คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [SF] คุณชายซง : Teeth To Teeth [Yunhyeong x Junhoe]
Title : คุณชายซง : Teeth To Teeth
Status: SF
Pairing: Yunhyeong X Junhoe
**มีตอนที่หนึ่งด้วยนะ คุณชายซง : Eyes To Eyes**
...ทิวทัศน์จากเขตเมืองอันแสนคุ้นเคยเปลี่ยนเป็นเข้าสู่แนวชายป่า…
วันนี้ท้องฟ้าขมุกขมัวเป็นพิเศษไร้ซึ่งแสงแดดทั้งทีใกล้เวลาเที่ยงแต่กลับเหมือนยามเย็น หิมะตกลงมาประปราย รู้สึกถึงไอเย็นตรงหน้าต่างของรถม้า เสียงล้อไม้กระทบกับกรวดบนพื้นเงียบลงรวมถึงรถม้าที่หยุดลงสักครู่ก่อนเคลื่อนต่ออีกครั้งผ่านประตูรั้วเหล็กดัดที่เขาพอคุ้นเคย สายตาที่ทอดมองไปยังนอกหน้าต่างหันกลับมาในรถม้า
...ซงยุนฮยองกำลังยิ้ม…
ภาพคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาจับไทด์สีดำผูกสูงจนติดคออย่างไม่สบอารมณ์นัก คิ้วขมวดขึ้นปากบ่นอุบอิบมาตลอดทาง เป็นภาพหาดูได้ยากของคนด้านหน้าในชุดเต็มยศขนาดนี้ ชุดสูทสีดำกับเสื้อกั๊กสีกรมท่าช่วยขับผิวขาวของเจ้าตัวให้เด่นขึ้นอีก รวมทั้งผมหน้าปัดเป๋ยามปกติถูกจัดทรงเสยขึ้นเปิดหน้าผากเนียน รับกับดวงตาคมที่เขาชื่นชอบ
ต้องยกความดีความชอบให้กับพ่อบ้านฮงซอกที่สามารถจับเจ้าเด็กน้อยสุดแสบของเขาดูเป็นผู้เป็นคนได้ขนาดนี้
"เหมาะกับนายกว่าที่คิดนะ" ส่งยิ้มอย่างเห็นใจให้ เขาเองเคยผ่านช่วงเวลาเหมือนคนตรงหน้ามาแล้ว ครั้งแรกที่เขาใส่ชุดสูทเต็มยศตอนอายุสิบห้าหลังจากจบงานเขานั้นแทบเผาชุดทิ้งด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้ใส่ไปอีกหลายครั้งเดียวก็ชินเอง
"ครั้งเดียวพอ" เบะปากอย่างไม่พอใจ
"นึกว่าตัวเองเป็นเด็กห้าขวบหรือไงกูจุนฮเวอีกไม่กี่เดือนจะอายุสิบแปดแล้วนะ"
จะว่าไปเวลานั้นผ่านนั้นไปอย่างรวดเร็ว จากวันแรกที่เขาพบจุนฮเวในบ้านเด็กกำพร้าซึ่งอายุแค่สิบห้าตัวเล็กและเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อย จนทุกวันสูงกว่าเขาเกือบสิบเซ็นต์ไม่มีร่างอันผอมบางเนื้อตัวมอมแมมอีกแล้ว อย่างน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่ดีว่าเขาเลี้ยงเด็กคนนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ แม้ด้วยความช่วยเหลือจากคนรอบข้างด้วยก็ตาม
...ความจริงแค่เด็กคนนี้มีความสุขเขาก็ดีใจแล้ว....
“ผมเองก็ไม่อยากโตเหมือนกัน ถ้าทำให้ชีวิตมันยุ่งยากขึ้น”
“ถ้าอย่างนั้นนายไม่อยากเป็นผู้ติดตามของฉันแล้วใช่ไหม?”
“ผมยังไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย” เขายกยิ้มให้กับประโยคปฏิเสธที่ออกจากปากของอีกคนทันทีเมื่อเขาถาม
“อย่างนั้นวันนี้ทำหน้าที่ให้ดี สมกับเป็น ‘ผู้ติดตามของคุณชายซงยุนฮยอง’ ด้วยล่ะ”
วันนี้มีงานปาร์ตี้วันเกิดของพี่ชายของท่านพ่อของเขา นั่นคือท่านลุงของเขานั้นเอง เขามาในฐานะตัวแทนของท่านพ่อซึ่งสุขภาพไม่อำนวยกับการเดินทางมายังคฤหาสน์นอกชานเมืองของท่านลุง ความจริงเขาตั้งใจว่าจะมางานนี้เพียงคนเดียว แต่เมื่อคิดไตร่ตรองอีกครั้งหลังจากเห็นจุนฮเวพูดคุยและส่งยิ้มอย่างไม่แสแสร้งให้เหล่าหญิงมีอายุในงานเลี้ยงน้ำชาของท่านแม่เขาเพื่อช่วยงานพ่อบ้านฮงซอง เขาคิดว่าจุนฮเวคงพร้อมแล้ว
ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยภาพงานศิลปะ แชนเดอเลียร์แก้วสว่างไสวอยู่บนเพดาน ฝั่งของหน้าต่างมีประตูเปิดออกไประเบียงสามารถเดินออกไปยังสวนดอกไม้ตกแต่งอย่างสวยงามหลังคฤหาสน์ซึ่งมีน้ำพุตั้งเด่นอยู่กลางสวน ในฐานะประธานบริษัทส่งออกเสื้อผ้า แขกที่เชิญมาล้วนแต่งตัวอย่างดูดีสง่างามเหมาะสมกับฐานะ ยุนฮยองรับแก้วแชมเปญจากบริกร เดินอย่างสบายอารมณ์ตรงไปหาเจ้าของวันเกิด
"โอ้ว ยุนฮยอง เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ลุงคิดถึงหลานมากเลยรู้ไหม" ร่างกายอ้วนท้วนแต่งตัวในชุดสูทดูภูมิฐาน ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลา แต่รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าทำให้ดูเด็กกว่าอายุจริงทั้งที่อายุย่างเข้าหกสิบในวันนี้
"เมื่ออาทิตย์ก่อนท่านลุงพึ่งไปเล่นหมากรุกกับท่านพ่อที่บ้านของพวกเราไม่ใช่หรอครับ ผมยังทักว่าท่านลุงผอมลงอยู่เลย" พูดติดตลกพร้อมยิ้มกว้างให้ อีกฝ่ายหัวเราะเสียงดังออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับความขี้ลืมของตัวเอง
"เออใช่ ลุงลืมไปๆ แล้วนั้น..." หันไปทางคนข้างตัวเขา กระชับแว่นตรงจมูกสายตาแพ่งมองผ่านแว่นกลม
"กูจุนฮเวครับผู้ติดตามของผม" จุนฮเวผงกหัวให้คนตรงหน้าตามมารยาททำสีหน้านิ่งตามปกติของเจ้าตัวแต่เขาพอรู้ว่าเจ้าเด็กนั่นรู้สึกประม่าอยู่ สังเกตุได้จากมือที่ถูกกำแน่นไว้ด้านหลัง
"อ่า ใช่เด็กที่อยู่ในบ้านเราใช่ไหม ดูดีสมเป็นผู้ติดตามที่หลานเลือกมาเลยนะ" ยกยิ้มขึ้นจนเห็นรอยย่นแห่งวัยตรงหางตาทำให้ยุนฮยองยิ้มกว้างขึ้นไปอีก
"งั้นถ้าวันหลังจุนฮเวต้องมาพบท่านลุงเรื่องงานแทนผม หวังว่าท่านลุงจะเอ็นดูเขาเช่นเดียวกับที่ท่านเอ็นดูผมนะครับ"
"แน่นอนสิ จะเคี่ยวให้เหมือนหลานเลยล่ะ" ฝ่ายที่ถูกอ้างถึงไม่พูดอะไรได้แต่รอยยิ้มแหยะให้
"ดีนะธุรกิจที่หลานรับช่วงต่อจากพ่อของหลานไปได้ดี แถมมีผู้ติดตามมาช่วยงานอีก ฮันบินลูกชายคนเล็กของลุงนอกจากเรื่องร้องรำทำเพลงเต้นรำตามตามงานสังคมแล้วอย่างอื่นแทบไม่ได้เรื่องเลย" บ่นพลางส่ายหัวเมื่อพูดถึงลูกชายคนเล็กของตัวเองอย่างอืมระอา
