ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ฟิลคอร์
คฤหาสน์ตรงหน้าเธอคือโรงเรียนที่เธอกำลังจะเข้า
ฟิลคอร์  คือสถาบันการศึกษาที่ทุกๆคนอยากให้ลูกเรียน    แต่มีน้อยคนที่ได้รับเข้าเรียนในแต่ละปี    เพราะว่ามันเข้ายากแสนยาก    จนบางคนจำเป็นที่จะต้องติดสินบนครูอาจารย์    เพื่อที่ลูกจะได้มีอนาคตที่ดี  โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยม    ซึ่งรับนักเรียนในชั้นปี1เพียง30คนเท่านั้น    และรับระหว่างชั้นเพียง2-3คน
และบังเอิญว่า มิเชล  ดอร์น คือผู้โชคดีหนึ่งใน 2-3 คนนั่น
เธอเป็นเด็กสาวอายุ 15 ธรรมดาๆไม่ได้ร่ำรวยอะไร    แค่สมัครเข้าไปเล่นๆแต่กลับได้โดยที่ไม่ต้องทำข้อสอบอะไรเลย    สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวของเธออย่างมาก    เพราะพี่ชายทั้ง 2 ผิดหวังมาแล้ว
มิเชลมีความรู้สึกเฉยๆกับโรงเรียนใหม่ของเธอ    แค่คิดว่าคงมีแต่ลูกเศรษฐีเรียนแน่ๆ    คงจะน่าเบื่อ    เธอไม่ใช่คนที่ทำตัวเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง    ที่อะไรๆก็วี๊ดว้าย    ด้วยทรงผมซอยสั้นของเธอทำให้หลายๆคนคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชายหน้าหวาน   
เธอทนให้แม่หวีผมบลอนซ์ของเธอในตอนเช้าก่อนเปิดเรียนวันแรก    แม่จู้จี้จุกจิกเรื่องโน้นเรื่องนี้คอยทาแป้งที่แขนขาราวกับว่าเธอยังไม่ขาวพอ    ทั้งๆที่มิเชลจัดได้ว่าเป็นคนที่มีผิวขาวมากคนหนึ่ง      เธอใช้ตาสีฟ้าออกเทาๆของเธอมองตามแม่ที่สาละวนอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง    คนส่วนใหญ่ค่อนข้างจะกลัวสายตาคู่นั้น    เพราะว่ามันไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมา    ไม่ว่าเจ้าของจะมีอารมณ์ยังไงก็ตาม
ในที่สุดเธอก็ได้มายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่หรูหราจนเธอรู้สึกแปลกใจ    มีนักเรียนแต่งตัวดีหลายคนลงจากรถหรูยี่ห้อดัง    โบกมือลาพ่อแม่ที่อยู่ในชุดสูทสากลหรือไม่ก็ชุดเป็นประกายระยิบระยับด้วยเพชรพลอยจริงๆที่อยู่บนชุดที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก    มีอาจารย์หลายคนยืนอยู่หน้าประตูใส่ชุดที่เห็นได้ชัดว่าคัดเลือกมาอย่างดี
ทุกสิ่งทั้งหมดนี้ทำให้ครอบครัวดอร์นรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด   
เธอถูกพาเข้าไปในห้องกว้างๆห้องหนึ่ง    ที่มีนักเรียนอยู่ประมาณ200คน    มีบางคนมองเธอแล้วส่งยิ้มให้    เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างประหม่าเล็กน้อย    มีอาจารย์แก่ๆ2-3คนยืนคุยกันอยู่ที่มุมห้อง
“อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง    ฉันจะทำใครจะทำไม”  เสียงตวาดดังลั่นมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
“ไม่มีใครว่านายสักคำหรอก    ถ้านายอยู่ของนายดีๆ”เสียงแหลมๆของอีกคนกรีดร้องอย่างที่พยายามกลั้นอารมณ์
“แล้วฉันอยู่ไม่ดีตรงไหน    ฉันไม่ได้ไปยุ่งกับเธอสักนิด”ผู้พูดคือเด็กผู้ชายอายุประมาณ 15    เขาตัวใหญ่มากจนผู้หญิงที่เขาทะเลาะด้วยดูตัวเล็กมาก
“ใช่    แต่นายก็ไม่มีสิทธิจะไปข่มเหงคนอื่นเหมือนกัน    ถ้านายจะหยุดการกระทำเลวๆอย่างนี้ได้สัก2 นาทีฝนจะตกหรือยังไง    หรือนายกลัวว่าปีศาจจะไม่รับเป็นเพื่อน”
