คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #104 : Translate :: The Epic of Zektbach - Empress Matin [Part 2]
พาร์ท 2 มาแล้วค่า รู้สึกพาร์ทนี้จะแปลยากยังไงชอบกล
หรือเพราะเป็นเืรื่องเกี่ยวกับการช่อราษฎร์บังหลวงในวังกันน้า หรือเพราะมีแต่ตาลุง (ฮา)
แต่โดยส่วนตัวก็สงสารมาตินเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาที่คนอื่นเชิดไปเชิดมาเลย
สำหรับเพลงประจำบทนี้คือ Innocent Wish ~Matin~ นะค้า!!
============================================================================
The Epic of Zektbach - Empress Matin
Part 2 - หัวใจเยือกแข็งแห่ง Niogllado
สายลมเหนือพัดผ่านความเย็นยะเยือกจากทุ่งน้ำแข็งชานโทล (Chantoll) ขึ้นมา ส่งผลให้ฤดูหนาวในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หนาวเย็นกว่าทุกปี ผิวของทะเลสาบเซนต์ตริส (Saintris) เยือกเข็งจนกลายเป็นน้ำแข็ง ส่องประกายล้อแสงอาทิตย์วิบวับน่าดูชม เฉกเช่นกับประชาชนชาวโนวาริสต้าที่กำลังรีบเร่ง มีหลายสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จก่อนถึงเทศกาลเซลิออส!! (Celios)
ถนนหนทางในโนวาริสต้านั้นเต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียดและพลุกพล่านกัน ไม่ต่างจากในพระราชวัง อาร์คบิชอปเอเลนอร่า (Eleonora) กำลังเรียกประชุมบิชอปในอาณัติของนางเพื่อตระเตรียมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ประจำปีแห่งทรีซาเจียน (Trisagion)
จักรพรรดินีมาตินนั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระนาง ฟังรายงานเกี่ยวกับการจัดการเฉกเช่นเคย ทว่าตอนนี้จิตใจของพระนางกลับเต็มไปด้วยความว้าวุ่น
‘ฟาโล...’ พระนางครุ่นคิด ‘เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ข้าไม่ได้ข่าวคราวจากเจ้าเลยตั้งแต่วันนั้น... เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ารึเปล่านะ?’
ตั้งแต่เธอสั่งให้ฟาโลตามหาน้องชายก็ผ่านมานานสามเดือนแล้ว แต่เธอกลับไม่ได้รับความคืบหน้าจากเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่มีแม้กระทั่งข้อความเดียว
“...รายงานของข้าจบลงเท่านี้ขอรับท่านลอร์ดมาติน ขออภัย มีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือขอรับ?”
มาตินผง่ะ ก่อนหันไปมองธีโอ (Theo) นายกรัฐมนตรีแห่งอาณาจักรและอาจารย์ของเธอ ผู้แก่ชราและมีดวงตาอันอ่อนโยน
“ลอร์ดมาติน ข้าเข้าใจว่าท่านกังวลเกี่ยวกับฟาโลแค่ไหน” ชายชรากล่าวอย่างหนักแน่น “แต่ข้ามั่นใจว่าทุกสิ่งต้องเป็นไปด้วยดี โปรดอย่ากังวลเลย ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องกลับมาเร็วๆนี้แน่นอน อย่างปลอดภัยและแข็งแรงดี”
“ข้ารู้... ขอบคุณมากธีโอ ข้าเชื่อใจเขา... แต่ข้าทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่คอยเป็นห่วงเท่านั้น อีกอย่างพวกกบฎเองก็...”
ความสงบสุขในเมืองนอยกราโด (Noigllado) ยิ่งจะเลวร้ายลงนับตั้งแต่วันนั้น เมืองมาดูรา (Madura)เองก็กำลังจะล่มสลายจากการก่อจลาจล แม้แต่ตอนนี้ก็ยังหาสาเหตุของการก่อจลาจลนั้นไม่ได้ แต่คาดว่าเหตุน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดระหว่างพวกชนชั้นล่างกับภาคศาล การตัดสินที่ผิดพลาดสร้างความเดือดดาลให้กับประชาชนร่วมสัปดาห์ และไม่หยุดจนกว่าจะทำลายศาลรวมทั้งโบสถ์ทริซาจีโอนิด (Trisagionid) ให้พังพินาศลง ในท้ายที่สุดทางการได้ส่งอัศวินหลวงไปเพื่อไกล่เกลี่ยปัญหา แต่ถึงกระนั้น ปัญหาในครั้งนี้เองคงถูกจารึกไว้ว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
การปกครองแบบทรราชของราชาองค์ก่อน... การล่มสลายของอาณาจักรอะซูวกาธ... และการขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดินีมาติน...
