ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Thx 4
ปาร์ตี้ริมชายหาดได้ถูกจัดขึ้นโดยการเสนอของทีมงานและสมาชิกในวง ทุกคนดูเฮฮาและสนุกสนาน แต่กลับมีอยู่บุคคลหนึ่งที่ไม่ค่อยสนุกกับงานปาร์ตี้ที่ว่านี้เท่าไรนั้นก็คือ พิช จะให้เขาสนุกได้ไงละ พอเขาได้ฟังแผนคราวๆของไอ้นนท์เสร็จเขาก็รู้สึกแล้วว่ามันต้องเป็นแผนที่ไม่เข้าท่าแน่ๆ ไอ้นี้มันคงว่างมากจนคิดบ้าไรก็ไม่รู้ แผนการที่มันบอกยั่วยวนบ้าบอไรของมัน
“ทำตัวตามปกติละ มานี้ๆมาอยู่กับกูนิ วันนี้ไปไหนมาไหนให้ไปกับกูตลอดเข้าใจไหม” นนท์สั่งการก่อนแผนจะเสีย เดี๋ยวเขาจะหมดสนุกซะก่อน
“เออ สั่งจริงนะมึง” ไอ้นนท์นี้ได้ทีสั่งการใหญ่เลยนะมึง เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย
นนท์หันไปเห็นเป้าหมายสองคนเพิ่งลงมาในงาน รอยยิ้มเจ้าเลห์เริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง พิชไม่ต้องหันไปดูก็พอรู้ว่าใคร แค่เห็นรอยยิ้มมันเขาก็รู้แล้วละ ( เริ่มแผนเลยดีไหมเนี่ย หึหึ ) นนท์คิดในใจ
โอ้ซึ่งพอลงมาถึงงานก็เริ่มสอดสายตาหาพิชทันทีเขาเองต้องเสียเวลาไปกับการเรื่องมากของไอ้นายน์ที่มัวแต่เลือกเสื้อที่จะใส่อยู่นั้น เป็นไงละพอใส่ลงมาก็เหมือนเดิมไม่เห็นมันจะดูดีขึ้นตรงไหนคิดแล้วก็เซง ความจริงเขาก็พอดูออกนะว่านายน์คิดยังไงกับพิช ........โอ้รู้สึกเซงว่าทำไมต้องมีคู่แข่งด้วยนะ........
นายน์ซึ่งพอหาเสื้อถูกใจเสร็จก็รีบลงมางานปาร์ตี้ทันที แต่พอลงมาถึงก็มองหาไม่เจอพิช นายน์เลยเริ่มเดินออกหาในงานแล้วอีกอย่างเขาก็รำคานไอ้โอ้ด้วยละ เร่งเขาจังไม่รู้มันจะรีบไปไหนของมัน เซงชิบเลย ให้ได้อย่างนี้สิเฮ้อ.........
นนท์ซึ่งสังเกตการณ์อยู่ตลอดตั้งแต่สองคนนั้นมาถึงงาน จนเริ่มมองและออกตามหาพิช เขาเลยคิดว่าได้โอกาสเหมาะที่จะทำเรื่องสนุกๆแล้วสิ นนท์เดินไปทางพิชซึ่งกำลังตักหาไรกินอยู่คนเดียวอย่างตั้งใจ นนท์เริ่มเห็นโอ้กับนายน์เดินเข้ามาใกล้พิชมากขึ้น จึงเริ่มแผนการทันที
“พิชจ้าทำไรอยู่หรอ” นนท์เดินเข้าไปโอบเอวพิชทางด้านหลังแบบกอดหลวมๆแล้วเอาคางไปวางเกยไว้บนบ่าของพิช
“กินบาบีคิวอยู่เอาป่ะ ได้ตักเพื่อให้” พิชที่ตอนแรกก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอหันไปเห็นโอ้กับนายน์ก็เลยรู้ว่านี้คือการทำเรื่องสนุกของนนท์ เลยไม่ได้พูดอะไร
“อยากกินอ่ะ แต่มือไม่ว่างเลยอ่ะ ป้อนเขาหน่อยสิ นะนะ” นนท์แกล้งอ้อนพิชให้ป้อนบาบีคิว จนพิชแอบทำหน้าประมาณว่ามึงบ้าไปแล้วหรอ พิชก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ และกำลังเตรียมจะป้อนตามคำขอของนนท์
“อ่ะกูให้ กินเยอะๆนะมึง” นายน์เอาบาบีคิวยัดใส่ปากนนท์ นนท์สำลักบาบีคิวเพราะไม่ทันตั้งตัว พิชหัวเราะชอบใจที่นนท์โดนแกล้ง ( สมน้ำหน้าเล่นไรไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ )
“ขอบคุณว่ะนายน์ แต่วันหลังไม่ต้องกูเกรงใจมึงจริงๆว่ะ” นนท์แกล้งแซวนายน์แต่มือก็ยังคงโอบเอวพิชไว้อยู่ โอ้ซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็ได้แต่แอบเคืองแบบเงียบๆเพราะไม่อยากโวยวายเดี๋ยวพิชจะโกรธอีก ก็ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆแบบเคืองๆ
“พิช นนท์ว่าเราไปหาที่นั่งเงียบๆ คุยกันดีกว่า” นนท์ไม่รอช้ารีบจูงมือพิชแล้วเดินลากพิชไปที่ชายหาดที่เงียบสงบ
“กูไปด้วยว่ะนนท์ กูไม่มีเพื่อน” นายน์เห็นท่าไม่ดีรีบตะโกนบอกก่อนที่นนท์จะไปไกลเดี๋ยวเขาจะหาไม่เจอ ปล่อยไปสองคนแบบนี้ไม่ได้หรอกอันตราย
