ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -WARNNIBG-

    ลำดับตอนที่ #8 : รักไม่มีวันตาย

    • อัปเดตล่าสุด 7 ธ.ค. 57


    รักไม่มีวันตาย

    ชีวิตมนุษย์เรา..ก็เปรียบเสมือนเพลงที่มีตัวเองเล่นเป็นตัวเอก...

    มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องปัญหา การใช้ชีวิต การมีความสุข หรือที่ไม่พ้นเลยคือ “ความรัก”..

    รวมทั้งสิ่งมีชีวิตอมนุษย์เช่นเขา “เฮกเตอร์” ด้วยเช่นกัน...

     

    จากชีวิตคนไม่มีใครคนหนึ่ง

    ได้รู้ได้ซึ้งได้เข้าใจ ในความรัก

    เมื่อเธอได้เดินเข้ามา

     

    เสียงคลื่นทะเลกระทบกับโขดหินดังระงม เสียงจักจั่นร้องยามหน้าร้อนทำให้ที่นี่ดูไม่เงียบเหงา แสงแดดส่องกระทบกับเรือนผมสีทองประกายของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขานอนอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ริมโขดหินอย่างเงียบๆ ขณะที่เขาอ่านเพลินๆอยู่นั้นก็มีเสียงแปลกๆดังออกมาจากพุ่มไม้ เขารีบลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปทางต้นเสียงทันที

    “นั่นใครน่ะ?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เสมือนอีกฝ่ายจะรู้ตัว เสียงการขยับตัวอยู่ในพุ่มไม้นั้นเงียบราวกับไม่มีใครอยู่ แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีทองนั้นหันกลับไปได้ แต่กลับเป็นว่าเขานั้นลุกขึ้นแล้วเดินไปทางต้นเสียง ก่อนจะใช้มือแหวกพุ่มไม้นั้นออกมา

                    “เจ้าเป็นใคร?” ชายหนุ่มหิ้วเด็กที่เป็นต้นตอของเสียงขึ้นมา แล้วจ้องหน้าเอ่ยถามอย่างเรียบนิ่ง

                    “หนู..ชื่อพานนา คอตต้าค่ะ พอดีหนูออกมาเล่นข้างนอกแล้วหลงป่า..ก็มาเห็นคุณลุงนอนอยู่.. อยากจะขอให้ช่วยแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทักค่ะ..” เด็กสาวที่ถูกหิ้วขึ้นมาก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตากับอีกฝ่าย เขานิ่งเงียบไปสักพักก็วางเด็กสาวลงแล้วเดินนำเข้าไปในป่าจากทางที่เด็กสาวมา

                    “คุณ..ลุง?” เด็กสาวยืนมองร่างสูงเดินเข้าไปในป่า กระพริบตาปริบๆเป็นเชิงสงสัย

                    “ตามมา จะพากลับบ้าน” เขาไม่ตอบ มีเพียงเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาเท่านั้น เมื่อเด็กสาวได้ยินก็รีบลุกแล้ววิ่งตามไปทันที

                    “ขอบคุณนะคะ คุณลุงใจดีจังเลย” เด็กสาวยิ้มอย่างร่าเริงก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไร้เดียงสา ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงทางเดิน เขาหยุดฝีเท้าแล้วหันมาหาเด็กสาว

                    “เดินตามทางไป อย่าออกนอกทางอีก หลงอีกทีไม่มีใครช่วยเจ้านะ รู้มั้ย” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แต่เด็กสาวคนนั้นหาได้กลัวไม่ กลับคลี่ยิ้มออกมาอย่างบริสุทธิ์สดใส

                    “ขอบคุณนะคะ คุณลุง ก่อนจากกนหนูขอถามชื่อคุณลุงหน่อยได้ไหมคะ?” เด็กสาวเอ่ยอย่างร่าเริง

                    “...ข้าชื่อเฮกเตอร์” เขาเอ่ยเสียงเรียบพลางหันกลับเดินเข้าไปในป่าอีกครั้ง

                    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณลุงเฮก!! ไว้เดี๋ยวหนูจะไปเล่นกับคุณลุงนะคะ!!” เด็กสาวตะโกนไล่หลังแล้วโบกมือไปมา ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งไปตามถนนเพื่อกลับบ้าน ทิ้งให้ร่างสูงนั้นยืนนิ่งมองเด็กสาวเมื่อครู่วิ่งลับไป

                    “ช่างเป็นเด็กที่ไม่กลัวอะไรเลยนะ...” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

    และนั่น... คือครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลง...ตลอดกาล

     

     

     

