ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [iKON] The Ship That I'm Sailing [SF,Drabble]

    ลำดับตอนที่ #13 : [SF] Choice One or Two [Hanbin X Junhoe X Donghyuk]

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 58


    Title : Choice One or Two

    Status: SF

    Pairing: Hanbin X Junhoe X Donghyuk
     

    *เพลงไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องใส่ให้ดูฟรุ้งฟริ้งไม่เงียบเท่านั้น -3-*




     
     

    Choice One
     

     
     

     

     
     

    สองขาของผมเดินพาผมขึ้นมาถึงชั้นสี่ของหอพักอย่างคุ้นเคยหอพักหน้ามหาลัยเอกชนสุดหรู ภายนอกดูดีซะเปล่าแต่ไม่มีลิฟต์....

     

    โอเค มันไม่ผลอะไรกับผมเพราะผมไม่ได้อยู่ที่นี่ อากาศเดือนกรกฏาไม่ได้ร้อนไม่ได้เย็นมาก พอให้เหงื่อซึมตรงไรผม แน่ล่ะขึ้นมาสี่ชั้น ถึงหน้าห้อง 404 ผมเคาะประตู ยกนมเย็นปั่นขึ้นดูด

     
     

    "เข้ามาเร็ว" ไอ้พี่บ๊อบหรือพี่บ๊อบบี้ที่ทุกคนเรียกกันและก็เป็นพี่รหัสของผมเปิดประตู ดึงกระเป๋าโน๊ตบุ๊กในมือผมไปวางตั้งบนโต๊ะเล็กตรงข้ามกับโน๊ตบุ๊กของตัวเอง เสียบปลั๊กต่อไฟเสียบสายเน็ตอย่างรวดเร็ว ร้อยวันพันปีไม่มีทางได้เห็นไอ้พี่เหยินบริการให้ขนาดนี้ยกเว้นอยู่เรื่องเดียว

     
     

    "พี่ ผมมาให้พี่ช่วยดูงานไม่ใช่มาเล่นเกม" ผมเดินตรงไปนั่งหน้าโน๊ตบุ๊กตัวเอง ถึงบ่นแต่คลิกไอคอนเกมเรียบร้อย

     
     

    "เออน่า ขาดคนนึง จินฮวานรออยู่" พี่จินฮวาน พี่ชายตัวเล็กเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของพี่จีวอน เรียนอยู่ปีสามคณะไอทีสาขาคอมเกม ว่างพร้อมกันแบบนี้ แสดงว่างานนี้มีเดิมพันชัวร์

     
     

    "แล้วไอ้เจ้าของห้องอยู่ไหน" ระหว่างรอเชื่อมเชิฟเวอร์ ยกนมปั่นขึ้นมาดูดอีกรอบ

     
     

    "กูอยู่นี่ พร้อมยัง ให้ไว" เจ้าของห้องหรือคิมฮันบิน เพื่อนสนิทของพี่จีวอนเดินออกมาจากห้องน้ำ เสื้อยืดลายมิกกี้ลายขาวด่างๆกับบ๊อกเซอร์ ทรงผมพึ่งตื่นนอน แถมคราบน้ำลายตรงมุมปาก โคตรโส(โครก)บอกเลย นี่หรอสภาพของเดือนปีสาม

     
     
     

    ...อยากให้พวกสาวๆที่ชื่นชอบพี่มาเห็นจริงๆ...

     
     

    พวกเราสามคนเรียนอยู่คณะวิศวะสาขาคอมพิวเตอร์ ผมเรียนปีสอง พี่บ๊อบกับพี่ฮันบินอยู่ปีสาม ผมมาขลุกๆอยู่กับไอ้พวกพี่นี่บ่อยเพราะผมไม่ค่อยมีเพื่อนเนื่องจากตอนรับน้องปีหนึ่งมีเรื่องทะเลาะต่อยปากกับกลุ่มใหญ่ เพื่อนสนิทของผมมีแค่จินฮยองน้องรหัสของพี่ฮันบิน แต่ช่วงนี้มันตามจีบเด็กพยาบาลชานอูปีสองอยู่ นัดกันที่ไรเบี้ยวทุกที

     
     

    "เอาแล้วนะโว้ย" เจ้าของห้องเกมพี่ฮันบินใส่หูฟังเตรียมพร้อม ผมยกนมปั่นขึ้นมาดูดจนหมด จริงๆก็ไม่ค่อยอยากเล่นกับไอ้พวกพี่นี่หรอกนะ

     

     
     
    ...มีเหตุผล....

     

     
     

    "ไอ้บ๊อบทางซ้าย!"

     
     

    "ทางกูก็เต็มแล้วเนี่ย!"

     
     

    "พี่จินซ้ายว่าง"

     
     

    "เออๆ กำลังไป"  

     
     

    "เหี้ ยบ๊อบ ซ้ายป้อมแตกแล้ว"

     
     

    "ส  าดดดด"

     
     

    "เยสสสสส" // "แม่ งงงงงงงงง แพ้แม่ งอีกแล้ววว"

     
     
     
     
     

    ให้มันรู้ว่าเซียนเกมสมัยม.ปลายเป็นไง บอกแล้วไม่อยากเล่นด้วย เดี๋ยวหาว่ารังแก :P   

     
     

    "พวกพี่โคตรกากกกก ขนาดจับผมไปอยู่ทีมพี่จินที่อยู่คนล่ะที่ยังแพ้เลย" หัวเราะร่าอย่างมีความสุขจะได้กินข้าวฟรี~

     
     

    "เออ กูรู้ เลี้ยงมึงไม่เท่าไร เลี้ยงไอ้จินฮวานเนี่ยล่ะแม่ งเจ็บใจ" พี่บ๊อบบ่นอย่างหัวเสีย

     
     