“ไม่มีเพื่อนห่าไรคนเยอะแยะ โกหกไม่เนียนเลยนะมึง” นนท์หันมาแซวแล้วเดินจูงมือพิชให้เดินไปต่อโดยไม่สนใจนายน์ นายน์ที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่
“กูจะไปด้วย” นายน์ไม่รอถามไอ้นนท์ก่อนละไอ้นี้กวนตีน เดินตามไปเลยดีกว่าง่ายดี
“วันหลังไม่ต้องถามกูหรอกนะ” นนท์แกล้งประชดนายน์ที่เดินมาอยู่ข้างตัวเองแล้ว นายน์ซึ่งทำทองไม่รู้ร้อนเดินตามไป แต่อารมณ์ที่เสียก็แสดงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัดจน นนท์กับพิชอดแอบขำไม่ได้ ส่วนโอ้เดินตามไปเงียบๆเขาก็ไม่ยอมให้พวกนั้นไปอยู่กันเองแน่นอนถึงแม้ว่าจะมีนายน์ก็เหอะ ยังไงมันก็ชอบพิชไว้ใจไม่ได้
พิชซึ่งสังเกตอยู่ตลอดก็ไม่อยากจะพูดไรมาก ปล่อยเลยตามเลยก็ จะไปห้ามไอ้นนท์ให้เลิกแกล้งก็เสียดาย เพราะตัวเองก็อยากรู้ว่าแต่คนละคิดยังไงและรู้สึกยังไงมากแค่ไหน
*
*
*
*
*
บริเวณริมชายหาดที่เงียบสงบ ตอนนี้ทั้งสี่คนได้ยืนอยู่ริมชายหาด ที่มองออกไปก็เป็นพื้นน้ำสีดำที่สะท้อนภาพต่างๆที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า ( น่าเอากล้องมาถ่ายรูปไว้จัง ) พิชแอบเสียดายที่ไม่ได้หยิบกล้องมาด้วย
“อ้าวโอ้ มาด้วยหรอ มานั่งด้วยกันสิ” พิชตะโกนเรียกให้โอ้มานั่งตรงที่ตัวเอง นนท์ และนายน์นั่งอยู่ ทั้งที่พิชก็รู้อยู่แล้วว่าโอ้เดินตามมาตลอด
“อืม” โอ้เดินไปนั่งตามคำชวนของพิช ถึงแม้ว่าพิชไม่ชวนเขาก็คงจะเดินไปนั่งเอง โอ้ไม่เคยนึกมาก่อนว่าตัวเองจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ เฮ้อ....เขาเป็นเอามากนะเนี่ย
“จะว่าไปวันนี้ท้องฟ้าสวยนะ ทุกคนว่าไง” เมื่อนายน์พูดจบ ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกัน ท้องฟ้าคืนนี้ชั่งปลอดโปร่งดีจัง ทำให้ดวงดาวที่เราเห็นส่องแสงกันอยู่ทุกวันแต่ค่ำคืนนี้กับส่องแสงเด่นชัดกว่าเดิม ทำให้พื้นน้ำสีดำที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยภาพสะท้อนของดวงดาวบนท้องฟ้ามากมาย
“อืม....สวยจังเลย” พิชรู้สึกสบายใจที่ได้มานั่งดูดาว แถมตอนนี้บรรยากาศก็ไม่ได้ซีเรียสอย่างที่เขาคาดคิด ทุกคนดูมีความสุขกับสิ่งที่เห็น บรรยากาศเริ่มจะไปด้วยดีถ้าไม่มีไอ้นนท์!!!
“เฮ้อ.......เมื่อยจังเลยอ่ะ” นนท์เขยิบไปนั่งข้างๆพิชแล้วค่อยๆเอนศีรษะไปซบที่ไหล่ของพิช พิชซึ่งขี้เกียจจะพูดไรแล้วเลยปล่อยให้นนท์มันทำไป ( อยากทำไรก็ทำ กูละเซงกับมึงจริงๆเลยไอ้นนท์ ) พิชนึกอยากด่านนท์ในใจ
“เฮ้ย!!!!!” นายน์กำลังจะห้ามแต่ไม่ทันเพราะนนท์ซบไปแล้วเรียบร้อย นายน์เอามือดึงตัวมันออกมาแต่เอาไม่ออก โอ้ยมึงทากาวติดไปแล้วไงว่ะเนี่ย นายน์แอบเซง
โอ้กำมือแน่นเพราะเขาเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ ( โอ้ย ทำไงดีว่ะดูเหมือนไอ้นนท์กำลังคิดแผนอะไรสักอย่างอยู่นะ ) โอ้ครุ่นคิดในใจ
“มึงนะมึง” นายน์ยังคงบ่นอยู่ข้างๆนนท์ นนท์ก็ได้แต่นั่งซบไหล่พิชแล้วยิ้มอย่างสบายใจ ที่ได้เห็นเพื่อนตัวเองอีกสองคนกระสับกระส่าย ( เฮ้อ ... สนุกจังเลย ) นนท์คิดอย่างมีความสุข
“เป็นไรหรอ นายน์” พิชซึ่งแกล้งถามไปงั้นแหละ เพราะตัวเองก็พอรู้สาเหตุอยู่แล้ว
“เปล่าๆไม่มีไรหรอก” นายน์ไม่รู้จะพูดยังไงดีเพราะเหมือนพิชจะไม่ได้คิดอะไร แต่เขาก็อดโมโหไอ้นนท์ไม่ได้ มันก็รู้อยู่แล้วว่าเขาชอบพิช แต่ดูที่มันทำสิ เหมือนแกล้งกันชัดๆ
“พิชก็นึกว่านายน์เป็นไรซะอีก เห็นทำหน้าเหมือนคนอารมณ์เสีย”
“ไม่มีไรหรอก ฮ่าๆ พอดีนายน์มึนๆ นิดหน่อยอ่ะนะ” นายน์รีบแก้ต่างให้ตัวเอง จะให้พิชรู้ได้ไงว่าเราหึงไอ้นนท์เสียฟอร์มแย่เลย
