ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter5:: จะรักเธออย่างนี้และตลอดไป
    ‘เธอ
คือคนที่เปลี่ยน เขา’
    ‘หญิงออโรล่า ฮอกเฟร์ เดอะ พริ้นเซส ออฟ โฮมอส’(ปามานว่าเสียง เอคโค่ ในหัวของ อิลเล็กทิส)
    เมื่อบุรุษซึ่งเป็นบิดาหันมามองก็รู้สึกถึงอากานผิดปรกติของบุตรชาย จึงกล่าว กระเซ้า เป็นเชิงล้อ
    “อย่าบอกนะว่า ตกหลุมรัก เจ้าหญิง ออโรล่า ธิดาแห่ง กษัตรย์ โฮมอส ซะแล้วน่ะ”
    “ใช่ที่ไหนละ นางเป็นนางไม้นะ! เด็กชายเอ่ยเสียงแข็ง เพื่อเปลี่ยนเรื่อง
    “เอาเรอื่งเหลวไหลที่ไหนมาพูด”
    สิ้นคำกล่าของบิดาทำให้เด็กชาย นิ่ง อึ้ง ตะลึง พูดไม่ออก นัยน์ตาสีฟ้า เบิกกว้าง หันไปทางเจ้าหญิงคนสำคัญแล้วหันกลับมาจ้องหน้า ผู้เป้นพ่อใหม่อีกครั้ง ก่อนจะหุบปากลง และใช้ความคิดอย่างหนักเลือก ตอบเรื่องที่พอจะตอบได้
    “มีคนว่า ว่า ควีน เอเลนน่า เป็นนางไม้ จริงรึเปล่าท่านพ่อ แล้วนางไม้ ”
    พูดยังไม่ทันจบ เสียงหัวเราะได้ระเบิดออกมาจากบุรุษซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ผู้ที่เก่งที่สุดในจอมเวชทั้งสี่แห่ง แอลเลสเทีย  จอมเวชหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
    “เจ้าก็ได้ข่าวลือมาเหมอืนกันหรอ ที่บอกว่า เป็นนางไม้น่ะ เขาไว้เปรียบเทียบความสวยของ ควีนเอเลนน่า กับนางไม้หรอก เข้าใจสุภาษิตที่ว่า สวยดั่งนางไม้ไหม๊ ”
    บุตรชายของบุรุษที่เพิ่งระเบิดเสียงหัวเราะ อ้าปากกว้างยิ่งขึ้น เมอื่นรู้ว่า เจ้าหญิงตรงหน้านั้นแสนจะขี้เล่น แต่ไม่นึกว่าจะเอาเรอื่งนี้มาล้อเล่นกับ มารดาของตน จอมเวชจึงกล่าวออกมา
    “ลูกก็เรียนจากตำราที่พ่อสอนแล้วนี่ นางไม้เป็นสิ่งมีชีวิตลี้ลับ ที่ยามต้องแสงอาทิตจะยั่งรากลงผืนดิน เป็น พฤษาให้ความร่มเย็น แต่ครั้น แสงราตรีผ่านมา ก็จะกลับร่างเป็น หญิงสาวรูปโฉมงดงาม เพราะงั้นถึงอยู่กับมนุษย์ไม่ได้”
    เมื่อได้ยินดั่งนี้ หน้าดุจึงถูกส่งไปให้เจ้าหญิงคนสำคัญอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว พระบารมีของ คิง อีลิกผู้เป็นบิดาของหล่อน เจ้าหญิงคนสำคัญก็ไม่แสดงท่าทีรู้สึกผิดแต่อย่างใดกลับแย้มรอยยิ้ม ซึ่งทำให้คนกำลังทำหน้าดุหมดอารมที่จะโกรธต่อ เห็นดังนั้น เจ้าหญิงคนงามก็สาวท้าวมายัง นักเวชฝึกหัด
    “งานเต้นรำจะเริ่มขึ้นแล้ว จะขอฉันเต้นรำรึเปล่า” เสียงหวานเอ่ย
    ทว่าเด็กชายยังตีหน้าครึมแต่ดุยิ่งขึ้นเมือสังเกตเห็นร่างของชายอื่นกำลังเดินเข้ามาขอเต้นรำเจ้าหญิงที่รัก สายตาดุๆที่แม้คนที่อายุมากกว่าเห็นก็ยังย่ำเกรง ถูกส่งไปให้หนุ่มรอบข้างอย่างถือสิด จึงไม่มีไคคิด(บังอาจ)เข้ามาขอ เจ้าหญิงคนสำคัญเต้นรำแต่อย่างใด แต่เด็กสาวกลับไม่เข้าใจ
