ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) AWAKE & ALIVE.

    ลำดับตอนที่ #4 : 3 CHANGE | Escape

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 56


    DEAD,ALIVE or UNDEAD ?

    JUST CHOOSE

    3 | หนี








    *เนื้อหาของตอนนี้ค่อนข้างแฟนตาซีแต่ไม่ตระการตา
    ผู้อ่านควรใช้จักรยานในการอ่าน




    เนื่องด้วยการเสียชีวิตของตัวละครหลัก ปาร์ค ชานยอล
    ทำให้ไม่สามารถดำเนินเรื่องต่อไปได้
    จึงขอตัดจบ ฟิคเรื่อง AWAKE & ALIVE แต่เพียงเท่านี้
    สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ. . .



    ถุยยยยยยย !
    ล้อเล่นนะตัวเอง 







     

     

    หมับ !’

    ผมเบิกตากว้างทันที่ที่มือบางของใครบางคนเอื้อมมาจับผมไว้ได้ทันก่อนที่ผมจะตกลงไป

    “เป็นอะไรรึเปล่า !?”

    อา. . .ขอบคุณนะแบคฮยอน

    ปรากฏว่าเป็นแบคฮยอนที่มาช่วยผมเอาไว้ เขาค่อย ๆ จับผมเต็มสองมือก่อนที่จะออกแรงดึงผมขึ้นมา

    “ขอบคุณนะ. . .แฮ่ก แฮ่ก”

    ตอบขอบคุณไปอย่างกระหืดกระหอบ นี่เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนช่วยชีวิตของผมเอาไว้

    “นายทำได้ดีมากเลยนะชานยอล. . .”

    แบคฮยอนยิ้มพร้อมกับตบบ่าของผมเบา ๆ “เอาล่ะ. . .รีบไปกันเถอะ”

    “อื้อ”

    แบคฮยอนเอื้อมมือมาจ่อที่หน้าของผม ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะยกมือขึ้นมาจับมือเขาเอาไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะออกแรงดึงให้ผมที่นั่งหอบอยู่ลุกขึ้น

     

    “เอาล่ะ. . .พร้อมนะ ?”

    แบคฮยอนหันมาถามผม มือของเขาคว้าลูกบิดประตูเอาไว้และเตรียมที่จะเปิดมันออก

    “เจ้าพวกข้างนอกนั่น. . .ถ้านายจำเป็นจะต้องฆ่าละก็. . .”

    “อืม”

    ผมพยักหน้าลงเบา ๆ พร้อมกับหยิบไม้เบสบอลมาถือไว้ในมือ แบคฮยอนมองหน้าผมด้วยแววตาเชื่อมั่น

    “เอาละนะ. .”

     

    1

     

    2

     

    3

     

    !

    แอ๊ด. . .ดด

    ประตูถูกเปิดออก ผมกับแบคฮยอนถอยห่างออกมาเล็กน้อยและสิ่งที่ผมกับเขาได้เจอก็เป็นไปตามคาด

    พวกมันยังยืนรออยู่ที่หน้าประตู

     

    2 ตัว. . .

     

    ปั่ก !’

    ไม้เบสบอลในมือของผมฟาดลงไปที่กะโหลกของร่างที่ยืนอยู่หน้าประตู ก่อนที่มันจะล้มลงไปนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ส่วนแบคฮยอนก็เอากระบอกปืนฟาดหัวอีกร่างจนกะโหลกบุบ

     

    “นายต้องเล็งไปที่หัวของมัน”

    แบคฮยอนหันมาพูดกับผม ก่อนที่จะใช้เท้ายันร่างอีกร่างให้ล้มลง แล้วเอากระบอกปืนฟาดลงไปอีกครั้ง ผมพยักหน้ารับเบา ๆ แล้วจัดการหวดไม้เบสบอลไปอีกรอบ

    เลือดสีแดงสุดไหลอาบนองเต็มพื้นทางเดิน ไม่เพียงเท่านั้นทั้งไม้เบสบอล ทั้งกระบอกปืนของพวกผมก็ชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงสดนั่น

