คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : [SF] Harvest Moon For June! [All x Junhoe]
Title : Harvest Moon For June!
Status: SF
Pairing: All X Junhoe
***คำเตือน
ฟิคเรื่องนี้จุนฮเวเป็นผู้หญิงนะคะ ไม่ชอบแนวนี้ก็ปิดไปก่อนได้เลยค่ะ
อีกอย่างฟิคยาวมากและก็สาระไม่ค่อยจะมีด้วย เสพอย่างบันเทิงแล้วกันนะคะ**
สองขาก้าวออกจากเรือลำใหญ่เหยียบลงบนพื้นไม้ของท่าเรือ
สูดกลิ่นของไอทะเล แสงแดดร้อนจนต้องยกมือขึ้นมาบัง
สายลมพัดแรงจนผมสะบัดยุ่งเหยิงไปหมด สาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีจัดทรงผมหน้าม้าปัดเป๋สีดำสนิทให้เข้าที่เข้าทางเมื่อก้าวขึ้นบันไดหินอ่อนจากส่วนชายหาดสู่ลานกว้างพื้นหินสีส้ม
ดวงตาคมกวาดสายตาไปทั่ว ทางแยกสามทางจากตรงลานกว้างทำให้ยืนหันรีหันขวางพร้อมกับกระเป๋าเป้บนหลังโดยไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อดีก่อนที่ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดสูทสีแดงซึ่งเดินมาอย่างรีบร้อนจากทางแยกด้านหน้าจะตรงเข้ามาหาเธอและถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“เธอคือ กูจุนฮเว ใช่ไหม?”
พยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ
อีกฝ่ายยิ้มรับก่อนจะแนะนำตัวเอง ทาโบล นายกเทศมนตรีแห่ง เมืองวายจีทาว์น
เขาพาเธอเดินชมรอบเมือง จากทางแยกตรงกลางมีโรงแรมหลังใหญ่ตั้งอยู่ เดินต่อเข้าไปเป็นร้านขายของชำ
คลินิกและทางขวาเป็นโบสถ์ บ้านของเขาอยู่ทางซ้ายของร้านขายของชำ ห้องสมุดตั้งอยู่ตรงหัวมุมเขยิบไปอีกนิดเป็นไร่องุ่นซึ่งขายไวน์รสเลิศ ส่วนร้านตีเหล็กอยู่ถัดออกไป
เดินขึ้นเนินเขาเล็กน้อยก่อนจะพบเจอพื้นที่กว้างเต็มไปด้วยกอหญ้า
ตอไม้และก้อนหินขนาดใหญ่ ด้านขวามือมีโรงเลี้ยงวัวกับแกะหลังใหญ่และโรงเลี้ยงม้า ทางซ้ายมือคือบ้านหลังน้อยถัดไปเป็นบ่อเลี้ยงปลาและก็เล้าไก่้กือบสุดปลายทางก่อนจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำสู่ภูเขา
ฟาร์มร้างแห่งนี้เป็นของ
ยางฮยอนซอก คุณปู่ของจุนฮเว หลังจากที่ได้รู้จากพ่อแม่ว่าคุณปู่มีฟาร์มทิ้งไว้
ความคิดอยากทำอะไรแปลกใหม่ผุดขึ้นมาให้หัวในทันที ประกอบด้วยเบื่อบรรยากาศเมืองใหญ่ที่โตมาตั้งแต่เด็กเลยตัดสินใจมายังฟาร์มแห่งนี้โดยไม่ฟังคำทักท้วงใดๆ
คนอย่างกูจุนฮเวซะอย่างถ้าตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้อยู่แล้ว!
...เพราะฉะนั้นเรื่องราวการทำฟาร์มกับความสัมพันธ์ต่อหนุ่มในเมืองนี้ของเธอได้เริ่มต้นขึ้นด้วยเหตุนี้...
+++ พี่ชายคนดีจากฟาร์มไก่ +++
เริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิด้วยแรงใจและแรงกายเต็มเปี่ยม
ครั้งแรกกับการทำฟาร์มดูยุ่งยากสักนิด ไหนจะต้องถางหญ้าตัดกิ่งไม้ทุบหินไถดินด้วยจอบโปรยเม็ดผักซึ่งซื้อมาจากร้านขายของชำด้วยเงินที่มีเพียงน้อยนิด
รดน้ำทุกวันรอดูพืชผลโตด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ยากอยู่กับการใช้เครื่องมือและทำงานที่ไม่เคยชิน
บ่นและกร่นด่าไปก็เยอะ แต่พอได้คำแนะนำกับเริ่มจับเคล็ดได้ หัวไชเท้าสองแปลงแรกออกผลอย่างสวยงามเป็นที่น่าภาคภูมิใจของกูจุนฮเวยิ่งนัก
เมื่อมีเงินให้พอขยับขยายจึงเริ่มซื้อไก่มาเลี้ยงคู่กับปลูกหัวไชเท้าและมันฝรั่ง
ดูแลกันไปเรื่อยๆจนตอนนี้มีผักหลายแปลงและไก่หลายตัว
"อะไรวะ ทำไมน้ำหมดอีกแล้ว"
ตบบัวรดน้ำในมือตัวเองเขย่าๆ
พึ่งเต็มไปเมื่อกี้แล้วนี่เหลือแค่รดหัวไชเท้าอีกแปลงเดียวเอง เดินบ่นไปตลอดทางขณะตรงไปเติมน้ำตรงบ่อปลา
"จุนฮเว อยู่ไหม? พี่เอาอาหารไก่มาส่ง"
น้ำเสียงใจดีเรียกเธอมาจากทางเข้าฟาร์ม
รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมแว่นตาสี่เหลี่ยมแต่ไม่อาจจะซ่อนดวงตาคู่โต รูปร่างสมส่วนในเสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์และผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินปักชื่อ
Bommie Chicken Farm
"อยู่~ พี่ยุนฮยองเข้ามาเลยยย"
ส่งยิ้มกว้างให้แม้อีกฝ่ายจะไม่เห็น
ซงยุนฮยอง ลูกชายของคุณแม่บมมี่จากฟาร์มไก่ซึ่งอยู่ถัดไปจากฟาร์มของจุนฮเว
เธอกับยุนฮยองค่อนข้างสนิทกันพอสมควร
เพราะอึนจิน้องสาวของอีกฝ่ายชอบมาหาเธอที่ฟาร์มเพื่อคุยเรื่อยเปื่อยหรือชวนไปเล่นแถวบ่อน้ำพุร้อนจนพี่ชายต้องมาห้ามว่าอย่ามารบกวนเวลาจุนฮเวทำงานให้น้องงอนเล่นไปตามระเบียบ
ยุนฮยองเข็นรถไถแบกถุงอาหารไก่มาหยุดอยู่หน้าเล้าไก่
ยกไปวางข้างในอย่างรู้งาน จะให้จุนฮเวแบกเข้าไปเองก็กระไรอยู่ถึงความจริงแล้วเธอควรทำเองก็เถอะ
แต่แค่พูดขอยุนฮยองก็ทำให้ล่ะเพราะพี่ชายคนนี้เป็นคนใจดีมาก
"ไก่ของจุนฮเวนี่สุขภาพดีทุกตัวเลย คงดูแลอย่างดีล่ะสิท่า"
ลูบคางพลางมองไก่แต่ล่ะตัวอย่างพิจารณาขณะที่จุนฮเวกำลังให้อาหารไก่และเก็บไข่ไปด้วย
"แน่นอนกูจุนฮเวซะอย่าง"
อีกฝ่ายหัวเราะร่ากับความภูมิใจในตัวเองของจุนฮเวก่อนขยี้ลงมาบนลุ่มผมสีดำสนิทของเธอจนเสียงทรงไปหมด
"ย่าาา พี่อย่ามาแกล้งฉันนะ"
"ทำไมแล้วจะทำอะไรพี่? นี่ยังเหลือที่ว่างเลี้ยงไก่อีกตัวนิ"
พี่ชายจากฟาร์มไก่สังเกตุเห็นที่ว่างอีกช่องหนึ่งสำหรับให้อาหารเมื่อนับจำนวนแม่ไก่ได้ทั้งหมดสี่ตัว
"ช่วงนี้เอาไข่ไปให้คนอื่นกับกินเองหมดเลย เลยยังไม่ได้ฝักอีกตัวน่ะ"
"อืมๆ งั้นพี่ไปล่ะ ตั้งใจทำงานล่ะ"
รอยยิ้มละไมส่งให้เป็นอย่างสุดท้ายก่อนโบกมือลาและเข็นรถไถกลับฟาร์มตัวเองไป
.