    "พี่จินยินป่ะ?" ผมพูดผ่านไมค์บนหูฟังกับอีกคนในสไกป์

     
     

    "เออ ได้ยิน ฝากบอกไอ้บ๊อบด้วย...." พี่จินตอบกลับมา ผมถอดสายหูฟังออกโน๊ตบุ๊กอย่างรู้งาน

     
     

    "ไอ้บ๊อบ มึงแม่ งกากกกกกกกกก" เสียงพี่จินออกจากลำโพงชัดเจน ฝั่งโน่นรีบปิดสไกป์หนีทันทีก่อนจะได้ยินเสียงไอ้พี่บ๊อบด่ากลับไปอีกเป็นชุด

     
     

    "มาช่วยผมดูโค๊ตเลย เมื่อวานเขียนเกมงูพอถึงขอบแล้วมันไม่เลี้ยวแม่ งหายไปเฉยเลย" ปิดเกมก่อนเปิดโปรแกรมเขียนโค๊ตขึ้นมา 

     
     

    "เห้ย ฮันบินดูให้มันก่อนดิ กูโทรหายุนแปป" หลบหนีโดยการหยิบมือถือเดินออกไปนอกห้องโทรหาพี่ยุนฮยองแฟนของตัวเองทันที ขอบใจวะพี่

     
     

    "ไหนดูดิ" พี่ฮันบินลงมาจากเก้าอี้หน้าคอมตัวเองนั่งข้างผม มือจับเมาส์ สายตาไล่ดูโค๊ตทีล่ะบรรทัด ก่อนไล่ลบที่ผมทำไว้ไปเพียบ

     
     

    "พี่! ผมพิมพ์ทั้งคืนเลยนะเว้ย"

     
     

    "เออ ดูไปเหอะน่า" หันโน๊ตบุ๊กเข้าหาตัวเองพิมพ์โค๊ตลงไปจากไฟล์ที่ผมทำ ผมเบะปากเอื้อมตัวหยิบถุงมันฝรั่งทอด ของพี่ฮันบินบนโต๊ะมาเปิดโดยไม่ขออนุญาต หยิบกินไปเรื่อยๆ มองโค๊ดที่พิมพ์พี่ฮันบินไปด้วย

     
     

    "เอาเสร็จแล้ว กดรันดิ๊" ไอ้คุณพี่ทำไมไม่กดเองวะ ผมกลอกตาก่อนกดรันโค๊ด จอสีดำมีกรอบสีขาวล้อมและมีเส้นงูน้อยวิ่งช้าๆ จนวิ่งไปถึงขอบตีโค้งเลี้ยวอย่างสวยงาม

     
     

    "พี่แม่ งโหด แก้แปปเดียวเอง" มองดูจออย่างอึ้งๆ เมื่อคืนนี่ผมพยายามคิดหลักการเยอะเยะมากมาย สุดท้ายตายสนิท

     
     

    "มันอยู่ที่ตรงนี้ล้วนๆโว้ย" นิ้วของพี่ฮันบินจิ้มไปที่หัวตัวเอง อันนี้เถียงไม่ออก รายนี้โหดจริง ท๊อปของชั้นปี ผมนี่ผ่านตัดอิงกลุ่มได้ก็สุดแล้ว

     
     

    "เมื่อไรผมจะเก่งแบบพี่บ้างวะ" ถอนหายใจหยิบมันฝรั่งใส่ปากเคี้ยวกรวมๆ

     
     

    "เก่งเหมือนกูชาตินี้คงไม่วันเพราะกูเมพ" เบะปากใส่ไอ้พี่ข้างตัวอย่างหมั่นไส้

     
     

    "แต่มึงค่อยๆมานั่งเรียนรู้กับกู คงทำให้เก่งขึ้นบ้างล่ะ เดี๋ยวกูสอนให้" ส่งยิ้มโง่อย่างจริงใจให้ผมหนึ่งที มือของพี่ฮันบินเอื้อมมาหยิบมันฝรั่งทอดในถุง แต่ผมเบนตัวหนีทำให้ตัวเราสองคนแทบติดกัน

     
     

    "ไอ้เหี้ย ของกู กูแดกได้ป่ะวะ" ยกไหล่ให้อย่างไม่ใส่ หยิบมันฝรั่งขึ้นมาคำใหญ่เตรียมใส่ปาก ไอ้พี่ฮันบินเอามือตัวเองมาจับมือผม ยื้อมือผมยัดมันฝรั่งคำนั้นใส่ปากตัวเอง 

     

     

    ...หน้าของเราห่างกันแค่คืบ สายตาพี่ฮันบินมองขึ้นมามองตาผม...

     

     ...และยักคิ้วให้...

     

     
     

    "โหยย น้ำลายยย พี่แม่ง" ผมผลักอีกคนออก รีบเช็ดนิ้วกับเสื้อกรังของพี่ฮันบินอย่างรังเกียจ จะติดเชื้อบ้าป่าวเนี่ยย

     
     

    "มันฝรั่งแค่นี้ทำเป็นงก กูซื้อให้มึงแดกไปตลอดชีวิตยังได้เลย" นั่งเท้าโต๊ะ ทำเสียงฮึดฮัดใส่ผม

     
     

    "อย่ามาโม้"                            

     
     

    "สั ด กูรวยทำไมล่ะ ช่วงนี้เกมขายดี" โม้มาเต็มที่ แต่ก็เรื่องจริง พี่ฮันบินจับมือกับพี่จินสร้าง Apps เกมขายอยู่ครับ เปิดตัวแรกไปขายดีเทน้ำเทท่าเลย แหม่อิจฉาคนรวย

     
     

    "เลี้ยงหนมผมดิ แต่พี่เอาตังไปซื้อเสื้อนอนใหม่ก่อนเหอะ กรังสุดๆ สงสารมิกกี้บนเสื้อวะ" ยกคิ้วให้อย่างไม่กลัวเกรง

