ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #24 : [drabble] Give And Take [Yunhyeong x Bobby]

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 58


    Title: Give And Take

    Status: Drabble

    Pairing: Yunhyeong X Bobby

     

     
     

     

     
     
     
     
     
     

    "อีกสองนาทีจะเข้าสู่ช่วงโชว์สเตจนะครับ ผู้เกี่ยวข้องเตรียมรอสเตนบายครับ"

     

     
     

    เสียงผู้ประสานงานกำลังเช็กความเรียบร้อย หลายคนวิ่งวุ่นเตรียมทุกอย่างให้ทันในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เขาหมุนคอของตัวเองนวดตรงไหล่เบาๆระหว่างยืนอยู่หลังฉากข้างเวที นึกถึงตำแหน่งที่ต้องเดินและท่าทางจากตอนซ้อมเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มงาน เวลาเตรียมตัวน้อยกว่าทุกงานที่ผ่านมา ยังโชคดีว่าเพลงที่ต้องแสดงเป็นเพลงใหม่ของเขาซึ่งพึ่งซ้อมมาเป็นอย่างดีสำหรับงานในอาทิตย์หน้าและไม่มีการตัดเพลงออก   

     

     
     

    "อีกหนึ่งนาทีครับ คุณบ๊อบบี้สเตนบายเรียบร้อยแล้ว ฝั่งนายแบบครบทุกคนหรือยังครับ?"

     
     
     
     

    ดวงตาเรียวก้มลงเช็กเสื้อผ้าของตัวเองอีกครั้งว่าเรียบร้อยดีไหม เป็นสิ่งเดียวในตัวเขาที่จะผิดพลาดไปไม่ได้ถึงแม้เป็นของซึ่งเตรียมมาให้เขาอย่างดีก็เถอะ ชุดสูทสีเทาเข้ารูปพอดีตัวราวกับรู้สัดส่วนทุกจุด ดึงเสน่ห์ของตัวเขาออกมาอย่างเต็มที เรือนไหล่แข็งแกร่ง ท่อนขายาว รับกับใบหน้าคมเข้มและสันกราม  

     

     
     

     ยกยิ้มมุมปาก รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ความมั่นใจเต็มเปี่ยม

     

     
     
     
     

    ...เขาพร้อมแล้ว...

     

     
     
     
     

    "และ 3 2 1 คุณบ๊อบบี้เชิญครับ"

     
     
     
     

    บีทจังหวะฮิปฮอปออกมาจากลำโพงคุณภาพดีเสริมด้วยเสียงแร๊ปอันดุดันและจิตวิญญาณทำให้บนแคทวอล์คเต็มไปด้วยพลังงานอันไม่มีที่สิ้นสุดของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ตัวประกอบสำหรับการเดินแบบคอลเลคชั่นใหม่สำหรับฤดูใบไม้ผลิ นายแบบซึ่งเลือกมาอย่างดีเหมาะสมกับชุดสไตล์วินเทจเดินสวนเขาผ่านไป

     

     
     

    ...แต่ด้วยสีหน้าและการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของบ๊อบบี้ทำให้ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ละสายตาไปจากเขาไม่ได้...

     

     
     

    โดยเฉพาะคนที่เขาตั้งใจมอบสิ่งนี้ให้เป็นพิเศษเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้อีกฝ่าย เติมเต็มจินตนาการและความพึงพอใจ

     

     
     

    เสียงตบมือดังก้องไปทั่วฮอลหลังจากจบลง ทั้งที่อากาศภายในห้องนี้เย็นเฉียบแต่เหงื่อไหลลงมาตามสันกรามของเขา การแสดงเมื่อกี้ใช้พลังงานไปมากทีเดียวแต่เขาก็พอใจเมื่อได้ทำลงไปอย่างเต็มที่ เดินกลับไปด้านหลังของเวทีรับทิชชูจากพี่สาวผู้ประสานคนคนหนึ่งมาซับเหงื่อตัวเอง ยิ้มเบาๆก้มหัวขอบคุณรับคำชมจากหลายคนซึ่งเขาเดินผ่าน พึ่งรู้สึกแสบตรงหลังมือ สังเกตุเห็นรอยข่วนรอยใหญ่พอมีเลือดซิบ คงโดนข่วนจากสร้อยคอที่เขาใส่ระหว่างแสดง

     

     
     

