คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SHUTTER 3 : โชคชะตา
THE
SHUTTER ♡ 3 โชคชะตา
หลังจากส่งผู้โดยสารจำเป็นเรียบร้อยร่างสูงก็เปลี่ยนจุดหมายจากตอนแรกที่ตั้งใจจะกลับคอนโดเพื่อจัดการงานที่พึ่งถ่ายเสร็จเป็นสถานที่ที่เขาอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก โดยไม่ลืมโทรไปบอกรวีให้ขนของขึ้นไปเก็บไว้บนห้องแล้วกลับไปก่อนได้เลย
“อ่าวพี่ขุน ลมอะไรพัดมา”
ยังไม่ทันที่ขุนแผนจะจอดรถสนิทน้องสาวตัวแสบในชุดกางเกงขาสั้นสีเข้มกับเสื้อยืดตัวใหญ่หันมาทักทั้งๆที่มือยังถือประแจอยู่ในมือ
วันนี้เป็นวันหยุดไอ้เตี้ยของเขาเลยได้ฤกษ์อยู่บ้านช่วยพ่อทำงาน
“ทำไม พี่กลับบ้านไม่ได้รึไง”
“ก็ร้อยวันพันปีไม่เคยจะกลับ”
ขวัญใจย่นจมูกใส่พี่ชายที่เดินมาผลักหัวตัวเองเบาๆ
แล้วหันกลับไปสนใจล้อรถที่ยังถอดไม่เสร็จ
“น้องแผนครับ
รถที่ให้พี่ไปลากมาอยู่ทางนี้นะครับ”
ขุนแผนพยักหน้าเชิงรับรู้ก่อนจะเดินเอากระเป๋าไปเก็บในบ้าน
เข้าไปทักทายบุพการีเล็กน้อยก่อนจะปลีกตัวออกมาที่รถคันงามที่จอดแน่นิ่งอยู่
ร่างสูงใช้เวลาก้มๆเงยๆอยู่แถวๆหน้ากระโปรงรถไม่นานก็เคลื่อนตัวมาอยู่ในตำแหน่งคนขับจัดการสตาร์ทรถและเช็คอะไรอีกนิดหน่อย
กระโปรงรถก็ถูกปิดลงพร้อมรอยยิ้มจางๆของคนซ่อม
“รถใครอ่ะพี่”
“ยุ่ง!”
ขุนแผนยีหัวน้องสาวตัวดีแล้วยกแขนเกี่ยวคอลากให้เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน
หลังจากจัดการล้างไม้ล้างมือเรียบร้อย
สองพี่น้องก็นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นพักใหญ่โดยมีหญิงวัยกลางคนเข้ามาร่วมวงด้วย
สุดท้ายชายหนุ่มก็ตกลงว่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยระหว่างที่รอเขาก็เดินออกไปเกะกะอยู่หน้าอู่เพื่อดูว่ามีอะไรทำบ้าง
หลังจากจบมื้อเย็นขุนแผนก็อยู่นั่งเล่นที่บ้านจนเกือบค่อนคืน
จวบจนเมื่อเห็นว่าใกล้เวลานัดแล้วจึงเอ่ยปากขอตัวกลับ
โดยมีมารดากระเง้ากระงอดว่าอยากจะให้เขาค้างที่บ้านสักคืนแต่ชายหนุ่มก็ยืนกรานหนักแน่นว่ามีงานต้องไปจัดการต่อจนคนเป็นแม่ต้องยอมปล่อยมือแต่โดยดี
ร่างสูงพาตัวเองมาอยู่หลังพวงมาลัยรถและขับพาตัวเองออกไปโดยมีจุดหมายอยู่ที่ที่พึ่งจากมาเมื่อตอนบ่าย….โรงพยาบาล
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาระหว่างที่สัญญาณไฟเป็นสีแดง
เลื่อนหาเบอร์ที่พึ่งได้มาไม่นานแล้วกดโทรออกรอสัญญาณไม่นานปลายสายก็กรอกเสียงเนื่อยๆกลับมา
[สวัสดีครับ]
“สวัสดีครับ ผมโทรมาจากอู่แสงชัยนะครับจะเอารถไปส่ง”
[ครับ มาที่ที่แจ้งไว้ได้เลยครับ]
“ครับ”
สายตัดไปแล้วเหลือไว้เพียงรอยยิ้มที่มุมปากของคนคนตัวสูง
นิ้วเรียวเคาะพวงมาลัยตามจังหวะดนตรีที่เปิดคลออยู่
เขาอยากรู้จริงๆว่าอีกฝ่ายจะทำหน้ายังไงถ้าเห็นหน้าเขา
ใช้เวลาไม่นานขุนแผนก็พาตัวเองมาอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล
ชายหนุ่มเลือกที่จะดับเครื่องยนต์แล้วพาตัวเองมานั่งพิงฝากระโปรงรถด้านหน้าแทนโดย มือหนาล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมากดส่งข้อความไปหาเจ้าของรถเพื่อบอกความจำนงว่าเขามาถึงแล้ว
