คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [B] DONGJIN : First Problem
24/10/2015
(Donhyuk x Jinhwan)
---------------------------------------------
....คิมจินฮวาน
ไม่ใช่คนโกรธง่าย...
พี่ชายตัวเล็กแสนใจดีคนนี้บางทีก็อารมณ์เสียบ้างเวลาโดนน้องชายตัวยักษ์อย่าง
กูจุนฮเว แกล้ง หรือการลับฝีปากแล้วพ่ายแพ้กลับมากับเพื่อนสนิทอย่าง คิมจีวอน
แต่ยากที่จะได้เห็นจินฮวานโกรธจนหัวเสียไม่ยอมพูดกับใคร
การคบกับจินฮวานเดือนที่ห้าพร้อมด้วยการตัดสินใจอยู่นานสองนานของ
คิมดงฮยอก
ว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยกันกับจินฮวานที่คอนโดของเจ้าตัวหลังจากชวนแฟนของตัวเองมาอยู่ที่บ้านด้วยไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ได้รับแต่คำปฏิเสธ
คงเนื่องด้วยจินฮวานรักห้องนี้รวมทั้งซื้อและรีโนเวทมันด้วยตัวเองทำให้ไม่มีความคิดที่อยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแม้แต่นิดเดียว
นี่คงเป็นความหัวแข็งเล็กๆของแฟนผู้ใจดีของเขา
ก็เคยมาที่ห้องของจินฮวานหลายครั้ง
เคยนอนค้างด้วยล่ะ คบกันมาเกือบครึ่งปีแถมรู้จักกับอีกฝ่ายมาก่อนระยะหนึ่ง
เขาคิดว่าเขารู้จักคิมจินฮวานดีพอที่จะเป็นแฟนที่ดีพร้อมที่ปรับตัวเข้ากับอีกฝ่ายทุกสถานการณ์
การย้ายมาอยู่ด้วยกันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยแถมน่าจะมีความสุขมากขึ้น
...แต่ความจริงแล้วคนฉลาดอย่างคิมดงฮยอกอาจจะคิดไปเองก็ได้....
“อ้าว
ดงฮยอกมาทำไมแต่เช้า? แล้วกินอะไรมายัง?”
พี่ชายแสนใจดีอีกคนของดงฮยอกเปิดประตูห้องของตัวเองด้วยความประหลาดใจ
ซงยุนฮยองเพื่อนร่วมงานของคิมจินฮวานรวมทั้งเป็นแฟนของเพื่อนสนิทของเขาส่งยิ้มให้หลังจากเขาส่ายหัวแทนคำตอบว่ายังไม่ได้กินอาหารเช้ามา
นั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะทานข้าวรอให้อีกฝ่ายทำอะไรให้กินโดยสายตาไม่ละออกจากหน้าจอมือถือเช็กในโปรแกรมแชตกับบุคคลที่เขาคุ้นเคยยังคงไม่อ่านข้อความที่เขาส่งไปตลอดเช้ารวมถึงการโทรหาอีกเป็นสิบสาย
ถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ของวันก่อนได้กลิ่นหอมของไข่ดาวประกบด้วยขนมปังปิ้งตรงหน้าทำให้ท้องของเขาส่งเสียงร้อง
“แล้วมีอะไรถึงมาหาพี่ล่ะ
วันนี้ไม่อยู่กับจินฮวานหรอ?”
ได้ยินชื่อที่ทำให้เขามานั่งกินขนมปังปิ้งอยู่ที่นี่ก็ได้แต่กัดลงไปบนขนมปังและเคี้ยวมันอย่างเนื่อยหน่าย
“พี่จินฮวานหนีไปบ้านพี่สาวครับ
ทิ้งข้อความไว้บนกระดาษแผ่นเดียวบนโต๊ะอาหารกับขนมของฝากจากญี่ปุ่นหนึ่งกล่อง”
“หนีไป?
ทะเลาะอะไรกันหรือไง?”
“เรื่องของเรื่องคือ...”