    “ถ้าอิลไม่ขอ ฉันจะไปเต้นกับ ท่านพี่อลัน ”
    หน้าหวานๆบัดนี้งอ สนิดเมื่อคำขอเต้นรำไม่ถูกกล่าวจากปากของ เด็กชายนาม อิลเล็กทิส ราอูล ทำให้เจ้าของเรือนผมสีเทา รีบโค้งและผายมือออกเป็นคำเชิญทันทีเด็กทั้งสองเต้นรำกันอยู่ซักพัก แต่ใบหน้าของ อิลเล็กทิสยังไม่หายดุ เนืองด้วย สายตาของหนุ่มหลายๆคนจ้องมาทางหญิงที่รักอย่างไม่หยุดหยอน โดยที่เด็กชายหารู้ไม่ว่านั้นเรียกว่า “ความหึง”
    “อิล โกรธฉันหรอ”
    “หา ”
    “ก็เห็นทำหน้าตาน่ากลัวตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่อยากเต้นรำกับฉันขนาดนั้นเรยหรอ”
ใบหน้าของเด็กชายออกชมพูระรื่น เมื่อนึกถึงเหตุผลที่เขาทำหน้าดุ พร้อมคิดแผนแกล้งเจ้าหญิงคนดีออก
    “ใช่ เคือง”
    ได้ผลจังงัง นัยน์ตาสีทับทิบ หุบลงอย่างรู้สึกผิด ซึมลงอย่างถนัดตา แม้จะสะใจอยู่เล็กๆแต่ ก็สร้างความกัลวลให้กับคนขี้ใจอ่อนอย่างเขาก่อนเอ่ยคำแก้ตัว
    “ป่าว ไม่ได้โกรธเธอ อย่างเธอถึงโกรธฉันโกรธไม่ลงหรอก”
    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาจองนัยน์ตาสีฟ้าของเขาอย่างจริงใจ
    “จริงหรอ”
    “อืม แต่เธอตอบคำถามฉันคำถามนึงได้ไหม”
    “ได้สิ สิบคำถามก็ยังได้”
    “เธอเป็นมนุษย์?”
    เจ้าหญิงนิ่งเงียบก่อนพยักหน้าแทนคำตอบและยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเมื่อได้แกล้งคนสำเร็จ เด็กชายมองอย่างมั่นไส้เล็กน้อยก่อนนะนึกประโยคนึงที่ทำให้ใบหน้าเขาขึ้นสี
    ‘ถ้าเธอเป็น มนุษย์ ฉันก็อาจรักเธอได้’
    ‘และในตอนนี้เธอก็เป็นมนุษย์ แท้ๆโดยสายเลือดซะด้วย’
    “ทำไมถึงปิดบัง บอกก่อนนะว่าถ้าไม่ใช่เหตุผลดีๆฉันโกรธจิงๆด้วย”
    “มีคนปองร้าย ราชวงศ์ฉันตลอดเวลา พอๆกับที่มีคนเคารพรักนี่”
อิลเล็กทิสได้ฟังก็ ถอนหายใจอย่างเคยชินตามนิสัยเดิมของเขา ก่อนจะนิ่งเงียบ เหมอืนคิดอะไรบางอย่าง
    “งั้นฉันจะปกป้องเธอเอง”
    “แต่ อิลเป็นจอมเวชฝึกหัดนะ”
    “ งั้นฉันสัญญา เมื่อโตขึ้นฉันจะฝึกตนให้เป็นจอมเวชที่เก่งกาจอย่างท่านพ่อ เพื่อปกป้องเธอจากทุกคนที่ปองร้ายเธอ”
    “งั้นฉันสัญญาด้วย ถ้าอิลสามารถทำอย่างที่พูดละก็ ฉันจะยอมเป็นเจ้าสาวของ อิลเล็กทีส”
    สิ้นเสียงหวานเอ่ย ร่างเล็กก็กระโดดกอดคอ คนที่สูงกว่า(เล็กน้อย)ตรงหน้า คนตัวสูงแทบเข่าอ่อน เมื่อรับสัมผัสจากคนตรงหน้าเพียงแต่เกรงว่าถ้าล้มลงคนตรงหน้าอาจได้รับบาเจ็บจึงจำยอมยืนรับกอดแต่โดยดี
