ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #6 : [SF] Sweet Harlem Cafe [All x Jinhwan]

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 58


    CR.SHL

    Title : Sweet Harlem Cafe

    Status: SF

    Pairing: All X Jinhwan


     
     

    'Sweet Harlem Cafe' เป็นร้านเล็กๆ มีประมาณยี่สิบโต๊ะและเคาเตอร์ติดกระจกหน้าร้านกับการแต่งร้านสไตล์วินเทจ ซึ่งไม่หวานเกินสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นแก่ลูกค้า พูดถึงที่ไปที่มาของร้านนี้เนื่องด้วยเจ้าของร้านชื่นชอบขนมหวานทั้งเค้ก แพนเค้ก ไอศครีมเลยมีความฝันว่าอยากมีร้านเล็กๆ แบ่งปันความหวานละมุนของของหวานแสนโปรด นั้นคือที่มาของชื่อร้าน 'Sweet Harlem' สถานที่ที่สามารถลิ้มรสของหวานแสนอร่อยหลายชนิดอย่างมีความสุขนั้นเอง 

     

    จะว่าไปสิ่งที่หวานมันไม่ได้มีแค่ขนมในร้านหรอกนะ เจ้าของร้านเองก็หวานไม่แพ้กัน

     

    หน้าหวานๆของผู้ชายคล้ายกับผู้หญิง ขนาดตัวของเจ้าตัวออกจากเล็กกว่ามาตราฐานชายทั่วไป ความอ่อนโยนเอาใจใส่ของเจ้าตัว และรอยยิ้มหวานยามที่ยิ้มเอียงคอกับไผใต้ตาขวารูปหัวใจ ทำให้สาวน้อยใหญ่ รวมถึงหนุ่มๆซึ่งทำงานในร้านของ 'คิมจินฮวาน' หลงใหล

     

    ลองถามพวกเขากันดูไหมล่ะ? ความหวานของคิมจินฮวานที่ได้เอ่ยมานั้นจริงไหม

     

     

     
     
     
     

    พยายานคนที่ 1 ชื่อ คิมจีวอน

    ตำแหน่ง : พ่อครัวประจำร้าน

     

     

     

    ตอนจีวอนเรียนอยู่ปีสี่  เขาได้ไปคาเฟ่เปิดใหม่พร้อมใบปลิวโฆษณาขนมหวานแสนน่ากิน แต่เมื่อไปถึงร้าน โต๊ะแทบทุกตัวถูกจับจองด้วยสาววัยรุ่น เขาเกือบยอมแพ้ก่อนสายตาเขาเหลือบเห็นโต๊ะตัวหนึ่งมีชายหนุ่มหน้าหวานพร้อมขนมหลายอย่างบนโต๊ะ กับเก้าอี้ด้านหน้าซึ่งว่างอยู่ เขาลองเสี่ยงดู เดินเข้าไปขอร่วมโต๊ะด้วย

     

    นับเป็นโชคดีที่ชายคนนั้นตอบตกลง

    นับเป็นโชคดีที่เขาได้ทานของหวานร้านนั้น มันอร่อยจริงๆ

    และนับเป็นโชคดีที่ทำให้เขารู้จักคิมจินฮวานชายซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขา

     

    การนัดเจอระหว่างเขากับจินฮวานมีครั้งที่สอง สาม และสี่ ด้วยจุดประสงค์คือ 'ขนมหวาน' จินฮวานมักชวนเขาไปลองขนมร้านใหม่อยู่เสมอ เมื่อครั้งที่เขาพูดถึงว่าเขาเรียนด้านคหกรรมและทำขนมเป็นงานอดิเรก มือเล็กของจินฮวานตีมาตรงต้นแขนเขาและเสียงเล็กบ่นใส่เขา

     

    'ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ ฉันอยากกินขนมฟรี'

     

    หลังจากนั้นเขาแทบกลายเป็นพ่อครัวทำขนมส่วนตัวของจินฮวาน เขาเองไม่ได้บ่นอะไร แถมบ้างครั้งสนุกด้วยซ้ำเมื่อลองทำอะไรแปลกๆให้จินฮวานกินแล้วหน้าหวานส่งสีหน้าประหลาดมาให้เขา การแกล้งจินฮวานเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่งสำหรับเขา

     

    จนเขาเกือบเรียนจบ จินฮวานพูดถึงว่าอยากมีร้าน Cafe เป็นของตัวเอง เป็นร้านที่รวมขนมหวานแสนอร่อยที่จินฮวานชอบและแบ่งปันให้ผู้อื่นได้มามีความสุขกับขนมเหล่านั้น เขาอยากให้จีวอนเป็นพ่อครัวของร้านด้วยเหตุผลง่ายๆ ฉันชอบขนมที่นายทำ

     
     

    พนักงานเริ่มต้นมีเพียงแค่เขา จินฮวาน และรุ่นน้องอีกคน เริ่มเดือนแรกมาก็ขาดทุนเลย แต่ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ ผลจากการประชุมจนดึกดื่นทุกคืน ดูกรณีศึกษา พูดคุยกันมากขึ้น สามเดือนผ่านไปทำให้ร้านของจินฮวานมีลูกค้าเพิ่มขึ้นและมีเงินหมุนมากพอสำหรับจ้างพนักงานใหม่

     

    ขนมที่จีวอนทำมีกลุ่มผู้หญิงชื่นชอบมากมายรวมถึงชื่นชอบในตัวจีวอนเองด้วย แม้ไม่ค่อยออกมาช่วยเสิร์ฟเหมือนช่วงแรก แต่ยามเขาออกมา รอยยิ้มกว้างตาหยีพร้อมฟันกระต่าย ความขี้เล่นและพูดคุยเก่งเป็นเสน่ห์มัดสาวได้อยู่หมัด แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จีวอนชอบที่สุดคือการที่จินฮวานชอบขนมที่เขาทำ

     

     
     

    จีวอนไขกุญแจประตูด้านหลังร้าน เดินเข้ามายังห้องครัวกดสวิสต์เปิดไฟอย่างคุ้นเคย เปิดตู้เย็นมองสิ่งที่เขาทำค้างไว้เมื่อวาน ใช้มืดแบนหยิบออกมาใส่จานหนึ่งขิ้น บีบวิปครีมลงด้านบน วางแผ่นช๊อกโกแลตขาวรูปหัวใจลงไป จีวอนมองผลงานตรงหน้าอย่างภูมิใจ