“ขอตัวก่อนนะ” โอ้รีบเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะไม่อยากเห็นภาพพวกนั้นอีก ไม่อย่างนั้นเขาอาจทำเรื่องไม่ดีออกไปอีกก็ได้ ( นนท์คิดจะทำอะไรกันแน่ แกล้งยั่วงั้นหรอ เฮ้อ.....เล่นไรของมันวะ ) โอ้รู้สึกแค้นนนท์ในใจที่แกล้งเขาให้โมโหและมันก็แกล้งได้ถูกจุดจริงๆ
“งั้นเราขอตัวก่อนนะ ไม่อยากกวน!!!” นายน์แน่นเสียงก่อนลุกขึ้นเดินไปโรงแรม
“ไอ้นนท์ดูดิ ไอ้นายน์โกรธแล้วเนี่ย” พิชเอามือผลักหัวไอ้นนท์ออก
“ก็ไปง้อมันดิ กูนอนดูดาวที่นี้ต่อดีกว่า” นนท์ทิ้งตัวลงนอนเอามือมาหนุนหัวตัวเอง
“ชั่งหัวมึง” พิชอยากกระโดดถีบไอ้นี้จริงๆ แต่มันดูเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
พิชรีบเดินตามนายน์เข้าไปในโรงแรม สายตาก็มองหาว่านายน์ขึ้นห้องไปหรือยัง เมื่อมองหาไม่เจอก็เลยวิ่งไปที่ลิฟต์ เจอนายน์กำลังยืนรอลิฟต์อยู่พอดี
“ไปคุยกันหน่อยสิ” สีหน้าของนายน์ไม่ค่อยดี พิชรู้ว่านายน์คงไม่พอใจ
ประตูลิฟต์เปิดออก พิชเดินตามนายน์เข้าลิฟต์ไปโดยไม่พูดอะไร นายน์กดลิฟต์ไปที่ชั้น 30 ซึ่งเป็นชั้นที่เอาไว้ชมวิว ลิฟต์เคลื่อนตัวไปช้าๆ พิชซึ่งตอนนี้ไม่อาจยืนเงียบๆอยู่ได้เลยเอ่ยปากพูดก่อน
“เป็นไรหรือเปล่านายน์ สีหน้าไม่ดีเลย” นายน์ไม่ตอบสายตาจับจ้องไปที่ช่องบอกตัวเลขชั้น เมื่อนายน์ไม่พูดอะไรพิชก็เลยได้แต่เงียบไปจนถึงชั้นที่ 30........
*
*
*
*
*
ทั้งชั้นที่ 30 เป็นที่โล่ง มีกระจกกั๊นรอบๆและมีโครงเหล็กกั้นอีกทอดหนึ่งกันคนเดินไปใกล้ๆกระจก ตอนนี้ชั้นที่ 30 ไม่มีคนอยู่เลยมีเพียงเขากับนายน์สองคน พิชเดินไปจับโครงเหล็กแล้วชะโงกหน้าไปดูข้างล่างซึ่งก็สูงจนตัวเขาเองก็กลัวตกลงไปขนาดมีเหล็กกั๊นยังหน้ากลัวเลย พิชหันไปมองหน้านายน์ซึ่งยังคงได้แต่เงียบ
“นายน์คือว่า.......”
“พิชชอบนนท์หรอ” พิชซึ่งกำลังจะพูดอะไรออกไปกลับโดนนายน์พูดถามแทรกกลับมาก่อน พิชรู้สึกตกใจในคำถามของนายน์
“ห่ะ บ้าหรอนายน์ พูดเรื่องไรเนี่ย” พิชยิ้มและแอบขำที่นายน์ถามคำถามที่ไม่น่าจะถามออกมา
“ไม่ตลกนะพิช นายน์ถามว่าพิชชอบนนท์หรือเปล่า” นายน์หันหน้ามามองพิช หน้าของนายน์ตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์หลายอารมณ์ทั้งโกรธ โมโห เคือง จนพิชไม่อาจคาดเดาได้
“ทำไมถึงถามแบบนั้นละ นนท์เพื่อนพิชนะ” พิชไม่เข้าใจทำไมนายน์ต้องถามแบบนั้น ก็รู้ๆอยู่แล้วเขากับนนท์ก็เพื่อนกันมาแต่ไหนแต่ไร
“หรอ เพื่อนหรอ เพื่อนประสาอะไร จู้จี้กันขนาดนั้น เพื่อนเขาทำกันแบบนั้นหรอไง” นายน์กระแทกเสียงใส่
“ทำไมต้องทำเสียงยังไงด้วยห่ะ เรื่องใหญ่มากหรือไงแค่เพื่อนเล่นกัน แล้วอีกอย่างนายน์ก็ไม่มีสิทธิ์มากระแทกเสียงใส่เรา” พิชเริ่มโมโหที่ทำไมนายน์ถึงพูดดีดีไม่ได้ต้องมากระแทกเสียงใส่เขาด้วย
“อ๋อ นายน์ทำอะไรก็ผิดไปหมดแหละ ใครมันจะไปดีเท่าไอ้นนท์ละ” นายน์เริ่มโยนเรื่องไปหานนท์ ตอนนี้นายน์หึงจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองพูดไรออกไป
“เหอๆ เออแน่นอนอยู่แล้ว นนท์มันทำไรก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างนนท์มันก็ยังไม่เคยกระแทกเสียงใส่เรา” พิชพูดประชดเสร็จก็เดินไปกดลิฟต์ เขารู้สึกว่าถึงพูดไปก็ไม่มีไรดีขึ้น ปล่อยนายน์ไปสงบสติอารมณ์จะดีกว่า
กริ๊ง ..... ประตูลิฟต์เปิดออกพิชก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้น 8 ที่เป็นชั้นของห้องตัวเอง ลิฟต์กำลังจะปิด นายน์เอามือแทรกประตูไว้แล้วเดินก้าวเข้ามา
“จะรีบกลับไปหาไอ้นนท์หรอไง คิดถึงมันมากใช่มั้ย” พิชไม่อยากจะพูดไรมากแล้วตอนนี้เขาก็รู้สึกโมโหไม่น้อยไปกว่านายน์เลย พิชกดประตูลิฟต์ให้ปิดจะได้รีบๆไปซะที
“พอเหอะ เลิก........”