     
     

    "เรื่องของกู หรือจะไฟว์?" ขึ้นเลยพูดถึงมิกกี้สุดรักขึ้นทันที เตรียมเปิดสงครามกันแล้วครับ

     
     

    "มึงสองคนนี่จะทะเลาะกันให้ได้ตลอดเวลาเลยใช่ไหม?" ไอ้พี่บ๊อบถึงกับถอนหายใจเมื่อเห็นผมกับพี่ฮันบินนั่งเถียงกันอยู่

     

     
     

    "ดีออก ทะเลาะกันเยอะๆ จะได้รักกันเยอะๆบ้าง"

     

     

    ผมกับพี่บ๊อบเบะปากให้กับประโยคชวนขนลุกจากไอ้พี่ฮันบิน ถีบคนพูดกันไปคนล่ะที จนไอ้พี่กระฟัดกระเฟียดเดินเข้าไปอาบน้ำเตรียมไปเรียนช่วงเย็น

     

    มองงูน้อยวิ่งในจออีกครั้งก่อนจะเก็บโน๊ตบุ๊ก สงสัยจะจริงอย่างที่พี่ฮันบินว่าต้องมานั่งที่ห้องนี้ให้พี่มันสอนเยอะๆแล้วล่ะ เผื่อเก่งแล้วจะรวยกับเขาบ้าง

     

    ...แต่รอบหน้ามามีไม่มีขนมให้กินนี่ มิกกี้ซวยนะครับ...

     

     

    Choice Two

     

     

     
     
     
     

    "อ้าว ว่าไงจุนฮเว" เสียงพี่ยุนฮยองแฟนของพี่บ๊อบบี้ทักขึ้นเมื่อเห็นผมมาที่ห้องพร้อมพี่บ๊อบ ผมก้มหัวให้พี่ยุนฮยองที่กำลังนั่งอ่านชีทอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวีแทนคำทักทาย

     
     

    "อะไรกันทักแต่จุนฮเว ไม่ทักบ๊อบบี้บ้างเลยย" ถอดรองเท้าเข้าไปในห้อง ไอ้พี่บ๊อบพองแก้มงอนใส่พี่ยุนฮยอง

     

     
     

    ...พี่อย่าทำเลย ไม่ได้ดูน่ารักขึ้นเลย...                                   

     

     
     

    "ก็เห็นอยู่ทุกวันจะทักทำไม" ทำหน้านิ่งไม่หันมามองหน้าพี่บ๊อบด้วยซ้ำ จนพี่บ๊อบครวญครางเบะปาก หนุ่มป๊อป(ในหมู่สาวประเภทสอง)ประจำปีสามคณะวิศวะ รอยยิ้ม(เหยิน)เสน่ห์ แสนขี้เล่น(ไปไหน) คนที่ทำให้ไอ้พี่บ๊อบหงอแบบนี้ได้มีแค่พี่ยุนฮยองนี่ล่ะครับ

     

    "เอาไป ไม่เข้าใจค่อยสไกป์มาถาม" ย่ำเท้าตึงๆมาหาผมพร้อมสรุปชีทข้อสอบวิชาแคลคูลัสปีสองจากบนโต๊ะคอมตัวเอง

     
     

    "ขอบพระคุณครับคุณพี่รหัสแสนดี" ก้มหน้าคำนับรับชีทมาเหมือนกับได้ไอเทมสุดเทพในเกม

     
     

    "ทีได้ของ พูดเพราะกับกูเน้อ" ยกคิ้วให้ไอ้พี่บ๊อบอย่างไม่สะทกสะท้าน

     
     

    "อ้าว จุนเน่" เสียงแหลมเล็กทักผมจากประตูห้องน้ำ

     
     

    "อ้าว ดงฮยอก"

     
     

    "ทำไมมึงมาอยู่นี่?" ไอ้พี่บ๊อบเลิกคิ้วอย่างสงสัย เนียนเดินไปกอดพี่ยุนฮยอง แต่โดนพี่ยุนฮยองปัดมือทิ้ง        

     
     
     
     

    "มาให้พี่ยุนติวคณิตให้ครับ ผมจะกลับล่ะ กลับพร้อมกันเลยไหมจุนเน่?"

     

     
     
     
     

    จะว่ามันคือความบังเอิญหรือโลกนี้มันกลมไม่รู้ เทอมที่แล้วผมลงวิชาภาษาอังกฤษตัวนอกซึ่งจินฮยองมันเรียนไปแล้วตอนเทอมหนึ่งผมเลยต้องเรียนคนเดียวแถมทั้งห้องนั้นมีแต่เด็กคณะบริหาร โคตรกร่อยเลยครับ ขณะที่ผมนั่งเล่นเกมอยู่หลังห้องไม่สนใจใคร    

     
     

    "จุนฮเวใช่ไหม?" ชายผมแดงในชุดนักศึกษาเรียบร้อยทักผมด้วยรอยยิ้มกว้างและตาที่หยีลงเหมือนพระจันทร์เสี้ยว

     
     

    "รู้จักเราด้วยหรอ?" ผมมองหน้าเขาอย่างงงๆ จำได้ว่าตอนชนกับคณะอื่นช่วงรับน้องไม่ได้ชนกับเด็กบริหารนี่หว่า แต่ช่วงนั้นผมดังเหมือนกันนะ ก็โดนไอ้พี่บ๊อบกับพี่ฮันบินเล่นซะหนักเลย จับมาอยู่แถวหน้าตลอด แต่คนอย่างกูจุนฮเวทำอะไรก็เด่น คนมันหล่อซะอย่าง

     
     

    "เราดงฮยอกไง น้องรหัสพี่ยุนฮยอง"

     

     
     

    ...นี่คือจุดเริ่มต้นการเป็นเพื่อนของผมกับดงฮยอก...