     

    “วันนี้มาเร็วนะพึ่งแปดโมงครึ่งเอง” เสียงของจินฮวานทักขึ้นมาข้างๆ เข้ามาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียง ตามประสาคนขี้แกล้ง

     

    “มาแล้วก็ดี ลองชิมดู ขนมใหม่ มูสเชอรี่ตัดรสด้วยมูสช็อกโกแลตด้านล่าง ร้านอื่นๆใช้แต่สตอเบอรี่เลยว่าถ้าเปลี่ยนมาใช้ผลไม้อื่นที่เป็นสีแดง...” จีวอนบรรยายถึงสรรพคุณของเค้กตรงหน้าที่กำลังถูกจินฮวานกินไปเรื่อยๆจนหมดชิ้น

     

    “อืม ความคิดดี อร่อยด้วย แต่เปลี่ยนจากแผ่นช๊อกโกแลตด้านบน แต่ลูกเชอรี่ดีกว่านะ จะได้บอกให้ชัดไปเลยว่าทำจากเชอรี่” จินฮวานเลียตรงมุมปาก ยิ้มออกมาอย่างพอใจ เป็นรอยยิ้มที่จีวอนรู้จักดี รอยยิ้มยามได้กินของอร่อย

     

    “ยังมีเชอรี่อยู่อีกไหม? วันนี้ฉันอยากกินทาร์ตเชอรี่ ทำให้กินหน่อยดิ” ตาคู่เล็กมองมาเขาด้วยสายตาเป็นประกาย

     

    “ของซื้อของขายป่ะ?” จีวอนยักคิ้วให้จินฮวานที่กำลังเบะปากใส่เขา

     

    “ก็ทำทั้งถาด ฉันกินชิ้นนึง ที่เหลือวางขายไง ทำนะ ดีมาก คิม จี วอน” จินฮวานพูดพลางยกมือคู่เล็กขึ้นมาลูบหัวเขา ไม่สิต้องบอกว่าขยี้หัวเขาดีกว่า

     

    “ย่าาาาา” ไม่ทันได้เอาคืนจินฮวานรีบวิ่งออกไปจากห้องครัว มิวายหยิบพุดดิ้งนมในตู้เย็นติดมือไปด้วย ถ้าขาดทุนไม่ต้องคิดเลยว่าจากใคร ไอ้เจ้าของร้านที่ชอบขโมยขนมไปกินเนี่ยล่ะตัวดี

     

     
     
     

    ความหวานของจินฮวานสำหรับจีวอน : ไม่มีหรอกความหวาน มีแต่ความกวนล้วนๆ แต่ยามเมื่อจินฮวานทานขนมของเขาแล้วยิ้มออกมานั่นทำให้หัวใจเขาอิ่มเอม เป็นพลังให้เขาอยากทำขนมให้จินฮวานยิ้มให้เขาอีกเรื่อยไป

     

     

     

     

    พยายานคนที่ 2 ชื่อ คิมฮันบิน

    ตำแหน่ง : บาริสต้าประจำร้าน

     

     

     

    ครั้งแรกที่ฮันบินได้ลองชงกาแฟตอนทำงานพิเศษร้านกาแฟหน้ามหาลัย เขาหลงใหลในเสน่ห์อันแสนขมและกลิ่นอันเข้มข้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น หลังจากเขาเรียนจบเป็นจังหวะเดียวกับรุ่นพี่ของเขาคิมจีวอนชวนเขามาทำงานที่ร้านของจินฮวาน เขาเองค่อนข้างสนิทกับจีวอนจากการนั่งแลกเปลี่ยนความคิดทั้งเรื่องกาแฟ เรื่องของหวาน เรื่องดนตรี รวมถึงการใช้ชีวิต เรียกได้ว่าเขากับจีวอนมีไลฟ์สไตล์ที่แทบเหมือนกัน

     

    ตำแหน่งบาริสต้าประจำร้านไม่ใช้งานน่าหนักใจสำหรับเขาเพราะประสบการณ์มากมายสมัยทำงานพิเศษเป็นเครื่องการันตี ใบหน้านิ่งยิ้มยากของเขาอาจจะดูไม่รับแขกแต่เมื่อยิ้มแล้วสาวน้อยใหญ่มองมาแล้วหลงแทบทุกราย ที่น่าหนักใจสำหรับเขาคือตัวคิมจินฮวานเนี่ยล่ะ

     

    การสอนคิมจินฮวานชงกาแฟเป็นเรื่องเหนื่อยสุดสำหรับฮันบิน กว่าจะจำว่ากาแฟแต่ล่ะชนิดใช้อัตราส่วนกาแฟกับส่วนผสมอื่นได้ใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็ม ไม่นับกาแฟที่ชงเสียเนื่องจากไม่ผ่านมาตราฐานของฮันบินอีกเกือบร้อยแก้วตลอดสามเดือน คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำอย่างเขาได้ประสบปัญหานอนไม่หลับเป็นครั้งแรกเมื่อวันนั้นชิมกาแฟของจินฮวานเกือบสิบแก้ว

     

    แต่อย่างไรก็ตามความพยายามของจินฮวานเป็นสิ่งที่ฮันบินนับถือ ไม่ใช่แค่เรื่องชงกาแฟ แต่เป็นทุกเรื่อง ความใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับร้านของจินฮวาน ส่วนใหญ่จินฮวานมาถึงร้านเป็นคนแรกและกลับคนสุดท้าย บ่อยครั้งกับการพูดคุยกับพนักงานทุกคนถึงปัญหาต่างๆในร้าน รวมถึงการรับความคิดเห็นจากลูกค้าเป็นประจำ รอยยิ้มของจินฮวานยามส่งให้กับลูกค้าเป็นสิ่งที่เขาชอบมอง และรอยยิ้มยามยิ้มให้เขาเป็นสิ่งที่เขาชอบมากกว่า

     

     
     

