ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] Lazy Story : ฟิคเรื่อยเปื่อย [Yunhyeong & Junhoe ft. DongJin]

    ลำดับตอนที่ #18 : [A] YUNJUN : Tteokbokki & Rain

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 59


    20/06/2016

    YUNJUN : Tteokbokki & Rain


    ---------------------------------------------


     


     


    ...กูจุนฮเว ไม่ใช่คนขี้งอน...

     


    ถึงภาพลักษณ์ภายนอกจะเหมือนคนที่ดูโกรธหรือไม่พอใจอะไรตลอดเวลาด้วยดวงตาคมๆ สีหน้านิ่งๆ  แต่ภายใต้สีหน้าพวกนั้นบางทีจุนฮเวอาจจะกำลังคิดถึงตุ๊กตามูมินตัวใหญ่ยักษ์ซึ่งตั้งอยู่หลังกระจกหน้าร้านของเล่นที่เจ้าตัวเดินผ่านเมื่อวันก่อนหรือแค่คิดว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี

     

    แต่บทจะงอนเนี่ยมักมาจากสาเหตุสองข้อซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตกูจุนฮเว ไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่งแต่ส่วนใหญ่เป็นสองข้อรวมกันมากกว่า

     

    "พี่ยุนฮยอง พี่เห็นต็อกโบกี้กระป๋องของผมหรือเปล่า?"

     

    ซงยุนฮยอง ละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์และกดรีโมตในมือเพื่อหยุดภาพของภาพยนตร์แนวแอคชั่นซีรีย์ซุปเปอร์ฮีโร่สุดโปรดของตนทั้งที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่อง อาจจะด้วยว่าหางตาของตัวเองสังเกตเห็นคนร่วมห้องอีกคนเอาแต่เดินไปเดินมา เปิดตู้แทบทุกตู้ในห้องครัวเพื่อหาอะไรบางอย่างเลยพร้อมจะหยุดทำทุกอย่างทันทีถ้ามีอะไรที่อีกฝ่ายต้องการ

     


    ...และเขาก็รู้ดีด้วยสิว่าของที่เจ้าตัวกำลังหานั้นอยู่ที่ไหน...

     


    "เมื่อคืนพี่กินไปแล้ว ว่าจะซื้อคืนให้วันนี้แล้วลืม โทษทีๆ"

     

    จากการที่ต้องปั่นงานนอกให้เกือบต้องนอนเช้า อาหารเย็นมื้อใหญ่ที่ซื้อมาได้นั่งกินด้วยกันสองคนในรอบเกือบสองอาทิตย์ย่อยสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อต้องใช้สมองทำงาน เพื่อให้มีสติตื่นและช่วยอุ่นท้องยามค่ำคืนฝนตก ต๊อกโบกี้แบบเติมน้ำอุ่นร้อนในไมโครเวฟก็กินได้แล้วของโปรดของจุนฮเวผู้ซึ่งแม้แต่จะต้มรามยอนกินเองยังไม่อร่อยจึงเป็นของกินติดบ้านอันดับหนึ่งของเจ้าตัวและบางทีเขาก็ชอบหยิบมากินเช่นกันเวลาขี้เกียจทำอาหาร

     

    "แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมวะ วันนี้ผมก็แวะไปซุปเปอร์มา แม่ง...."

     

    คำสบถบางเบาท้ายประโยคจมหายไปเพราะเจ้าตัวพึ่งนึกออกว่ากำลังคุยกับใครอยู่ แต่ความรู้สึกไม่พอใจแสดงออกบนสีหน้าอย่างชัดเจน ยิ่งด้วยความหิวหลังจากที่คิดว่าจะได้กินของโปรดของตัวเองหลังจากทวนบทเรียนที่จะต้องสอนเสร็จแล้วก็นอนซะเตรียมสู้กับวันพรุ่งนี้สลายไปในพริบตา

     

    "เดี๋ยวพี่ทำให้กินก็ได้รอแป๊บนึง"

     

    "กว่าพี่จะรอต๊อกให้หายเย็นจากช่องแช่แข็ง กว่าแช่ให้มันอ่อนตัวลง กว่าทำเสร็จตั้งครึ่งชม. ซึ่งผมหิวตอนนี้ เข้าใจไหม?