     
     
     
     

    ดงฮยอกเป็นน้องรหัสพี่ยุนฮยองปีสามคณะบริหารซึ่งเป็นแฟนกับพี่บ๊อบบี้พี่รหัสผม ผมเคยเจอเขาสองครั้งมั้งแต่จำหน้าไม่ได้แปลกดีเหมือนกันว่าคนอย่างผมที่อัธยาศัยไม่ค่อยดีกับชาวบ้านสักเท่าไรแต่กลับคุยกับดงฮยอดอย่างสนุกสนาน คุยกันไปคุยกันมาพบว่าดงฮยอกอยู่หอเดียวกันกับผมบังเอิญจริงๆและบังเอิญเข้าไปอีกเมื่อรูมเมทของดงฮยอกชานอูนั้นคือคนที่เพื่อนสนิทของผมตามจีบอยู่

     

    "แล้วนี่ไปตัดผมมาตอนไหน โคครสาวเลย" ผมแซวผมทรงใหม่ของดงฮยอกระหว่างกลับหอ ผมสีดำหน้าม้ากะลาครอบ ทำให้หน้าหวานของดงฮยอกหวานเข้าไปใหญ่

     
     

    "เบื่อผมทองเลยย้อมกลับ แต่ช่างแม่ งตัดซะหวานเลย" ไม่เหลืออดนี้ไม่มีคำสบทจากดงฮยอกนะครับ 

     
     

    "เอาน่าน่ารักดี" สายตาเขียวปั๊ดที่ถูกส่งมาทำให้ผมหัวเราะร่า

     

    เห็นหน้าหวานแบบนี้นิสัยโคตรแมนเลยครับง่ายๆ สบายๆ ถึงไหนถึงกัน แถมเสน่ห์แรงเสียด้วย เทอมที่แล้วดงฮยอกย้อมผมแดงเซ็ตทรงผมตั้งสาวๆนี่มองตาเป็นมันเลย แล้วยิ่งตอนเรียนบาสพี่แกถอดเสื้อชุ่มเหงื่อโชว์แพกหกห่อตรงท้องสาวน้อยใหญ่แท้เทียมนี่กรี๊ดกันสลบ ปกติดงฮยอกเวลาอยู่กับเพื่อนก็มีพูดกูมึงบ้างแต่กับผมเราจะสุภาพกันหน่อยไม่ถ่อยเถื่อนแบบเวลาผมคุยกับพวกพี่บ๊อบ

     
     

    "กลุ้มใจกับเทสย่อยพรุ่งนี้จริงๆ" ถอนหายใจอย่างหนักใจพรุ่งนี้ผมมีเทสย่อยวิชาแคลคูลัสเทอมที่แล้วผ่านด้วยเกรดดี

     

    ดีคือดี ด๊อกนะ 

     
     
     

    ไอ้พี่บ๊อบบ่นใหญ่เก็งก็เก็งให้แล้ว เสียชื่อบ๊อบบี้หมด รายนี้ก็รองท๊อปชั้นปี แปลกดี วันๆก็เห็นแต่เล่นเกม ไอ้พี่ฮันบินก็ด้วย ทำไมแม่ งเก่ง หรือพวกพี่แม่ งแดกตำราแทนอาหารซึมโดยตรงเข้าสู่สมอง

     
     

    "เสียดายว่าวิชาคำนวนบริหารกับวิศวะมันไปคนล่ะทางเลยไม่งั้นฉันคงช่วยติวให้ได้บ้าง" ดงฮยอกบ่นอย่างเสียดาย

     
     

    "ไม่เป็นไร พรุ่งนี้นายก็มีเทสนิ" ผมยิ้มให้กับความหวังดีของดงฮยอก

     
     

    "แล้วนี่ไม่ชวนจินฮยองมาติวด้วยล่ะ"

     
     

    "มันไปนั่งอ่านเฝ้าคนที่ใต้ตึกคณะพยาบาล" ถามถึงไอ้เพื่อนสนิทผมนี่เซ็งทันทีรายนี้เก่งแล้วเอาตัวรอด เพื่อนแม่งจะตายดันไปไปติดหนุ่ม

     
     

    "นี่ถ้ารายนั้นจีบติด คงไม่ขอรูมเมตฉันไปอยู่ด้วยใช่ไหม ฮ่าๆๆ"

     
     

    "น่าคิดแฮะ"

     
     

    "งั้นถึงตอนนั้นฉันมาเป็นรูมเมตกับจุนเน่ดีกว่า" ดงฮยอกพูดติดตลก ตอนนี้ที่หอพักผมอยู่คนเดียว โอเค บ้านผมรวย (โม้ไปนั้น) อีกอย่างให้อยู่กับคนไม่สนิทมันก็ไม่สบายใจ แต่ถ้าเป็นดงฮยอก อืมม....

     

     "จุนเน่! ระวังรถ" แขนผมถูกดงฮยอกดึงไว้ขณะเดินข้ามซอย รถพุ่งออกมากจากซอยโดยที่ผมไม่ทันเห็น 

     

     

    ...ผมเซไปตามแรงดึงของดงฮยอก ไหล่ของผมชนเข้ากับอกของเขา...

     

     ...หน้าดงฮยอกกับผมห่างกันแค่นิดเดียว...

     

     

    "ขอบคุณนะ คนขับแม่งไม่ดูเลย" ยืนขึ้นเต็มความสูง จิกหน้าใส่คนขับผ่านกระจกหนึ่งที

     
     

    "นายนั้นล่ะที่ไม่ดูทาง" ดงฮยอกหัวเราะ หลายครั้งแล้วที่ผมทำตัวบุ่มบาม กร่างโน่นกร่างนี่ ต้องให้ดงฮยอกมาคอยระวังให้อยู่เรื่อย

     
     

    "ฉันเคยคิดด้วยไม่มีนาย ฉันคงโดนรถชนตายไปนานแล้ว ฮ่าๆๆ" หัวเราะเสียงดังให้กับความคิดของตัวเอง

     

     
     

    “ให้ฉันดูแลนายไปแบบนี้เรื่อยๆก็ยังได้”

     

     
     

    “หืม ว่าไงนะ?”