    เวลาเก้าโมงครึ่งอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเปิดร้าน ฮันบินเดินเข้ามาจากประตูด้านหลังร้าน เมื่อเปิดประตูกลิ่นกาแฟลอยมาเตะจมูกเขาเป็นสิ่งแรก เขาเดินเข้าไปเก็บของในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของพนักงานหยิบผ้ากั้นเปื้อนสีน้ำตาลผูกเอว เดินออกมาผ่านห้องครัว เงี่ยหัวเข้าไปทักคนที่กำลังยุ่งอยู่หน้าเตาอบ ก่อนเดินมาประจำหน้าเครื่องชงกาแฟตรงเคาเตอร์ซึ่งมีชายอีกคนยืนอยู่ตรงนั้นอยู่

     
     

    "อ้าว ฮันบินมาแล้วหรอ" จินฮวานหันมาหาเขาพร้อมรอยยิ้ม ในมือถือแก้วกาแฟซึ่งมีก้อนฟองครีมโปะไว้  

     
     

    "พี่ทำอะไรอยู่?" ฮันบินมองแก้วกาแฟในมือจินฮวานด้วยความสงสัย

     
     

    "ลองทำอาร์ตบนคาปูชิโน่ร้อนดู วันก่อนเจอเป็นรูปแมวเลยลองทำรูปกอตซิล่าดูบ้าง" ภาพคนตรงหน้าที่กำลังใช้ช้อนแต่งฟองครีมอย่างอารมณ์ดีทำให้ฮันบินเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

     
     

    "เสร็จล่ะ น่ารักป่ะ ลองชิมดูดิ" เจ้าของรอยยิ้มกว้างพร้อมดวงตาคู่เล็กตรงหน้าเขา ยื่นแก้วมาตรงหน้า ฮันบินมองฟองครีมรูปกอตซิล่าหน้าตาประหลาดของจินฮวานสักครู่ ก่อนยกขึ้นมาจิบแล้วส่งแก้วคืนให้จินฮวาน ก้อนฟองครีมที่ทำรูปไว้ทำให้ตรงปากด้านบนของเขาเลอะไปด้วยครีม

     
     

    "รสมันก็ไม่ต่างจากคาปูชิโนทั่วไปนะพี่" ฮันบินกำลังจะแลบลิ้นเลียฟองครีมตรงปากแต่นิ้วโป้งของจินฮวานเช็ดออกไปเสียก่อน เขาได้แต่ยืนค้างอยู่แบบนั้น

     
     

    "จริงหรอ? ฉันว่าใช้ครีมเยอะรสมันน่าจะละมุนขึ้นนะ" จินฮวานเช็ดนิ้วโป้งกับผ้ากันเปื้อน ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มฟองครีมทำยังเหลืออยู่ให้ปากบนของจินฮวานเลอะไปด้วยครีมเช่นกัน

     
     

    "พี่นี่โคตรเหมือนเด็กเลย" ฮันบินยกนิ้วโป้งขึ้นมาเช็ดครีมตรงปากจินฮวานเหมือนที่จินฮวานทำแต่ต้องสะดุดเมื่อตรงนิ้วโป้งสัมผัสกับลิ้นเล็กแลบออกมาเลียครีม ฮันบินยืนค้างเป็นรอบที่สอง    

     
     

    "นายก็เหมือนกันล่ะ โคตรเด็กกว่า...เอ๊ะ มีของมาส่ง" จินฮวานยิ้มหวานให้เขา ยัดแก้วลงมือก่อนเดินไปเซ็นต์รับของจากบุรุษไปรษณีย์ตรงประตูหน้า เขายืนมองปากจินฮวานพูดคุยและยิ้มให้กับบุรุษไปรษณีย์

     

    ฮันบินไม่รู้ว่ายืนมองอยู่นานแค่ไหน จนจีวอนยื่นหน้าเข้ามาจากช่องหน้าต่างระหว่างห้องครัวกับตัวร้านทักเขาว่า ยืนหน้าโง่ทำอะไรอยู่ ทำให้เขาแทบเอาแก้วในมือแนบหน้าจีวอน

     


    ความหวานของจินฮวานสำหรับฮันบิน : ทั้งรอยยิ้มและการกระทำของจินฮวานคงเหมือนกาแฟที่จินฮวานเคยชงให้เขาดื่มจนนอนไม่หลับ ต่างกันแค่นั่นทำให้เขาคิดเรื่องเรื่อยเปื่อยทั้งคืน แต่นี่มันทำให้เขานึกถึงแต่จินฮวานเท่านั้น

     

     

     

     

    พยายานคนที่ 3 ชื่อ ซงยุนฮยอง

    ตำแหน่ง :  พนักงานเสิร์ฟ(ประจำ)  

     

     

     

    หลังจากที่ยุนฮยองเรียนจบมหาลัยเขาส่งใบสมัครงานไปหลายบริษัทแต่ไม่สัญญาณตอบรับกลับมา จนกระทั่งเวลาผ่านไปสามเดือนเงินเก็บเขาเริ่มร่อยหรอ  ในคืนที่เขาบังเอิญขับจักรยานคู่ใจตั้งแต่สมัยเรียนผ่านร้านของจินฮวาน

     
     

    เป็นคืนที่เขาเดินเข้าไปสั่งโกโก้เย็นโดยได้รับรอยยิ้มกว้างของจินฮวานและคุ๊กกี้ห่อสุดท้ายเป็นของแถม                     

    ป็นคืนที่เขาเอ่ยปากถามจินฮวานเกี่ยวกับรายละเอียดรับสมัครพนักงานเสิร์ฟจากป้ายตรงเคาเตอร์

    และเป็นคืนที่เขานอนไม่หลับทั้งๆที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ แต่อาจจะเพราะว่าเขาได้งานทำแล้ว

     

    การปรับตัวเข้ากับงานไม่ใช่เรื่องยาก เขาเป็นคนอัศยาสัยดีและตอนเรียนเคยทำงานพิเศษร้านกาแฟด้วย ด้วยใบหน้าคม ดวงตาโต ปากอวบอิ่ม คำพูดสุภาพน้ำเสียงอ่อนโยนและรอยยิ้มมัดใจสาวของเขา ทำให้มีลูกค้าสาวๆหลายคนมานั่งที่ร้านเพราะเขาบ่อยๆ อาจจะมีติดขัดเล็กน้อยกับสายตาดุๆของบาริสตาร์ประจำร้านยามเขาบอกออเดอร์ไม่ชัดกับความขี้เล่นและขี้แกล้งเกินไปของพ่อครัวตาหยีเวลาเขาล้างจานและแก้วใช้แล้วในห้องครัว แต่สิ่งที่ดีที่สุดของงานนี้คือการได้พบจินฮวานทุกวัน

