ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Naruto - Ever After

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 รัตติกาลมาเยือน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 57


     


     

     

    เป็นอย่างไรบ้างท่านน้ำเสียงแสดงความร้อนรนถูกส่งออกมาจากชายสูงวัยเจ้าของนัยน์ตาสีมรกตที่กำลังจ้องมองมาทางสตรีเจ้าของใบหน้าสวยสดรับกับเรือนผมสีบลอนด์เบื้องหน้า

    ไม่พบอาการผิดปกติอะไรเลย ร่างกายของเธอปกติดีทุกอย่างเธอว่า ขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากัน น้ำเสียงดูเคร่งเครียดผิดแปลกไปจากเดิม เมื่อหาสาเหตุอาการป่วยของคนไข้ไม่ได้

    จะปกติได้อย่างไรเล่า เธอร้องเสียงทรมานขนาดนั้น ท่านก็ได้ยินไม่ใช่หรือ ท่านซึนาเดะเขาว่าน้ำเสียงร้อนรน ขณะที่คนฟังถอนหายใจพรืดเริ่มเบื่อหน่ายกับท่าทีของคนตรงหน้า เพราะพอเป็นเรื่องของบุตรสาวทีไรก็มาดหลุดไม่เป็นท่าทุกที

    ใจเย็นก่อนสิคิซาชิ ฉันเข้าใจว่านายเป็นห่วงลูก แต่ว่าตอนนี้ฉันยังสรุปอาการของเธอไม่ได้ ร่างการเธอปกติดีทุกอย่าง ไม่มีตรงไหนบาดเจ็บซึนาเดะว่า หวังเอาน้ำเย็นเข้าลูบ นัยน์ตาคู่สวยหันไปมองร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวที่กำลังหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงเพราะฤทธิ์ยา

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่เธอเป็นแบบนี้คิซาชิพูดให้คนฟังพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

    เป็นเช่นนี้มาหลายครั้งนับตั้งแต่เธอรู้จักกับหญิงสาวตรงหน้า เสียงกรีดร้องแสนทรมานราวกับเจ็บปวดเสียเต็มประดาทั้งที่ร่างกายไม่เคยแม้แต่จะปรากฏบาดแผลกับหยาดน้ำตาที่ไหลหนองใบหน้าสวยนั่นชวนให้คนมองใจหาย แม้จะตรวจกี่ครั้งร่างกายของหล่อนก็ปกติดีทุกอย่างไม่มีอวัยวะส่วนไหนบกพร่อง แล้วเสียงร้องนั่นกลับฟังดูราวกับเธอกำลังเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจตาย

     อาการป่วยที่แทบจะหาสาเหตุไม่ได้ทำเอาคนเป็นพ่อต้องวิ่งวุ่นตามหาหมอมารักษาหลายรายจนกระทั่งมาจบที่เธอ และถึงแม้ว่าจะเป็นเธอผู้ถูกกล่าวขานว่าเป็นที่หนึ่งในเรื่องการแพทย์แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุอาการป่วยให้เจ้าหล่อนได้

    ซากุระน้ำเสียงเรียกชื่อดูอ่อนแรง มือหนาของผู้เป็นพ่อเอื้อมไปจับมือบางของบุตรสาวพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

    หัวใจของคนเป็นพ่อแทบแตกสลายยามที่เห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเจ็บปวดทรมานครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะผ่านมาเนิ่นนานแต่ท่านกลับไม่เคยชินเสียที “พ่อควรจะทำอย่างไรดี พ่อควรจะทำอย่างไรลูกถึงจะพ้นจากความทรมานนี่เสียทีหากทำได้ท่านก็อยากจะแบกรับความเจ็บปวดทั้งหมดนั่นแต่เพียงผู้เดียว หรือถ้าไม่สักนิดก็ยังดีหากมันจะช่วยให้บุตรสาวของท่านเจ็บน้อยลง

    คิซาชิซึนาเดะเอ่ยเรียกพร้อมกับเอื้อมมือไปบีบบ่าเขาเบาๆอย่างเห็นใจ น้อยครั้งนักที่เธอจะเห็นบุรุษผู้เคร่งครึมยามเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาหรือจริงจังยามเมื่ออยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ขององค์กษัตริย์จะแสดงสีหน้าอันแสนอ่อนไหวราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน

    แต่กับบุตรสาวเพียงคนเดียวคนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ผู้เป็นใหญ่แห่งตระกูลฮารุโนะไม่เคยคิดที่จะปิดกลั้นความรู้สึกของตนเลยแม้แต่น้อย หรือเพียงเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคิซาชิผู้นี้มีเพียงบุตรสาวคนเดียวที่เป็นดั่งดวงแก้วตา เช่นกันกับที่ซากุระมีเพียงบิดาที่เป็นที่พึงเพียงหนึ่งเดียวในชีวิต การสูญเสียสตรีอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหันทำให้บุรุษตรงหน้าต้องทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับบุตรสาวในเวลาเดียวกัน ความรักที่มอบให้บุตรสาวตลอดมาจึงมากกว่าใครเป็นเท่าตัว

    อย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้นสิคะ ท่านพ่อน้ำเสียงฟังดูอ่อนแรงของบุตรสาวที่ดังขึ้นเรียกสติผู้เป็นพ่อ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด

    ซากุระ เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหน ปวดตรงไหนหรือเปล่าคำถามที่เธอต้องระบายยิ้ม ก่อนจะพูดให้หัวใจฟังต้องชื้นและถูกแทนที่ด้วยความโล่งใจ

    ลูกไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ไม่เจ็บไม่ปวดเหมือนทุกทีนั่นแหละเธอว่าตอบด้วยท่าทีเคยชิน ท่านพ่อต่างหากน่าจะเหนื่อย คงเฝ้าลูกมาตลอด ดูสิหน้าแก่ขึ้นเยอะเชียวคนถูกทักว่าหน้าแก่ทั้งที่แก่อยู่แล้วค้อนขวับ

    ท่านอาจารย์ ขอบคุณที่อุตส่าห์มารักษาให้ถึงที่นะคะ พลอยให้ลำบากไปด้วย แต่หนูไม่เป็นไรแล้วละค่ะเธอกล่าวขอบคุณสตรีอีกหนึ่งในห้องที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพทย์ที่คอยรักษาโรคประหลาดให้เธอเท่านั้นแต่ยังมีศักดิ์เป็นถึงอาจารย์ที่คอยอบรมสั่งสอนวิชาการแพทย์ให้เธอด้วยในเวลาเดียวกัน

    อย่าห่วงเลย ใช่ว่าฉันจะมารักษาให้เธอฟรีเสียเมื่อไหร่ประโยคที่ทำให้คนฟังหัวเราะอย่างชอบใจเพราะเคยชินอยู่เสมอกับคำพูดแนวนี้ของอาจารย์

    สบายดีก็ดีแล้ว ใครบางคนจะได้เลิกทำหน้าอมทุกข์สักที เห็นแล้วพลอยจะกินข้าวไม่ลงซึนาเดะยังว่าส่วนคนถูกกล่าวหาเริ่มร้อนตัว

    ฉันอมทุกข์เพราะเป็นห่วงลูกนี่ ผู้หญิงที่ไม่เคยมีลูก ผู้หญิงที่ทุกวันนี้ยังหาสามีไม่ได้แบบเธอไม่เข้าใจหรอกซึนาเดะอ้าปากค้างกับประโยคถัดมา ตั้งท่าจะเถียง แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเปิดประตูดังปัง

    ประตูไม้บานโตถูกเปิดออกโดยไม่ได้รับอนุญาตทำเอาผู้สูงวัยสองคนภายในห้องถึงกับสะดุ้งเฮือก หันไปมองต้นเสียงเตรียมจะโวยวายใส่เจ้าคนไม่มีมารยาท แต่บุรุษผู้มาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำเอาคำว่าทั้งหมดกลืนหายไปในลำคอ

    ชายหนุ่มร่างสูงสมส่วนเจ้าของเรือนผมสีทองยุ่งเหยิงติดจะไม่เป็นทรง ใบหน้าหล่อเหลาที่มักจะฉายแววกวนประสาทคนมองอยู่เป็นนิจถูกแทนที่ด้วยความตื่นตระหนกที่น้อยคนนักจะได้เห็น นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยพาดผ่านไปด้วยรอยแห่งความกังวล  และถึงแม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแสนธรรมดาแต่ก็ไม่อาจกลบรัศมีของสายเลือดสีน้ำเงินของเจ้าตัวได้เลยแม้แต่น้อย