อาทิตย์ก่อนบริษัทที่จินฮวานกับยุนฮยองทำงานอยู่พาพนักงานไปเที่ยวประจำปีที่ญี่ปุ่น
เมื่อวานเขาขับรถไปรับทั้งคู่พร้อมกับลาก กูจุนฮเว ผู้เอาแต่บ่นไปตลอดทางแต่ก็ยอมให้แฟนตัวเองกอดตอนเจอกันอยู่ดีขณะบ่นถึงของฝากว่าเอามาให้เขาพอกินไหม
หลังจากไปส่งทั้งสองคนที่คอนโดของยุนฮยอง
คืนวันนั้นควรจะเป็นวันที่เขามีความสุขกับการได้นอนกอดจินฮวานให้หายคิดถึง
แต่ดันมีเรื่องกันซะก่อน
...มันเป็นเรื่องเล็กน้อย
เล็กน้อยมาก เล็กน้อยสุดๆสำหรับดงฮยอก แต่ดันเป็นเรื่องใหญ่มากๆของจินฮวาน…
‘ทำไมคุณวู๊ดดี้ถึงยืนอยู่ระนาบเดียวกับบัสเลยล่ะ?
แล้วนี่ดาบของกันดั้มทำไมนอนอยู่แบบนี้?’
ชั้นหนังสือสีดำที่ถูกแปลงเป็นชั้นวางโมเดลแสนรักแสนหวงของเจ้าของห้อง
ทั้งตุ๊กตาโมเดลชุดทอยสตอรี่
กันตั้มตัวใหญ่สูงหนึ่งไม้บรรทัดสามตัวกับตัวเล็กลงมาอีกสามตัว
รวมทั้งโมเดลเรือโจรสลัดวันพีชประกอบเองแบบครบชุด ยังไม่นับกันดั้มในกล่องที่จินฮวานยังต่อไม่เสร็จและดูท่าจะซื้อมาเพิ่มจากที่ญี่ปุ่นอีกหลายกล่อง
พื้นที่หวงห้ามซึ่งถูกกำหนดในข้อตกลงข้อแรกและข้อเดียวที่จินฮวานทำกับคิมดงฮยอกหลังจากอีกฝ่ายย้ายเข้ามา
‘ห้ามยุ่ง ห้ามจับ ห้ามแตะ
และห้ามทำความสะอาดชั้นนี้ โดยเด็ดขาด’
“...พี่ยุนรู้ไหม
อาทิตย์ก่อนเขาก็ปั่นงานที่บริษัทจนไม่ได้ทำความสะอาด อาทิตย์นี้ก็ไปญี่ปุ่น เมื่อเช้าก่อนเขากลับมาผมก็ทำความสะอาดห้องไว้ต้อนรับ
แล้วมันเหลือแค่ตรงนั้นฝุ่นหนาแบบติดนิ้วอ่ะ เป็นพี่พี่จะทำความสะอาดไหม?
ผมก็พยายามค่อยๆทำความสะอาดไป แต่นั้นล่ะโมเดลวู๊ดดี้ของเขาเขาเกือบหล่นพื้น โชคดีผมคว้าไว้ได้
ทำความสะอาดต่อก็ดันชนกันดั้มของพี่เขาก็คว่ำหน้าลงกับชั้น ดาบหลุดแบบพยายามใส่เท่าไรก็ไม่ได้
ผมเลยช่างมัน เรื่องแค่นี้ทำไมพี่เขาต้องเงียบใส่ผม เมื่อคืนนั่งเช็ดโมเดลจนดึกดื่นไม่ยอมแม้แต่เอาของออกจากกระเป๋าด้วยซ้ำ
แล้วเช้านี้หนีไปบ้านพี่สาวเขาโดยที่ตอนนี้ยังโทรไม่ติดเนี่ยนะ?”
