คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [B] JUNHOE : Eat
19/10/2015
---------------------------------------------
...ไม่ใช่ครั้งแรกที่
กูจุนฮเว ทำให้คนอื่นร้องไห้โดยเฉพาะนักเรียนของตัวเอง...
เขาไม่ใช่คนใจร้ายหรือคนดุหรอกนะแต่ด้วยดวงตาคม
สีหน้านิ่ง น้ำเสียงเรียบยามสอนร้องเพลงทำให้ช่วงแรกนักเรียนหลายคนกลัวเขาซึ่งถ้ารู้จักกันไปเรื่อยๆหรือเริ่มสนิทกันแล้วเขาเองก็เป็นคนที่ขี้เล่นขี้เอ็นดูจนพวกนักเรียนติดเขาอยู่
แต่ก็ล่ะพอเวลาเจอว่านักเรียนเขาลืมฝึกหรือลืมทำการบ้านที่เขาให้ไว้ โหมดด้านมืดของเขาเองก็พร้อมจะสั่งสอนเช่นกัน
อย่างเมื่อวานเขาเผลอเข้มงวดกับนักเรียนหญิงวัยสิบห้าในคลาสเรียนส่วนตัว
เธอนั้นร้องเพลงเพราะ แม้เรื่องการจับจังหวะกับการออกเสียงยังคงมีปัญหา
เขาพยายามอธิบายและแก้ไขให้ถูกจุด แต่เมื่อย้ำในจุดเดิมที่เดิมเรื่อยๆ สีหน้าของเธอเริ่มเสียจนกระทั่งเธอนิ่งเงียบและน้ำตาไหลออกอย่างไม่รู้ตัว
เขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจบอกให้วันนี้เลิกเร็วกว่าทุกวันและอย่าลืมฝึกซ้อมก่อนจะเจอกันในคลาสเรียนในวันศุกร์
ปกติเขาไม่ใช่คนคิดมากจนเพื่อนๆบอกว่าเขาเป็นคนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
แต่ถ้ากรณีนี้มันดันทำให้เขารู้สึกไม่ดีจนหน้ามุ่ย
อาจจะเพราะไม่ได้เกิดเรื่องแบบนี้มานานอยู่ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไงกับสถานการณ์ตอนนั้นเช่นกันเพราะตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะปลอบใครเป็น
จุนฮเวไม่พูดหรือสนใจอะไรทั้งสิ้นระหว่างทางกลับหอของตัวเอง ไม่แม้กระทั่งเสียงพูดคุยของซงยุนฮยองแฟนของเขาที่จอดรถของตัวเองไว้ที่โรงเรียนสอนร้องเพลงเหมือนกับทุกวันและเดินมาส่งเขาที่หอสองขายาวต้องแค่ก้าวไปยังห้องของตัวเอง
นอนให้หลับไปซะและตื่นขึ้นมาโดยที่ความรู้สึกนี้หายไป
"กินอะไรดีวันนี้ อากาศเริ่มร้อนแล้ว กินหมี่เย็นตรงข้ามหอนายไหม? จุนฮเว...กูจุนฮเว!"
“อ่า ว่าไง”
"เป็นอะไรหรือเปล่า? นายดูคิดมาก?"
สีหน้าของความเป็นห่วงปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานอย่างชัดเจน
ส่วนตัวเขาเองอยากจะยกยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าไม่เป็นไรรวมถึงจะได้ไม่ถามอะไรต่อ
แต่นั้นล่ะเพราะเขาเป็นคนที่มักแสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาผ่านสีหน้า ใบหน้านิ่งแต่แววตาหมองกว่าปกติและน้ำเสียงเรียบจึงออกมาแทนคำตอบ
"ผมไม่เป็นไร วันนี้ผมเหนื่อยอยากนอน พี่ส่งผมแค่นี้พอ"
"อ่า งั้นพักเยอะๆล่ะกัน"
เขามองหน้าอีกฝ่ายที่ยังแสดงความเป็นห่วงก่อนเดินขึ้นบันได
ย่ำเท้าลงไปแต่ล่ะขั้นด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
ส่ายหัวและบ่นในใจว่าทำไมถึงสลัดความรู้สึกแบบนี้ออกไม่ได้สักที สุดท้ายได้แต่ถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ของวัน
เปิดประตูห้องเตะรองเท้าให้พ้นทางและล้มตัวลงบนผ้าห่มยังไม่ได้พับตั้งแต่เช้าบนเตียง
ข่มตาลงหวังว่าจะหลับสักทีซึ่งพยายามเท่าไรก็ยังหลับไม่ลง
...แต่แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาซะก่อน...