    จากชีวิตคนไม่มีใครคนหนึ่ง

    ได้รู้ได้ซึ้งและมีค่า

    และรู้ว่าต้องอยู่เพื่อใคร

     

    “ลุงครับ ผมมาแล้ว” เสียงอันคุ้นหูของเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีดังเข้ามาในโสตประสาทของร่างสูงที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้ต้นไม้ริมโขดหิน

    “ลุงนี่ชอบอ่านหนังสือจังเลยนะ” เด็กหนุ่มวางกระเป๋าบนพื้น ล้มตัวลงนอนข้างๆผู้ที่เขาเรียกว่าลุง นัยต์ตาประกายสดใสนั้นหลับลง เผยให้เห็นแผงขนตางอนยาว เส้นผมสีแดงสดถูกลมทะเลพัดปลิวจนปรกแก้ม

    “เรื่องของข้าน่า” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าลุงเอ่ยออกมาเรียบๆ เขาปิดหนังสือลงแล้วมองไปยังเด็กหนุ่มที่นอนอยู่ข้างๆ

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน... ที่เขารู้สึกดีๆกับเด็กคนนี้..

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน... ที่เขารู้สึกไม่อยากปล่อยเด็กคนนี้ไป...

    ความรู้สึกที่เขามีอยู่นี้... ใช่ความรักที่มนุษย์เขามีกันหรือเปล่า...

    แม้แต่ตัวเขาเอง... ก็ไม่อาจเข้าใจได้

     

    “นี่ ลุง” เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมาในโสตประสาทของเขา

    “อะไร?” เขาตอบอย่างเรียบๆเหมือนเคย

    “ผมสอบติดแล้ว ลุงจะไปกับผมไหม?” เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วหันมาจ้องหน้าลุง ดวงตาสีทับทิมนั้นเป็นประกายอย่างมีความหวัง

    “นั่นสินะ.. แต่ถ้าข้าไม่ไป ใครจะคอยดูแลเจ้าละ ไอ้หนู” ชายหนุ่มยิ้มบางๆแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน นิ้วเรียวสีขาวซีดดีดไปที่หน้าผากของเด็กหนุ่มเบาๆ แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายต้องยกมือขึ้นมาคลำหน้าผากป้อยๆ

    “จริงนะ! รักลุงจัง~” เด็กหนุ่มชูมือด้วยความดีใจแล้วโผกอดร่างของลุงทันที ผู้ที่โดนกอดชะงักไปแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆแกะตัวเด็กหนุ่มออก

    “อึดอัดน่า เจ้านี่!” เด็กหนุ่มที่ถูกแกะออกมาหาได้สะทกสะท้านไม่ แต่ก็ยังยิ้มออกมาอย่างร่าเริงเหมือนเคย

    “ก็ผมดีใจนี่นา งั้นเจอกันพรุ่งนี้แปดโมงที่ท่าเรือนะ ผมไปละ ฝันดีนะครับลุง” เด็กหนุ่มหันไปหอมแก้มลุงก่อนจะได้ยินเสียงระฆังบอกเวลาหกโมงเย็น เขาจึงรีบลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป๋าสะพายวิ่งออกไปทันที

     

    เจ้าเด็กบ้า... ทำแบบนี้เดี๋ยวข้าก็หมดความอดทนกันพอดี...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “นี่ ลุง ผมว่าผมแอบชอบคนๆนึงละ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นมาเบาๆในห้องพักของผู้เป็นลุง

    “หืม? ใคร?” ชายหนุ่มรีบปิดหนังสือแล้วหันมามองเด็กหนุ่มด้วยความประหลาดใจ คิ้วขมวดเป็นปมจนเห็นได้ชัด

    “เด็กใหม่น่ะครับ” เด็กหนุ่มพูดพลางยิ้มอย่างร่าเริงพลางสะบัดขาไปมาบนเตียง

    “...” ไม่มีเสียงใดดังออกมาจากปากของชายหนุ่ม มีเพียงความเงียบเท่านั้น

    “แต่ว่า... เขามีแฟนแล้วละ” สิ้นคำพูดนั้น ริมฝีปากที่คลี่ยิ้มออกมาก็หุบยิ้มลง ของเหลวใสหยดลงบนหมอนจนชุ่มไปหมด ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบลุกมาหาเด็กหนุ่มทันที

    “เจ้าเป็นอะไร!?” สิ้นคำพูดของผู้เป็นลุง เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นโผกอดลุงทันที

    “ลุง...ฮึก...ผมเจ็บ...” เด็กหนุ่มปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลรินออกมาคลอเบ้า ชายหนุ่มได้แต่กอดตอบแล้วลูบผมปลอบด้วยความสงสารจับใจ ถึงแม้ตัวเขาเองนั้นจะแอบดีใจที่คนที่เขารักไม่ได้รักกับคนอื่น แต่ถ้าต้องเห็นน้ำตานั้น.. เขาก็ดีใจไม่ลงเช่นกัน..