"แต่ฮันบินเก่งด้านการพูดนะครับ ลองให้มาช่วยเจรจากับลูกค้าดูสิครับ อีกอย่างท่านลุงยังมีจีวอนคอยรับช่วงต่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ รายนั้นความสามารถเพียบพร้อม"
"แต่เจ้านั้นมันไม่มีความปราณีกับผู้อื่น ถ้าได้ความใจดีแบบหลานบ้างคงดี" ถอนหายใจให้กับลูกชายคนโตอีกหนึ่งที
"ผมใช่ว่าเป็นคนปราณีมากหรอกครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ กักท่านลุงไว้คนเดียวแบบนี้แขกคนอื่นเขาจะว่าเอา และก็สุขสันต์วันเกิดครับท่านลุง" ยิ้มละไมให้คนตรงหน้า โดยไม่ลืมอวยพรวันเกิดตามจุดประสงค์ที่เข้ามาทัก ยกแก้วในมือขึ้นยื่นไปข้างหน้า อีกฝ่ายตบไหล่เขาและหัวเราะร่าก่อนยกแก้วขึ้นมาชน
"โดยเฉพาะกับสองคนนั้น"
"หืม? ว่าไงนะจุนฮเว" ยุนฮยองหันมาหาคนข้างตัวที่อยู่ดีๆพูดออกมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"ที่คุณว่าไม่ปราณีโดยเฉพาะกับสองคนนั้นคิมจีวอนกับคิมฮันบินใช่ไหมล่ะ" เขาแค่ยักไหล่ให้อีกฝ่ายจิบเครื่องดื่มในมือ จุนฮเวถอนหายใจ
"เป็นไงการออกงานครั้งแรก รู้สึกประม่าไหม?"
"คนอย่างผมเคยประม่ากับอะไรด้วยหรอครับ ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาที่ดี โดยเฉพาะมาเห็นมาดของคุณชายซงยุนฮยองเจ้าเสน่ห์ด้วยตัวของตัวเอง"
"หึหึ แค่นี้ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะจุนฮเว"
ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าโต๊ะเสิร์ฟของว่างด้านข้างของห้องจัดเลี้ยง แซนวิชและคานาเป้ขนาดเล็กหลายแบบตกแต่งอย่างสวยงามบนถาดเงิน แฮมและชีสหลายชนิดวางบนเขียงไม้ชวนให้ลิ้มลองและช็อกโกแลตชิ้นพอคำจัดวางอย่างสวยงามบนจานแก้วกลมซ้อนกันสามชั้น จุนฮเวกลืนน้ำลายกับภาพของว่างตรงหน้าก่อนทำหน้านิ่งตามปกติของตัวเอง แต่นั่นไม่พ้นสายตายุนฮยอง
"นายก็ทานของว่างสักหน่อยสิ"
"ผมยังไม่หิว"
"ทานสักหน่อยเถอะ ฉันขอไปคุยธุระนิดหน่อย นายอยู่ตรงนี้นะ ไว้กลับมาจะให้แนะนำว่าอะไรอร่อยบ้าง"
ยิ้มกว้างให้ตบไหล่เขาหนึ่งที ดื่มเครื่องดื่มในมือจนหมดก่อนเดินออกไปวางแก้วเปล่าลงบนถาดของบริกรและหยิบแก้วใหม่โดยไม่ลืมหันมายกแก้วขึ้นให้เขา
หยิบจานขึ้นมาตักแซนวิชชิ้นเล็กสองชิ้นแฮมและชีสนิดหน่อยกับช็อกโกแลตห้าชิ้น เขามองจาน ขมวดคิ้วอย่างสงสัย ประมาณนี้เยอะไปหรือเปล่า จะลองมองของคนอื่นก็ไม่มีใครย่างกรายมาแถวนี้
....ช่างมันล่ะกัน…
ด้านมารยาทเขาถูกสั่งสอนมาอย่างดีจากพ่อบ้านฮงซอกซึ่งมันแสนน่าเบื่อสำหรับเขาไม่ที่ชอบอะไรเป็นระเบียบแบบแผน กลับกันด้านวิชาการจากคุณครูที่ยุนฮยองจ้างมาสอน เขาสามารถทำได้ดีจนได้รับคำชมจากครูเหล่านั้นและตัวยุนฮยองเอง เขาแค่ชอบอ่านหนังสือมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ทุกอย่างที่เขาอดทนเพียรพยายามมาเกืบสามปีตั้งแต่มาอยู่บ้านหลังนี้ เป้าหมายของเขาใกล้จะเป็นจริงในอีกไม่กี่เดือน