.
.
"จุนฮเววว~~~"
เสียงเคาะประตูและเสียงหวานเรียกจากอีกฝั่ง
จุนฮเวเปิดประตูบ้านออกไปอย่างไม่รอช้า แปลกใจเมื่อเห็นสาวน้อยผมบ๊อบหน้าตาน่ารักเพื่อนสนิทของตัวเองมาหาตั้งแต่เช้า
"หืมม ว่าไงอึนจี~~"
"ฉันเอาไข่มาให้ล่ะ” คิ้วของเธอเลิกขึ้น รับไข่จากมือของอึนจิด้วยความสงสัย
“เห็นพี่ยุนบอกว่ายังมีที่ว่างเลี้ยงไก่อยู่เลยเอาไข่มาให้ฝัก
หวังว่าจะโตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์นะ
โบกมือลาอีกฝ่ายเดินออกไปจากฟาร์ม
มองมือไข่ในมืออีกครั้งด้วยความสงสัยที่ยังมีอยู่ แต่ไข่ใบสีขาวนวลซึ่งเหมือนกับไข่ทั่วไปทำให้เธอเลิกคิดสนใจตามประสาคนไม่คิดมากก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าเป้และจัดการรดน้ำกับให้อาหารไก่อย่างเช่นทุกวัน
.
.
.
“อ้าว
พี่ยุนฮยอง วันนี้มาทำอะไรหรอ?
ชายหนุ่มในกรอบแว่นสีดำเดินข้ามสะพานมาจากทางภูเขา โบกมือยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มกว้างขณะเธออุ้มไก่ออกมาจากในเล้ามาไว้ในคอกล้อมด้านนอก
หวังให้เหล่าไก่ตัวน้อยทั้งห้าตัวได้ออกมาสูดอากาศภายนอกบ้างจะได้ไม่เครียดและออกไข่ใบใหญ่
“อยากมาหาเฉยๆน่ะ
แล้วนี่เอาไก่ออกมาระวังจะเจอสุนัขจรจัดมากัดนะ ล้อมรั้วดีๆล่ะ”
“ล้อมรั้วสองชั้นแถมมีชานอูเฝ้าด้วยไม่กลัวหรอก”
เจ้าหมาสีน้ำตาลหางขาวได้ยินชื่อตัวเองจึงเห่าออกมาและวิ่งไปรอบตัวจุนฮเวกับยุนฮยองอย่างสนุกสนาน
ทั้งคู่หัวเราะร่าเมื่อชานอูวิ่งรอบจนเหนื่อยลิ้นห้อย ก่อนอีกฝ่ายจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง
“หืม
พี่จำได้ว่าไข่ที่พี่ฝากอึนจีมาเป็นไก่พิเศษนิ ทำไมลูกไก่ถึงดูเหมือนลูกไก่ปกติเลย”
“ฟักมาก็เหมือนกับลูกไก่ธรรมดานะ
พี่คงดูผิดมั้งงงงง ไข่มันก็เหมือนๆกันหมดนั่นล่ะ หรือเวลาแม่ไก่ออกไข่เสร็จพอลุกขึ้นเดินไปอีกทางมันอาจจะไปนั่งทับไข่ของอีกตัวก็ได้นะ”
พยายามคิดถึงหลักการที่เป็นไปได้ตอบกลับไปเมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจของยุนฮยอง
“อืม...คงงั้นมั้ง....พี่อุตสาห์ตั้งใจดูตั้งใจรอไข่ใบนี้มาให้จุนฮเวโดยเฉพาะเลย ไข่จากแม่ไก่ทองคำซึ่งนานทีๆจะออกไข่เพราะแม่ไก่ที่ฟาร์มพี่เองก็แก่แล้ว...
...อีกอย่างไข่ที่ออกจากแม่ไก่ชนิดนี้คุณภาพดีมากและขายได้แพงด้วย เสียดายจังที่เป็นแค่ไข่ธรรมดา”
พี่ชายข้างบ้านส่ายหัวด้วยความเสียดายก่อนขอลาไปทำธุระของตนที่บ้านตัวเองพร้อมให้สัญญาไว้ว่า เมื่อไรที่จุนฮเวต่อเติมเล้าไก่จะดูแลและรอไข่จากแม่ไก่ทองคำมาให้อีกครั้ง โดยคราวนี้ไม่พลาดแน่นอน
ถอนหายอย่างโล่งอกพลางมองไปยังลูกไก่ตัวน้อย
นึกในใจเสียดายแทบตายเมื่อสักครู่แต่ใครจะกล้าพูดออกไปล่ะ...
ในเมื่อวันนั้นดันเก็บไข่ใบอื่นใส่รวมในเป้แล้วปนกันจนไม่รู้ว่าอันไหนเป็นอันไหน
มิหน่ำซ้ำยังเผลอจับโยนเข้าบ่อน้ำพุร้อนต้มไปทั้งหมดห้าฟองเลย
สุดท้ายวันรุ่งขึ้นก็เลยเอาไข่ของแม่ไก่ตัวเองเนี่ยล่ะฟักแทนเพราะเผื่ออึนจีมาดูจะได้เห็นว่าเอาไปฟักแล้วจริงๆ
...เกือบไปแล้ว
กูจุนฮเว เกือบไปแล้ว...
+++ คุณหมอคนเก่งแสนน่ารัก +++
"จุนฮเวจ๊ะ เข้าไปเลย"
เสียงของนางพยาบาลฮันนาเรียกจุนฮเวหลังจากนั่งรอจนคุณแม่บมมี่จากฟาร์มไก่ออกมาด้านใน
ห้องสีขาวภายในคลินิคประจำเมืองถูกกั้นเป็นสัดส่วนด้านหน้าสำหรับรับรอง
ส่วนด้านในเป็นห้องตรวจ
เธอเดินไปนั่งบนเก้าอี้ด้านหน้าชายอีกคนซึ่งกำลังก้มหน้าเขียนอะไรบางอย่างบนสมุด
"สวัสดีครับจุนฮเว วันนี้เป็นอะไรมาครับ?"
คิมดงฮยอก เงยหน้าขึ้นทักด้วยเสียงแหลมเล็ก คุณหมอในเสื้อกาวน์สีขาวผมหน้าม้าน้ำตาลถูกคาดไว้อุปกรณ์แพทย์กลมๆที่จุนฮเวไม่รู้ว่าคืออะไร
ใบหน้าหวานและรอยยิ้มหวานกับดวงตายิ้มหยีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวดูเป็นมิตรกับคนไข้ทุกคน
"รู้สึกไม่ค่อยสบายค่ะ สงสัยเพราะเมื่อวานก่อนตากฝนตอนเก็บมันฝรั่งขาย"
จุนฮเวไอเล็กน้อยเธอรู้สึกคอแห้งๆมาสองวันแล้วแถมน้ำมูกไหลด้วยทั้งที่ปกติเป็นคนแข็งแรงจะตาย
วิ่งตากฝนเล่นน้ำสมัยอยู่ในเมืองเป็นประจำ หรือฝนที่นี่ฤทธิ์แรงกันแน่นะ
"อ้าปากหน่อยนะครับ..."
.
.
.
