ซึ่งดูแล้วน่าจะเหมาะที่ผมกับเขาจะไปหลบอยู่ในนั้นซักพัก
“โอเค”
แบคฮยอนพยักหน้าลงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากผม ก่อนที่จะวิ่งนำไป
เราทั้งคู่พยายามวิ่งให้ได้เบาและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมและแบคฮยอนวิ่งเลาะไปตามทางจนไปถึงป้อมตำรวจตามที่คิด
“. . .”
แบคฮยอนเปิดประตูป้อมตำรวจออก เขาถอยห่างออกมาเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ เขาไปเช็คความปลอดภัยข้างในนั้น
ผมที่ยืนอยู่ข้างนอกก็มองไปตามทางรอบ ๆ . . .
“ชานยอล”
แบคฮยอนเรียกผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมกับกวักมือเรียกเมื่อเห็นว่าในนั้นปลอดภัยผมพยักหน้ารับก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปแล้วจัดการปิดประตูล็อกกลอนอย่างแน่นหนา
“เหนื่อย. . .ชะมัด”
แบคฮยอนปิดเปลือกตาลงแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น ยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างเนือย ๆ หัวทุยของเขาพิงลงที่ผนัง
“. . .”
ผมทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แบคฮยอน หันไปมองเขา
อา. . .ใบหน้าของแบคฮยอนเปื้อนเลือดนิด ๆ คงจะเป็นเลือดจากตอนนั่นล่ะ ตอนที่เขาเอากระบอกปืนทุบหัวเจ้าพวกนั้น
“. . .”
ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าที่กางเกงของผมตรงกระเป๋ามันมีผ้าเช็ดหน้าสีขาวบางพับอยู่ ผมจัดการหยิบมันออกมาแล้วคลี่มันออก
ผมเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้แบคฮยอนอย่างเบามือ พยายามเช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าเขาให้เบาที่สุด เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหลับไปแล้ว
แต่มันไม่ใช่ เขาลืมตาขึ้นมาด้วยสายตาเหม่อลอย เขาดูไม่เหมือนกับแบคฮยอนคนก่อนที่ผมเจอในครั้งแรก
“ถ้าคนเราสูญเสียสิ่งที่รักที่สุดในชีวิตไปแล้ว. . .นายคิดว่าเขาควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ?”
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะหันหน้ามามองผมด้วยแววตาสับสน
“. . .เพื่อคนที่รักเขา”
“ ? ”
ผมตอบไปตามที่ใจคิด. . .
“โลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ จากคนที่เคยรู้จักกัน จากคนที่ไม่เคยรู้จักกัน หรือจะใคร ๆ ก็ตามแต่ เขาจะปฏิบัติกับเราอย่างเท่าเทียม ไม่ต่างอะไรจากอาหาร. . .”
“นายรับมันได้รึเปล่า ?”
คำถามของเขาทำเอาผมถึงกลับกลืนน้ำลาย
“ไม่. . .”
ผมพูดเสียงสั่นพร้อม ๆ กับหลบสายตานิ่งเฉยของเขาที่มองมา
“ผมรับไม่ได้ที่จะต้องเห็นคนตายนอนเกลื่อนกลาดด้วยสภาพเละเทะ ผมรับไม่ได้ที่จะต้องเห็นคนตายที่ไม่ตายเดินกันอยู่ให้ว่อน ผมรับไม่ได้ที่จะต้องฆ่าคนตายที่ไม่ได้ตายถึงแม้ว่ามันจะจำเป็นก็ตาม. . .”
“. . .และอีกอย่าง ผมรับไม่ได้ถ้าผมจะต้องฆ่าคนที่เคยรู้จัก ด้วยน้ำมือของผมเองถ้าเขาเกิดเปลี่ยนขึ้นมาจริง ๆ. . .”
แบคฮยอนไม่พูดอะไรตอบกลับมา เขาเพียงแค่คลียิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะหลับตาลงเหมือนเดิม
“พักก่อนดีกว่านะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่อีกที. . .”
เขาพูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่
จะว่าไปผมว่าวันนี้มันก็มากพอแล้วล่ะ. . .
‘แกร่ก. . .แกร่ก. . .แกร่ก’
“อือ. . .”
ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา อา. . .นี่ผมหลับไปนานเท่าไหร่กันเนี่ย
ผมมองไปที่ข้าง ๆ รู้สึกเหมือนหนัก ๆ ที่ไหล่. . .
“. . .”
แบคฮยอนยังคงหลับสนิทโดยที่เอาหัวทุยมาพิงที่ไหล่ของผม. . .
‘แกร่ก แกร่ก แกร่ก’
เสียงที่ดูเหมือนเป็นอะไรบางอย่างกำลังขูดกับกระจกดังขึ้นกระทบหู ผมรีบกวาดตามองไปรอบ ๆ ตัว
“. . .”
ภาพตรงหน้าทำขนของผมลุกชัน ก่อนที่เหงื่อใสๆจะเริ่มผุดขึ้นมา ปากของผมสั่นระริกๆอย่างช่วยไม่ได้ ผมรีบสะกิดแบคฮยอนที่หลับใหลอยู่ให้ตื่นอย่างรีบร้อน
“อือ. . .มีอะไรหรอ ?”
แบคฮยอนลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างสะลึมสะลือ
“. . .บอกฉันทีว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ?”
“หืม ?”
ผมเอ่ยถามแบคฮยอนสั้น ๆ แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะพยุงตัวลุกขึ้น
“. . .บ. .บ้าหน่า”
ทั้ง ๆ ที่ในนี้ไม่ร้อนมากแท้ ๆ แต่ทั้งผมและแบคฮยอนพวกเราต่างก็มีเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด
“แบบนี้ไม่ดีแน่”
“ทำไม. . .?”
“มันจะเข้ามา”
แบคฮยอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ก่อนที่จะคว้าปืนออกมาถือไว้
“เหมือนพวกมันจะได้กลิ่น. . .หรือจะอะไรก็ตามแต่ แต่ที่ฉันรู้. . .มันกำลังพยายามที่จะเข้ามา”
“มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อยเพราะกระจกของป้อมตำรวจค่อนข้างหนา”
ผมพยายามพูดอย่างใจเย็นมากที่สุด
แต่จะให้มาใจเย็นก็คงไม่ได้หรอก ในเมื่อตอนนี้ไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าผีดิบซอมบี้หรืออะไรก็ตามแต่นับสิบกำลังมารุมกันอยู่ที่ป้อมตำรวจแห่งนี้
“เราต้องออกจากที่นี่”
“ออกจากที่นี่ ?”
แบคฮยอนมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ผมถามย้ำเขาอีกครั้ง เพราะว่าการจะออกไปจากที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ใช่สิ ! ขืนถ้ายังอยู่ในนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการรอความตายหรอกน่า”
‘ซ. . .ซ . . .ซ่า’
ในขณะที่ผมกับแบคฮยอนกำลังจะหาทางออกไปจากที่นี่ อยู่ดี ๆ วิทยุสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะของป้อมตำรวจก็เกิดมีเสียงขึ้นมา
“. . .”
เราทั้งคู่เงียบปากก่อนที่จะเบนความสนใจทั้งหมดไปที่วิทยุนั่น
‘ฮ. . .เฮ้ ’
เสียงของใครซักคนดังผ่านมาจากวิทยุสื่อสาร ผมรีบเดินเข้าไปคว้ามันมาก่อนที่จะเอามาไว้ใกล้ตัว ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเล็กน้อย ก่อนที่จะรอฟังต่อ
‘ในนั้นสบายดีรึเปล่า ?’
“แกเป็นใคร ?!”
น้ำเสียงกวนๆถูกส่งผ่านมาพร้อมกับคำถามที่ไม่ควรถามเลยซักนิด นั่นทำให้แบคฮยอนถึงกับหงุดหงิดขึ้นมา
‘ใจเย็นก่อนพี่ชาย ๆ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จา’
“คุณเป็นใคร ?”
