ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #21 : [drabble] I Just Know It Is Love [Hanbin x Junhoe]

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 58


    Title: I Just Know It Is Love

    Status: Drabble

    Pairing: Hanbin X Junhoe

     

     

     
     
     
     

    ...อึดอัด...

     
     

    ความจริงเคยรู้สึกยิ่งกว่านี้ตอนแข่ง SMTM3 ในสถานที่ไม่เคยชิน คนไม่คุ้นเคย สถานการณ์ใหม่เวลานั่งรอก่อนขึ้นเวทีมันช่างอึดอัดและแสนกดดันจนยกเล็บขึ้นมากัดไม่รู้ตัว ถึงแม้พยายามฝึกซ้อมมากกว่าสามสิบสี่สิบรอบยังทำผิดพลาด แต่นั้นทำให้คิมฮันบินได้เรียนรู้

     

    ถึงแม้จะมั่นใจแค่ไหนต้องห้ามประมาทและสงบใจของตัวเองให้ได้

     
     

    แต่สถานการณ์นี้ต่างออกไปนอกจากความอึดอัดมันมีความหน่วงอยู่ในนั้น หน่วงจนรู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจเมื่อปัจจัยที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้มาจากคนคนหนึ่ง

     

    คนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อยแสนดีผู้เชื่อฟังจนโตเป็นเจ้าเด็กยักษ์แสนโหดกับพวกพี่

    อยู่ด้วยกันเกือบสามปี พึ่งเป็นรูมเมตหลังจากย้ายหอ 

    และตอนนี้เป็นแฟนกัน...  

     
     

    มองหน้ากันไม่ติดมาทั้งอาทิตย์ ทะเลาะกันครั้งใหญ่เพราะตัวเขาเอง ถึงจะแต่งเพลงรักมามากมายหลายเพลงแต่ความรักซึ่งเคยมีมาหลายครั้งแล้วสมหวังนั้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก

     
     

    หลังจากคบกันมาได้หนึ่งเดือนเกิดความไม่แน่ใจตัวเองว่าสิ่งที่รู้สึกกับกูจุนฮเวเรียกว่าความรักหรือไม่ ลองพูดออกไปตามตรงเจ้าเด็กนั่นทำสีหน้าหงุดหงิดแล้วถามว่า

     

    'จะให้ผมทำไง จะให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้พี่รักผมงั้นหรอ?'

     
     

    จุกจนพูดไม่ออก ฮันบินกลับมานั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดหลังจากที่ทะเลาะกัน ใช้หัวสมองยิ่งกว่าตอนแต่งเพลง ความหน่วงตรงหัวใจหลังจากห่างเหินและมันเอาแต่เรียกหาอีกฝ่าย

     

    สุดท้ายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายตัดสินใจแทน 

     

    ความจริงเขาไม่เก่งกับการเข้าหาผู้อื่นแต่ยังไงครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายผิด ยังไงต้องคุยกันให้ได้ ถึงตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาจะมีทำเป็นพูดคุยเฮฮาเถียงกันเวลาอยู่รวมกันและติติงแนะนำเกี่ยวกับเรื่องบนเวที กลับกันเวลาอยู่ด้วยกันสองคนนั้นกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือเจ้าเด็กนั่นเดินผ่านเขาไปอย่างกับไม่รู้จักกัน เมื่อเขาพยายามเข้าหา อีกฝ่ายได้แต่มองหน้าและไม่พูดอะไรก่อนเดินไปหาคนอื่น

     

    ...คิมฮันบินได้แต่ถามตัวเองว่าเขาควรจะทำยังไงดี?...

