ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] THE SHUTTER ♡ ยิ้ม...ให้คนหลังกล้อง

    ลำดับตอนที่ #13 : SHUTTER 13 : จักรวาลเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 61


    THE SHUTTER  13 จักรวาลเธอ

     

     

              ภายในร้านกาแฟตอนบ่ายโมงมีลูกค้าประปรายอยู่สองสามโต๊ะ หนึ่งในลูกค้าของวันนี้ทำให้พนักงานสาวยิ้มแก้มแทบปริ เมื่อศิลปินที่ตัวเองชอบนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมติดกระจกที่สามารถมองเห็นสวนด้านนอกของร้านได้


              กรุ้งกริ้ง


              เสียงกระดิ่งหน้าร้านบ่งบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาอีกราย หญิงสาวหันไปมองถามเสียงแล้วนัยน์ตากลมก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอีกเมื่อเห็นมาอีกฝ่ายเป็นใคร


              ร่างสูงก้าวเท้ายาวๆไปยังโต๊ะที่เห็นว่าคนที่เขานัดเจอวันนี้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาหันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานที่เดินเข้ามาใกล้แล้วหย่อนตัวลงนั่งโบนซฟาฝั่งตรงข้ามอีกฝ่าย


    “มานานยัง” คนมาใหม่เอ่ยถามเมื่อเห็นจานใบเล็กว่างเปล่าที่วางอยู่ตรงหน้า


    “สักพักแล้ว รถติดหรอ”


    “เปล่า แวะไปส่งไอ้ขวัญที่ม.มา ไหนนัดใครมา?”


    “เห็นพี่แนนไลน์มาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว พี่กินไรมายัง”


    “ยัง มึงอ่ะ?”


    “ยัง งั้นเสร็จจากนี่แล้วไปกินซูชิกัน” ติณณกรเอ่ยชวน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับอย่างไม่เกี่ยงงอน คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างแล้วยกมือเรียกพนักงานมาแล้วสั่งเค้กอีกชิ้นสำหรับตัวเองและแซนวิสทูน่าสำหรับคนตรงหน้า 


    “อันนี้รองท้องก่อน”


    หลังจากอาหารเซ็ตใหม่ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะไม่นานสมาชิกใหม่สองคนก็ก้าวเข้ามาในร้านและตรงมาที่โต๊ะที่สองหนุ่มนั่งอยู่ก่อนแล้ว


    รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากบางของร่างสูงหุบลงแทบจะทันทีที่เห็นหนึ่งในสองคนที่ยืนอยู่ เขาขยับตัวลุกขึ้นแล้วพาตัวเองไปนั่งเบียดกับติณณกรอยู่บนโซฟาอีกฝั่ง


    “รอนานไหม รถโคตรติดอ่ะ” ณกานบ่นแล้วสอดตัวเข้าไปนั่งแทนที่ร่างสูงที่พึ่งลุกออกไปเช่นเดียวกับหญิงสาวที่มาด้วยกัน หล่อนส่งยิ้มน้อยๆให้ติณณกรที่ยกมือไหว้แล้วเบนสายตากลับมามองใบหน้าคมของชายหนุ่มอีกคนที่เธอรู้จักดี


    “เออแผน นี่พลอย คนเขียนหนังที่เราจะเล่น พลอยนี่ขุนแผนจ่ะ”


    “ค่ะ จริงๆ พลอยรู้จักกับแผนอยู่ก่อนแล้วล่ะค่ะ”


    “อ่าวหรอ งั้นก็ดีเลย” ณกานยิ้มรับกับคำพูดของอีกฝ่าย แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆในตอนที่ทั้งสองเจอกันครั้งแรกแต่บรรยากาศนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน สองสาวหันไปสั่งเครื่องดื่มก่อนจะเป็นณกานที่เริ่มเปิดประเด็น


    “จริงๆที่เรียกแผนกับติณณ์มาวันนี้เพราะพลอยเขามีเรื่องอยากคุยด้วยน่ะ เรื่องบท”


    “คือสองคนนี้เป็นคู่จิ้นอยู่ใช่ไหม เราเลยคิดว่ามันน่าจะดีถ้าเกิดว่าเราเอาเรื่องจริง หรือว่าโมเมนต์เล็กๆมาใส่ในหนังด้วย มันจะได้ดูเรียลๆ”