"ครับ.....ผมบอกว่าผมอยากนอนไง"
"เห็นนายเป็นแบบนี้คิดว่าพี่จะปล่อยนายไปหรือไง
ไม่ต้องไล่ด้วยถึงไล่ก็ไม่ไป"
ซงยุนฮยองแทรกตัวผ่านช่องว่างระหว่างตัวเขาที่กำลังจะอ้าปากไล่ทันทีที่รู้ว่าใครนั้นยืนอยู่หลังประตู
อีกฝ่ายเดินตรงเข้ามาในห้องโดยไม่ลืมเปิดไฟ
นั่งลงบนพื้นข้างเตียงล้วงของในถุงพลาสติกสีดำออกมา แกะคิมบับสองแถว วางรามยอนซึ่งเติมน้ำร้อนมาเรียบร้อยสองถ้วยด้วยความระมัดระวังสุดท้ายคือเบียร์สองกระป๋อง
จุนฮเวได้แต่ยืนมองด้วยความงุนงงหลังจากเดินตามเข้ามา
"พี่หิวข้าวแล้วทำไมไม่กลับไปกินที่ห้องตัวเองวะ จะมา..."
คิมบับหนึ่งชิ้นถูกยัดใส่ปากของเขา
ทำอะไรไม่ได้นอกจากเคี้ยวมันอย่างระมัดระวัง
รับรสชาติเค็มของเนื้อหมูย่างของโปรดมีรสเปรี้ยวนิดๆจากไชเท้าดองและความกลมกล่อมของทุกอย่างในปากก่อนกลืนมันลงไปเมื่อแน่ใจว่าเคี้ยวละเอียดแล้ว
ไหล่ของตัวเขาถูกกดลงให้นั่งลงข้างของกินทั้งหลายโดยคนที่พึ่งเดินไปเทน้ำร้อนจากชามรามยอน
แกะซองผงเครื่องปรุงคนให้เข้ากันยื่นรามยอนซึ่งกลายเป็นจาจังมยอนซอสสีดำมาตรงหน้าเด็กหนุ่ม
"ของโปรดนาย ค่อยๆกินล่ะ"
อยากจะบ่นออกไปว่า
พี่ทำบ้าอะไรอยู่ แต่สายตาที่อีกฝ่ายส่งมาว่า กินมันซะ จึงทำได้แค่แกะตะเกียบไม้ด้วยปากและสูดเส้นบะหมี่สีดำโดยไม่ลืมเป่าให้หายร้อน
ลิ้มรสชาติแสนคุ้นเคยเพราะกินยี่ห้อนี้บ่อยที่สุด รวมถึงไม่ปฏิเสธซุปรสเผ็ดเล็กน้อยจากชามบะหมี่ของยุนฮยองที่ยื่นมาให้
คิมบับสองแถวพร่องไปจนหมดรวมถึงบะหมี่ทั้งสองถ้วย
หนังท้องตึงจนนั่งนิ่งมือพาดพุง หลังพิงกับเตียงมองคนแก่กว่าเก็บเศษขยะทั้งหลายลงถุงสีดำก่อนตัวเองยกเบียร์ในมือขึ้นดื่ม
รู้สึกสบายใจขึ้นแบบบอกไม่ถูก ความรู้สึกขุ่นมัวเมื่อสักครู่จางหายไปจนเกือบหมด
อาจจะเพราะว่าท้องอิ่มและเมื่อเห็นรอยยิ้มละไมของแฟนตัวเองราวกับรู้ว่าเขาอารมณ์ดีขึ้นจึงกระดกเบียร์ของตัวเองโดยดวงตาเสไปทางอื่น
“สบายใจขึ้นใช่ไหม?
เวลาไม่สบายใจหรือจะเวลาไหนก็ต้องอย่าลืมกินให้อิ่มท้องรู้เปล่า?”
“เวลาพี่เห็นใครไม่สบายใจพี่จะทำแบบนี้ตลอดเลยหรอ?”