ผมรีบเอ่ยถามตัดหน้าแบคฮยอนที่ดูเหมือนตอนนี้ฟิวส์ใกล้จะขาดเต็มที
‘ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญก็ตรงที่ว่าพวกพี่ชายกำลังจะโดนเจ้าพวกหิวโซนั่นเขมือบ’
“. . .”
‘ผมจะช่วยพวกพี่ชายออกมาจากป้อมนั่น สนใจมั้ยล่ะครับ ?’
“นาย. .?”
‘รีบ ๆ ตอบเถอะครับว่า ตกลง หรือ ไม่ตกลง เพราะถ้ายังดึงดันไม่ตอบคำถามแบบนี้ ไอ้เจ้าพวกหิวโซข้างนอกมันจะเข้าไปขย้ำพวกพี่ตายซะก่อนนะ’
“ตกลง”
“. . .”
‘ตอนนี้ผมน่ะอยู่ ณ จุดที่เห็นพวกพี่สองคนได้อย่างชัดเจน และตอนนี้ผมก็เห็นด้วยว่ามีเจ้าพวกหิวโซที่ต้องการจะกินพวกพี่อยู่ประมาณ. . .สิบ เอ๊ะ. . .ยี่สิบได้’
“นี่คิดจะกวนรึไงกันเนี่ย. . .”
‘แต่ผมจะเสนอวิธีนี้ให้พวกพี่ ผมจะเบนความสนใจของพวกมัน โอกาสนั้นขอให้พวกพี่วิ่งออกมาจากป้อมนั่นให้ได้ วิ่งตรงมาทางร้านขายหนังสือตรงหัวมุมทิศตะวันออกนั่น แล้วเลี้ยวเข้ามาในตรอกแคบ ๆ ผมจะรอพวกพี่อยู่. . .ที่นั่น’
‘ซ. . .ซ . .ซ่า’
สิ้นสุดประโยคนั้นสัญญาณวิทยุก็หายไปทันที ผมหันหน้ามองแบคฮยอน แบคฮยอนพยักหน้าให้ผมเป็นเชิงยืนยัน
“ไปกันเถอะ”
‘ตูมมมม !’
เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทางทิศตะวันตกไม่ไกลจากป้อมตำรวจนี้นักดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มควันโขมงที่พวยพุ่ง เจ้าพวกข้างนอกดูเหมือนจะให้ความสนใจกับมันอยู่ไม่น้อยเลย พวกมันต่างแห่กันไปที่ทางต้นเสียงนั่นจนเกือบจะหมด
“ไป !”
ผมยกเท้าขึ้นมาถีบประตูให้เปิดออก ก่อนที่วิ่งออกมาจากป้อมตำรวจพร้อม ๆ กับแบคฮยอน
‘ปัง !’
ไกปืนถูกเหนี่ยวก่อนที่ลูกกระสุนจะพุ่งไปยังศพเดินได้ที่กำลังเดินเข้ามาขวางหน้าพวกผม
“ทางนี้”
ผมชี้ไปทางตรอกเล็กที่อยู่ข้าง ๆ กับร้านหนังสือ โชคยังดีที่ผีดิบหิวโซ ณ ตรงนี้มีไม่มาก แบคฮยอนวิ่งเข้าไปในตรอกนั่น ก่อนที่ผมจะวิ่งตามเขาไป
‘อือออออออ’
เสียงอะไรบางอย่างลอยเข้ามาเตะหู ผมหันหลังกลับไปมองตรงทางที่เพิ่งจะวิ่งหนีมา พวกมันวิ่งตามพวกผมมาเป็นฝูง. . .
ให้ตายเถอะ
“ทางตัน !”
