ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #23 : [SF] YJ Story : Touch My Body [Yunhyeon X Junhoe]

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 58


    Title: YJ Story : Touch My Body

    Status: SF

    Pairing: Yunhyeong X Junhoe
     

    อยู่ในซีรีย์ YJ Story มีหลายตอนล่ะ

    YJ Story : Harmless >>>

     YJ Story : Its Not Funny >>>

    YJ Story : Confident >>>

     
     
     

     

     

     

     
     
     
     

    ...ขมชะมัด...

     

     
     

    สายตาผมกำลังจ้องกล่องช็อกโกแลตในมืออย่างกับตัวเลขซึ่งบอกถึงความเข้มข้นของโกโก้ในช็อกโกแลตกล่องนี้ จาก 90% จะเปลี่ยนเป็น 40% สีหน้านิ่ง คิ้วขมวดขึ้นและปากเบะให้กับความขมสุดๆของช็อกโกแลตที่พี่จินฮวานยัดใส่ปากเมื่อกี้

     

     
     

    ...วันหลังกูจุนฮเวจะไม่ตะกละรับของกินมั่วซั่วจากพี่จินฮวานอีกแล้ว...

     
     
     
     

    แต่ที่ขมพอๆกับช็อกโกแลตคือความรู้สึกของผมตอนนี้

     

     
     
     

    ...ขมขื่น...

     

     
     
     

    แปลกใจใช่ไหมคนสุดหล่อสุดมั่นอย่างกูจุนฮเวรู้สึกขมขื่น ไม่ได้อกหักรักคุดนะ แฟนก็มี นั่งกินมันฝรั่งทอดแบ่งกับดงฮยอกอยู่ตรงหน้าผมนี่ไง

     

     
     

    นั่นยิ้มให้อีกตอนผมหันไปสบตา

     

     
     
     
     

    ...อย่า ผมโกรธพี่อยู่นะซงยุนฮยอง...
                                                     

     
     
     
     

    ไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ได้มีปากเสียงอะไรกันด้วย อีกฝ่ายยังทำหน้าที่อย่างดีซื้อขนมมาให้ไม่ขาดประโยคบอกรักชวนเลี่ยนยังคงออกปากตลอด ความเป็นห่วงเป็นใยไม่ต้องพูดถึง พี่เป็นแม่ผมเลยดีกว่า

     

     
     
     
     

    แต่อะไรคือพี่ยุนฮยองไม่กอดผมมาทั้งอาทิตย์!                   

     
     
     
     
     
     

    ไม่มีมาแม้กระทั่งแตะตัว จับมือ หนุนตัก สำคัญเลยไม่มีป้อนขนมด้วย  รู้สึกไม่ครบถ้วนเหมือนกินข้าวกินขนมแล้วไม่ได้กินขนมล้างปากอีกรอบ

     
     
     
     

    พอมาลองคิดดูว่าทำไมอีกฝ่ายทำแบบนี้จะว่าไปนี่ก็ใกล้วันเกิดผมแล้ว มันต้องเป็นแผนการอะไรสักอย่างของคนขี้แกล้งอย่างพี่ยุนฮยองแน่นอน ชัวร์! ของแบบนี้ชัวร์! พนันกันไหมครับ

     

     
     

    พูดเลยว่าแผนห่วยมากพี่ แต่แม่งสร้างความหงุดหงิดใจให้ผมอย่างแรง...

     
     
     
     

    แล้วยิ่งช่วงนี้พวกเราเจ็ดคนตัวติดกันอย่างกันอะไร ทั้งซ้อมเต้นอัดเสียงเพราะใกล้จะเดบิวส์แล้วซ้อมกันประดาตายเลยล่ะ โหมดครูเสือโหดเข้าสิงพี่ฮันบินแทบตลอดเวลาช่วงนี้ พอจะมีเวลาว่างว่าจะคุยกับพี่ยุนฮยองเรื่องนี้ต้องมีคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยตลอดเลยไม่ได้ถามสักที จนวันก่อนเผลอหงุดหงิดโวยวายใส่พี่ยุนฮยองออกไป

     

     
     

    'พี่ทำบ้าอะไรอยู่!'