    ดวงตาเรียวกวาดสายตามองโดยรอบ มองหาคนคนหนึ่งแต่ก็ไม่พบ คาดว่ายังคงยุ่งอยู่เพราะยังเหลือการเดินแบบอีกชุด บ๊อบบี้ถอนหายใจ กลับเข้ามาในฮอลนั่งลงตรงที่นั่งข้างเวทีของตน ชมการเดินแบบจนถึงชุดสุดท้ายของงาน นายแบบทุกคนเดินออกมาจากด้านหลังของเวที เสียงตบมือดังขึ้นอย่างไม่มีจบสิ้น จนกระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา แขกทุกคนพร้อมใจกันลุกขึ้นตบมือดังกว่าเดิมด้วยความชื่นชม

     

     
     

    ความสูงมาตราฐานชายหนุ่มทั่วไป ใบหน้าหวาน ผมสีดำปรกหน้าผาก ดวงตาโต ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงกับรอยยิ้มกว้างบนหน้าในเสื้อคอเต่าสีดำ เสื้อสูทและกางเกงสแล็กขายาวสีดำขลิบลายสีเทาเข้ารูป ทั้งที่เป็นชุดไม่พิเศษมากมายแต่กลับทำให้คนนั้นเหมือนกับหลุดมาจากโลกแห่งนิทาน สมกับชื่อแบรนด์ของเจ้าตัวและเป็นดีไซน์เนอร์ของเสื้อผ้าทุกตัวในงานนี้

     

     
     
     
     

    ...เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายร่วมสมัย 'Prince' ซงยุนฮยอง...

     

     
     
     
     

    สายตาของบ๊อบบี้จับจ้องชายหนุ่มบนเวทีอย่างไม่วางตา ทั้งการวางตัว สองขาในกางเกงสแล็กเข้ารูปเดินจากด้านหลังมาถึงด้านหน้าของเวที ก้มหัวเล็กน้อยรับเสียงปรมมือจากโดยรอบ และรอยยิ้มละไมบนใบหน้าซึ่งไม่มีจางหายไป ทุกท่วงท่าราวกับคนคนนั้นเป็นเจ้าชายอยู่เหนือผู้คนที่นี่ทุกคน

     

     
     
     
     

    ...ลมหายใจของเขาหยุดนิ่งเมื่อสายตาของอีกฝ่ายสบตา...

     

     
     
     
     

    หัวใจเต้นรัวทุกครั้งยามได้สบตา ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งยังไม่ชิน หวังว่าคงไม่คิดไปเองว่าเห็นบางอย่างจากในสายตานั้น ซึ่งเขาไม่ได้คิดไปเอง หลังจากรู้สึกถึงแรงสั่นเตือนข้อความและเปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาดูตอนอยู่บนรถขณะกลับไปบริษัท

     

     
     
     
     
     
     
     
     

    "มาช้านะครับ จีวอน"

     

     
     
     

    ประตูห้องพักชั้นสิบห้าบนคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองถูกเปิดออกพร้อมกับรอยยิ้มละไมจากดีไซเนอร์เจ้าของงานที่เขาพึ่งแสดงเมื่อเย็นในเสื้อคอเต่าสีดำตัวเดิม

     

     
     

    "ขอโทษด้วยครับคุณยุนฮยอง หลังจบงานผมต้องเข้าไปคุยธุระเล็กน้อยที่บริษัท"  

     
     
     
     

    "เวลาอยู่ด้วยกัน ผมให้จีวอนเรียกว่าอะไรครับ?"

     

     
     

    น้ำเสียงเรียบจากยุนฮยองถามขึ้นพร้อมสร้อยคอบนอกเขาถูกมือของอีกฝ่ายจับไว้ รู้สึกถึงแรงรั้งเบาๆตรงด้านหลังคอ จนเขาเผลอโน้มตัวลงมาอย่างไม่รู้ตัว

     

     
     

    "ยุนฮยองครับ"

     
     
     
     

    "ดีมากครับ"

     
     
     
     

    ยุนฮยองยิ้มกว้าง ปล่อยสร้อยคอเขาแล้วเดินนำเข้าห้องพักสุดหรูของตัวเอง ภาพหญิงสาวในชุดไฮแฟชั่นบนหน้าจอโทรทัศน์ดับลงด้วยรีโมทในมือของอีกฝ่าย สมุดสเก็ตพร้อมด้วยดินสอสีถูกวางบนโต๊ะกระจกด้านหน้าโซฟาหนังสีดำตัวใหญ่ ยุนฮยองหยิบแก้วไวน์ว่างเปล่าข้างแก้วไวน์ของตนซึ่งไวน์ในแก้วพร่องไปแล้วบ้างส่วน รินไวน์จากขวดในถังน้ำแข็งหมุนวนในแก้วสองสามรอบก่อนส่งให้บ๊อบบี้ เขารับแก้วมานั่งลงบนโซฟา ส่งน้ำสีม่วงเข้มรสชาติเปรี้ยวหวานแต่ขมปร่าติดลิ้นลงคอ ยิ้มรับกับความนุ่มนวลหลังจากได้ลิ้มรส อีกฝ่ายนั่งลงด้านข้างเขาหยิบแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมาจิบ

