คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่สอง (โลกมันแคบ - - (บางทีก็รู้สึกว่าแคบไปนิดนึง)) [01/02]
ตอนที่สอง (โลกมันแคบ - - (บางทีก็รู้สึกว่าแคบไปนิดนึง))
01/02
,,คนอย่างผม.. ถ้าลองได้เกลียดแล้ว - - ไม่มีวันที่ผมจะเปลี่ยนใจ..
รักก็เหมือนกัน,,
ได้แต่ปากดีจริงๆ!!
เมื่อวันก่อนยังตั้งใจกับตัวเอง จดสิ่งที่จะทำใส่กระดาษเต็มไปหมด
จะวางแผนเอาคืนยังไง..
แก้แค้นยังไง..
รุมกระทืบมันที่ไหน..
กรีดรถให้เป็นรอยรอบคันที่จะให้แผลลึกที่สุดต้องใช้อุปกรณ์อะไร..
พอเอาเข้าใจจริง.. แค่ไปโรงเรียนผมก็เหนื่อยแล้ว!
สรุปรายการที่ตั้งใจจะแก้แค้นแม่งล้มพังไม่เป็นท่าซักแผน!
“เชี่ยอิชย์.. ไหนมึงพล่ามว่ามึงได้แผนแก้แค้นแล้วไง?”
ผมเงยหน้ามองคนถามคำถาม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
บางทีผมก็เครียดนะเว้ย ผมมีเพื่อนโง่หรือผมฉลาดเกินคบพวกมันวะ?
“แล้วมึงเห็นกูปลีกร่างไปแก้แค้นได้ป่ะล่ะสัด! การบ้านเจ๊อนงค์ท่วมหัวกูแล้วเนี่ย”
“โด่----กูคิดว่าไฟแค้นมึงท่วมจนไม่สนใจการงงการงาน”
“ไอ้ควาย! การเรียนตกบ้านกูฆ่าแน่”
“แม่มึงใจดีออก!”
ไอ้คิมพูดออกมาอย่างไม่รู้อะไร แม่ผมเหมือนคนใจดีเลยครับ เวลาชีอารมณ์เนี่ยนะ โว้ว! น่ารัก ใจดี สดใส วัยรุ่นโคตรๆ แต่ขอโทษเถอะ ถ้ามีใครไปสะกิดนิดเดียว กลายร่างนะครับขอบอก!
แล้วไอ้พวกนี้ ก็เคยแต่ตอนแม่ผมต้อนรับอย่างสดใส แล้วก็กระวีกระวาดทำกับข้าวให้กินไง เลยคิดว่าแม่ผมใจดี เหอะๆ
“กูเหนื่อยว่ะ ไม่รู้จะเริ่มแก้แค้นยังไงด้วย”
“กระทืบแม่งดิ” ไอ้ภักพูดตามประสามัน (พวกนี้แก้ไขปัญหาและระบายความเครียดด้วยการกระทืบคนครับ)
“ที่ไหน?”
“มหาลัยเด้,, ทำไม? มึงกลัวไง๊?”
“ไอ้ภัก มึงฟังกูนะ --- ถ้ามึงไปกระทืบมันที่มหาลัย คนก็มาช่วยดิวะ ไอ้โง่!”
“อ้าวแล้วงี้ทำไงอ่ะ?”
ไอ้ภักมันโง่จริงๆด้วยว่ะ!
“ก็ตามไปกระทืบแถวบ้านแม่งดิวะ!!”
คาดว่าไอ้คิมกับไอ้โปรดคงทนความเสร่อทางความคิดของไอ้ภักไม่ได้แล้วล่ะมั้งถึงได้ตะโกนตอบแทนผมซะพร้อมเพรียงขนาดนี้ *ยักไหล่*
เออก็จริงแฮะ..
ความเสร่อของไอ้ภักก็ไม่ได้มีแต่ข้อด้อยเสมอไปว่ะเห้ย ต้องรีบจดลงไดอารี่ลงหลักฐานให้อดีตและอนาคตได้เห็นความเสร่ออันทรงเกียรติของไอ้ภักมัน!
“กูเห็นด้วย.. เริ่มแผนเลยก็แล้วกัน”
++++
+++
++
เจ็ดวันต่อมา,,
ผมก็มาถึงยังสถานที่นัดพบ...
ผมวางแผนด้วยความชาญฉลาด ให้ไอ้โปรดเป็นคนไปสืบบ้านจากพี่สาวมัน ให้ไอ้ภักไปชวนพวกเดอะแก๊งค์หลังตึก9มา ให้ไอ้คิมเตรียมอุปกรณ์การต่อยตี
ส่วนผมน่ะหรอ?
แค่ขับรถตามแผนที่ที่เหี้ยโปรดให้มา แล้วมานั่งหล่อเหมือนมาเฟียในละครรอเฉือนอวัยวะซักสามสี่ชิ้นส่งไปให้พ่อแม่เหี้ยชินดูเป็นต่างหน้า!
