ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Topp Dogg] Rabbit & Turtle [Seogoong & Xero]

    ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องเล่าหนึ่งวันยุ่งๆของเต่า [2/3]

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 58


    ...สิบเอ็ดนาฬิกาห้าสิบนาที ณ ป่าใหญ่  ทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อย...

     

     
     

    กล่องเพลงวางไว้วางบนเก้าอี้คนดูแถวหลังสุดเช็กเป็นครั้งสุดท้ายว่าตั้งเวลาไว้แล้ว ผมวางการ์ดใบเล็กไว้ใต้กล่องเพลง ก่อนเดินผ่านแถวเก้าอี้คนดูตรงมายังเก้าอี้ด้านหน้าซึ่งหันมาหาฝั่งคนดู ผ้าสีเขียวลุ่ยพันเสาไม้ทั้งสองข้างปลิวเบาๆไปกับสายลม

     

     
     

    ผมเดินมาถึงเก้าอี้ซึ่งบางอย่างที่นั่งอยู่บนนั้น หุ่นกระบอกไม้ตัวขนาดเท่าคน สิ่งที่บอกว่าไม่ใช่คนคือหูยาวๆสีขาวบนหัว ต้องบอกว่าเป็นหุ่นกระบอกครึ่งคนครึ่งกระต่ายถึงจะถูก ผมปัดฝุ่นตรงปกเสื้อของ หุ่นกระต่ายน้อย ของผม ยิ้มให้หุ่นตรงหน้า

     

     
     

    "ตื่นมาขอให้เป็นฝันที่ดีที่สุดของนายนะ" ประทับจูบลงไปตรงหน้าผากของหุ่นกระต่ายน้อย มองนาฬิกาอีกครั้ง อีกสองนาทีจะถึงเวลาเที่ยง

     
     
     
     

    "ฝากด้วยนะซังวอน" อุ้มซังวอนไปวางไว้ตรงอุโมงค์ซึ่งมีผ้าหลากสีติดอยู่รอบทำให้สามารถมองเห็นซังวอนที่มีขนสีขาวล้วนได้อย่างชัดเจน   

     

     
     

    "แน่นอน ฉันก็อยากให้เขามีความสุขไม่แพ้นายหรอก" 

     
     
     

    ผมยิ้มให้ซังวอนลูบหัวมันไปหนึ่ง ก่อนรีบเดินหนีเสียงบ่นจากเจ้าตัวเข้าอุโมงค์กลับไปที่สวน มองนาฬิกาอีกครั้ง เข็มวินาทีกำลังเคลื่อนใกล้เลขสิบสอง

     

     
     
     

    "ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง...อรุณสวัสดิ์นะ กระต่ายน้อย"

     

     
     

    รอยยิ้มกว้างบนหน้าของผมแสดงให้รู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกมีความสุขและอีกใจหนึ่งนั้นตื่นเต้นเช่นกัน ได้แต่หวังวันนี้ต้องเป็นวันอันแสนวิเศษสำหรับกระต่ายน้อยแน่นอน เพราะผมเตรียมวางแผนทุกอย่างมาเป็นเวลานานแล้ว

     

     
     

    เดินมาจนถึงสวนวงกต ยังพยายามใช้หูฟังเสียงจากหูกระต่ายบนหมวก ทำไมถึงไม่มีเสียงของกระต่ายน้อยเลยล่ะหมวกก็ยังใช้การได้อยู่เพราะยังได้ยินเสียงเพลงจากกล่องเพลงอยู่ ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดูอย่างร้อนรน นี่ผ่านมาจะห้านาทีแล้วนะ ผมเริ่มกังวล    

     

     
     
     

    ...หรือว่ากระต่ายน้อยจะไม่ตื่นขึ้นมา...

     

     
     
     

    สองขาของผมเตรียมตัวพาตัวเองกลับไปที่ป่าอีกครั้ง แต่ไม่ทันได้หันกลับไป....

     
     
     

    [หาววววว  เมื่อยจังเลยแฮะ]

     

     
     

    อ่า...ได้ยินแล้ว...เสียงแรกของกระต่ายน้อย....

    ...คิดถึง คิดถึงเหลือเกิน...

     
     
     

    ระหว่างที่เดินอยู่ในสวนวงกตฟังเสียงจากหมวกหูกระต่ายไปด้วย ทำไมผมรู้สึกแปลกๆก็ไม่รู้ จะว่าไปเหมือนผมลืมอะไรสักอย่างเลยแฮะ ซังวอนอยู่ที่อุโมงค์ ในป่าด้านหน้าแขวนโคมไฟรอไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ในสวนจัดของไว้แล้ว กล่องมาการองอยู่ที่หัวบันได....

