คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : [SF] I Am A Woman Too [Yunhyeong x Junhoe]
Title : I Am A Woman Too
Status: SF
Pairing: Yunhyeong X Junhoe
**คำเตือนระดับสามดาว ฟิคในเรื่องนี้ค่อนข้างทำร้ายกูจุนฮเว อีกอย่างจุนฮเวในเรื่องนี้เป็นผู้หญิง ถ้าไม่ชอบแนวนี้กดปิดไปก่อนได้เลยนะคะ**
ใบหน้านิ่งยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยให้หลังจากพาตัวเองในส้นสูงสีแดงเปรี้ยวจี๊ดรีบเดินจ่ำอ้าวให้ทันเปิดตู้ลิฟต์ปิด พูดด้วยเสียงทุ้มผ่านปากแต้มด้วยลิปสติกสีพีชของตนกับชายอีกคนซึ่งยืนอยู่หน้าแผงปุ่มกดบอกชั้นที่ต้องการไป เหลือบมองชายคนนั้นผ่านขนตายาวปัดมาอย่างดีเมื่อเช้า เขาหันมาเผลอสบดวงตาคมกรีดด้วยอายไลน์เนอร์ของตัวเองแล้วรีบเบนหน้าไปอย่างประหม่า ยกยิ้มให้กับตัวเองในใจ
...คงหลงเสน่ห์ ‘กูจุนฮเว’ คนนี้เข้าแล้วสิท่า…
ความจริงถึงไม่แต่งหน้าเธอก็มั่นใจว่าหนุ่มน้อยใหญ่ต้องหันมามองอย่างหลงใหลแน่นอน แต่การแต่งหน้ามาทำงานทุกวันเนี่ยอยากให้คนที่กลายเป็นคนสำคัญของตัวเองประทับใจยามได้เห็นใบหน้าเนียนไร้เครื่องสำอางของตน มันเป็นกลยุทธ์มัดใจของสาวผู้มีเสน่ห์ เรื่องความมั่นใจและมั่นหน้าต้องยกให้เธออยู่แล้ว
"คุณครับ.."
"คะ?"
หันไปส่งยิ้มบางๆให้พองาม
"เออ....คุณใส่เสื้อกลับด้านครับ"
หญิงงามนี่ด่าออกไปยังจะงามอยู่ไหมเนี่ย? ไม่เป็นไร ด่าในใจก็ได้
กูจุนฮเว ยัยคนส่องกระจกแล้วสนแต่หน้าตัวเองงงงงงง กรี๊ดดดดดดดด
"แหมะ วันนี้ขนมยังเต็มโต๊ะเหมือนเดิมนะคะ"
เสียงทักจากเพื่อนร่วมงานคนสนิททันทีที่จุนฮเวนั่งลงเก้าอี้บนโต๊ะทำงานของตัวเอง เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยแล้วในห้องน้ำชั้นก่อนถึงบริษัท เปลี่ยนในห้องน้ำชั้นเดียวกับบริษัทใครมาเห็นเดี๋ยวจะมิงาม กลายเป็นขี้ปากชาวบ้านอีก
แต่ถามจริงแคร์ไหม? ดูรูปปากของจุนฮเวนะคะ โน เวย์ แค่รำคาญเสียงนกเสียงกา
ชายตามองกล่องช็อกโกแลตและถุงขนมบนโต๊ะราวกับไม่สนใจแต่ทำปากขมุบขมิบนับจำนวน วันนี้ขาดไปสองชิ้นแฮะ
"ถ้าอิจฉาก็สวยให้เท่าสิคะ ดงงี่"
"ไม่เป็นไรค่ะจุนเน่ แค่นี้พี่จินฮวานก็หลงหัวปักหัวปำแล้วค่ะ"
เบะปากให้กับคิมดงฮยอกผู้พึ่งมีแฟนไปมาดๆเมื่ออาทิตย์ก่อน พี่ชายตัวเล็กแผนกการตลาดหลังจากมาตีตลาดกับดงฮยอกซะนานในที่สุดได้เพื่อนสนิทของเธอไปเดินตลาดนัดกระหนุงกระหนิ้งจนลืมเธอไปเลย แล้วนี่เปลี่ยนลิปสติกจากปกติสีแดงเป็นชมพูอ่อน ต้องเพราะพี่จินฮวานแน่นอน ไม่ได้เข้ากับผมบ๊อบหน้าม้าสีน้ำตาลแดงของเธอเลยย่ะ เชอะ!