     
     
     
     

    ยุนฮยองจอดจักรยานคู่ใจและล๊อกโซ่ไว้หลังร้าน  วันนี้เป็นวันพุธแค่คิดว่าเป็นวันพุธก็เหนื่อยแล้วเพราะเป็นวันที่เหนื่อยที่สุดรองจากวันเสาร์ก็ว่าได้ แต่เขาเองนั้นชอบวันพุธอยู่อย่างหนึ่ง

     
     

    "สวัสดีบาบิ สวัสดีฮันบิน สวัสดีครับพี่จินฮวาน" ยุนฮยองเดินเข้ามาในร้านหลังจากเอาของไปเก็บให้ของของพนักงานเจอสามหนุ่มผู้ก่อตั้งร้านยืนดื่มกาแฟอยู่ตรงเคาร์ตอร์เตรียมชาร์จพลังสำหรับวันนี้กันเต็มที 

     
     

    "พี่ยุนฮยองเอามอคค่าใช่ไหม?" ฮันบินถามแต่มือเตรียมชงกาแฟโดยไม่รอคำตอบ

     
     

    "อืม ขอบคุณนะฮันบิน" ยุนฮยองส่งยิ้มยืนเท้าโต๊ะเคาเตอร์มองฮันบินชงกาแฟ

     
     

    "อย่างยุนฮยองแค่น้ำเปล่าก็พอแล้วเปลือง" พ่อครัวประจำร้านยักคิ้วให้พลางจิบลาเต้ของโปรด

     
     

    "เงียบไปเลยบาบิ" เขาส่งยิ้มแยกเขี้ยวให้จีวอน เจ้าตัวยกไหล่ให้แบบไม่สนใจ   

     
     

    "วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ สองแสบไม่เข้าร้าน ช่วงเย็นคงยุ่งน่าดูเลยล่ะ" จินฮวานส่งยิ้มหวานให้เขา เขารับมอคค่าร้อนจากฮันบินดื่มเติมพลังให้กับตัวเองในวันนี้     

     
     

    วันนี้ผ่านไปอย่างโหดร้าย ช่วงเย็นไม่รู้ลูกค้ามาจากไหนเยอะเยะวันนี้โต๊ะเต็มตั้งแต่สี่โมงกว่า รับออเดอร์ คิดเงิน เสิร์ฟของ เก็บโต๊ะ ล้างจาน กว่าจะถึงสามทุ่มยุนฮยองแทบลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นให้ได้

     

    ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มยุนฮยองกำลังถูร้านพลางถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า จินฮวานกำลังเช็กเงินกับเครื่องคิดเงินตรงเคาเตอร์ จีวอนกับฮันบินเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากทำความสะอาดส่วนของตัวเองเสร็จ บอกลาเขาทั้งสองคนแล้วออกไปลั่นล้าที่ผับเป็นประจำในคืนวันพุธ บางครั้งเขาอยากจะถามเหมือนกันว่าทั้งวันหนักขนาดนี้ยังมีแรงเหลืออีกหรอ ยุนฮยองเอาไม้ถูพื้นไปทำความสะอาดและเก็บเข้าที่ก่อนเดินกลับเข้ามาในร้านเป็นจังหวะที่จินฮวานปิดเครื่องคิดเงิน

     

    “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม งั้นกลับกันเลยนะ” จินฮวานยิ้มให้เขาก่อนเดินไปปิดไฟร้าน เขากับจินฮวานหยิบของในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โยนผ้ากันเปื้อนที่ผูกเอวไว้ลงตะกร้า จินฮวานล็อกประตูร้านขณะที่เขาเดินไปปลดล๊อกจักรยานคู่ใจ

     

    “เชิญครับพี่จินฮวาน” ยุนฮยองผายมือส่งรอยยิ้มกว้างให้ ราวกับคนขับรถสุดหรูทั้งที่คร่อมอยู่บนจักรยานสองที่นั่ง เรียกเสียงหัวเราะจากจินฮวานได้อย่างดี

     
     

    ยุนฮยองขี่จักรยานไปตามเส้นทางโดยมีจินฮวานนั่งซ้อนอยู่ บ้านของจินฮวานอยู่ทางเดียวกับหอพักเขา ระหว่างทางส่วนใหญ่พวกเขาพูดคุยเกี่ยวเรื่องร้าน ชีวิตส่วนตัวบ้าง เรื่องตลกหรือรายการวาไรตี้ที่ยุนฮยองชอบดู ทำให้มีเสียงหัวเราะดังไปตลอดทาง 

     
     

    "แล้วก็ไอ้นั้นนะพี่...อ้าวถึงบ้านพี่ล่ะ" มือของเขากดเบรกเท้าสไลต์ไปกับพื้นช่วยให้รถหยุด จินฮวานก้าวขาลงจากจักรยานก่อนหันมาหาเขา

     
     

    "โอเคไว้พรุ่งนี้ค่อยเจอกัน...เดี๋ยวนะยุนฮยอง" จินฮวานรีบไขกุญแจบ้านด้วนความไวแสงวิ่งเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ยุนฮยองยืนรออย่างงงๆ จินฮวานออกจากประตูบ้านมาพร้อมผ้าพันคอสีดำหนึ่งผืน 

     
     

    "วันนี้หนาวๆ พันไว้จะได้ไม่เป็นหวัด เดี๋ยวจะเสียพนักงานเสิร์ฟมือหนึ่งไป" ผ้าพันคอถูกคล้องไว้ของคอของยุนฮยอง จินฮวานเขย่งตัวขึ้นพยายามพันเข้ากับรอบคอเขาและผูกเป็นโบว์เป็นของแถม

     
     

    "ผมไม่ใช่กล่องของขวัญนะพี่ แต่ขอบคุณครับ" ยุนฮยองจับโบว์ตรงคอพลางหัวเราะไปด้วย

     
     

    "ห้ามแกะออกรู้ไหม ถึงบ้านถ่ายรูปมาให้ดูด้วยว่ายังอยู่" จินฮวานยิ้มกับผลงานตรงหน้าอย่างพอใจ   

     

