ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] Lazy Story : ฟิคเรื่อยเปื่อย [Yunhyeong & Junhoe ft. DongJin]

    ลำดับตอนที่ #4 : [A] DONGHYUK : Sunday Afternoon (Donhyuk x Jinhwan)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 58


    17/06/2015

     DONGHYUK : Sunday Afternoon

    (Donhyuk x Jinhwan)

    ---------------------------------------------

     

     



                มันคงจะไม่แปลกในตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังจะเต็มไปด้วยผู้คน โดยเฉพาะชั้นบนสุดของห้างซึ่งเป็นโรงหนังเนื่องจากหนังแนวแอคชั่นดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนชื่อดังกำลังเข้าฉาย

               

                ตัวตั้งตัวตีอย่างซงยุนฮยองกำลังพูดอย่างร่าเริงเกี่ยวกับหนังในซีรีย์เดียวกันที่เจ้าตัวชอบหนักหนา ทั้งเรื่องบท ฉากแอคชั่นและเทคนิกพิเศษซึ่งเป็นสาขาที่ตัวเองสนใจและเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง แต่ถามว่าคนที่ตัวเองกำลังพูดให้ฟังอย่างออกรสที่นั่งอยู่ข้างตัวเองนั้นฟังบ้างไหมจากการวิเคราะห์ของคิมดงฮยอกคงบอกได้ว่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

               

                กูจุนฮเวไม่ได้เป็นคอหนัง ยิ่งหนังฝั่งอเมริกายิ่งไม่ได้อยู่ในสารบบของเจ้าตัวแม้แต่นิด รายนั้นยังพอดูพวกซีรีย์เกาหลีบ้างอะไรบ้าง ความจริงเพื่อนสนิทของเขาชอบพวกแอนนิเมชั่นมากกว่าแต่ก็ไม่ได้ถึงกับติดมากมายและสนใจแค่เพลงประกอบหนังเนื่องจากเกี่ยวกับสายงานตัวเอง ใบหน้านิ่งที่เอาแต่หยิบป๊อปคอร์ทจากกระป๋องใหญ่ซึ่งกอดไว้กับตัวและพยักหน้าแบบขอไปทียามยุนฮยองถามความคิดเห็น นี่ถือว่ายังดีนะที่ไม่ออกออร่ามืดและทำหน้าโหดจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เพราะกูจุนฮเวรักการตื่นหลังจากเวลาเที่ยงวันอาทิตย์มากกว่าสิ่งใด แต่กลับถูกแฟนตัวเองปลุกตั้งแต่สิบเอ็ดโมงและลากออกจากบ้านตอนเที่ยง ถึงเขาจะมารู้ที่หลังก็เถอะว่าที่ยอมมานั่งอยู่ตรงนี้เพราะยุนฮยองไปสัญญาว่าเย็นนี้จะพาไปกินพิซซ่าร้านของจินฮยอง

     

                อาจจะไม่เดือนร้อนดงฮยอกเท่าไร ถ้าเขาไม่ใช่เจ้าของรถที่พาทั้งสี่คนมาที่ห้าง เนื่องด้วยอาทิตย์ก่อนจุนฮเวก่อวีรกรรมเมาและขับ ยังดีที่ชนแค่ขอบปูนกั้นต้นไม้หน้าคอนโดของตัวเองตอนตีสาม ไม่ต้องถามว่ายุนฮยองอาละวาดแค่ไหนหลังจากรู้เรื่อง ซึ่งเจ้าตัวทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับการถูกยุนฮยองยึดใบขับขี่ ห้ามขับรถเป็นเวลาครึ่งปีและต้องจ่ายซ่อมกระบังหน้ารถด้วยตัวเอง ในเมื่อทั้งสองคนนั้นไม่มีรถและวันที่อากาศร้อนแบบนี้ดงฮยองจำเป็นต้องขับฮอนด้าแจ๊สแสนรักของตัวเองมารับทั้งคู่และนั่นหมายความว่าในตอนเย็นเขาต้องเป็นคนขับรถพาทุกคนไปร้านของจินฮยองซึ่งอยู่เกือบออกไปนอกเมือง