“ค่ะ! เชิญตามสบายค่ะ พอมีแฟนแล้วเรตติ้งแล้วตกอย่ามาแย่งขนมกันนะคะ”
“มาช่วยกินเลยนะคะเนี่ย กินเยอะขนาดนี้ห่วงจุนเน่อ้วนค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หนุ่มๆเขาชอบแบบแก้มยุ้ยๆ”
แกะถุงเวเฟอร์ช็อกโกแลตชิ้นเล็กขนาดพอคำ หยิบใส่ปากสองชิ้นในทีเดียว นิยามของกูจุนฮเวเวลากินอะไรต้องกินให้เต็มปากเต็มคำถึงจะอร่อย ดงฮยอกมองแล้วส่ายหน้ากับความตะกละ
"กินแบบนี้พี่บ๊อบบี้เขาทนดูได้ไงคะเนี่ย"
"อย่าพูดถึงเขา..."
"อะไร ทะเลาะกันอีกแล้วหรือไง?"
เคี้ยวเวเฟอร์ในปากด้วยสีหน้าปั้นยากราวกับกำลังเคี้ยวยางเหนียวๆ เท้าคางส่งสายตาสุดเซ็งให้ใบหน้าหวานถึงกับยกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
"พี่เขาบอกเลิกฉันแล้ว"
"เห้ย ได้ไง พี่เขารักแกซะขนาดนี้"
ใช่ เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันเป็นเรื่องที่กวนหัวใจจุนฮเวมาตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ อยู่ดีๆพี่บ็อบบี้หนุ่มดีกรีจบนอกอัธยาสยดีแผนกฝ่ายขายโทรมาขอเลิกกับเธอเมื่อคืนวันเสาร์อย่างไม่มีเหตุผลหลังจากคบกันได้สี่เดือน ทั้งๆที่สี่เดือนที่ผ่านมา มีเถียงกันเนี่ยเรื่องปกติ แต่ไม่เคยทะเลาะกันใหญ่โต แถมอีกฝ่ายไม่เห็นออกแววเจ้าชู้ ซื้อขนม เลี้ยงข้าว ไปส่งเธอถึงหออย่างดีทุกวัน
แล้วคิดว่าคนอย่างเธอจะคร่ำครวญขอร้องอีกฝ่ายไหม อย่าได้ฝัน ตอบกลับไปด้วยซ้ำ
'ก็แล้วแต่พี่' และกดวางสายเองก่อนด้วย
"คิดหรอว่าฉันแคร์? ผู้ชายแบบนี้หาใหม่เมื่อไรก็ได้"
"เหอะ ปากดี อย่าให้เห็นว่าแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ"
"แค่นี้ไม่ทำให้มาคาร่าเปื้อนหน้าฉันได้หรอก"
"แกใช้แบบกันน้ำ ฉันรู้ย่ะ อีกอย่างถ้าไม่แคร์ การที่แกเอาหนังยางรัดถุงมามัดผมตัวเองคงเป็นแฟชั่นใหม่สินะ"
ดงฮยอกเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองโดนไม่ลืมหยิบช็อกโกแลตจากบนโต๊ะเธอติดมือไปด้วย จุนฮเวดึงหนังยางรัดผมออกมิวายมีผมติดมากับหนังยาง ได้แต่สบทในใจอย่างหัวเสีย พูดออกมาไม่ได้มันจะไม่งาม เตือนตัวเองในหัวต้องไม่ลืมไปซื้อยางรัดผมอันใหม่แบบดีๆที่ตลาดนัดตอนไปกินข้าวกลางวัน
หยิบเวเฟอร์ใส่อีกอันใส่ปากก่อนเปิดอีเมล์เข้าสู่โหมดทำงานเต็มตัว
"แก เห็นสายตาของพี่ฮันบินมองแกไหม?"