     

     

     
     

    กล่องมาการองอยู่ที่หัวบันได!!!

     

     

     
     

    ผมรีบวิ่งเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาในสวนวงกตด้วยความชำนาญ จนออกมาถึงสวนดอกไม้ วิ่งตรงขึ้นไปทางทางเหนือสู่บ้านหลัก เปิดประตูวิ่งผ่านยูนชอลกับฮันโซลที่กำลังเถียงอะไรสักอย่างหน้าหน้าต่าง สงสัยจะมาส่องดูกระต่ายน้อย ผมไม่สนใจเสียงทักของทั้งคู่รีบหยิบกล่องมาการองตรงหัวบันไดแล้ววิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้กลับไปในสวนตรงที่จัดของไว้ เมื่อมาถึงผมหายใจเข้าออกอย่างติดขัดก็แน่ล่ะวิ่งมาซะขนาดนี้ เปิดกล่องหยิบมาการองรสช๊อกโกแลตและสตอเบอรี่วางซ้อนเรียงกันบนจานแก้ว ปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ระหว่างวิ่งมาแทบไม่ได้ฟังเสียงจากหมวกเลย ตอนนี้มีไม่เสียงเพลงจากกล่องเพลง แล้วกระต่ายน้อยอยู่ไหนกัน

     

     
     
    [สวัสดี นายกระต่ายน้อย]

     

     
     

    "กระต่ายน้อย อุ๊บบบบ"   ผมหลุดขำกับคำเรียกแทนซังวอนของกระต่ายน้อยเพราะเป็นคำที่ซังวอนเกลียดที่สุด ซังวอนไม่ชอบให้ใครมาคิดว่าตัวเองน่ารักน่าเอ็นดู ทั้งๆที่ตอนนี้ซังวอนก็เป็นแค่กระต่ายสีขาวตัวเล็กที่โคตรจะขี้บ่นก็ตาม (รายนั้นบอกว่าร่างคนของตัวเองเท่สุดๆไปเลย)     

     
     
     

    [กระต่ายน้อยบ้าอะไรล่ะ เจ้ากระต่ายติ๊งต๊องเอ้ย]

     

     
     

    ไม่ทันขาดคำ ซังวอนบ่นกลับเลย  แต่กระต่ายน้อยไม่ได้พูดอะไรกลับมาแสดงว่าฟังไม่ออก สงสัยพลังที่มีไม่เพียงพอภาษาฟังสัตว์ได้สินะ      

     

     
     

    [จะให้ฉันเข้าไปหรอ? อืมม ไปก็ไป~]

     
     
     

    "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ"

     

     
     

    รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนหน้าของผม จากการประเมินแล้ว กระต่ายน้อยกำลังเดินเข้าอุโมงค์มา ยังพอมีเวลาให้ผมเดินไปยังที่ซ่อนตัว ผมกลับมาที่สวนวงกต เดินลัดเลาะเข้ามาส่วนที่ลึกที่สุดเป็นจุดที่มีต้นไม้ใหญ่ตั้งอยู่ รีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ซึ่งสูงพอมองเห็นสวนทั้งหมดจนไปถึงบ้านของผมกับซังวอนตรงท้ายสวนทางใต้และบ้านหลักของพ่อมดเซฮยอกทางเหนือ ใบไม้บนต้นไม้สั่นไหวไปตามสายลมเป็นคำทักทาย

     
     
     

    "ว่าไง มามองกระต่ายน้อยไปพร้อมกับฉันกัน" เหล่าใบไม้สั่นไปตามกับสายลมอีกครั้งตอบรับคำของผม ผมฟังเสียงของกระต่ายน้อยผ่านหมวกหูกระต่าย หลับตาลงสักครู่คิดถึงเรื่องในอดีต ยิ่งคิดถึงอดีตมากแค่ไหนประโยคหนึ่งที่อยู่ในใจของผมยิ่งย้ำขึ้นมาเรื่อยๆ

     

     
     

    อยากเจอ....อยากเจอเหลือเกิน.....

     

     
     

    ["ออกมาจนได้....นี่มัน...ว้าว...."]

