ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #48 : [drabble] King & Queen – Angle [Hanbin x Junhoe]

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 58



    Title: King & Queen – Angle

    Status: Drabble

    Pairing: Hanbin X Junhoe

     

    ตอนนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อน Let's Play My King  >>  กับ I'm not A Queen   >> ค่ะ





                …ตอนนี้เป็นเวลา...อืมม ไม่รู้สิ....

     


                คิมฮันบิน ตอบไม่ได้ว่าตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว แต่ความมืดมิดในคืนจันทร์อับซึ่งมีแสงดาวส่องประกายแซมบนท้องฟ้าบอกให้เขารู้ว่ายังไม่ถึงเวลาเช้า

     


                สายตาพร่ามัวจนมองเห็นยอดต้นสนซ้อนกันเป็นหลายภาพ หูแววได้ยินเสียงมากมายจนบอกไม่ได้ว่าเสียงไหนเป็นของจริงกันแน่ ไม่ต้องพูดถึงร่างกายนอนหงายแน่นิ่งดั่งขอนไม้ แค่จะกระดิกปลายนิ้วยังลำบากเลย

     


                เสี้ยวสติที่คงเหลือเพียงเล็กน้อยประคองตัวเองไม่ให้หลับลงและพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายควบคุมไอพลังความมืดสีดำของตนปิดแผลบนท้องรูใหญ่ไม่ให้เลือดไหลออกมา

     


                นัตย์ตาสีน้ำเงินมองบนท้องฟ้าสีดำอย่างว่างเปล่าเหมือนเคย ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเขาไม่เคยเห็นว่าโลกใบนี้มีอะไรน่าสนใจ ทุกสิ่งอย่างช่างแสนน่าเบื่อ อาจจะเพราะเขาเห็นโลกใบในทุกมุมมอง ทั้งดีงาม แสนโหดร้าย หรือแม้แต่ด้านแสแสร้งซึ่งอย่างหลังนั้นเยอะกว่า

     


                ฮันบินปรารถนาความตายมานานแสนนาน ความตายอันสงบสุข ความมืดมิดและเงียบสงบที่เขาโปรดปราน อุปสรรคคงมีแค่ตำแหน่งราชาแห่งความมืดผู้อยู่มีพลังเหนือสรรพสิ่งบนพื้นดินของเขา ยากแม้กระทั่งจะได้รับซึ่งบาดแผล หลายครั้งหลายคราเคยคิดว่าหรือตัวเขาควรปลิดชีวิตตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ แต่ความคิดเหล่านั้นต้องกลับสลายด้วยศักดิ์ศรีของราชาและความหยิ่งทรนงของตัวเองอยู่ดี

     


                บางทีเขาอาจจะอยู่บนโลกใบนี้มานานเกินไป จนกระทั่งคนที่มีพลังคู่ควรและต่อกรกับเขาเกิดขึ้นมา พลังซึ่งสามารถลบล้างความมืดมิดจากตัวเขา การปะทะของเราทั้งคู่ไม่ต้องใช้เวลามากมาย แค่ค่อนคืนพลังภายในตัวถูกนำมาใช้จนหมด ความสามารถในการใช้อาวุธที่แทบไม่ได้ถูกใช้มานานแสนนานถูกนำออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ การต่อสู้รุนแรงกวาดผืนป่าราบเป็นบริเวณใหญ่ และร่างโชกเลือดของเราสองคนอยู่ไม่ห่างกันเนื่องจากต่างฝ่ายต่างไม่สามารถขยับไปไหนได้

     


    ...เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าเขากำลังเข้าใกล้ความตายของตัวเองแล้ว...

     


    ความจริงเขาควรเลิกใช้พลังที่เหลือเพียงน้อยนิดรักษาตัวเองและปล่อยให้ตัวเองหมดลมหายใจไปซะ แต่ภายใต้ความมืดมิดทั้งหลายทั้งในร่างกายและที่สำคัญในจิตใจยังปรารถนาอยากเจอแสงสว่างเล็กๆดวงหนึ่งที่เขาเฝ้ามองและคอยปกป้องอยู่เสมอ

     



    ถึงจะได้พบ ซงยุนฮยอง บุคคนที่สามารถต่อกรกับเขา แต่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เขาเองก็พบ กูจุนฮเว บุคคลซึ่งอยากทำให้เขามีชีวิตต่อไปด้วยเช่นกัน...