    ในความเป็นจริงแล้วนี่มันก็ไม่ต่างอะไรเลยจากการ ฆ่าคน แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆแล้ว ณ ตอนนี้ กฎ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรต่อไปอีกแล้ว

     

    ผมกับแบคฮยอนเราวิ่งไปที่ทางหลังคอนโด ซึ่งมันก็เป็นไปตามที่แบคฮยอนวางแผนไว้ ตรงทางเดินนี้แทบจะไม่มีร่างไร้วิญญาณที่หิวกระหายหรือแม้แต่อะไรเลยซักอย่าง ดูเหมือนว่ามันจะตรงไปยังที่ๆผมจุดประทัดไว้แล้วแน่ ๆ

     

    “ชานยอล ทางนี้ !

    “อ. . .เอ๋ ? ไม่ลงบันไดหรอกหรอ”

    แบคฮยอนกวักมือเรียกผม ขณะที่ผมกำลังจะหักเลี้ยวลงบันได

     

    “ถ้าใช้บันไดมีหวังได้เจอกับไอ้พวกข้างล่างกันพอดีน่ะสิ”

    “แต่ลิฟต์มันใช้ไม่ได้นี่ ?”

    “ลิฟต์หลังคอนโดยังใช้ได้อยู่นะ มอเตอร์ปั่นไฟยังทำงาน”

    แบคฮยอนว่าจบก็จัดการกดนิ้วลงไปที่ปุ่มลิฟต์ เลขระบุชั้นค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ ผมกับแบคฮยอนยืนรอให้ลิฟต์มาถึงอย่างรู้สึกรีบเร่ง

     

    ติ๊ง !’

    ประตูลิฟต์ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ ผมกับแบคฮยอนเดินเข้าไปในลิฟต์พร้อม ๆ กัน

    ผมยังไม่รู้เลยว่า ถ้าผมกับเขาออกจากคอนโดแห่งนี้ไปได้แล้ว

    เราควรจะทำอะไรต่อไปดี. . .

     

     

     

     

     

     

     

    “. . .”

    หลังจากที่ผมกับแบคฮยอนใช้ลิฟต์ลงมาที่ชั้นล่างสุด โชคยังดีที่ลิฟต์ยังคงใช้ได้อยู่ไม่อย่างนั้นพวกผมอาจจะหาทางออกจาคอนโดนี้ได้ยากขึ้นก็ได้

     

    “ฉันว่า. . .เราไปหลบที่ป้อมตำรวจตรงนั้นกันก่อนดีกว่า”

    แบคฮยอนชี้นิ้วไปที่ป้อมตำรวจที่ตั้งอยู่ห่างจากคอนโดไปเพียงไม่กี่เมตร มันเป็นป้อมตำรวจเล็ก ๆ ซึ่งดูแล้วน่าจะเหมาะที่ผมกับเขาจะไปหลบอยู่ในนั้นซักพัก

     

    “โอเค”

    แบคฮยอนพยักหน้าลงเล็กน้อยหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากผม ก่อนที่จะวิ่งนำไป

    เราทั้งคู่พยายามวิ่งให้ได้เบาและเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมและแบคฮยอนวิ่งเลาะไปตามทางจนไปถึงป้อมตำรวจตามที่คิด

     

    “. . .”

    แบคฮยอนเปิดประตูป้อมตำรวจออก เขาถอยห่างออกมาเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ เขาไปเช็คความปลอดภัยข้างในนั้น

    ผมที่ยืนอยู่ข้างนอกก็มองไปตามทางรอบ ๆ . . .

     

    “ชานยอล”

    แบคฮยอนเรียกผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พร้อมกับกวักมือเรียกเมื่อเห็นว่าในนั้นปลอดภัยผมพยักหน้ารับก่อนที่จะก้าวขาเข้าไปแล้วจัดการปิดประตูล็อกกลอนอย่างแน่นหนา

     

    “เหนื่อย. . .ชะมัด”

    แบคฮยอนปิดเปลือกตาลงแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น ยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างเนือย ๆ หัวทุยของเขาพิงลงที่ผนัง

     

    “. . .”

    ผมทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ แบคฮยอน หันไปมองเขา

    อา. . .ใบหน้าของแบคฮยอนเปื้อนเลือดนิด ๆ คงจะเป็นเลือดจากตอนนั่นล่ะ ตอนที่เขาเอากระบอกปืนทุบหัวเจ้าพวกนั้น

     

    “. . .”

    ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าที่กางเกงของผมตรงกระเป๋ามันมีผ้าเช็ดหน้าสีขาวบางพับอยู่ ผมจัดการหยิบมันออกมาแล้วคลี่มันออก

    ผมเอื้อมมือไปเช็ดหน้าให้แบคฮยอนอย่างเบามือ พยายามเช็ดคราบเลือดออกจากใบหน้าเขาให้เบาที่สุด เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหลับไปแล้ว

     

              แต่มันไม่ใช่ เขาลืมตาขึ้นมาด้วยสายตาเหม่อลอย เขาดูไม่เหมือนกับแบคฮยอนคนก่อนที่ผมเจอในครั้งแรก

     

    “ถ้าคนเราสูญเสียสิ่งที่รักที่สุดในชีวิตไปแล้ว. . .นายคิดว่าเขาควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไร ?”

    แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะหันหน้ามามองผมด้วยแววตาสับสน

    “. . .เพื่อคนที่รักเขา”

    “ ? ”

    ผมตอบไปตามที่ใจคิด. . .

     

    “โลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ จากคนที่เคยรู้จักกัน จากคนที่ไม่เคยรู้จักกัน หรือจะใคร ๆ ก็ตามแต่ เขาจะปฏิบัติกับเราอย่างเท่าเทียม ไม่ต่างอะไรจากอาหาร. . .”

    “นายรับมันได้รึเปล่า ?”

    คำถามของเขาทำเอาผมถึงกลับกลืนน้ำลาย

     

    “ไม่. . .”

    ผมพูดเสียงสั่นพร้อม ๆ กับหลบสายตานิ่งเฉยของเขาที่มองมา

    “ผมรับไม่ได้ที่จะต้องเห็นคนตายนอนเกลื่อนกลาดด้วยสภาพเละเทะ ผมรับไม่ได้ที่จะต้องเห็นคนตายที่ไม่ตายเดินกันอยู่ให้ว่อน ผมรับไม่ได้ที่จะต้องฆ่าคนตายที่ไม่ได้ตายถึงแม้ว่ามันจะจำเป็นก็ตาม. . .”

    “. . .และอีกอย่าง ผมรับไม่ได้ถ้าผมจะต้องฆ่าคนที่เคยรู้จัก ด้วยน้ำมือของผมเองถ้าเขาเกิดเปลี่ยนขึ้นมาจริง ๆ. . .”

     

    แบคฮยอนไม่พูดอะไรตอบกลับมา เขาเพียงแค่คลียิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะหลับตาลงเหมือนเดิม

    “พักก่อนดีกว่านะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่อีกที. . .”

    เขาพูดขึ้นทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาอยู่

     

    จะว่าไปผมว่าวันนี้มันก็มากพอแล้วล่ะ. . .

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แกร่ก. . .แกร่ก. . .แกร่ก

     

    “อือ. . .”

    ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา อา. . .นี่ผมหลับไปนานเท่าไหร่กันเนี่ย

     

    ผมมองไปที่ข้าง ๆ รู้สึกเหมือนหนัก ๆ ที่ไหล่. . .

     

    “. . .”

    แบคฮยอนยังคงหลับสนิทโดยที่เอาหัวทุยมาพิงที่ไหล่ของผม. . .

     

     

    แกร่ก แกร่ก แกร่ก

    เสียงที่ดูเหมือนเป็นอะไรบางอย่างกำลังขูดกับกระจกดังขึ้นกระทบหู ผมรีบกวาดตามองไปรอบ ๆ ตัว

     

    “. . .”