     
     
     
     

    "ได้ยินสตาฟพูดกันว่าว่าโชว์ของคุณวันนี้ยอดเยี่ยมมากจนไม่มีแทบใครสนใจเสื้อผ้าของผมเลย"

     
     
     
     

    "นั่นก็เกินไปครับ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมต้องขอโทษด้วย"

     
     
     
     

    "ขอโทษทำไมกันครับ ผมสิต้องเป็นคนขอโทษ ผมเป็นคนขอให้คุณมาแสดงในงานวันนี้ทั้งที่เวลากระชั้นชิดขนาดนี้ ขอบคุณจีวอนมากเลยนะครับที่ตอบรับคำขอของผม”

     

     
     

    เสียงหัวเราะจากยุนฮยองทำให้บ๊อบบี้ผ่อนคลาย ตอนแรกเขาเองได้ยินจากผู้จัดการเหมือนกันว่าเขาแสดงดีจนทีมงานบ้างคนแอบพูดคิดตลกว่ามาช่วยหรือมาทำลายงานเดินแบบชุดนี้

     

     
     

    “แบรนด์ของยุนฮยองเป็นผู้สนับสนุนผมทั้งที ยังไงทางค่ายไม่มีทางปฏิเสธคำขอจากคุณได้อยู่แล้ว”

     

     
     

    “แล้วถ้าเป็นผมขอจีวอนโดยตรงล่ะครับ?”

     

     
     

    ผมคงตอบรับโดยทันที เขาอยากตอบประโยคนี้ออกไป แต่ได้แค่ยกแก้วไวน์ในมือยกยิ้มให้ก่อนจิบอีกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายคงรู้คำตอบของเขาดี สังเกตได้จากรอยยิ้มตรงมุมปาก

     

     
     

    "ชอบชุดสูทตัวที่ใส่วันนี้ไหมครับ?"

     
     
     
     

    "ครับ ความจริงผมชอบเสื้อผ้าทุกตัวที่คุณตัดมาให้เฉพาะผม"

     

     
     

    ยุนฮยองยกคิ้วขึ้น ยิ้มกริ่มกับประโยคเมื่อสักครู่ของบ๊อบบี้ราวกับถูกใจ หันมามองเขาที่ยกยิ้มขึ้นเบาๆ

     

     
     

    "คุณรู้ด้วยหรอว่าผมตัดให้เฉพาะ"

     
     
     
     

    "แน่นอนสิครับ นอกจากฝ่ายเสื้อผ้าที่บริษัท ไม่มีใครรู้สัดส่วนของผมดีเท่าคุณ" 

     
     
     
     

    "แล้วพวกสาวๆที่คุณควงด้วยล่ะครับ?"

     

     
     

    “คนเหล่านั้นก็แค่ผู้หญิงซึ่งยอมทุกอย่างให้ผม แต่เจ้าชายซึ่งผมยอมให้ทุกอย่างมีแค่คนเดียวเท่านั้น”

     

     
     

    รอยยิ้มละไมประดับขึ้นบนหน้า มือของยุนฮยองหยิบแก้วไวน์จากในมือเขาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับแก้วของตัวเอง ยืนขึ้นเต็มความสูง จับมือของเขา ริมฝีปากอวบอิ่มจูบตรงไปที่รอยข่วนตรงหลังมือเบาๆ เจ้าของดวงโตคู่มองลงประสานกับดวงตาคู่เรียวของเขา

     

     
     

    “ผมอดใจรอดูบันทึกการแสดงของคุณไม่ไหวเลยล่ะ คงสร้างแรงบันดาลใจให้ผมได้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆได้อีกมากมาย..."

     

     
     
     
     
     

    “แต่คุณในชุดสูทตัวนั้นและเสียงแร๊ปที่ผมหลงใหล....”

     

     
     
     
     
     

    “...คงไม่เท่ายามไร้ซึ่งเสื้อผ้าปิดกายใดๆ และเสียงครางสำหรับผมเท่านั้น....”