     



    ผิวสีขาวซีดซึ่งเหมือนกับไร้เลือดไหลเวียนในนั้น ดวงตาคมซึ่งฉายแววถึงความว่างเปล่าราวกับโลกนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจทั้งที่ใช้ชีวิตมาไม่ถึงหนึ่งในสิบของชีวิตเขาด้วยซ้ำ ปากซึ่งนับครั้งจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาแต่เวลาพูดคุยกับเขาทีไรมีแต่คำเถียงออกมาแทบทุกครา ถึงเจ้าตัวบอกว่าชอบสีดำมากแค่ไหนแต่ฮันบินคิดว่าจุนฮเวเหมาะกับสีขาวมากกว่า

     


    ...บริสุทธิ์ ตรงไปตรงมา และยังเป็นแบบนั้นเสมอเป็นเฉกเช่นเทวดาในสายตาของเขา

     


    ...เทวดาผู้ที่เขาอยากใช้สองมือปกป้องและไม่ยอมให้สิ่งใดรวมทั้งความมืดมิดจากตัวเขาเองทำร้าย

     


    ปิดลงเปลือกตาอย่างช้าๆ พลางปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามชะตากรรม อย่างว่าถึงในใจจะปรารถนาอยากเจอเทวดาของเขาอีกครั้ง แต่อีกทางหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องมาเจอเขาในสภาพแสนอ่อนแอเช่นนี้ เขาเองก็ไม่ได้อยากเห็นใบหน้าอันเป็นกังวลหรือน้ำเสียงแสนเป็นห่วงเพราะเขาคงไม่สามารถปลอบโยนอีกฝ่ายได้

     



    ...ได้โปรดอย่าได้เสียใจกับการตายของเขาเลย จุนฮเว และจงมีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข..

     

     



     [ฮันบิน….]

     

     



    หืมม...เสียงของผู้ที่มารับเขานั้นหรอ....

     

     

     


    [คิมฮันบิน….]

     

     



    ทำไมเสียงช่างเหมือนกับเสียงเทวดาของเขา...

     

     

     



    "คิมฮันบิน ตื่นสิวะ โถ่โว้ย!"

     

      

    เขาอาจจะหูแว่วไป แต่แรงเขย่าตรงไหล่ซึ่งแรงขนาดทำให้เขาต้องร้องโอดครวญ นัตย์ตาสีน้ำเงินลืมขึ้นอีกครั้งและภาพตรงหน้าทำให้จังหวะหัวใจอันแผ่วเบาของเขาเต้นแรง

     


                ร่างกายถูกสั่งการไปก่อนความคิดเมื่อไอพลังช่วยยกมืออันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองขึ้น ปลายนิ้วสั่นเทาสัมผัสแก้มขาวของอีกคนอย่างไม่เชื่อว่าคนตรงหน้าเป็นของจริง

     


    แต่เมื่อมือของเขาถูกกุมไว้ด้วยทั้งสองมือเย็นเชียบซึ่งกำลังสั่นเทาไม่แพ้กัน มุมปากของฮันบินอดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้

     


                “มายิ้มอะไรเวลานี้วะ ถ้าจะบอกว่าเป็นยิ้มสั่งลา ผมจะต่อยหน้าคุณให้ยิ้มไม่ได้”

     


                ยิ้มนี้คงไม่ใช่การสั่งลา เขาอยากจะบอกอีกฝ่ายไปเช่นนั้นแต่จะให้ขยับปากพูดตอนนี้ยังพูดไม่ได้เลย แค่การยกยิ้มขึ้นมายังรู้สึกปวดแผลภายในปากไปหมด ดวงตาแสนพร่ามัวเมื่อสักครู่พอมองเห็นใบหน้าอีกฝ่าย เลือนลางไปบ้างแต่ภาพภายในหัวมันเด่นชัดและอยู่ใกล้แค่นี้หูของเขาสามารถได้ยินเสียงดุชัดเจนยิ่งทำให้รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่

     


                “ตั้งสติไว้ก่อนนะ พยายามใช้พลังตัวเองอุดแผลไว้ก่อน แล้วทำไมต้องมาตีกันวันนี้ด้วยวะ อย่างนี้ผมใช้พลังรักษาคุณไม่ได้ด้วย เอาล่ะ ผมจะพยุงตัวคุณขึ้น หนึ่ง สอง สาม”

               


    เสียงครางด้วยความเจ็บปวดออกจากลำคอของฮันบินอย่างเสียไม่ได้เมื่อถูกพยุงให้ลุกขึ้นนั่ง เสื้อโค๊ตตัวยาวสีดำของอีกฝ่ายถูกถอดออกก่อนวางซ้อนลงบนท้องของเขาอีกที คิ้วบนใบหน้าขาวขมวดเข้าหากันอย่างเป็นกังวล เพราะคืนนี้คือคืนจันทร์อับคืนซึ่งไร้ดวงจันทร์เป็นวันที่พลังของฮันบินเพิ่มสูงสุดเนื่องจากร่างกายกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพวกไร้วิญญาณและนั่นทำให้พลังรักษาของจุนฮเวมีผลลบ

     


    ...จากการรักษากลายเป็นการทำลายสำหรับตัวเขาเท่านั้น...