    "ครับ ฝันดีครับพี่จินฮวาน" ยุนฮยองส่งยิ้มกว้างให้ ก่อนขี่จักรยานออกจากหน้าบ้านของจินฮวาน

          

    “ฝันดีนะยุนฮยอง” จินฮวานตะโกนไล่หลังเขามา ระหว่างทางจากบ้านจินฮวานถึงหอพักของเขายุนฮยองขี่จักรยานฮัมเพลงอย่างมีความสุข มือยกขึ้นมาจับโบว์ตรงคอ

     

    หรือว่าเขาจะนอนทั้งอย่างนี้ไปเลยดี วันนี้คงหลับฝันดีกว่าที่เคยแน่เลย

     

     
     

    ความหวานของจินฮวานสำหรับยุนฮยอง : เสียงหัวเราะและความขี้เล่นของจินฮวานสามารถสร้างเสียงหัวเราะให้เขาเสมอแม้ทำงานมาเหนื่อยแค่ไหน เป็นสิ่งที่ทำให้เขาหลับฝันหวานได้ในคืนวันพุธอันแสนหนักหน่วง

     

     

     

     

    พยายานคนที่ 4,5 ชื่อ คิมดงฮยอก และ กูจุนฮเว

    ตำแหน่ง :  พนักงานเสิร์ฟ(พาร์ทไทม์)

     

     

     

    ดงฮยอกกับจุนฮเว เด็กชายสองคนที่โตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเพราะบ้านทั้งคู่อยู่ติดกัน เรียนมาด้วยกัน จนเข้ามหาลัยยังเข้าคณะเดียวกัน ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันไม่สิเป็นเพื่อนกัดกันมากกว่า ทั้งลักษณะภายนอกและนิสัยซึ่งแตกต่างอย่างมาก มีเรื่องให้เถียงกันเป็นประจำ แต่บางครั้งกลับมีความคิดและความชอบที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ และการชอบจินฮวานเหมือนกันน่าจะเป็นหนึ่งในนั้น

     

    ย้อนกลับไปตอนปีหนึ่งที่ดงฮยอกกับจุนฮเวมาร้านของจินฮวานเป็นครั้งแรก ในขณะเถียงกันเกี่ยวกับไฟนอลโปรเจคกันหน้าดำหน้าแดงรอชาเขียวปั่นสองแก้วและเค้กช๊อกโกแลตสองชิ้น ตอนที่ทั้งสองคนหันไปเจอคนเสิร์ฟตัวเล็กหน้าหวาน ยิ้มกว้างให้พร้อมของที่สั่ง แถมด้วยบอกด้วยว่า ค่อยๆทานแล้วค่อยๆคุยกันนะครับ เย็นนั้นทั้งคู่ทานขนมกันอย่างเงียบๆ แอบมองจินฮวานทำงานจนร้านปิดและเดินบ้านไปโดยไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากของทั้งคู่

     

    วันรุ่งขึ้นทั้งสองคนเดินเข้าไปสมัครงานร้านจินฮวานอย่างไม่ได้นัดหมาย อวดถึงความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่จนจินฮวานหนักใจเพราะยังไม่มีความคิดอยากจ้างพนักงานแต่จีวอนบอกว่า น่าสนุกดีให้ลองทำงานสักอาทิตย์จะเป็นไรจินฮวานเลยให้ทั้งคู่ทดลองงาน

     

    วันต่อมาหลังเลิกเรียนทั้งสองคนตรงมาที่ร้านของจินฮวานเพื่อลองงาน ทั้งคู่ไม่เคยทำงานพิเศษที่ไหน สองวันแรกมีผิดพลาดทำจานหรือแก้วแตก บอกออเดอร์ผิดบ้าง แต่ทั้งคู่เป็นพวกเรียนรู้ได้เร็วทำให้การทำงานเป็นไปด้วยดีจนหมดสัปดาห์ ด้วยผลที่ดีเกินคาดจินฮวานตัดสินจ้างทั้งสองคน

     

    ดงฮยอกเป็นคนร่าเริง เข้ากับคนง่าย ด้วยรอยยิ้มจนดวงตาทั้งคู่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เสียงเล็กๆน่ารักพูดจาดีมีเสน่ห์ เลยเป็นที่รักของพี่ๆในร้านและลูกค้าสาวๆในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนจุนฮเวแม้อัธยาสัยไม่ได้ดีมากจนเกือบติดลบด้วยซ้ำ ด้วยใบหน้านิ่งและสายตาดูน่ากลัว แต่ความตั้งใจบวกด้วยใบหน้าหล่อเหลาและเสน่ห์แปลกๆอีกด้านที่ทำให้มีสาวๆชอบเขาเช่นเดียวกัน แล้วยิ่งเวลาทั้งคู่เล่นเหรือเถียงกันในร้าน ทำให้ลูกค้าสาวๆยิ้มตามกันกับความน่ารักของทั้งคู่

     

     
     

    “สวัสดีครับพี่จินฮวาน” เสียงดงฮยอกทักขึ้นด้วยความสดใส เดินมาในร้านพร้อมกับจุนฮเวที่แค่ผงกหัวให้จินฮวานแทนคำทักทาย

     

    “อ้าว ทำไมพี่จินฮวานประจำเครื่องชงกาแฟล่ะครับ พี่ฮันบินไม่มาหรอ?” ดงฮยอกถามขึ้นหลังจากมองไปทั่วร้านและในห้องครัวจากหน้าต่างเชื่อมระหว่างห้อง

     

    “ฮันบินลา เห็นมีธุระกับที่บ้านน่ะ” จินฮวานตอบขณะชงเครื่องดื่มอยู่

     

    “พี่จินฮวานน คิดถึงจังครับ” ดงฮยอกเดินเข้าไปกอดจินฮวานส่งเสียงงุ้งงิ้งน่ารักให้จินฮวาน จินฮวานไม่ว่าอะไรแถมลูบหัวดงฮยอกคืนด้วย สาวๆในร้านหันมามองแล้วยิ้มกับความน่ารักของดงฮยอก

     

    “ดงฮยอกไปเสิร์ฟเลย โต๊ะสาม” จุนฮเววางแพนเค้กช๊อกโกแลตกับอิตาเลี่ยนโซดาที่รับมาจากจินฮวาน ดงฮยอกแยกเขี้ยวใส่ จุนฮเวไหวไหล่ให้อย่างไม่ใส่ใจ เช็กออเดอร์ตรงเครื่องคิดเงินต่อ