...เมื่อเขาอายุสิบแปดปีและได้เป็นผู้ติดตามของยุนฮยองอย่างเต็มตัว…
แต่การจะเดินถึงเป้าหมายของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรอกนะ ในเมื่อมีมารพจญอยู่แล้วยิ่งวันนี้อยู่ในดงของศัตรูด้วย
"หืม งานนี้ปล่อยให้หมาจราจัดเข้ามาในงานได้ด้วยหรอ"
มารคนที่หนึ่ง ‘คิมฮันบิน’
"สวัสดีครับคุณชายฮันบินผู้สูงส่ง"
คิมฮันบินลูกชายคนเล็กของท่านลุงของยุนฮยองในเสื้อสูทครึ่งตัวตามแฟชั่น เสื้อกั๊กสีดำไม่ผูกไทด์ ผมสีแดงที่ปกติเซ็ตอย่างกระเซอกระเซิงตามสไตล์ของเจ้าตัวถูกเก็บเรียบติดไปกับหนังหัวอย่างเรียบร้อย ใบหน้าคมจมูกโด่งที่หญิงสาวหลงใหลและริมฝีปากบางกำลังเหยียดยิ้มให้เขา
"แหมๆ ทักซะดูดีเชี่ยว นายเองวันนี้ก็ดูดีกว่าที่คิดนะ แต่พี่ยุนฮยองคิดยังไงถึงพาหมาในกรงตัวเองมาปล่อยไว้ตัวเดียวแถมไม่ใส่ปลอกคอล่ามไว้" น้ำเสียงเยาะเย้ยเปล่งออกจากปากทำท่าหันซ้ายหันขวาราวกับหาคนที่พูดถึง
"เพราะเขาไว้ใจว่าหมาของตัวเองจะไม่ไปกัดกับใครไงครับ ดีกว่าตัวที่อยู่ในบ้านของตัวเองแต่ไม่ยอมใส่ที่ครอบปากไว้จนคุ้มตัวเองไม่ได้แล้วมาเห่าใส่ชาวบ้านหรอกครับ" เขาพูดเสียงเรียบด้วยใบหน้านิ่ง แต่สายตาแข็งกร้าวส่งให้อีกฝ่ายอย่างชัดเจน
"หึหึ ปากดีเหลือเกินนะกูจุนฮเว เป็นแค่เด็กกำพร้าที่มาอาศัยเขาอยู่แท้ๆ”
“แต่เขารู้วิธีที่จะปฏิบัติตัวกับคนที่ดีและร้ายกับตน ซึ่งคนอย่างคุณผมคงไม่ต้องบอกว่าเป็นประเภทไหน”
"พี่ยุนฮยองคงเลี้ยงนายดีล่ะสิ ถึงได้ติดกับเจ้านายแบบนี้ เลี้ยงด้วยอะไรล่ะ อาหาร? เลือด? ยาเสน่ห์? หรอว่า ‘เรื่องอย่างว่า’ ล่ะ?" เน้นคำอย่างชัดจนอย่างกับจะยั่วโมโห
“งั้นลองมาถูกเลี้ยงดูสิครับ แต่คุณชายเขาไม่สนคนอย่างคุณหรอก ผมขอตัว” หันหลังให้กับคนตรงหน้า จุนฮเวรู้ดีว่าการเจรจาต่อไปมีแต่จะทำให้เขาหงุดหงิดขึ้น เพราะฉะนั้นเขาเลือกที่จะปลีกออกมาจากสถานการณ์นี้
"หมาจราจรโสโครกมันก็เหมาะกับเจ้าของที่โสโครกเหมือนกันนั้นล่ะ"
“กลับคำพูดของคุณซะ ผมขอเตือน” เขาหันหลังกลับมาอย่างช้าๆ น้ำเสียงนิ่งพูดเตือนอีกฝ่ายรอดผ่านไรฟัน ซึ่งฮันบินยักไหล่อย่างไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย
“ฉันแค่พูดความจริง พี่ยุนฮยองนอกจากฐานะของท่านน้าก็ไม่ได้มีอะไรดีสักอย่าง ลูกชายห่วยๆเกาะบารมีพ่อตัวเอง”
“คิมฮันบิน” สายตาคมส่งให้อีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้มือที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกำหมัดแน่เขารู้ว่าสติเขาใกล้จะขาดผึงในไม่ช้า
“พี่ยุนฮยองมันก็แค่อีตัว....”