     

    ตอนนี้พวกเขากำลังจะกลับประเทศเกาหลี ระหว่างรอเวลาจนขึ้นเครื่อง ต่างคนอย่างต่างอยู่เช่นเคย ฮันบินเหลือบมองดูจุนฮเวเป็นระยะ ได้แต่ถอนหายใจกับตัวเอง ใบหน้านิ่งยามปกติคนอื่นเห็นยังกลัวตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมจนชานอูทักขึ้นถึงหลับตาแล้วคลายหัวคิ้วซึ่งขมวดเป็นปมแน่น

     
     

    สนามบินอันแสนวุ่นวายสถานการณ์บังคับให้เขากับเจ้าเด็กนั่นต้องมายืนข้างกัน เดินไหลไปกับผู้คนขึ้นบันไดเลื่อน ล้อมด้วยคนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถึงอีกฝ่ายอยากจะหนีก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้

     
     

    ร่ายกายของฮันบินเคลื่อนไหวไปก่อนความคิด โอบไหล่คนด้านข้างให้เข้ามาชิดขึ้น  พยายามเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงอ่อน

     

    “จุนฮเว...”

     

    แต่เจ้าเด็กนั่นยังคงไม่สนใจ สายตาเสมองออกไปทางอื่น แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ

     

    ...เห็นแบบนี้ทำให้รู้สึกปวดหนึบตรงอกข้างซ้ายไปหมด...

     
     

    คิดถึงตอนก่อนทะเลาะกัน เวลาเถียงกัน มองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้ รุนแรงใช้กำลังเล่นกันบ้างแต่มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นเสมอ

     

    ตอนนี้มันเงียบ...เงียบเกินไป...

     

    ทั้งที่ยืนข้างกัน...ชิดกันขนาดนี้...

     

     
     
     

    แค่จะหันมามองมันยากขนาดนี้เลยเหรอ...

     

     
     
     

    ...และนายคงไม่ได้นึกถึงคนอื่นอยู่ใช่ไหม?

     

     
     
     

    จุนฮเวเบี่ยงตัวออกไปเมื่อสิ้นสุดเขตบันไดเลื่อนทันที มือของฮันบินที่โอบไหล่ยังคงค้างอยู่แบบนั้น เขากำมือของตัวเองแน่นเหมือนพึ่งปล่อยให้สิ่งสำคัญหลุดมือไป

     

    ถอนหายใจกับตัวเอง ถึงจะจุกตรงอกจนพูดไม่ออกแต่ก็เดินตามหลังไป รอจังหวะอีกครั้ง นึกถึงคำของจินฮวานบอกเขาตอนไปปรึกษาว่าจะขอจุนฮเวเป็นแฟน

     
     

    'แค่พุ่งตรงไป เจ้าเด็กนั่นเป็นคนตรงๆ เพราะฉะนั้นมุ่งตรง แสดงออกอย่างจริงใจและพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกไปซะ'

     
     

    เดินขึ้นเครื่องบิน จุนฮเวนั่งตรงข้างหน้าต่างเหมือนเดิม ตำแหน่งประจำของเจ้าตัว แม้ในตั๋วเครื่องบินระบุเลขที่นั่งไว้แต่ก่อนขึ้นเครื่องเจ้าเด็กนั่นจะขอสลับที่เป็นข้างหน้าต่างเสมอ เขาสังเกตุเห็นยุนฮยองกำลังจะเดินไปนั่งลงด้านข้าง

     
     

    "พี่ยุนฮยอง  ขอแลกที่ได้ไหม?"

     
     

    "อืม รีบๆเคลียร์กันล่ะ" 

     

    ยุนฮยองยิ้มให้ก่อนตบไหล่ให้กำลังใจหนึ่งที ฮันบินส่งยิ้มกลับแทนคำขอบคุณ เดินเข้าไปนั่งตำแหน่งด้านข้าง จุนฮเวเห็นหน้าเขาส่งสายตาเบื่อหน่ายก่อนเบนหน้าหนี แอบหน้าเสียเล็กน้อย ปกติเขาคงโกรธและโวยวายใส่เจ้าเด็กนี่ไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่อยากให้อารมณ์ของตัวเองขุ่นมัวจนเรื่องเสีย

     

    ...เรียกความมั่นใจอีกครั้งและต้องสงบใจของตัวเองให้ได้....