"ระยะเริ่มเป็นหวัดครับ ความจริงผมอยากให้นอนพักสักหน่อยไม่งั้นอาจจะแย่ลงกว่านี้"
“แต่ถ้านอนพักก็ไม่มีอะไรกินสิคะคุณหมอ”
ตอบแบบไม่พอใจนิดๆ
เชิดหน้าเบ้ปากเบาๆ จนคุณหมอตรงหน้าถึงกับส่ายหัวในความรั้นของเจ้าตัว
"แต่ถ้าป่วยไปมากกว่าก็ไม่ดีนะครับ เอาเป็นว่ารับยาจากนางพยาบาลฮันนาด้านหน้านะครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
"อ่อ...จุนฮเวครับอันนี้ผมให้ ดื่มเข้าไปแล้วพลังกายจะฟื้นคืนขึ้น เห็นจากความตั้งใจทำงานของคุณ แล้วก็หายป่วยไวๆนะครับ..."
คุณหมอดงฮยอกเกาท้ายทอยก้มหน้าเล็กน้อยยื่นยาชูกำลังขวดเล็กให้จุนฮเว
เธอรับมาและยิ้มกว้างให้คุณหมอก่อนเดินออกมาหานางพยาบาลฮันนา
.
.
.
วันพุธอันแสนสดใส
ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆ จุนฮเวเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีร่างกายแข็งแรงสุดๆ หายหวัดเป็นปลิดทิ้ง
สงสัยยาชูกำลังของคุณหมอแน่ๆ งั้นก็ขึ้นมาบนภูเขาเพื่อหาของป่าขายในยามบ่ายหลังจากรดน้ำให้อาหารสัตว์ในฟาร์มเสร็จสักหน่อย
วันนี้ได้หน่อไม้มาสองหน่อแล้วก็มีดอกหญ้าสีน้ำเงินด้วยขายได้ราคาแท้ๆ
จะว่าไปไม่ได้ขึ้นไปตรงทะเลสาปบนเขานานแล้ว ไหนไปดูหน่อยสิมีอะไรให้เก็บไปขายไหม
หืม
แล้วสิ่งมีชีวิตที่กำลังหันหลังจุ่มเท้าแกว่งน้ำในทะเลสาปนี่ขายได้ไหม
....ไม่ดีกว่า
มีอะไรน่าสนุกกว่านั้น....
"ย่าาาา"
เดินเข้าไปด้านหลังตะโกนเสียงดังใส่และสองมือผลักคนที่นั่งอยู่ข้างทะเลสาปลงน้ำ
"จุนฮเว! เล่นอะไรครับ ตกใจหมดเลย"
โชคดีที่น้ำตื้นคุณหมอคนเก่งเลยได้แค่ลงไปยืนอยู่ในน้ำ
จุนฮเวจิ๊ปากอย่างเสียดาย
"คุณหมอมาทำอารายยย วันนี้ไม่มีคนไข้หรอ?"
"วันนี้คลินิคหยุดครับเลยขึ้นมาสูดอากาศดีๆบนเขาสักหน่อย จุนฮเวล่ะครับ?"
รอยยิ้มกว้างของดงฮยอกส่งให้สาวน้อยอย่างเคย
จนอดยิ้มตามไม่ได้
"มาเก็บของป่าขายล่ะ และก็ว่าจะเก็บดอกไม้แถวนี้ไปฝากฮันนาสักหน่อย"
"งั้นผมช่วยล่ะกัน"
ทั้งสองคนเดินหาดอกไม้กันรอบทะเลสาป มิวายสาวน้อยจอมแสบแกล้งคุณหมอโดยการจับแมลงโยนใส่
แต่โดนอีกฝ่ายจับหนอนมาวางไว้บนหัว จุนฮเวแทบกรี๊ด ตีคุณหมอที่หัวเราะร่าไปหลายที
สุดท้ายได้ดอกมูนดร๊อปสีเหลืองสดสองสามกำ
"แค่นี้ก็พอแล้วไว้วันหลังค่อยมาเก็บใหม่
ขอบคุณคุณหมอมากเลย"
"ไม่เป็นไรครับ และก็..."
ดอกทอยฟลาวเวอร์สีขาวถูกคุณหมอทัดลงไปตรงหูของจุนฮเว
"คิดว่าน่าจะเหมาะกับจุนฮเว น่ารักดีนะครับ"
"เออ...ขอบคุณค่ะ รู้ตัวอยู่ว่าน่ารัก" ยิ้มกว้างอย่างหลงตัวเองทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้อย่างดี
"หมายถึงดอกไม้นะครับ"
"คุณหมอ! ไปล่ะ เดี๋ยวไม่ทันคุณยองเบมารับของไปขายที่ฟาร์มตอนห้าโมงเย็น"
"ไว้เจอกันใหม่นะครับจุนฮเว รักษาสุขภาพด้วย และก็....
...ถึงไม่ต้องป่วยแต่ก็มาหาผมได้เสมอนะครับ"
คุณหมอพูดพลางเอามือเกาท้ายทอยตัวเองแก้เขิน
จุนฮเวยิ้มล้ออีกฝ่ายหนึ่งทีและพยักหน้าให้ ก่อนโบกมือลาและรีบวิ่งกลับมายังฟาร์มของตัวเองโดยมีเจ้าม้าสีน้ำตาลเข้มสุดรักมาต้อนรับถึงทางเข้า
"ว่าไงจินฮยอง"
จินฮยองร้องออกมาอย่างร่าเริง เจ้าของม้าลูบขนมันทีสองทีด้วยความรัก
ก่อนรู้สึกจั๊กจี้ตรงหูและพบว่า...
"เฮ้ยยย จินฮยองกินดอกไม้ทำไม กินต้นหญ้าไม่อิ่มหรอไง?"
มองเจ้าม้าที่เคี้ยวดอกไม้อย่างเอร็ดอร่อยเลยทำได้แต่ถอนหายใจ
อุตสาห์ว่าได้มาสวยๆจะไปปักแจกันอดเลยทีนี้ เอาเถอะมีดอกมูนดร๊อปอยู่ เอาอันนั้นปักก็ได้
....ยังไงซะดอกไม้มันก็เหมือนกันหมดนิน่า...
+++ หนุ่มเมืองใหญ่แสนขี้เล่น +++
เคียวฟันฉับตัดต้นมันฝรั่งที่เหลือทั้งหมดในฟาร์ม
จอบกลบหน้าดินเตรียมสำหรับปลูกพืชฤดูร้อน แค่คิดถึงอากาศร้อนจุนฮเวก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
ทำฟาร์มกลางแดดจ้า ผิวคงคล้ำขึ้นน่าดู ว่าแต่จะมีเวลาได้ไปว่ายน้ำไหมนะ
"เอ๋ะ มีคนอยู่ด้วยแฮะ"
บุคคลมาใหม่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาทั้งที่อยู่มาได้ระยะหนึ่ง
ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกางเกงขาสั้นแถมไม่ใส่เสื้อข้างในโชว์ผิวขาวและหน้าท้องไร้ไขมัน
"นายเป็นใคร?"
"Hi My name is Bobby! ฉันมาจากเมืองใหญ่ปกติฉันจะมาที่เกาะนี้ทุกหน้าร้อน
แล้วเธอล่ะ ปีที่แล้วฉันไม่เคยเจอเธอเลย!"
ใบหน้ายิ้มเปื้อนยิ้มจนเห็นฟันหน้าสองซี่ชัดเจนกับตาเรียวเล็กหยีเป็นเส้นตรงแนะนำตัวเองอย่างสดใส จุนฮเวได้เแต่คิดในใจนี่คนหรือบีเวอร์กันแน่นะ
"ฉันจุนฮเว
มาจากในเมืองเหมือนกัน ฉันพึ่งมาอยู่ที่นี่ไม่นาน ฟาร์มนี้ของปู่ฉันน่ะ"
"งั้นหรอๆ
ดูท่าทางงานจะหนักน่าดูเลย งั้นฉันไม่กวนเธอล่ะ ไว้เจอกันใหม่
ฉันอาศัยอยู่ตรงบ้านริมชายหาดมาหาได้เสมอนะ C Ya!"