"พูดจาไม่เพราะเลยนะคิมฮันบิน"
น้ำเสียงแหบทุ้มห้ามปราม พร้อมคนที่มาใหม่ปรากฏตัวขึ้น ร่างกายกำย่ำในเสื้อโค๊ชสีดำตัวยาวเข้ารูปเสื้อเชิ้ตสีดำด้านในไม่ผูกไทด์ รอยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวดวงตาเล็กหยีลงจนแทบปิดท่าทางดูอ่อนน้อมแลดูเป็นคนอ่อนโยนแต่จุนฮเวรู้ดีว่าคนนี้ซ่อนความร้ายใต้รอยยิ้มนั้น
มารคนที่สองและคนเป็นที่อันตรายสุด ‘คิมจีวอน’
"พี่คิดว่าผมจะหยุดอย่างนั้นหรอ?" ฮันบินถามอีกฝ่ายอย่างหัวเสีย เกือบแล้วเกือบจะหาเรื่องไอ้เด็กตรงหน้าได้แล้วแต่มีคนมาขัดจังหวะเสียก่อน
"ใกล้เวลาแสดงดนตรีแล้ว ต้องเตรียมเต้นเปิดฟลอร์ไม่ใช่หรือไง ไปเตรียมตัวสิ" ส่งให้ยิ้มกับคนที่ได้ชื่อว่าน้องชายตัวเอง น้ำเสียงใจดีแต่มีความเฉียบคม อีกฝ่ายได้แต่มองหน้าจุนฮเวและพี่ชายตัวอย่างอย่างไม่พอใจก่อนเดินหันหลังไป
"ขอบคุณครับ"
พูดขอบคุณไปตามมารยาททั้งที่ไม่อยากพูดเท่าไรแต่อย่างน้อยคนตรงหน้าทำให้เขารอดจากสถานการณ์เดิมๆกับฮันบินอีกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ไม่ได้อยุ่ที่บ้านของยุนฮยองด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเพราะตัวเขา เขาไม่แน่ใจว่ายุนฮยองจะมองเขาอย่างไร
...แค่นึกถึงสายตาผิดหวังในตัวเขาของอีกฝ่ายเขาก็ไม่อยากนึกถึงแล้ว…
"ไม่เป็นไรตอนแรกฉันก็นึกว่าใครที่ไหนกำลังทะเลาะกับฮันบินอยู่ ฉันจะเข้ามาห้ามอยู่แล้วล่ะพอมาเห็นว่าเป็นนาย ฉันรีบตรงเข้ามาอย่างไม่รอช้าเลย แต่งตัวดูดีจนจำไม่ได้เลยนะ" จีวอนมองจุนฮเวตั้งแต่หัวจรดเท้า ลูบคางตัวเองราวกับชื่นชมงานศิลปะอยู่
"วันนี้ผมมาในฐานะผู้ติดตามของคุณชายยุนฮยองครับ"
"อ้าวหรอ แล้วเจ้าตัวหายไปไหนล่ะ ทิ้งผู้ติดตามไว้แบบนี้ ใช้ไม่ได้เลยนะ" ส่ายหัวอย่างไม่พอใจ แต่ในดวงตากำลังเป็นประกาย
"คุณชายมีธุระกับผู้อื่นนิดหน่อยครับ เลยบอกให้ผมรอเขาอยู่ตรงนี้"
"ถ้าอย่างนั้นถ้าไม่เป็นการรบกวนเวลารอ ฉันขอพานายไปชมห้องหนังสือของฉันสักหน่อย ได้ยินมาว่านายชอบอ่านหนังสือใช่ไหม?" รอยยิ้มอย่างเป็นมิตรส่งมาให้ แต่จุนฮเวสัมผัสได้ว่าในแววตาคนตรงหน้าดูอันตรายเกินไป
"ผมไม่ค่อยสะดวกเท่าไร”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เดี๋ยวเดียวแล้วฉันจะพากลับมาส่งที่เดิม”
“ผมเกรงว่าคุณชายกลับมาแล้วผมไม่อยู่ตรงนี้จะกลายเป็นความลำบากของเขา ต้องขอโทษด้วยครับ"