เสียงพิชได้ขาดหายไป................เพราะตอนนี้นายน์ได้จับหน้าพิชแล้วประกบปากตัวเองลงบนปากแดงของพิชทันที แรงบดขยี้เริ่มรุนแรงมากขึ้นเพราะความโมโหที่นายน์มี พิชพยายามหันหน้าออกเพราะเริ่มรู้สึกเจ็บแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะนายน์ได้ล๊อคหน้าตัวเขาไว้ ส่วนตัวพิชก็โดนตัวนายน์เบียดติดลิฟต์จนแทบขยับไปไหนไม่ได้ นายน์ยังคงบดขยี้ริมฝีปากแรงขึ้นจนพิชเริ่มหายใจไม่ออก พิชเผลอเปิดปากตัวเองเพื่อหายใจ แต่กลับเป็นผลทำให้นายน์เอาลิ้นลุกล้ำเข้ามา นายน์พยายามสอดลิ้นเข้าหาลิ้นของพิชทันที พิชเริ่มสำลักกับการที่นายน์พยายามเอาลิ้นสอดเข้ามา นายน์เห็นดังนั้นจึงถอนปากออก ปากของทั้งสองตอนนี้เป็นสีแดงสดเพราะเพิ่งผ่านการบดขยี้มา
“ทำไมถึง....”
“นายน์รักพิชนะ” พิชที่กำลังจะพูดตัดพ้ออีกฝ่ายก็ถูกนายน์จูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นจูบที่นุ่มนวลที่เกิดจากความรักที่นายน์มีให้กับพิช พิชเผลอใจอ่อนไปกับคำบอกรักและรสจูบนั้น ลิ้นของทั้งสองเข้าหากันโดยไม่มีการขัดขืน ต่างฝ่ายต่างมอบสัมผัสให้กันอย่างไม่รู้จบ นายน์ค่อยๆถอนลิ้นออก มาจูบที่ริมฝีปากแดงอีกครั้ง นายน์เลื่อนหน้าลงไปตามลำคอเนียนสีน้ำผึ้งของร่างบางตรงหน้าแล้วใช้ริมฝีปากและลมหายใจร้อนๆไซร้ไปตามลำคอของร่างบาง จนพิชขนลุกเพราะความสยิวกับสัมผัสที่นายน์มอบให้ นายน์เริ่มเอามือตัวเองสอดเข้าไปในเสื้อของร่างบางตรงหน้าช้าๆ มือที่ตอนนี้เริ่มร้อนมากขึ้นค่อยๆสัมผัสไปที่หน้าท้องของร่างบาง พิชเกร็งหน้าท้องทันทีที่ถูกสัมผัสนั้น นายน์ค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปเพื่อที่จะไปสัมผัสกับยอดอกที่เขาปราถนาที่จะสัมผัส พิชพยายามเอามือขืนมือนายไว้ นายน์เลยเอาลิ้นสัมผัสที่คอเนียนของอีกฝ่ายเพื่อให้เผลอใจยอมปล่อยมือที่ขืนไว้ออก พิชเผลอใจไปกับสัมผัสที่ได้รับเลยปล่อยมือออก เมื่อไม่มีมือของร่างบางมาขวางแล้ว นายน์ก็ค่อยๆเอามือของตัวลุกล้ำต่อขึ้นไปเรื่อยๆจน ..........
กริ๊ง .................. เสียงลิฟต์เปิดออก
โอ้ยืนอยู่หน้าลิฟต์ เพราะตัวเองกำลังจะลงไปดูเหตุการณ์ต่อเพราะทนไม่ไหวที่ตัวเองต้องมานั่งเพ้อเจ้อเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงๆก็สู้ไปนั่งทนดูดีกว่าจะได้ไม่ต้องมานั่งกระสับกระส่าย
แต่ภาพที่โอ้เห็นตอนนี้ทำให้ตะลึ่งจนพูดอะไรไม่ออก ภาพที่เห็นค่อยๆชัดขึ้นจนโอ้ไม่อยากให้มันเป็นความจริง พิชซึ่งตอนนี้ตัวติดกับกำแพงลิฟต์และมีนายน์ที่ยืนประชิดและไซร์ที่ซอกคอพิชและยังมีมือที่ล้วงเข้าไปในเสื้อ
“ตึก!!!” โอ้เอากำมือกระแทกลิฟต์จนเกิดเสียงดัง
พิชเริ่มรู้สึกตัวหันไปมองตามเสียง ภาพที่เห็นทำให้พิชเข่าอ่อน โอ้ยืนมองเขาด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าเป็นสายตาที่ผิดหวัง ดวงตาของโอ้ตอนนี้คลอไปด้วยน้ำตา พิชไม่เคยเห็นโอ้ในสภาพนี้มาก่อน
โอ้ไม่สามารถทนดูเหตุการณ์ต่อไปได้จึงหันหลังวิ่งกลับเข้าห้องทันที เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะยืนไม่ไหวและไม่สามารถบังคับน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลต่อหน้าพิชได้
“โอ้เดี๋ยวก่อน!!!!!” ..................