-ถึงแล้วนะครับ ลานจอดรถ 2B-
ติณณกรมองข้อความสั้นๆที่ถูกส่งมาจึงเริ่มจัดการเก็บเอกสารลงกระเป๋าหยิบขึ้นมาสะพายแล้วสาวเท้ายาวๆเพื่อออกไปยังที่นัดพบ
ใช้เวลาไม่นานเขาก็พาตัวเองมาถึงลานจอดรถตามที่อีกฝ่ายบอก
เมื่อเห็นคนที่นัดแล้วเขาก็รีบสาวเท้ายาวๆเข้าไปใกล้ ก่อนที่คิ้วเรียวจะค่อยๆมุ่นเข้าหากันเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดเจน
ผมสีเข้มยาวระต้นคอที่เคยถูกมัดไว้บัดนี้ถูกปล่อยออกทำให้ดูแปลกตาไป
ร่างสูงในชุดเดียวกับเมื่อเช้านั่งกอดอกนั่งพิงกระโปรงรถมองตรงไปข้างหน้านิ่งๆ
ก่อนจะหันมามองทางที่เขายืนอยู่
“นาย…”
“อืม ไปส่งหน่อยสิ”
“ห้ะ”
“ไปส่งหน่อย”
ติณณกรยิ่งนิ่งไปสักพักเพื่อประมวลผลสิ่งที่ได้ยิน
แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่รอฟังคำตอบเพราะร่างสูงย้ายตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งของผู้โดยสารเรียบร้อย
เขาจึงต้องขยับตัวไปอยู่หลังพวงมาลัยอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่นั่งหลับตาเอนตัวพิงเบาะอย่างเต็มแรง
“ลงไป”
“…”
“นี่!! ลงไป”
“พี่ไม่มีรถ”
ริมฝีปากบางขยับตอบทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
ติณณกรมองภาพตรงหน้าอย่างเหนื่อยใจไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนแถมสรรพนามแปลกๆชวนขนลุกที่อีกฝ่ายโมเมขึ้นมาเองอีก
“ผมเหนื่อยไม่มีแรงจะขับรถวนไปวนมา ลงไป!” ติณณกรกดเสียงให้นิ่งพยายามระงับอารมณ์ตัวเองแล้วก็ต้องชะงักไปเมื่อร่างสูงชะโงกมาดึงกุญแจรถออกแล้วเปิดประตูลงไป
ชายหนุ่มมองตามอีกฝ่ายที่เดินอ้อมมาจนประตูรถฝั่งเขาเปิดออก
“ไปนั่งฝั่งนู้น”
“นี่!!”
“หรือจะให้นั่งตัก”
ทั้งๆที่ไม่ค่อยพอใจแต่ติณณกรก็ต้องจำใจปีนไปนั่งอีกฝั่งอย่างช่วยไม่ได้
ปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นสารถีอีกครั้ง เสียงเพลงเปิดคลอช่วยให้รถไม่เงียบจนเกินไป
ติณณกรเอนตัวพิงเบาะแล้วหลับตาลงเพื่อหนีบรรยากาศตรงหน้า
“บ้านอยู่ไหน”
“คอนโด B สุขุมวิท 21” ติณณกรตอบไปทั้งๆที่ยังหลับตาเพราะเขาต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นแถมตอนนี้ก็ล่วงเข้าวันใหม่ไปแล้ว
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายสะกิดให้ตื่นเพราะว่าถึงที่หมายแล้วแต่ที่ติณณกรยังไม่เข้าใจว่าทำไมร่างสูงยังเดินตามเข้ามา
“ตามมาทำไม”
“ใครตาม”
ติณณกรขมวดคิ้วกับคำตอบที่ได้รับแต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจแล้วเดินต่อไปจนถึงลิฟต์ โดยมีร่างสูงเดินมาอยู่ไม่ห่าง นิ้วเรียวของอีกฝ่ายเอื้อมไปกดเลขที่ปุ่มทำให้คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอีกครั้งเพราะว่ามันเป็นเลขชั้นเดียวกันกับห้องของเขา
“กดสิ”
ติณณกรเอื้อมมือไปกดเลขเดียวกันตามคำบอกของอีกฝ่าย
ก่อนจะลอบถอนหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกว่าโชคชะตาช่างเล่นตลกกับชีวิตเขาเหลือเกิน