“แล้วแกจะมายุ่งทำไม    มันหนักส่วนไหนของแกหรือยังไง”
“หนักสิ” พูดไม่ทันขาดคำหมัดหนักๆก็พุ่งเข้าใส่หน้าคู่อริจนเขาหงายล้มลงไปทั้งๆที่เขาตัวใหญ่กว่าเธอเกือบ2เท่า
เธอเดินไปหากลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่งแล้วพูดด้วยอารมณ์    เธอมีผมสีน้ำตาลยาวที่ตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ    ตาสีเขียวสดใสมองคู่อริอย่างเหยียดหยาม 
มีเสียงแตรดังเป็นจังหวะทำให้ทุกคนหันไปมอง      ทั้งห้องเงียบลงทันที  มีอาจารย์ผู้หญิงแก่ๆยืนบนเวทีเล็กๆแต่ดูอลังการจนเกินไป  แล้วพูด
“ยินดีต้อนรับทุกๆคนสู่สถาบันการศึกษาแห่งเกียรติยศของเรา      ครูหวังว่าทุกๆคนจะทำตัวเป็นเด็กดีและตั้งใจเล่าเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ    ครูอยากจะปล่อยให้พวกเธอไปเข้าหอพักของเธอเลยแต่คงจะไม่ได้    เพราะว่านักเรียนใหม่ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ห้องไหน    ดังนั้นครูอยากจะประกาศรายชื่อนักเรียนทั้งหมดให้พวกที่ความจำเสื่อมรู้ด้วยว่าเขาคนนั้นอยู่ห้องไหน  ปี1ห้องA  ....”
ถึงตอนนี้มีคนมาสกิดเธอเบาๆ  เป็นครูคนหนึ่ง
“เธออยู่ปี3ห้อง Aไม่ต้องรอฟังหรอก”
มิเชลมองเขาอย่างงงๆแต่ก็เดินไปตามทางที่เขาชี้
ทางเดินสว่างไสวด้วยหลอดไฟหลากสี    ตลอดทางมีรูปภาพแขวนอยู่ตามฝาผนัง    เป็นรูปของบุคคลสำคัญที่ทำประโยชน์ให้กับโรงเรียน    ทางเดินพาเธอออกมาจากตัวตึกแล้วตัดสวนเข้าไปในอีกตึกหนึ่งที่มีประตูมากมาย
มีป้ายติดไว้หน้าห้อง    เธอเดินมาถึงห้อง3/A แล้วเปิดประตูเข้าไป
ฟิลคอร์  คือสถาบันการศึกษาที่ทุกๆคนอยากให้ลูกเรียน    แต่มีน้อยคนที่ได้รับเข้าเรียนในแต่ละปี    เพราะว่ามันเข้ายากแสนยาก    จนบางคนจำเป็นที่จะต้องติดสินบนครูอาจารย์    เพื่อที่ลูกจะได้มีอนาคตที่ดี  โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนมัธยม    ซึ่งรับนักเรียนในชั้นปี1เพียง30คนเท่านั้น    และรับระหว่างชั้นเพียง2-3คน
และบังเอิญว่า มิเชล  ดอร์น คือผู้โชคดีหนึ่งใน 2-3 คนนั่น
เธอเป็นเด็กสาวอายุ 15 ธรรมดาๆไม่ได้ร่ำรวยอะไร    แค่สมัครเข้าไปเล่นๆแต่กลับได้โดยที่ไม่ต้องทำข้อสอบอะไรเลย    สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวของเธออย่างมาก    เพราะพี่ชายทั้ง 2 ผิดหวังมาแล้ว
มิเชลมีความรู้สึกเฉยๆกับโรงเรียนใหม่ของเธอ    แค่คิดว่าคงมีแต่ลูกเศรษฐีเรียนแน่ๆ    คงจะน่าเบื่อ    เธอไม่ใช่คนที่ทำตัวเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง    ที่อะไรๆก็วี๊ดว้าย    ด้วยทรงผมซอยสั้นของเธอทำให้หลายๆคนคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้ชายหน้าหวาน   
เธอทนให้แม่หวีผมบลอนซ์ของเธอในตอนเช้าก่อนเปิดเรียนวันแรก    แม่จู้จี้จุกจิกเรื่องโน้นเรื่องนี้คอยทาแป้งที่แขนขาราวกับว่าเธอยังไม่ขาวพอ    ทั้งๆที่มิเชลจัดได้ว่าเป็นคนที่มีผิวขาวมากคนหนึ่ง      เธอใช้ตาสีฟ้าออกเทาๆของเธอมองตามแม่ที่สาละวนอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง    คนส่วนใหญ่ค่อนข้างจะกลัวสายตาคู่นั้น    เพราะว่ามันไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมา    ไม่ว่าเจ้าของจะมีอารมณ์ยังไงก็ตาม