เสียงเล็กบ่นแบบติดสปีดตามประสาคนขี้บ่นก่อนยกน้ำส้มขึ้นดื่ม
ถอนหายใจอีกรอบกับเรื่องเล็กน้อยที่เขาทะเลาะกับจินฮวาน
“ก็มันเป็นของที่พี่จินฮวานหวงนิน่า
ไม่แปลกหรอก ตอนพี่ไปห้องนั้นพอจะจับกันดั้มนี่ก็กันท่าแบบอย่าหยิบเองเดี๋ยวหยิบให้
แต่ถึงขั้นติดต่อไม่ได้นี่ก็แปลกเหมือนกันนะ”
“ผมเข้าใจนะว่ามันเป็นของรักของหวงเขา
แต่เอาจริงถ้ามันพังก็ค่อยซื้อใหม่ต่อใหม่ก็ได้ เดี๋ยวผมต่อให้มันไม่น่ายากหรอก”
ซงยุนฮยองนิ่งไปสักครู่ก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้
เดินหายเข้าไปในห้องนอนของตน ไม่นานนักออกมาพร้อมกับกล่องขนาดใหญ่กว่ากระดาษเอสี่เล็กน้อยวางลงบนโต๊ะพร้อมกับคีมปากนกแก้วและคีมคีบปากแหลมในซองเรียบร้อยรวมถึงคัตเตอร์เหล็กใบมีดคมกริบ
“งั้นนายลองประกอบดูไหม?
พี่ซื้อมาฝากจุนฮเวสองกล่อง เป็นแบบ SD ประกอบง่ายสุดล่ะ”
เบ้ปากมองกล่องสี่เหลี่ยมที่บนกล่องเป็นรูปหุ่นรบขนาดเล็กตั้งท่าสุดเท่หน้าตาคล้ายกับที่เคยเห็นบนชั้นโมเดลของจินฮวานก่อนถอนหายใจและเปิดกล่องออก
มองดูแผงพลาสติกที่มีชิ้นของโมเดลติดอยู่ซึ่งตัวอักษรกับตัวเลขกำกับไว้พร้อมกับกางแผ่นกระดาษดูวิธีประกอบ
กำลังจะใช้มือบิชิ้นส่วนออกมาจากแผงแต่คีมเหล็กขนาดพอมือถูกส่งมาตรงหน้า
“ใช้คีมตัดออกนะไม่งั้นมันจะหัก
ต้องปราณีนิดนึงนะ”
มาขั้นแรกก็ต้องละเอียดกันเลยทีเดียว
แต่แค่นี้ไม่คณะมือคนเก่งและฉลาดอย่างคิมดงฮยอกหรอก
.
.
.
“ใช้ปากคีมเล็มตรงเศษที่เหลือจากส่วนที่ถูกตัดให้เรียบ
ไม่งั้นก็ใช้มีดคัตเตอร์ขูดเศษที่เกินมาให้เรียบก่อน ไม่งั้นมันจะประกบกันไม่ลงนะ”
“นั้นมันสลับซ้ายกับขวาแล้ว
ประกอบเข้าไปแล้วด้วย ค่อยๆแกะออกมาเดี๋ยวจะตัวข้อต่อจะหักซะก่อน ระวังๆ”
“พักก่อนไหม?
ดูท่านายจะงงนะ นี่ได้หัว ได้ลำตัว ได้ขาซ้ายล่ะ พยายามเข้า”
“เหลือแต่ติดสติกเกอร์ล่ะ
เอาคีมปากแหลมดึงสติกเกอร์ค่อยๆแปะลงไป”
“คิมดงฮยอก
ถ้าไม่อยากแปะให้กูแปะให้ก็ได้นะ”
จุดนี้กว่าจะทำเสร็จเล่นซะคนอย่างคิมดงฮยอกปาดเหงื่อไปหลายยก
พึ่งได้รู้ว่าความฉลาดของตัวเองที่มีสมัยเรียนไม่ได้ช่วยอะไรกับการต่อโมเดลสักนิด
มิหน่ำซ้ำเจอเพื่อนสนิทตัวดีที่พึ่งตื่นผมกระเซิงออกมาจากห้องนอนหยิบโมเดลกล่องของตัวเองที่ต่อค้างไว้มานั่งต่อเกทัพรอแฟนตัวเองทำข้าวเช้าให้แถมต่อเสร็จพร้อมกับเขาอีกตะหาก
นี่ล่ะที่ทำให้โคตรเซ็งเข้าไปใหญ่
“พึ่งรู้ว่าคนฉลาดอย่างมึงก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็นเหมือนกัน”
“เออ
กูก็พึ่งรู้ว่าคนความอดทนต่ำอย่างมึงก็ทำอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน”
“พอเลยทั้งคู่
เถียงกันให้ได้อะไร จุนฮเวรีบกินรีบไปอาบน้ำ บ่ายมีสอนไม่ใช่หรอ?”