“ทำตัวตามปกติละ มานี้ๆมาอยู่กับกูนิ วันนี้ไปไหนมาไหนให้ไปกับกูตลอดเข้าใจไหม” นนท์สั่งการก่อนแผนจะเสีย เดี๋ยวเขาจะหมดสนุกซะก่อน
“เออ สั่งจริงนะมึง” ไอ้นนท์นี้ได้ทีสั่งการใหญ่เลยนะมึง เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย
นนท์หันไปเห็นเป้าหมายสองคนเพิ่งลงมาในงาน รอยยิ้มเจ้าเลห์เริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้าอีกครั้ง พิชไม่ต้องหันไปดูก็พอรู้ว่าใคร แค่เห็นรอยยิ้มมันเขาก็รู้แล้วละ ( เริ่มแผนเลยดีไหมเนี่ย หึหึ ) นนท์คิดในใจ
โอ้ซึ่งพอลงมาถึงงานก็เริ่มสอดสายตาหาพิชทันทีเขาเองต้องเสียเวลาไปกับการเรื่องมากของไอ้นายน์ที่มัวแต่เลือกเสื้อที่จะใส่อยู่นั้น เป็นไงละพอใส่ลงมาก็เหมือนเดิมไม่เห็นมันจะดูดีขึ้นตรงไหนคิดแล้วก็เซง ความจริงเขาก็พอดูออกนะว่านายน์คิดยังไงกับพิช ........โอ้รู้สึกเซงว่าทำไมต้องมีคู่แข่งด้วยนะ........
นายน์ซึ่งพอหาเสื้อถูกใจเสร็จก็รีบลงมางานปาร์ตี้ทันที แต่พอลงมาถึงก็มองหาไม่เจอพิช นายน์เลยเริ่มเดินออกหาในงานแล้วอีกอย่างเขาก็รำคานไอ้โอ้ด้วยละ เร่งเขาจังไม่รู้มันจะรีบไปไหนของมัน เซงชิบเลย ให้ได้อย่างนี้สิเฮ้อ.........
นนท์ซึ่งสังเกตการณ์อยู่ตลอดตั้งแต่สองคนนั้นมาถึงงาน จนเริ่มมองและออกตามหาพิช เขาเลยคิดว่าได้โอกาสเหมาะที่จะทำเรื่องสนุกๆแล้วสิ นนท์เดินไปทางพิชซึ่งกำลังตักหาไรกินอยู่คนเดียวอย่างตั้งใจ นนท์เริ่มเห็นโอ้กับนายน์เดินเข้ามาใกล้พิชมากขึ้น จึงเริ่มแผนการทันที
“พิชจ้าทำไรอยู่หรอ” นนท์เดินเข้าไปโอบเอวพิชทางด้านหลังแบบกอดหลวมๆแล้วเอาคางไปวางเกยไว้บนบ่าของพิช
“กินบาบีคิวอยู่เอาป่ะ ได้ตักเพื่อให้” พิชที่ตอนแรกก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน แต่พอหันไปเห็นโอ้กับนายน์ก็เลยรู้ว่านี้คือการทำเรื่องสนุกของนนท์ เลยไม่ได้พูดอะไร
“อยากกินอ่ะ แต่มือไม่ว่างเลยอ่ะ ป้อนเขาหน่อยสิ นะนะ” นนท์แกล้งอ้อนพิชให้ป้อนบาบีคิว จนพิชแอบทำหน้าประมาณว่ามึงบ้าไปแล้วหรอ พิชก็ได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ และกำลังเตรียมจะป้อนตามคำขอของนนท์
“อ่ะกูให้ กินเยอะๆนะมึง” นายน์เอาบาบีคิวยัดใส่ปากนนท์ นนท์สำลักบาบีคิวเพราะไม่ทันตั้งตัว พิชหัวเราะชอบใจที่นนท์โดนแกล้ง ( สมน้ำหน้าเล่นไรไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ )
“ขอบคุณว่ะนายน์ แต่วันหลังไม่ต้องกูเกรงใจมึงจริงๆว่ะ” นนท์แกล้งแซวนายน์แต่มือก็ยังคงโอบเอวพิชไว้อยู่ โอ้ซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็ได้แต่แอบเคืองแบบเงียบๆเพราะไม่อยากโวยวายเดี๋ยวพิชจะโกรธอีก ก็ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆแบบเคืองๆ
“พิช นนท์ว่าเราไปหาที่นั่งเงียบๆ คุยกันดีกว่า” นนท์ไม่รอช้ารีบจูงมือพิชแล้วเดินลากพิชไปที่ชายหาดที่เงียบสงบ
“กูไปด้วยว่ะนนท์ กูไม่มีเพื่อน” นายน์เห็นท่าไม่ดีรีบตะโกนบอกก่อนที่นนท์จะไปไกลเดี๋ยวเขาจะหาไม่เจอ ปล่อยไปสองคนแบบนี้ไม่ได้หรอกอันตราย
“ไม่มีเพื่อนห่าไรคนเยอะแยะ โกหกไม่เนียนเลยนะมึง” นนท์หันมาแซวแล้วเดินจูงมือพิชให้เดินไปต่อโดยไม่สนใจนายน์ นายน์ที่ตอนนี้ทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่
“กูจะไปด้วย” นายน์ไม่รอถามไอ้นนท์ก่อนละไอ้นี้กวนตีน เดินตามไปเลยดีกว่าง่ายดี