     

    “ไม่มีอะไร จุนเน่กินนมปั่นกัน!

     

     

    "โอเค เจอกันพรุ่งนี้คาบบ่ายนะ" หลังจากซื้อนมปั่นมาคนล่ะแก้ว เดินเข้าหอขึ้นมาถึงชั้นสาม เราสองคนแยกกันตรงบันได ห้องผมอยู่ชั้นสาม ส่วนห้องของดงฮยอกอยู่ชั้นห้า

     

    “โอเคเจอกัน” โบกมือลาดงฮยอกก่อนเดินไปที่ห้องของตัวเอง

     
     

    "จุนเน่" ผมหันไปตามเสียงเรียกของดงฮยอกที่กำลังโผล่หน้าออกมาจากช่องว่างระหว่างทางขึ้นบันไดไปชั้นสี่

     
     

    "อ่านหนังสือคนเดียวถ้าเหงา โทรตามฉันลงมาอ่านเป็นเพื่อนก็ได้นะ"

     
     
     

    ส่งยิ้มกว้างให้ก่อนเดินขึ้นไป ผมยกนมปั่นขึ้นมาดูด หยิบกุญแจไขเข้าไปในห้องพักของตัวเอง

    จะว่าไปห้องมันก็กว้างเหมือนกันแฮะ มีรูมเมตกับเขาบ้างอาจจะดีเหมือนกัน

     

    ...ไปช่วยจินฮยองจีบชานอูให้ติดดีกว่ามั้งนี่...

     

     
     
     
     

    Choice One VS Two

     
     


     

     
     

    "มาแล้วพี่ โทษทีอาจารย์ปล่อยช้า" ผมหายใจหอบหลังจากรีบวิ่งมาจากห้องเรียนลงมาหาพี่บ๊อบกับพี่ฮันบินที่รออยู่หน้าคณะ

     
     

    "เออๆ ไม่ต้องรีบก็ได้ที่จริง กูกลัวมึงวิ่งตกบันไดหน้าแหก"

     

    "ผมตกบันไดคงไม่เป็นไรหรอก พี่ตกเนี่ยระวังฟันเฉาะพื้นแตกนะ" พี่บ๊อบยิ้มแยกเขี้ยว ส่งมาให้ผมยักคิ้วกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว

     
     

    "มึงหยุดเลย อย่าพึ่งเถียงกัน กูหิว" พี่ฮันบินเดินมาขั้นกลางระวังผมกับพี่บ๊อบ รีบพากันเดินไปศูนย์อาหารใหญ่หน้ามหาลัย

     
     

    "ยุนนนน คิดถึงจังเลย" พี่บ็อบรีบวิ่งไปที่โต๊ะที่พี่ยุนฮยองจองไว้ โดยไม่สนใจคนเบะปากทั้งสามคน รวมถึงพี่ยุนฮยองด้วย

     
     

    "เมื่อเช้าก็เจออย่ามาสำออย" พี่ยุนฮยองตอบกลับโดยไม่สนใจเสียงครวญจากไอ้พี่บ๊อบ สายตาผมหยุดอยู่ที่อีกคนที่นั่งสไลต์มือถือข้างพี่ยุนฮยอง

     
     

    "ไง ดงฮยอก"

     
     

    "ว่าไงจุนเน่ สวัสดีครับพี่บ๊อบบี้" รอยยิ้มกว้างดงฮยอกส่งพี่บ๊อบกับผม ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งตรงข้ามดงฮยอก พี่บ๊อบนั่งตรงข้ามพี่ยุนฮยอง

     

     
     

    และเสียงโครมครามลากเก้าอี้นั่งข้างผมคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ฮันบินที่กำลังจ้องดงฮยองด้วยหน้านิ่ง

     
     
     
     

    "มึงลืมหวัดดีใครหรือเปล่า?"

     
     

    "อ้าวพี่ฮันบิน มาด้วยหรอครับ ผมพึ่งเห็น" ยิ้มกว้างของดงฮยอกแบบเดิมส่งให้พี่ฮันบิน ส่วนพี่ฮันบินรายนั้นเหยียดยิ้มส่งให้ดงฮยอก

     

    สองคนนี้ไม่ค่อยเจอกัน แต่เจอกันทีไรเหมือนจะมีสงครามประสาทเกิดขึ้นกันทุกที ซึ่งผมเองไม่รู้เหมือนกันว่าสองนี้ไปเกลียดกันตอนไหน

     

     
     

    ...ถ้าไม่ทะเลาะกันตั้งแต่รุ่นพ่อ...

     

    ...ก็คงจีบสาวคนเดียวกันล่ะมั้ง...