    ภาพตรงหน้าทำขนของผมลุกชัน ก่อนที่เหงื่อใสๆจะเริ่มผุดขึ้นมา ปากของผมสั่นระริกๆอย่างช่วยไม่ได้ ผมรีบสะกิดแบคฮยอนที่หลับใหลอยู่ให้ตื่นอย่างรีบร้อน

     

    “อือ. . .มีอะไรหรอ ?”

    แบคฮยอนลืมตาขึ้นช้า ๆ ก่อนที่จะยกมือขึ้นมาขยี้ตาอย่างสะลึมสะลือ

     

    “. . .บอกฉันทีว่ามันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ?”

    “หืม ?”

    ผมเอ่ยถามแบคฮยอนสั้น ๆ แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะพยุงตัวลุกขึ้น

     

    “. . .บ. .บ้าหน่า”

    ทั้ง ๆ ที่ในนี้ไม่ร้อนมากแท้ ๆ แต่ทั้งผมและแบคฮยอนพวกเราต่างก็มีเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด

    “แบบนี้ไม่ดีแน่”

    “ทำไม. . .?”

    “มันจะเข้ามา”

    แบคฮยอนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ก่อนที่จะคว้าปืนออกมาถือไว้

     

    “เหมือนพวกมันจะได้กลิ่น. . .หรือจะอะไรก็ตามแต่ แต่ที่ฉันรู้. . .มันกำลังพยายามที่จะเข้ามา”

    “มันอาจจะต้องใช้เวลาซักหน่อยเพราะกระจกของป้อมตำรวจค่อนข้างหนา”

    ผมพยายามพูดอย่างใจเย็นมากที่สุด

     

    แต่จะให้มาใจเย็นก็คงไม่ได้หรอก ในเมื่อตอนนี้ไอ้เจ้าสิ่งที่เรียกว่าผีดิบซอมบี้หรืออะไรก็ตามแต่นับสิบกำลังมารุมกันอยู่ที่ป้อมตำรวจแห่งนี้

     

    “เราต้องออกจากที่นี่”

    “ออกจากที่นี่ ?”

    แบคฮยอนมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน ผมถามย้ำเขาอีกครั้ง เพราะว่าการจะออกไปจากที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย

    “ใช่สิ ! ขืนถ้ายังอยู่ในนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากการรอความตายหรอกน่า”

     

    ซ. . .ซ . . .ซ่า

    ในขณะที่ผมกับแบคฮยอนกำลังจะหาทางออกไปจากที่นี่ อยู่ดี ๆ วิทยุสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะของป้อมตำรวจก็เกิดมีเสียงขึ้นมา

    “. . .”

    เราทั้งคู่เงียบปากก่อนที่จะเบนความสนใจทั้งหมดไปที่วิทยุนั่น

     

    ฮ. . .เฮ้

    เสียงของใครซักคนดังผ่านมาจากวิทยุสื่อสาร ผมรีบเดินเข้าไปคว้ามันมาก่อนที่จะเอามาไว้ใกล้ตัว ขมวดคิ้วอย่างสงสัยเล็กน้อย ก่อนที่จะรอฟังต่อ

     

    ในนั้นสบายดีรึเปล่า ?

    “แกเป็นใคร ?!

    น้ำเสียงกวนๆถูกส่งผ่านมาพร้อมกับคำถามที่ไม่ควรถามเลยซักนิด นั่นทำให้แบคฮยอนถึงกับหงุดหงิดขึ้นมา

     

    ใจเย็นก่อนพี่ชาย ๆ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จา

    “คุณเป็นใคร ?”

    ผมรีบเอ่ยถามตัดหน้าแบคฮยอนที่ดูเหมือนตอนนี้ฟิวส์ใกล้จะขาดเต็มที

     

    ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สำคัญก็ตรงที่ว่าพวกพี่ชายกำลังจะโดนเจ้าพวกหิวโซนั่นเขมือบ

    “. . .”

    ผมจะช่วยพวกพี่ชายออกมาจากป้อมนั่น สนใจมั้ยล่ะครับ ?

    “นาย. .?”