     

     
     

    อีกฝ่ายได้แต่ยักไหล่ให้แล้วตอบกลับมา 'พี่ทำอะไร? ก็ไม่ได้ทำอะไรนิ'

     

     
     

    จะให้พูดว่า 'ก็พี่ไม่ยอมกอดผม' โหยยยยย ใครมันจะไปกล้าพูดประโยคนี้ออกไปวะ แถมสมาชิกมองมาด้วยสายตาเดียวกันทั้งห้อง กูจุนฮเวกลอกตามองเพดานเดินหนีไปห้องน้ำอย่างเซ็ง

     

     
     

    ความจริงผมไม่ใช่คนที่ชอบสกินชิพเท่าไร ขนลุกด้วยซ้ำยิ่งเวลาโดนสัมผัสแต่พี่ยุนฮยองนี่กรณียกเว้นทั้งจับมือ และอีกสาระพัด กอดผมซะจากขนลุกกลายเป็นเคยชิน...

     

     
     

    ก็กอดพี่ยุนฮยองแล้วมัน....ไม่รู้...ไม่บอกครับ..และห้ามคิดลองด้วยผมขอเตือน


     
     

    อีกสามวันจะวันเกิดผมแล้ว คาดว่าพี่ยุนฮยองคงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม อย่าได้คิดว่าผมจะพูดขอก่อน เรื่องแค่นี้กูจุนฮเวทนได้เมื่อก่อนไม่มีพี่ยังอยู่ได้เลย

     

     
     
     
     

    จะท้าทายกับผม ได้ ผมรับคำท้าพี่!

     

     
     
     
     

    D-2 ก่อนถึงวันเกิด

     

     
     
     
     
     

    “พักก่อน”

     

     
     

    สิ้นเสียงพี่ฮันบิน พี่บ๊อบบี้กับดงฮยอกล้มตัวลงไปนอนอยู่กับพื้นห้องซ้อมทันที ผมลากขาตัวเองตรงไปทิ้งตัวบนเก้าอี้เลื่อนไปหาพัดลมอย่างเร็ว รับขวดน้ำเย็นมาจากชานอูเด็กน้อยแสนดี ผมใจดีแบ่งพัดลมให้ชานอูด้วยนะ ซ้อมกันมาตั้งแต่บ่ายไม่ได้หยุดจนนี่เกือบเที่ยงคืน เข้าโหมดโหดยิ่งกว่าตอนแข่งรายการอีก...

     

     
     

    “ไปบิวกล้ามเพิ่มตอนไหนเนี่ยยุนฮยอง?”

     

     
     

    สายตาของผมเสมองไปตามเสียงของพี่จินฮวาน มองภาพในกระจก พี่จินฮวานกำลังจ้องกล้ามแขนของพี่ยุนฮยองอย่างอึ้งๆ แล้วพยายามเบ่งกล้ามตัวเองเทียบ พี่ยุนฮยองยกยิ้ม อวดกล้ามแขนตัวเองเต็มที จนมนุษย์บ้ากล้ามตัวหนาตามมาสมทบอวดแพกตรงหน้าท้องที่เปิดให้สมาชิกเห็นเป็นประจำโดยไม่ถามว่าคนอื่นอยากเห็นไหมพร้อมยิ้มโชว์ฟันจอบซี่หน้า ตบลงตรงลูกระนาดของตัวเองอย่างภูมิใจ

     

     
     

    มือของพี่ยุนฮยองถลกเสื้อแขนกุดของตัวเองขึ้น ยกมืออีกข้าง ลูบ(?)ไปตามซิกแพกหกห่อบนหน้าท้องซึ่งเหงื่อซึมประปราย พี่ยุนฮยองภายใต้เสื้อผ้าดูเหมือนดูตัวบางด้วยว่าตัวเตี้ยกว่าผมพี่บ๊อบบี้กับชานอูด้วยล่ะ แต่ร่างกายเฟิร์มสุดๆ ว่าเมื่อก่อนว่ากล้ามเนื้อตรงท้องเห็นได้ชัดแล้วนะ แต่นี่มันชัดกว่าเดิมอีก

     

     
     
     
     

    ...อืม...หุ่นดีชะมัดเลยพี่ยุนฮยอง...หุ่นดีจนน่าอิจฉา...