    “ลุง... จูบผมหน่อยสิ” คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก และผละออกมา

    “เจ้า...”

    “นะครับลุง ผมไม่อยากมีร่องรอยการจูบของหมอนั่น” เด็กหนุ่มรบเร้าพร้อมกับมองด้วยสายตาอ้อนวอน

    “...”

    “นะครับ... ได้โปรดเถอะ” เด็กหนุ่มยังคงอ้อนวอนทั้งน้ำตา ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหน้าลอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปประทับริมฝีปากของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบาแล้วผละออกมา

    “ขอบคุณนะครับลุง..” เด็กหนุ่มยิ้มบางๆพร้อมกับปาดน้ำตาเสมือนว่าสบายใจขึ้นแล้ว

    “งั้นคืนนี้ผมขอนอนที่นี่นะ” เด็กหนุ่มล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างไม่รอคำตอบ พร้อมกับดึงผ้าห่มมาห่มตัวเอง

    “ราตรีสวัสดิ์นะครับลุง อย่านอนดึกละ เดี๋ยวเหี่ยวไม่รู้ด้วย คิกๆ” เด็กหนุ่มแลบลิ้นปลิ้นตาก่อนจะหลับตาลงไปแล้วหลับอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

    “เจ้านี่นิ!” ชายหนุ่มบ่นใส่ เขาจ้องมองใบหน้าสวยของเด็กหนุ่มนั่นจนเด็กคนนั้นหลับไป

     

    ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ... ที่เขารู้สึกห่วงใยเด็กคนนี้มากขนาดนี้

    ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะไม่ชอบใคร.. เพราะด้วยเรื่องข้อจำกัดของอายุขัยมนุษย์และอายุอันเป็นอมตะของเขาแท้ๆ

    แล้วความรู้สึกเจ็บแปล้บในอก เมื่อเด็กคนนั้นมาบอกว่าเขาแอบชอบใครคืออะไรกัน...

    ความ “รัก” งั้นเหรอ..?

     

    ชายหนุ่มได้แต่คิดสับสนอยู่ในหัว เขามองดูใบหน้าสวยที่เปรอะคราบน้ำตานั้น ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เบาๆอย่างอ่อนโยน

    “ข้ารักเจ้านะ... ต้า” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆเด็กหนุ่ม จุมพิตที่หน้าผากนั้นอย่างแผ่วเบา

     

    แค่มีเธอคนเดียว อะไรๆ ฉันก็ไม่ต้องการ

    แค่มีเธอเท่านั้น วันเวลาจากนี้ก็มีความหมาย

    แค่มีเธอคนเดียว ก็เปลี่ยนโลกนี้ไปทั้งใบ

    และเปลี่ยนหัวใจฉันไปตลอดกาล

     

     

    “สวัสดีฮานส์ เจ้าต้าไม่อยู่เหรอ?” ชายหนุ่มเรือนผมสีทองเดินเข้ามายังห้องโถงโรงเรียน อันเป็นที่พบปะสังสรรค์ของนักเรียนโรงเรียนนี้ เขาเอ่ยถามเหรัญญิกของสภาอย่างสงสัย เพราะปกติเด็กคนนั้นจะอยู่ที่ห้องตลอด

    “ไม่อยู่ครับ ต้าไปห้องแล้วน่ะ” ฮานส์ตอบพร้อมกับรินไวน์ให้ผู้มาเยือนอย่างที่เคย

    “ไปห้อง?? ทำไมไปเร็วนักละ? ปกติอยู่ดึกไม่ใช่หรือไง?” ชายหนุ่มหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ

    “อ้าว นี่ลุงเฮก ลุงไม่รู้หรือ ต้ามันมีแฟนแล้วน่ะ มันก็ไปกกแฟนมันสิ” สิ้นประโยคนั้น ผู้ที่ถูกเรียกว่าลุงเฮกก็ยืนนิ่ง อึ้งไปทันที ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอของเขา เขาวางแก้วไวน์ลง