บ๊อบบี้เดินเข้ามาจับมือเธออย่าวิสาสะโบกขึ้นลงอย่างแรงโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัวและรีบเดินออกจากฟาร์มไปโดยที่เธอยังไม่ทันได้ด่ากลับ
ให้ตายสิ!
.
.
.
ฤดูร้อนกับมักคู่กับของเย็นๆ หลังจากรดน้ำข้าวโพดและมะเขือเทศให้อาหารไก่กับเจ้าแม่วัวตัวแรก
จุนฮเวชอบมาหลบร้อนแถวชายหาด ร้านขายของกินริมชายหาดดูแลโดยพ่อค้าตาหยี
มีทั้งข้าวโพดปิ้งไหนจะปลาหมึกปิ้งอีก โดยเฉพาะของที่เธอกินประจำ
น้ำแข็งไสราดน้ำแดงที่กินไม่ระวังจะเย็นสุดขั้ว
ท่าทางทรมาณจนทำให้บ๊อบบี้อดขำไม่ได้ บางครั้งจุนฮเวก็มาตกปลาแข่งกับบ๊อบบี้ พนันขนาดของปลาตัวใครใหญ่กว่ากัน ชนะได้กินฟรีแต่แพ้ก็ต้องเอาข้าวโพดหรือมะเขือเทศจากในไร่มาให้อย่างเสียดายของ
"เฮ้ ใกล้วันชมดอกไม้ไฟแล้ว ตอบตกลงว่าจะไปดูกับใครหรือยัง?"
วันชมดอกไม้ไฟจัดที่ชายหาดเป็นตัวแทนสำหรับวันสิ้นสุดฤดูร้อน
ชาวเมืองทุกคนมักจะมารวมตัวดูดอกไม้ไฟลูกใหญ่จำนวนมากซึ่งถูกจุดขึ้นมาอย่างสวยงามจากกลางทะเล
"ยังอ่ะ ยังไม่ได้ตอบตกลงกับใครเลย"
ตอบกลับไปพลางแทะข้าวโพงปิ้งไปด้วย ยุนฮยองกับคุณหมอดงฮยอกเองมาชวนเธออยู่เมื่อวันก่อน
แต่ด้วยว่าอึนจีกับฮันนาก็ชวนเธอด้วยเหมือนกัน เลยคิดว่าไปดูด้วยกันทั้งหมดทุกคนท่าจะดีกว่า
"งั้นไปกับฉันสิ"
ยิ้มกว้างทั้งที่มีซอสปลาหมึกปิ้งเลอะรอบปาก โสโครกชะมัด
ทำได้แต่เบ้หน้าด้วยความรังเกียจ ก่อนอีกฝ่ายจะรู้ตัวถึงได้เอาแขนเช็ดปากแล้วปาดไปกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของตัวเอง
ยิ่งโสโครกเข้าไปใหญ่
“นะๆ อีกไม่กี่วันฉันก็กลับแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้ว่าปีหน้าจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า....”
“...อีกอย่างเธอพึ่งเคยมางานนี้ครั้งแรกใช่ไหม
ฉันมีจุดลับที่ดูดอกไม้ไฟได้แจ่มสุดๆเลยนะ ว่าไง?”
รอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องส่งให้พร้อมสายตากรุ่มกริ่ม
ฟังข้อเสนอดูน่าสนใจไม่เลวเพราะเธอเองก็ตั้งตารออยากเห็นดอกไม้ไฟลูกใหญ่ว่าจะสวยงามจริงอย่างที่หลายคนพูดถึงไหม กลืนข้าวโพดลงคอและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงขู่นิดๆ
“ถ้าไม่แจ่มอย่างที่นายบอกเตรียมโดนถีบตกทะเลแน่”
.
.
.
บรรยาการยามค่ำคืนและผู้คนมากมายมารวมตัวกันบริเวณชายหาด
เดินมารอหน้าร้านขายของกินตามคำชวนของบ๊อบบี้
รอและรอแล้วกร่นด่าในใจแล้วก็ตามก็ยังไม่มาเมื่อจะใกล้เวลาแสดง ส่ายหัวก่อนตัดสินใจว่าจะไปดูกับยุนฮยองและอึนจีตรงชายหาดแทน
เกือบร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อมีใครมาจับมือเธอไว้ หันมาเผชิญหน้าเจอรอยยิ้มกว้างของบ๊อบบี้
ยังไม่ทันพูดอะไรอีกฝ่ายรีบลากเธอเดินผ่านหน้าร้านและตรงไปยังท่าเรือ
“เฮ้ๆ เขาห้ามมาตรงนี้ไม่ใช่หรอมันอันตรายนิ”
“ไม่เป็นไรหรอก อยู่ห่างกันตั้งไกล ทันเวลาพอดี”
เสียงดอกไม้ไฟดังสนั่นจนจุนฮเวต้องยกมือขึ้นมาปิดหูแต่จากสุดปลายท่าเรือสามารถมองเห็นพลุดวงใหญ่ได้ใกล้กว่าตรงชายหาด
สีสันสวยงามแต่งแต้มท้องฟ้าสีดำทำให้เธอมองอย่างไม่กระพริบตาและตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งมือของเธอถูกจับอีกครั้ง
หันหน้าไปหาเพื่อจะถามว่าอะไร กลับพบสายตาจริงจังแทนสายตาขี้เล่นยามปกติมองตรงมาที่เธอ
“ถ้าเธอไปเมืองใหญ่กับฉันก็ดีสิ
ฉันชอบเธอมากๆเลยนะ ไปอยู่ด้วยกันไหม?”
ดอกไม้ไฟจำนวนมากถูกจุดขึ้นมาทำให้บรรยายกาศรอบตัวราวกับในฝัน
ใบหน้าเปื้อนยิ้มจากคนตรงหน้ายังไม่จางหายไปเช่นเดียวกับมือซึ่งยังถูกจับไว้อยู่
พื้นฟ้าสีดำเข้ามาแทนทีอีกครั้งพร้อมกับความตั้งใจรอฟังคำตอบของบ๊อบบี้
จุนฮเวกำลังจะเอ่ยปากตอบแต่กลับโดนขัดจังหวะเสียก่อน
“สองคนนั้นออกมาจากตรงนั้นเลยนะ มันอันตรายรู้ไหม”
เสียงตะโกนของนายกเทศมนตรีทาโบลดังมาจากตรงชายหาด
พร้อมด้วยคุณแทยังยืนอยู่ขนาบข้าง เตรียมตรงเข้ามาลากตัวทั้งสองคน จุนฮเวรีบลากอีกฝ่ายเดินออกมาจากท่าเรือทันที
ปล่อยมือของตัวเองเมื่อถึงตรงชายหาดเดินหลบหนีจากทาโบลไปหาอึนจีกับฮันนา
แต่ไม่ลืมที่จะหันหลังกลับมาตอบคำถามเมื่อครู่
“ที่นายว่าเมื่อกี้ฉันตกลงนะ....”
“....และก็พรุ่งนี้อย่าลืมเอาเบ็ดมาล่ะ
เจอกันตอนบ่าย”
รีบวิ่งไปหาเพื่อนสนิททั้งสองคนโดยไม่ทันได้เห็นใบหน้าแสนมึนงงและเสียงตะโกนของบ๊อบบี้เมื่อดอกไม้ไฟชุดใหม่ถูกจุดขึ้นมาบนท้องฟ้า
เพราะตรงท่าเรืออยู่ใกล้ดอกไม้ไฟไปหน่อยทำให้หูของเธออื้อไปหมด ไม่ได้รู้หรอกว่าประโยคแรกอีกฝ่ายพูดว่าอะไรแต่พอเดาประโยคหลังได้แถมเป็นคำชวนที่น่าสนุกซะด้วย
...ก็ในเมื่อชวนตกหมึกยักษ์แข่งกัน แค่นี้ก็น่าสนุกและได้อิ่มหน่ำกับหมึกปิ้งแน่นอน....