     ‘รีบ ๆ ตอบเถอะครับว่า ตกลง หรือ ไม่ตกลง เพราะถ้ายังดึงดันไม่ตอบคำถามแบบนี้ ไอ้เจ้าพวกหิวโซข้างนอกมันจะเข้าไปขย้ำพวกพี่ตายซะก่อนนะ

    “ตกลง”

    “. . .”

    ตอนนี้ผมน่ะอยู่ ณ จุดที่เห็นพวกพี่สองคนได้อย่างชัดเจน และตอนนี้ผมก็เห็นด้วยว่ามีเจ้าพวกหิวโซที่ต้องการจะกินพวกพี่อยู่ประมาณ. . .สิบ เอ๊ะ. . .ยี่สิบได้

    “นี่คิดจะกวนรึไงกันเนี่ย. . .”

    แต่ผมจะเสนอวิธีนี้ให้พวกพี่ ผมจะเบนความสนใจของพวกมัน โอกาสนั้นขอให้พวกพี่วิ่งออกมาจากป้อมนั่นให้ได้ วิ่งตรงมาทางร้านขายหนังสือตรงหัวมุมทิศตะวันออกนั่น แล้วเลี้ยวเข้ามาในตรอกแคบ ๆ ผมจะรอพวกพี่อยู่. . .ที่นั่น

    ซ. . .ซ . .ซ่า

    สิ้นสุดประโยคนั้นสัญญาณวิทยุก็หายไปทันที ผมหันหน้ามองแบคฮยอน แบคฮยอนพยักหน้าให้ผมเป็นเชิงยืนยัน

    “ไปกันเถอะ”

     

    ตูมมมม !’

    เสียงระเบิดที่ดังขึ้นทางทิศตะวันตกไม่ไกลจากป้อมตำรวจนี้นักดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มควันโขมงที่พวยพุ่ง เจ้าพวกข้างนอกดูเหมือนจะให้ความสนใจกับมันอยู่ไม่น้อยเลย พวกมันต่างแห่กันไปที่ทางต้นเสียงนั่นจนเกือบจะหมด

    “ไป !

    ผมยกเท้าขึ้นมาถีบประตูให้เปิดออก ก่อนที่วิ่งออกมาจากป้อมตำรวจพร้อม ๆ กับแบคฮยอน

    ปัง !’

    ไกปืนถูกเหนี่ยวก่อนที่ลูกกระสุนจะพุ่งไปยังศพเดินได้ที่กำลังเดินเข้ามาขวางหน้าพวกผม

    “ทางนี้”

    ผมชี้ไปทางตรอกเล็กที่อยู่ข้าง ๆ กับร้านหนังสือ โชคยังดีที่ผีดิบหิวโซ ณ ตรงนี้มีไม่มาก แบคฮยอนวิ่งเข้าไปในตรอกนั่น ก่อนที่ผมจะวิ่งตามเขาไป

    อือออออออ

    เสียงอะไรบางอย่างลอยเข้ามาเตะหู ผมหันหลังกลับไปมองตรงทางที่เพิ่งจะวิ่งหนีมา พวกมันวิ่งตามพวกผมมาเป็นฝูง. . .

    ให้ตายเถอะ

     

    “ทางตัน !

    เสียงของแบคฮยอนดังขึ้น ทำให้ผมหันกลับไปมองทางข้างหน้า ใช่แล้วครับ ทางตัน ไม่มีทางให้พวกเราวิ่งต่อไปได้อีกแล้ว

     

    ผมกับแบคฮยอนหันหลังถอยจนชิดกำแพง ในขณะที่เจ้าพวกหิวโซนั่นก็กำลังวิ่งแห่เข้ามาใกล้พวกผมเป็นกองทัพ

    นี่ผม. . .โดนหลอกงั้นหรอ ?

    “นี่อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นลากพวกเรามาทางตันนี่เพื่อให้พวกเราตาย. . .”

     

    “อย่ามองผมเลวแบบนั้นสิครับพี่ชาย

    ทันทีที่แบคฮยอนพูดจบอย่างร้อนรน เสียงของใครซักคนที่ผมไม่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาจากด้านบน

     

    “. .นาย”

    “รีบขึ้นมาก่อนสิครับพี่ชาย เร็ว !