“วันหลังไม่ต้องถามกูหรอกนะ” นนท์แกล้งประชดนายน์ที่เดินมาอยู่ข้างตัวเองแล้ว นายน์ซึ่งทำทองไม่รู้ร้อนเดินตามไป แต่อารมณ์ที่เสียก็แสดงออกทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัดจน นนท์กับพิชอดแอบขำไม่ได้ ส่วนโอ้เดินตามไปเงียบๆเขาก็ไม่ยอมให้พวกนั้นไปอยู่กันเองแน่นอนถึงแม้ว่าจะมีนายน์ก็เหอะ ยังไงมันก็ชอบพิชไว้ใจไม่ได้
พิชซึ่งสังเกตอยู่ตลอดก็ไม่อยากจะพูดไรมาก ปล่อยเลยตามเลยก็ จะไปห้ามไอ้นนท์ให้เลิกแกล้งก็เสียดาย เพราะตัวเองก็อยากรู้ว่าแต่คนละคิดยังไงและรู้สึกยังไงมากแค่ไหน
*
*
*
*
*
บริเวณริมชายหาดที่เงียบสงบ ตอนนี้ทั้งสี่คนได้ยืนอยู่ริมชายหาด ที่มองออกไปก็เป็นพื้นน้ำสีดำที่สะท้อนภาพต่างๆที่ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า ( น่าเอากล้องมาถ่ายรูปไว้จัง ) พิชแอบเสียดายที่ไม่ได้หยิบกล้องมาด้วย
“อ้าวโอ้ มาด้วยหรอ มานั่งด้วยกันสิ” พิชตะโกนเรียกให้โอ้มานั่งตรงที่ตัวเอง นนท์ และนายน์นั่งอยู่ ทั้งที่พิชก็รู้อยู่แล้วว่าโอ้เดินตามมาตลอด
“อืม” โอ้เดินไปนั่งตามคำชวนของพิช ถึงแม้ว่าพิชไม่ชวนเขาก็คงจะเดินไปนั่งเอง โอ้ไม่เคยนึกมาก่อนว่าตัวเองจะหน้าด้านได้ขนาดนี้ เฮ้อ....เขาเป็นเอามากนะเนี่ย
“จะว่าไปวันนี้ท้องฟ้าสวยนะ ทุกคนว่าไง” เมื่อนายน์พูดจบ ทุกคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกัน ท้องฟ้าคืนนี้ชั่งปลอดโปร่งดีจัง ทำให้ดวงดาวที่เราเห็นส่องแสงกันอยู่ทุกวันแต่ค่ำคืนนี้กับส่องแสงเด่นชัดกว่าเดิม ทำให้พื้นน้ำสีดำที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยภาพสะท้อนของดวงดาวบนท้องฟ้ามากมาย
“อืม....สวยจังเลย” พิชรู้สึกสบายใจที่ได้มานั่งดูดาว แถมตอนนี้บรรยากาศก็ไม่ได้ซีเรียสอย่างที่เขาคาดคิด ทุกคนดูมีความสุขกับสิ่งที่เห็น บรรยากาศเริ่มจะไปด้วยดีถ้าไม่มีไอ้นนท์!!!
“เฮ้อ.......เมื่อยจังเลยอ่ะ” นนท์เขยิบไปนั่งข้างๆพิชแล้วค่อยๆเอนศีรษะไปซบที่ไหล่ของพิช พิชซึ่งขี้เกียจจะพูดไรแล้วเลยปล่อยให้นนท์มันทำไป ( อยากทำไรก็ทำ กูละเซงกับมึงจริงๆเลยไอ้นนท์ ) พิชนึกอยากด่านนท์ในใจ
“เฮ้ย!!!!!” นายน์กำลังจะห้ามแต่ไม่ทันเพราะนนท์ซบไปแล้วเรียบร้อย นายน์เอามือดึงตัวมันออกมาแต่เอาไม่ออก โอ้ยมึงทากาวติดไปแล้วไงว่ะเนี่ย นายน์แอบเซง
โอ้กำมือแน่นเพราะเขาเองก็ทำอะไรมากไม่ได้ ( โอ้ย ทำไงดีว่ะดูเหมือนไอ้นนท์กำลังคิดแผนอะไรสักอย่างอยู่นะ ) โอ้ครุ่นคิดในใจ
“มึงนะมึง” นายน์ยังคงบ่นอยู่ข้างๆนนท์ นนท์ก็ได้แต่นั่งซบไหล่พิชแล้วยิ้มอย่างสบายใจ ที่ได้เห็นเพื่อนตัวเองอีกสองคนกระสับกระส่าย ( เฮ้อ ... สนุกจังเลย ) นนท์คิดอย่างมีความสุข
“เป็นไรหรอ นายน์” พิชซึ่งแกล้งถามไปงั้นแหละ เพราะตัวเองก็พอรู้สาเหตุอยู่แล้ว
“เปล่าๆไม่มีไรหรอก” นายน์ไม่รู้จะพูดยังไงดีเพราะเหมือนพิชจะไม่ได้คิดอะไร แต่เขาก็อดโมโหไอ้นนท์ไม่ได้ มันก็รู้อยู่แล้วว่าเขาชอบพิช แต่ดูที่มันทำสิ เหมือนแกล้งกันชัดๆ
“พิชก็นึกว่านายน์เป็นไรซะอีก เห็นทำหน้าเหมือนคนอารมณ์เสีย”
“ไม่มีไรหรอก ฮ่าๆ พอดีนายน์มึนๆ นิดหน่อยอ่ะนะ” นายน์รีบแก้ต่างให้ตัวเอง จะให้พิชรู้ได้ไงว่าเราหึงไอ้นนท์เสียฟอร์มแย่เลย
“ขอตัวก่อนนะ” โอ้รีบเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะไม่อยากเห็นภาพพวกนั้นอีก ไม่อย่างนั้นเขาอาจทำเรื่องไม่ดีออกไปอีกก็ได้ ( นนท์คิดจะทำอะไรกันแน่ แกล้งยั่วงั้นหรอ เฮ้อ.....เล่นไรของมันวะ ) โอ้รู้สึกแค้นนนท์ในใจที่แกล้งเขาให้โมโหและมันก็แกล้งได้ถูกจุดจริงๆ