+++ หนุ่มตกงานแสนขี้อาย +++
ฤดูใบไม้ร่วงอันแสนโรแมนติก
ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง พืชผลอุดมสมบูรณ์ มันช่างดีมาก ดีกับการเงินในกระเป๋าจริงๆ
ทั้งของป่ามากมาย เห็ด องุ่น หญ้าสีเขียว
และเห็ดสีดำหายากราคาแสนแพง แล้วยิ่งวันไหนมะเขือม่วงกับมันเทศที่ปลูกไว้ออกผลพร้อมกันเย็นวันนั้นนับเงินมือเป็นระวิงทีเดียว เมื่อมีเงินก็ขอพักสบายๆสักวันนึง จัดการทุกอย่างในฟาร์มเรียบร้อย
บ่ายนี้ขอมาลิ้มรสอาหารแสนอร่อยในโรงแรม สั่งเซ็ตอาหารไม่ใช่น้ำเปล่าฟรีอย่างที่เคยเป็นประจำและคุณชอนเจ้าของโรงแรมแถมพายแอปเปิ้ลแสนอร่อยเป็นของหวานด้วย
ช่างดีจริงๆ
“อ้าว
จุนฮเว วันนี้ว่างหรอ? ถึงมาหาอะไรกินที่นี่น่ะ”
เสียงร่าเริงของซูฮยอนลูกสาวของคุณชอนทักขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มและดวงตาเป็นเส้นตรง
ปกติทั้งสองคนเจอกันตอนเช้าบริเวณบ่อน้ำพุร้อนบ่อยครั้ง จุนฮเวมักนำไข่ที่โยนลงไปต้มในน้ำพุร้อนแบ่งให้ซูฮยอนกินประจำและพูดคุยสัพเพเหระไปเรื่อย
เรียกได้ว่าซูฮยอนเป็นเพื่อนผู้หญิงในเมืองที่จุนฮเวสนิทอีกคนหนึ่ง
“มาพักเติมพลังสักหน่อย
เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องไปทำงานพิเศษที่ไร่องุ่นของคุณซึงฮยอนก็จะไม่ว่างล่ะ”
พูดด้วยข้าวเต็มปากจนซูฮยอนอดขำไม่ได้
คุณซึงฮยอนกับคุณดาร่าเจ้าของร้านของไวน์และไร่องุ่นประจำเมือง
เข้าฤดูใบร่วงองุ่นในไร่ออกผลเยอะเยะมากมายจนเก็บไม่ทันจึงมาขอให้จุนฮเวช่วยงาน ถึงเธอเองมีงานของตัวเองเยอะอยู่
แต่เพราะเป็นคนดีมีน้ำใจไม่อยากปฎิเสธคำขอ
“งั้นชวนพี่จินฮวานไปทำงานด้วยสิ
เห็นว่าพี่จินฮวานหางานทำอยู่ เนี่ยพี่เขาอยู่ในห้องพักชั้นสองพอดีเลย”
นึกถึงชายตัวเล็กใบหน้าขาวสูงกว่าเธอไม่เท่าไร
ดวงตาเรียวกับไฝใต้ตารูปดวงใจ เธอเคยเจอจินฮวานอยู่หลายครั้ง
แค่เดินสวนกันเท่านั้น ครั้งหนึ่งเธอเดินเข้าไปคุยกับอีกฝ่ายในงานเทศกาลชนไก่
ท่าทางอ่ำๆอึ้งๆพูดเบาจนแทบไม่ได้ยินและเอาแต่ก้มหน้ามองพื้นจนเธอทำได้แค่กลอกตาและหนีไปหาอึนจีแทน
เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของโรงแรม
เคาะประตูอย่างมีมารยาท รอแล้วไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจึงเปิดประตูเข้าไป
ร่างเล็กหันหลังให้กับประตูอยู่ตรงมุมห้อง ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่และจุนฮเวไม่อยากรู้เช่นกัน
ใช้มือตบไหล่ไปหนึ่งที
“พี่จินฮวานคะ?”
คนตรงหน้าสะดุ้งเฮือก
หันมาด้วยท่าทางกล้าๆกลัวๆ ยิ่งตอนเห็นว่าเป็นจุนฮเวยิ่งทำท่าทางประหม่าเข้าไปใหญ่และพูดออกมาด้วยเสียงสั่น
“ว่า..ไง..?”
“พอดีว่าคุณซึงฮยอนมาชวนให้ฉันไปทำงานพิเศษช่วยเก็บองุ่นที่ไร่ของแก
ซูฮยอนบอกว่าพี่กำลังหางานอยู่ เลยจะถามว่าพี่สนใจไปทำงานด้วยกันไหม?”
ดวงตาเรียวทำตาโตครู่หนึ่ง
ก่อนพึมพำกับตัวเองอยู่นานสองนานจนความอดทนอันแสนน้อยนิดที่มีของจุนฮเวหมดลง
ถามกลับติดน้ำเสียงรำคาญ
“สรุปว่าไงคะ?
ถ้าไม่อยากทำก็ไม่...”
“ทำ..สิ!...ทำแน่นอน...”
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่ไร่องุ่นของคุณซึงฮยอนตอนสิบโมงนะคะ”
.
.
.
“ค่อยๆเก็บล่ะ
ดูแลมันอย่างเบามือนะ”
เสียงทุ้มต่ำของคุณซึงฮยอนพูดแนะนำขณะที่ทั้งสี่คนช่วยกันเก็บผลองุ่นสีม่วงเข้มสุกพวงใหญ่
จุนฮเวยืนนวดไหล่สักครู่เมื่อเงยหน้าเก็บองุ่นบนเถาซึ่งอยู่สูงเลยหัวเธอนานเกินไปหน่อยด้วยความโลภอยากให้เต็มตะกร้าไวๆ
เสมองไปตามเงาตะคุมๆตรงหางตา จินฮวานกำลังเก็บองุ่นด้วยสีหน้ามีความสุขทำงานส่วนของตัวเองไปเรื่อยๆไม่ยุ่งกับใคร
จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นท่าทางดูผ่อนคลายขนาดนี้ ก็ดูน่ารักดีนะ
ย้ายจากตรงที่ตัวเองอยู่เนื่องจากเก็บองุ่นพวงที่สุกหมดแล้ว
เดินไปยังเข้าไปด้านในซึ่งเถาองุ่นอยู่สูงกว่าด้วยพื้นต่างระดับ เอื้อมสุดมือยังแตะโดนแค่ปลายลูกองุ่นซึ่งห้อยลงมา
แต่ด้วยพวงองุ่นอวบแสนน่ากินล่อตาล่อใจยิ่งนักจึงพยายามเขย่งเต็มที
สุดท้ายคว้ามาได้ทั้งพวงแต่ด้วยความไม่ระวังเกือบสะดุดตะกร้าของตัวเองจนหน้าจะคว่ำ
โชคดีมีคนคว้าไว้ซะก่อน
“ไม่เป็นไร...ใช่ไหม..?”
จินฮวานถามขึ้นด้วยเสียงเบาแต่น้ำเสียงเจือด้วยความเป็นห่วง
ถอนหายใจเมื่อองุ่นในมือที่ยังไม่โดนขย้ำด้วยความตกใจก่อนจะล้ม
ยกยิ้มและวางองุ่นลงบนตะกร้าก่อนหันกลับไปตอบ
“ขอบคุณค่ะพี่จินฮวาน
ยังดีที่ไม่สะดุดตะกร้าเทกระจาดไม่งั้นเสียดายของแย่”
“งั้นเดี๋ยวตรงนี้พี่เก็บเองก็ได้...จุนฮเวไปเก็บตรงที่เอื้อมมือถึงดีกว่า
ไม่งั้นองุ่นอาจจะช้ำได้...และก็จุนฮเวอาจจะบาดเจ็บด้วย....”
“แต่พี่เองก็น่าจะเก็บไม่ถึงนิคะ”
ยกคิ้วขึ้นและถามกลับไปด้วยความสงสัย
“พี่มีตัวช่วยน่ะ...นี่ไง...”