     

    “จุนฮเวมานี่ดิ” จินฮวานกวักมือเรียกจุนฮเวมาหาตัวเอง จุนฮเวเดินเข้าไปหาอย่างงงๆ ก่อนถูกจินฮวานใช้มือกดไหล่ให้ย่อตัวลง

     

    “อย่ามาทำตัวสูง” จุนฮเวกำลังจะเถียงออกไปว่า แล้วพี่เตี้ยเองทำไมแต่ถูกสายตาพิฆาตส่งให้เลยได้แต่เงียบ จินฮวานเอาหนังยางผูกผมหน้าม้าของจุนฮเวมัดเป็นจุก

     

    “เห็นแล้วรำคาญ ผูกไว้ซะจะได้ไม่ต้องจัดบ่อย” ยิ้มให้ผลงานตรงหน้าตัวเองอย่างพอใจ

     

    “พี่ นี่มันโคตรสาวเลยนะ” จุนฮเวยืนเต็มความสูง จับตรงจุกผมที่ถูกมัดอย่างไม่พอใจ

     

    “เอาน่า น่ารักดี ไปเก็บโต๊ะไป” ว่าแล้วก็โดนจินฮวานใช้มือเล็กตีตรงที่หน้าผากของจุนฮเวหนึ่งที จุนฮเวลูบหน้าผากป้อยๆ เดินไปเก็บโต๊ะตามที่จินฮวานสั่ง

     

    “โคตรน่ารักเลยครับ” ดงฮยอกแซว หัวเราะด้วยเสียงเล็กๆ ใส่จุนฮเวที่กำลังเบะปาก

     

    “พี่จินฮวานมัดให้ด้วย พี่จินฮวานชมกูน่ารักด้วย” เหมือนตอนแรกจุนฮเวไม่พอใจแต่ตอนนี้กำลังจับจุกผมบนหัวอวดให้ดงฮยอกรู้เต็มที่

     

    “พี่จินฮวานชมกูน่ารักเสมอ แค่นี้อย่ามา” ทั้งสองคนเถียงกันไปมาก่อนได้ยินเสียงเรียกจากจินฮวาน

     

    “ดงฮยอก จุนฮเว พี่ลองชงโกโกร้อนผสมนมสตอเบอรี่ว่าจะขายพิเศษสำหรับวันวาเลนไทน์ แบ่งกันชิมดูนะ พี่ตั้งใจทำมากกก ไปเข้าห้องน้ำแปป” จินฮวานยิ้มหวานให้ทั้งคู่ วางแก้วเครื่องดื่มบนเคาเตอร์ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ

     

    “พี่เขาชงให้กู” ดงฮยอกรีบตรงไปหยิบแก้วเครื่องดื่มที่จินฮวานชงให้

     

    “เขาชงให้กู” จุนฮเวเองก็รีบไม่รอช้าเดินเข้าไปประชิดตัวดงฮยอกเป็นสงครามแย่งแก้ว จนหลายคนหันมามอง สำหรับลูกค้าประจำมองแล้วหัวเราะกันเพราะเป็นภาพที่เห็นกันชินตา ส่วนลูกค้าใหม่มองกันอย่างประหลาดใจ

     

    “ไม่ต้องเถียง เมื่อเช้าพี่ก็ได้กิน” พี่ยุนฮยองเดินมาห้องครัวหลังจากเข้าไปล้างจาน แยกสงครามขนาดย่อมของดงฮยอกกับจุนฮเว

     

    “จุนฮเวไปเก็บโต๊ะ ไป” พี่ยุนฮยองประกาศประกาศิตใส่จุนฮเว จุนฮเวเดินย่ำเท้าปังๆ เตรียมไปเก็บโต๊ะ

     

    “เก็บไว้ให้กูด้วย ครึ่งนึง เป๊ะๆนะโว้ย” มิวายหันมาบอกดงฮยอกที่กำลังดื่มเครื่องดื่มในมืออย่างเอร็ดอร่อย ยกคิ้วให้อย่างไม่สนใจ

     

    “เป็นไง อร่อยไหม?” จินฮวานถามขึ้นหลังจากออกมาจากห้องน้ำ จุนฮเวกำลังดื่มอึกสุดท้ายพอดี

     

    “ผมว่ามันหวานไปหน่อยครับ” // “หวานไปนิดนะพี่” ดงฮยอกกับจุนฮเวตอบพร้อมกัน

     

    “นายสองคนนี่ชอบรสเดียวกันเลยแฮะ แปลกดีทะเลาะกันบ่อยๆแต่ชอบอะไรเหมือนกันด้วย” จินฮวานหัวเราะพลางเช็กออเดอร์จากเครื่องคิดเงิน

     

    ทั้งสองคนมองหน้าแล้วคิดในใจ ไม่ใช่แค่ชอบรสเดียวกัน แต่ชอบคนเดียวกันด้วยครับ


                                              

     
     

    ความหวานของจินฮวานสำหรับดงฮยองและจุนฮเว : เป็นความหวานที่ทั้งคู่พยายามแย่งกันเพื่อได้มา แม้ทั้งคู่มีหลายอย่างต่างกันมีเรื่องให้เถียงตลอดเวลา แต่เรื่องชอบจินฮวานเหมือนกันเป็นเรื่องที่เถียงไม่ได้จริงๆ

     

     

     

     
    พยายานคนที่ 6  ชื่อ จองชานอู

    ตำแหน่ง :  ลูกค้าประจำ + เด็กชายข้างบ้านจินฮวาน

     

     
     
     

     

    ตอนชานอูอยู่ม.หนึ่ง ข้างบ้านของเขาที่เคยมีคุณป้ากับคุณลุงใจดีอาศัยอยู่กลับมีหลานมาอยู่แทน พี่ชายตัวเล็กข้างบ้านซึ่งตอนนั้นอยู่ปีหนึ่ง แต่สูงกว่าเขาซึ่งอยู่ม.หนึ่งไม่เท่าไร มากดกริ่งแนะนำตัวเองกับคุณแม่ของเขาพร้อมรอยยิ้มกว้างดวงตาเล็กหยีลงและขนมเค้กในมือ หลังเลิกเรียนเขาชอบวนเวียนไปหาพี่ชายตัวเล็กข้างบ้านให้ช่วยสอนทำการบ้านบ้าง และทุกครั้งเวลาไปบ้านพี่ชายตัวเล็กมักมีขนมอร่อยๆให้เขากินเสมอทำให้เขาติดพี่ชายข้างบ้านโดยไม่รู้ตัว  