     

    ความจริงกูจุนฮเวไม่ใช่คนมีความอดทนต่ำขนาดรอยุนฮยองทำอาหารอะไรก็ตามที่เจ้าตัวอยากกินไม่ไหว แต่ตอนนี้มันเป็นจังหวะที่หิวจริงๆ เนื่องจากอีกฝ่ายออกไปคุยงานกับมินโฮตอนบ่ายและพี่ชายสุดที่รักเลี้ยงมื้อหนักมาอิ่มจนถึงเย็นแต่ไม่ถึงดึก แถมมีปัจจัยที่ว่าคนกินไปแล้วไม่ยอมซื้อคืนมาให้ คือ ยุนฮยองเนี่ยล่ะ ความรู้สึกไม่พอใจมันกลับคูณเข้าไปอีกสองเท่า

     

    "แล้วจะให้พี่เอาไง? เดี๋ยวลงไปซื้อตรงหน้าคอนโดให้แล้วกัน"

     

    "พี่เห็นไหมว่าฝนตก ใครเขาจะมาขายให้พี่วะ พอดูหนังแล้วเคยรับรู้อะไรกับเขาบ้างไหม?"

     

    เสียงเรียบแต่ประโยคไม่เรียบเข้าหูตามทำให้หัวคิ้วของยุนฮยองเริ่มกระตุก ถึงจะรู้ว่าจุนฮเวเป็นคนพูดจาตรงๆ ติดออกจะแรงไปนิดกับคนที่รู้จักกันดี แต่บางทีกับคนฟังซึ่งคิดว่าเข้าใจอีกฝ่ายดีมันก็มีรู้สึกไม่พอใจเหมือนกันทั้งที่เคยคุยเรื่องนี้กันก็หลายรอบแล้ว

     

    "โอเค พี่กินของนายไปไม่ได้บอกและไม่ได้ซื้อคืน พี่ขอโทษ เรื่องที่พี่คิดไม่ทันว่าฝนตก พี่ขอโทษ แต่ถ้านายยอมรับข้อเสนอตั้งแต่แรกว่าจะให้พี่ทำให้กินก็จบแล้วไหม?"

     

    ดวงตาคู่โตมองขึ้นประสานกับดวงตาคมของคนที่ยืนอยู่ข้างโซฟาอย่างไม่ลดละ ต่างฝ่ายต่างนิ่งกันไปสักครู่จนได้ยินเสียงของสายฝนจากด้านนอกห้อง

     

    "อยากจะทำอะไรก็เรื่องของพี่เหอะ"

     

    คนเด็กกว่าเลือกที่จะตัดบทและเดินเข้าไปในห้องนอนโดยที่ไม่สนใจยุนฮยองที่พ่นลมหายใจออกมาจากจมูกด้วยความหัวเสียที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าไม่เคยทะเลาะกันเรื่องที่เขากินอาหารหรือขนมของอีกฝ่ายโดยไม่ได้บอกและลืมซื้อคืน การเสนอทางแก้ไขแค่เขาเดินออกไปซื้อในตอนนี้หรือทำอย่างอื่นให้แทนแต่จุนฮเวก็ยังเลือกที่จะไม่พอใจเขาไปซะทุกครั้ง

     

    กดรีโมตให้ภาพยนตร์ที่ดูค้างไว้ได้เล่นต่อ เพียงแต่สมาธิของเขาไม่ได้อยู่ที่หน้าจออีกต่อไปแล้ว เพราะว่ายุนฮยองเข้าใจจุนฮเวมากกว่าใครๆ สุดท้ายก็ได้เอามือตบและลูบหน้าตัวเองไล่ความขุ่นเคืองทุกอย่างทิ้งไปซะ กดหยุดทุกอย่างปิดหน้าจอโทรทัศน์ไปก่อนเดินตรงไปยังราวแขวนเสื้อแล้วหยิบผ้ากันเปื้อนออกมา

     


    ...อืม บอกว่าอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเขาใช่ไหม เขาเองก็ได้แต่ทำวิธีเดิมๆนั่นล่ะ...

     


    "จุนฮเว ยังไม่นอนใช่ไหม?"

     

    ประตูห้องนอนถูกเปิดขึ้นโดยที่คนที่นอนดูคลิปในหน้าจอโทรศัพท์ไม่คิดจะหันมองแม้จังหวะที่เขาเรียกเป็นช่วงที่เสียงนั้นเงียบพอดี ยุนฮยองได้แต่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเด็กขี้งอนเรื่องของกินคนเดิมคนเดียวของเขาและเลือกนั่งลงไปบนเตียงฝั่งที่ว่างอยู่แทน

     

    กลิ่นของในกระทะที่เขาถือมาด้วยเริ่มส่งกลิ่นอบอวนภายในห้องซึ่งเขารับรู้ได้ว่าคนที่อยู่ร่วมห้องกับเขาได้กลิ่นนั้นแน่นอนจากจมูกรั้นที่กระตุกขึ้นเช่นเดียวกับมุมปากของเขาแต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นตีสีหน้านิ่งไว้ก่อนทำตามแผนที่วางไว้หลังจากที่ตัวเองก็อารมณ์ดีขึ้นเมื่อได้เข้าครัวเช่นกัน

     

    "เมื่อกี้ทะเลาะกับนายแล้วพี่เองก็รู้สึกหิวเหมือนกัน....