บันไดไม้ถูกยกมาวางไว้ตรงหน้าพร้อมด้วยอีกฝั่งปีนขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น
สีหน้าภูมิใจออกโล่งใจนิดๆเมื่อมือสามารถเก็บองุ่นได้อย่างพอดิบพอดี
ทำให้จุนฮเวหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
“อย่าหัวเราะสิ....ไปทำงานต่อเถอะ
เดี๋ยวคุณซึงฮยอนมาว่าเอานะ....”
“เออใช่ พี่จินฮวานคะ
เวลาคุยกับฉันคุยกันสบายๆก็ได้นะ ไหนๆเราก็ยังต้องร่วมงานไปอีกระยะหนึ่ง”
“พี่คุยไม่เก่ง......แต่พี่จะพยายามแล้วกัน...นะ...”
.
.
.
หลังจากเก็บองุ่นด้วยกันมาหลายวัน
จุนฮเวเริ่มสนิทกับจินฮวานมากขึ้น อาจจะเพราะว่าอีกฝ่ายเองก็มีน้องสาวทำให้รู้สึกเอ็นดูและเริ่มเปิดใจให้กับเธอมากขึ้น
อีกอย่างจินฮวานเองก็มาจากเมืองใหญ่ถึงได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันสนุกสนานจนคุณดาร่าแอบแซวว่าจีบกันกลางไร่องุ่นหรือเปล่า
พี่ชายตัวเล็กทำแค่เบนหน้าหนีขึ้นไปยังเถาองุ่นพึมพำด้วยเสียงบางเบากับหน้าแดงๆ
“ขอบคุณที่มาช่วยนะจุนฮเว
ฉันให้นี่แทนคำขอบคุณ และก็ก่อนกลับฟาร์มรบกวนเรียกจินฮวานที่ห้องเก็บไวน์มาพบฉันหน่อยนะ
ขอบคุณอีกครั้งนะจ๊ะ”
คุณดาร่ามอบขวดไวน์รสดีให้กับจุนฮเวแทนคำขอบคุณในวันสุดท้ายของการทำงานพิเศษ
ยิ้มรับอย่างน่ารักแอบเก็บความดีใจไว้เพราะยังจำรสชาติของไวน์แสนอร่อยที่เคยได้ลองชิม
เดินลงบันไดสู้ห้องใต้ดินซึ่งเต็มไปด้วยถังไวน์ขนาดใหญ่เรียงเต็มไปหมดตามคำขอร้องซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่จินฮวานกำลังเดินขึ้นมาพอดี
“อ้าว
มีอะไรหรอถึงลงมาที่นี่ แล้วนี่ได้ไวน์มาจากคุณดาร่าหรอ?”
“ให้มาเป็นของตอบแทนที่มาช่วยทำงานล่ะ
และก็คุณดาร่าเรียกให้พี่ไปพบน่ะ”
จินฮวานหัวเราะเบาๆกับท่าทางกอดขวดไวน์ด้วยความรักของเธอ
ก่อนพากันเดินขึ้นบันไดออกจากห้องเก็บไวน์
“...ถ้าได้อยู่ดื่มไวท์ที่เราช่วยกันเก็บองุ่นและช่วยกันทำด้วยกันก็ดีนะ”
พึมพำตามนิสัยประจำตัวที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป
โดยที่จุนฮเวเองก็ได้ยินเมื่ออยู่ใกล้กันแค่นี้
“ได้สิ
ถ้าพี่ไม่หนีกลับเมืองใหญ่ไปก่อนคงจะได้ดื่มด้วยกัน”
“ไม่มีทางหนีหรอก ได้งานประจำทำอยู่ที่นี่แล้ว...
...งั้นจะอีกสองปี ห้าปี หรือสิบปี ก็อยู่คุยกันไปเรื่อยๆ
รอดื่มไวน์ด้วยกันนะ สัญญาแล้วนะ”
ยื่นนิ้วก้อยของตัวเองมาตรงหน้าจุนฮเว
รอยยิ้มกว้างประดับบนใบหน้าพร้อมกับดวงตาเรียวเล็กหยีลงรับกับไฝรูปหัวใจใต้ตา
จุนฮเวเองก็ยกยิ้มเช่นกันก่อนยกนิ้วก้อยตัวเองเกี่ยวกับของอีกฝ่าย
คิดในใจด้วยความดีใจ
...ทำไมจะรอไม่ได้ล่ะ ในเมื่อไวน์รสดีต้องใช้เวลานานหน่อย แค่คิดก็หวานปากแล้ว...
+++ หลานช่างตีเหล็กสุดมึน +++
จะว่าไปจุนฮเวไม่ชอบฤดูหนาวสักเท่าไรถ้าไม่นับเวลาแช่บ่อน้ำพุร้อนแล้วรู้สึกดีกว่าปกติล้านเท่า ฤดูนี้ปลูกผักก็ไม่ได้รายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายไข่กับนมและก็การขุดแร่เนี่ยล่ะ เนื่องด้วยทะเลสาปบนภูเขาเป็นน้ำแข็งจึงสามารถเดินเข้าไปในถ้ำกลางทะเลสาปได้
แร่ที่นั้นคุณภาพและราคาดีเสียด้วย เสียแค่ว่าอากาศหนาวไปหน่อย
เลยสลับมาขุดแร่ในถ้ำตรงหลังน้ำตกบริเวณบ่อน้ำพุร้อนบ้าง มีทั้งแร่ทองแดง แร่เงิน
แร่ทองคำ บางทีโชคดีขุดเจอแร่อมาทิสสีน้ำเงินเข้มก้อนใหญ่ แต่เธอเองก็ไม่ชอบมาที่นี่เท่าไรหรอกนะเพราะมีบางอย่างชอบทำให้อารมณ์เสีย
....ต้องบอกว่าบางคนสิถึงจะถูก...
ลงบันไดจากในถ้ำจนถึงชั้นห้า
วางตะกร้าเก็บของไว้ตรงพื้น บิดขี้เกียจเล็กน้อย สายตามองไปเห็นเงาตะคุมๆตรงมุมถ้ำ
กลอกตาอย่างเซ็งอารมณ์ ทำไมวันนี้ต้องเจอกันอีกแล้ว เอาน่าต่างคนต่างอยู่
ถ้าไม่ใช่...
"เห้ย! ว่าไงยัยอ้วน"
"หุบปากไปเลยคิมฮันบิน"
คิมฮันบิน หลานคุณตาแดซองร้านตีเหล็กใกล้ฟาร์มของเธอ
เสื้อแขนยาวกางเกงขายาวตัวหนาสีขาวสำหรับกันความร้อนใต้หมวกแก๊ปใบหน้าหน้ามึนๆจนหน้าถีบให้หายและนิสัยสุดกวนประสาท
"ไหนวันนี้ขุดอะไรได้บ้าง?"
มารยาทมีไหม
มาด้อมๆมองๆในตะกร้าของเธออีก แล้วนั่นค้นทำไม!
"อย่ามายุ่งน่า"
มือรีบคว้าตะกร้ามาอุ้มไว้แต่ไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายหยิบแร่สีขาวใสจากในตะกร้าไปหนึ่งก้อน
พอจะเข้าไปใกล้เพื่อทวงคืนอีกคนก็รีบวิ่งติดสปีดหนีไปข้างถ้ำ
"เอาคืนมานะ" ส่งเสียงขู่รอดผ่านไรฟัน แร่ก้อนนั้นแพงนะเฟ้ย
"ขอน่า ขี้เกียจขึ้นไปขุดจากถ้ำตรงทะเลสาป งั้นให้คืน"
ว่าแล้วโยนอะไรสักอย่างมาทางจุนฮเว เธอรับมาและก้มมองในมือด้วยความสงสัยก่อนจะรู้ว่าเป็นแค่เศษแร่ไร้ค่า สบถด่าใส่แต่อีกฝ่ายทำแค่ยักไหล่และเหยียดยิ้มให้ก่อนโบกมือลาขึ้นบันไดไป
อย่างนี้มันน่าเอาเศษแร่ปาใส่ให้หัวแตกยิ่งนัก!