"ถ้าเขาจะใจแคบขนาดนั้น เขาเองก็ไม่สมควรเป็นเจ้านายที่ดีหรอกนะ ฉันแค่อยากพูดคุยกับผู้ติดตามมือใหม่ เพื่อว่าจะได้มีผู้ติดตามที่ดีแบบนายบ้าง อย่าได้ปฏิเสธ ‘คุณชาย’ ผู้น่าสงสารคนนี้เลย"
อีกฝ่ายโอบไหล่เขาแสดงถึงความเป็นกันเอง พูดออกมาดูน่าสงสารแต่เน้นคำที่บ่งบอกสถานะของอีกฝ่ายกับตัวเขาอย่างดีแฝงคำแกมบังคับอยู่ในประโยค นั้นคือความสามารถในการชักชวนของคิมจีวอน
แต่ไม่ได้ด้วยคำพูดก็ยังมีกำลังรองรับ เมื่อแรงบีบตรงไหล่รวมถึงแรงดันที่พร้อมจะพาจุนฮเวไปตามทางที่ตัวเองบังคับ
...ทำให้จุนฮเวรู้ตัวว่าเขาพลาดให้กับคนตรงหน้าแล้ว…
"ผม..."
"จะเป็นการดีถ้านายปล่อยมือออกจากไหล่ของผู้ติดตามของฉันนะคิมจีวอน"
“อ้าว ว่าไง ยุนฮยอง ไม่นึกว่าจะมาได้ถูกเวลาแบบนี้นะ" ทักอีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร สายตาของจีวอนมองผู้มาใหม่อย่างไม่เกรงกลัว
"ฉันว่าฉันพูดชัดนะเมื่อกี้"
มือของยุนฮยองวางลงไปตรงมือของจีวอนบนไหล่ของจุนฮเวสายตาของทั้งคู่มองกันอย่างไม่ยอมใคร จีวอนรู้สึกถึงแรงบีบตรงมือเขา ถ้าอยู่ด้วยกันแค่สามคนจีวอนคงไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้แตะตัวเขาแน่นอน แต่ในเวลานี้ ณ ห้องจัดเลี้ยงซึ่งมีแขกมากมาย ในฐานะลูกชายเจ้าของบ้าน เขาไม่อยากให้เป็นจุดสนใจของผู้อื่น
...ซงยุนฮยองเป็นคนฉลาดรู้จักใช้สถานการณ์ให้เป็นประโยชน์เสมอ…
"ว่าไงล่ะจีวอน" ยกยิ้มให้แต่สายตายังมองอย่างกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ จีวอนถอยออกไปยกสองมือขึ้นเหมือนยอมแพ้ ยุนฮยองรีบเดินไปประกบข้างจุนฮเวอย่างไม่รอช้า
"ขอบคุณมาก ฉันได้ยินว่านายชวนผู้ติดตามของฉันชมห้องหนังสือของนายหรือ? ถ้าไม่เป็นการรบกวนฉันเองอยากชมด้วยเหมือนกัน"
"ฉันลืมไปว่าพึ่งจัดหนังสือใหม่ยังไม่เข้าที่ คงไม่สะดวก"
"เสียดายจังฉันอยากรู้เหมือนกันว่าในบรรดาหนังสือที่นายอ่านมีพวกหนังสือมารยาททางสังคมหรือเปล่า? การใช้กำลังบังคับไม่ใช่มารยาทที่ดีเท่าไรเลยนะ"
"ของพวกนั้นไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้นะเพราะอ่านไปแล้วถ้าสันดานคนเป็นยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้หรอก"
"เหมือนสันดานของนายที่อยากได้อะไรถึงแม้มีเจ้าของแล้วต้องได้ใช่ไหม"
"ไม่ยักก็รู้ว่านายรู้จักตัวฉันดีกว่าที่คิดนะ" ดวงตาเรียวเล็กหยีลงพร้อมกับเหยียดรอยยิ้มกว้าง
"แน่นอน เพื่อนกันทั้งทีรวมทั้งเป็นญาติผู้พี่ของฉัน และเป็น ‘คนที่คลาดสายตาไม่ได้‘ " ใบหน้ายิ้ม หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างท้าทาย