     

     
     
     
     

    “จุนฮเว....จุนฮเว!

     

     
     

    “อ่า ว่าไงชานอู”

     

     
     

    “นายไหวไหม? หน้าแดงๆ แล้วนั่น เห้ย!

     

     
     

    รู้สึกสัมผัสเปียกๆตรงเหนือปาก นิ้วของผมลูบลงไปตรงนั้น ละมันออกมาดูแล้วนั่งนิ่งไปแบบนั้น ก่อนโดนมือพี่จินฮวานจับหัวของผมให้เงยหน้าขึ้น สั่งชานอูให้ไปหยิบทิชชูมาให้และอุดลงไปตรงสองรูจมูกของผม พี่ยุนฮยองรีบเดินตรงหลังจากได้ยินเสียงเอะอะถามผมด้วยความเป็นห่วงว่าโอเคไหม ผมมองตัวเองในกระจกเห็นทิชชู่สีขาวตรงจมูกค่อยๆกลายเป็นสีแดง

     

     
     
     
     

    ...เมื่อกี้คงซ้อมหนักและอากาศร้อนในห้องซ้อมคงร้อนเกินไป แอร์ห้องซ้อมแม่งไม่ได้เรื่องเลย...

     

     
     
     
     

    D-1 ก่อนถึงวันเกิด

     

     
     
     
     
     
     

    “พี่จินฮวาน อีกรอบดิ ขึ้นเสียงตรงคำสุดท้ายอีกหน่อย”

     
     
     
     

    พี่ฮันบินกดสวิสต์สีแดงพูดออกไมค์ให้พี่จินฮวานซึ่งอยู่ในห้องอัดเสียงได้ยิน พวกเราเจ็ดคนและพี่ฝ่ายเทคนิคอัดเสียงกำลังอัดกันอยู่ในห้องอัดเสียงที่บริษัท ครูเสือนั่งแท่นสั่งการด้านข้างพี่ฝ่ายเทคนิคที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ดูเนื้อเพลงซึ่งขีดเต็มไปด้วยเส้นดินสออย่างการลายแทงสมบัติซึ่งเจ้าตัวคงเป็นคนเดียวที่ถอดรหัสได้หรือความจริงพี่แกอาจจะแค่ถือให้ดูเท่ๆไปงั้น

     

     
     

    ส่วนคนที่เหลือไม่หลับเอาแรงอย่างพี่บ๊อบบี้ ก็นั่งเล่นมือถืออย่างดงฮยอกและพี่ยุนฮยอง หรือไม่ก็นั่งกินขนมเงียบๆกันอย่างผมกับชานอู เรื่องกินกูจุนฮเวเป็นของคู่กันนะครับ

     

     
     

    พี่ยุนฮยองกำลังเช็กโลกโซเชียลอยู่ข้างผมอมจุ๊บปาจุ๊บอยู่ในปาก แต่หัวของเขาพิงไปทางกำแพง ซึ่งผิดวิสัยสุดๆ ปกตินี่ถ้าไม่มีคนอื่นคงนอนเอาขาพาดผมไปแล้วล่ะ แต่ถึงมีไหล่เขาต้องพิงมาทางผมอยู่แล้ว

     

     
     

    หงุดหงิดแปลกๆ สงสัยเพราะรสชาติคุ๊กกี้ในมือเหมือนกับอบไหม้ไปนิด

     

     
     