     

    อีกอย่างสองชั่วโมงต่อจากนี้เจ้าเด็กนั่นคงหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว รอจนเครื่องบินขึ้น ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งเครื่องบิน หันมองด้านซ้ายของตัวเอง บ๊อบบี้เสียบหูฟัง แต่งหน้าเรียบร้อยตั้งแต่ที่โรงแรม คงหลับเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้เพราะกลับถึงเกาหลีต้องไปขึ้นแสดงต่อเพียงคนเดียว

     

    หันไปมองทางด้านขวาจุนฮเวเสียบหูฟังอยู่เช่นกัน หลับตาหัวพิงไปกับฝั่งหน้าต่าง ฮันบินตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ หยิบหูฟังออกจากหูอีกฝ่าย ดวงตาเรียวลืมขึ้น เสมองมาทางเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก มือขาวหยิบหูฟังของตัวเองเตรียมเสียบเข้าหูอีกครั้ง

     
     
     

    “เดี๋ยวอย่าพึ่ง พี่มีเรื่องจะพูดด้วย...”

     

    เขายื่นมือจับมือของอีกฝ่ายไว้ ลิ้นเลียไปตามซี่ฟันอย่างประหม่า หายใจเข้า สายตาจริงจังมองประสานกับสายตาหงุดหงิดของเจ้าเด็กด้านข้าง ก่อนพูดออกไป

     
     

    "เออ...พี่ขอโทษ....หลังจากพี่ไปนั่งคิด พี่พึ่งรู้...”

     

     

    “...ความจริงพี่โคตรรักนายเลยวะ...”

     

     

    “....จะไม่ยกโทษให้พี่ก็ได้ แต่พี่ก็จะบอกขอโทษและบอกรักไปเรื่อยๆจนกว่านายจะฟัง"

     

    เสียงเต้นหัวใจของตัวเองดังก้องอยู่ในหูให้รู้ว่าตื่นเต้นและประหม่าแค่ไหนหลังจากพูดไป มองสีหน้านิ่งซึ่งเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขายังคงไม่หลบตา หวังว่าความตั้งใจและความจริงใจจะส่งไปถึง จุนฮเวทำแค่ถอนหายใจ

     

    "ถ้าจะคุยอะไรไว้ไปคุยที่หอ ตอนนี้ผมง่วง..."

     

    "...และผมยังไม่ยกโทษให้หรอกนะ ขอฟังเหตุผลที่ดูเข้าท่าว่าทำไมผมต้องยกโทษให้พี่หน่อยเถอะ"

     

    พูดจบเสียบหูฟังกลับที่เดิม หลับตาลง หัวทุยของเจ้าเด็กข้างด้านเอนกลับไปพิงฝั่งหน้าต่างเหมือนเดิมแต่ความอบอุ่นตรงมือเขายังคงอยู่

     

    ฮันบินถอนหายใจด้วยความโล่งอก หัวใจยังคงเต้นแรง เอนตัวไปด้านหลังพิงตัวเองกับเก้าอี้ กระชับมือที่จับไว้ให้แน่นขึ้นแต่ไม่อืดอัดจนเกินไป หลับตาลง คิดถึงเหตุผลร้อยแปดพันเก้าสำหรับบอกอีกฝ่าย

     

    ...หวังว่าถึงไม่เข้าหูคงไม่ได้โดนตบปากสักทีสองที แม้จะโดนก็ยอมมันสักครั้งก็ได้...

     
     

    จะว่าไปพรุ่งนี้มีถ่ายแบบต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า งั้นคืนนี้รอฟังนะ จะพูดให้ฟังมันทั้งคืนเนี่ยล่ะ จนถึงเช้าเลย

     

     

    ...ให้รู้ว่าพี่โคตรรักนายจริงนะ...

     

     

     
     

    Talk:  การแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ได้ฟิคพี่ยุนคนหล่อมาเลยแต่งฮันฮเวให้ตามคำขอ พยายามจะหน่วงเป็นการลองครั้งแรก แอบรู้สึกว่าฮันบินเสี่ยว ฮ่าๆๆๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

    ฟิคพี่ยุนคนหล่อ  จิ้มๆ

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

    Thanks For Sweet Lovely Theme : B E R L I N T H E M E

     




    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×