ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Topp Dogg] Rabbit & Turtle [Seogoong & Xero]

    ลำดับตอนที่ #1 : การเดินทางหนึ่งวันของกระต่ายน้อย [1/2]

    • อัปเดตล่าสุด 31 ม.ค. 58


    CR.SHL

    ติ๊ก.......ต๊อก......ติ๊ก.......ต๊อก

     

     

    ติ๊ก...ต๊อก...ติ๊ก...ต๊อก...ติ๊ก

     

     

    ต๊อก กริ๊ก....เสียงฟันเฟืองในตัวผมเริ่มดังขึ้น

     

     

    กริ๊ก.....กริ๊ก......ติ๊ก...ต๊อก....

     

     

    เสียงของนาฬิกากับเสียงฟันเฟืองกำลังตีกันอย่างสนุกสนานในหูของผม หูยาวซึ่งปกคลุมด้วยขนสีขาวทั้งสองข้างบนหัวพยายามจับเสียงนาฬิกาทำให้หูผมกระดิกตามจังหวะเสียง ผมลืมตาขึ้น กระพริบตาถี่ๆ ปรับโฟกัสของภาพแสนเบลอ จนสายตาเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน หันมองทางซ้ายและทางขวาช้าๆ

     

     

     

    คำถามแรก นี่ผมอยู่ที่ไหน?

     

     

     

     ให้ผมเดาที่นี่คงเป็นป่าที่ไหนสักแห่ง แน่ล่ะ ก็มันมีแต่ต้นไม้เต็มไปหมดเลย ต้นไม้สูงใหญ่ใบไม้สีเขียวปกคลุมพื้นดิน แสงแดดลอดผ่านใบไม้ทำให้ป่าแห่งนี้ไม่มืดมิดและแสงแดดมันช่างอบอุ่น......

    ใช่.....อบอุ่น ผมรู้สึกถึงความอบอุ่น จะว่าแปลกใจไหมก็ใช่ เหมือนไม่ได้สัมผัสความอบอุ่บมานาน

     

    และ....ผมชอบมัน


     

    ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เก่า หันซ้าย หันขวา มีเสาไม้กับชายผ้าสีเขียวขาดรุ่ยลง หันกลับมาด้านหน้ามีเก้าอี้ไม้เก่าเหมือนแบบที่ผมนั่งตั้งเรียงอยู่ อืมม อย่างนี้มันเรียกว่าอะไรนะ แบ่งฝั่งกัน อ่าใช่ เหมือนกับเวทีเลย ฝั่งผมเป็นคนแสดงและข้างหน้าเป็นคนดู


     

    "หาววววว เมื่อยจังเลยแฮะ" ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบ นั่งลงและยืดตัว อืมมม นี่ผมไม่ได้ขยับตัวนานแค่ไหนแล้วนะ หูของผมกระดิกอีกครั้ง ผมได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นมา จมูกดมฟุดฟิด ฉงกหัวมองไปตามเสียง ไปทางแถวเก้าอี้ตรงหน้า เห็นกล่องเพลงที่ตั้งอยู่บนเก้าอี้คนดูทางด้านหลัง เสียงเพลงช้าๆ แต่กลับสดใสและมีชีวิตชีวา มันช่างเป็นเสียงเพลงอันแสนคุ้นเคยและน่าคิดถึง ผมเดินพลางกระโดดไปตามจังหวะเสียงเพลง ผ่านแถวเก้าอี้ไปเรื่อยๆ...


     

    "ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก ฮึ้บ! ถึงล่ะ" ผมย่อตัวลงระดับเดียวกับกล่องเพลง มองมันอย่างสนใจ นิ้วมือของผมแตะไล่ไปตามคงขอบของกล่องเพลงใส มองเห็นเครื่องกลเล็กๆเคลื่อนไหวบรรเลงเสียงเพลงอย่างต่อเนื่อง ผมยกมันขึ้นมาแนบหู หลับตาฟังเสียง พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ผมเคยได้ยินเพลงนี้จากที่ไหนกันนะ ระหว่างที่ผมพยายามนึกเสียงเพลงก็หยุดลง

     

    "แหม หยุดได้จังหวะจริงๆ" ผมหมุนกล่องเพลงสำรวจรอบๆ เพื่อเปิดมันอีกครั้ง แต่สายตาของผมสังเกตุเห็นบางอย่างบนเก้าอี้ การ์ดใบเล็กสีขาวซึ่งมีข้อความสีชมพูเขียนอยู่บนนั้น ผมหยิบการ์ดขึ้นมาอ่าน


     

    "Dear My Xero....?"

     

     

     

    คำถามที่ 2 ผมเป็นใคร?

