ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [MarkBam ft. BJin] Imprison จองจำร้าย

    ลำดับตอนที่ #1 : I N T R O

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 62




    "พระผู้เป็นเจ้า ผมคงผิดมากสินะ... ที่คิด จะ แย่ง สิ่งที่เคยเป็นของตนเอง"



     “พระผู้เป็นเจ้าฮะ จะผิดไหมฮะ... ถ้าผมรักคน คนหนึ่ง แต่ หัวใจ ของผม... กลับไม่ได้อยู่ที่เค้า”



    พระผู้เป็นเจ้าครับ ผมยอมกลายเป็น คนโง่ ขอแค่... เค้ายังยืนอยู่ข้างๆ ผม


    .


    .


    .





    ต่อไปนี้...


    จะเป็นบทลงทัณฑ์จากพระเจ้ากับความผิดบาปที่พวกเค้าทั้งสามได้กระทำไว้


    I M P R I S O N  Of  L O V E

     




    ณ สนามบิน



    มันกี่โมงแล้วผมถอนหายใจยาวได้แต่พูดพึมพำกับตนเอง มองไปยังนาฬิกาข้อมือคู่ใจที่กำลังบอกว่า ผมรอ ใครบางคน มาเป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว 



    นาน... มันไม่ควรนานขนาดนี้




    ครืด ครืด...



    “ ว่าไง ไอ้แสบ เมื่อไร ทักรี่ของแกจะมาวะ ไม่ต้องพูดให้มากความผมเริ่มยิงคำถามใส่น้องชายหลังจากที่กดรับโทรศัพท์



    ‘ ทักรี่ บอกผมว่า เครื่องเลทไปครึ่งชั่วโมงอะพี่... ห๊ะ !? ทำไม ไอ้แสบพึ่งมาบอกผมละ ปล่อยผมยืนรอจนขาแข็งจนจะเป็นเส้นเลือดคอดแล้ว



    “ แหม่... ทำไมไม่บอกพี่อาทิตย์หน้าเลยละ จะได้หอบเสื่อมาปูนอนรอที่สนามบิน -_-: ”



    ‘ โทษทีพี่ เดียววันหลังผมจะบอกก่อนนะ ฮ่าๆ ’



    “ อืม... ได้ข่าวว่ากูประชดนะ... คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ ยังจะมากวนบาทาผมอีก โตจนเป็นหมอดูแลคนไข้ได้เป็นร้อยคน แต่นิสัยกวนแบบเด็กๆของเจ้าน้องชายไม่เคยเปลี่ยนไปเลย



    ‘ ฮ่าๆ ไม่ได้นะครับพี่ชาย ห้ามพูดคำหยาบสิครับ เดี๋ยวผมฟ้องมาม๊ากับปาป๊านะ ดูเหมือนคนในสายโทรศัพท์ของผมยังไม่รู้สึกสำนึกในคำพูดของตนเองแม้แต่น้อย



    “ ขอโทษครับ คุณน้องชาย ถ้าคุณน้องชายยังไม่เลิกกวนบาทาคุณพี่ชายอีก... คุณน้องชายอดเจอทักรี่แน่นอนครับ ” ผมพูดหยิกแกมหยอก 



    แบบนี้ทุกครั้ง พูดอะไรนิดอะไรหน่อยจะเอาแต่จะฟ้องป๊ากับม๊า แล้วไม่ว่าผมจะถูกหรือผิดป๊ากับม๊าก็ให้น้องชายของผมชนะทุกที... ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ ไม่สินะ ต้องบอกว่าเคยรู้สึกแบบนั้น แต่มันก็ไม่มีค่าพอให้ใครสนใจจนผมรู้สึกชินไปแล้ว 



    ‘ คุณหมอบีไอ คะ มีคนไข้มาขอพบค่ะ นั้นไม่ใช่เสียงของน้องชายผมแต่อย่างไร แต่เป็นเสียงของผู้หญิง ผมคาดว่าน่าจะเป็นเสียงของพยาบาลผู้ช่วยคนประจำของบีไอที่ดังรอดออกมาจากโทรศัพท์ของผม 


    ‘ ครับๆ เดี๋ยวผมไปครับ 



    “ เอาเถอะ ไอ้แสบไปทำงานได้ละ... ส่วนทักรี่เดี๋ยวจัดการให้ไม่ต้องห่วง ” 



    ‘ พี่มาร์คครับ อย่าลืมชูป้ายที่ผมทำให้ทักรี่เห็นด้วยนะเอาแบบสูงๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทักรี่ของผมมาไต้หวัน ถ้าทักรี่ไม่เห็นป้ายก็อาจจะหลงได้ ทักรี่ของผมยิ่งเป็นคนชอบหลงทิศอยู่... หลงทิศ ? คนบ้าอะไรหลงทิศ ?