     

                ความจริงเขาไม่ต้องมารอเวลาเข้าชมหนังในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็ได้ ไปเดินดูของในห้างยังจะดีกว่าเพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากดูเท่าไร แต่เจ้าของบัตรภาพยนตร์ทั้งสี่ใบซึ่งได้มาจากคนรู้จักที่เคยร่วมงานด้วยนั้นบอกว่าได้มาก็ใช้เถอะ เสียดายแย่ และตัวเองก็อยากดูเหมือนกัน เขาถึงนั่งดูดโค๊กแก้วใหญ่ในมือไปเรื่อยๆ รออีกคนที่ปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์ตั้งแต่มาถึงที่นี่

     

                “ขอโทษนะดงฮยอก คุยเสร็จล่ะ จบสักที”

     

                    เจ้าของดวงตาเรียวเล็กส่งรอยยิ้มเล็กๆกับดงฮยองที่หันไปยิ้มคืนให้เช่นกัน รอยบวมและความคล้ำใต้ตาที่เห็นได้ชัดกว่าไฝรูปหัวใจของเจ้าตัว เมื่อเช้าคิมจินฮวานมีนัดส่งงานแปลที่รับมาเป็นพิเศษตอนเก้าโมงหลังจากที่ส่งไปแล้วรอบหนึ่งตอนคืนวันเสาร์และโดยขอให้ปรับและแปลเพิ่มเติมตอนเกือบเที่ยงคืน ทำเสร็จไปตอนตีสามส่งไป แต่ตอนยังไม่ถึงเจ็ดโมงโดยโทรปลุกให้มาปรับอีกนิดหน่อยและโดนอีกงานซ้อนเข้ามาอีก วุ่นวายจนเกือบสิบเอ็ดโมงเสร็จทุกอย่างก็ต้องอาบน้ำออกมาพร้อมดงฮยอกเพื่อรับอีกสองคน

     

                “ไหวไหมครับ เมื่อคืนก็นอนนิดเดียวแล้วตอนเช้าต้องมาแก้งานอีก พี่น่าจะโทรบอกพี่ยุนว่าไว้มาด้วยกันคราวหน้า หรือไม่ก็ให้ผมเอาบัตรไปให้พี่ยุนก็ได้”

     

    “ถ้านายได้เห็นยุนฮยองเป็นแบบนั้นมาตลอดทั้งอาทิตยแล้วนายจะไม่กล้ายกเลิกหรอก อีกอย่างบัตรมันใช้ได้แค่วันนี้ อุตสาห์คิดว่าเมื่อคืนพี่จะจัดทุกอย่างได้ แต่มันดันมาบานปลายตอนท้ายแต่เอาเถอะจบล่ะ เราไปสนุกกับหนังกันเถอะ”

     

    จินฮวานถอนหายใจก่อนยิ้มให้ดงฮยอกอีกครั้ง จับมือให้เขาลุกขึ้นเมื่อประตูโรงหนังเปิดขึ้น เรียกให้สองคนลุกขึ้นและเดินไปขโมยป๊อปคอร์ทจากจุนฮเวกำใหญ่ ซึ่งเข้าเด็กตัวโตได้แต่ทำตาขว้างแต่ใครก็รู้ว่าจุนฮเวไม่กล้าหือจินฮวานหรอก ไม่งั้นอาจจะได้ของขวัญมาเป็นฝามือสักทีสองที

    .

    .

    .

    .