     

    ...เลยทำอะไรกินสักหน่อย ไม่ใช่แค่ต๊อกโบกินะ นี่ใส่เส้นรามยอนด้วย โปะชีสอีกตะหาก อืมม น่าอร่อยชะมัด~"

     

    ใช้ส้อมที่ถือติดมาด้วยจิ้มต๊อกติดชีสยืดๆพันกับส้อมให้แน่ใจว่าจะไม่หล่นและไม่มีน้ำซอสสามารถหยดลงบนเตียงได้ระหว่างแกล้งแกว่งส้อมผ่านใกล้หน้าของจุนฮเวซึ่งยังคงหันหน้าไปอีกฝั่งหนึ่งแต่เห็นว่าหางตามีแอบเหลือบมองเขาอยู่ ส่งส้อมนั้นเข้าปากของตัวเองให้แน่ใจว่าสีหน้าแสดงถึงความอร่อยอยู่ในสายตาของคนที่นอนอยู่ทั้งหมดก่อนจะยกยิ้มและลุกขึ้นจากเตียง

     

     “อืมม~ อร่อยสมกับเป็นฝีมือเซฟซง ว่าแต่ไปทำเยอะไปหน่อย สงสัยจะกินคนเดียวไม่หมด แต่ค่อยๆกินไปเดี๋ยวก็หมดล่ะมั้ง ดีจังคืนนี้กินอิ่มนอนหลับสบาย~"

     

    เดินออกจากห้องอย่างสบายอารมณ์ ยกกระทะวางไว้กลางโต๊ะทานข้าวโดยไม่ลืมที่จะหยิบส้อมมาอีกคันพร้อมด้วยกระติกน้ำในตู้เย็นและแก้วน้ำสองใบ นั่งกินของที่ทำไปเรื่อยๆขณะสไลต์หน้าจอมือถือไปด้วย ได้ยินเสียงปิดประตูห้องนอนแต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากหน้าจอ ยกยิ้มตรงมุมปากเมื่อหางตาเห็นว่าส้อมถูกหยิบไปจากตรงหน้า

     

    ยังไงซะหลังจากที่มีปากเสียงกันจุนฮเวก็ยังไม่นอนหรอกถ้าตัวเองยังหิวอยู่ รอโอกาสให้เขาไปนอนหรือไม่ได้อยู่ในบริเวณห้องครัวก่อนที่ตัวเองจะหาทุกอย่างในตู้เย็นที่สามารถกินได้ยัดลงท้องให้อิ่ม ซึ่งยุนฮยองเองก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้แฟนตัวเองหิ้วท้องกิ่วจนนอนไม่หลับ ถึงจะไม่พอใจอะไรโกรธอะไรจุนฮเวสุดท้ายเขาก็ยอมทำทุกอย่างให้จุนฮเวยิ้มได้อยู่ดี นั่นไงเห็นนะว่ามุมปากแอบยกยิ้มพอได้กินของโปรดสมใจ

     

    “พรุ่งนี้ซื้อมาคืนเลยนะ มีคราวหน้าผมไม่มานั่งกินของไถ่โทษพี่แบบนี้หรอก”

     

    “เดี๋ยวซื้อมาเก็บไว้ให้โหลนึงเลยอ่ะ”

     

     


    ส่วน ซงยุนฮยอง เองก็ไม่ใช่คนขี้งอน

     

     

    เป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว ร่าเริง หัวเราะง่าย ถึงจะโกรธง่ายก็หายเร็ว มีทำหน้างอบ้างตอนโดนจุนฮเวล้อเล่นเรื่องสำเนียงพูดภาษาอังกฤษยามให้ช่วยแปลบทความหรืออีเมล์งาน ไม่ก็ตอนโดนคนเมินเวลาเล่นมุขแป๊กให้ได้ใช้ความรุนแรงแก้จัวจนคนอื่นต้องรีบถอยหนี  

     

    แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยงอนและเรื่องที่งอนเนี่ยมักมีสาเหตุมาจากคนคนเดียว

     

    “อ้าว กลับมายังไง? ข้างนอกฝนต-

     

    สภาพของกูจุนฮเวเรียกได้ว่าเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างกับลูกหมาพึ่งไปตกสระน้ำมาให้ผมหน้าม้าปัดเป้สีดำเปียกแนบหน้าผาก เขาแค่คิดว่าวิ่งลัดเลาะจากสถานีรถไฟใต้ดินมาไม่กี่นาทีคงจะไม่เปียกเท่าไร แต่ตรงระหว่างป้อมยามถึงหน้าคอนโดฝนดันเทลงมาพอดี ถึงได้มีสภาพเป็นลูกหมาเปียกโชกแบบที่คิดว่าผู้ดูแลตึกจะยอมให้เขาขึ้นมาบนห้องทั้งๆแบบนี้โดยที่ทิ้งหยดน้ำไว้ตามทางไหมหว่า

     

    “ทำไมไม่โทรมาบอกให้ไปรับ?”