    “ใคร..?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นแต่สั่นเล็กน้อย

    “ก็คนเดิมนั่นแหละ รูมเมทมัน ไม่รู้ทำไมมันถึงไม่เข็ด” ฮานส์ตอบอย่างปลงๆ ผู้เป็นลุงไม่เอ่ยอะไรตอบกลับมาก่อนจะสาวเท้าเดินไปทางหอพักที่เด็กหนุ่มคนนั้นพักอยู่

    จริงอยู่... ที่เขาพอจะรู้มาบ้างว่าคนที่เด็กคนนั้นแอบชอบเป็นรูมเมทกัน.. แต่ทว่าคราวก่อนก็บอกว่ามีแฟนแล้วไม่ใช่หรือไง? ชายหนุ่มคิดสับสนอยู่ในหัวจนหัวปั่นไปหมด เขาต้องการมองให้เห็นกับตาของตัวเอง

    เท้าทั้งสองหยุดอยู่ที่หน้าห้องพัก ที่หน้าห้องเขียนไว้ว่า ‘Panna Cotta & Blood Kiss’ เขาใช้มือหมุนที่เปิดประตูเข้าไปอย่างไร้เสียง ภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยินก็ต้องทำให้เขานิ่งไป ในอกของเขารู้สึกเจ็บ เจ็บเสมือนมีมีดปักอยู่ที่กลางหัวใจ

    “อ๊า..บ..บลัด.. อือ~” เสียงครางระงมของเด็กหนุ่มที่เขาทนุถนอม ปกป้องดูแลมาตลอด 8 ปี.. เรือนร่างที่เขาเคยสัมผัส บัดนั้น.. มันกำลังถูกคนอื่น คนที่มาทีหลังเขากระทำ..

    “รักนะฮะ..” เสียงหวานปนเสียงหอบของเด็กหนุ่มทำให้เขากำมือแน่น น้ำตาที่ไม่เคยไหลมาตลอด 100 ปี ไหลรินอาบข้างแก้ม.. คำว่า รักในฐานะคนรัก... คำที่เขาอยากจะได้ยินมาตลอด กลับถูกใครหน้าไหนก็ไม่รู้แย่งจากเขาไป..

    ชายหนุ่มปิดประตูอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเดินออกไปยังหน้าผาริมทะเล เขาแหงนหน้ามองดูท้องฟ้ายามราตรีด้วยความเจ็บปวด.. ของเหลวสีใสไหลรินอาบข้างแก้มตามแรงโน้มถ่วงของโลก

    “ทำไมกันนะ.. ทำไมข้าต้องรักเด็กคนนั้นด้วย ?”

    “ข้ามันไม่มีอะไรดีพอที่จะทำให้เจ้าหันมารักข้างหรืออย่างไร ?”

    “ทั้งๆที่ข้ารักเจ้ามากขนาดนี้แท้ๆ..”

    “ทำไมกัน..?”

    เขาพร่ำถามคำถามที่เขาไม่มีวันรู้จนหมด.. เขาปล่อยให้น้ำตามันไหลไปจนหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนจะหันหลังแล้วเดินกลับที่พักไป...

     

     

    “ลุงเป็นอะไรไปเหรอครับ?” เด็กหนุ่มเดินมาทางด้านหลังของชายหนุ่มผิวสีขาวซีด เรือนผมสีทองที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงในห้องพักของเขา

    “เปล่า ข้าไม่ได้เป็นอะไร เจ้ามีธุระอะไร?” เขาเอ่ยทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากหนังสือเล่มนั้น

    “ผมไม่เชื่อ ลุงเป็นอะไรลุงก็พูดมาสิครับ! หลบหน้าผมแบบนี้ทำไม!” เด็กหนุ่มตะโกนออกมาอย่างเหลืออด เพราะตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่ลุงหลบหน้าเขาตลอด แม้ว่าเขามีเรื่องอย่างคุย อยากปรึกษาหรืออะไร ลุงก็มักจะไม่อยู่ ไม่อยากเจอ อย่างเช่นวันนี้ ลุงก็ไม่ให้เขาเข้าพบ จนต้องไปขโมยกุญแจผอ.มาเปิดห้องเข้ามา

    “อยากรู้งั้นเหรอ...” เด็กหนุ่มพยักหน้า

    “มานี่สิ” ชายหนุ่มโบกมือเรียกให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามาหา และเมื่อเด็กหนุ่มเดินมาหา เขาก็ฉุดเด็กหนุ่มแล้วจับกดลงบนเตียง

    “ล..ลุง..” เด็กหนุ่มตกใจในการกระทำของอีกฝ่าย

    “เจ้าอยากรู้ไม่ใช่เหรอ ข้าก็กำลังจะบอกเจ้าอยู่นี่ไง” ชายหนุ่มขยับใบหน้าลงไปไซร้ซอกคอของร่างบาง มือข้างนึงก็สอดเข้าไปใต้เสื้อนักเรียนนั่น ตอนนี้เขาควบคุมตัวเองไม่อยู่ เขาได้แต่คิดว่าถ้าทำแบบนี้ เด็กคนนี้อาจจะเกลียดแล้วไม่มาหาเขาอีกก็ได้..