    สมกับเป็นหนังที่หลายคนตั้งตารอ ฉากแอคชั่นช็อตใหญ่นั้นทำได้ดีสมชื่อ ดีขนาดที่ว่าคนอย่างกูจุนฮเวถึงกับถือป๊อปคอร์นค้างไว้ในมือแล้วอย่างอ้าปากหวอ ดวงตาคมจ้องไปด้านหน้าอย่างไม่กระพริบตาจนดงฮยอกอยากจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้แบล็กเมล์เจ้าตัว สำหรับยุนฮยองที่นั่งถัดไปจากจุนฮเวแทนที่จะได้เห็นสายตาเป็นประกายส่งเสียงชื่นชมเบาๆออกมาเป็นระยะ แต่กลับหลับไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องโดยที่แสงและเสียงระเบิดตู้มตามไม่ได้มีผลอะไรกับการหลับใหลของเจ้าตัวเลย

     

    ส่วนจินฮวานที่นั่งกอดแขนขวาเขาตั้งแต่ต้นเรื่องก็เผลอหลับไปแล้วเช่นกัน มีสะดุ้งขึ้นมาเป็นพักๆเมื่อจู่ๆเสียงก็ดังขึ้นมาตามจังหวะในหนัง

     

    “อืมม....”

     

    ดวงตาที่ปรือขึ้นมาอีกครั้งพยายามจะมองตรงไปหน้าจอขนาดใหญ่ด้านหน้า แต่เปลือกตาของดวงตาคู่เล็กยังคงกระพริบตาปริบๆไม่ให้หลับตาลงราวกับพยายามฝืนตัวเองแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป แขนขวาของดงฮยอกอ้อมไปกอดหัวของคนข้างตัว มือปิดไปตรงหูขวาหวังว่าจะลดเสียงดังได้บ้าง พิงหัวของตัวเองทับไปหัวอีกฝ่ายเบาๆ ไม่ทิ้งน้ำหนักลงไปจะได้ไม่รู้สึกอึดอัด

     

    “นอนต่อเถอะครับ”

     

    จินฮวานขยับตัวเข้าใกล้ดงฮยอกมากขึ้นและเข้าส่วนห้วงนิทราจนถึงช่วงเอ็นเครดิต ก่อนจะตื่นขึ้นมาพบกับรอยยิ้มของเขาและผู้คนกำลังเดินออกจากโรง

    .

    .

    .

    .

    “นี่มันสนุกชะมัด ไว้ต้องมาดูเก็บรายละเอียดอีกรอบ”

     

    “ผมกับจุนฮเวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

     

    ดงฮยอกรีบลากแขนเพื่อนสนิทซึ่งกลอกตาทันทีที่ยุนฮยองพูดจบประโยคและกำลังจะเปิดปากเถียงแฟนตัวเอง เขาขี้เกียจจะฟังคำบ่นยาวยืดของจุนฮเวและไม่อยากไปขัดอารมณ์ของยุนฮยอง เลยปล่อยให้จินฮวานคุยเล่นกับอีกคนไปแทน

     

    “ตลกพี่ยุนชะมัด หลับไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องแต่บอกว่าหนังสนุก”

     

    “ไม่หลับดิแปลก ตอนกูออกมากินน้ำตอนเช้ายังไม่นอนเลย แล้วตอนปลุกกูไปอาบน้ำยังมานั่งแก้อะไรต่อหน้าคอมอีกไม่รู้”

     

    ดงฮยอกเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้รับข้อมูลสำคัญ เขาเองค่อนข้างสนิทกับยุนฮยองในระดับที่เรียกว่าพี่ชายอีกคนเลยก็ว่าได้ การฝืนตัวเองและทำเป็นร่างเริงเมื่ออยู่ต่อหน้าคนทั้งที่ภายในเหนื่อยแค่ไหนถือเป็นข้อเสียของเจ้าและคงเพราะว่านัดกันเรียบร้อยแล้วซึ่งทั้งตัวเองและจินฮวานเองก็อยากดูภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเกรงใจที่จะยกเลิกนัด

     

    ...ให้ตายสิ ทั้งแฟนเขาและพี่ชายเขามันขี้เกรงใจจนไม่ห่วงตัวเองตลอด...