     


    “ไว้ค่อยไปหาหมอเถื่อนในเมืองเอาล่ะกัน หรือไม่ก็ต้องไปพึ่งพี่จินฮวานถึงผมไม่อยากจะหาภาระไปให้เขาก็เถอะ คุณอดทนก่อนและอย่าพึ่งตายด้วย”

               


    เด็กหนุ่มพยายามจับคนเจ็บขึ้นหลังอย่างทุลักทุเลเมื่อมีเสียงโอดครวญออกมาทุกครั้งที่พยายามขยับตัว สุดท้ายก็สามารถยืนได้เต็มความสูงเตรียมพาเขาออกจากป่า สองขาเกือบก้าวออกไปจากบริเวณนี้ แต่กลับเดินกลับมาที่เดิมและตรงไปยังต้นสนปลายหักซึ่งมีร่างโชกเลือดของอีกคนนั่งพิงอยู่ เสียงหัวเราะร่าอย่างไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะแผ่วเบาและดวงตาคู่โตไร้ซึ่งแววตาของมนุษย์

     


                จุนฮเวไม่ย่อตัวลงเพื่อเข้าใกล้อีกฝ่ายเพราะกลัวว่าจะกระเทือนต่อคนบนหลัง แค่ยื่นมือขวาวางลงบนลุ่มผมสีดำสนิทของอีกฝ่าย ปล่อยให้แสงสีขาวจากมือตัวเองคลุมทั้งร่างก่อนละออกและเดินจากไปโดยไม่คิดหันกลับ ถึงสายตาของฮันบินยังไม่ได้เข้าที่เข้าทางจมมองเห็นภาพชัดนักแต่พอเดาได้ว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น

     


    เทวดาผู้แสนใจดีของเขารักษาแม้กระทั่งคนที่ทำให้เขาเจ็บขนาดนี้


     

    ...อืม จะบอกว่า ใจดี หรือ โง่ ดีล่ะนี่?....

     


    ระหว่างทางออกจากป่าเสียงโทนกลางปนหายใจหอบเล็กน้อยพยายามถามโน่นถามนี่เขาไปเรื่อยเพื่อจะไม่ยอมให้เขาหลับไป ความจริงถ้าปล่อยให้เขาหลับอาจจะทำให้ฟื้นตัวเร็วกว่านี้ก็ได้ แต่นั่นล่ะในเมื่อถ้าไม่ตอบกลับไปอีกฝ่ายก็กระแทกเขาซะแรงจนต้องส่งเสียงครางด้วยความเจ็บปวดกลับไปแทน

     


    นัตย์ตาสีน้ำเงินมองหลังคอขาวซึ่งอยู่ใกล้นิดเดียว ปล่อยให้หูแนบไปกับหลัง ฟังเสียงหัวใจซึ่งเต้นแรงกว่าจังหวะของหัวใจตัวเขาเองในตอนนี้ และมุมปากของฮันบินยกยิ้มอย่างบางเบาอีกครั้ง

     



    ...สงสัยความตายที่เขาเคยปรารถนาจะถูกพรากไปด้วยเทวดาตรงหน้านี้ซะแล้ว แต่ไม่เป็นไรเพราะโลกอันแสนน่าเบื่อ มันเริ่มน่าอยู่อีกครั้งเมื่อได้พบอีกฝ่ายและอยู่ข้างกายเขาเช่นในเวลานี้...  




    Talk: แต่งมาซะมีเรื่องราวขนาดนี้ทำไมไม่แต่งเป็นฟิคยาวไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ค่ะ เราไม่เชื่อใจตัวเอง ฮ่าๆๆๆๆ ในทั้งหมดสามพาร์ทเป็นพาร์ทที่เราชอบที่สุดแล้วค่ะ เป็นฮันฮเวเวอร์ชั่นที่อยากเห็นที่สุดล่ะเพราะปกติเจอแต่แบบเน่ปกป้องฮันบิน ความจริงนี่ก็มาช่วยฮันบินอยู่ดีแถมขี่หลังอีกตะหาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เน่ดูร้ายๆภายนอกแต่เรารู้สึกว่าความจริงน้องค่อยข้างสดใสและมีความเด็กมากๆอยู่ในตัวเลยล่ะค่ะ ต้องลดอายุน้องเน่กันสักหน่อยล่ะ ฮ่าๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

     

    #ฟิคต่อเรือ 

     



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×