    ยัดกล่องคุ๊กกี้ใส่มือชานอู เจ้าเด็กน้อยตาโตได้แต่ทำกระพริบตาปริบๆ ก่อนกินโดยไม่พูดอะไร ผมแกะเวเฟอร์ห่อใหม่หักมัน ค่อยๆละเลียดรสชาติตั้งแต่ต้นไปถึงปลาย มองไปรอบห้องไม่แคบมากแต่รู้สึกกดดันอยู่ดี เสียงทำนองเพลงคลอไปกับเสียงร้องของพี่จินฮวาน สายตาเผลอมองไปยังคนข้างตัวอีกครั้ง

     

     
     

    จุ๊บปาจุ๊บถูกอมอยู่ตรงกระพุ้งแก้มทำให้แก้มของพี่ยุนฮยองนูนขึ้นมา มือของเขาจับก้านสีขาวของอมยิ้มรสโคล่า ปากยู่ลงจนเหมือนได้ยินเสียงจุ๊บเมื่ออมยิ้มละออกจากปาก ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงถูกเคลือบด้วยน้ำตาล แล่บลิ้นของตัวเองออกมาไล่เลียไปตามรอยหวานนั้น

     

     
     
     
     

    ...อืมม จุ๊บปาจุ๊บรสโคล่านี่ของโปรดผมเลยนะ...อยากกินจัง...

     

     
     
     
     

    “โอ๊ย...”

     

     
     

    “ไม่เป็นไรใช่ไหมจุนฮเว?”

     

     
     

    ผมร้องออกมาเพราะเผลอกัดนิ้วตัวเองเมื่อกินเวเฟอร์จนสุด พี่ยุนฮยองวางมือถือลงข้างตัวแล้วหันมาหาผมทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง ปลายนิ้วของพี่ยุนฮยองสัมผัสตรงรอยแผลโดนกัดบนนิ้วผม ลูบลงไปเบาๆ ดวงโตคู่โตของเขามองผมด้วยความเป็นห่วง ผมกลืนน้ำลายของตัวเอง รู้สึกแปลกๆ

     

     
     
     
     

    ...พึ่งเคยรู้ว่ากัดนิ้วตัวเองแล้วหัวใจจะเต้นแรงขนาดนี้ เส้นประสาทเส้นไหนมันเชื่อมกันวะ...

     

     
     
     
     

    “กูจุนฮเว ไปรายต่อไป”

     

     
     

    เสียงประตูห้องอัดถูกเปิดออกมากับพี่จินฮวานซึ่งสภาพอีดโรยทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา เสียงนิ่งจากลีดเดอร์เรียกผมเป็นคนอัดเสียงรายถัดไป ผมยิ้มให้พี่ยุนฮยองแทนคำบอกว่าไม่เป็นไรแล้วเดินเข้าไปในห้องอัดเสียง หายใจเข้าลึกๆ ตบแก้มเรียกสติให้เข้าที่

     

     
     
     
     

    ...หยุดตื่นเต้นได้แล้วน่ากูจุนฮเว ทำอย่างกับไม่เคยอัดเสียงไปได้...



     
     
     
     

    D-Day วันเกิดแล้วนะ

     

     
     
     
     
     

    กูจุนฮเวคนหล่อกำลังยืนจ้องประตูตู้เย็นในหอด้วยอารมณ์บอกไม่ถูก ในมือถือแก้วน้ำ ผ้าขนหนูพาดคอ ใส่เสื้อยืดสีดำและกางเกงขาสั้นสีเดียวกันจากหลังพึ่งอาบน้ำเสร็จ สภาพหลังอาบน้ำค่อยดีขึ้นหน่อยเพราะตอนกลับมากันนี่แทบเป็นศพคลานเข้าหอมากันทุกคน

     

     
     

