คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่หนึ่ง (อกหัก (ครั้งแรก) ตั้งแต่ยังไม่เริ่มจีบ) [02/02]
02/02
“ไงเด็กน้อย รู้ตัวคู่แข่งละยัง?” ยังไม่ทันถอดถุงเท้า เสียงพี่อัยย์แม่งนำมาก่อนเลย
มหาลัยนี้แม่งไม่มีเรียนอะไรกันหรอวะ? ถึงปล่อยให้เด็กกลับบ้านได้เร็วขนาดนี้
เวลาไปเรียนแม่งก็ไปทีหลังผม เสือกกลับมาลอยหน้าลอยตาที่บ้านก่อนผมอีก
แม่ง! แม่ง! แม่ง! *สบถให้ดังไปโลกหน้า*
“เดี๋ยวค่อยคุยได้ป่ะวะพี่อัยย์?”
“ยังไม่รู้ว่าใครหรอ? ชั้นอยากรู้ว่ะ ไปสืบมาเร็วๆเด้!” อัยย์มันยังไม่รู้ว่าผมอารมณ์เสียครับ ยังพล่ามนู่นพล่ามนี่ ผมล่ะโคตรเกลียดเลยเหอะ เวลาผมอารมณ์เสียเนี่ยนะ ให้ผมอยู่เงียบๆคนเดียวเลยเว้ย เดี๋ยวผมจะหายเอง
“อัยย์ - - กูอารมณ์เสีย เงียบปากไว้ก่อนได้ป่ะวะ?”
เงียบกริบ...
พี่สาวผมปิดปากเงียบ ก่อนยักไหล่แล้วเดินไปเล่นกับหมาน้อยหลังบ้านแล้วปล่อยให้ผมได้อารมณ์เสียคนเดียวสมใจ
ผมเดินขึ้นห้อง (ไม่ลืมกระแทกส้นเท้าเวลาเดินด้วยครับ กิริยาทรามๆต้องทำให้ครบ จะได้รู้สึกถ่อยเต็มที่ *ยืดออกภูมิใจในความสถุลของตัวเอง*) ปิดประตูให้แรงที่สุดเท่าที่ร่างกายจะทำได้
ที่สำคัญเลยคือ ต้องปาของครับ
เขวี้ยงแม่งลงไป แล้วตะโกนออกมาดังๆ เป็นวลีสั้นๆซัก 1-3คำพอครับ อย่าพูดยาวเดี๋ยวมันไม่ได้อารมณ์
เทคนิคสำคัญในการทำกิริยาแบบนี้ จะต้องทำตอนที่แม่ไม่อยู่นะครับ (พ่ออยู่ได้ เพราะพ่อผมเข้าใจวัยรุ่น) เพราะการปิดประตูเสียดังจะทำให้คนในบ้านตกใจ แล้วของที่จะเขวี้ยงลงพื้นเนี่ย,, ในฐานะกูรู ผมขอแนะนำว่า ของที่คุณปาจะต้อง..
1. ไม่แตก
2. เก็บง่าย
3. ไม่ใช่ของพี่พ่อกับแม่ซื้อให้เนื่องในวันสำคัญใดๆในชีวิต
ถ้าเจอแล้ว... ปาแม่งลงไปเลยครับ!
พลั่วะ!!!
“ไอ้ตุ๊ดเหี้ย!!!!!”
...จุดนี้ผมก็ไม่รู้จะสบถคำไหนออกมาได้อีกแล้วครับ ความอดอั้นภายในใจทั้งหมดต้องกลั่นออกมาให้ได้ภายใน 3คำพยางค์นี้ มาร้าวทรวงมาก (มึงเสือกกำหนดความยาวของพยางค์ทำซากหอยแครงอะไรวะ?!)
ไอ้ผู้ชายคนนั้นแม่งทำให้ผมรู้สึกไปเองเลยล่ะว่า ผมไม่มีทางสู้มันได้แน่ๆ ถ้าเราต้องแข่งกันจีบพี่เปรมจริงๆ..