     

     
     
     
     
     

    สองมือของยุนฮยองประคองด้านหลังคอของบ๊อบบี้ให้เงยขึ้น เลื่อนตัวมากระซิบตรงใบหูเขา

     

     

     
     
     
     
     

    “ถ้าอย่างนั้นวันนี้จะรับรางวัลอย่างไรดีครับ?...

     

     

     

     
     
     
     

    ...จากด้านหน้า...

     

     

     

     

    .

     
     

    ..หรือว่าด้านหลัง?”

     

     

     
     

    “แล้วแต่เจ้าชายครับ ผมไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่คุณมอบให้อยู่แล้ว”

     

     
     
     
     

    ยุนฮยองประทับริมฝีปากลงตรงใบหูของบ๊อบบี้อย่างแผ่วเบาและยกยิ้มขึ้น

     

     
     
     
     

    ...ทำให้หัวใจของบ๊อบบี้เต้นรัวอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้...

     

     

     
     

    “ถ้าอย่างนั้นผมพร้อมจะมอบทุกอย่างที่ผมอยากให้คุณแล้ว...”

     

     

     
     

    ใครบอกกันว่าคนที่อยู่เหนือผู้อื่นเป็นคนร่างกายสูงใหญ่กำลังเยอะหรือว่ามีภาพลักษณ์อันแข็งแกร่งจนทุกคนกลัวเกรง แต่เป็นคนที่แค่เห็นเพียงครั้งแรกก็รู้ว่ายังไงไม่มีทางชนะได้ตะหากถึงคิดจะลอง

     

     
     

    คนอย่างบ๊อบบี้ไม่ชอบการยอมแพ้ แต่เมื่อได้รู้จักซงยุนฮยองรอยยิ้มละไมและคำพูดจาแสนนุ่มละมุน ภาพลักษณ์การวางตัวซึ่งสามารถทำให้ทุกอย่างมาสยบตรงหน้าตัวเองได้ แม้ว่าเมื่อก่อนจะคิดลองท้าทายอีกฝ่ายแค่ไหนแต่ต้องสุดท้ายพ่ายแพ้กลับมาทุกครั้ง จนต้องยอมให้และทำตาม

     
     
     
     

    คิมบ๊อบบี้เป็นผู้ให้กับยุนฮยองสร้างแรงบันดาลใจและจินตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานเสื้อผ้ามากมาย และซงยุนฮยองทำให้เขากลายเป็นผู้รับทั้งการสนับสนุนจากเงินทองและชื่อเสียงของอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีข่าวด้านลบเกิดขึ้นแต่ก็ยังเชื่อมั่นในตัวเขามาตลอดมา

     
     
     
     

    แต่ทั้งนี้ไม่อาจเท่ากับการได้รับการเติมเต็มทุกสัมผัสจากยุนฮยองความรู้สึกหลงใหลที่โถมเข้ามาในตัวเขาแม้บางครั้งจะรุนแรงจนเขาอดครางออกมาไม่ได้ ถึงทนเจ็บปวดในวันรุ่งขึ้นแล้วต้องไปทำงานต่อ แต่มันสุขสมซึ่งอีกฝ่ายคงรู้สึกเช่นกัน จากการกระซิบคำชมตรงใบหูเขาอย่างไม่ขาดปากก่อนเลื่อนริมฝีปากอวบอิ่มลงไปจูบตรงด้านหลังคอ

     

     
     

    ความจริงมันก็แค่ Give And Take เขาให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการและอีกฝ่ายมอบคืนกลับมาให้เขาอย่างเท่าเทียม

     
     
     
     
     
     

    ...ถึงจะไม่เท่าเทียมแต่เขาก็เต็มใจ ตราบใดที่อีกฝ่ายพอใจ ยังไงซะเขาพร้อมยอมมอบให้หมดทุกอย่างอยู่แล้ว...

     

     

     
     
     
     

    Talk: April Fool's Day แต่ไม่ได้โกหกนะ จั่วหัวไว้ไงคือแบบนั้น ฮ่าๆๆๆๆ บุ้ยใบ้ใส่คุณเพื่อนรักอยากอ่านคู่ยุนบ๊อบค่ะ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเกรงกลัวต่อสิ่งใดอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ เราจะหยุดความหล่อของพี่ยุนไว้ ณ ตรงนี้ค่ะ ฟิคเรื่องอื่นจะหล่อน้อยลงกว่านี้นิดนึงค่ะ ฮ่าๆๆๆ ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

    Thanks For  Theme : OWEN

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×