    “อ่อ ถ้างั้นบทหนังพี่คงเป็นหนังตลกไม่ใช่หนังรักแล้วล่ะครับ” ติณณกรพูดขำๆ ต่างจากอีกคนที่ยังนั่งมองหน้าอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง 


    นิ่งจนน่ากลัว


    “ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก แค่แบบว่าเจอกันครั้งแรกยังไง สนิทกันยังไง ประมาณเนี้ย ส่วนเรื่องมโนพี่ถนัดเลย รับรองหนังตลกของน้องติณณ์หวานจนมดขึ้นเลยแหละ”


    “พี่แนนว่าไงอ่ะ” ติณณกรหันไปถามความเห็น


    “พี่ว่าก็ดีนะ จะได้เรียลๆแต่ที่มาวันนี้ก็จะมาขอเราสองคนแหละว่าว่ายังไง”


    “อืมม จริงๆมันก็ไม่มีไรมากหรอกครับ ผมโอเคนะ พี่ว่าไงอ่ะ” ติณณกรหันไปถามคนที่นั่งนิ่งมาตลอด ร่างสูงละริมฝีปากออกจากแก้วกาแฟแล้วพูดแค่เพียงสั้นๆ


    “แล้วแต่มึงแหละ”


    “งั้น พี่พลอยอยากรู้อะไรล่ะครับ” ติณณกรหันไปถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เจ้าหล่อนยิ้มหวานแล้วหยิบกระดาษกับดินสอขึ้นมาก่อนจะเริ่มเอ่ยถามคำถามทั่วๆไปเช่นว่าพบกันที่ไหน สนิทกันได้ยังไง รวมไปถึงเรื่องราวเรื่อยเปื่อยโดยมีติณณกรเป็นคนตอบคำถามเสียส่วนใหญ่


    ในช่วงท้ายของการประชุมเล็กๆ พลอยไพลินเสนอให้มีการทำวีดิโอเพื่อโปรโมทด้วยการให้สองคู่ตอบคำถามสั้นๆถึงกันและกัน ซึ่งณกานกับติณณกรก็เห็นด้วยเลยตกลงกันว่าให้หล่อนลองเอาไปเสนอกับผู้ใหญ่ในการประชุมครั้งต่อไป


    “แผนเสร็จจากนี่แล้วไปไหนต่อหรือเปล่า เราอยากคุยด้วยหน่อย” พลอยไพลินเอ่ยรั้งร่างสูงที่กำลังจะเดินออกไปพร้อมคนอื่น


    “ผมไม่ว่าง ติณณ์ไปเหอะ” ร่างสูงตอบเรียบๆ แล้วหันไปบอกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลให้เดินมาด้วยกัน โดยไม่สนใจหญิงสาวอีก


    “แฟนเก่าหรอพี่ หน้าบูดเชียว” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยถามเมื่ออยู่กันสองคนแล้ว


    “แฟนเก่าน้องสาว”


    “อ่ออ ห้ะ!!” เขาพยักหน้ารับในตอนแรกแล้วหันกลับมาอีกทีอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ร่างสูงพยักหน้าเนิบๆเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูดแล้วขยายความให้คนที่เบิกตากว้างจนลูกตาแทบจะถลนออกมา


    “เพื่อนสนิทกูสมัยเรียนมหาลัย แล้วก็มาคบกับขวัญ จบก็ไม่ค่อยสวยเลยไม่อยากจะเจอเท่าไหร่”


    ติณณกรพยักหน้ารับแล้วชวนคุยเรื่องอื่นแทนจนทั้งสองมาถึงร้านอาหารที่ตั้งใจจะมาตั้งแต่ตอนแรก สองหนุ่มใช้เวลากับมื้ออาหารนานพอสมควรเพราะไม่ได้มีธุระต่อที่ไหนอีก


    “ดูหนังไหม” ขุนแผนเอ่ยถามขึ้นเมื่อนึกได้ว่ามีภาคใหม่ของภาพยนต์ที่ทั้งคู่พึ่งดูผ่านการฉายย้อนหลังทางทีวีพึ่งเข้าฉายวันนี้