เสียงของแบคฮยอนดังขึ้น ทำให้ผมหันกลับไปมองทางข้างหน้า ใช่แล้วครับ ทางตัน ไม่มีทางให้พวกเราวิ่งต่อไปได้อีกแล้ว
ผมกับแบคฮยอนหันหลังถอยจนชิดกำแพง ในขณะที่เจ้าพวกหิวโซนั่นก็กำลังวิ่งแห่เข้ามาใกล้พวกผมเป็นกองทัพ
นี่ผม. . .โดนหลอกงั้นหรอ ?
“นี่อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นลากพวกเรามาทางตันนี่เพื่อให้พวกเราตาย. . .”
“อย่ามองผมเลวแบบนั้นสิครับพี่ชาย”
ทันทีที่แบคฮยอนพูดจบอย่างร้อนรน เสียงของใครซักคนที่ผมไม่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากด้านบน
“. .นาย”
“รีบขึ้นมาก่อนสิครับพี่ชาย เร็ว !”
ผมแหงนหน้าขึ้นมาไปข้างบน ก็ต้องพบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุก็คงจะไล่เลี่ยกับผมและแบคฮยอน ผมสีเทาควันบุหรี่กับผิวเนียน กำลังห้อยตัวลงมาโดยใช้บันไดลิง . . .เขาเป็นใครกันแน่ ?
“เร็วครับเร็ว !”
เข้าเอื้อมมือมาจับแบคฮยอน แบคฮยอนพยุงตัวขึ้นไปจับบันไดลิงไว้ได้ก่อนที่จะปืนขึ้นไป
“ชานยอลเร็ว !”
เขาหันหลังกลับมาเอื้อมมือจับผม ก่อนที่จะออกแรงดึง ผมพยายามพยุงตัวคว้าจับบันไดลิงไว้ได้ทันหวุดหวิด
‘หมับ !’
มือแห้งกร้านคว้าจับเข้าที่ข้อเท้าของผมเต็มแรง นั่นทำเอาผมถึงกับใจหล่นวูบ
“เฮ้ย !”
ผมร้องออกมา ก่อนที่จะสะบัดขาเต็มแรง ซึ่งมันก็ไม่ได้ผลมือนั่นยังคงจับที่ขาของผมแน่น
“ให้ตาย. . .เถอะ !”
แบคฮยอนรีบหยิบปืนขึ้นมา ใช้มือข้างหนึ่งถือปืนกับอีกข้างที่จับบันได้ไว้แน่น ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืนยิงเข้ากลางหัวของเจ้าตัวที่จับขาของผมเอาไว้ ก่อนที่มันจะล้มลง
ผม แบคฮยอน รวมถึงเขาคนนั้น ค่อย ๆ ปืนบันไดลิงขึ้นไปจนถึงหน้าต่างชั้นบนของอาคารแห่งหนึ่ง
“ค่อย ๆ ครับ”
เขาคนนั้นกระโดดเข้าไปในตัวห้อง ก่อนที่จะหันหลังมาดึงแบคฮยอน แล้วจัดการดึงผมเข้ามาอีกคนอย่างระมัดระวัง
“โอย. . .เหนื่อยชะมัดเลย,เกือบไม่รอดแล้ว”
เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ
“. . .”
ผมกับแบคฮยอนได้แต่ยืนเงียบก่อนจะมองเขาคนนั้นที่มีท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยซักนิด
“นั่งก่อนเถอะครับพี่ชายทั้ง 2”
เขาหันมายิ้มให้พวกผม ยิ้มเพียงแค่มุมปาก
รอยยิ้มแบบนั้นทำผมใจไม่ดีเลย
“. . .นายเป็นใคร ?”
สุดท้ายแบคฮยอนก็ปริปากถาม เขาคนนั้นเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนที่จะหลุดขำเบา ๆ
“คนที่ช่วยชีวิตพวกพี่ไงครับ”
“ช่วยตอบให้ตรงคำถามหน่อย”
“อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิครับ เชิญนั่งก่อน ๆ”
เขายิ้มร่าพร้อมกับลากเก้าอี้สองตัวมาวางไว้ตรงหน้าพวกผม แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะจ้องหน้าเขาคนนั้นเขม็ง
“. . .”