    เมื่อวานอัดเสียงต่อเนื่องยันตอนเย็นวันนี้ ทำงานกันลืมไปว่าเป็นมนุษย์เลยทีเดียว แต่ผมยังได้เป่าเค้กกันตอนเที่ยงคืนนะ กินเค้กช็อกโกแลตแสนอร่อย อวยพรวันเกิดขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดี ให้คนรักไอค่อนเยอะๆ ส่วนเรื่องหล่อไม่ต้องขอหล่ออยู่แล้ว พวกพี่ๆอวยพรวันเกิดให้แล้วก็โดนพี่ฮันบินสับแหลกตอนอัดเสียงต่อ ได้หลับพักบางและก็ตื่นมาอัดเสียง จนกระทั่งพี่บ็อบบี้บอกว่ายังไงวันนี้ต้องพักเพราะพี่ฮันบินแทบหลับน็อกทั้งที่ช็อกโกโคนยังคาอยู่ในมือ ลีดเดอร์วงเราทำงานหนักเกินไปจริงๆ ลากสังขารไปกินข้าวและกลับมาหอกันตั้งแต่สามทุ่ม

     

     
     

    ปีนี้ค่อนข้างยุ่งเลยไม่ได้คาดหวังของขวัญวันเกิดอะไรจากพวกพี่เท่าไร แต่ยังอุตสาห์ได้เสื้อยืดสกรีนลายสุดเจ๋งจากพี่จินฮวานกับดงฮยอก ชานอูก็ซื้อขนมมาให้ตั้งใหญ่ ส่วนพี่บ๊อบบี้กับพี่ฮันบินบอกต๊ะไว้ก่อน แล้วพี่ยุนฮยองหรอ รายนั้นโยนลิปมันกลิ่นเชอรี่แท่งใหม่มาให้พร้อมพูดว่า

     

     
     
     
     

    “พี่อยากให้ของที่พี่ชอบกับคนที่พี่รัก”

     

     
     
     
     

    ...ผมว่าพี่นี่ล่ะที่โคตรไม่ลงทุนเลยวะ...

     

     
     
     
     

    สุดท้ายจบวันเกิดด้วยของขวัญตั้งใหญ่จากแฟนคลับและก็เค้กอีกหนึ่งก้อนซึ่งอยู่ในตู้เย็นตอนนี้ และความจริงผมควรกลับไปนอนพักผ่อนได้ละเพราะพรุ่งนี้มีงานถ่ายรูปลงนิยายสารต้องเตรียมตัวกันแต่เช้า แต่ว่า...

     

     
     

    “มายืนวิญญาณหลุดอะไรอยู่ตรงนี้ ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้านะ”

     

     
     

    เสียงพี่ยุนฮยองเรียกสติผมให้เข้าร่างกับมือตบลงมาตรงไหล่ของผมหลังจากพี่แกอาบน้ำเป็นคนสุดท้าย คนอื่นเข้านอนกันเรียบร้อยและผมเองควรเข้าโลกแห่งความฝันด้วยแล้วเช่นกัน

     

     
     

    “พี่ไม่มีอะไรจะพูดกับผมหน่อยหรอ?”

     

     
     

    “หืม? อืมม สุขสันต์วันเกิดขอบคุณที่เกิดมาให้พี่รักนะ”

     

     
     

    ยิ้มกว้างจากคนตรงหน้ากับประโยคสุดเลี่ยนอย่างกับลอกมาในนิยายสาวน้อยทำให้ผมเสียศูนย์ไปเหมือนกัน มือของพี่ยุนฮยองลูบผมของผมจนเสียทรงเลยทำได้แค่เบียงตัวหลบทำหน้ามุ่ย อีกฝ่ายหัวเราะร่าก่อนเดินกลับไปยังเตียงของตัวเองในห้องนั่งเล่น

     

     
     

    “ไปนอนเถอะ ฝันดีล่ะ”

     

     
     
     
     

    หืม? เดี๋ยว! แค่นี่ จบล่ะ?

     

     
     
     
     

    มือผมไวกว่าความคิดคว้าแขนของพี่ยุนฮยอง พี่ยุนฮยองหันมาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

     
     

    “พี่ พี่ลืมอะไรหรือเปล่า?”

     

     
     

    “ไม่นิ พี่แปรงฟันแล้ว แบตโทรศัทพ์ก็กำลังชาร์จ ไม่ลืมอะไรนะ...”

