ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #51 : [Drabble] My Type(???) [Hanbin X Junhoe]

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 58


    Title: My Type(???)

    Status: Drabble

    Pairing: Hanbin X Junhoe

     

    คำเตือน ฟิคเรื่องนี้ไบแอสแรงมาก โปรดไบแอสไปกับไรตเตอร์ด้วย -3-





     

     


    "พี่ว่าจุนฮเวมันน่ารักขึ้นหรือเปล่าช่วงนี้?"

     


    คำถามไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของ คิมฮันบิน ซึ่งนอนอยู่บนเตียงของตัวเองขณะดูอะไรในหน้าจอมือถือไปเรื่อยเปื่อยก่อนหันหน้ามายังพี่ชายคิมทั้งสองที่กำลังนั่งเล่นเกมต่อสู้ในมือถืออยู่บนพื้นห้องเมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับมา คิ้วซ้ายของ คิมบ๊อบบี้ โก่งขึ้นราวกับเลียนแบบซงมินโฮ รี่ตามองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ส่วน คิมจินฮวาน ใบหน้าน่ารักยังแสดงสีหน้าปกติแต่วางมือถือลงข้างตัวและเอื้อมมือมาแตะหน้าผากเขา

     

    "ก็ไม่มีไข้นิน่า ทำไมเพ้ออะไรประหลาดๆ"

     

    จินฮวานส่ายหัวเบาๆ เจ้าของใบหน้ามึนตั้งสติถึงพึ่งรู้ถึงความหมายในประโยคนั้นจึงปัดมือพี่ชายคนโตทิ้งลุกขึ้นนั่งทำเสียงฮึดฮัด

     

    "โว้ย ไม่ได้เพ้อ พี่ไม่รู้สึกจริงหรอตั้งแต่มันย้อมผมใหม่ พี่บ๊อบบี้เองก็แซวมันอยู่นิ"

     

    "พี่แซวว่ามันหล่อป่าววะ ให้พูดว่ามันน่ารักดิ มันจะไม่ต่อยปากพี่ฟันยุบหรอวะ"

     

    แค่คิดบ๊อบบี้ก็กอดแขนตัวเองด้วยความกลัวและเอามือจับฟันหน้าตัวเองราวกับมันยุบเข้าไปแล้วจริงๆ ฮันบินกลอกตาเล็กน้อยกับท่าทางนั้น

     

    "แล้วทำไมถึงคิดว่าจุนฮเวน่ารักขึ้นล่ะ? คงไม่ใช่ด้วยมันย้อมผมใหม่หรอมั้ง อยู่ด้วยกันมาตั้งนานมันทำมาตั้งหลายสีล่ะ"

     

    เออ นั่นสิทำไมเขาถึงคิดว่าจุนฮเวน่ารักขึ้นหว่าทั้งที่อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเกือบสามปี ใบหน้านิ่งๆออกหยิ่งเล็กน้อยดูน่ากลัวสำหรับคนภายนอก ความจริงมันก็น่ากลัวสำหรับพวกพี่ๆด้วยล่ะ จนทุกวันนี้จะลืมพี่ลืมน้องกันหมดล่ะ แต่เวลามันบ้าบอทำตัวติ๊งต๊องไร้สาระก็ดูสมวัยมันอยู่

     

    ซึ่งในความติ๊งต๊องไร้สาระช่วงหลังๆมันดันมีคำว่าน่ารักผสมเข้ามาด้วยเนี่ยสิ....