คนแก่กว่าดูมีสติที่สุดในห้องพูดขึ้นห้ามทัพก่อนวางข้าวผัดจานใหญ่ตรงหน้าแฟนของตน
ดงฮยอกหยิบโมเดลหุ่นรบตัวขนาดฝามือที่เสร็จเรียบร้อยขึ้นมาดูแล้วถอนหายใจ
มือของยุนฮยองตบลงมาบนบ่าเขาเบาๆและยกยิ้มให้
“มันไม่ใช่เรื่องของคนเก่งไม่เก่งหรอกนะ
แต่ละคนมันก็มีความถนัดไม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ความจริงอาจจะเพราะว่านายไม่ชอบมันด้วยเลยทำให้หงุดหงิดกับการต่อมัน”
คงจะจริงอย่างที่ยุนฮยองว่า
ตอนเด็กเองเขาก็ไม่ได้เล่นพวกหุ่นยนต์หรือดูการ์ตูนแปลงร่างฮีโร่ด้วยว่าเขามีน้องสาวและเขาตามใจที่จะเล่นอะไรก็ตามแบบอย่างที่ผู้หญิงชอบกัน
แล้วยิ่งมีประเดนนี้อยู่กับจินฮวานยิ่งหัวเสีย ระหว่างที่พยายามต่อโมเดลมันไม่ได้มีความรู้สึกสนุกหรือชอบแม้แต่น้อย
มันดันเป็นความรู้สึกที่อยากเอาชนะ อยากจะทำให้ได้ อยากจะให้เสร็จๆไปมากกว่า
“ก้าวแรกของการอยู่ด้วยกันก็ต้องทำความรู้จักขอบเขตของกันและกัน
คุยกับพี่จินฮวานตรงๆเถอะ เพราะไม่ใช่แค่นายต้องปรับตัวเข้ากับพี่เขาเท่านั้น
พี่เขาเองก็ต้องปรับตัวเข้ากับนายด้วยเช่นกัน”
“พี่เก็บประโยคนั้นไว้พูดกับตัวเองเถอะ”
จุนฮเวเบ้ปากกับประโยคสุดเลี่ยนของแฟนตัวเอง
แต่รอยยิ้มสุดละไมและคำตอบกลับทำให้เด็กหนุ่มได้แต่เงียบ ซัดข้าวผัดเข้าปากด้วยความเซ็งกว่าเดิม
“นั้นก็ต่อเมื่อนายยอมย้ายมาอยู่กับพี่
แต่พี่ว่าพี่เข้าใจวิถีการใช้ชีวิตนายดีกว่าตัวนายอีก
กินให้ไวกว่าจะอาบน้ำกว่าจะเอ้อระเหยเดี๋ยวก็สายพอดี”
“เออ
แดกให้ไว วันนี้กูไม่มีสอนแต่เดี๋ยวขับรถไปส่งที่โรงเรียนให้ ทางผ่านกูพอดี”
“บ้านมึงไม่ได้ไปทางนั้นนิ?”
“พอดีกูมีธุระจะต้องไปทำแถวโน้นและกูพอรู้แล้วว่าจะทำยังไงกับเรื่องของกูกับพี่จิน”
.
.
.