*โศกไปสามภพ*
++++
+++
++
“นอกจากจะหล่อเทรนด์แล้ว ไม่ได้โง่ด้วยนะ เวลาไปแข่งขันอะไร ไอ้คนนี้มันก็ไปตลอด”
“ทั้งคณะโหวตให้เป็นเดือนแบบไม่ต้องประกวดเลยอ่ะมึง คิดดูเด้!”
“อ้าว แล้วที่มึงเคยบอกว่าพี่มึงชวนไปงานประกวดดาวเดือนล่ะไอ้โปรด?”
“ประกวดแค่ดาวไงมึง! ส่วนเดือนไม่ต้อง มันแค่ไปนั่งให้พิธีกรสัมภาษณ์ แล้วก็โชว์เบาๆเหมือนโชว์เคส อารมณ์แบบเดบิวต์เป็นดาราช่อง3อ่ะ!”
“อีกอย่าง เหี้ยนี่แม่งอย่างรวย! ขับBMW Coupé นะครับ! เวลามันมาเรียนเนี่ย”
“ผู้หญิงจีบเพียบ! วันๆไม่ต้องซื้อข้าวโรงอาหารแดกอ่ะมึง แค่ไปนั่งที่โต๊ะก็มีข้าวกล่องมาวางให้กินแล้ว แต่เห็นว่าไม่ได้คบใครจริงจังนะ ไอ้เปรมแม่งโคตรเพ้อ”
ชีวิตผมจบแล้ว...
จบตั้งแต่มันขับคูเป้มาเรียนแล้ว
กูจะไปเผามหาลัยแม่ง!!!!!
ไม่ไหวจะทน... ผมใช้เท้าเขี่ยๆของที่วางระเกะระกะจากการระบายอารมณ์มันสุมที่มุมห้อง แล้วหยิบดรอยด์คู่ใจมาปรึกษาเดอะแก๊งค์ในกรุ๊ปทันที
20:49 ‘กูทนไม่ไหวแล้ว!’
ประโยคเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้วครับ แค่ประธานกับกิริยา กรรมเกิมห่าไม่ต้องมีครับช่างแม่ง ไม่ต้องสาธยายต้นสายปลายเหตุให้เสียเวลา ผมรู้ว่าพวกมันจะต้องเข้าใจ..
Hea’Pak
‘อยากมากก็ว่าวดิ จะทนทำเหี้ยอะไร’ 20:51
Hea’Kim
‘เตะบอลกับกูป่ะล่ะสัด?’ 20:51
Hea’Prod
‘ปรึกษาผู้ปกครองก็ได้นะ’ 20:52
Hea’Kim
‘เออไอ้ภัก สรุปข้อนั้นตอบอะไรวะ?’ 20:52
‘กูเห็นมีแต่คนตอบเตะบอล’ 20:52
Hea’Pak
‘กูก็ว่าเตะบอล’ 20:53
‘ใครแม่งจะปรึกษาพ่อกับแม่วะ?’ 20:53
Hea’Prod
‘แต่ถ้าเป็นกู กูจะตอบปรึกษาพ่อแม่นะ’ 20:53
Hea’Pak
‘เหี้ยโปรด! มึงปรึกษาจริงหรอวะ?’ 20:54
Hea’Kim
‘555555555555555555555555555555’ 20:54
.
.
เออ.. ผมผิดเอง
ผมคิดไปเองว่าพวกมันจะเข้าใจผม
ผมคิดไปเองว่าพวกมันจะเข้าใจว่าผมพูดถึงเรื่องอะไร
ผมคิดไปเองว่าพวกมันจะรู้ว่าผมเครียดเรื่องอะไร
ผมผิดเอง...
ในเมื่อสมองเล็กกว่าถั่วบิแบ่งไปเศษสามส่วนสี่อย่างพวกมัน3คน แค่จับมือถือมาหาคีย์บอร์ดพิมพ์ก็ลำบากแล้ว
พวกมันเก็บสมองไว้จินตนาการเรื่องเหล่านี้ดีเกินไป..