     

    ขยี้ผมบนหัวตัวเองและส่ายหน้าไปมา เริ่มไม่เข้าใจตัวเองนิยามคำว่าน่ารักสำหรับตัวเองจากคุณมิกกี้กลายเป็นคนโหดๆแบบ กูจุนฮเว ได้ไงหว่า

     

    "ไม่รู้วะพี่ อยู่ดีๆเวลามองมันแล้วรู้สึกว่าไม่ว่ามันทำอะไรก็น่ารัก แค่นั้นเลย"

     

    "นายอาจจะเริ่มชอบมันก็ได้มั้ง เวลาเราชอบใครสักคนเราก็มองอะไรก็ดีไปหมด ดำเป็นขาว น่าเกลียดเป็นน่ารักก็ได้"

     

    ชอบงั้นหรอ? แต่จุนฮเวแทบไม่ได้ใกล้เคียงสเป็กของคิมฮันบินเลยนะ เขาชอบผู้หญิงที่ใส่รองเท้าผ้าใบเข้ากับกางเกงยีนต์รัดรูป หุ่นเบาะบางน่าปกป้องในเสื้อสเว็ตเตอร์และผมยาวสลวยปล่อยแล้วดูเป็นธรรมชาติ

     

    ส่วนจุนฮเวน่ะหรอ ตัดไปเลยครับผมประบ่าในเมื่อตอนนี้ทรงผมไฮคัทกัดสีขาว หุ่นเบาะบาง? เบาะบางมากเหลือเกินนน(อยากจะลากเสียงสูงและยาวมาก) เจ้านั่นเป็นผู้ชายตัวสูงกว่าเขาด้วยซ้ำ ท่อนขาใหญ่แบบเตะก้านคอหัวหลุดอ่ะ แต่ขามันขาวอยู่นะ เวลาใส่กางเกงขาสั้นขาแม่งขาวโคตร อีกอย่างเวลาใส่เสื้อตัวใหญ่แขนยาวเกือบปิดนิ้วยิ่งทำให้มันเหมือนตุ๊กตาหมี

     


    แบบน่ารัก....น่ากอด....โคตรๆ....

     


    ...นี่เขาคิดอะไรออกไป...

     


    หรือจะเป็นอย่างที่จินฮวานบอกเวลาเราชอบใครสักคนทำให้มองคนนั้นน่ารักไปหมด

     



    ...อย่างเช่นตอนกิน...

     


    “จุนฮเว เช็ดปากหน่อยดิ โสโครกมาก”

     

    คิมดงฮยอกปาทิชชูตั้งใหญ่ใส่หน้าจุนฮเวเมื่อทนไม่ได้กับสภาพรอบปากเปื้อนไปด้วยสีดำของซอสจาจังมยอน

     

    “เรื่องของกู พี่เอาซุปมาซดหน่อยดิ”

     

    หยิบชามรามยอนของเขาไปซดทั้งที่ยังไม่อนุญาต ดื่มอึกๆ เอามือลูบท้องด้วยความอิ่มและยกยิ้มทั้งที่ใบหน้ายังเปื้อนซอส เห็นแค่นั้นถึงกลับกลืนน้ำลายคอ รีบคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มก่อนที่จะรู้สึกว่าอยากเช็ดปากให้อีกฝ่ายด้วยบางอย่างที่ไม่ใช่ทิชชู่

     


    ...หรือจะเป็นตอนหาว...

     


    "หาวแล้วปิดปากซะบ้างกูจุนฮเว อ้าปากกว้างซะแมลงวันบินเข้าไปได้เป็นสิบ"

     

    ซงยุนฮยองหยิบหมอนอิงข้างตัวหวังอุดปากจุนฮเวที่นอนเอกขเนกอยู่บนโซฟาหลังจากทนการหาวรอบที่ห้าของเจ้าตัวไม่ได้ แต่อีกฝ่ายรู้ทันจับหมอนไว้ด้วยสองมือก่อนโวยวายกลับไป

     

    “เรื่องของผมเหอะน่า แต่ง่วงชะมัดนอนตรงนี้เลยได้ไหม?”