คิมจินฮวานพึ่งจะมามีสติและใจเย็นลงหลังจากได้เปิดดูข้อความทั้งหลายฉบับจากคนเพียงคนเดียวที่ส่งมาตลอดเช้า
คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขา
ความจริงวันนี้เขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะออกไปไหน
เขายังเหนื่อยล้าจากการเดินเที่ยวอยู่แต่เสียงโทรศัพท์ที่โทรมาหาตอนดึกดื่นหลังจากทะเลาะกับดงฮยอก
ทำให้เขาต้องมาบ้านของพี่สาวที่แต่งงานแล้วและบ้านอยู่ในโซลซึ่งพี่สาวกับสามีของพี่สาวเขาจะบินกลับไปบ้านเกิดของเขาที่เกาะเจจูไฟท์เที่ยง
เขาจึงต้องเอาของฝากจากญี่ปุ่นของแม่เขามาให้อีกฝ่ายตั้งแต่เช้า
ทั้งหลบหนีและหลบหน้ามารอส่งพี่สาวตอนเที่ยง
ส่วนตอนบ่ายนั่งเล่นเรื่อยเปื่อยร้านกาแฟ เขียนเรียบเรียงสิ่งที่เขาได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นลงในสมุด
เปิดรูปที่เขาถ่ายไว้บางส่วนในโทรศัพท์เป็นภาพประกอบถึงได้เห็นมิสคอลและข้อความมากมายของดงฮยอกหลังจากที่ปิดเสียงมาตลอดเช้า
เมื่อคืนจะว่าโกรธก็ไม่ใช่
ก็โกรธจริงๆนั้นล่ะ เพราะนั้นเป็นสิ่งที่เขาตกลงกับอีกฝ่ายตั้งแต่ย้ายเข้ามาแล้วไม่ยอมทำตาม
แต่พอคิดไปคิดมาหลังจากหลับไปหนึ่งตื่นและได้นั่งสงบจิตใจในสถานที่อื่นไม่ใช่หน้าชั้นโมเดลของเขา
เขาเองก็พึ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่เขาทะเลาะกับดงฮยอกมันเกินไป
ตัวเขาเองที่หวงเกินไปและทำลายสิ่งที่เรียกว่าความหวังดีที่อีกฝ่ายมีให้เขา
...ทำตัวอย่างกับเป็นเด็กห้าขวบหวงของเล่นไปได้ทั้งที่อายุจะเข้าเลขสามแล้ว...
พอคิดได้อย่างนั้น
นิ้วเรียวจึงกดต่อสายถึงคนที่นึกถึงทันที
“พี่จิน
อยู่ไหนครับ? ยังอยู่บ้านพี่สาวหรือเปล่า? ให้ผมไปรับไหม?”
เสียงแหลมเล็กมีน้ำเสียงเป็นห่วงมากกว่าการขึ้นเสียงแบบเมื่อคืน
ทำให้เขาเองรู้สึกผิดมากกว่าเดิมและทำให้เขารู้ว่าเขาต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนในการจัดการเรื่องทุกอย่างนี้ซะ
“เปล่าอยู่ที่คาเฟ่แถวบ้านพี่สาวน่ะ...เออ...เรื่องเมื่อคืนพี่ขอโทษนะ
พี่เองก็ไม่น่าทะเลาะกับนายด้วยเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ทั้งเราไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งอาทิตย์หนึ่ง
พี่ขอโทษจริงๆ”
“ผมเองก็ขอโทษเหมือนกันครับ
ผมเองก็รู้ว่ามันเป็นข้อตกลงที่พี่ทำไว้กับผม ผมเองก็เป็นห่วงว่าฝุ่นจากตรงนั้นมันจะทำให้ภูมิแพ้พี่ขึ้นหรือเปล่าในตอนเช้า
แต่มันดันทำให้เราทะเลาะกัน ขอโทษด้วยนะครับ...