“ก็สำหรับพี่กินแล้วจะหายเครียดเลยคิดว่าตรรกะนี้คงใช้ได้กับทุกคนโดยเฉพาะคนกินเก่งอย่างนาย
เหมือนเวลาเด็กร้องไห้แล้วหลอกเด็กว่าจะซื้อขนมให้นั่นล่ะ”
ยุนฮยองนั่งลงข้างเขาโดยพิงไหล่ของตัวเองทิ้งน้ำหนักลงมา
ดวงตาคู่โตเชยขึ้นมองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มกว้างที่ออกจะล้อเลียนเขาอยู่นิดๆ ทำให้เขาเบ้ปากและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมไม่ใช่เด็กสักหน่อย”
“เป็นเด็กที่ให้พี่หลอกด้วยของกินแบบนี้ล่ะดีแล้ว
โอเคไหม?”
มือกร้านลูบลงมาบนลุ่มผมสีดำสนิทของเขาก่อนจะแรงขึ้นด้วยความหมั่นเขี้ยวจนเขาได้แต่โวยวายและเบี่ยงตัวหนี
ใช้มือจัดทรงผมของตัวเองให้เข้าทรงก่อนเลิกคิ้วขึ้นเมื่ออีกฝ่ายลุกขึ้นยืนเก็บกระป๋องเบียร์ว่างเปล่าของเขาและกระดกในของตัวเองจนหมด
เสตามมองนาฬิกาพบว่ายังไม่ดึกนัก
“หืม?
กลับแล้วหรอ”
“อยากจะให้อยู่ต่อหรือไง?”
ยุนฮยองยกยิ้มกรุ่มกริ่มจนเขาอดคว่ำปากใส่ไม่ได้
“คิดไปเองทั้งนั้น
ไม่ให้ค้างด้วย”
“อยากค้างหรอกนะ
แต่คืนนี้มีงานต้องทำนิดหน่อย พรุ่งนี้ประชุมเช้าด้วย ไว้วันศุกร์จะพาไปกินข้าวแล้วค่อยคิดแล้วกันว่าจะค้างห้องไหนดี
พรุ่งนี้จะบอกโทรละกัน”
เก็บของและขยะจนเรียบร้อยโดยที่ก่อนไปไม่ลืมจูบลงมาบนลุ่มผมสีดำให้จุนฮเวเขินเล่นไปอีกรอบ
เขาลุกขึ้นนอนแผ่ลงบนเตียงของตัวเอง ดวงตาคมปรือตามองคนแก่กว่าที่กำลังเดินไปหน้าประตู
“ปิดไฟให้ด้วย”
“ปิดเอง ลุกมาอาบน้ำแปรงฟันก่อนนอนด้วย
ฝันดีจุนฮเว”
ทิ้งท้ายไว้ด้วยรอยยิ้มกว้างกับคำบอกฝันดีและเดินออกจากห้องไปโดยไม่ทันได้ยินเสียงบ่นอุบอิบจากเขา
จุนฮเวลุกขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันด้วยความหัวเสียเล็กน้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าสบายๆเตรียมตัวนอน
ตัดไปเลยเรื่องอาบน้ำไว้ค่อยอาบพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน ปิดไฟล้มตัวลงนอนเพราะอิ่มท้องและอารมณ์ดีขึ้นจากเมื่อเย็นทำให้เพียงไม่นานก็เข้าสู่โลกแห่งความฝัน
...หลับไปทั้งที่คิดว่าวันคลาสเรียนวันศุกร์เขาจะซื้อนมกล้วยสักสองขวดสำหรับเขาและนักเรียนของเขาเตรียมไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีก...
Talk: ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องแรกที่ตั้งใจว่าจะมาแปะในฟิคเปื่อยเลยค่ะ
สุดท้ายดองเค็มเลย เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆ อาทิตย์ที่ผ่านมาโมเม้นยุนจุนเบ่งบามากเลยค่ะ
เลยต้องมาจัดฟิคยุนจุนสักหน่อย ฟิคเปื่อยนี่มันฟิคไบแอสจุนเน่ชัดๆเลยเน้อ *หลบตา*
ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่ะ
#ฟิคเปื่อย
ความคิดเห็น