.
.
.
"คุณลุงแดซองงง หนูเอาบัวรดน้ำมาอัพเกรด"
อากาศหนาวติดลบภายนอกอบอุ่นขึ้นจนแทบร้อนจากเตาไฟในร้านตีเหล็ก กลิ่นเหล็กผสมกับกลิ่นถ่านไหม้ทำให้จุนฮเวหยู่จมูกอย่างไม่ชิน
"โฮะๆๆ ไหนเอาของมาสิ"
หยิบบัวรดน้ำเก่าใช้งานอย่างหนักมาตลอดสามฤดูจากในกระเป๋าเป้และแร่อมาทิสสีน้ำเงินเข้มที่ใช้สำหรับเพิ่มความสามารถให้อุปกรณ์วางไว้บนโต๊ะ
"เอาแบบแจ่มๆหว่านทีเดียวรดได้ครบสิบแปลงเลยได้ไหม"
"โฮะๆๆ เจ้าก็ขอเยอะไปนะ อีกสามวันค่อยมาเอาของล่ะ"
หัวเราะร่ากันทั้งสองคนก่อนจะได้ยินเสียงดังโครมครามมาจากหน้าเตาไฟ
"โอ๊ยยยยยย"
"หว่ายย โง่นิ"
"เงียบไปเลย"
ฮันบินถอดถุงมือกันไฟออก
นวดนิ้วที่โดนค้อนของตัวเองตอกลงไปพลางร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด จุนฮเวเห็นแบบนั้นได้แต่สมน้ำหน้าในใจ
"เห็นพยายามทำอะไรมาอยู่สองสามวันล่ะ
ทำอะไรก็ไม่บอกปู่แล้วปู่จะช่วยได้ไหม"
"น่า! ปล่อยผมเถอะ"
"พยายามเข้าแล้วกันอย่าให้เสียของล่ะ"
ตบไหล่อีกฝ่ายอย่างเห็นใจก่อนโดนแยกเขี้ยวและยกเท้าให้จนเกือบวิ่งหนีออกนอกร้านแทบไม่ทัน
.
.
.
เช้าวันต่อมาหลังจากให้อาหารสัตว์เสร็จ
วันนี้ว่าจะไปคุยเล่นกับฮาอีที่ห้องสมุดสักหน่อย เดินออกจากฟาร์มเข้าเมือง เห็นใครเดินไปเดินมาหน้าร้านตีเหล็กหว่าใส่หมวกแต่หน้าไม่มึนคิ้วนี่ขมวดติดกันเชียว
...คงกลุ้มใจอยู่
ว่าแต่คนแบบนี้กลุ้มใจเป็นด้วยหรอ?....
"เฮ้!"
"เห้ย!
มาตอนไหน"
คนโดนทักตกใจจนหน้าเครียดเปลี่ยนเป็นอ้าปากเหวอและกระโดดถอยหลังเกือบล้ม
เฮ้ย นี่คนไม่ใช่ผีนะ ผีที่ไหนจะน่ารักขนาดนี้
"ตอนนี้เนี่ยล่ะ และจะไปล่ะ" ว่าแล้วจุนฮเวก็เดินผ่านหน้าฮันบินไปแบบไม่สนใจ
"เดี๋ยว!"
หันหลังกลับมาตามเสียงเรียกของอีกฝ่าย ฮันบินหยิบอะไรสักอย่างมาจากกระเป๋าโยนมาให้เธอ
ยกคิ้วอย่างสงสัยมองดูของในมือ
....หืม
สร้อย?....
"ลองทำดูจากไอ้แร่ที่เอามาจากเธอนั้นล่ะ เพราะฉันเป็นคนทำชิ้นนี้เลยเจ๋งสุดไปเลย...
....ให้ละกัน...เออ...อืม...ไปล่ะ"
ฮันบินเกาข้างแก้ม
เสหน้าอีกทางระหว่างพูด พอพูดจบก็เดินเข้าร้านไปเลย
ทิ้งให้จุนฮเวอยู่คนเดียวด้วยความงง มองสร้อยหน้าตาประหลาดกับจี้ทรงแปลกๆอีกครั้ง เนี่ยนะเจ๋ง
แต่ให้ไว้แล้วก็ขอรับไว้ล่ะกัน
...เอาไปให้ชานอูใส่เป็นปลอกคอดีกว่า
ลั่นล้าของฟรี...
+++ หมาน้อยชานอู (Special1) +++
สวัสดีฮับ
ผมหมาน้อยชานอูเองฮับ!
ผมเองอยู่กับจุนฮเวมาตั้งแต่เป็นลูกหมาตัวน้อย
จนตอนนี้ผ่านไปหนึ่งปีผมโตขึ้นเป็นหมาน้อยตัวโตสีน้ำตาลปลายหางสีขาวร่างกายแข็งแกร่งมากเลยฮับ คงเพราะว่าจุนฮเวดูแลผมดีมากและรักผมมาก มากกว่าใครๆในหมู่บ้านด้วยในเมื่อพวกเราผ่านร้อนผ่านหนาวมาตลอดทั้งปีด้วยกันนิน่า
ถึงจะมีหนุ่มๆมากมายเข้าหาจุนฮเว
ผมรู้นะว่าพวกเขาเข้ามาจีบเจ้านายผม ผมเองก็ชอบพี่ยุนฮยองนะฮับ
เขาใจดีแถมเอาขนมมาให้ผมบ่อยๆด้วย อย่างคุณหมอดงฮยองเองก็เป็นคนรักสัตว์
รู้จุดที่เกาตัวผมแล้วสบายสุดๆไปเลย หรือพี่จินฮวานเองตอนเจอกันในงานประกวดสุนัข พี่เขามาลูบหัวผมแถมชมว่าผมน่ารักด้วยล่ะ
คงจะมีแต่ฮันบินที่จุนฮเวไม่ชอบ ในเมื่อจุนฮเวไม่ชอบเขาผมเองก็ไม่ชอบด้วย
เห่าใส่ไปทีนึงอีกฝ่ายตกใจจนกระโดดไปข้างหลังแทบล้ม สะใจสุดๆไปเลยฮับ
ส่วนคุณบ๊อบบี้....ผมจำหน้าคุณบ๊อบบี้ไม่ได้แล้วด้วยสิ
ที่หน้าเหมือนกระต่ายใช่ไหมนะ?
ยังไงก็ตามผมรู้ว่าจุนฮเวไม่สนใจใครหรอก ในเมื่อเขารักผมที่สุดนิ! ให้ข้าวผมกินทุกมื้อบางครั้งมีนมสดให้ด้วย
พาผมเข้าไปนอนในบ้านด้วยทุกวัน อุ้มและก็ชมทุกครั้งเวลาช่วยดูพืชผลหรือเฝ้าไก่
ไหนจะโยนบอลเล่นกับผมในวันที่ฝนหรือมีพายุหิมะอีก ที่สำคัญเขาดีใจมากๆและชมผมใหญ่เลยตอนที่ผมเดินตามเขาติดตอนแข่งในงานประกวดสุนัขตามที่ได้ฝึกกันไว้แล้วได้รางวัลที่หนึ่ง
ก็ผมไม่อยากห่างจากจุนฮเวนิน่า
เห็นไหมว่าผมเป็นเด็กดี เชื่อฟังเขาและรักเขามากๆเลยนะฮับ!
.
.
.