ในมือยกน้ำขึ้นมาดูดหลังจากกินข้าวหมดไปสองจาน เสตามองตามทิศที่ดงฮยอกบอก เห็นใบหน้าคมจมูกโด่งอย่างกับสันเขื่อนทำหน้ามึนและยิ้มโง่ๆขณะยังเคี้ยวข้าว แต่สายตาหวานเยิ้มส่งมาทางเธอ
สาบานว่านั้นคนสติดี ไม่ใช่คนบ้า
"แค่มองแต่ไม่มาทำความรู้จักฉันไม่สนหรอก"
"เขามาคุยกับแกเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง จำไม่ได้หรอ?"
"อ่อ งั้นฉันคงปัดตกจากสารบบไปแล้ว"
"ย่ะ แม่คนตัวเลือกเยอะ นั่นพี่บ๊อบบี้นิ เดินมากับใคร?"
สายตามองตามนิ้วของดงฮยอกชี้ พี่บ๊อบบี้เดินมาหญิงสาวอีกคนที่เธอคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออกว่าใครผ่านหน้าเธอไปไม่สนใจกันด้วยซ้ำ อยากจะเดินตรงเข้าไปถามพี่บ๊อบบี้
...ความรักใหม่มันบังตาจนมองไม่เห็นคนสวยเลยหรอคะ?...
"ยัยชานอูแผนกบัญชีใช่ไหม เห็นติ๋มๆแบบนี้ ร้ายนะเนี่ย"
"เขาจะไปกับใครก็เรื่องของเขา ไปเหอะ ฉันอยากกินไอติม"
สะบัดหางม้าบนหัวปั้นสีหน้าหลังจากกลับมาจากไปกินข้าว เห็นภาพพี่บ๊อบบี้กับนางชานอูแล้วแคร์ไหม? ไม่แคร์หรอกยังกินข้าวกินขนมได้อย่างปกติ แสดงว่าแค่นี้สิวๆ สายตาเหลือบเห็นขวดชาเขียวไร้น้ำตาลตั้งอยู่บนโต๊ะพร้อมโพสอิสสีเหลือง หยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย
‘น่าจะเหมาะกับสาวสวยอย่างคุณนะครับ ซงยุนฮยอง’
“ดงงี่ ซงยุนฮยองนี่ใคร?”
“พนักงานฝ่ายขายคนใหม่ไงพึ่งเข้ามาเมื่ออาทิตย์ก่อนเป็นเพื่อนกับพี่บ๊อบบี้”
เบะปากเป็นรอบที่สองของวัน ทำไมต้องเกี่ยวข้องกับอีกพี่บ๊อบบี้อีกวะ
“เอาไปเลยดงงี่ ฉันไม่ดื่มชาไร้น้ำตาล”
“กินซะบ้างจะได้ไม่อ้วน”
แลบลิ้นใส่อีกฝ่าย ก่อนนิ่วหน้า รู้สึกปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ แล้วทีเมื่อกี้ไปเติมปากเมี่อกี้ทำไมไม่ปวด ต้องเดินไปอีกรอบจนได้ ทำธุระของตัวเองเสร็จ เกือบจะเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยสีหน้าเบิกบาน
“นี่ ไปกินข้าวกับพี่บ๊อบบี้มาเป็นไงบ้าง?”