    “ เออๆ รู้แล้วน่า ไปทำงาน แค่นี้ละ... บีไอจะสั่งเสียอะไรนักหนากับอิแค่มารับ เพื่อน คนหนึ่งที่สนามบิน แต่จะว่าไปชื่อของเพื่อนบีไอแปลกชะมัด ทักรี่ งั้นหรอ มันมีความหมายว่าอะไรกัน



    ผมก้มเล่นโทรศัพท์เพื่อฆ่าเวลา โดยมืออีกข้างหนึ่งยังคงถือป้ายที่น้องชายผมตั้งใจทำสุดชีวิต (เห็นมันนั่งทำเกือบเที่ยงคืน - -) แต่มันเขียนเป็นภาษาอะไรน่ะหรอ

     


    ภาษาไทย...




    " หึ " เสียงหลุดหัวเราะในลำคอดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มร้าย 



    ผมไม่ชอบ



    ไม่ใช่ว่าผมเป็นพวกต่อต้านประเทศไทยนะ แต่มันเป็นเพราะว่า ทุกครั้งที่ผมมองอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยแล้ว ผมชอบนึกถึง ใครบางคน ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ผมก็ไม่เคย... ไม่เคยลืมเค้าได้เลย



    แต่ถึงผมจะไม่ชอบยังไงผมก็ต้องจำใจถือป้ายนี้ในระดับอก เพราะผมรับปากน้องชายตนเองไว้แล้วว่าจะมารับเพื่อนคนนี้ให้ ศอกทั้งสองข้างของผมเท้าอยู่กับรั้วกั้นจะรออีกแค่ 10 นาทีพอ ถ้ายังไม่มาก็หาทางไปเอง ถึงจะเป็นเพื่อนของบีไอก็ตาม แต่ดันมาทำให้ผมหวนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ผมก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน



    “ สวัสดีฮะ พี่ใช่พี่ชายของบีไอหรือป่าวครับ หืมมม มาแล้วหรอ คนที่ปล่อยให้ผมรอเกือบครึ่งชั่วโมง แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมเสียงที่ผมได้ยินเมื่อสักครู่ 



    ทำไม... ทำไมมันคุ้นนัก


    เหมือนผมเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน...



    “ ขอโทษนะฮะพี่ ที่ทำให้ต้องรอนาน 



    " ...!! "



    " คือพอดีเครื่องบินมัน..." คนตรงหน้าผมหยุดคำพูดทันทีที่เห็นโครงหน้าผม ไม่ต่างอะไรจากผมที่ต้องหยุดการเคลื่อนไหวของปลายนิ้ว ผมจ้องมองไปยังใบหน้าของคนตรงหน้าผ่านกรอบแว่นตาสีดำ...


    ตอนนี้ภาพใน อดีต ของผม

    กำลังซ้อนทับ


    “ อะ เออ... คือ... อาจจะขอแปลกๆนะฮะ... แต่พี่ช่วยถอดแว่นตาหน่อยได้ไหมฮะ ร่างกายของผมไม่อยากปฏิบัติตามคำขอของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ทำไม ทำไมนายถึงอยากให้ฉันถอดแว่นตาออกล่ะ รึว่านาย...


    นายยังจำฉันได้



    “ ขอโทษนะฮะพี่... ” ร่างบางพยายามเอื้อมมือทั้งสองข้างไปตรงกรอบหน้าคม หมายที่จะเอาแว่นตาของของชายปริศนาตรงหน้าออก... มือเล็กนั้นจับเข้าที่กรอบแว่นตาด้วยอาการมือสั่นเทา



    หึ สั่นแบบนี้ นายก็กลัวว่า จะใช่ฉันสินะ


     
    หมับ!


    อะ... ผมจับเข้าที่มือเล็กนั้นก่อนที่คนตรงหน้ากำลังจะดึงกรอบแว่นตาหรูนี้ออก 


    “ ดะ ดะ เดี๋ยวก่อนสิฮะ พี่จะรีบไหน.. .ผมรีบเดินเรียบตามรั้วกั้นจนคนตัวเล็กอีกฝั่งเซไปตามแรงดึง ผมเปลี่ยนจากจับมือเป็นจับที่ข้อมือบางนั้นแทนแต่ความแรงที่ลงไปที่ฝ่ามือของผมที่เกาะกุมนั้นไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะทวีคูณมากยิ่งขึ้น


    “ โอะ โอ้ย พี่ฮะ ผมเจ็บนะ คนตัวเล็กพยายามออกแรงแกะมือของผมออก แต่ยิ่งแกะมากเท่าไร ผมยิ่งออกแรงบีบมันแรงมากกว่าเดิม... 


    “ โอ้ย พี่ฮะ แบม เจ็บจริงๆนะ พี่ของบีไอครับ ฮึก ปล่อยผม 



    หึ... เจ็บงั้นหรอแบม 

    แต่ความเจ็บที่ฉันให้นาย 

    ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่ง... กับที่นายเคยทำไว้กับฉันเลย



    แบมแบม


    TBC.


    ปล่อยดองนานมากเลย

    แต่จะพยายามมาแต่งตอนที่ 1 ให้เร็วที่สุดนะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ เลิฟ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×