     

     
     

    "จุนเน่ ไปหาอะไรกินกันเถอะ" ดงฮยอกลุกจากเก้าอี้ ดึงมือผมให้ลุกตาม ขณะที่ผมกำลังจะเดินตามดงฮยอกไป มีมือจากด้านข้างดึงผมไว้

     
     

    "กูจะแดกน้ำเขียวซื้อมาให้กูด้วย"

     
     
    "มีเท้าก็เดินไปซื้อดิ" 

     
     

    "กูต้องเฝ้าโต๊ะ"

     

    “โคตรข้ออ้าง ขี้เกียจก็บอกมาเหอะ” กำลังจะเปิดประเดนกับพี่ฮันบินแต่โดนดงฮยอกดึงแขนให้เดินตามไป

     
     

    "จุนเน่กินไรดี" สายตาของผมกำลังมองอาหารหลายอย่าง กินไรดี ข้าวผัดก็อยาก สเต๊กไก่ก็อยาก หรือจะบะหมี่

     
     

    "แล้วดงฮยอกล่ะกินไร?" ผมหันไปถามดงฮยอกเพราะว่าผมยังเลือกไม่ได้ 

     
     

    "ว่าจะกินข้าวหน้าหมูย่างร้านอาหารญี่ปุ่นล่ะ" นิ้วของดงฮยอกชี้ไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นตรงหัวมุม อืม ร้านนั้นอาหารอร่อยหลายอย่างเลยนะ

     
     

    "จะว่าไปข้าวหน้าหมูย่างก็ดีแต่ก็อยากกินข้าวไก่ทอดราดซอสเหมือนกัน"

     
     

    "ก็เดี๋ยวแบ่งกันกินก็ได้"

     
     

    "โอเค"

     
     

    "เดี๋ยวเราไปสั่งให้ จุนเน่ไปซื้อน้ำล่ะกัน เราเอาสไปรท์นะ" ดงฮยอกยิ้มให้ก่อนเดินไปสั่งอาหาร ผมเดินไปซื้อน้ำ โค๊กของผมสไปร์ของดงฮยอก และไม่ลืมน้ำเขียวของไอ้พี่ฮันบินผมเดินกลับไปที่โต๊ะเหลือพี่ฮันบินนั่งเล่นเกมอยู่คนเดียว

     
     

    "ไอ้พี่บ๊อบกับพี่ยุนฮยองล่ะ"

     
     

    "ไปซื้อข้าว" พี่ฮันบินยกน้ำเขียวขึ้นมาดื่มอึกๆ ไม่สนใจหลอดที่เสียบคาไว้ 

     
     

    "เดี๋ยวสำลัก..." ไม่ทันขาดคำไอ้พี่ฮันบินสำลักน้ำเขียว ไออกมาหน้าดำหน้าแดง อยากจะพูดสมน้ำหนักแต่เห็นแล้วสงสาร

     
     

    "ไปอดอยากมาจากไหนวะ" ผมส่งทิชชู่ให้ มองพี่ฮันบินที่ยังคงไอไม่หยุด

     
     

    "แค่ก จุนฮเว..." พี่ฮันบินหยิบทิชชูเช็ดปากก่อน จ้องหน้าผม ผมยกคิ้วให้ด้วยความสงสัย

     

     
     

    "นาย...อึกกกกกก"

     

     

    “จุนเน่ข้าวมาแล้ว”

     

     
     

    "ดงฮยอก! มึงทุบหลังกูทำไม" ดงฮยอกวางชามข้าวของเขากับผมบนบนโต๊ะอย่างไม่สนใจ นิ้วพี่ฮันบินชี้หน้าดงฮยอก สายตาคาดโทษเต็มที

     
     

    "เห็นพี่กำลังสำลักเลยช่วยครับ"

     
     

    "การพยาบาลแผนไหนวะ สำลักแล้วทุบหลังเนี่ย!"

     
     
     
     

    "แผนใช้เฉพาะกับคิมฮันบินครับ" ส่งยิ้มหวานตามสไตล์ดงฮยองให้พี่ฮันบินหนึ่งที      

     
     
     
     

    "ไว้คราวหลังมึงสำลักกูจะถีบมึงบ้าง" ไอ้คุณพี่นั่งกระฟัดกระเฟียดอยู่บนเก้าอี้จนพี่บ๊อบกับพี่ยุนฮยองกลับมาพร้อมข้าวของตัวเองและของพี่ฮันบิน

     
     

    "ไอ้ฮันบิน มึงเป็นไรวะ?" พี่บ๊อบวางชามก๊วยเตี๋ยว หน้าพี่ฮันบินแล้วเดินไปนั่งที่ตัวเอง

     
     

    "ทะเลาะกับหมามา" คีบเส้นสูดเข้าปากเคี้ยวงับๆ แล้วไม่พูดอะไรต่อ ไอ้พี่บ๊อบทำหน้าประมาณ 'แถวนี้ไม่มีหมาสักตัวมึงไปฟัดกับหมาในปากตัวเองหรือไง' ก่อนสนใจข้าวของตัวเอง ต่างคนต่างกินข้าวคุยเรื่องทั่วไปกันบ้าง

     
     

    "จุนเน่อ่ะหมูย่าง" หมูย่างถูกคีบมาวางในชามผมพร้อมรอยยิ้มจากดงฮยอก  

     
     

    "ขอบคุณนะดงฮยอก อ่ะนี่ไก่" ผมคีบไก่ในชามตัวเองวางลงในชามดงฮยอกเช่นกัน แล้วมีตะเกียบปริศนาคีบไก่จากชามผมไปอีกชิ้น 

     
     

    "พี่แม่งเอาไปทำไมยิ่งมีน้อยๆอยู่" หันไปโวยวายไอ้คนที่ คีบไก่ของผมเข้าปากเคี้ยวอย่างสบายอารมณ์ ของกินเรื่องใหญ่นะโว้ย! ขึ้นเลย ขึ้น!