“...แต่ผมลองหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้แล้วนะครับ
ไว้กลับไปที่ห้องค่อยมาดูกันว่าจะแก้ปัญหากันได้ไหม แล้วเรามานั่งคุยกันอีกที”
ยกคิ้วอย่างแปลกใจแต่ก็ยกยิ้มตรงมุมปากเช่นกัน
ความรู้สึกสบายใจเข้ามาแทนที่ความอึดครึมตั้งแต่เมื่อคืนทั้งที่พูดคุยกันไม่กี่ประโยค
อาจจะเพราะต่างฝ่ายต่างใจเย็นลงและรู้ถึงสิ่งที่เป็นปัญหา
นั้นสินะการอยู่ด้วยกันถึงจะมีปัญหาบ้าง แต่การคิดแก้ไขปัญหาคือสิ่งที่สำคัญกว่า
เพราะว่าเป็นคนสำคัญของกันและกันถึงต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
“อืมม
ได้เลย งั้นมาหาพี่หน่อย ไม่ต้องรอไปคุยที่ห้องหรอก พี่อยากคุยกับนายแล้วล่ะ อีกอย่างพี่ยังไม่ได้เล่าให้ฟังเลยว่าไปเที่ยวมาเป็นไงบ้าง
จะรออยู่ที่ร้านนะ”
.
.
.
“พี่จิน
ไปนอนได้แล้วครับบบ ดึกแล้วนะ”
คิมดงฮยอกนอนอยู่บนโซฟาเกยคางของตัวเองลงไปตรงไหล่ของจินฮวานเป็นรอบที่สาม
ไม่ว่าเขาจะทำท่าน่ารักแล้ว ทำเสียงอ้อนแล้วอีกฝ่ายไม่ยอมขยับตัวจากโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวีแม้แต่นิด
แผงของโมเดลกระจายไปทั่วโต๊ะและกล่องโมเดลที่ใหญ่กว่ากล่องที่ดงฮยอกเคยต่อเป็นขนาดสองเท่าวางเปิดอยู่บนพื้น
ก่อนหน้านี้จินฮวานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รวมถึงเข้ามากอดเขาหลังจากเขาต่อตู้กระจกแบบมีประตูเปิดปิดสี่ชั้นสูงเกือบเท่าตัวอีกฝ่ายแบบตั้งพื้นเสร็จ
ถึงต่อโมเดลไม่เก่งแต่เรื่องต่ออุปกรณนี่เขาชำนาญนะ แต่กว่าจะลากให้จินฮวานไปกินข้าวได้เพราะพี่แกมัวแต่จัดวางโมเดลของตัวเองเข้าตู้ก็เหนื่อยแล้ว
ยิ่งหลังจากอาบน้ำพอเห็นว่าในตู้ยังมีที่ว่างอยู่อีกเยอะจึงหยิบกล่องโมเดลที่ตัวเองซื้อมาจากญี่ปุ่นมานั่งต่ออีก
...ไม่รู้ว่าคิดผิดคิดถูกเลยว่าซื้อตู้มา
แต่เห็นรอยยิ้มของจินฮวานเขาว่าเขาคิดถูกล่ะ...
“ดงฮยอกไปนอนก่อนเลย
พรุ่งนี้มีสอนไม่ใช่หรอ อีกแปปเดี๋ยวตามไป”
คำว่าอีกแปปเป็นรอบที่สามมาตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
งั้นคิมดงฮยอกไม่ขอทนแล้วนะครับ จะทะเลาะอะไรกันไว้ค่อยเคลียร์หลังจากนี้แล้วกัน
แต่ในห้องนอนนะ
“ย๊า
คิมดงฮยอก ปล่อยพี่ลงเดี๋ยวนี้นะ พี่ยังต่อตรงขาไม่เสร็จเลย”
“ไว้ค่อยต่อพรุ่งนี้แล้วกันครับ
พี่อยากต่อโมเดลพี่ต่อไปทั้งวันเลย แต่คืนนี้ผมอยากนอนกอดคนชอบต่อโมเดล
ขอเวลานี้สำหรับผมแล้วกันนะครับ”
Talk: โปรดอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยนะคะ
ประสบการณ์จริงจากคนใกล้ตัว และเราเองก็ชอบต่อโมเดลเหมือนกัน เข้าใจทั้งสองฝ่ายล่ะค่ะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ฟิคเปื่อยนี่มันมียุนจุนเป็นตัวหลักอยู่ดีถึงจะอยู่ในคู่อื่นนะคะนี่ ไบแอสแรงจริงๆค่ะ
โถ่ๆๆๆ ไว้เจอกันเรื่องหน้านะคะ
#ฟิคเปื่อย
ความคิดเห็น