แสงยามเช้าลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านสีเข้มเข้ามาส่งสัญญาณให้ร่างสูงที่ยังจับจ้องอยู่กับคอมพิวเตอร์ละสายตาออกมาจากงานตรงหน้า
ขุนแผนทิ้งน้ำหนักลงกับพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรงเพราะเมื่อวันก่อนนี้เขาเกเรไปตามใจตัวเองทำให้แผนงานที่วางไว้ล่าช้าไปหมด
งานที่ต้องส่งลูกค้าในตอนสายของวันนี้ที่ควรจะเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนวานกลับไม่เสร็จจนเขาต้องทำงานจนเช้าเช่นนี้
โฟลเดอร์รูปภาพถูกบีบอัดและอัพโหลดลงไดรฟ์ออนไลน์ก่อนจะส่งข้อมูลไปให้ลูกค้าเรียบร้อยเป็นอันว่าเขาส่งงานได้ทันเวลาแต่ต้องแลกมาด้วยเวลาทั้งหมดของสองวันที่ผ่านมา
ชายหนุ่มปราดตามองตารางงานที่ปรากฏอยู่ก็พบว่าตัวเองยังโชคดีอยู่มากที่วันนี้มีเพียงงานถ่ายงานโฆษณาให้สินค้าตัวหนึ่งในช่วงบ่าย
นั่นหมายความว่าเขามีเวลางีบได้สักสี่ห้าชั่วโมงก่อนไปทำงาน
ออดด
ขุนแผนเลือกที่จะเมินเฉยกับเสียงกริ่งที่ดังขึ้นเพราะว่าร่างกายกำลังประท้วงว่าอยากจะนอนเต็มแก่
แต่ก็ต้องยอมแพ้เมื่ออีกฝ่ายกดย้ำๆจนเขาไม่อาจข่มตานอนได้
ชายหนุ่มจึงต้องลากสังขารออกไปเปิดประตูให้อาคันตุกะที่เขาไม่อยากจะต้อนรับสักเท่าไหร่
“มีไรวะ” ร่างสูงเอนตัวพิงขอบประตูแล้วส่งเสียงแหบๆทักทายอย่างไม่ค่อยเป็นมิตร
ทั้งๆที่ไม่ได้ลืมตามองว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“ขอใช้ห้องน้ำหน่อย”
“หืม…อือ เข้ามาสิ”
เสียงห้วนๆจะว่าคุ้นหูก็ไม่คุ้นที่ดังขึ้นจนเจ้าของห้องต้องลืมตาขึ้นสบกับนัยน์ตาที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ร่างสูงออกปากอนุญาตก่อนจะเบี่ยงกายออกเพื่อให้ร่างบางในชุดนอนสีเข้มหอบผ้าเช็ดตัวกับของใช้เล็กน้อยยืมจังก้าอยู่ตรงหน้าได้เดินเข้ามาในห้อง
“ที่ห้องน้ำไม่ไหลหรอ”
“อือ” ติณณกรตอบเบาๆเท่านั้น ขุนแผนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะชี้ไปทางห้องน้ำเล็กที่อยู่นอกห้องนอนใหญ่เชิงว่าให้อีกฝ่ายใช้ได้ตามสบาย เห็นอีกฝ่ายหายไปในห้องน้ำเขาจึงขยับเท้าพาตัวเองไปทางห้องนอนแล้วล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรต่อ
เพราะว่าคืนนั้นเขากลับมาพร้อมอีกฝ่าย เขาถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วคนตัวเล็กอยู่ใต้จมูกเขานี่เอง
ทั้งๆที่อยู่ห้องตรงข้ามกันมาเนิ่นนานแต่กลับไม่เคยเจอหน้ากันตรงๆสักครั้ง หรืออาจจะเคยเจอแต่ว่าเขาไม่ได้สนใจเสียมากกว่า
ที่จริงแล้วเขาเองก็ค่อนข้างแปลกใจที่อีกฝ่ายโผล่มาแบบนี้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาเองก็เลือกที่จะปล่อยผ่านโดยไม่วอแวกับอีกฝ่ายเพราะความง่วงงุนที่เข้าจู่โจมเขาอย่างเต็มรัก
ไว้ค่อยปิดวาร์ลน้ำห้องตัวเองแล้วไปขอใช้ห้องน้ำคืนวันหลังแล้วกัน
TBC.
-------------------------------------
#จักวาลขุนติณณ์
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ <3 ติชมกันได้น้าาาา จุ้บๆ
ความคิดเห็น