“ชานอูเฝ้าบ้านดีๆนะ
แล้วอย่าไปวิ่งไล่คุณคนแคระแบบนั้นสิ ฉันอุตสาห์ไปขอร้องให้เขามาช่วยงานทั้งทีนะ”
เสียงของจุนฮเวตะโกนห้ามผมจากหน้าบ้านขณะที่ผมกำลังจะวิ่งเข้าไปหาคุณคนแคระซึ่งวิ่งหนีผมจากแปลงหัวไชเท้าไปหลบใต้ต้นมันฝรั่ง
ผมวิ่งเข้าไปหาจุนฮเวหยุดตรงหน้าเขา กระดิกหางอย่างมีความสุข มือของเขาลูบหัวผมด้วยความรักใคร่
ทำให้ผมมีความสุขกว่าเดิมอีกฮับ
“วันนี้มีเทศกาลประกวดทำอาหารล่ะ
ฉันทำอาหารไม่เก่งแต่หวังว่าไข่เจียวสูตรพิเศษจะเอาชนะมาได้
เป็นกำลังใจให้ฉันด้วยนะชานอู”
รอยยิ้มของจุนฮเวสดใสราวกับพระอาทิตย์
ผมเห่าเป็นกำลังใจให้จุนฮเวหนึ่งทีก่อนเดินไปส่งเขาจนพ้นจากขอบรั้วฟาร์มเข้าสู่ตัวเมือง
นอนรอหน้าประตูบ้านอย่างใจจดใจจ่อรอจุนฮเวกลับมาโดยไม่สนใจคุณคนแคระที่เข้ามาเรียกร้องความสนใจจากผม
.
.
.
“อืมมม อิ่มชะมัด”
กลิ่นและเสียงของบุคคลที่ผมคุ้นเคยมาจากด้านหน้าฟาร์ม ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ในเมื่อผมเผลอหลับไปหลังจากวิ่งไล่คุณคนแคระแก้เบื่อเพราะรอเท่าไรจุนฮเวก็ไม่มาสักที เห่าเสียงดังและวิ่งจากสะพานตรงท้ายฟาร์มไปหาจุนฮเวด้วยความดีใจว่าในที่สุดก็กลับมาแล้ว...
แต่ทำไมจุนฮเวไม่สนใจผมเลย....
เดินตรงเข้าไปในบ้านซึ่งถูกต่อเติมเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน...
แล้วปิดประตูบ้านไปซะอย่างนั้น....
เห่าเสียงดังก็แล้ว ตะกุยประตูบ้านก็แล้ว
แต่จุนฮเวไม่คิดจะเปิดประตูให้ผมเข้าไป ฮืออออ ข้างนอกมันหนาวนะ
กลางคืนมันทั้งหนาวและเหงาด้วย คุณคนแคระก็กลับบ้านไปหมดแล้ว
จุนฮเวเปิดประตูให้ผมทีฮับ...ฮืออออออ....
...และแล้วเจ้าหมาชานอูได้แต่ส่งเสียงโหยหวนอยู่หน้าประตูบ้านตลอดทั้งคืนโดยที่เจ้าของไม่รู้ด้วยในเมื่อกินอิ่มมาเต็มคราบจากเทศกาลทำอาหารจนนอนหลับสนิทซะขนาดนี้...
+++ เทพธิดาแห่งน้ำตก (Special2) +++
‘จ๊อม...จ๊อม...’
หืม...ใครโยนผักลงมาตอนนี้
ขี้เกียจ จะนอน
‘จ๊อม...จ๊อม...’
โยนมาตั้งยี่สิบอัน
โอเค ไหนไม่ได้โผล่หน้าขึ้นไปนานแล้วตั้งแต่ฤดูหนาวเพราะน้ำตกเป็นน้ำแข็ง ออกไปก็ได้
"เรียกข้าออกมามีเหตุอันใดกัน อ้าว สวัสดีจุนฮเว"
อยากแอบหาวสักหนึ่งทีตอนอีกฝ่ายไม่ทันสังเกตุ
แต่ก็ไม่ได้ทำในเมื่อสาวน้อยวัยสิบแปดปียืนกระพริบตาด้วยความอึ้งอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ราวกับคิดว่าเธอไม่มีจริง
...ก็ปรากฎตัวมาแล้วนี่ไงมีอะไรก็พูดสิ
ไม่งั้นจะกลับไปนอนต่อแล้วนะ...
"ว้าว ไม่น่าเชื่อที่คุณช่างไม้มิทราจินบอกจะเป็นความจริง อืมม เทพธิดาฮงซอก
เรามีเรื่องอยากขอ"
"เรื่องอะไรล่ะ ผลผลิต สภาพอากาศ หรือความรักล่ะ”
ตอบกลับไปด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย
ต่างจากแววตาเป็นประกายของอีกฝ่ายยิ่งนัก
"เรื่องความรักนั้นล่ะ เราอยากมีแฟน"
"ก็เลือกเอาสักคนสิ เจ้ามีหนุ่มๆที่ชอบเจ้ารายล้อมอยู่ตั้งหลายคน"
"พวกนั้นอ่ะนะ ไม่ใช่สเปกเราสักคน"
อยากจะเบ้ปาก
กลอกตาใส่ให้อยู่ แต่เนื่องด้วยเป็นเทพธิดาพยากรณ์ เอ้ย
เทพธิดาแห่งเมืองนี้จึงต้องคีฟลุกสวยไว้ก่อน
"งั้นเจ้าก็รอ มันเซ โตแล้วกัน"
"เราไม่กินเด็กนะ อีกอย่างกว่ามันเซจะโตเราก็เป็นป้าพอดี"
ได้รับกอดอกและการสะบัดหน้าแทนการปฏิเสธคำแนะนำของเธอ
"มันเซอายุแค่ห้าขวบเอง รออีกสักสิบปีมันเซอายุสิบห้าแล้วค่อยจีบก็ยังไม่สายนะ
ในเมื่อแนะนำไปแล้วไม่สนใจ งั้นก็ไม่มีใครเหลือแล้วล่ะ ข้าขอลาไปก่อนแล้วกัน"
"เดี๋ยว! เราโยนหัวไชเท้าลงไปในน้ำตกตั้งยี่สิบหัวเลยนะ
แล้วจะไปทั้งๆไม่ให้อะไรเนี่ยนะ"
"ก็เจ้าอยากขออะไรยากเองนิ เราแนะนำให้แล้วไม่ทำตามก็ตามใจ"
"งั้นเอาหัวไชเท้าเราคืนมาเลย สิบหัวก็ได้"
แบมือมาตรงหน้าเธอ
ไม่ฟังคำแนะนำยังจะมีต่อรองอีก จะงกไปไหนยัยเด็กนี่
"อย่ามาต่อรอง ถ้าคิดต่อรองกับเทพธิดาแบบนี้ก็อยู่เป็นโสดไปแล้วกันนะ ห้ามเถียงไม่งั้นข้าจะสาปจริงๆแน่"
ว่าเช่นนั้นกูจุนฮเวทำได้แค่อ้าปากค้าง
ยืนนิ่งชี้มือตรงมาหน้าสวยๆของเทพธิดา ถือว่าให้อภัยเด็กแม้จะไม่เคารพเธอก็ตาม
อาจจะเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โบกมือลาอย่างสวยงามกลับลงมาใต้น้ำตกอีกครั้ง
ดีจัง โผล่ขึ้นไปครั้งเดียวก็มีก็มีหัวไชเท้าให้กินไปอีกหลายวันเลยนะเนี่ย ลาภปากแท้ๆ~
Talk: โอ๊ยยยยยยยย
ฟิคยาวมากค่ะ เล่นครบทุกคนก็ยาวขนานี้แถมมีฮงซอกมาอีก บอกได้เลยว่าบันเทิงมากค่ะ
เขียนไว้นานมากแล้วด้วย พึ่งมาต่อ อาจจะสัมผัสได้ถึงภาษาซึ่งเปลี่ยนไปในเรื่อง
ฮ่าๆๆๆ อย่าเอาอะไรกับเด็กติดเกมแก่ๆคนนี้เลยค่ะ อยากลองออลจุนเน่นานล่ะ
แล้วก็ทำสำเร็จแล้ว หวังว่าจะสนุกแล้วคิดถึงบรรยากาศเก่าๆไปกับฟิคนะคะ
เจอกันเรื่องหน้าค่า
#ฟิคต่อเรือ
ความคิดเห็น