     

     
     

    ผมสะดุ้ง เผลอตัวจมลงไปกับภาพในอดีตจนพึ่งรู้ว่ากระต่ายน้อยออกมาจากสวนวงกตแล้วด้วยซ้ำ ผมมองไปตรงทางออกสวนวงกตแต่ตรงนั้นกำแพงต้นไม้สูงบังเขาไว้พอดี โถ่ จะบ่นก็ไม่ได้เดี๋ยวเจ้าต้นไม้งอนผมแน่ๆ สายตาของผมจ้องตรงทางออกจากสวน หัวใจเต้นแรงขึ้นแรงขึ้น

     

     
     

    ใช่ ผมกำลังตื่นเต้น ผมจะได้เห็นกระต่ายน้อยแล้ว ไม่ใช่แค่หุ่นกระต่ายซึ่งนั่งอยู่ในป่าอันเดียวดาย

     

     
     

    แต่เป็นกระต่ายน้อยที่มีชีวิต...

     

     
     

    หูยาวสีขาวบนหัวเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็น ด้านหลังของสิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนคนรูปร่างผอมสูง เดินพลางกระโดดไปด้วยในแต่ล่ะก้าวอย่างอารมณ์ดีตรงไปยังปาร์ตี้เล็กๆกลางสวนที่ผมจัดไว้เมื่อเช้า

     
     
     

    หัวใจจากที่เต้นแรงเกือบหยุดลงไปเสียดื้อๆเมื่อกระต่ายน้อยหันหน้ามานั่งลงบนพื้นปูพื้นสีแดงลายสก๊อต ใบหน้าขาว ดวงตาเรียว แก้มอู้มเล็กน้อย และมุมปากยกยิ้มอย่างมีความสุข หูสีขาวบนหัวกำลังกระดิ๊กไปมาราวกับบอกว่าเจ้าตัวกำลังตื่นเต้น

     

     
     

    ...เขากลับมามีชีวิตแล้วจริงๆ...

     

     
     

    [นี่เตรียมไว้ให้ใครกันนะ อ่ะ กระต่ายน้อย]

     

     
     

    “เตรียมไว้ให้นายนั้นล่ะเจ้าเด็กโง่” ผมหัวเราะและยิ้มเหมือนคนบ้า ดีใจกับจนบรรยายออกมาไม่ได้เลย ปากกำลังยิ้มกว้างมองกระต่ายน้อยของผมคุยเล่นกับซังวอนซึ่งเจ้าตัวเล่นหลบหนีแอบแกล้งหลับปล่อยให้กระต่ายน้อยทำตัวไม่ถูกอยู่คนเดียว

     

     
     
     

    [โครก~~~*]

     

     

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมระเบิดหัวเราะออกมาเมื่อเสียงท้องร้องของกระต่ายน้อยดังขึ้น ต้องหิวมากแน่ๆ เพราะเสียงดังขนาดทะลุผ่านหมวกมาได้ และดูท่าทางเจ้าตัวต้องเขินมากๆด้วยเพราะหันรีหันขวางดูว่ามีใครอยู่แถวนั้นไหม ไม่ต้องพูดถึงซังวอน รายนั้นแอบหัวเราะอยู่แน่นอนแต่ทำเสียงดังไม่ได้เพราะยังแกล้งหลับอยู่ ไม่ได้ตื่นขึ้นมาตั้งนานคงต้องหิวเป็นธรรมดา คิดถูกจริงๆที่ตัดสินใจให้ฮันโซลอบมาการองไว้ให้

     

     

     

    [ของปลอมนิน่าาา บู้ววว]

     

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดนหลอกจนได้” ผมระเบิดหัวเราะออกมาเป็นรอบที่สอง เจ้าเด็กน้อยของผมเมื่อก่อนถูกหลอกได้ง่ายยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น สีหน้าเหยเกตอนกัดลงไปบนคุ๊กกี้ก้อนหินนั้นมันตลกชะมัด มีหน้ามาโวยวายอีกว่าไม่มีอะไรให้กิน สำรวจดีๆสิ ไว้ให้แล้ว นั้นไงเจอแล้วสินะ คลานไปนั่งอยู่ตรงหน้ามาการองที่ผมวางตั้งไว้บนจานแก้ว ก้มลงไปดมให้แน่ใจด้วยว่ากินได้หรือเปล่า กินได้นะ แต่อร่อยหรือเปล่าอีกเรื่องนึง ฝีมือทำขนมของฮันโซลมันผีเข้าผีออกจะตาย

     

     

     

    [ไม่อร่อยเลยยยยย แหวะ]

     

     