    “ไปดิ เดี๋ยวดูรอบก่อน”


    ติณณกรว่าแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูรอบหนัง แล้วกดจองทันทีหลังจากหันมาถามความเห็นของคนชวน นิ้วเรียวที่กำลังกดล็อคโทรศัพท์ชะงักเมื่อนึกย้อนไปถึงบทสนทนากับหญิงสาวที่พึ่งแยกจากกัน

     

    “แล้วกิจกรรมที่ทำด้วยกันล่ะ”


    “อืม ก็ไม่มีอะไรพิเศษนะครับ กินข้าว ดูหนังปกติ บางทีก็ดูบอลด้วยกันตอนกลางคืนบ้าง ถ้าวันไหนขี้เกียจก็นอนเล่นอยู่ห้อง หรือไปถ่ายรูปเล่นกันครับ”


    “แหม เหมือนเป็นแฟนกันจริงๆเลยนะคะ”

     

    คิดมาถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนๆ เลยหันไปหยิบน้ำมาดื่มแก้เก้อ ทั้งๆที่ในสมองค้านว่าเพื่อนกัน พี่น้องกัน ดูหนังกินข้าวมันก็เรื่องปกติหรือเปล่าวะ แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจเจ้ากรรมดันเร่งจังหวะการเต้นขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม

     


    ขุนแผนยืนอยู่ในสตูดิโอที่ถูกจัดง่ายๆ มีเพียงโซฟาเรียบหรูสีขาวสำหรับหนึ่งคนนั่งที่วางอยู่หน้าฉากหลังสีชมพูอ่อน มีชื่อโปรเจคถูกแปะไว้บนสุดส่วนถัดลงมาเป็นชื่อภาพยนต์เรื่องนี้ “จักรวาลเธอ”


    “ใครว่างบ้างไป เลื่อนไฟตรงนั้นให้พี่หน่อยสิ”


    เสียงสั่งงานของคนที่มองภาพผ่านมอนิเตอร์เรียกให้ขุนแผนหลุดจากภวังค์ ขายาวๆก้าวไปตามความเคยชิน จัดการจัดไฟให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมท่ามกลางสายตาหลายคู่ของทีมงาน


    “อ่า โทษทีครับ ผมชิน”


    “เห้ย น้องแผน ไม่ต้องขอโทษพี่สิต้องขอโทษเรา วันนี้เรามาในฐานะคนหน้ากล้องนะ งานพวกนี้เดี๋ยวพวกพี่ทำเอง ไปนั่งรอในห้องแต่งตัวเถอะ” ทีมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกแล้วดันหลังให้เขาเดินไปในทิศทางของห้องแต่งตัว


    เขาเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้าไปแล้วก็เจอกับร่างเล็กที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ นิ้วเรียวกดยิกๆอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์เดาได้ว่าไม่ยากว่าอีกฝ่ายกำลังหัวร้อนอยู่กับเกมส์แน่ๆ


    ร่างสูงสาวเท้าเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือไปคลึงระหว่างคิ้วของอีกฝ่ายเบาๆ พอเห็นเขามาร่างเล็กก็ขยับให้มีที่ว่างพอให้เขาได้หย่อนตัวลงไปนั่งข้างกัน ขุนแผนเลยเนียนยื่นหน้าเข้าไปมองอีกฝ่ายเล่นเกมส์เงียบๆ


    กลิ่นอาฟเตอร์เซฟอ่อนๆที่อยู่ใกล้ตัวทำให้ติณณกรแทบจะไม่มีสมาธิกับเกมส์ โดนยิงเฉียดตายหลายครั้งจนในที่สุดตัวของเขาก็ล้มลงนอนแน่นิ่งกับพื้น


    “สองหนุ่มเสร็จกันหรือยัง ป่ะฉากพร้อมแล้ว”


    ณกานโผล่หน้ามาจากหลังประตูแล้วเอ่ยปากเรียกในตอนที่ตัวละครในเกมส์ของติณณกรโดนระเบิดตายพอดี


    “กาก”