     

     

     

    ผมชื่อเซโร่งั้นหรอ เซโร่ เซโร่~ ชื่อของผมช่างดูเท่จริงๆ ผมยืนขึ้นเต็มตัวมองดูชุดของตัวเอง เสื้อเชิ้ตสีขาวลายทางสีน้ำเงิน สวมทับด้วยเสื้อกั๊กสีกรมท่า กางเกงขาสั้นสีเดียวกับเสื้อกั๊ก และตรงคอเสื้อของผมผูกด้วยโบว์สีแดง อย่างกับผมเป็นของขวัญน่ะ น่ารักดีแฮะ แต่จะว่าไปก็นึกไม่ออกเลย ว่าผมเป็นใคร เคยทำอะไร แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อืมมม ผมหลับตาลง พยายามคิด

     

     

    ติ๊ก ต็อก ติ๊ก ต็อก...


     

    "อ๊ากกกก" ผมส่ายหัวไปมา กับหัวสมองโล่งๆไม่อะไรอยู่ในนั้น ผมไม่นี่ไม่เหมาะกับการใช้ความคิดจริงๆ


     

    "อย่างนี้คุณคงจะบอกผมได้ใช่ไหมว่าผมเป็นใคร หืมม คุณ 'เจ้าของเซโร่'" ผมมองการ์ดในมือ สงสัยว่าผมต้องตามหาคนเขียนการ์ดแล้วล่ะ ว่าแต่จะไปทางไหนดี?


     

    หูของผมกระดิ๊กอีกครั้ง ได้ยินเสียงบางอย่าง สายตาเสมองไปทางด้านข้าง ต้นไม้ใหญ่ที่ใบไม้ร่วงหมดแล้ว ใต้ต้นไม้มี บางอย่างคล้ายกับอุโมงค์ ในอุโมงค์ประดับไปได้ผ้าหลากสีคลุมผนังไว้


     

    "หืม หื้ม หืม~" ผมเห็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ ขนาดตัวของมันเล็กมาก ถ้าไม่ใช่เพราะสีตัวของมันที่เป็นสีขาวทั้งตัวตัดกับสีผ้าตรงอุโมงค์ ผมคงไม่สังเกตุเห็นมัน ผมเดินตรงไปที่อุโมงค์ซึ่งขนาดใหญ่พอให้คนลอดผ่านไปได้


     

    "สวัสดี นายกระต่ายน้อย" ผมนั่งย่อลงไปมองเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเมื่อกี้ มันหันมามองหน้าผม หูของมันกระดิ๊กเหมือนกับหูของผมเลยแฮะ


     

    "ฟังฉันรู้เรื่องหรอ?" ผมยื่นมือให้มัน มันมองหน้าผม ปากมันขยับมุบมิบๆราวกับพูดกับผม แต่ไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดมา ผมเอียงหัวด้วยความสงสัย มันเดินเข้ามา จ้องหน้าผม ก่อนเอาหัวเข้ามาไถกับมือผม


     

    "เด็กดีๆ" ผมลูบหัวของมัน มันหยุดนิ่งจ้องหน้าผมอีกครั้ง ก่อนหันและวิ่งเข้าไปในอุโมงค์ ผมมองมันวิ่งเข้าไป เห็นมันหยุดยืนอยู่ข้างในด้วยสองขาหลัง มองกลับมาที่ผม


     

    จะให้ฉันเข้าไปหรอ?" ผมตะโกนเข้าไปในอุโมงค์ มันไม่ได้ตะโกนกลับมา แต่เหมือนผมจะเห็นมันพยักหน้าแทนคำตอบ

     

     

    "อืมม ไปก็ไป~" ผมเดินตามมันเข้าไปในอุโมงค์ ได้แต่คิดสงสัย

     

     

     

    อีกด้านหนึ่งเป็นยังไงนะ..

     

     

     

     +++++++++

     

     

     

    แสงสว่าง....และกลิ่นหอม...


     

    มือของผมยกขึ้นมาป้องกันแสงสว่างที่แยงตาเข้ามา หลังจากเดินออกมาจากอุโมงค์

     

    "อ้าว กระต่ายน้อยหายไปไหนแล้วล่ะ?" ผมพยายามมองหากระต่ายน้อยในขณะที่เดินไปตามทางพื้นหญ้าซึ่งทิศทางถูกบังคับด้วยพุ่มไม้ตกแต่งสูงเหนือหัวผมราวกับเป็นกำแพงสีเขียวกั้น สีเขียวของกำแพงถูกตัดด้วยสีของดอกกุหลาบขาวและชมพูบานอวดความสวยของตัวเอง ผมเดินไปตามทางจนถึงทางแยก


     

    "มีป้ายบอกทางด้วยแฮะ" ผมกระโดดพลางเดินเลี้ยงขวาตามป้าย

     

     

    'เป็นกระต่ายนำทางซะเปล่า อยู่มากี่ปีแล้ว ยังจำทางไม่ได้อีก'

     

     

    "ใคร...." ผมหยุดเดิน สายตาเบลอไปช่วงขณะกับสิ่งที่แวบเข้ามาในหัวของผม เสียงสำเนียงติดโมโหแต่มีความห่วงใยในนั้น ผมสีน้ำเงินแต่มองไม่เห็นหน้า มันติดอยู่ในหัวขอผม ผมเดินไปตามป้ายบอกทาง

     

    จนกระทั่ง...