    ผมแหงนหน้าขึ้นมาไปข้างบน ก็ต้องพบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุก็คงจะไล่เลี่ยกับผมและแบคฮยอน ผมสีเทาควันบุหรี่กับผิวเนียน กำลังห้อยตัวลงมาโดยใช้บันไดลิง . . .เขาเป็นใครกันแน่ ?

     

    “เร็วครับเร็ว !

    เข้าเอื้อมมือมาจับแบคฮยอน แบคฮยอนพยุงตัวขึ้นไปจับบันไดลิงไว้ได้ก่อนที่จะปืนขึ้นไป

    “ชานยอลเร็ว !

    เขาหันหลังกลับมาเอื้อมมือจับผม ก่อนที่จะออกแรงดึง ผมพยายามพยุงตัวคว้าจับบันไดลิงไว้ได้ทันหวุดหวิด

     

    หมับ !’

    มือแห้งกร้านคว้าจับเข้าที่ข้อเท้าของผมเต็มแรง นั่นทำเอาผมถึงกับใจหล่นวูบ

     

    “เฮ้ย !

    ผมร้องออกมา ก่อนที่จะสะบัดขาเต็มแรง ซึ่งมันก็ไม่ได้ผลมือนั่นยังคงจับที่ขาของผมแน่น

     

    “ให้ตาย. . .เถอะ !

    แบคฮยอนรีบหยิบปืนขึ้นมา ใช้มือข้างหนึ่งถือปืนกับอีกข้างที่จับบันได้ไว้แน่น ก่อนที่จะเหนี่ยวไกปืนยิงเข้ากลางหัวของเจ้าตัวที่จับขาของผมเอาไว้ ก่อนที่มันจะล้มลง

     

    ผม แบคฮยอน รวมถึงเขาคนนั้น ค่อย ๆ ปืนบันไดลิงขึ้นไปจนถึงหน้าต่างชั้นบนของอาคารแห่งหนึ่ง

    “ค่อย ๆ ครับ”

    เขาคนนั้นกระโดดเข้าไปในตัวห้อง ก่อนที่จะหันหลังมาดึงแบคฮยอน แล้วจัดการดึงผมเข้ามาอีกคนอย่างระมัดระวัง

     

    “โอย. . .เหนื่อยชะมัดเลย,เกือบไม่รอดแล้ว”

    เขาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อ

     

    “. . .”

    ผมกับแบคฮยอนได้แต่ยืนเงียบก่อนจะมองเขาคนนั้นที่มีท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยซักนิด

    “นั่งก่อนเถอะครับพี่ชายทั้ง 2

    เขาหันมายิ้มให้พวกผม ยิ้มเพียงแค่มุมปาก

    รอยยิ้มแบบนั้นทำผมใจไม่ดีเลย

     

    “. . .นายเป็นใคร ?”

    สุดท้ายแบคฮยอนก็ปริปากถาม เขาคนนั้นเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนที่จะหลุดขำเบา ๆ

    “คนที่ช่วยชีวิตพวกพี่ไงครับ”

    “ช่วยตอบให้ตรงคำถามหน่อย”

    “อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิครับ เชิญนั่งก่อน ๆ”

    เขายิ้มร่าพร้อมกับลากเก้าอี้สองตัวมาวางไว้ตรงหน้าพวกผม แบคฮยอนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะจ้องหน้าเขาคนนั้นเขม็ง

     

    “. . .”

    ผมสะกิดแบคฮยอนแล้วมองไปทางเก้าอี้เป็นเชิงให้นั่งตามที่เขาบอก

    เราจะทำอะไรไปได้มากกว่านั่งล่ะจริงมั้ย ?

     

    “เอาล่ะ. . .ช่วยบอกพวกเราได้แล้วว่าคุณเป็นใครกันแน่ ?”

    ผมกอดอกก่อนที่จะจ้องไปทางเขาที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้อีกตัวตรงข้ามกับพวกผม

     

    “ถามจริง ทำไมพวกพี่ชายถึงอยากรู้ว่าผมเป็นใคร ?”