#กระจ๊อกเรียกลูกพี่.. กระจ๊อกเรียกลูกพี่#
“ลูกพี่ได้ยินแล้ว กระจ๊อกว่าไง?” ผมทำเสียงเครียดใส่วอที่เตรียมกันไว้ ขอบอกจุดนี้ผมมีความสุขเหี้ยๆ! คึคึ
#ทำไมกูต้องได้โค้ดกระจ๊อก สัดปีก! กูลูกมีพ่อมีแม่นะ#
#กระสันเรียกกระจ๊อก อย่าเศร้าไปเหี้ยภัก กูน้องคิมผู้ชายผู้อ่อนโยนเสือกได้โค้ดกระสัน! นี่มันจะเหี้ยเกินไปแล้วนะเว้ย!#
“อย่าทะเลาะกันสัด! กระจ๊อกเรียกลูกพี่มีอะไร?”
#ตุ๊ดเลี้ยวสองแล้ว#
เยี่ยม!
พวกผมราว 8คนจอดรถไว้ตรงหลังซอยทะลุกับป่าละเมาะ
ห่างจากเลี้ยว2ประมาณ4นาที ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผมจะได้เห็นเหี้ยตุ๊ดนั่นชัดๆ แล้วกระทืบมันภายใน 3นาที 15วินาทีนี้
พวกเราลงจากรถ สวมไอ้โม่งให้อารมณ์เหมือนมาปล้นบ้านใครซักหลัง แต่ขอโทษถ้าอย่างนายอิชย์จะปล้น ก็ได้แต่ปล้นสวาทกับปล้นใจเท่านั้นแหละครับ *เขิน*
“เหี้ยเอ๊ย.. กูคิดว่ากูจะไปรับจ้างเป็นก่อสร้าง มึงว่าเวิร์คป่ะวะ?”
“เวิร์ค! ไอ้โม่งดูเหมาะกับมึงดีว่ะโปรด กูว่ามึงพบทางของมึงแล้ว” ผมปรายตาไปมองไอ้โปรดกับไอ้คิมคุยกันคิกคัก พลางจัดไอ้โม่งให้ใส่ถนัดกับกิจกรรมที่จะทำให้ผมก็ถอนหายใจ
กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไปไอ้พงษ์ถึงเป็นนักเลงประจำโรงเรียน ก็พฤติกรรมแม่งต่างกับสองเหี้ยนี่ราวฟ้ากับเหว!
ดูไอ้พงษ์เด่,, มันยืนนิ่งๆแล้วก็หมุนไม้หน้าสามไปเรื่อยๆ (เท่สัดอ่ะ) แต่ในขณะที่พวกผม (ทั้งสี่คน) ได้แต่ลุกลี้ลุกลน จัดไอ้โม่งให้เข้าหัวอย่างทุลักทุเล!!
ผ่านไปอีกราวๆ 12วินาที เพื่อนในแก๊งค์ (ของเขาต้องเรียกว่าแก๊งค์จริงๆครับ) ก็พูดคำที่ผมอยากได้ยินที่สุดในค่ำคืนนี้...
“มันมาแล้ว”
++++
+++
++
พอได้มองใกล้ๆแบบนี้ ต้องพูดตรงๆเลยว่ะว่า ‘ไอ้ตุ๊ด’ มันหล่อสมคำร่ำลือจริงๆ ดวงตากลมโต หน้าเรียว ผมซอยสั้นเหมือนการาญี่ปุ่นเกาหลี ให้อารมณ์เหมือนพวกดาราในโปสเตอร์ข้างห้องเด็กผู้หญิงช่วงมัธยมต้นจริงๆว่ะ
เห้ย!
นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมนะสัด!
(ผมด่าตัวเองได้ครับ)
“น้องใส่ไอ้โม่งมาทำอะไร?”
อื้อหือ กูขอถอนคำพูดข้างต้นมาทั้งหมด เริ่มต้นประโยคแรกก็วอนตีนมากๆเลยครับ
ไอ้ตุ๊ดเตี้ยกว่าพวกผมเกือบทุกคน (มีแค่ไอ้คิมมั้ง ที่สูงประมาณกันเลย) ยังมีหน้ายืนกอดอกทำหน้าเชิดๆ แล้วเรียกคนเกือบโหลที่ล้อมอยู่ว่า “น้อง”
“สัดนี่ปากดี จะเสียโฉมอยู่เหม็บๆเสือกเรียกพวกกูน้อง” แน่นอนว่าไม่ใช่ผมหรอกครับที่ของขึ้น ผมยังไม่เจนโลก เจนสนามขนาดนั้น ไอ้เหี้ยพงษ์แน่นอนครับประโยคนี้
“ดูจากลักษณะก็รู้แล้ว,, การกระทำพวกลูกหมาชัดๆ”
โฮ๊ะ!!!