    ‘ฉันรักเธอนะ ออโรล่า จะรักเธออย่างนี้ตลอดไป’
    ‘หญิงออโรล่า ฮอกเฟร์ เดอะ พริ้นเซส ออฟ โฮมอส’(ปามานว่าเสียง เอคโค่ ในหัวของ อิลเล็กทิส)
    เมื่อบุรุษซึ่งเป็นบิดาหันมามองก็รู้สึกถึงอากานผิดปรกติของบุตรชาย จึงกล่าว กระเซ้า เป็นเชิงล้อ
    “อย่าบอกนะว่า ตกหลุมรัก เจ้าหญิง ออโรล่า ธิดาแห่ง กษัตรย์ โฮมอส ซะแล้วน่ะ”
    “ใช่ที่ไหนละ นางเป็นนางไม้นะ! เด็กชายเอ่ยเสียงแข็ง เพื่อเปลี่ยนเรื่อง
    “เอาเรอื่งเหลวไหลที่ไหนมาพูด”
    สิ้นคำกล่าของบิดาทำให้เด็กชาย นิ่ง อึ้ง ตะลึง พูดไม่ออก นัยน์ตาสีฟ้า เบิกกว้าง หันไปทางเจ้าหญิงคนสำคัญแล้วหันกลับมาจ้องหน้า ผู้เป้นพ่อใหม่อีกครั้ง ก่อนจะหุบปากลง และใช้ความคิดอย่างหนักเลือก ตอบเรื่องที่พอจะตอบได้
    “มีคนว่า ว่า ควีน เอเลนน่า เป็นนางไม้ จริงรึเปล่าท่านพ่อ แล้วนางไม้ ”
    พูดยังไม่ทันจบ เสียงหัวเราะได้ระเบิดออกมาจากบุรุษซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ผู้ที่เก่งที่สุดในจอมเวชทั้งสี่แห่ง แอลเลสเทีย  จอมเวชหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
    “เจ้าก็ได้ข่าวลือมาเหมอืนกันหรอ ที่บอกว่า เป็นนางไม้น่ะ เขาไว้เปรียบเทียบความสวยของ ควีนเอเลนน่า กับนางไม้หรอก เข้าใจสุภาษิตที่ว่า สวยดั่งนางไม้ไหม๊ ”
    บุตรชายของบุรุษที่เพิ่งระเบิดเสียงหัวเราะ อ้าปากกว้างยิ่งขึ้น เมอื่นรู้ว่า เจ้าหญิงตรงหน้านั้นแสนจะขี้เล่น แต่ไม่นึกว่าจะเอาเรอื่งนี้มาล้อเล่นกับ มารดาของตน จอมเวชจึงกล่าวออกมา
    “ลูกก็เรียนจากตำราที่พ่อสอนแล้วนี่ นางไม้เป็นสิ่งมีชีวิตลี้ลับ ที่ยามต้องแสงอาทิตจะยั่งรากลงผืนดิน เป็น พฤษาให้ความร่มเย็น แต่ครั้น แสงราตรีผ่านมา ก็จะกลับร่างเป็น หญิงสาวรูปโฉมงดงาม เพราะงั้นถึงอยู่กับมนุษย์ไม่ได้”
    เมื่อได้ยินดั่งนี้ หน้าดุจึงถูกส่งไปให้เจ้าหญิงคนสำคัญอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว พระบารมีของ คิง อีลิกผู้เป็นบิดาของหล่อน เจ้าหญิงคนสำคัญก็ไม่แสดงท่าทีรู้สึกผิดแต่อย่างใดกลับแย้มรอยยิ้ม ซึ่งทำให้คนกำลังทำหน้าดุหมดอารมที่จะโกรธต่อ เห็นดังนั้น เจ้าหญิงคนงามก็สาวท้าวมายัง นักเวชฝึกหัด
    “งานเต้นรำจะเริ่มขึ้นแล้ว จะขอฉันเต้นรำรึเปล่า” เสียงหวานเอ่ย
    ทว่าเด็กชายยังตีหน้าครึมแต่ดุยิ่งขึ้นเมือสังเกตเห็นร่างของชายอื่นกำลังเดินเข้ามาขอเต้นรำเจ้าหญิงที่รัก สายตาดุๆที่แม้คนที่อายุมากกว่าเห็นก็ยังย่ำเกรง ถูกส่งไปให้หนุ่มรอบข้างอย่างถือสิด จึงไม่มีไคคิด(บังอาจ)เข้ามาขอ เจ้าหญิงคนสำคัญเต้นรำแต่อย่างใด แต่เด็กสาวกลับไม่เข้าใจ
