ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Waiting::การรอคอยของรอยยิ้ม

    ลำดับตอนที่ #2 : Scene2:: แรกยิ้ม

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 48




        สองวันผ่านไปพวกเราทั้งห้า มี ฉัน ยานาเสะ คิคุกะ อาคามิยะ ซากิ อิจิกะ ฟูโกะ ซาซากิ ได และ พี่คามิซึ ไร ก็สนิทกันมากขึ้น

    ซากิเป็นคนขี้เล่นแต่ถ้าเป็นเรื่องเครียดหรือเรอื่งงานเขาก็มักจะจริงจังกับมันเสมอเอามือก่ายหน้าผาก คิ้วขมวด ทำหน้าเครียด ปากแบกโลกไว้ทั้งใบ ถึงกระนั้น ซากิก็ยังคงพูด ‘ผม’ หรือ ‘ครับ’ พอมีผู้ใหญ่เข้ามาก็จะวิ่งไปสวัดดี ซึ่งหาได้ยากแล้วในเด็กสมัยนี้ ฉันคิดเสมอว่าฉันก็แค่เอ็นดูซากิ




    จนกระทั่งพวกเราต้องเริ่มเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์โดยมีพี่ ไร ให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ เพราะจุดประสงค์ในการเข้าค่ายก็คือการแข่งหุ่นยนต์ คืนนั้นฟูโกะ เพื่อนของฉันไข้ขึ้นสูงมาก ฉันเลยต้องเขียนโปรแกรมคนเดียว จนพวกของซากิเขียนกันเสร็จแล้ว ความย้อท้อเริ่มโถมกระหน้ำ ความกลัวเริ่มคลืบคลาน ฉันเลยวิ่งออกนอกห้องคอม ฉันวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลินออกมาเป็นสาย พร้อมกับสายฝนที่ตกลงมาอย่างกระหนำ คิดเสมอว่า ฉันก็แค่กลัว กลัวที่จะอยู่คนเดียว กลัวถูกทอดทิ้งแบบที่โดนแฟนเก่าหักหลัง กลัวที่จะทำไม่ได้ ความทรงจำที่ไม่อยากจะนึกก็เริ่มผุดขึ้นมา ทำให้ฉันแทบอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายเสีย ณ ตรงนั้น หากฉันไม่ได้ยิน เสียงฝีเท้าที่วิ่งตามฉันมา ที่เรียกสติของฉันกลับคืนมา



        “พี่มาตากฝนทำไมเดี๋ยวไม่สบายแบบพี่ฟูโกะหรอก”



    เสียงของซากิดังขึ้นพร้อมกับเสียงลมหายใจที่แสดงออกซึ่งความเหนื่อยจากการวิ่งตามฉันมา ฉันหันไปมองเขาทั้งน้ำตา ภวนาให้เขาคิดว่าเป็นสายฝนที่ตกลงมากระทบบนใบหน้าฉันเท่านั้น



        “ซากิ..พี่..ขอไปห้องน้ำ”



    ฉันแก้ตัวแล้ววิ่งหลบหน้าซากิเพื่อไม่ให้เห็นน้ำตาที่มันไหลมาพร้อมกับสายฝน ฉันคิดว่าดีแล้วละเพราะฉันไม่ต้องการให้ใครมาเห็นน้ำตาของฉัน



    ฉันแกล้งเข้าห้องน้ำเพื่อไม่ให้ซากิสงสัยแล้วกะจะออกไปหลบอยู่คนเดียวพอออกจากห้องน้ำเท่านั้น ซากิวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ลากฉันไปทางห้องเขียนโปรแกรม ทันที



        “พี่! พี่คิคุครับห้องเขียนโปรแกรมไม่ได้ไปทางนั้น”



    ซากิตะโกนแล้วลากฉัน ฉันสังเกตเห็นว่าเสื้อของเขาเปียกเพราะตามหาฉัน

    ถึงกระนั้นพออยู่ห้องเขียนโปรแกรมฉันก็นั่งหน้าบึงไม่ทำงานเพราะไม่มีกำลังใจจะเขียนโปรแกรมอีกแล้ว ซากิก็เข้ามาเล่นหัวฉันเป็นการครายเครียดแต่ความเครียดของฉันกลับไม่ครายไปด้วย ซ้ำกลับเพิ่มขึ้นเป็น ทวีคูณ



        “ซากิ! พี่ไม่ชอบ!”  ฉันขึ้นเสียง

        “พี่ครับ ทำไมไม่ยิ้มเลยละครับผมไม่เห็นพี่ยิ้มตั้งแต่เย็นแล้ว”

        “ทำไมพี่ต้องยิ้มด้วยละในเมอื่พี่เอาแต่แสร้งยิ้ม”



    ซากิอึ้งไปซักพักนึง เขาเอานิ้วเกาหน้าแล้วพูดอย่างเขินๆว่า



        “ถึงแม้ว่ารอยยิ้มของพี่จะเสแสร้ง แต่ว่ารอยยิ้มของพี่ก็ทำให้ผมและอีกหลายๆคนยิ้มออกตามนะครับ แบบว่าผมก็อยากให้พี่ยิ้ม... คือผมชอบรอยยิ้มของพี่น่ะครับ”



    จนถึงตอนนี้ฉันสังเกตเห็นว่าใบหน้าที่ก้มลงไม่ยอมสบตาฉันของซากินั่นแดงก่ำไปจนถึงใบหูเสียแล้ว แล้วฉันไม่เคยลืมเลยว่าคำพูดนี่แหละที่ทำให้ฉันยิ้มออก เพราะมันทำให้ฉันรู้ว่าอย่างน้อยก็มีเด็กผู้ชายคนนึงที่อยากให้ฉันยิ้มและยิ้มอย่างจริงใจ เปี่ยมไปด้วยความสุข

        

        “ขอบใจจ๊ะ”



    ฉันพูดพร้อมกับยิ้มยิ้มอย่างเต็มที่เป็นครั้งแรก เหมอืนกับว่าฉันสามารถเชื่อใจคนได้อีกครั้งนึง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×