     

    “เดินมาแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก”

     

    “แต่เคยบอกหลายครั้งแล้วใช่ไหมว่าฝนตกให้โทรมาให้ไปรับ นี่ร่มก็ไม่พกไป ถ้าเป็นหวัดขึ้นมาจะทำไง?”

     

    หลังจากที่รู้มาจากแม่ของเขาว่าเมื่อก่อนเขาเป็นคนป่วยง่าย พอเข้าฤดูฝนความห่วงใยดูแลที่ปกติออกจะมีมากเกินไปของยุนฮยองเพิ่มขึ้นมาอีกสองระดับ ให้จุนฮเวได้แต่ส่ายหัวด้วยความเบื่อหน่าย เขาเองก็เป็นผู้ชายอกสามศอกตัวสูงใหญ่กว่าอีกฝ่ายอีกด้วยซ้ำจะมาเป็นห่วงอะไรหนักหนา

     

    “ไม่เป็นไรหรอกน่า ผมไปอาบน้ำก่อน”

     

    ถอดส่งเสื้อผ้าเปียกให้อีกฝ่ายรวมถึงกระเป๋าถือชื้นฝนที่เอาอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งใส่ไว้ในถุงพลาสติกไว้แล้วออกมา รีบหนีเข้าห้องน้ำเพราะไม่อยากจะฟังเสียงบ่นของอีกฝ่ายรวมถึงเริ่มหนาวจากลมของเครื่องปรับอากาศ อาบน้ำสระผมด้วยน้ำอุ่นแสนสบายก่อนมานั่งบนโซฟาเช็ดหัวด้วยผ้าขนหนูดูอะไรก็ตามในหน้าจอโทรทัศน์ซึ่งคนที่อยู่อีกฝั่งของโซฟานั่งดูก่อนเขาจะมาถึงห้อง

     

    ความไม่ปกติคลุมไปรอบห้อง ไม่มีเสียงของซงยุนฮยองไถ่ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งวันของกูจุนฮเวเช่นทุกๆวัน ดวงตาคู่โตเอาแต่จ้องไปด้านหน้าของตัวเองโดยไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ตรงนี้หรือเปล่า ทำได้แต่กลอกตากับถอนหายใจกับพฤติกรรมเดิมของแฟนตัวเองและเขาเองก็รู้ดีว่าสาเหตุนั้นเกิดมาจากอะไร

     


    โดยที่จุนฮเวเองก็รู้วิธีที่จะจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ ก็วิธีเดิมๆที่เขาใช้ทุกครั้งนั่นล่ะ

     


    "พี่ยุนฮยอง พี่เห็นต็อกโบกี้กระป๋องของผมหรือเปล่า?"

     

                ตะโกนข้ามห้องเข้าไปในห้องนั่งเล่น หลังจากลุกขึ้นจากโซฟาเดินตรงไปในห้องครัวเปิดตู้โน้นตู้นี้อยู่นานสองนานก่อนถามคนร่วมห้องถึงของโปรดของตัวเอง มองเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายหันมาหาเขาและเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยแบบปิดไม่มิด

     

                “เมื่อคืนพี่ยังเห็นอยู่ในตู้และพี่ไม่ได้กินไปด้วย”

     

                เสียงเรียบตอบกลับมาตามความจริงทำให้จุนฮเวเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วกับคำตอบ เปิดทุกตู้หาดูอีกครั้งท่าหัวเสียถูกแสดงออกมาเช่นเดียวกับเสียงถอนหายใจอย่างแรง

     

                “แล้วมันจะหายไปได้ไง? เฮ้อหิวชะมัด อยากกินต๊อก ฝนก็ตกอีก

     

                ดวงตาคมเหลือบมองคนที่ทำท่าจะหันกลับไปสนใจในหน้าจอโทรทัศน์อีกครั้งทั้งที่คงจะได้ยินเสียงตัดเพ้อของเขาอย่างแน่นอน ยืนนิ่งเงียบสักครู่ก่อนถอนหายใจอีกหนึ่งทีเตรียมจะได้เดินเข้าห้องนอนไป เพียงแต่เสียงถอนหายใจยาวตามมาด้วยเสียงของโทรทัศน์เงียบลงทำให้มุมปากของจุนฮเวเกือบยกยิ้มถ้าไม่บังคับให้ตัวเองตีหน้านิ่งไว้ก่อน

     

                “สักครึ่งชม. รอได้ไหม?”