     

    ดึงหมอนใบที่จับไว้เข้ามากอด หลับตาพริ้ม มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ความจริงฮันบินก็อยากเข้านอนข้างๆด้วยเหมือนกันนะแต่ด้วยความเป็นห่วงและความเป็นลีดเดอร์ที่ดีกลัวหลับไม่สบาย กำลังจะเข้าไปไล่(ขอ)ให้นอนที่ห้องดีๆ แต่ไม่ทันยุนฮยองที่ใช้เท้าเขี่ยไล่ให้เจ้าตัวไปนอนจนตกโชฟาซะก่อน อีกฝ่ายเลยเดินย้ำเท้าตึงๆกลับห้องของตัวเองไป

     


                ...หรือแม้กระทั่งไม่ได้ทำอะไร...

     


                “มองหน้าผมมีอะไร จะบอกว่าผมหล่อก็บอกมาเหอะ”

     

    จุนฮเวหันมาทางเขาหลังจากที่เขาแอบเหลือบมองอีกฝ่ายเป็นระยะเกือบสิบนาทีขณะรอเข้าประชุมกับท่านประธาน ยกยิ้มแบบที่คิดว่าหล่อและมั่นใจตัวเองที่สุด ก็ว่าหล่อหรอกนะ มันหล่อจริงๆนี่หว่า ถึงในใจลึกจะคิดว่าน่ารักก็เถอะ แต่ไอ้ปากของตัวเองเนี่ยก็ไวไปก่อนความคิดทุกที

     

                “มึงหยุดคิดไปเองสักสามวินาทีก็ไม่มีใครว่านะ”

     

                เจ้าเด็กข้างตัวเขาเบ้ปากกำลังจะเถียงออกมาตามประสาคนไม่ยอมรับความจริง แต่ทุกคนในวงหันมาพยักหน้าเห็นด้วยกับเขาเต็มที แถมด้วยการพูดเกทัพของบ๊อบบี้ชื่นชมความหล่อของกูจุนฮเวเป็นการล้อเลียนให้เจ้าตัวได้หันไปตอกกลับว่าก็พี่ไม่หล่อเองทำไมให้บ๊อบบี้เจ็บปวดใจเล่นก่อนลุกขึ้นเข้าห้องประชุมกัน สุดท้ายตลอดการประชุมเขาก็ยังเหลือบมองเจ้าเด็กนั่นเป็นระยะอยู่ดี

     


    อืมม....ถึงตรงนี้คิมฮันบินเริ่มกุมขมับตัวเอง...นี่สรุปว่าเขาชอบจุนฮเวจริงๆแล้วใช่ไหม เพราะไม่ว่ามันจะพูด มันจะเถียง มันจะอยู่เฉยๆ มันจะโวยวายออกมา มันจะบ้า มันก็น่ารักอยู่ดีในสายตาของเขาอยู่ดี

     


    แล้วยิ่งช่วงหลังทำอะไรก็ยังนึกถึงหน้ามันบ่อยๆ คิดถึงมันบ่อยๆ และอยากให้มันยิ้มให้บ่อยๆ

     


    โว้ยยยยยย ไม่เข้าใจตัวเอง

     


    “ไม่รู้วะพี่ ผมเองก็----“

     

    "แยกย้าย แยกย้าย พี่จินไปนอน เล่นเกมจนดึกอีกแล้ว ผมจะนอนแล้ว"

     

    กำลังพูดถึงคนน่ารัก(?) คนน่ารักก็มาเลยครับ เปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะถูกเวลามาก ทำหน้าโหดตาขวางหัวยุ่งมาเชียว อย่ามาทำบ่นว่านอนดึก วันก่อนไปนอนดูการ์ตูนกับชานอูยันเช้าและทำตัวมึนตอนซ้อมพี่ยังไม่ด่าเลยนะครับ

     

    "พี่บ๊อบบี้ปิดไฟที"

     