คิดได้ไงวะว่าผมทนไม่ได้แล้ว อยากจะพ่นน้ำเหนียว! *กูอยากจะวิ่งเอาหัวไปโขกเสาไฟฟ้าหน้าหมู่บ้านข้างๆ*
แต่จุดนี้ผมพิมพ์สู้พวกมันไม่ได้แล้ว (เหมือนพวกแม่งนิ้วล็อกอ่ะครับ พิมพ์กันบ้าคลั่งมาก) WhatsApp แม่งไหลเร็วมาก เหมือนพวกมันใช้เวลาทั้งชีวิตในการพิมพ์ข้อความส่งหากัน!
กูส่งคลิปเสียงแม่งเลย!
“ไอ้พวกเหี้ย! กูจะว่าวทำห่าอะไร เรื่องพี่เปรมสิวะ เรื่องพี่เปรม - - เหี้ยโปรด มึงไปหามาเดี๋ยวนี้ว่าไอ้ตุ๊ดนั่นมันเป็นใคร กูเครียด มึงเข้าใจไหม กูเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ผมโหยหวนไปอย่างน่าสงสาร ผมอัดเสียงเองยังสังเวชตัวเองเลย
รับไม่ได้ว่ะ
ผู้หญิงตัวเล็กๆ (กับตุ๊ด) แม่งจะทำให้ผมเสียสติขนาดนี้เลยหรอวะ?!
ไม่นานนัก ฟลัดในวอทสแอปก็เงียบไป แล้วไอ้โปรดก็สละเงินโทรหาผมจนได้ *น้ำตาเกือบไหลด้วยความซาบซึ้งเลยดู๊ด*
“ไหวป่ะวะอิชย์?” ผมกดรับทันทีตั้งแต่อินโทรเสียงเรียกเข้าดังไม่ถึงวิ
“มึงคิดว่ากูไหวป่ะล่ะ?” ไอ้ปลวก!! กูจะบ้าอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาถามกูอีกว่ากูไหวไหม!?
“เหี้ย—มึงอย่าเป็นอย่างงี้ดิวะ โศกแบบหงอยๆกูไม่ชอบเลย กูรู้สึกผิดเลยแม่ง”
ก็เพราะพวกมึงทั้งนั้นแหละ! ยิ่งพี่สาวมึงยิ่งตัวดีเหี้ยโปรด!!
ผมล่ะอยากจะด่ามันผ่านโทรศัพท์แล้วให้น้ำลายพ่นไปโดนปลายจมูกมันมาก!
แต่ผมก็เข้าใจมันเบาๆนะ - - จุดนี้ก็ทำอะไรไม่ได้มากป่ะวะ?
“กูอยากรู้ชื่อมันว่ะ - - มึงพอรู้ไหม?”
“กูไม่แน่ใจว่ะ แต่ถ้ามึงอยากรู้มากจริงๆ เดี๋ยวกูเดินไปถามพี่เปรมให้ตอนนี้เลย”
หน้าอย่างไอ้โปรดมันไม่รอคำตอบหรอกครับ
เพื่อที่ประเสริฐของผมคนนี้วิ่งตึงๆ (ได้ยินจากปลายสาย) ไปถามพี่สาวมันทันที (คาดว่าคงจะไปข้างล่าง เพราะผมได้ยินเสียงส้นตีนกระแทกบันได)
ปลายสายยังคงพูดอะไรกันซักอย่าง ที่ผมจับใจความไม่ได้มาก
แต่เอาเถอะ ... จุดนี้ผมคงไม่ต้องพยายามตั้งใจฟังหรอก เพราะเดี๋ยวยังไงโปรดมันก็ต้องรายงานตามจริงอยู่แล้ว ผมจึงใช้เวลานี้ได้การเล่นบทพระเอกอกหักเต็มที่
“กูได้ชื่อแล้ว”
ผมหลุดออกจากภวังค์ที่ผมสร้างไว้ชั่วคราว แล้วตั้งใจฟังสารทั้งหมดที่โปรดบอกให้ผมรู้
ผมจะได้บอกให้พี่อัยย์ฆ่าได้ไม่ผิดคน
“มันชื่ออะไร?”
“ชิน”
“มันชื่อชิน”
‘ชิน’ งั้นหรอ?
มึงเจอกูแน่ ไอ้ตุ๊ด!!
ติดตามตอนต่อไป..
ความคิดเห็น