คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : [drabble] I Just Know It Is Love [Hanbin x Junhoe]
Title: I Just Know It Is Love
Status: Drabble
Pairing: Hanbin X Junhoe
...อึดอัด...
ความจริงเคยรู้สึกยิ่งกว่านี้ตอนแข่ง SMTM3 ในสถานที่ไม่เคยชิน คนไม่คุ้นเคย สถานการณ์ใหม่เวลานั่งรอก่อนขึ้นเวทีมันช่างอึดอัดและแสนกดดันจนยกเล็บขึ้นมากัดไม่รู้ตัว ถึงแม้พยายามฝึกซ้อมมากกว่าสามสิบสี่สิบรอบยังทำผิดพลาด แต่นั้นทำให้คิมฮันบินได้เรียนรู้
ถึงแม้จะมั่นใจแค่ไหนต้องห้ามประมาทและสงบใจของตัวเองให้ได้
แต่สถานการณ์นี้ต่างออกไปนอกจากความอึดอัดมันมีความหน่วงอยู่ในนั้น หน่วงจนรู้สึกปวดหนึบตรงหัวใจเมื่อปัจจัยที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้มาจากคนคนหนึ่ง
คนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อยแสนดีผู้เชื่อฟังจนโตเป็นเจ้าเด็กยักษ์แสนโหดกับพวกพี่
อยู่ด้วยกันเกือบสามปี พึ่งเป็นรูมเมตหลังจากย้ายหอ
และตอนนี้เป็นแฟนกัน...
มองหน้ากันไม่ติดมาทั้งอาทิตย์ ทะเลาะกันครั้งใหญ่เพราะตัวเขาเอง ถึงจะแต่งเพลงรักมามากมายหลายเพลงแต่ความรักซึ่งเคยมีมาหลายครั้งแล้วสมหวังนั้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก
หลังจากคบกันมาได้หนึ่งเดือนเกิดความไม่แน่ใจตัวเองว่าสิ่งที่รู้สึกกับกูจุนฮเวเรียกว่าความรักหรือไม่ ลองพูดออกไปตามตรงเจ้าเด็กนั่นทำสีหน้าหงุดหงิดแล้วถามว่า
'จะให้ผมทำไง จะให้เปลี่ยนแปลงตัวเองให้พี่รักผมงั้นหรอ?'
จุกจนพูดไม่ออก ฮันบินกลับมานั่งทบทวนความรู้สึกของตัวเองมาตลอดหลังจากที่ทะเลาะกัน ใช้หัวสมองยิ่งกว่าตอนแต่งเพลง ความหน่วงตรงหัวใจหลังจากห่างเหินและมันเอาแต่เรียกหาอีกฝ่าย
สุดท้ายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอกด้านซ้ายตัดสินใจแทน
ความจริงเขาไม่เก่งกับการเข้าหาผู้อื่นแต่ยังไงครั้งนี้เขาเป็นฝ่ายผิด ยังไงต้องคุยกันให้ได้ ถึงตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาจะมีทำเป็นพูดคุยเฮฮาเถียงกันเวลาอยู่รวมกันและติติงแนะนำเกี่ยวกับเรื่องบนเวที กลับกันเวลาอยู่ด้วยกันสองคนนั้นกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือเจ้าเด็กนั่นเดินผ่านเขาไปอย่างกับไม่รู้จักกัน เมื่อเขาพยายามเข้าหา อีกฝ่ายได้แต่มองหน้าและไม่พูดอะไรก่อนเดินไปหาคนอื่น
...คิมฮันบินได้แต่ถามตัวเองว่าเขาควรจะทำยังไงดี?...