“ก็ดีนะจินฮยอง พี่เขาใจดีมากเลย คุยกันสนุกด้วย”
“คุ้มกับที่แอบมองมาตั้งนานล่ะสิ นี่พี่เขาคงเลิกกับยัยเน่าจุนฮเวแล้วชัวร์”
“คงงั้น วันนี้พี่เขาบอกจะไปส่งฉันที่บ้านด้วย”
มีชื่อตัวเองเข้าไปอยู่ในบทสนทนาแบบนี้จุนฮเวไม่รอช้านะคะ เปิดประตูห้องน้ำเตะให้เปิดออกกระแทกกับผนังกั้นอย่างแรง จนสองคนตรงอ่างล้างหน้าหันมาก่อนทำหน้าซีด
...เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับ กูจุนฮเว คุณได้สิทธินั้นเดี๋ยวนี้...
“หืม? ตายล่ะนึกว่าใครกัน หนูน้อยชานอูกับเพื่อนของเธอนี่เอง อาหารกลางวันอร่อยไหมคะวันนี้? ได้ยินว่าพี่บ๊อบบี้บอกจะไปส่งที่บ้านด้วย ดีจังเลย พี่เขาก็เคยไปส่งฉัน...
...แต่ชานอูยังอยากทานอาหารกลางวันวันอื่นอย่างอร่อยอยู่ไหมคะ?”
แทรกตัวเข้าผ่านทั้งสองคนเข้าไปล้างมือ หันมาส่งยิ้มให้ชานอูซึ่งดวงตากลมโตกำลังมาเธอด้วยความหวาดกลัว เช็ดมือลงไปบนเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายดอกไม้ของอีกฝ่าย
“ชานอูคงรู้ใช่ไหมคะว่าเย็นนี้ควรทำตัวยังไง?”
หงุดหงิด วันนี้ปิดงานอย่างไม่สวยเลย พนักงานใหม่แผนกคลังสินค้าส่งเอกสารมาไม่ครบแล้วฝ่ายการเงินโทรมาทวงเอกสารจากเธอเพราะลูกค้ารออยู่ ใช่ความผิดเธอไหมกับต้องมารอชาวบ้านแล้วยังส่งไปให้ไม่ได้เนี่ย จบลงด้วยการโทรไปด่าไม่สิต้องเรียกว่าติติงหัวหน้าแผนกคลังสินค้าไป
...วันนี้มันวันอะไรวะ ซวยมันทั้งวัน...
อย่างน้อยความซวยก็ยังมีเรื่องดีอยู่เมื่อพี่จินฮวานจะพาไปเลี้ยงข้าวเย็น สงสัยดงฮยอกบอกพี่เขาเรื่องพี่บ๊อบบี้ชัวร์ คุณเพื่อนปากไว แต่ก็ดี ข้าวเย็นฟรี อย่างน้อยคงทำให้อารมณ์ขึ้นๆลงๆของเธอทั้งวันดีขึ้นบ้าง เมาส์เรื่องชานอูกับดงฮยอกขณะเดินไปที่รถของพี่จินฮวาน
“สวัสดีครับ จุนฮเว”
หันไปเจอชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มกับดวงตาโตยิ้มละไมมาให้เธอ
และอีกคนที่เดินผ่านเธอไปเมื่อตอนกลางวัน แต่ไม่มีสาวน้อยอีกคน
...ชะตายังไม่อยากขาดสินะจองชานอู…
“สวัสดีค่ะพี่ยุนฮยอง พี่บ๊อบบี้”
ดงฮยอกส่งยิ้มหวานให้ทั้งสองคนมิวายกระทุ้งศอกใส่สีข้างเธอให้ทักอีกฝ่าย แต่ไม่สนใจหรอก
“จุนฮเวครับ ได้รับของจากผมเมื่อตอนกลางวันไหมครับ”
“ได้รับแต่ไม่ได้ดื่มค่ะ ฉันไม่ชอบชาไร้น้ำตาล”
“งั้นวันหลังผมซื้อแบบอื่นให้ เออ...คือว่าผมสนใจคุณ ผมขอไอดีคาทกคุณได้ไหม?”
“ขอปฏิเสธค่ะ ลองหาทางเองแล้วกันนะคะ”
“กูให้เบอร์จุนฮเวกับมึงก็ได้ ไม่ว่าอะไรใช่ไหมจุนฮเว?”