     
     

    "กูจะแดก เอากูให้คืนก็ได้" ทั้งลูกชิ้น ทั้งหมูชิ้น ในชามพี่ฮันบินถูกคีบมาใส่ชามผม โอเคแฟร์ๆ

     
     
     
     

    "พี่นี่ 'เสือหวงเนื้อ' จริงๆเลยนะครับ"

     
     

    "ก็มันมี 'จิ้งจอกจ้องขโมยเนื้อ' ก็ต้องระวังเป็นธรรมดา" 

     
     
     

    พี่ฮันบินเหยียดยิ้มให้ดงฮยอก ผมมองทั้งสองคน แล้วก็สงสัย

    เนื้ออะไรวะ? เนื้อเปื่อยหรอ? พี่ฮันบินแดกเส้นเล็กหมูน้ำตกนี่หว่า

     
     
     
     
     

    "จุนเน่ กินขนมไหม?" ดงฮยอกถามขึ้นหลังกินข้าวเสร็จแล้ว

     
     

    "อืม อยากกินปังเย็นอ่ะ" ผมลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนมีแขนมาพาดไหล่ผม

     
     

    "มากูเลี้ยง" พี่ฮันบินกอดไหล่ผมข้างขวา

     
     

    "เลี้ยงกูด้วย" ไอ้พี่บ๊อบกอดไหล่ผมข้างซ้าย

     
     

    "มีตังซื้อเองสิฟาย" ไอ้คุณพี่ฮันบินแยกเขี้ยวใส่ไอ้พี่บ๊อบหนึ่งทีโดยที่อีกฝ่ายไหวไหล่ให้อย่างไม่สนใจ

     
     

    "ดงฮยอกเอาไหม?" ผมหันไปถามดงฮยอก

     
     

    "ไม่ล่ะ เราว่าจะกินไอติม" ดงฮยอกปฏิเสธพร้อมยิ้มให้

     
     

    "ยุนเอาเหมือนเดิมเน้อ" พี่ยุนฮยองพยักหน้าแทนคำตอบเพราะกำลังแคะฟันอยู่

     
     

    "หนัก! เอาออกไปทั้งคู่เลย" พูดไปไม่มีฟัง ทิ้งน้ำหนักตัวลงเพิ่มมาอีกแถมหัวเราะกันอย่างสะใจระหว่างเดินไปร้านปังเย็น ไอ้พวกพี่แม่ ง อย่าให้เอาคืนนะ

     
     
     
     
     

    "อ่ะยุน ไวท์มอลต์" พี่บ๊อบส่งปังเย็นไวท์มอลต์ให้พี่ยุนฮยอง หนีเข้าไปในโลกของสองคนกินไปคุยไปกันกระหนุงกระหนิง เรื่องจริงคือทั้งคู่กำลังทำสงครามแย่งเยลลี่หมีในชามพี่บ๊อบอยู่ ผมนั่งจ้วงขนมปังในปังเย็นนมของโปรด พี่ฮันบินตักโกโก้ครั้นส์ในชามตัวเองเข้าปากสบายอารมณ์ ดงฮยอกเดินกลับมาพร้อมไอติมช็อกโกแลต 

     
     

    "จุนเน่กินบ้างดิ" ดงฮยอกยื่นหน้ามาจากฝั่งตรงข้าม มองปังเย็นในมือผม ผมกำลังจะยื่นชามตัวเองส่งให้

     

    "แดกของกูก็ได้" พี่ฮันบินยื่นชามตัวเองมาตรงหน้าดงฮยอกยังปากเคี้ยวโกโก้ครั้นส์อยู่ 

     
     

    "ผมอยากกินรสนมนิครับ" มือของดงฮยอกผลักชามปังเย็นของพี่ฮันบินออก

     
     

    "มันก็ทำมาจากนมเหมือนกันล่ะแดกๆไปเหอะ" พูดจบตักขนมปังกับโกโก้ปั่นช้อนใหญ่ใส่ปากดงฮยอก ท่าทางจะเย็นน่าดูจากสีหน้าดงฮยอกที่แหยเก ส่วนไอ้คนตักใส่ปากหัวเราะอย่างสะใจ

     
     
     
     
     
     

    "ใช่ พี่ฮันบิน ผมซื้อของมาฝาก" ดงฮยอกปรับสีหน้าก่อนยื่นขวดพลาสติกมีน้ำสีเขียวบรรจุอยู่

     
     

    "น้ำไรวะ ยาพิษ?" คิ้วพี่ฮันบินเลิกขึ้นด้วยความสงสัย รับขวดมาจากดงฮยอกหมุนไปมา สำรวจดู

     
     
     
     

    "เขาเรียกว่า 'น้ำใบบัวบก' สรรพคุณแก้ช้ำในครับ ผมซื้อมาเตรียมให้พี่ไว้ก่อน" ดงฮยอกยิ้มหวานขณะบรรยายสรรพคุณ

     
     
     
     

    "มึงเก็บไว้แดกเหอะ มึงล่ะจะช้ำในเอง" พี่ฮันบินเหยียดยิ้มก่อนยื่นขวดคืน 

     

     
     
     
     

    "ถามกันเลยให้ชัดไปเลยไหมครับว่าจะได้รู้ว่าใครควรดื่ม?" 

     

     

     

     
     
     

    "จุนเน่" // "จุนฮเว"

     

    เสียงเรียกผมจากดงฮยอกกับพี่ฮันบิน ขณะที่ผมกำลังแย่งขนมปังชิ้นสุดท้ายในชามพี่บ๊อบ

     
     

    "ว่า?" ผมยกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยหันมามองทั้งคู่ที่ส่งสายตาจริงจังมาให้

     
     
     
     
     

    "เราชอบจุนเน่นะ" // "พี่ชอบมึงวะ"

     

     
     
     

    ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน ไม่ได้เร็วมาก แต่ผมยังจับใจความไม่ได้

     

    ..เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?...

     
     
     
     
     

    "เราชอบจุนเน่ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว"

     

    หันไปมองหน้าดงฮยอกที่ปกติมีแต่รอยยิ้มส่งให้ กำลังทำสีหน้าจริงจัง

     
     

    "กูก็ชอบมึงตั้งแต่มึงอยู่ปีหนึ่ง"

     

    หันไปมองหน้าพี่ฮันบินที่ปกติทำแต่หน้ามึนแต่ตอนนี้จริงจังยิ่งกว่าตอนพิมพ์โค๊ต

     
     
     
     
     

    "คบกับเรานะ" // "คบกับกูเหอะ"

     

     
     
     

    ช้อนพลาสติกในมือผมร่วงพร้อมกับขนมปังชิ้นสุดท้าย

    ตาเบิกกว้างยิ่งกว่าตอนเห็นอาหาร 

    หน้าเริ่มร้อนอย่างกับไปเล่นกีฬามา

    แล้วไม่ต้องพูดถึงหัวใจที่กำลังเต้นรัวอยู่ตรงอกอย่างกับพึ่งไปวิ่งร้อยเมตรในห้าวินาที

     

    "เออ...."