ตอนนี้พวกเขากำลังจะกลับประเทศเกาหลี ระหว่างรอเวลาจนขึ้นเครื่อง ต่างคนอย่างต่างอยู่เช่นเคย ฮันบินเหลือบมองดูจุนฮเวเป็นระยะ ได้แต่ถอนหายใจกับตัวเอง ใบหน้านิ่งยามปกติคนอื่นเห็นยังกลัวตึงเครียดยิ่งกว่าเดิมจนชานอูทักขึ้นถึงหลับตาแล้วคลายหัวคิ้วซึ่งขมวดเป็นปมแน่น
สนามบินอันแสนวุ่นวายสถานการณ์บังคับให้เขากับเจ้าเด็กนั่นต้องมายืนข้างกัน เดินไหลไปกับผู้คนขึ้นบันไดเลื่อน ล้อมด้วยคนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถึงอีกฝ่ายอยากจะหนีก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้
ร่ายกายของฮันบินเคลื่อนไหวไปก่อนความคิด โอบไหล่คนด้านข้างให้เข้ามาชิดขึ้น พยายามเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงอ่อน
“จุนฮเว...”
แต่เจ้าเด็กนั่นยังคงไม่สนใจ สายตาเสมองออกไปทางอื่น แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ
...เห็นแบบนี้ทำให้รู้สึกปวดหนึบตรงอกข้างซ้ายไปหมด...
คิดถึงตอนก่อนทะเลาะกัน เวลาเถียงกัน มองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้ รุนแรงใช้กำลังเล่นกันบ้างแต่มีเสียงหัวเราะเกิดขึ้นเสมอ
ตอนนี้มันเงียบ...เงียบเกินไป...
ทั้งที่ยืนข้างกัน...ชิดกันขนาดนี้...
แค่จะหันมามองมันยากขนาดนี้เลยเหรอ...
...และนายคงไม่ได้นึกถึงคนอื่นอยู่ใช่ไหม?
จุนฮเวเบี่ยงตัวออกไปเมื่อสิ้นสุดเขตบันไดเลื่อนทันที มือของฮันบินที่โอบไหล่ยังคงค้างอยู่แบบนั้น เขากำมือของตัวเองแน่นเหมือนพึ่งปล่อยให้สิ่งสำคัญหลุดมือไป
ถอนหายใจกับตัวเอง ถึงจะจุกตรงอกจนพูดไม่ออกแต่ก็เดินตามหลังไป รอจังหวะอีกครั้ง นึกถึงคำของจินฮวานบอกเขาตอนไปปรึกษาว่าจะขอจุนฮเวเป็นแฟน
'แค่พุ่งตรงไป เจ้าเด็กนั่นเป็นคนตรงๆ เพราะฉะนั้นมุ่งตรง แสดงออกอย่างจริงใจและพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกไปซะ'
เดินขึ้นเครื่องบิน จุนฮเวนั่งตรงข้างหน้าต่างเหมือนเดิม ตำแหน่งประจำของเจ้าตัว แม้ในตั๋วเครื่องบินระบุเลขที่นั่งไว้แต่ก่อนขึ้นเครื่องเจ้าเด็กนั่นจะขอสลับที่เป็นข้างหน้าต่างเสมอ เขาสังเกตุเห็นยุนฮยองกำลังจะเดินไปนั่งลงด้านข้าง
"พี่ยุนฮยอง ขอแลกที่ได้ไหม?"
"อืม รีบๆเคลียร์กันล่ะ"
ยุนฮยองยิ้มให้ก่อนตบไหล่ให้กำลังใจหนึ่งที ฮันบินส่งยิ้มกลับแทนคำขอบคุณ เดินเข้าไปนั่งตำแหน่งด้านข้าง จุนฮเวเห็นหน้าเขาส่งสายตาเบื่อหน่ายก่อนเบนหน้าหนี แอบหน้าเสียเล็กน้อย ปกติเขาคงโกรธและโวยวายใส่เจ้าเด็กนี่ไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่อยากให้อารมณ์ของตัวเองขุ่นมัวจนเรื่องเสีย
...เรียกความมั่นใจอีกครั้งและต้องสงบใจของตัวเองให้ได้....