    พอปีนขึ้นเตียงตัวเองก็สั่งทันที สั่งได้หมดทุกคนรองมักเน่คนนี้ บ๊อบบี้คนดีก็เดินไปปิดไฟให้เพราะกลัวว่าจะโดนอีกฝ่ายปาหมอนใส่ซะก่อน ภายในห้องมืดสนิท ฮันบินนอนลงบนเตียงของตัวเองโดยมีหมอนข้างคุณมิกกี้อยู่ข้างตัว ส่วนพี่ชายคนรองเข้าสู่โลกแห่งความฝันเร็วยิ่งกว่าติดสปีดทันทีที่หัวถึงหมอน เขาพลิกตัวไปมาสองสามทีก่อนนอนหงายมองพื้นเตียงชั้นซึ่งกั้นเขากับจุนฮเวไว้

     

    รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยังไม่หลับเพราะเสียงพลิกตัวของเจ้าตัวจึงใช้เท้าเตะขึ้นไปตรงนั้นอย่างจงใจและเอี้ยวหัวโผล่ออกจากข้างเตียงให้เห็นใบหน้ายู่อย่างอารมณ์เสียของเจ้าเด็กนั่นมองลงมาและเตรียมอ้าปากด่าเมื่อเตะขึ้นไปเป็นครั้งที่สองและสาม

     

    "แค่...ลืมบอกว่าฝันดี"

     

    ส่งยิ้มที่คิดว่าดูดีที่สุดให้ ยิ้มที่อาจจะดูน่าโง่แต่จริงใจสุดๆ ถึงไม่รู้ว่าเจ้าตัวมองเห็นไหมแต่เขาน่ะเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจนเมื่อผมสีขาวเด่นมาแต่ไกลแม้ในที่มืด

     

    "อืม ฝันดี...”

     

    ส่งยิ้มกว้างดวงตาหยีลงเหมือนกับแมวให้ ยิ่งกว่าแปลกใจและใจสั่นระดับสิบริกเตอร์ เอาวุ้ยถึงกูจุนฮเวไม่ใช่สเปกของคิมฮันบินคนนี้แต่ความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงตรงอกซ้ายจากรอยยิ้มที่เขาได้รับเพียงคนเดียวทำให้เขารู้แล้ว

     


    ...ว่าในที่สุดความรักได้เข้ามาหาเขาต้องเรียกได้ว่าเตะเขาเลยดีกว่า...

     

     


    “...ขอให้คืนนี้ผีเข้าฝัน บาย"

     



    กำลังจะลอยเลย จบประโยคเมื่อสักครู่ได้แต่เบ้ปากทันที ความรักเตะกับผีน่ะสิ! ไอ้เด็กนี่นิ ใครให้พูดเรื่องผีกันตอนกลางคืนวะ! กลัวรู้ไหม ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงคว้าหมอนข้างคุณมิกกี้มากอดแน่น ข่มตาพยายามหลับให้ลง คิดๆไปสองวันก่อนไม่น่าดูหนังผีกับชานอูเลยแม้จะดูตอนกลางวันก็เถอะ

     

    ...ถ้าคิมฮันบินนอนไม่หลับตากลายเป็นหมีแพนด้าพรุ่งนี้กูจุนฮเวนายตายแน่...

     

    ...ถึงจะทำอะไรแล้วก็น่ารักก็เถอะ เว้นเรื่องความกวนประสาทไว้อย่างนึงแล้วกัน ส่วนเรื่องที่ว่าใช่ความรักไหมขอดูๆกันไปอีกก่อนแล้วกันนะ ไอ้เด็กบ้า...

     

     

     

    Talk: เหมือนจะดีแต่แน่นอนถ้าเป็นฮันฮเวความกวนประสาทเป็นที่หนึ่งจะให้ลงเอยกันดีๆไม่ได้หรอกคะ คู่ซาดิสตบกันไปตบกันมาถีบกันไปถีบกันมาก่อนจะรักกันนะ ไบแอสจุนเน่แรงมาก ไบแอสตั้งแต่เพลง My Type ออกและด้วยความขี้เกียจมาเสร็จตอนเพลงใหม่ออกแล้ว โถ่ๆ จะไบแอสแรงกล้ากันต่อไปค่ะ ฮ่าๆๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

     

    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×