“คุณหนูจีวอน คุณชายเรียกหาครับ” กำลังจะเอ่ยปากตอบ แต่กลับถูกขัดจังหวะโดยคนรับใช้สูงอายุซึ่งดูท่าทางเป็นหัวหน้าคนรับใช้ เดินเข้ามาก้มหัวให้กับยุนฮยองและจีวอน คนที่ถูกพูดถึงแค่พยักหน้าให้ว่ารับรู้แล้วโบกมือไล่อีกฝ่ายไป
"หึหึ น่าเสียดาย ฉันยังอยากคุยกับพวกนายต่ออยู่เลย ไว้คราวหน้าแล้วกัน และก็อย่าคลาดสายตาล่ะ ระวังของสำคัญจะหายไปไม่รู้ตัว" เสียงดนตรีดังขึ้นพร้อมคิมจีวอนที่เดินจากไปโดยไม่ลืมยักคิ้วให้จุนฮเว
“ไม่มีทางแน่นอนคิมจีวอน”
จุนฮเวยืนนิ่งมาตั้งแต่ยุนฮยองเดินเข้ามาในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ เขาไม่สามารถแทรกเข้าไปในการเจรจาของทั้งคนสองทั้งที่เป็นเรื่องของตัวเขาด้วยซ้ำ ความรู้สึกอึดอัดจนพูดไม่ออกตั้งแต่จีวอนเดินจากไป เขาหันไปมองยุนฮยองซึ่งตอนนี้ใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อครู่นิ่งลงจนอ่านความคิดไม่ออก
"ผม..."
"ว่าไง สรุปว่ามีอะไรอร่อยบ้าง หืม หยิบช็อกโกแลตมาเยอะเลยนิแสดงว่าอร่อยใช่ไหม" ยุนฮยองยิ้มอย่างอารมณ์ดีสำรวจบนจานในมือจุนฮเวที่เขาถือค้างไว้จนลืมมันไปด้วยซ้ำ
"งั้นเอาไปอีกล่ะกัน กลับกันเถอะ" หยิบช็อกโกแลตบนจานแก้วอีกเกือบสิบชิ้นวางบนจานในมือเขาก่อนเดินนำออกไปทางประตูของห้องจัดเลี้ยง
"เดี๋ยว คุณจะกลับทั้งแบบนี้เลยหรอ" มือถือจานเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างงุนงง
ความเงียบเข้าปกคลุมตัวของจุนฮเวบนรถม้าระหว่างทางกลับบ้าน สายตาว่างเปล่ามองออกไปนอกหน้าต่าง ยุนฮยองแค่กินช็อกโกแลตไปเรื่อยๆอย่างสบายอารมณ์ ยกช็อกโกแลตขึ้น ยื่นให้ทุกครั้งที่จุนฮเวหันไปมอง แต่อีกฝ่ายแค่เสยมองออกไปนอกหน้างต่างอีกครั้ง
“ไว้วันหลังจะถามท่านลุงว่าได้ช็อกโกแลตมาจากไหน อร่อยกว่าที่คิดไว้ ท่านแม่คงชอบ” ยุนฮยองพูดพลางมองคนตรงหน้าซึ่งทำสีหน้านิ่งมองออกไปนอกหน้าต่างทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“ฉันว่านายยังไม่พร้อมกับการเป็นผู้ติดตามของฉัน”
จุนฮเวหันมามองหน้ายุนฮยองทันทีเมื่อสิ้นประโยค น้ำเสียงเรียบและใบหน้านิ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น
“ผมทำได้! ครั้งนี้ผมแค่พลาด”
“แต่นายไม่สามารถรับมือจีวอนได้”
“ยังมีเวลาอีกจนกว่าผมจะอายุสิบแปด ผมจะเรียนรู้หาวิธีเอาชนะเขา” น้ำเสียงอย่างไม่ยอมแพ้ ใบหน้าหงุดหงิด สายตาแข็งกร้าวส่งผ่านดวงตาคม ยุนฮยองถอนหายใจ
“จุนฮเวมานั่งตรงนี้” ขยับตัวเองให้พื้นที่ด้านข้างว่างพอให้อีกคนมานั่งได้ จุนฮเวได้แต่มองหน้าเขา