    “เอาสิครับ” เสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมากระทบในโสตประสาทของเขา เขาผละออกมามองด้วยสีหน้าที่ไม่คาดคิดว่าเด็กคนนี้จะพูด

    “กินผมสิ” ใบหน้าของเด็กหนุ่มขึ้นสีระเรื่อ ไม่มีแววตาแห่งความเกลียดชังหรือเสียใจเลยแม้เพียงนิดเดียว

    “ผมน่ะ.. ถูกลุงดูแลมาตั้งแต่เด็ก”

    “ตั้งแต่ตอนที่ผมแต่งเป็นผู้หญิง ผมเชื่อว่าในป่าจะมีเจ้าชายอยู่”

    “ใช่ครับ.. ผมคิดว่าลุงคือเจ้าชายของผม” เด็กหนุ่มใช้มือมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของลุงอันเป็นที่รักอย่างอ่อนโยน

    “ผมรักลุง.. ไม่ใช่ในแบบลุงหลาน แต่เป็นแบบคนรัก ผมรักลุงมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ลุงกลับไม่เคยเหลียวแลในความรักของผมเลย...”

    “...” ชายหนุ่มได้แต่นิ่งเงียบก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ

    “แต่ตอนนี้ผมเจอคนใหม่ คนที่ตอบรับความรู้สึกรักของผมได้ ใช่ครับ ผมรักเขา”

    “...” ร่างสูงรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอเขาอีกครั้ง เมื่อเด็กหนุ่มใต้ร่างเอ่ยคำว่ารักกับคนอื่น

    “แต่ผมก็ยังคงรักลุงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ลุงได้โปรด.. กอดผมทีได้ไหมครับ”

    “เจ้า.. หมายความว่ายังไง??” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แล้วจ้องมองใบหน้าที่กำลังยิ้มจนตาหยีของเด็กหนุ่ม

    “ทำให้ผมเป็นของลุงไงครับ นั่นน่ะ คือสิ่งที่ผมปรารถนามาตลอดเลยนะ” เด็กหนุ่มยิ้มหวานให้ผู้เป็นลุงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมไปโอบรอบคอแล้วกอดแน่น

    “เจ้าตัดสินใจแล้วนะ..?” ร่างสูงเอ่ยถามเบาๆ เด็กหนุ่มพยักหน้าจนรู้สึกได้

    “แล้วแฟนเจ้าละ..?” เสียงทุ้มยังคงถามต่อเพื่อความแน่ใจ

    “ช่างหมอนั่นสิ.. เรียกแฟนคงจะไม่ได้ เพราะยังไงผมก็คบกับหมอนั่นแค่ในฐานะคนน้อย.. เพราะยังไงหมอนั่นก็เลือกแฟนอยู่ดี..” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าเจ็บปวดราวกับจะร้องไห้ออกมา

    “ถ้าข้าทำ.. เจ้าจะไม่สามารถลบมันได้แล้วนะ.. ต้า” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆก่อนจะดันเด็กหนุ่มให้นอนลงแล้วเริ่มที่จะกลืนกินเขาอย่างช้าๆ...

     

    “รักนะครับ.. ลุง” เด็กหนุ่มพูดพลางหอบด้วยความเพลีย ใบหน้าสวยสีแดงระเรื่อนั้นถูกแต่งแต้มด้วยเม็ดเหงื่อจางๆ ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มหวานออกมา ที่คอขาวนั้นเต็มไปด้วยรอยจูบจากร่างสูง เมื่อเอ่ยจบ เด็กหนุ่มก็ผลอยหลับไปด้วยความอ่อนล้า

    “ข้าก็รักเจ้า.. ต้า” ร่างสูบรรจงประทับจูบลงที่หน้าผากนั้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆแล้วโอบกอดร่างนั้นไว้แนบอกอย่างทนุถนอม

     

    ไม่ว่าจะนานเท่าไร รักเราจะไม่มีวันตาย

    ไม่ว่านานเท่าไร หัวใจจะผูกกันไว้

    ไม่ว่านานเท่าไร แม้จนวันสิ้นลมหายใจ

    จะรักเธอคนเดียว ได้ยินไหม

    รักเธอไปตลอดกาล



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×