“งั้นเราขอตัวก่อนนะ ไม่อยากกวน!!!” นายน์แน่นเสียงก่อนลุกขึ้นเดินไปโรงแรม
“ไอ้นนท์ดูดิ ไอ้นายน์โกรธแล้วเนี่ย” พิชเอามือผลักหัวไอ้นนท์ออก
“ก็ไปง้อมันดิ กูนอนดูดาวที่นี้ต่อดีกว่า” นนท์ทิ้งตัวลงนอนเอามือมาหนุนหัวตัวเอง
“ชั่งหัวมึง” พิชอยากกระโดดถีบไอ้นี้จริงๆ แต่มันดูเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
พิชรีบเดินตามนายน์เข้าไปในโรงแรม สายตาก็มองหาว่านายน์ขึ้นห้องไปหรือยัง เมื่อมองหาไม่เจอก็เลยวิ่งไปที่ลิฟต์ เจอนายน์กำลังยืนรอลิฟต์อยู่พอดี
“ไปคุยกันหน่อยสิ” สีหน้าของนายน์ไม่ค่อยดี พิชรู้ว่านายน์คงไม่พอใจ
ประตูลิฟต์เปิดออก พิชเดินตามนายน์เข้าลิฟต์ไปโดยไม่พูดอะไร นายน์กดลิฟต์ไปที่ชั้น 30 ซึ่งเป็นชั้นที่เอาไว้ชมวิว ลิฟต์เคลื่อนตัวไปช้าๆ พิชซึ่งตอนนี้ไม่อาจยืนเงียบๆอยู่ได้เลยเอ่ยปากพูดก่อน
“เป็นไรหรือเปล่านายน์ สีหน้าไม่ดีเลย” นายน์ไม่ตอบสายตาจับจ้องไปที่ช่องบอกตัวเลขชั้น เมื่อนายน์ไม่พูดอะไรพิชก็เลยได้แต่เงียบไปจนถึงชั้นที่ 30........
*
*
*
*
*
ทั้งชั้นที่ 30 เป็นที่โล่ง มีกระจกกั๊นรอบๆและมีโครงเหล็กกั้นอีกทอดหนึ่งกันคนเดินไปใกล้ๆกระจก ตอนนี้ชั้นที่ 30 ไม่มีคนอยู่เลยมีเพียงเขากับนายน์สองคน พิชเดินไปจับโครงเหล็กแล้วชะโงกหน้าไปดูข้างล่างซึ่งก็สูงจนตัวเขาเองก็กลัวตกลงไปขนาดมีเหล็กกั๊นยังหน้ากลัวเลย พิชหันไปมองหน้านายน์ซึ่งยังคงได้แต่เงียบ
“นายน์คือว่า.......”
“พิชชอบนนท์หรอ” พิชซึ่งกำลังจะพูดอะไรออกไปกลับโดนนายน์พูดถามแทรกกลับมาก่อน พิชรู้สึกตกใจในคำถามของนายน์
“ห่ะ บ้าหรอนายน์ พูดเรื่องไรเนี่ย” พิชยิ้มและแอบขำที่นายน์ถามคำถามที่ไม่น่าจะถามออกมา
“ไม่ตลกนะพิช นายน์ถามว่าพิชชอบนนท์หรือเปล่า” นายน์หันหน้ามามองพิช หน้าของนายน์ตอนนี้เต็มไปด้วยอารมณ์หลายอารมณ์ทั้งโกรธ โมโห เคือง จนพิชไม่อาจคาดเดาได้
“ทำไมถึงถามแบบนั้นละ นนท์เพื่อนพิชนะ” พิชไม่เข้าใจทำไมนายน์ต้องถามแบบนั้น ก็รู้ๆอยู่แล้วเขากับนนท์ก็เพื่อนกันมาแต่ไหนแต่ไร
“หรอ เพื่อนหรอ เพื่อนประสาอะไร จู้จี้กันขนาดนั้น เพื่อนเขาทำกันแบบนั้นหรอไง” นายน์กระแทกเสียงใส่
“ทำไมต้องทำเสียงยังไงด้วยห่ะ เรื่องใหญ่มากหรือไงแค่เพื่อนเล่นกัน แล้วอีกอย่างนายน์ก็ไม่มีสิทธิ์มากระแทกเสียงใส่เรา” พิชเริ่มโมโหที่ทำไมนายน์ถึงพูดดีดีไม่ได้ต้องมากระแทกเสียงใส่เขาด้วย
“อ๋อ นายน์ทำอะไรก็ผิดไปหมดแหละ ใครมันจะไปดีเท่าไอ้นนท์ละ” นายน์เริ่มโยนเรื่องไปหานนท์ ตอนนี้นายน์หึงจนไม่รู้แล้วว่าตัวเองพูดไรออกไป
“เหอๆ เออแน่นอนอยู่แล้ว นนท์มันทำไรก็ไม่ผิดอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างนนท์มันก็ยังไม่เคยกระแทกเสียงใส่เรา” พิชพูดประชดเสร็จก็เดินไปกดลิฟต์ เขารู้สึกว่าถึงพูดไปก็ไม่มีไรดีขึ้น ปล่อยนายน์ไปสงบสติอารมณ์จะดีกว่า
กริ๊ง ..... ประตูลิฟต์เปิดออกพิชก้าวเข้าไปในลิฟต์แล้วกดชั้น 8 ที่เป็นชั้นของห้องตัวเอง ลิฟต์กำลังจะปิด นายน์เอามือแทรกประตูไว้แล้วเดินก้าวเข้ามา
“จะรีบกลับไปหาไอ้นนท์หรอไง คิดถึงมันมากใช่มั้ย” พิชไม่อยากจะพูดไรมากแล้วตอนนี้เขาก็รู้สึกโมโหไม่น้อยไปกว่านายน์เลย พิชกดประตูลิฟต์ให้ปิดจะได้รีบๆไปซะที
“พอเหอะ เลิก........”