    พอชานอูขึ้นม.ห้า เขาได้รู้ว่าพี่ชายตัวเล็กข้างบ้านของเขาเปิดร้านกาแฟ ความรู้สึกตื่นเต้นก่อตัวขึ้นเมื่อจะพบพี่ชายตัวเล็กที่แทบไม่เจอมาเกือบหนึ่งปีครึ่งเพราะจินฮวานแทบไม่ได้กลับบ้านตอนอยู่ปีสี่เนื่องจากโปรเจคจบและหลังจากนั้นยุ่งกับการเปิดร้าน เมื่อเขาถึงที่ร้าน จินฮวานเดินตรงเข้ามากอดเขาแน่น บ่นใส่เขายกใหญ่ว่า
    ทำไมสูงขึ้นแทบมิดหัวเขา’ ชานอูหัวเราะกับเสียงบ่นของจินฮวาน พูดคุยสาระทุกข์สุขดิบ ก่อนวันนั้นจบลงที่เขามีขนมให้กับตัวเอง ของฝากจากจินฮวานให้คุณแม่เขา และคำขู่จากพี่ชายตัวเล็กว่าให้มาอีก ถ้าไม่มาจะตามไปลากจากที่บ้าน

     
     
     

    "มาอีกแล้วหรอไอ้เด็กหมี" ฮันบินทักชานอูพร้อมยักคิ้วใส่ให้ทีหนึ่ง   

     
     

    "โถ่ พี่ฮินบินก็" ชานอูส่งยิ้มแหยะๆให้ฮันบิน ปกติฮันบินเป็นคนหน้านิ่งไม่ค่อยเข้าหาคนอื่น แต่ชานอูนี่กรณีพิเศษ ไม่ได้เอ็นดูแบบน้องชายแต่เหมือนเป็นเหยื่อให้ฮันบินแกล้งเล่นมากกว่า  

     
     

    "เหมือนเดิมนะไอ้หมี" ฮันบินคีย์ออเดอร์ลงเครื่องคิดเงินโดยไม่สนใจมองหน้าชานอู

     
     

    "ครับ ขอบคุณครับพี่ฮันบิน" ชานอูยิ้มกว้างมิวายโดนฮันบินแกล้งโบกมือไล่ให้ไปไกลๆ

     

    ชานอูเดินไปนั่งตรงโต๊ะประจำของเขาข้างหน้าต่างในเช้าวันเสาร์ตอนสิบโมงครึ่ง เขาวางหนังสือติวสอบเล่มหนา เปิดสมุดโน๊ต หยิบเครื่องเขียนมาวางเรียงบนโต๊ะ การสอบเข้ามหาลัยใกล้เข้ามาทุกที อีกแค่สองเดือนเท่านั้นสำหรับการเตรียมอ่านหนังสือ ชานอูเป็นคนเรียนเก่งแต่เขาไม่ควรประมาณ ยังไงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ขณะไล่ทำโจทย์คณิตศาสตร์อยู่เก้าอี้ด้านหน้าเข้าถูกดึงออกพร้อมถาดใส่แพนเค้กผลไม้กับโกโก้ปั่นวางลงบนโต๊ะและพี่ชายตัวเล็กนั่งลงตรงข้ามเขา

     
     

    "กินก่อน เดี๋ยวค่อยอ่านต่อ" จินฮวานส่งยิ้มให้ อย่างเคยก่อนหยิบหนังสือติวสอบของเขาไปอ่านดู ชานอูค่อยๆกินแพนเค้กของโปรดแอบมองพี่ชายตัวเล็กอ่านโจทย์เลขทำคิ้วขมวดเยามคิดหาคำตอบและยิ้มกับตัวเองยามแก้โจทย์ได้

     
     

    "เด็กสมัยนี้เรียนอะไรยากจัง นี่มันเท่ากับตอนพี่เรียนปีหนึ่งเลย แต่พี่เก่งวะ ยังจำได้ด้วยทั้งๆที่ผ่านมาตั้งนาน" ไม่ต้องชมพี่ชายตัวเล็กเขาเก่งเรื่องพูดเองชมเองอยู่แล้ว

     
     

    "ผมยังไม่ค่อยมั่นใจกับวิชาคณิตเลย ผมชอบวิชาชีวะมากกว่า" ชานอูยิ้มแหยะๆ เมื่อพูดถึงวิชาคณิตศาสตร์ที่เขาไม่ชอบเท่าไร

     
     

    "พี่ล่ะโคตรเกลียดชีวะเลย เอาจริงๆพี่ไม่ชอบพวกวิชาวิทย์สักตัวแต่พี่ชอบคณิตนะ" พี่จินฮวานเบะปากตอนพูดถึงวิชาชีวะ บ่นอุบอิบตามสไตล์

     
     

    "งั้นพี่จินฮวานก็ติวคณิตให้ผมได้สิ แต่พี่คงไม่ว่างใช่ไหม? พี่ต้องดูแลร้านนิน่า" ชานอูกัดส้อมมองหน้าของจินฮวานรอฟังคำตอบ  

     

    "ถ้าวันอาทิตย์ก็ได้อยู่นะ ร้านปิดวันอาทิตย์" ตาแป๋วของชานอูส่งให้จินฮวาน เขาไม่นึกว่าถามไปแล้วจะได้คำตอบตกลงซะงั้น

     
     

    "พี่โหดนะ ไม่มีพี่ข้างบ้านใจดีช่วยสอนทำการบ้านเหมือนตอนเด็กแล้วรู้ไหม" จินฮวานยกมือขึ้นลูบหัวคนตรงหน้าเบาๆ และเริ่มแรงขึ้นจนชานอูต้องสะบัดหัวหนี จินฮวานหัวเราะอย่างสะใจ

     
     

    "พี่ไปทำงานต่อล่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ" ชานอูยก โกโก้ปั่นขึ้นดูดก่อนกลับไปสนใจหนังสือตรงหน้า

     