ผมสะกิดแบคฮยอนแล้วมองไปทางเก้าอี้เป็นเชิงให้นั่งตามที่เขาบอก
เราจะทำอะไรไปได้มากกว่านั่งล่ะจริงมั้ย ?
“เอาล่ะ. . .ช่วยบอกพวกเราได้แล้วว่าคุณเป็นใครกันแน่ ?”
ผมกอดอกก่อนที่จะจ้องไปทางเขาที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัวตรงข้ามกับพวกผม
“ถามจริง ทำไมพวกพี่ชายถึงอยากรู้ว่าผมเป็นใคร ?”
“กวนโอ๊ย”
แบคฮยอนบ่นอุบอิบพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น
“ใครจะไม่สงสัยบ้างล่ะ คนที่มาช่วยชีวิตตัวเองยามคับขันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะอยากทำความรู้จักอย่างน้อยก็เพื่อจดจำ”
“โอ้. . .พี่ชายตัวสูงคนนี้เข้าใจพูดนะครับเนี่ย”
เขาลุกขึ้น ก่อนที่จะปรบมือแล้วเดินมาทางผม
ท่าทาง คำพูด สีหน้า ไม่น่าไว้ใจเลยซักนิด
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมเป็นคนไว้ใจได้ ”
เขายิ้ม ก่อนที่จะหันไปพูดทางแบคฮยอน
“ถ้าปืนนี้มีกระสุน ฉันจะยกมันขึ้นมาเป่าหัวแก”
“โห ทำไมพี่ชายตัวเล็กโหดจังล่ะครับ”
ว่าพลางชี้ไปที่ตัวเองสลับกับชี้ไปทางแบคฮยอน แบคฮยอนถลึงตาก่อนที่จะกระทืบเท้ากับพื้นท่าทางดูหงุดหงิดสุด ๆ
อย่าว่าแต่เขาเลย. . .
ผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ?
“แก. . .”
“สรุปช่วยตอบพวกเราด้วยว่าคุณคือใครกันแน่”
ผมกอดอกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นั่นทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าและแววตา ความเคร่งเครียดเริ่มปรากฏขึ้นมาให้ได้เห็น
“ผมน่ะหรอ ? นักศึกษา กับเด็กส่งหนังสือพิมพ์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ส่วนชื่อก็
โอ เซฮุนครับ J”
LOADING. . .
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ขอบคุณธีมสวย ๆจาก △ C R A Z E ˊ
เดี๋ยวนะ อยากถามมากว่า ทำไมรีดเดอร์บางคนหายตัวไป ?
หายไปไหน ? คือ รออ่านคอมเม้นของพวกแกอยู่นะเฮ้ย ! กลับมาๆ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกคอมเม้นจริงๆ ถึงมันจะน้อยลงๆก็ตามที #ฮา
พิมมาแค่บรรทัดเดียว ดิฉันก็เขินตัวบิดแล้วค่า ขอบคุณมากจริงๆที่เป็นกำลังใจให้กันเนอะ
บ่นยาวไม่น่ามีใครอ่านต้องเน้นตัวแดงซะแล้วจะได้อ่านกัน 555555555
เอาเป็นว่าตอนนี้มันไม่ค่อยอะไร แต่มีคนใหม่เข้ามา เอาเป็นว่ารออ่านกันต่อด้วยนะโอเคมั้ย ?
ขอเม้าท์กับคอมเม้น 29 -
|
- เหลือบไปมองเวลา โหดมากค่ะบ่องตง 555555 แต่เอาจริงๆแนะนำให้อ่านเวลาประมาณนี้จะกำลังดีเลยนะ
เปิดเพลงแบบจังหวะช้าๆคลอไปด้วยได้อารมณ์มากจริง ๆ
มีอะไรจะบอกกล่าวกันบอกมาเลย เดี๋ยวเราจะตอบให้ ฮ่า ๆ เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนบ่นเยอะไปก็ไม่ดี
ฝันดีซียูนะขรั่บ
ความคิดเห็น