เสียงพิชได้ขาดหายไป................เพราะตอนนี้นายน์ได้จับหน้าพิชแล้วประกบปากตัวเองลงบนปากแดงของพิชทันที แรงบดขยี้เริ่มรุนแรงมากขึ้นเพราะความโมโหที่นายน์มี พิชพยายามหันหน้าออกเพราะเริ่มรู้สึกเจ็บแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะนายน์ได้ล๊อคหน้าตัวเขาไว้ ส่วนตัวพิชก็โดนตัวนายน์เบียดติดลิฟต์จนแทบขยับไปไหนไม่ได้ นายน์ยังคงบดขยี้ริมฝีปากแรงขึ้นจนพิชเริ่มหายใจไม่ออก พิชเผลอเปิดปากตัวเองเพื่อหายใจ แต่กลับเป็นผลทำให้นายน์เอาลิ้นลุกล้ำเข้ามา นายน์พยายามสอดลิ้นเข้าหาลิ้นของพิชทันที พิชเริ่มสำลักกับการที่นายน์พยายามเอาลิ้นสอดเข้ามา นายน์เห็นดังนั้นจึงถอนปากออก ปากของทั้งสองตอนนี้เป็นสีแดงสดเพราะเพิ่งผ่านการบดขยี้มา
“ทำไมถึง....”
“นายน์รักพิชนะ” พิชที่กำลังจะพูดตัดพ้ออีกฝ่ายก็ถูกนายน์จูบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นจูบที่นุ่มนวลที่เกิดจากความรักที่นายน์มีให้กับพิช พิชเผลอใจอ่อนไปกับคำบอกรักและรสจูบนั้น ลิ้นของทั้งสองเข้าหากันโดยไม่มีการขัดขืน ต่างฝ่ายต่างมอบสัมผัสให้กันอย่างไม่รู้จบ นายน์ค่อยๆถอนลิ้นออก มาจูบที่ริมฝีปากแดงอีกครั้ง นายน์เลื่อนหน้าลงไปตามลำคอเนียนสีน้ำผึ้งของร่างบางตรงหน้าแล้วใช้ริมฝีปากและลมหายใจร้อนๆไซร้ไปตามลำคอของร่างบาง จนพิชขนลุกเพราะความสยิวกับสัมผัสที่นายน์มอบให้ นายน์เริ่มเอามือตัวเองสอดเข้าไปในเสื้อของร่างบางตรงหน้าช้าๆ มือที่ตอนนี้เริ่มร้อนมากขึ้นค่อยๆสัมผัสไปที่หน้าท้องของร่างบาง พิชเกร็งหน้าท้องทันทีที่ถูกสัมผัสนั้น นายน์ค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปเพื่อที่จะไปสัมผัสกับยอดอกที่เขาปราถนาที่จะสัมผัส พิชพยายามเอามือขืนมือนายไว้ นายน์เลยเอาลิ้นสัมผัสที่คอเนียนของอีกฝ่ายเพื่อให้เผลอใจยอมปล่อยมือที่ขืนไว้ออก พิชเผลอใจไปกับสัมผัสที่ได้รับเลยปล่อยมือออก เมื่อไม่มีมือของร่างบางมาขวางแล้ว นายน์ก็ค่อยๆเอามือของตัวลุกล้ำต่อขึ้นไปเรื่อยๆจน ..........
กริ๊ง .................. เสียงลิฟต์เปิดออก
โอ้ยืนอยู่หน้าลิฟต์ เพราะตัวเองกำลังจะลงไปดูเหตุการณ์ต่อเพราะทนไม่ไหวที่ตัวเองต้องมานั่งเพ้อเจ้อเองว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยังไงๆก็สู้ไปนั่งทนดูดีกว่าจะได้ไม่ต้องมานั่งกระสับกระส่าย
แต่ภาพที่โอ้เห็นตอนนี้ทำให้ตะลึ่งจนพูดอะไรไม่ออก ภาพที่เห็นค่อยๆชัดขึ้นจนโอ้ไม่อยากให้มันเป็นความจริง พิชซึ่งตอนนี้ตัวติดกับกำแพงลิฟต์และมีนายน์ที่ยืนประชิดและไซร์ที่ซอกคอพิชและยังมีมือที่ล้วงเข้าไปในเสื้อ
“ตึก!!!” โอ้เอากำมือกระแทกลิฟต์จนเกิดเสียงดัง
พิชเริ่มรู้สึกตัวหันไปมองตามเสียง ภาพที่เห็นทำให้พิชเข่าอ่อน โอ้ยืนมองเขาด้วยสายตาที่เรียกได้ว่าเป็นสายตาที่ผิดหวัง ดวงตาของโอ้ตอนนี้คลอไปด้วยน้ำตา พิชไม่เคยเห็นโอ้ในสภาพนี้มาก่อน
โอ้ไม่สามารถทนดูเหตุการณ์ต่อไปได้จึงหันหลังวิ่งกลับเข้าห้องทันที เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะยืนไม่ไหวและไม่สามารถบังคับน้ำตาตัวเองไม่ให้ไหลต่อหน้าพิชได้
“โอ้เดี๋ยวก่อน!!!!!” ..................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น