    “ชิส์ ไปเลย ไปทำงาน” ร่างเล็กย่นจมูกใส่แล้วเดินหนีไปทางประตูทางออก โดยมีคนตัวสูงเดินตามหลังไปห่างๆ แล้วไปหยุดอยู่หลังมอนิเตอร์ปล่อยให้ร่างเล็กเดินไปนั่งยิ้มอยู่หน้ากล้อง เขารับหูฟังจากณกานมางงๆ เธอเลยบอกว่าให้สวมไว้จะได้ไม่ได้ยินคำถามที่จะถามซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี


    “พร้อมนะครับ”


    ร่างเล็กพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนที่เสียงผู้กำกับจะดังขึ้นพร้อมสเลทที่ถูกตีหน้ากล้อง คนนั่งอยู่บนเก้าอี้ยังคงฉีกยิ้มอยู่เมื่อทีมงานชวนคุยเล็กน้อย


    “คำถามแรกเลยนะคะ”


    -เจอกันครั้งแรกที่ไหน-


    “อืม” ติณณกรขมวดคิ้วพลางนึกหาคำตอบ เพราะว่าการถ่ายวีดิโอครั้งนั้นทีมงานไม่ได้บรีฟคำถามมาก่อนเพราะต้องการความสดใหม่ของคำตอบ ร่างเล็กครุ่นคิดอยู่ไม่นานก็หันกลับมามองกล้องแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้นตามสไตล์


    “ผมจำไม่ค่อยได้ แต่น่าจะเป็นตอนที่พี่เขามาเป็นตากล้องให้ตอนที่ถ่ายปกอัลบั้มล่าสุดน่ะครับ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่เจอกันดีกว่าครับ”


    -สนิทกันได้ยังไง-


    “อืมมม อันนี้ไม่รู้จริงๆครับ ไปๆมาๆชีวิตผมก็มีพี่มันมาเกาะติดเหมือนเห็บหมาแล้ว”


    ท่าทางหัวเราะจนตาหยีของติณณกรทำให้เขารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเขาที่ไม่ค่อยดีแน่ๆ เลยส่งสายตาดุๆไปให้ตามความเคยชิน


    “ใส่หูฟังอยู่แล้วยังมาทำตาดุอีก ขี้โกงป่ะเนี่ย” ติณณกรแกล้งถามอีกฝ่ายด้วยเสียงปกติแถมยังหันไปมองกล้องทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่นึกติดใจอะไร


    -ประทับใจอะไรในตัวอีกฝ่าย-


    “ความปากหมามั้งครับ”


    -อวัยวะของอีกฝ่ายที่ชอบมากที่สุด-


    “อืมมมแขนครับ”


    -ทำไม?-


    “ก็” 


    ผมชอบตอนที่โดนแขนนั้นกอด ชอบตอนที่ได้หนุนแขนนั้นแทนหมอน ชอบตอนที่แกล้งกัดแขนพี่มันจนจมเขี้ยว ชอบฉิบหายเลย


    ติณณกรชะงักกับคำตอบที่ดังขึ้นในใจ ดีเท่าไหร่ที่เขายั้งปากทัน ไม่อย่างนั้นเหล่าบรรดาสาววายคงได้เอาไปมโนต่อจนไกล ร่างเล็กเลยเลือกที่จะส่งยิ้มหวานให้กล้องแล้วพูดด้วยเสียงกระซิบ “ความลับครับ”


    คำถามสุดท้าย


    -อยากบอกอะไรกับอีกฝ่ายมากที่สุด-


    ร่างเล็กเลิกคิ้วกับคำถามปลายเปิด เขาเอียงคอมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาพอดีแล้วก็ต้องหลุดยิ้มกับสายตาดุๆที่ถูกส่งมา


    “อยากบอกว่าเลิกทำตาดุใส่ผมได้แล้วครับ มันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด” เขาพูดแล้วขยิบตาให้อีกฝ่ายแล้วหันมายิ้มให้กล้องเขินๆในตอนหลัง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อผู้กับกำให้สัญญาณ


    ร่างสูงเดินตรงมาเพื่อเข้าฉาก ตอนที่เดินผ่านกันเขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปยีหัวอีกฝ่ายจนผมยุ่ง เพราะไอ้ประโยคสุดท้ายที่มันพูดเขาอ่านปากมันออก