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ราวกับว่าจะเป็นลางถึงเหตุการณ์ร้ายแรงเกินจะคาดเดาที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“ธีโอ ข้าไม่เข้าใจเลย... เหตุใดพวกเขาถึงต่อต้านทริซาจีโอนิดด้วยล่ะ?” มาตินถามด้วยแววตาใสซื่อราวกับเด็กๆ “ทรีซาจีโอนิดเป็นผู้สร้างทุกๆสิ่งที่เรามี เป็นรากฐานของความสงบที่ยั่งยืน พวกเขาปฏิเสธไม่ยอมรับความสงบสุขได้อย่างไรกัน?”
“เรื่องนั้น...ข้าเองก็ไม่ทราบ” ธีโอชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆตอบมาอย่างแผ่วเบา “บางทีพวกเขาอาจจะเป็น ‘ปีศาจ’ ก็เป็นได้ขอรับ”
“ปีศาจหรือ...”
พระนางไม่เคยรับรู้โลกภายนอก มาตินผู้อ่อนเยาว์นั้นอ่อนโยนและใสซื่อเกินกว่าจะเข้าใจคำว่า ‘ปีศาจ’
เธอทุ่มเทศรัทธาไปที่ทรีซาจีโอนิดอย่างมืดบอด เธอเชื่อว่าทุกคนบนโลกใบนี้มีความรักให้แก่กันและกัน ใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาและสามัคคีภายใต้กฎแห่งทรีซาจีโอนิด เธอไม่เคยรับรู้ถึงโลกเบื้องล่างเลย เหตุใดคนอื่นถึงต้องขัดขืนกฎ? แม้เธอจะพยายามหาเหตุผลเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจทำความเข้าใจมันได้เลย
มองเห็นอาณาจักรมากมายที่ล่มสลายอยู่รอบเธอนั้น ตัวเธอเองก็ไม่ต่างกับลูกแมวที่กำลังยืนอยู่บนหลังคาตะกั่วที่กำลังร้อน คือกำลังร้อนทุรนทุราย แต่ลงจากหลังคาหรือหาทางออกไม่ได้
“ขออภัยขอรับ องค์จักรพรรดินี”
ชายผู้หนึ่งก้าวเข้ามาในห้องบัลลังก์ ชายผู้นั้นมีดวงตาคมกริบและเย็นชา
“ธีโอ นั่นเจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” เขาตะคอก ชี้ไปที่กระดาษในมือของชายชรา “ดูรายงานนี้สิ! ยังจะเรียกว่าปกครองบ้านเมืองให้สงบสุขได้อยู่อีกรึ!?”
ชายผู้นี้คือ มาเทียส (Mathias) ตัวแทนจากอาเจียน่า (Agiona)
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในฟาลูนรึเปล่า พวกมันกล้าต่อต้านอัศวินศักดิ์สิทธิ์ของเรา! พวกมันกำลังฝ่าฝืนกฎ!!”
ธีโอไม่ได้มีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย กลับกัน เขาเองก็พยายามปกครองเมืองฟาลูนอย่างยุติธรรมเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่กลับไม่มีสิ่งใดดีขึ้นเลย เขารู้เสมอว่าเหตุการณ์เช่นนั้นจะต้องเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง
“มาเทียส ตะคอกเหมือนหมาบ้าแบบนั้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ เจ้าไม่คิดหรือว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาสาเหตุและจัดการให้เรียบร้อยมิใช่หรือ?”
“สาเหตุเรอะ?” มาเทียสเยาะเย้ย “เจ้าพูดถึงอะไรอยู่? ไม่ใช่ว่าทั้งหลายทั้งมวลที่มันเกิดขึ้นเป็นเพราะความไร้ความสามารถและความโง่เขลาของเจ้าหรอกรึ? การที่ต้องควบคุมเรื่องแบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบของเจ้า! ถ้าเจ้าไม่เร่งแก้ไขก่อนถึงงานสัมมนา H4 ล่ะก็ ข้าจะไม่แปลกใจเลยหากได้เห็นหัวเจ้าในลานประหาร!”