    “แล้วหยิบรสช็อกโกแลตขึ้นมากินทำไมล่ะนั้น ฮ่าๆๆๆ” และก็โดนหลอกเป็นรอบที่สาม กระต่ายน้อยเบะปากออกมาอย่าไม่พอใจเมื่อกัดลงไปบนมาการองรสช็อกโกแลต ไอ้ที่ตั้งใจวางไว้นี่ ไม่นึกว่าจะหยิบขึ้นมากินเลยนะ แต่เป็นไปได้ในเมื่อเจ้าตัวจำไม่ได้อยู่ดีว่าตัวเองไม่ชอบ

     

     

    [งืมมม~ ฮา หย่อยย~~สาทอเบอยี่~~]

     

     

    กระต่ายน้อยหยิบมาการรองรสสตอเบอรี่ขึ้นมากินอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนสีหน้าอิ่มเอมอย่างมีความสุขของกระต่ายน้อยปรากฏขึ้นบนหน้าทำให้ผมยิ้มตามอย่างมีความสุขไปด้วย เจ้าเด็กน้อยของผมใช้เวลานั่งชมสวนไปเรื่อยๆ กินมาการองรสสตอเบอรี่ไปเรื่อยๆ จนหมด ที่จริงวางไว้ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องกินหมดก็ได้นะ ตั้งสิบชิ้นน่ะ อืดท้องป่องไปแล้วมั้งนี่

     

     

    [อิ่มจัง~~ และก็ง่วงด้วย~]

     

     

     

     สิ้นเสียงของกระต่ายน้อย เจ้าตัวเอนตัวลงหนุนหมอนหลับตาพริ้มเข้าสู่โลกแห่งความฝันทันที ดูเหมือนซังวอนเองที่แกล้งหลับจนหลับไปนานแล้ว ก้อนเมฆถูกสายลมพัดมาจนบังแสงแดดไม่ให้รอดผ่าน ลมยังพัดเย็นสบาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้เป็นบรรยากาศที่น่านอนมาก

     

     

    ยกนาฬิกาขึ้นมาดูตอนนี้เกือบสามโมงเย็นทั้ง ที่พึ่งตื่นขึ้นมาแท้ๆ แต่กลับหลับลงได้อีกรอบ ปกติกระต่ายน้อยเป็นคนที่ร่าเริงได้ตลอดเวลา ขนาดถึงยามค่ำคืนยังไม่ยอมนอนเลยเพราะพลังในตัวสูงมาก

     

     

    ...แสดงว่าพลังที่มีอยู่ในตัวตอนนี้ต้องเหลือน้อยมาก...

     

     

    ผมลงจากต้นไม้ใหญ่บอกลาเหล่าต้นไม้ในสวน เดินเข้าสวนวงกตอีกครั้งเพื่อเข้าอุโมงค์กลับไปยังป่าใหญ่ เพราะมีส่วนของเวทีและทางด้านต้นป่าที่ผมยังต้องเตรียมเพิ่มสำหรับปาร์ตี้ส่วนที่สองในคืนนี้ ระหว่างทางเสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นระยะ สองขารู้สึกหนักอึ้งเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องของกระต่ายน้อย

     

     

    ...แค่คิดก็รู้สึกกังวล

     

     

    กลัวว่าพลังที่มีจะเพียงพอแค่จบวันนี้

     

    จะไม่มีวันที่เจ้าเด็กน้อยของเขามีชีวิตอีกครั้ง

     

    ไม่มีวันที่เขาจะได้เห็นรอยยิ้มของกระต่ายน้อยอีกครั้ง

     

     

    ส่ายหัวให้กับความคิดของตัวเอง หลับตาถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้าย ตั้งมั่นเดินกลับสู่ป่าใหญ่  

     

    .

    ..ไม่ได้ฮยอนโฮ ต้องเชื่อมั่นไว้ก่อน...

     

    ...จะต้องมีปาร์ตี้ครั้งต่อไป มันจะไม่จบแค่เพียงวันนี้แน่นอน...

     

     

    TBC

     

    Talk: ก่อนอื่นต้องบอกว่าขอโทษด้วยค่า ทิ้งช่วงฟิคนี้ไปนานมาก สารภาพว่าตันค่ะ แต่อาทิตย์นี้จะมาต่อให้จบพาร์ทเต่าเลยค่ะ อาทิตย์หน้าจะเริ่มบทอดีตแล้ว จะมีตัวละครโผล่มาเพียบเลยค่ะ ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ ^^

     

    #ฟิคกระต่ายกับเต่า
     
    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×