    ถวายความเคา…” ยังไม่ทันที่ผู้สูงวัยทั้งสองจะกล่าวถ้อยคำทำความเคารพจบ คนอายุน้อยแต่มากยศกว่าก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้าวฉับๆประชิดตัวร่างที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับสวมกอดร่างบางทันควัน

    อากัปกิริยาที่ทำเอาคนเป็นพ่ออ้าปากค้าง ตาโตเท่าไข่ห่าน อยากจะเข้าไปกระชากตัวออกมาแล้วปะเคนให้สักหมัดสองหมัดถ้าไม่ติดว่าเจ้าคนที่กำลังลวนลามลูกสาวท่านอยู่นั่นมีศักดิ์เป็นถึงเจ้าชายรัชทายาท

    ใช่ เจ้าชายรัชทายาท อุซึมากิ นารูโตะ แห่งราชวงศ์อุซึมากิ รัชทายาทเพียงหนึ่งเดียวในกษัตริย์ มินาโตะ และ สมเด็จราชินี คุชินะ

    คนถูกลวนลามโดยไม่ทันตั้งตัวหนาขึ้นสี พยายามขืนตัวออกจากอ้อมกอดที่แสนจะถือวิสาสะ แต่มีหรือแรงหญิงสาวจะสู้แรงชายหนุ่มได้ กอดอยู่อย่างนั้นชั่วครู่ร่างสูงก็ผละออก เอ่ยถามเธอด้วยใบหน้าจริงจังที่นานทีจะมีหน คิ้วเข้มขมวดมุ่น

    ซากุระ เป็นอย่างไรบ้าง เจ็บตรงไหน ปวดตรงไหนหรือเปล่าประโยคที่ซึนาเดะพูดได้คำเดียวว่าเหมือนจนแทบจะเรียกว่าลอกมาจากคิซาชิเมื่อครู่นี้ดังขึ้น ส่วนคนโดนลอกคำพูดถึงกับถลึงตามอง คิ้วกระตุก หนวดกระดิก

    ถวายความเคารพเพคะเจ้าชายเสียงหวานเอ่ย ทำท่าจะลุกขึ้นเพื่อแสดงความเคารพ แต่กลับถูกเขาดันตัวให้อยู่กับที่

    อย่าทำอะไรให้มากความนักเลย คนป่วยนะอยู่เฉยๆก็พอแล้วชายหนุ่มว่า แล้วต้องให้บอกกี่ครั้งว่าอย่าเรียกฉันด้วยสรรพนามลิเกพรรค์นั้น เรียกชื่อเฉยๆก็พอแม้เขาจะพร่ำบอกหญิงสาวตรงหน้าอยู่หลายครั้งหลายหนว่าสำหรับเธอเขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ แต่ดูเหมือนหล่อนจะชอบทำเป็นหูหวนลมเสียทุกครั้งไป น่าจับสั่งสอนเป็นยิ่งนัก

    คงไม่ได้หรอกพะยะค่ะ จะให้ซากุระเอ่ยเรียกนามพระองค์ได้อย่างไร มันไม่เหมาะไม่ควรพะยะค่ะน้ำเสียงที่ดังขึ้นชวนให้คนฟังเสียวสันหลังวาบ ก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียงที่บัดนี้ใบหน้าที่มักจะฉายแววดุดันอยู่แล้วกลับดูน่ากลัวยิ่งไปกว่าเก่า

    ง่า ท่านคิซาชิ ท่านซึนาเดะก็อยู่ด้วยหรือเพราะความเร่งรีบทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีบุคคลอื่นยืนอยู่ในห้องด้วย น้ำเสียงและสายตาที่ดุดันที่ส่งมาให้ทำให้คนมองเข้าใจได้ทันทีว่าชายสูงวัยผู้นี้คงได้ชมฉากที่เขาลวนลามลูกสาวตนเข้าไปเต็มสองตา