     

    “แล้วจะไปร้านจินฮยองจะไหวหรอวะ เหนื่อยขนาดนั้น กูว่าบางทีพี่เขาก็ทำตัวร่าเริงเกินไป”

     

    “เกินเหตุ” กูจุนฮเวเบ้ปากเป็นคำตอบเสริมก่อนเดินไปยังอ่างล้างมือ

     

    “ไว้ไปวันหลังก็ได้มั้ง กูรู้ว่ามึงอยากกินร้านจินฮยอง แต่หาอะไรกินเอาแถวนี้เหอะ จะได้กลับไปพักกัน พี่จินฮวานเองก็ดูเหนื่อยๆ”

     

    เจ้าของใบหน้านิ่งไม่ตอบอะไร ปล่อยให้น้ำจากอ่างล้างมือไหลผ่านมือก่อนออกไปจากห้องน้ำโดยไม่รอดงฮยอก

    .

    .

    .

    .

    “งั้นไปร้านจินฮยองกันเถอะ ดงฮยอกขับไหวไหม ให้พี่ขับให้ก็ได้นะ”

     

    “พี่ยุน ผมว่า....”

     

    “ไม่ต้องไปก็ได้ ผมหิวแล้ว กินที่นี่ล่ะ อาหารญี่ปุ่นนะ แต่พี่เลี้ยง”

     

    เสียงนิ่งห้วนของจุนฮเวทำให้ทุกคนหันไปหาคนพูดพร้อมกัน โดยเฉพาะยุนฮยองที่ทำตาโตอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินของเจ้าเด็กตัวโตแฟนของตัวเองที่ตัดใจเรื่องของที่ตัวเองอยากกินและปกติสัญญาอะไรไว้ยิ่งต้องพาไป ไม่งั้นจะเจอโหมดโวยวายบวกปากเสียระดับสาม

     

    “ปกติพี่ก็เลี้ยงนายอยู่แล้ว แต่จะไม่ไปจริงหรอ?”

     

    “มันมีคนเหนื่อยจนตาจะลืมไม่ขึ้นอยู่จะฝืนไปทำไม รีบกินและรีบกลับห้องซะ แล้วก็เลี้ยงพี่จินฮวานกับดงฮยอกด้วย ลากทั้งคู่มาแบบนี้”

     

    ยุนฮยองกำลังทำท่าทางอ่ำอึ้งราวกับชั่งใจแต่เมื่อมองสีหน้าจริงจังของจุนฮเวก็ต้องยอมตามใจที่เจ้าตัวบอกและพากันเดินลงบันไดเลื่อน ใบหน้าหวานนิ่งลงออกจากหมองด้วยซ้ำ คงรู้สึกผิดจากการโดนจี้ใจดำเรื่องทำให้เขากับจินฮวานลำบาก บรรยากาศอึดอัดจนดงฮยอกที่เห็นแบบนั้นจึงเตรียมเข้าไปให้กำลังใจ

     

    “...และก็พี่มีแผ่นหนังภาคก่อนที่เรามาดูกันไหม? ผมอยากรู้ที่มาของไอ้ฮีโร่หุ่นยนต์ตัวเหลือง”

     

    คำถามที่โผล่ขึ้นมาโดยเจ้าของใบหน้านิ่งที่เสมองไปทางอื่นยกมือขึ้นเกาท้ายทอยตัวเองจนดงฮยอกอดขำไม่ได้ คงรู้ตัวว่าตัวเองพูดแรงเกินไป ไอ้เรื่องอยากดูหนังก็คงอยากล่ะ แต่แค่นั้นเจ้าตัวหาดูเองทางเน็ตก็คงไม่ยาก การยกเรื่องขึ้นมาคุยเพื่อให้อีกคนสบายใจแบบเนียนๆแต่ไม่เนียนสำหรับคนที่สนิทกับเจ้าตัวอย่างเขา มันทำให้อดขำไม่ได้จริงๆ