     
     
     
     

    "ฉันดูแลนายได้นะ ปกติฉันก็ดูแลและเป็นห่วงนายตลอด" 

     
     
     
     

    "เออ...."

     
     
     

    "กูก็ดูแลมึงได้ กูเก่ง กูมีตังด้วย และกูก็รักมึงไม่แพ้ใครด้วย"

     
     
     

    "เออ..."

     
     
     

    "พี่โคตรโม้เลย! คบไปก็คงมีแต่ทะเลาะกัน"

     
     
     

    "มึงก็อ่อน! อยู่ๆเดี๋ยวก็เบื่อเลิกกันไป"

     

     
     

    ทั้งสองคนเถียงกันหน้าดำหน้าแดง ปล่อยให้ผมนั่งเป็นหลักตอปักไว้ตรงกลาง

     
     
     

    "เดี๋ยวนะ.."

     
     
     
     
     
     
     

    "จุนเน่เลือกใคร?" // "มึงจะเลือกใคร?" 

     

     
     
     
     
     

    หันมาถามผมมาพร้อมกันกันด้วย

     

     
     
     
     

    ...แล้วกูจะตอบยังไงดีวะ...

     

     
     
     
     

    เหงื่อซึมออกมาจากฝ่ามือ

     
     

    สายตาคาคั้นจ้องมาทั้งไอ้คนสารภาพรักสองคนและตัวประกอบอีกสองคน

     

     
     

    ...เวลานี้ทำได้อย่างเดียว...

     

     
     
     
     

    "แช่ผ้าไว้ลืมซัก กลับไปซักผ้าก่อนล่ะ!"

     

     
     
     
     

    ผมลุกพรวด คว้ากระเป๋าของตัวเอง วิ่งออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดโดยไม่สนใจเสียงตะโกนตามมาข้างหลัง

     

     
     
     
     
     

    อย่าหนีนะ ฉันรู้ปกตินายซักเครื่อง!” // “มึงอย่ามาเนียน กูรู้มึงซักผ้าไม่เป็น!

     

     

     
     

    ชีวิตชายหนุ่มสุดหล่อ(หน้าโหด)

    โคตรมั่นใจในตัวเอง(มากกก)

    โตมาด้วยของกินอุดมสมบูรณ์(สุดๆ)

    จนอายุจะยี่สิบครั้งแรกที่มีคนมารุมรัก….

     

     
     

    เป็นสาวน้อยน่ารักสักหน่อยก็ไม่ได้!

     
     

    ผู้ชายสองคน แถมผอมบางและเตี้ยกว่าด้วยทั้งคู่!

     

     

    จุนฮเว นี่ อยาก ครายยยยยย TT

     

     

     
     

    *เอ๊ เอ๋ เอ๊*

     

    “แผนการนายใช่ไหมจีวอน?” เสียงยุนฮยองถามขึ้นตอนบ๊อบบี้เดินออกมาจากห้องน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ

     

    “อะไรหรอยุน แผนอะไร?” นุ่งผ้าเช็ดตัว เช็ดผมทำตาแบ๊วใส่เขาที่นั่งอยู่บนเตียง

     

    “อย่ามาทำไก๊ ฉันรู้นะว่านายวางแผนให้ฮันบินกับดงฮยอกเจอกัน ไม่งั้นนายไม่ให้ฉันโทรชวนดงฮยอกมากินข้าวด้วยหรอก” มองหลังคนตัวแสบที่กำลังใส่เสื้อผ้าอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า

     

    “โถ่ ยุนนน เห็นหน้าจุนฮเววันนี้แล้วสนุกจะตาย สะใจชะมัด ไอ้น้องแสบเจอซะบ้าง” หันมายกยิ้มให้อย่างร้ายกาจ ยุนฮยองถอนหายใจกับคนที่อยากแก้เผ็ดน้องรหัสตัวเอง

     

    “ฉันเชียร์ดงฮยอก” เข้าข้างน้องรหัสของตัวเองอย่างเต็มที่

     

    “ยังไงก็ต้องฮันบินสิ” เชียร์เพื่อนสนิทของตัวเองอย่างไม่ต้องคิด

     

     
     

    “พนันกันป่ะ? เยลลี่หมีหนึ่งห่อ”

     

     
     

    “สองห่อเลยก็ได้”

     

     

     
     
     

    END

     

     
     
     
     

    Talk: อย่าปาอะไรใส่ไรต์เลยนะคะ (ยกเว้นเยลลี่หมีนี่โอเค ฮ่าๆๆๆ) ไม่มีตอนต่อแน่นอนเพราะแต่งมานี่เลือกไม่ได้ค่ะบอกเลย ฮ่าๆๆๆๆ สารภาพค่ะจริงๆเรื่องนี้เป็นตอนที่พิเศษมาจากพล๊อตฟิคบ๊อบยุนเรื่องยาวของเรา แต่สุดท้ายแล้วเราแต่งเซ็ตนั้นไม่จบสักเรื่องเลย โถ่ๆๆๆๆ มีอารมณ์จะลองขุดๆมาแต่งต่อนะคะ ไว้เจอกันเรื่องหน้าค่า

     

    #ฟิคต่อเรือ

     

    Thanks For Sweet Lovely Theme : S H A L U N L A   T H E M E

     

     

    CR.SHL
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×