     

    "ออกมาจนได้....นี่มัน...ว้าว...." ผมเดินออกจากทางวงกต สู่สวนดอกไม้หลากสี ท้องฟ้าสีฟ้าตัดกับสีสันของดอกไม้ทำให้ภาพตรงหน้าผมเป็นดั่งภาพวาด แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจมากที่สุดคือผ้าสีแดงตัดลายสก็อตที่ปูอยู่บนพื้น บนนั้นเต็มไปด้วย หมอนหลายรูปร่าง ฟูกเล็กใหญ่น่านอน และพร้อมด้วยขนมเล็กๆกับของประดับน่ารักมากมาย ราวกับเป็นปาร์ตี้เล็กๆ กลางสวนสวย


     

    "นี่เตรียมไว้ให้ใครกันนะ อ่ะ กระต่ายน้อย" ผมเดินเข้าไปนั่งข้างๆกระต่ายน้อยตัวเดิมที่กำลังนอนหนุนหมอนกลมทำหน้าพริ้มสบาย มองขึ้นไปรอบๆ....บรรยายที่นี่ช่างดีจริงจัง สามารถนั่งอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันเลยนะเนี่ย


     

    "กระต่ายน้อย ฉันนั่งที่นี่ได้ใช่ไหม?" มือของผมลูบขนนุ่มของกระต่ายน้อย มันไถหัวมันเข้ากับมือผม เหมือนแทนคำตอบ ก่อนที่....มันหลับไปดื้อๆซะอย่างนั้น


     

     

    "เห้ย อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิ แหม่" ผมบ่น และ....


     

     

    โครก~~~*


     

     

    ท้องของผมร้องขึ้นมาเสียงดังซะด้วย เขินแฮะ ดีนะไม่ทีใครอยู่แถวนี้ สายตาผมเริ่มสนใจขนมตรงหน้า ทั้งคัพเค้กตกแต่งด้วยครีมหลายสี ผมหยิบมันขึ้นมา คิดว่ามันจะอร่อยแค่ไหน แต่....


     

    "ของปลอมนิน่าาา บู้ววว" ผมยู่ปากพองแก้มด้วยความเซ็ง พอหยิบคัพเค้กทุกอันขึ้นเช็กมาดู คัพเค้กทั้งหมดทำมาจากปูน พอหยิบคุ้กกี้ขึ้นมากัดดูมันก็ทำมาจากหิน หลอกกันชัดๆ...


     

    "หิวอ่าาา" ผมโวยวาย หูกระดิกอีกครั้ง จมูกฟุดฟิด ได้กลิ่นหอมหวานๆของบางอย่าง ผมคลานไปตามทางกลิ่น ไปหยุดตรงหน้ามาการองสีน้ำตาลและสีชมพู ซ้อนกันอยู่บนจานแก้ว ผมหยิบมาการองสีน้ำตาลขึ้นมาดม กลิ่นหอม สัมผัสเนื้อ อ่าา ใช่เลย~


     

    "กินแล้วนะครับ~ " ผมกัดเข้าไปที่มาการองในมือ ลิ้มรสชาติของมัน

     

    และ....


     

    "ไม่อร่อยเลยยยยย แหวะ" รสชาติในปากของผมมันหวานและขม เรียกว่าอะไรนะ ออ ช็อกโกแลต ผมไม่ชอบช็อกโกแลต มันหวานขมประหลาด ผมวางมาการองที่ยังเหลืออีกครึ่งชิ้น และหยิบสีชมพูขึ้นมาแทน กลิ่นหอมหวานแต่สดชื่น ผมเล็มๆ มันยังไม่มั่นใจในรสชาติ

     

    แต่รสชาติแรกที่สัมผัสทำให้ผม...

     

     

     

    ยัดมันทั้งอันเข้าปาก....


     

    "งืมมม~ ฮา หย่อยย~~สาทอเบอยี่~~" ผมพูดทั้งที่เต็มปาก รู้ว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดีหรอก แต่มันอร่อยมากๆเลย รสชาติหวานอมเปรี้ยว ทำให้เลือดของผมตื่นตัวและซาบซ่าน อ่า อีกสักชิ้นนะ~

     

    ผมใช้เวลากับบรรยากาศ สายลมเย็นพัดผมปากหน้าผากของผมปลิวเบาๆ และดื่มด่ำกับรสชาติมาการองรสสตอเบอรี่ที่เหลือจนหมด ไม่เยอะหรอ แค่สิบอันเอง....


     

    "อิ่มจัง~~ และก็ง่วงด้วย~" แน่ล่ะ ท้องอิ่ม หนังตาก็หย่อน ความง่วงเริ่มเข้าครองงำ ผมนอนลงหนุนหมอนข้างกระต่ายน้อยที่ดูที่ท่าจะไม่ตื่นง่ายๆ ผมลูบขนของมันไปเรื่อยๆ รู้สึกขอบคุณที่พาผมมายังที่แห่งนี้ อืมม หนังตาหนักจัง

     

     

    ขอหลับสักหน่อยนะ....

     

     

    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×