รอยยิ้มกว้างโชว์ฟันกระต่ายคู่หน้ารับกับสันกรามเด่นและดวงตาเรียวหยีลง ใบหน้าที่เธอเคยคิดว่ามันตลกทุกครั้งที่ได้มอง แต่คราวนี้ไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ หลบตาก็ไม่ได้ มันผิดคอนเซ็ปของกูจุนฮเว ยืนกอดอกสายตามองตรงไปยังอีกฝ่ายอย่างท้าทาย
“เรื่องของพี่สิคะ เกี่ยวอะไรกับฉัน”
ใช้เท้าของตัวเองเตะประตูห้องพักให้ปิดลง เซ็งกว่าเดิมจากเมื่อเย็นระดับสิบ ไปร้านบะหมี่แต่ไม่มีเกี๊ยวของโปรดของเธอ เซ็งมากกว่าเดิมอีกเมื่อพบแจ้งเตือน Add Friend ในโปรแกรมเชทสีเหลือง ชื่อ‘PrinceSong’ กับภาพโปรไฟล์เป็นคนที่เธอพึ่งเจอเมื่อเย็น อย่าได้หวังว่าจะกดรับ
แต่ที่เซ็งมากกว่าคือเมื่อคืนลืมซักผ้า พรุ่งนี้ไม่มีเสื้อใส่ทำงานแม้แต่ตัวเดียว ต้องรอกว่าจะซักเสร็จกว่าจะปั่นแห้งอีกสองชั่วโมง
...กูจุนฮเวแค่ง่วงนอนเข้าใจไหม อิ่มแล้วง่วง...
นอนเล่นมือถือเช็กสเตตัสในเฟสบุ๊ก ตอบข้อความคาทกของดงฮยอก รีบค้นหาภาพในมือถือตัวเองมาประชันความสวยกับอีกฝ่าย
นิ้วของเธอหยุดลงกับภาพที่ถ่ายคู่กับพี่บ๊อบบี้
ถึงบอกจะบอกว่าไปว่าไม่แคร์แต่ความจริงเจ็บปวดใจเหมือนกัน เมื่อวานใช้เวลาทั้งวันให้ยุ่ง วันนี้เองตั้งใจทำงาน คุยกับดงฮยอกจะได้ไม่ต้องคิดอะไร แต่พอมานอนว่างอยู่คนเดียวแบบนี้ก็อดหวั่นไหวไม่ได้
อยากพูดกับอีกฝ่ายว่าอยากกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ก็พูดไม่ได้ ทิฐิของตัวเองมันค้ำคอ
ถึงจะพยายามให้ทุกคนเห็นว่าเธอเข้มแข็งกับทุกเรื่อง มั่นใจในตัวเองสุดๆ แต่เธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมีหัวใจสามารถเจ็บปวดด้วยความรักเช่นกัน
หลับตาลงคิดถึงหน้าของอีกฝ่าย น้ำตาไหลออกมาตรงหางตา ครั้งสุดท้ายที่เธอร้องไห้คงเป็นตอนที่ไปดูหนังรักกับดงฮยอกเมื่อปีที่แล้ว เธอแค่น้ำตาซึม แต่ดงฮยอกน้ำตาไหลเป็นสายน้ำเลย
...ยิ้มกับตัวเอง จำได้ว่าไม่เคยบอกรักอีกฝ่ายแม้แต่ครั้งเดียว...
“ฉันเองก็รักพี่รู้ไหม...”
รีบเปิดประตูตึกเข้าไปอย่างรีบร้อน ตื่นสายไม่พอ เมื่อคืนเผลอหลับไปก่อนจนลืมผ้าที่ซักไว้เสียสนิท หยิบตัวที่ดมแล้วกลิ่นไม่เหม็น สะบัดเสื้อฉีดน้ำหอมช่วย รีบแต่งหน้าให้ดูดีพอประมาณ ออกมาจากหอพักอย่างรวดเร็วจนลืมมือถืออีก
...พอเหอะนะความซวย ให้จบลงไปตั้งแต่เมื่อวานพอแล้วโอเคไหม...