     

     
     

    อีกฝ่ายทำสีหน้าครุ่นคิด ผมเองก็เริ่มหงุดหงิด ก่อนพี่ยุนฮยองยิ้มขึ้นดวงตาวาว ทำสีหน้าประมาณว่าคิดออกแล้ว

     

     
     

    “อ่อ รู้ล่ะ พี่ลืมบอกรักนายใช่ไหม? พี่รักนาย ฝันดีล่ะเด็กน้อย”

     

     
     

    จับมือผมให้ปล่อยแล้วหมุนตัวกลับไปทางเดิม ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่

     

     
     
     
     
     
     

    โว้ยยยยยยย กูจุนฮเวไม่ทนแล้วก็ได้

     

     
     
     
     
     

    “ถ้านี่เป็นแผนของพี่ พี่ทำสำเร็จแล้ว”

     

     
     

    สองมือแขนของผมกอดพี่ยุนฮยองจากด้านหลัง ซุกหน้าลงไปตรงไหล่ของอีกฝ่ายรีบซ่อนหน้าของตัวเอง ไม่มีทางให้ได้เห็นสีหน้าของผมตอนนี้เด็ดขาด พี่ยุนฮยองหันตัวมากอดผมตอบยกมือลูบหัวของผมเบาๆ

     

     
     

    “บอกแล้วว่าไม่ได้มีแผนอะไรทั้งสิ้น จะว่าไปคิดถึงกอดของพี่ไหมล่ะ?”

     

     
     

    ถึงมองไม่เห็นหน้าแต่ตอนนี้พี่ยุนฮยองคงยิ้มอยู่แน่ๆ ถามกลับมาเสียงร่าเริงเชียว...

     

     
     
     
     
     

    ....โคตรหมั่นไส้....

     

     
     
     
     
     

    “ไม่งั้นจะกอดพี่ทำไมล่ะ ไม่เอาแล้วด้วยแบบนี้”

     

     
     

    “เหมือนกับเวลาหิวมากๆ พอได้กินข้าวแล้วรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้โคตรอร่อยเลย นี่ก็เหมือนกัน กอดครั้งแรกในรอบสัปดาห์ชื่นใจไหม?”

     

     
     

    “ก็งั้นๆ ไปนอนล่ะ”

     

     
     

    ผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของพี่ยุนฮยอง รีบเดินออกไปหนีออกจากสถานการณ์ตอนนี้ อีกอย่างความง่วงเริ่มครอบงำสติผมอีกครั้งแล้ว กลับไปห้องจะตกบันไดขึ้นเตียงชั้นสองตัวเองไหมนี่ รู้สึกเหวอตอนถูกพี่ยุนฮยองลากมาตรงโซฟาตัวใหญ่ ผลักตัวให้นอนลงไป

     

     
     

    “นอนมันที่นี่เนื่ยล่ะ”

     

     
     

    ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกโยนลงมากลางตัวผม หมอนใบโตของพี่ยุนฮยองสอดมาตรงหลังหัว พร้อมกับเจ้าตัวนอนลงข้างผมและจัดผ้าห่มให้ห่มเราทั้งคู่ กระชับตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดของตัวเองอยากจะขัดขืนแต่ตอนนี้ตาจะปิดแล้ว

     

     
     

    แล้วที่ผมพาดแขนไปกลางตัวเขานี่ไม่ได้ยอมหรอกนะ อีกอย่างผ้าห่มของพี่ยุนฮยองอุ่นมาก....

     

     
     
     
     

    ....อุ่นและคุ้นเคย หลับสนิทแน่ๆคืนนี้....

     

     
     
     
     
     

    “นอนเถอะ และไม่แกล้งล่ะ แต่สัญญา...

     

     

     

     
     
     
     

    "....พอถึงวันหยุดพี่จะให้มากกว่ากอดแน่นอน"

     

     

     
     
     
     

    ...โอเค พรุ่งนี้ค่อยคุยนะ ตอนนี้โคตรง่วงเลยครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ....