มัน.. มันวอนตีนมาก
ไอ้พงษ์ของขึ้นเร็วมาก มันจะพุ่งไปกระชากผมไอ้ตุ๊ดนี่อยู่แล้วครับ แต่ข้อตกลงของการกระทำครั้งนี้ก็คือ “ผม” จะต้องเป็นคนเปิด และเป็นคนปิด!
“นี่นาย.. ปากดีแบบนี้ อยากเอาปากกลับไปพูดสวัสดีพ่อกับแม่อยู่ไหม?” ผมครับ ผมเอง พูดจามีสกุลแบบนี้ผมแน่นอน
“เหมือนจะไม่จำเป็นนะ.. สืบทางเข้าบ้านได้ ไม่ได้สืบต่อหรอว่าเราอยู่กับพ่อกับแม่ไหม?”
ไอ้ตุ๊ดส่ายหัวแล้วถอนหายใจ
“โง่จริงๆ”
“ไอ้สัด!”
“ไม่ต้องถึงเหี้ยพงษ์แล้ว กูกระทืบแม่งเลย”
นั่นแหละครับ ประโยคสุดท้ายของพวกผม จากนั้นเราก็รุมกระทืบ
ใช่ครับ กระทืบเลยล่ะ
ผมแทบไม่ได้ออกแรงง้างเท้าด้วยซ้ำ ได้แค่สะบัดมือด้วยแรงไก่กาต่อยหน้ามันไปทีนึง
ใช่ครับทีเดียว
ที่เหลือเป็นของไอ้พงษ์กับเพื่อนมัน อ้อ.. แล้วก็ไอ้ภักอีกนิดนึง
ส่วนพวกที่หอบกันมา ก็ยืนดู รอเสียบเข้าไปกระทืบต่อตอนที่พวกมันเหนื่อยแล้วเดินออกมาแค่นั้น
“เห้ยพอก่อน,, เดี๋ยวแม่งตายจริง” ถึงคราวที่พระเอกอย่างผมจะต้องห้ามทัพแล้วล่ะ
พวกเราถอยออกมาช้าๆ แต่แรงสุดท้ายก็เป็นของไอ้โปรดที่ซัดไปที่ชายโครงของคนที่นอนพังพาบอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินตามคนอื่นออกมาแล้วให้ผมเข้าไป
บาดแผลของมันก็ค่อยข้างจะหนักอยู่ครับ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะพวกเราไม่ได้เล่นอาวุธล่ะครับ (ถึงไอ้พงษ์จะยืนถือไม้หน้าสามรอ มันก็ไม่ได้หยิบไม้มาฟาดครับ จะให้เล่นมีดอีกก็ไม่ไหวนะ มันมีคนเดียว พวกผมมีสิบเอ็ดคน ถึงพวกผมจะเลวแต่เราก็ไม่ฆ่าใครนะครับ) ไอ้ตุ๊ดหัวแตกไปข้างนึง แต่ท่าทางแขนจะเจ็บหนักสุด น่าจะหักไม่ข้างไหนก็ข้างหนึ่ง ส่วนขา.. ไม่รู้เว้ย ผมไม่ได้เป็นหมอ ดูไม่ออกว่ะ
ผมกระชากผมคนที่เกือบจะหมดสติให้มาสบตากับผม แล้วพูดกับมันเหมือนในภาพยนตร์ต่างประเทศ (เรื่องเหี้ยอะไรวะ?) “คิดว่าหน้าตาดีมากใช่ไหม? โดนพวกกูกระทืบแบบนี้ จะมีหน้าไปอวดสาวในมหาลัยได้อยู่รึป่าว?”
ไอ้ตุ๊ดแสยะยิ้ม (ไม่แน่ใจว่าเจ็บเลยซี๊ดปากรึป่าวว่ะ แต่ผมว่าเหี้ยๆอย่างงี้แสยะยิ้มแน่นอน) แล้วพูดอ่อยๆเหมือนคนจะตาย
“อิจฉาหรอ? หล่อไม่เท่าเลยมารุมกระทืบเนี่ย - - พวกมึงเนี่ย โคตรเด็กเลยว่ะ”
อ่ะหือ,,
ด่าผมเหี้ยนะ ผมไม่ว่าเลย
แต่ด่าว่าเด็กเนี่ย มึงวิ่งเอาตีนมาลูบหน้ากูเลย
“ไอ้สัด! กูไม่ใช่เด็ก” ด้วยความโมโหผมเลยผลักหัวแม่งให้กระแทกลงบนคอนกรีตอีกครั้ง ตายไหมล่ะมึง
“แล้วกูก็หล่อกว่ามึงด้วย ไอ้สัดตุ๊ด!”
มันยิ้มอีกแล้วครับ แล้วมันก็พูดออกมาอีกประโยคที่ทำให้ผมลืมตัว,,
“มึงหล่อไม่เท่ากูหรอก เด็กน้อย”
++++
+++
++
เจอกันแล้วสินะ คึคึ
ความคิดเห็น