“เดี๋ยว....โอ๊ยย”
สองขารีบพาตัวเองไปหน้าลิฟต์จนขาพันกัน แถมส้นรองเท้าส้นสูงสีแดงสุดเปรี้ยวจี๊ดมาหักเอาตอนนี้ เกือบสะดุดกับพื้น แต่โชคดีที่ไม่ล้ม...
...มีคนมาดึงตัวไว้พอดี...
“ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
เห็นหน้าอีกฝ่าย ได้เบะปากตั้งแต่เช้า อะไรวะยังซวยไม่หมดอีก เจอซงยุนฮยองแต่เช้าเลย
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ”
พูดขอบคุณตามมารยาท ก้มลงมองส้นรองเท้าของตัวเอง รองเท้าคู่โปรดของเธอด้วย มองมันด้วยความเสียดายก่อนทำสีหน้าเซ็ง แล้วทีนี้จะเดินขึ้นไปยังไง
“ถ้าไม่รังเกียจ ผมให้ยืมรองเท้ากีฬาของผมไหมครับ? พอดีเอาผมติดตัวมาด้วย อย่างน้อยก็ดีกว่าเดินกะเผลกไปทั้งๆแบบนี้ อีกอย่างคุณคงไม่อยากให้ผมพยุงขึ้นไปใช่ไหม?”
รอยยิ้มเป็นมิตรของอีกฝ่ายส่งให้ คำพูดดักไว้เหมือนรู้ความคิดของเธอ ทำให้เธอถูกใจไม่เบา แต่ยังไงต้องรักษามาดไว้ก่อน เอาวะ
...อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ซวยทั้งวัน...
“ขอบคุณที่ให้ยืมรองเท้ากีฬาค่ะ”
“แล้วแบบนี้จะตอบรับเป็นเพื่อนผมในคาทกได้ยังครับ?”
เจ้าของรอยยิ้มละไมเท้าโต๊ะทำงานของเธอ จุนฮเวเงียบลงราวกับใช้ความคิด ดวงตาคู่โตมองสีหน้าอ่านยากที่เธอส่งให้ ส่งสายตาท้าทายผ่านขนตายาวแต่ลืมปัดมาสคาร่าเมื่อเช้า ยกยิ้มด้วยริมฝีปากสีพีช
“จนกว่าจะเลือกชาแบบที่ฉันถูกใจมาได้ แล้วจะคิดดูอีกทีนะคะ”
แอบยิ้มกว้างอยู่ในใจเมื่ออีกฝ่ายเดินตรงไปที่โต๊ะของดงฮยอก คุยอะไรกันสักอย่างแต่สายตาของอีกฝ่ายเสมองมาที่เธอ
หึหึ ขอดูหน่อยสิว่าบ่ายนี้จะได้ดื่มชาไหม
ถึงในใจยังเจ็บปวดกับพี่บ๊อบบี้แต่เรื่องแบบนี้คงต้องปล่อยให้เวลารักษากันไป ถ้าคนมันจะใช่ ยังไงก็ต้องใช่...
...แต่ในระหว่างนั้นจะหาตัวเลือกให้ตัวเองอีกจะเป็นไรไป ผู้หญิงอย่างกูจุนฮเวซะอย่าง...
Talk: ได้ฟังเพลงของมินอาแล้วอยู่ๆก็คิดถึงถ้าเน่เป็นผู้หญิงจะเป็นไงนะ บวกด้วยเจอผู้ร่วมอุดมการณ์ส่งรูปเน่เวอร์ชั่นหญิงและคุยกันตุตะมาก ภาพลอยมาเลยค่ะ โดนเน่สาปเท่าไรก็ไม่พอ อู้ยยยยย ขุดอารมณ์นางร้ายในละครมากมาย กร๊ากๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่า
#ฟิคต่อเรือ
Thanks For Sweet Lovely Theme : B E R L I N ❀ T H E M E
ความคิดเห็น