อีกอย่างสองชั่วโมงต่อจากนี้เจ้าเด็กนั่นคงหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว รอจนเครื่องบินขึ้น ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งเครื่องบิน หันมองด้านซ้ายของตัวเอง บ๊อบบี้เสียบหูฟัง แต่งหน้าเรียบร้อยตั้งแต่ที่โรงแรม คงหลับเพื่อเก็บพลังงานเอาไว้เพราะกลับถึงเกาหลีต้องไปขึ้นแสดงต่อเพียงคนเดียว
หันไปมองทางด้านขวาจุนฮเวเสียบหูฟังอยู่เช่นกัน หลับตาหัวพิงไปกับฝั่งหน้าต่าง ฮันบินตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ หยิบหูฟังออกจากหูอีกฝ่าย ดวงตาเรียวลืมขึ้น เสมองมาทางเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก มือขาวหยิบหูฟังของตัวเองเตรียมเสียบเข้าหูอีกครั้ง
“เดี๋ยวอย่าพึ่ง พี่มีเรื่องจะพูดด้วย...”
เขายื่นมือจับมือของอีกฝ่ายไว้ ลิ้นเลียไปตามซี่ฟันอย่างประหม่า หายใจเข้า สายตาจริงจังมองประสานกับสายตาหงุดหงิดของเจ้าเด็กด้านข้าง ก่อนพูดออกไป
"เออ...พี่ขอโทษ....หลังจากพี่ไปนั่งคิด พี่พึ่งรู้...”
“...ความจริงพี่โคตรรักนายเลยวะ...”
“....จะไม่ยกโทษให้พี่ก็ได้ แต่พี่ก็จะบอกขอโทษและบอกรักไปเรื่อยๆจนกว่านายจะฟัง"
เสียงเต้นหัวใจของตัวเองดังก้องอยู่ในหูให้รู้ว่าตื่นเต้นและประหม่าแค่ไหนหลังจากพูดไป มองสีหน้านิ่งซึ่งเดาไม่ได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขายังคงไม่หลบตา หวังว่าความตั้งใจและความจริงใจจะส่งไปถึง จุนฮเวทำแค่ถอนหายใจ
"ถ้าจะคุยอะไรไว้ไปคุยที่หอ ตอนนี้ผมง่วง..."
"...และผมยังไม่ยกโทษให้หรอกนะ ขอฟังเหตุผลที่ดูเข้าท่าว่าทำไมผมต้องยกโทษให้พี่หน่อยเถอะ"
พูดจบเสียบหูฟังกลับที่เดิม หลับตาลง หัวทุยของเจ้าเด็กข้างด้านเอนกลับไปพิงฝั่งหน้าต่างเหมือนเดิมแต่ความอบอุ่นตรงมือเขายังคงอยู่
ฮันบินถอนหายใจด้วยความโล่งอก หัวใจยังคงเต้นแรง เอนตัวไปด้านหลังพิงตัวเองกับเก้าอี้ กระชับมือที่จับไว้ให้แน่นขึ้นแต่ไม่อืดอัดจนเกินไป หลับตาลง คิดถึงเหตุผลร้อยแปดพันเก้าสำหรับบอกอีกฝ่าย
...หวังว่าถึงไม่เข้าหูคงไม่ได้โดนตบปากสักทีสองที แม้จะโดนก็ยอมมันสักครั้งก็ได้...
จะว่าไปพรุ่งนี้มีถ่ายแบบต้องตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า งั้นคืนนี้รอฟังนะ จะพูดให้ฟังมันทั้งคืนเนี่ยล่ะ จนถึงเช้าเลย
...ให้รู้ว่าพี่โคตรรักนายจริงนะ...
Talk: การแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม ได้ฟิคพี่ยุนคนหล่อมาเลยแต่งฮันฮเวให้ตามคำขอ พยายามจะหน่วงเป็นการลองครั้งแรก แอบรู้สึกว่าฮันบินเสี่ยว ฮ่าๆๆๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่ะ
ฟิคพี่ยุนคนหล่อ จิ้มๆ
#ฟิคต่อเรือ
Thanks For Sweet Lovely Theme : B E R L I N ❀ T H E M E
ความคิดเห็น