    ขุนแผนเดินมานั่งประจำที่ เขามองกล้องด้วยท่าทีสบายๆ แต่ไม่ได้แจกยิ้มหวานเหมือนอย่างที่คนก่อนหน้านี้ทำ แล้วทีมงานคนเดิมก็เริ่มถามคำถามอีกครั้ง


    -เจอกันครั้งแรกที่ไหน-


    “ที่งานคอนเสิร์ตล่าสุดของมันครับ ป่าวครับ ผมไมได้ตั้งใจไปดูแต่โดนน้องสาวลากไป” ขุนแผนอธิบายเพิ่มเมื่อเห็นหลายคนทำหน้างงๆ รวมถึงเจ้าตัวด้วย ติณณกรขมวดคิ้วมุ่นอยู่สักพักก็ร้องอ๋อเมื่อนึกได้ว่าวันนี้มีตากล้องขี้เก๊กมาช่วยถ่ายรูปให้ตอนที่กล้องของทีมงานมีปัญหา


    -สนิทกันได้ยังไง-


    “อืมเจอกันบ่อยมั้งครับ”


    ไม่บ่อยสิแปลก ก็เขาเล่นเสนอหน้าไปหาทุกวัน


    -ประทับใจอะไรในตัวอีกฝ่าย-


    “ตอบว่าไม่มีได้ไหมครับ หึหึ” ขุนแผนหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบ้ปากกับคำตอบของผม ติณณกรยืนอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเขาเมื่อครู่แต่ไม่ได้สวมหูฟังแล้วอีกฝ่ายจึงได้ยินคำพูดของเขาทุกคำ


    -อวัยวะของอีกฝ่ายที่ชอบมากที่สุด-


    “ปากครับ”


    -ทำไม?-


    “ก็ปากมันน่าจูบดีครับ” 


    ขุนแผนยิ้มเขินๆ เมื่อเห็นปฎิริยาของคนฟังทั้งสตู จริงๆเขาแค่อยากแกล้งให้ไอ้ติณณ์มันเขินเล่นๆ ไม่คิดว่าจะเผื่อแผ่ไปให้ทีมงานทุกคน แถมยังวกกลับมาหาตัวเองด้วย


    -อยากบอกอะไรกับอีกฝ่าย-


    “อยากบอกว่าถ้าอยากให้เลิกดุก็เลิกดื้อครับ”



    “ที่ผมดุเพราะมันไม่ค่อยดูแลตัวเองชอบกินขนมแทนข้าว ตัวเองเป็นหมอแท้ๆ สมองกลวงคิดว่ากินเค้กแล้วไม่ต้องกินข้าวก็ได้” เขามองหน้าแดงๆของคนตัวเล็กในตอนแรก และหันกลับมาพูดกลับกล้องในประโยคท้ายๆ หางตาเห็นหลายคนกลั้นยิ้มเขาเลยหลุดยิ้มออกมาซะเอง


    “แล้วตัวเองเป็นหมอหรือไง” เสียงค้านของคนโดนดุดังขึ้นกลางปล้อง


    “ไม่ได้เป็นหมอ แต่เป็นห่วง”


    หลังจากเขาพูดจบก็เห็นคนเป็นหมออ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะสรรค์หาคำมาด่าแต่นึกไม่ออก หัวหูแดงไปหมด จนสุดท้ายก็เบะปากใส่เขาแล้วเดินหนีหายไปอีกทาง


    น่ารักจริงๆ



    TBC.

    --------------------------------

    #จักรวาลขุนติณณ์


    27/05/61 ประโยคสุดท้ายนี้ขอยืมประโยคคุณจิรันมาใช้หน่อยนะะะะะ ^^ 

    เพลงจักรวาลเธอ เป็นเพลงของน้อง นนน นะคะ ลองไปหาฟังดูน้าาาา

    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและกำลังใจนะคะ มีคอมเม้นว่ามีคำผิดเยอะเราเลยทยอยรีไรท์ให้ทุกตอนแล้วนะ รักนะจุ้บๆ <3

    lkfklfkglkflgT
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×