    กระหม่อมอยู่ที่นี่มานานแล้วคิซาชิพูดนำเสียงราบเรียบ นานพอที่จะเห็นเจ้าชายลวนลามลูกสาวของกระหม่อมคนฟังได้แต่เกาหัวแกรกๆ ยิ้มจืดส่งให้ ก่อนจะขอโทษขอโพยให้คนทำตัวเป็นพ่อหวงลูกสาวต้องถอนหายใจอย่างปลงกับกิริยาไม่สมฐานะของคนตรงหน้า

    ยังจำได้ดีถึงครั้งหนึ่งวันที่ท่านกำลังประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอยู่กับองค์กษัตริย์และเหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลายอยู่ที่ห้องท้องพระโรงในวังหลวง บรรยากาศแสนเคร่งเครียดถูกทำลายลงด้วยเสียงเปิดประตูดังลั่นพร้อมกับร่างของเจ้าชายตรงหน้าที่เมื่อตอนนั้นยังอายุได้เพียงสิบสามชันษาที่ปรากฏขึ้น ก่อนจะวิ่งพรวดพราดเข้ามายืนตรงหน้าท่าน แววมั่นคง เด็ดเดี่ยวและจริงจังฉายผ่านดวงตาสีฟ้าที่สบกับท่านอย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้ทั้งท้องพระโรงต้องตกอยู่ในความเงียบ

    ได้โปรด ยกบุตรสาวของท่านให้มาเป็นพระชายาของผมด้วย!”

     คำประกาศของลูกสาวท่านดังก้องเล่นเอาท่านแทบจะลมจับ ทุกคนในห้องอ้าปากค้าง ตาแบบจะถลนออกมานอกเบ้า ไม่เว้นแม้แต่กษัตริย์มินาโตะที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ทอง

    สำหรับเจ้าชายรัชทายาทองค์นี้ท่านคงต้องยกให้เป็นที่หนึ่งในเรื่องการกระทำที่แสนจะเหนือความคาดหมาย แต่ในความใจร้อนและหุนหันพลันแล่นกลับแฝงไปด้วยความมั่นคงเสมอมา

    ผมขอให้สัญญาด้วยเกียตริของเจ้าชาย ว่าผมจะรักและให้เกียตริลูกสาวของท่านนับแต่นี้และตลอดไป!’

    เจ้าชายในวัยสิบห้าชันษากับถ้อยคำสารภาพรักที่คนฟังอย่างท่านไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่เอาไปบอกกับลูกสาวท่านแต่กลับเอามาป่าวประกาศให้ท่านทราบแทน แต่ในความประหลาดใจกลับแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ความรู้สึกที่ทำให้ท่านตัดสินใจที่จะฝากชีวิตอีกครึ่งที่เหลือของบุตรสาวไว้ในมือเด็กหนุ่ม

    แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาเจ็ดปี กาลเวลาที่ไหลผ่าน เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มกลายเป็นชายหนุ่ม แม้รูปโฉมจะงดงามมากขึ้น ยศถาบรรดาศักดิ์จะสูงส่งขึ้น แต่เจ้าชายตรงหน้ากลับทรงพิสูจน์ให้ท่านเห็นเสมอมาว่าคำสัญญาที่ตนเคยประกาศก้องไม่ใช่แค่เพียงลมปาก

    ทรงโดดงานมาอีกแล้วใช่ไหมเพคะเสียงหวานว่าอย่างคนรู้ทัน คนโดดงานได้แต่ส่งยิ้ม

    ก็เพราะใครกันเล่าที่ทำให้เขาต้องทิ้งงานที่กำลังทำอยู่ออกมาแทบจะทันทีที่ได้ยินราชองครักษ์ประจำตัวนำข่าวของเจ้าหล่อนมาทูล

    แวบแรกที่ได้ยินว่าเจ้าหล่อนเจ็บหนักหัวใจของเขาก็แทบจะล่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม รีบกระโดดขึ้นหลังม้าไม่ฟังเสียงร้องห้ามของเหล่าข้าราชบริวารที่อยู่แถวนั้น ด้วยเพราะกลัว

    กลัวเหลือเกินว่าจะสูญเสียเธอไปตลอดกาล หากเป็นเช่นนั้นหัวใจของเขาคงจะแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี

    ครั้งก่อนไหนว่ารักษาแล้วไม่เป็นอะไร แล้วทำไมถึงได้มีอาการขึ้นมาอีกเขาถามน้ำเสียงเคร่งเครียด