“อย่าให้พูดซ้ำสอง” อีกฝ่ายข้ามมานั่งข้างเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“นายยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ต้องถ้านายรับมือกับคิมฮันบินกับคิมจีวอนยังไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆที่ยังตอนเจอยามคุยเรื่องธุรกิจ” มือของเขาคลายไทด์ของจุนฮเว ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตรงคอออกหนึ่งเม็ด ยกมือขึ้นขยี้ทรงผมเรียบแปล้คนตรงหน้าให้กระจายออก จุนฮเวเบหน้าเบนตัวหนี ยุนฮยองมองผู้ติดตามคุณชายกลับมาเป็นเด็กน้อยคนเดิมของเขา
“นายตั้งใจจะเป็นผู้ติดตามของฉันแน่นอนใช่ไหม?”
“ผมไม่มีวันยกตำแหน่งนี้ให้ใคร”
ดวงตาคมส่งสายตาไม่ยอมแพ้มาให้ ไม่ใช่สายตาเกรี้ยวกราดตอนเถียงกับคิมฮันบินและไม่ใช่สายวูบไหวยามโดนคิมจีวอนโอบไหล่ แน่นอนเขาเห็นทุกอย่าง เขาไม่มีทางปล่อยให้คนตรงหน้าคลาดสายตาไปได้หรอก แต่เขาแค่อยากให้มั่นใจว่าเด็กน้อยของเขาพร้อมที่จะเป็นผู้ติดตามของเขาหรือยัง ซึ่งเป็นการดีที่วันนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนว่ายังต้องขัดเกลากันอีก
“ช่วงเวลาที่เหลือคราวนี้ฉันจะสอนนายเอง ทุกอย่างที่ฉันรู้กับนาย ตัวต่อตัว หลังจากนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนไม่มีทางทำอะไรนายได้แน่นอน”
นิ้วชี้ตัวเขาเองก่อนชี้กลับไปตรงอกคนตรงหน้า สายตาอันแน่วแน่ส่งให้อีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“เพราะคุณชายซงยุนฮยองเองต้องการแค่กูจุนฮเวเป็นผู้ติดตามของเขาเท่านั้น”
Talk: ซีรีย์คุณชายซงที่ไม่ใช่ซงมินโฮ แต่เป็นคุณชายซงยุนฮยองสุดหล่อกับผู้ติดตามจุนเน่ จากตอนแรกแค่ลองๆแต่งตอนที่แล้วไปมาเป็นตุเป็นตะเลยค่ะ โถ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ บอกได้แค่ว่าหลงค่ะ หลงคุณชายโฮกกกก เพ้อมาก ขั้นวาดแฟนอาร์ต ฮ่าๆๆๆ คาดว่าน่าจะมีอีกตอนแล้วจบซีรีย์นี้ แต่คาดเดาอะไรไม่ได้ค่ะ อีกไรต์คนนี้อยู่ดีๆอย่างทำอะไรก็ทำ ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณทุกๆคนที่หลงเข้ามาเข้าลัทธิพี่ยุนสุดหล่อของเราทุกๆคนเลยนะคะ เป็นกำลังให้เราคิดถึงพี่ยุนคนหล่อได้ต่อไปอีกเรื่อยๆเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เจอกันเรื่องหน้าค่า
**ขอบคุณสำหรับเตือนคำผิดค่าา TT*
#ฟิคต่อเรือ
Thanks For Sweet Lovely Theme : O W E N TM.
ความคิดเห็น