     

     

     
     
     
     

    *แถมมมม*

     

     
     
     
     
     

    เสียงคนคุยกันทำให้ผมตื่นขึ้นมาอย่างสะลิมสะลือ ลืมตาขึ้นมองคนในอ้อมกอดผมยังหลับสนิท จนรู้สึกถึงสายตาทิ่มแทงหันไปพบว่าสมาชิกทั้งห้ายืนมองยิ้มกรุมกริมกันอยู่

     
     
     
     

    "อะไร ไม่เคยนอนกอดแฟนกันหรือไง"

     
     
     
     

    "เคย แต่อย่างเจ้านี่คงไม่เคย โสดมาตลอดสิบแปดปื อ่ะปีนี้สิบเก้าแล้วนิ"

     

     
     

    จินฮวานบุ้ยใบ้มองไปยังลีดเดอร์ที่ทำหน้าหรอหราใส่

     
     
     
     

    "เรื่องของผมป่ะ ตื่นได้แล้วพี่ มัวฝันหวานอยู่ได้ ปลุกจุนฮเวด้วย"

     
     
     
     

    "รู้แล้วๆ"

     

     
     

    โบกมือไล่ให้คนอื่นๆไปทำธุระส่วนตัว หันกลับมามองเจ้าเด็กที่ยังหลับสนิทอีกครั้งท่าทางจะหมดพลังงานจริง

     

     
     
     

    ...ไหนๆนิ่งขนาดนี้แล้วขอสักหน่อยเถอะ....

     

     
     
     

    ถึงเมื่อคืนได้นอนกอดจนหน่ำใจแล้ว แต่ผ่านมาทั้งอาทิตย์ยอมอดทนอดกลั้นจนอดอยากปากแห้งไปหมด ทาลิปสักหน่อยแล้วก็

     

     
     
     

    จุ๊บแก้มซ้าย หอมแก้มขวา ตรงหน้าผากอีกหนึ่งที ริมฝีปากแดงระรื่อก็ไม่เว้นทิ้งไว้จนเด็กตรงหน้าทำสีหน้ามุ่ย แค่นี้ก็ได้ แต่ขอจุ๊บปากอีกหนึ่งที ยกยิ้มกว้างเมื่อเด็กน้อยของเขาค่อยๆลืมตาขึ้น

     

     
     
     

    "อรุณสวัสดิ์จุนฮเว หลับสบายไหมเมื่อคืน?"

     

     

     

     

    Talk: โหมดเรียกความหวานในตัวเองกลับมาหลังจากหน่วงเลือดสาดต่อเนื่องมาหลายตอน ความจริงอารมณ์ดีนะคะถึงแต่งอะไรโหดๆ ถ้าจะตลกกับหวานนี่ต้องเครียดถึงจะมา ฮ่าๆๆๆๆ คิดพล็อตฟิคนี้ไว้ตั้งแต่ต้นเดือนแล้วค่ะ แล้วก็ตันสนิทยังคิดอยู่จะลงฟิควันเกิดซีเรียดดีไหม แต่อย่างว่าค่ะ อารมณ์ดีหวานๆกันสักหน่อย แต่สาบานว่านี้ฟิควันเกิดเน่ รู้สึกว่าทำร้ายเน่ไปเยอะเลย ฮ่าๆๆๆๆ อยากลองมุมมองเด็กเรียกร้องขอจากพี่ยุนบ้าง โถ่ๆๆๆๆๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่า

     

    อวยพรวันเกิด ก็กินเยอะๆ โตไวๆ ไม่ต้องโตไปมากกว่านี้แล้วล่ะ แต่อย่าออกข้างหรือจะออกก็ได้น่ารักดี ไม่ต้องใส่เสน่ห์อะไรมาอีกแล้วนะ แค่นี้ก็หลงจนลืมว่าพี่ยุนเป็นเมนไปแล้ว อวยพรหรือแช่งไม่รู้ มีความสุขมากๆแล้วกันเด็กน้อย เด็กน้อยอายุ 18 อีป้าก็แก่ขึ้น 2x แล้ว *เซ็นเซอร์*

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

    Thanks For Sweet Lovely Theme :: B E R L I N T H E M E 


    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×