    “กวนโอ๊ย”

    แบคฮยอนบ่นอุบอิบพร้อมกับหันหน้าไปทางอื่น

     

    “ใครจะไม่สงสัยบ้างล่ะ คนที่มาช่วยชีวิตตัวเองยามคับขันแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะอยากทำความรู้จักอย่างน้อยก็เพื่อจดจำ”

    “โอ้. . .พี่ชายตัวสูงคนนี้เข้าใจพูดนะครับเนี่ย”

    เขาลุกขึ้น ก่อนที่จะปรบมือแล้วเดินมาทางผม

     

    ท่าทาง คำพูด สีหน้า ไม่น่าไว้ใจเลยซักนิด

     

    “ไม่ต้องห่วงครับ ผมเป็นคนไว้ใจได้ ”

    เขายิ้ม ก่อนที่จะหันไปพูดทางแบคฮยอน

     

    “ถ้าปืนนี้มีกระสุน ฉันจะยกมันขึ้นมาเป่าหัวแก”

    “โห ทำไมพี่ชายตัวเล็กโหดจังล่ะครับ”

    ว่าพลางชี้ไปที่ตัวเองสลับกับชี้ไปทางแบคฮยอน แบคฮยอนถลึงตาก่อนที่จะกระทืบเท้ากับพื้นท่าทางดูหงุดหงิดสุด ๆ

     

    อย่าว่าแต่เขาเลย. . .

    ผมก็หงุดหงิดเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ?

     

    “แก. . .”

    “สรุปช่วยตอบพวกเราด้วยว่าคุณคือใครกันแน่”

    ผมกอดอกแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง นั่นทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าและแววตา ความเคร่งเครียดเริ่มปรากฏขึ้นมาให้ได้เห็น

    “ผมน่ะหรอ ? นักศึกษา กับเด็กส่งหนังสือพิมพ์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ส่วนชื่อก็

     

     

     

     

     

    โอ เซฮุนครับ J


     

    LOADING. . .
     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -  
    ขอบคุณธีมสวย ๆจาก △ C R A Z E ˊ

    เดี๋ยวนะ อยากถามมากว่า ทำไมรีดเดอร์บางคนหายตัวไป ?
    หายไปไหน ? คือ รออ่านคอมเม้นของพวกแกอยู่นะเฮ้ย ! กลับมาๆ
    ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกคอมเม้นจริงๆ ถึงมันจะน้อยลงๆก็ตามที #ฮา
    พิมมาแค่บรรทัดเดียว ดิฉันก็เขินตัวบิดแล้วค่า ขอบคุณมากจริงๆที่เป็นกำลังใจให้กันเนอะ
    บ่นยาวไม่น่ามีใครอ่านต้องเน้นตัวแดงซะแล้วจะได้อ่านกัน 555555555
    เอาเป็นว่าตอนนี้มันไม่ค่อยอะไร แต่มีคนใหม่เข้ามา เอาเป็นว่ารออ่านกันต่อด้วยนะโอเคมั้ย ?

    ขอเม้าท์กับคอมเม้น 29 - 



     
    Name : O'HIZOE l 94LINE< My.iD > ดูเน็ตเวิร์คอื่นๆ ของ O'HIZOE l 94LINE [ IP : 223.206.119.200 ] 
    Email / Msn: - ส่งข้อความลับ
    วันที่: 18 เมษายน 2556 / 00:47

    - เหลือบไปมองเวลา โหดมากค่ะบ่องตง 555555 แต่เอาจริงๆแนะนำให้อ่านเวลาประมาณนี้จะกำลังดีเลยนะ
    เปิดเพลงแบบจังหวะช้าๆคลอไปด้วยได้อารมณ์มากจริง ๆ

    มีอะไรจะบอกกล่าวกันบอกมาเลย เดี๋ยวเราจะตอบให้ ฮ่า ๆ เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนบ่นเยอะไปก็ไม่ดี

     ฝันดีซียูนะขรั่บ
    △ C R A Z E  ˊ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×