    แม้ว่าจะไม่เคยเห็นยามที่เจ้าหล่อนมีอาการกับตาสักที แต่จากที่ได้ยินจากผู้เป็นพ่อและแพทย์ที่ทำการรักษามา แค่นั้นเขาก็พอจะรู้ว่าเจ้าหล่อนคงทรมานมากขนาดไหน แค่ฟังเขาก็รู้สึกว่าเจ็บแล้ว แล้วเจ้าตัวละจะรู้สึกเจ็บกว่าเขามากมายขนาดไหน เพราะอย่างนั้นถึงได้ส่งท่านซึนาเดะแพทย์หลวงประจำวังมาดูและรักษาแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล

    หม่อมฉันเองก็ไม่ทราบเพคะเธอจงใจไม่ตอบคำถามแม้จะรู้ดีอยู่แล้วว่าอาการเจ็บหน้าอกบ่อยครั้งของเธอไม่ได้มาจากอาการป่วยแต่อย่างใด

    มันปรากฏอาการทุกครั้งที่ภาพของใครบางคนฉายชัดในดวงตา ใครคนนั้นที่เธอยังคงฝันถึงอยู่บ่อยครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เสียงร้องของเขาฟังดูทรมานชวนให้หัวใจของเธอเจ็บแปลบราวกับมีดที่กรีดลงบนหัวใจของเธอ ความเจ็บที่ฝังรากลึกลงกลางใจ และเปลวไฟที่กำลังแผดเผาตัวเธออยู่ในความฝันนั่นยังคอยตามหลอกหลอนตั้งแต่เธอจำความได้

    แม้จะเฝ้าถามคำถามกับตัวเองมาตลอดว่าเขาเป็นใคร แม้อยากจะรับรู้เรื่องราวของเขามากเพียงไหน แต่เธอกลับไม่กล้า กลัวเหลือเกินว่าถ้าหากถลำลึกลงไปมากกว่านั้น จะเป็นตัวเธอเสียเองที่ต้องพังพินาศ

     

     

     

     

    รถม้าสีดำสนิทคันหรูถูกลากปุเลงๆมาจอดเทียบเคียงอยู่หน้าประตูรั้วเหล็กดัดสีดำสนิทที่พื้นที่กว่าครึ่งรั้วถูกพันเกี่ยวไปด้วยพันธุ์ไม้เลื้อยราวกับเจ้าของไม่เคยคิดใส่ใจที่จะดูแล ประตูรั้วที่ขวางกั้นระหว่างโลกภายนอกและคฤหาสน์หลังโตสีดำสนิทกับสวนข้างหน้าที่อดทำให้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นชวนคิดว่าเจ้าของคงมีรสนิยมประหลาด เมื่อสวนทั้งสวนถูกตัดแต่งให้ดูราวกับเขาวงกต มีเพียงเส้นทางตรงกลางเท่านั้นที่เปิดโล่งทอดยาวไปสู่ประตูไม้บานโตของคฤหาสน์ คฤหาสน์ที่ชวนสยองมากกว่าจะชวนมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามนี้ ยามที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีรัตติกาลเมื่อไร้ซึ่งดวงตะวัน

    เสียงเปิดประตูรถม้า พร้อมกับบุรุษในชุดสูทตัดเย็บอย่างดีสีดำสนิทก้าวลงมา เจ้าของใบหน้ารูปสลักปรากฏสู่สายตาทำเอาบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เดินผ่านต้องเหลียวหลังกลับมามองจนคอแทบจะเคล็ดกันเป็นแถว แม้บุรุษผู้นี้จะมีผิวขาวจนแทบจะซีดแต่มันกลับทำให้เจ้าตัวดูดีมากกว่าจะดูแย่ และยิ่งดูดีเป็นเท่าตัวยามเมื่อเจ้าของนัยน์ตาคู่คมสีดำสนิทเฉกเช่นสีผมขยับแย้มรอยยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย การกระทำราวกับจะหลอกล่อให้เหยื่อเดินเข้ามาติดกับ