มาตินตกตะลึง เธออ้าปากขึ้นเพื่อเอ่ยคำคัดค้าน แต่ก่อนที่ถ้อยคำใดๆจะออกจากริมฝีปากของเธอ มาเทียสก็กระแทกท้าวปึงปังออกจากห้องไป
“สุนัขรับใช้ของพวกซาเรียลี่ (Sariely)...”
“การสัมมนา H4” คือการประชุมของสภาสูงสุดซึ่งประกอบด้วยชนชั้นสูงทั้งสี่เท่านั้น (คือ นายกรัฐมนตรี องครักษ์หลวง อาร์คบิชอป และอาเจียน่า) ที่อนุญาตให้เข้าร่วม แต่ตอนนี้ อำนาจที่แท้จริงของอาณาจักรอันศักดิ์สิทธิ์กลับอยู่ในมือของผู้นำอาเจียน่า เขานั่งอยู่เหนือผู้อื่นในที่ประชุม เข็มกลัดออโรบอรอส (Ouroboros) ส่องประกายวาววับ
หรือจะกล่าวได้ว่า อาณาจักรทั้งมวลกำลังเต้นร่าอยู่รอบๆเข็มกลัดออโรบอรอสนั้นเอง
‘หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ สิ่งใดจะรออาณาจักรเราอยู่เบื้องหน้ากันนะ?’
ธีโอพยายามอย่างหนักเพื่อให้เพื่อให้อนาคตเป็นไปอย่างที่เขาคิด อนาคตที่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้
“ธีโอ เจ้าเป็นอะไรไป?”
ชายชราเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะประสบกับดวงตาเป็นกังวลของมาติน
“อา ท่านลอร์ดมาติน!” เขาร้อง อับอายเหลือเกินที่เผลอปล่อยใจไปกับความคิดไปได้ “ข้าต้องขออภัยอย่างสูงจริงๆที่ทำให้ท่านต้องมาเห็นตัวข้าเช่นนี้ พระองค์โปรดอภัยให้กับความหยาบคายของมาเทียสด้วยเถิดขอรับ... ข้าว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ คงแค่กำลังวิตกกังวลกับสถานการณ์มากจนเกินเหตุเท่านั้นเอง” รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าระบายบนใบหน้าเหี่ยวย่นของชายชราเล็กน้อย “ข้าเชื่อว่าพวกเราทุกคนรักประเทศนี้ และคงไม่อยากให้เกิดอะไรที่จะเป็นอันตรายกับประเทศนี้หรอกขอรับ”
เขาพูดได้เพียงเท่านี้แค่นั้น มาตินผู้น่าสงสารไม่รู้วิธีกล่าวโทษผู้อื่น นั่นคงจะเป็นสาเหตุที่ซาเรียลี่เลือกเธอก็เป็นได้
และชายชราก็ตกอยู่ในความคิดของตนอีกครั้งหนึ่ง
‘ลอร์ดเรียแลนด์... ราชาองค์ก่อนเองก็ถูกพวกนั้นบงการเหมือนกัน พระองค์ถูกบีบบังคับให้ทำสงครามกับอะซูวกาธ และต้องโทษประหารชีวิตอย่างโหดร้ายจากการกระทำนั้น เช่นนั้นแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับลอร์ดมาตินกัน?’
ความรู้สึกเวทนาก่อตัวขึ้นในหัวใจของธีโอ
“โอ ซานตา ริสทาคเซีย (Santa Ristaccia)... ข้าไม่อยากเห็นเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว พระนางเป็นเพียงแค่เด็กสาวตัวเล็กๆ แต่ตัวข้าจะทำอะไรได้เล่า? ข้าแก่ชราเกินกว่าจะต่อต้านออโรบอรอสแล้ว...”
เขาคิดที่จะเล่าความคิดนี้แด่พระนาง จึงค่อยๆเอ่ยปาก
“ลอร์ดมาติน ข้าคิดว่า...”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ประตูท้องพระโรงก็ถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของอัศวินหนุ่มที่ก้าวเท้าเข้ามาอย่างผึ่งผาย
“ข้าแต่องค์จักรพรรดินี โปรดอภัยให้กับความล่าช้าของข้าที่ทำให้พระองค์ต้องรอด้วยเถิด”
อัศวินผู้นั้นคืออัศวินผู้ที่เธอเชื่อมั่นสุดหัวใจ...
To Be Continued....
ความคิดเห็น