ในที่สุดเธอก็ได้มายืนอยู่หน้าคฤหาสน์ที่หรูหราจนเธอรู้สึกแปลกใจ    มีนักเรียนแต่งตัวดีหลายคนลงจากรถหรูยี่ห้อดัง    โบกมือลาพ่อแม่ที่อยู่ในชุดสูทสากลหรือไม่ก็ชุดเป็นประกายระยิบระยับด้วยเพชรพลอยจริงๆที่อยู่บนชุดที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ระดับโลก    มีอาจารย์หลายคนยืนอยู่หน้าประตูใส่ชุดที่เห็นได้ชัดว่าคัดเลือกมาอย่างดี
ทุกสิ่งทั้งหมดนี้ทำให้ครอบครัวดอร์นรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์ประหลาด   
เธอถูกพาเข้าไปในห้องกว้างๆห้องหนึ่ง    ที่มีนักเรียนอยู่ประมาณ200คน    มีบางคนมองเธอแล้วส่งยิ้มให้    เธอนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างประหม่าเล็กน้อย    มีอาจารย์แก่ๆ2-3คนยืนคุยกันอยู่ที่มุมห้อง
“อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง    ฉันจะทำใครจะทำไม”  เสียงตวาดดังลั่นมาจากอีกทิศทางหนึ่ง
“ไม่มีใครว่านายสักคำหรอก    ถ้านายอยู่ของนายดีๆ”เสียงแหลมๆของอีกคนกรีดร้องอย่างที่พยายามกลั้นอารมณ์
“แล้วฉันอยู่ไม่ดีตรงไหน    ฉันไม่ได้ไปยุ่งกับเธอสักนิด”ผู้พูดคือเด็กผู้ชายอายุประมาณ 15    เขาตัวใหญ่มากจนผู้หญิงที่เขาทะเลาะด้วยดูตัวเล็กมาก
“ใช่    แต่นายก็ไม่มีสิทธิจะไปข่มเหงคนอื่นเหมือนกัน    ถ้านายจะหยุดการกระทำเลวๆอย่างนี้ได้สัก2 นาทีฝนจะตกหรือยังไง    หรือนายกลัวว่าปีศาจจะไม่รับเป็นเพื่อน”
“แล้วแกจะมายุ่งทำไม    มันหนักส่วนไหนของแกหรือยังไง”
“หนักสิ” พูดไม่ทันขาดคำหมัดหนักๆก็พุ่งเข้าใส่หน้าคู่อริจนเขาหงายล้มลงไปทั้งๆที่เขาตัวใหญ่กว่าเธอเกือบ2เท่า
เธอเดินไปหากลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่งแล้วพูดด้วยอารมณ์    เธอมีผมสีน้ำตาลยาวที่ตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ    ตาสีเขียวสดใสมองคู่อริอย่างเหยียดหยาม 
มีเสียงแตรดังเป็นจังหวะทำให้ทุกคนหันไปมอง      ทั้งห้องเงียบลงทันที  มีอาจารย์ผู้หญิงแก่ๆยืนบนเวทีเล็กๆแต่ดูอลังการจนเกินไป  แล้วพูด
“ยินดีต้อนรับทุกๆคนสู่สถาบันการศึกษาแห่งเกียรติยศของเรา      ครูหวังว่าทุกๆคนจะทำตัวเป็นเด็กดีและตั้งใจเล่าเรียนทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ    ครูอยากจะปล่อยให้พวกเธอไปเข้าหอพักของเธอเลยแต่คงจะไม่ได้    เพราะว่านักเรียนใหม่ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ห้องไหน    ดังนั้นครูอยากจะประกาศรายชื่อนักเรียนทั้งหมดให้พวกที่ความจำเสื่อมรู้ด้วยว่าเขาคนนั้นอยู่ห้องไหน  ปี1ห้องA  ....”
ถึงตอนนี้มีคนมาสกิดเธอเบาๆ  เป็นครูคนหนึ่ง
“เธออยู่ปี3ห้อง Aไม่ต้องรอฟังหรอก”
มิเชลมองเขาอย่างงงๆแต่ก็เดินไปตามทางที่เขาชี้
ทางเดินสว่างไสวด้วยหลอดไฟหลากสี    ตลอดทางมีรูปภาพแขวนอยู่ตามฝาผนัง    เป็นรูปของบุคคลสำคัญที่ทำประโยชน์ให้กับโรงเรียน    ทางเดินพาเธอออกมาจากตัวตึกแล้วตัดสวนเข้าไปในอีกตึกหนึ่งที่มีประตูมากมาย
มีป้ายติดไว้หน้าห้อง    เธอเดินมาถึงห้อง3/A แล้วเปิดประตูเข้าไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น