    และดูเหมือนมันจะได้ผลเป็นอย่างดี เมื่อร่างเล็กของใครบางคนเซถลามาแหมะอยู่ที่อกแกร่งให้เขาต้องรับร่างนั้นไว้อ้อมแขน ก่อนจะเจ้าหล่อนจะแสร้งทำเป็นร้องตกใจประหนึ่งเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญที่เจ้าหล่อนเผลอเดินสะดุดก้อนหินในจินตนาการแล้วมาซบลงที่อกเขา
      

    เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เสียงนุ่มทุ้มสุภาพดังขึ้นข้างหูทำเอาแม่สาวนักจินตนาการถึงกับสะดุ้งเฮือก ใบหน้าร้อนฉ่า ก่อนจะพึมพำตอบกลับ

    ไม่ค่ะ ดิฉันสบายดีหล่อนบอกทั้งที่ใบหน้ายังแดงจัดเพราะความเขินอายที่มีต่อบุรุษตรงหน้า มันราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างเชิญชวนให้เธอก้าวเท้าเข้ามาหาเขา รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในวงแขนเขาเสียแล้ว

    แต่สีหน้าของคุณดูไม่ค่อยจะดี มีไข้หรือเปล่าไม่ว่าเปล่าเจ้าตัวก็เอามือขึ้นวัดอุณหภูมิกับคนในอ้อมแขน ให้คนโดนกระทำเต้นหัวใจไม่เป็นส่ำ คงเป็นเพราะอากาศเขาว่า ไม่ได้โกหก เพราะอุณหภูมิในตอนกลางคืนที่ลดลงฮวบหาบต่างจากตอนกลางวันอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของใครบางคนโดยเฉพาะร่างในอ้อมแขนที่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่หนาสักเท่าไหร่

    เอาอย่างนี้ เข้าไปในบ้านผมก่อนให้ร่างกายอบอุ่นดีก่อน แล้วผมจะให้คนขับรถม้าพาไปส่งที่บ้าน คำตอบของหญิงสาวเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว เพราะในเมื่อขอเสนอแสนยั่วยวนอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว แล้วใยเธอจะไม่สนอง






           “ดิฉันผ่านมาแถวนี้บ่อยไม่เคยเห็นคุณเลย เพิ่งย้ายมาใหม่หรือคะ หญิงสาวที่เพิ่งเจอเมื่อครู่เอ่ยถามขณะที่กำลังนั่งจิบนมร้อนอยู่บนโซฟาตัวยาวสีแดงสดหน้าเตาผิง เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าคฤหาสน์หลังนี้ถูกเจ้าของเก่าทิ้งร้างไปนานหลายปีแล้ว


                    “ผมเห็นว่าเป็นคฤหาสน์ที่ราคาถูกเมื่อเทียบกับหลังอื่นในแทบนี้ ก็เลยตัดสินใจซื้อเขาตอบในขณะที่กำลังเลือกแผ่นเสียงที่ชั้นวาง

                    “ทำไมอยู่ๆถึงย้ายมาละคะหล่อนยังคงสงสัย ชายหนุ่มขยับรอยยิ้มยามเมื่อนึกถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของเขา

                    “ผมมีธุระต้องจัดการเมื่อเห็นเขาพยายามเลี่ยงคำตอบ คนฟังจึงตั้งใจจะเปลี่ยนคำถามเมื่อสายตาดันไปสังเกตเห็นกล่องไม้ขนาดหนึ่งคนนอนรูปร่างคุ้นตาสีดำสนิทวางอยู่มุมห้อง แต่ก่อนจะนึกได้ว่าเธอเคยเห็นมันที่ไหนเสียงเพลงจากเครื่องเล่นก็ดังไปทั่วห้องให้เธอละทิ้งความสนใจจากสิ่งที่กำลังสงสัย พร้อมกับร่างสูงของใครบางคนที่มายืนอยู่ข้างหลังโซฟาที่เธอนั่งอยู่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หญิงสาวเอี้ยวหน้าไปมองขณะที่ชายหนุ่มก้มลงกระซิบข้างหู

                    “เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ คุณผู้หญิงน้ำเสียงนุ่มทุ่มแสนแผ่วเบาทว่ากลับเชื้อเชิญให้เธอตอบรับโดยไม่ลังเล