     

                “พูดอย่างกับผมมีทางเลือกล่ะ”

     

                “ก็เลือกได้แค่ว่าจะกินหรือไม่กินแค่นั้น สรุปกิน?”

     

                “ขอแบบใส่รามยอนกับโปะชีสด้วย”

     

                ได้รับลูกเตะเบาๆของอีกฝ่ายแทนคำตอบรับกับการยักคิ้วกวนประสาทของตัวเอง คิ้วของยุนฮยองยังไม่คลายดีนักแต่ก็ยอมเปิดตู้เย็นค้นอุปกรณ์และวัตถุดิบทำอาหารทุกอย่างโดยไม่ลืมหยิบรามยอนอีกหนึ่งห่อในตู้ เห็นเช่นนั้นเขาจึงรวบเอาผ้าขนหนูที่ไว้เช็ดหัวเมื่อสักครู่ตรงเคาเตอร์เข้ามือตัวเองก่อนรีบหันหลังให้อีกฝ่าย

     

                “ผมไปตอบเมล์งานแป๊บนะ เดี๋ยวออกมา”

     

                ชิงหนีเข้าห้องนอนไปโดยไม่ลืมทิ้งข้อความแทนการบอกว่าไม่ต้องตามมา มุมปากของจุนฮเวยกยิ้มหลังจากพ้นประตูห้องมาในทันที ฮัมเพลงอย่าอารมณ์ดีขณะคลายผ้าขนหนูที่ห่อกระป๋องต๊อกโบกี้กระป๋องสุดท้ายและซ่อนมันใส่กระเป๋าเป้ใบสำรองที่กะใช้แทนกระเป๋าที่เปียกในวันพรุ่งนี้

     

                เพราะซงยุนฮยองมักเป็นห่วงกูจุนฮเวเกินไป หลายครั้งที่อีกฝ่ายโกรธหรือไม่พอใจเวลาที่เขาทำตัวติดต่อไม่ได้หรือทำตัวให้น่าเป็นห่วงเลยแสดงออกด้วยการนิ่งเงียบแทนความไม่พอใจเหล่านั้น ซึ่งจุนฮเวก็ไม่ใช่คนที่จะง้อใครเป็นแต่แค่เขารู้วิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายหันไปสนใจอย่างอื่นและกลับมาอารมณ์ปกติแทน โดยที่วิธีจะให้ยุนฮยองสนใจเรื่องอื่นมันก็มีแต่เรื่องของจุนฮเวทั้งนั้นโดยเฉพาะเรื่องความหิวเป็นเรื่องอันดับหนึ่ง คงไม่มีวันที่แฟนของเขาจะปล่อยให้เขาหิวหรืออดตายตราบใดที่ยังอยู่ด้วยกันและนั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับจุนฮเวที่มีของโปรดคือต๊อกโบกี้เพราะของฝีมือเซฟซงนั้นอร่อยที่สุดพอๆกับของแม่เขาเลย

     

    ในคืนนี้กับสายฝนโปรยปรายและต๊อกโบกี้ใส่รามยอนโปะชีสอุ่นๆฝีมือของยุนฮยองไม่มีอะไรจะดีไปมากกว่านี้สำหรับจุนฮเวอีกแล้ว



    Talk:  หายไปนานเลยค่ะเพราะไรต์หนีมาเรียนอยู่ต่างประเทศปีนึง มาอยู่ได้เกือบเดือนพึ่งจะปรับตัวได้มีแรงแต่งฟิคต่อเนี่ยล่ะค่ะ ความจริงเราวางเรื่องที่ตั้งใจว่าจะเขียนและก็วางตอนจบของฟิคเรื่องนี้ไว้แล้วค่ะ แต่ก็ปล่อยให้เป็นฟิคเปื่อยๆ ไปเรื่อยๆ มีแรงก็แต่งของเราดีกว่าค่ะ เราค่อนข้างมีความสุขกับการที่มีฟิคเรื่องนี้อยู่กับเราแบบนี้และได้กลับมาอ่านเองทุกครั้งก็มีความสุขค่ะ ไว้เจอกันเรื่องหน้านะคะ


    #ฟิคเปื่อย

     
      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×