    "กลับแล้วหรอไอ้เด็กหมี วันนี้กลับเร็วนิ" ฮันบินพูดขึ้นหลังจากนำกาแฟเย็นมาวางที่ถาด ตอนเขากำลังจะจ่ายเงินค่าแพนเค้กและโกโก้ปั่น

     
     

    "พอดีคุณแม่โทรมาบอกให้กลับเร็วน่ะครับ" เขารับเงินทอนจากยุนฮยองที่ประจำอยู่เครื่องคิดเงิน สายตาสะดุดที่ป้ายรับสมัครพนักงานเสิร์ฟ

     
     

    "อายุสิบแปดหรอ..." เขาอ่านป้าย เขาพึ่งอายุสิบแปดเมื่อเดือนมกรานี้เอง   

     
     

    "ชานอูอยากทำงานที่นี่หรอ?" ยุนฮยองถามเขาพลางยิ้มให้  

     
     

    "ไอ้เด็กหมีมาเสิร์ฟมีหวังมาทำตาแป๋วเอ๋อใส่ลูกค้าอ่ะดิ" ฮันบินแซว  

     
     

    "นายก็มียืนเอ๋อชงกาแฟเวลานอนไม่พอเหมือนกันล่ะฮันบิน" จินฮวานเดินมาจากในครัวหยิบถ้วยเค้กช็อกโกแลตในตู้โชว์ใส่ถุงส่งให้ชานอูโดยไม่สนใจฮันบินที่เบะปากให้

     
     

    "อันนี้ฝากให้คุณแม่นะ ส่วนเรื่องสมัครงานสอบให้ได้ก่อนแล้วพี่จะพิจารณา" จินฮวานยิ้มกว้างให้ชานอูพร้อมโบกมือลา

     
     

    ระหว่างเดินกลับบ้านชานอูได้แต่คิดในใจ เมื่อถึงบ้านเขาต้องขยันอ่านหนังสืออย่างจริงจังมากขึ้นแล้วล่ะ 

     

     
     

    ความหวานของจินฮวานสำหรับชานอู : ความใจดีกับความห่วงใจของจินฮวานเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยากเข้าหาเหมือนตอนเขายังเด็กติดพี่ชายตัวเล็กข้างบ้านครั้งนั้นอาจจะเป็นเพราะขนม แต่ครั้งนี้เป็นเพราะตัวจินฮวานเอง

     

     

     

    โจทย์ ชื่อ คิมจินฮวาน

    ตำแหน่ง :  เจ้าของร้าน Sweet Harlem Cafe

      

     

     

    ในที่สุดก็หมดวันเสาร์ จินฮวานเดินบิดขี้เกียจเข้ามาในบ้าน วันนี้อาศัยจักรยานของยุนฮยองตามเคยเพราะจีวอนกับฮันบินหนีไปเที่ยวผับอีกแล้ว และเขาขี้เกียจเดินกลับกับสองแสบ ความจริงคือขี้เกียจฟังสองคนนั้นเถียงกัน มาถึงบ้านไม่เท่าไร เสียงเตือนไลน์ดังขึ้นมา เขายกมือถือขึ้นมาดูเป็นไอ้สองแสบส่งมาถามว่าถึงบ้านหรือยัง พร้อมกันด้วย กำลังนินทาอยู่ในใจพอดี ตายยากจริงๆ เขาตอบไลน์ของสองแสบ ยิ้มให้กับสติกเกอร์ที่ทั้งสองคนส่งมาเหมือนกันอีก ก่อนมีข้อความไลน์เด้งขึ้นมาจากฮันบิน

     

    “หืม? ชวนดูหนัง? ร้อยวันพันปีไม่เคยชวนดูหนัง” จินฮวานแปลกใจกับข้อความชวนดูหนังแกมบังคับของฮันบิน

     
     

    " อืมม พรุ่งนี้ต้องติวหนังสือชานอูตอนเช้า บ่ายมีนัดไปกินขนมกับจีวอน เย็นน่าจะได้อยู่นะ" ไล่ลำดับความคิดก่อนตอบตกลงกับฮันบินพร้อมช่วงเวลาที่ว่างลงไป เขาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีก่อนเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ

     

    พรุ่งนี้เป็นวันหยุดแต่ยังคงได้ใช้เวลาอันแสนสุขทั้งวัน แค่คิดถึงก็สนุกแล้วแฮะ

     

     
     

    ความหวานของจินฮวานสำหรับตัวจินฮวาน :  เขาเองก็ไม่รู้ว่าความหวานของตัวเองคืออะไร ความน่ารัก? รอยยิ้ม? การกระทำ? เขารู้เพียงแค่ทุกอย่างที่เขาแสดงออกไปเขาคิดมาหมดแล้วว่าแค่ไหนกำลังดีและเพียงพอให้คนแต่ล่ะคนหลงใหลในตัวเขา แต่ไม่ใช่แค่คนเดียว ถ้าลองเปรียบแต่ล่ะคนเป็นขนมหวานแต่ละชนิด เมื่อได้ลองชิมแล้วมันอร่อยทุกอย่าง เรื่องอะไรที่จะกินแต่ชิ้นที่ชอบล่ะ ก็กินมันทุกชิ้นเลยสิ เขามันคนตะกละอยู่แล้ว แต่ต้องไม่ใช่ทีเดียวหมดนะ ต้องค่อยๆละเลียดชิมรสชาติอันแสนอร่อยไปนานๆ ถึงเบื่อก็ยังไงก็ยังมีให้เลือกหลายรสนะ

     

     
     

    แต่ยังไงเขาคงไม่มีทางเบื่อแน่นอนก็ของโปรดนิน่า

     

     

      

    Talk: โฮกกกกกก ฟิคยาวมากเรื่องแรกเลยค่ะ หลายๆคนชอบบอกว่าไอค่อนเป็นฮาเรมของพี่จิน เลยเอามาแต่งฟิคเลยค่ะ อยากให้อารมณ์ว่าพี่จินรักทุกคน สรุปพี่จินทำร้านมาเพื่อเป็นฮาเรมของตัวเองใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ ผู้อ่านชอบเรือลำไหนในเรื่องนี้กันคะ?

     

    ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่าาาาา

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

    Thanks For Sweet Lovely Theme : S H A L U N L A   T H E M E

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×