                    ชายหนุ่มโอบเอวบางพร้อมออกแรงดึงเข้าหาตัวเล็กน้อยให้เธอขยับใกล้ชิด มือที่ว่างอีกข้าก็จับมือบางยกขึ้นในท่าเต้นรำ สองเท้าก้าวย่างไปตามจังหวะเสียงเพลงออกนำให้ร่างในวงแขนต้องก้าวตามจังหวะ นัยน์ตาสีรัตติกาลที่ราวกับมีแรงดึงดูดมหาศาลตรึงนัยน์ตาสีอ่อนของหญิงสาวให้จับจ้องอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งเสียงเพลงเงียบลง

                    ทันทีกับที่ร่างสูงดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดเรียกเสียงตกใจเบาๆที่มาพร้อมกับจังหวะการเต้นของหัวใจที่รุนแรงจนแทบจะหลุดออกมากนอกอก ก่อนจะยอมให้บุรุษที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงชั่วยามฉวยโอกาสอยู่เช่นนั้น และไม่รู้ว่าความใจกล้าที่มาจากไหนส่งผลให้เธอยกแขนขึ้นโอบกอดรอบคอชายหนุ่มตอบ พร้อมกับเสียงเพลงที่ดังขึ้นอีกครั้งราวกับมีเวทมนตร์

    เจ้าของนัยน์ตาสีรัตติกาลแย้มรอยยิ้ม มือหนาจัดการรวบเรือนมผมสีเข้มที่สยายเกะกะระต้นคอของร่างในอ้อมกอดไปไว้อีกข้างหนึ่งเผยให้เห็นลำคอขาวเนียน ใบหน้าหล่อเหลาเอียงคอก้มลงสูดความหอมจากนวลแก้มไล่ไปตามใบหูให้คนถูกกระทำต้องเสียววาบ แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่ผิดปกติจากริมฝีปากที่บริเวณลำคอ ชายหนุ่มเผยอริมฝีปากเผยให้เห็นฟันรูปประหลาดอย่างที่คนปกติทั่วไปไม่เคยจะมี พร้อมกับนัยน์ตาสีรัตติกาลที่ถูกแทนที่ด้วยสีแดงสว่างวาบในความมืด ใบหน้าหวานฉายแววประหวาดใจชั่วครู่กับสัมผัสที่ต้นคอ ก่อนจะต้องสะดุ้งอย่างสุดตัวและกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อถูกคมเขี้ยวของชายหนุ่มฝั่งลงที่ลำคอ!




    ************************************************************
                 เปิดตัวตัวละครหลักไปแล้ว สามคน จริงวางพล็อตไว้ว่าเป็นซาสึเกะกับซากุระ แต่ไหงเขียนไปเขียนมาดันชอบตอนเขียนนารูโตะกับซากุระก็ไม่รู้ (กำ) ดูมีโมเม้นมุ้งมิ้งน่ารัก พ่อตาลูกเขย ฮ่าๆ คาแร็คเตอร์ตัวละครคงไม่มีเหมือนในหนังสือการ์ตูนไปเลย นารูโตะอาจจะดูดี(?)ขึ้น ซากุระนี่แทบจะเปลี่ยนบุคลิค ส่วนซาสึเกะยังเย็นชาเหมือนเดิม แต่อาจจะแสดงอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น เพราะถ้าให้เป็นแบบออริจินอลคงไม่มีพื้นที่ในนิยายเรื่องนี้ให้ (ฮ่าๆ) นารูโตะคงได้เป็นพระเอกแทน

                 อันที่จริงนี่เป็นทั้งฟิคแล้วก็นิยายเรื่องแรกเลยที่เคย ภาษาที่ใช้อาจจะงงๆบ้างเพราะไม่ถนัดเลย แต่ด้วยความที่ช่วงนี้ว่าง(มาก) เลยมีโอกาสกลับมาอ่านารูโตะใหม่อีกรอบ โบกธงเชียร์คู่ซาสึเกะ ซากุระมาคตลอด ไม่เคยจะได้สมหวังสักที ขัดใจมาก เลยมโนเองเลย พอดีช่วงนี้เพิ่งได้ดูซีรี่ย์แนวแวมไพร์ด้วยเลยเอามาปนกันซะงั้น (ฮ่าๆ) 

                 สุดท้าย หวังว่าทุกคนที่หลงเข้ามาคงถูกใจนะคะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×