    “ถ้าอิลไม่ขอ ฉันจะไปเต้นกับ ท่านพี่อลัน ”
    หน้าหวานๆบัดนี้งอ สนิดเมื่อคำขอเต้นรำไม่ถูกกล่าวจากปากของ เด็กชายนาม อิลเล็กทิส ราอูล ทำให้เจ้าของเรือนผมสีเทา รีบโค้งและผายมือออกเป็นคำเชิญทันทีเด็กทั้งสองเต้นรำกันอยู่ซักพัก แต่ใบหน้าของ อิลเล็กทิสยังไม่หายดุ เนืองด้วย สายตาของหนุ่มหลายๆคนจ้องมาทางหญิงที่รักอย่างไม่หยุดหยอน โดยที่เด็กชายหารู้ไม่ว่านั้นเรียกว่า “ความหึง”
    “อิล โกรธฉันหรอ”
    “หา ”
    “ก็เห็นทำหน้าตาน่ากลัวตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่อยากเต้นรำกับฉันขนาดนั้นเรยหรอ”
ใบหน้าของเด็กชายออกชมพูระรื่น เมื่อนึกถึงเหตุผลที่เขาทำหน้าดุ พร้อมคิดแผนแกล้งเจ้าหญิงคนดีออก
    “ใช่ เคือง”
    ได้ผลจังงัง นัยน์ตาสีทับทิบ หุบลงอย่างรู้สึกผิด ซึมลงอย่างถนัดตา แม้จะสะใจอยู่เล็กๆแต่ ก็สร้างความกัลวลให้กับคนขี้ใจอ่อนอย่างเขาก่อนเอ่ยคำแก้ตัว
    “ป่าว ไม่ได้โกรธเธอ อย่างเธอถึงโกรธฉันโกรธไม่ลงหรอก”
    เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาจองนัยน์ตาสีฟ้าของเขาอย่างจริงใจ
    “จริงหรอ”
    “อืม แต่เธอตอบคำถามฉันคำถามนึงได้ไหม”
    “ได้สิ สิบคำถามก็ยังได้”
    “เธอเป็นมนุษย์?”
    เจ้าหญิงนิ่งเงียบก่อนพยักหน้าแทนคำตอบและยิ้มกว้างยิ่งขึ้นเมื่อได้แกล้งคนสำเร็จ เด็กชายมองอย่างมั่นไส้เล็กน้อยก่อนนะนึกประโยคนึงที่ทำให้ใบหน้าเขาขึ้นสี
    ‘ถ้าเธอเป็น มนุษย์ ฉันก็อาจรักเธอได้’
    ‘และในตอนนี้เธอก็เป็นมนุษย์ แท้ๆโดยสายเลือดซะด้วย’
    “ทำไมถึงปิดบัง บอกก่อนนะว่าถ้าไม่ใช่เหตุผลดีๆฉันโกรธจิงๆด้วย”
    “มีคนปองร้าย ราชวงศ์ฉันตลอดเวลา พอๆกับที่มีคนเคารพรักนี่”
อิลเล็กทิสได้ฟังก็ ถอนหายใจอย่างเคยชินตามนิสัยเดิมของเขา ก่อนจะนิ่งเงียบ เหมอืนคิดอะไรบางอย่าง
    “งั้นฉันจะปกป้องเธอเอง”
    “แต่ อิลเป็นจอมเวชฝึกหัดนะ”
    “ งั้นฉันสัญญา เมื่อโตขึ้นฉันจะฝึกตนให้เป็นจอมเวชที่เก่งกาจอย่างท่านพ่อ เพื่อปกป้องเธอจากทุกคนที่ปองร้ายเธอ”
    “งั้นฉันสัญญาด้วย ถ้าอิลสามารถทำอย่างที่พูดละก็ ฉันจะยอมเป็นเจ้าสาวของ อิลเล็กทีส”
    สิ้นเสียงหวานเอ่ย ร่างเล็กก็กระโดดกอดคอ คนที่สูงกว่า(เล็กน้อย)ตรงหน้า คนตัวสูงแทบเข่าอ่อน เมื่อรับสัมผัสจากคนตรงหน้าเพียงแต่เกรงว่าถ้าล้มลงคนตรงหน้าอาจได้รับบาเจ็บจึงจำยอมยืนรับกอดแต่โดยดี
    ‘ฉันรักเธอนะ ออโรล่า จะรักเธออย่างนี้ตลอดไป’
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น