     

    “มีเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับตัวนั้นด้วยนะ แถมแผ่นที่มีเป็นแผ่นบลูเรย์ด้วย ภาพชัดเสียงแจ่ม กินเสร็จแล้วเรากลับไปดูด้วยกัน”

     

    ใบหน้าหมองเมื่อครู่ร่างเริงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกมือขึ้นกอดไหล่เด็กข้างตัวแถมพูดจ้อไม่หยุดระหว่างทางไปร้านอาหารญี่ปุ่น คงดีใจที่นานๆทีจะเจอเรื่องที่จุนฮเวสนใจเหมือนตัวเอง จินฮวานส่ายหัวเบาๆกับท่าทางของน้องชายตัวเองที่ยังทำเป็นเดินเหมือนไม่สนใจอะไรแต่หูฟังทุกอย่างที่ยุนฮยองพูดและมีถามกลับเรื่องตัวเองสงสัยช่างต่างจากตอนก่อนดูหนังลิบลับ

     

    “พี่จินล่ะครับ ยังคงง่วงอยู่หรือเปล่า? อยากรีบกลับไปนอนไหมครับ?”

     

    เสียงเล็กของดงฮยอกถามคนข้างตัวด้วยความเป็นห่วงแทนในเมื่อไม่ต้องห่วงพี่ชายและเพื่อนสนิทของตัวเอง จินฮวานเอียงตัวของตัวเองทำท่าเหมือนคิดก่อนตอบกลับมาด้วยเสียงใส

     

    “ไม่ล่ะ หลับสนิทไปตื่นนึง ตาสว่างล่ะ พี่ว่าหลังจากเราส่งสองคนนั้นกลับห้อง เราไปตลาดต้นไม้กันไหม?”

     

    “ก็ดีเหมือนกันครับ พี่บ่นอยากซื้อกระถางต้นไม้ใหม่มาตั้งอาทิตย์นึงแล้วนิครับ กว่าพี่จะทำตัวว่าง”

     

    “ก็ว่างแล้วนี่ไง สรุปจะไปกับพี่ไหม?”

     

    มือของดงฮยอกจับมือของจินฮวานแทนคำตอบ เขาหันมองหน้าจินฮวานและยิ้มออกมาพร้อมกัน

     

    ถามว่าสรุปแล้ววันนี้ดงฮยอกมาทำอะไรที่นี่ เขาคงตอบว่ามาคอยมองจินฮวานหลับ สนุกกว่าดูหนังกว่าเยอะ ถึงจะได้เห็นใบหน้าตอนหลับของอีกคนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในโรงภาพยนตร์ก็ถือว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบและก็ได้กินอาหารญี่ปุ่นฟรีกับได้กระถางต้นไม้ใหม่ไปใส่ต้นกระบองเพรชที่ห้องด้วย

     

    ...วันอาทิตย์นี้ก็เป็นวันอาทิตย์ที่ดีเหมือนกับวันอื่น ก็แค่มีจินฮวานอยู่ด้วยยังไงต้องเป็นวันที่ดีอยู่แล้ว...

     

     

    Talk: ได้ข่าวว่าจั่วหัวคู่ดงจิน แต่ในฟิคพูดถึงยุนจุนเยอะกว่า โถ่ๆๆๆ เพลงเช้าวันอาทิตย์ แต่ในเรื่องเป็นตอนบ่ายแทน หาเพลงมาลงไม่ได้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ความจริงปกติซีรีย์จะแต่งโดยเอาชื่อเพลงเป็นหลัก แต่เรื่องนี้คิดเป็นแฟนอาร์ตมาก่อนและก็ขี้เกียจวาดซะงั้น ฮ่าๆๆ ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่า

     

    #ฟิคเปื่อย

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×